ธปท.ระบุ ไทยฉายแสงพื้นฐานเศรษฐกิจดี เตะตาลงทุนต่างประเทศ เข้ามาลงทุนเพิ่ม เผยวันจันทร์ที่ 22 ต.ค. จ่อประกาศมาตรการไล่เงินทุนไหลออก รับมือทันควัน...
เมื่อวันที่ 18 ต.ค. นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า จากการประเมินการเคลื่อนย้ายเงินทุนในระยะต่อไปว่า ในขณะนี้ความเชื่อมั่นต่อสินทรัพย์ในต่างประเทศ ที่เคยมองว่า สินทรัพย์ปลอดภัยของโลกของนักลงทุนเริ่มลดลง เพราะสินทรัพย์เหล่านั้นเริ่มมีความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น ทำให้เงินส่วนหนึ่งหันมาลงทุนในประเทศที่ยังคงมีพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่ดี โดยเฉพาะในเอเซีย และประเทศในภูมิเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นประเทศที่มีแสงสว่าง หรือเป็นประเทศที่ขยายตัวได้มากขึ้น
“ธปท.คาดว่าแรงกดดันต่อเงินบาทจากการไหลเข้าของเงินทุนในปีนี้ น่าจะไม่กดดันค่าเงินบาทมากเท่ากับในปี 2553 เนื่องจากในปีนี้ แม้ว่าจะมีเงินทุนไหลเข้ามาจากความสนใจในการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติอยู่ แต่ในส่วนของการส่งออกของไทยที่ชะลอตัวลง ได้ทำให้เงินที่เข้าประเทศจากการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดลดลง โดยในปีนี้คาดว่าจะเกินดุลเพียงเล็กน้อย นอกจากนั้น แม้ว่าเขาจะบอกว่าประเทศเรายังสวย ยังน่าลงทุนนั้น ก็ไม่ได้หมายความว่าเงินจะมาที่เราทะลักทลาย เพราะถ้าเทียบกับฝั่งยุโรปที่ตอนนี้ไม่สวยเลย เราก็สวยกว่า แต่คงไม่ได้สวยเหมือนนางสาวไทย”
ผู้ว่าการ ธปท. กล่าวต่อว่า ธปท.ไม่ได้ประมาทและยังติดตามดูแลในเรื่องการไหลเข้าอออกของเงินทุนอย่างใกล้ชิด เพียงแต่ว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงในครั้งนี้ กนง.ไม่ได้คิดในเรื่องผลของการลดการไหลเข้าของเงินทุน แต่เป็นการประกันความเสี่ยงในอนาคตให้กับการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปีหน้า
ด้านนางผ่องเพ็ญ เรืองวีรยุทธ รองผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สายเสถียรภาพการเงิน กล่าวว่า ในวันจันทร์ที่ 22 ต.ค.ที่จะถึงนี้ ธปท.จะแถลงข่าวมาตรการผ่อนคลายการนำเงินทุนออกจากประเทศ ซึ่งจะช่วยลดแรงกดดันของการไหลเข้าของเงินทุนต่างประเทศ และอำนวยความสะดวกเพิ่มขึ้นให้กับนักลงทุนไทยที่จะไปลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งจะมีการผ่อนคลายทั้งในด้านการนำเงินไปซื้อกิจการโดยตรงของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ การซื้อขายหลักทรัพย์ในต่างประเทศ การโอนเงินระหว่างประเทศ และการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาท.
http://www.thairath....tent/eco/299598
