อยากแชร์ความรู้เรื่องนี้ในบอร์ดนี้มานานแล้วครับ โดยเฉพาะกับท่านโจโฉและท่าน amplepoor ผมเองก็ทำงานอยู่ในองค์การรัฐวิสาหกิจที่ต้องให้บริการระบบรถไฟฟ้าที่เป็น Metro และ Subway เช่นเดียวกัน เป็นหน่วยงานที่ตอนนี้มีภาระกิจอย่างมากและสร้างความเดือดร้องเรื่องจราจรให้คน กทม. เป็นอย่างมากในยุคนี้ (ทุกท่านคงพอเดาได้ว่าที่ไหน) และคิดมานานแล้วว่า ประเทศเราควรจะจัดให้มีระบบรถไฟฟ้าและรถโดยสารประจำทางในอัตราที่เหมาะสมซึ่งกันและกัน บางพื้นที่ที่รถไฟฟ้าเข้าถึงแล้วถ้าประชากรน้อยก็ไม่ควรมีรถโดยสารประจำทางอีก แล้วในพื้นที่ที่การอยู่อาศัยหนาแน่นก็ควรมีทางเลือกทั้งรถประจำทางและรถไฟฟ้า ทุกหน่วยงาน เช่น เรือโดยสาร รถโดยสาร รถไฟฟ้า ควรจะประสานร่วมมือกันออกแบบและกำหนดระบบตั๋วโดยสารให้สามารถใช้ร่วมกันได้ แต่ทุกวันนี้เรื่องพวกนี้ ยังเป็นวุ้นอยู่เลยครับ งานของใครของมัน สร้างกันไป ทับที่ใคร ขวางใคร ไม่ Match กันกุไม่สน โดยเฉพาะข้าราชการระดับสูงนี่ ตัวดีเลย พวกบรรดาคณะกรรมการ (บอร์ด) ทั้งหลายก็ไม่สนใจ สนแต่ว่ากุจะเรียกผลประโยชน์จากผู้รับเหมาได้ยังไง เวลาเจอหน้ากันที กว่าจะคุยจบจะหาทางแก้ปัญหาโดยเฉพาะเรื่องานก่อสร้างแต่ละเรื่องได้ คนทำงานเหนื่อยแทบตาย พอจะได้ให้รถไฟฟ้ามันเกิดประโยชน์ต่อประชาชนก็มาโดนพวกนักร้อง(ร้องเรียนทั้งหลาย)มาคอยขัดขวางการทำงานอีก บางคนที่เดือดร้อนจริงก็ไม่ว่า แต่ก็มีหลายคนที่เนียนมาหาผลประโยชน์ด้วย
เหตุเกิดจากวันนี้ผมมีนัดกินน้ำชากับเพื่อนเก่าย่านเยาวราช
เหตุเพราะเพื่อนนั้น "มีทุกข์" เสียไม่น้อยด้วยความหวงแหน
ปนเสียดายตึกเก่าแก่อันเป็นสมบัติของตระกูลต้องมาถูกเวนคืนทุบทิ้ง
เพื่อสร้างสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน ผมเลยนั่งรถออกจากบ้านย่านสุขุมวิท
ในตอนเช้านี้ นั่งไปเรื่อยๆก็เหลือบเห็นรถเมล์สีแดงขาวคนน้อยดีแท้
และข้างๆบอกถึงสถานที่ที่รถคันนี้ผ่านรวมถึงย่านเยาวราชที่ผมจะไป
ผมเลยให้รถไปดักข้างหน้ารถเมล์คนนี้ที่ป้ายหน้าเพื่อจะขึ้น
ไม่รู้เป็นความบังเอิญหรือไร ที่รถเมล์คันที่ขึ้นดันเป็น
"รถเมล์ฟรี จากเงินภาษีของประชาชน" พนักงานบริการดีมาก
เอื้อเฟื้อต่อผมเสียจริงๆ พูดจาสุภาพ ฉีกตั๋วให้ผมในสภาพที่ผม งงๆ
ว่าทำไมไม่เก็บเงิน จึงมารู้ถึงเหตุผลดังกล่าว
พอดีคนน้อยนักจึงชวนพนักงานสุภาพสตรีท่านนี้พูดคุยด้วย
ถามว่าปกติคนน้อยอย่างนี้ทุกวันเหรอ เธอตอบว่าเปล่า
พอดีวันนี้วันหยุดคนไม่ออกจากบ้านเท่าไร ปกติคนแน่นรถเลยทีเดียว
เพราะเป็นรถเมล์ฟรี ผมนึกสนุกด้วยความวัยกลับตื่นเต้นที่ได้นั่งรถเมล์อีกครั้งในชีวิต
จึงถามต่อว่าปกติรถเมล์นี่เขาเติมน้ำมันหรือเติมแก๊ส เธอตอบได้น่าสนใจทีเดียว
รถเมล์ฟรีทั้งหมดก็ใช้น้ำมันนี่แหละ รถปรับอากาศบ้างคันถึงใช้แก๊ส
และรถร่วมบริการก็ใช้น้ำมันบ้างแก๊สบ้าง ผมก็บ่นต่อว่าแก๊สถูกทำไมไม่ติดแก๊ส
เพื่อลดต้นทุนเล่า เธอตอบว่าก็ไม่เห็นมีใครจริงใจจะทำหรือแก้ไขนี่
อืมมม์ ทำให้นึกต่อในใจว่าเหตุไฉนรัฐบาลที่ครองเสียงยาวนาน
มีอายุรัฐบาลมากกว่าพรรคฝ่ายตรงข้ามอย่างประชาธิปัตย์
กลับไม่คิดถึงปัญหาพื้นฐานสำคัญขนาดนี้ ทั้งรถเมล์ รถไฟ ที่ล้วนแต่ขาดทุน
กลับเลือกที่จะใช้นโยบายรถเมล์ฟรี รถไฟฟรี เพื่อต่อยอดประชานิยมกันอีก
จริงๆปัญหานี้เข้าใจว่าเรื้อรังไม่ได้แก้ในรัฐบาลเดียวได้ แต่ปรากฎว่าไม่มี
ขั้วไหนค่ายไหนจริงใจจะแก้ โดยเฉพาะรัฐบาลที่คนส่วนใหญ่ในประเทศ
เลือกมาในหลายครั้งหลายคา กลับซุกปัญหาการขาดทุนนี้ไว้
แถมซ้ำเติมด้วยการออกนโยบายประชานิยมซ้ำอีก สงสัยเมื่อ
ผมลาจากโลกนี้ไปแล้วก็ยังจะไม่ได้ยินข่าวว่ารัฐวิสาหกิจทั้งสองจะมีกำไรขึ้นมาได้
จริงๆตอนนี้ผมอยากนั่งรถไฟด้วยนะ เผื่อจะได้เจอว่าทำไมขาดทุน
ทั้งๆที่วิ่งรถทุกวัน มีกำไรจากการให้เช่าที่ดินแบบมหาศาล
ขออภัยที่ไม่ได้ใช้บริการรถทั้งสองมาหลายสิบปีแล้ว คงจะได้กลับไปอุดหนุน
กันบ้างตามแต่โอกาสจะอำนวย และอยากให้รัฐบาลปัจจุบันที่เอาเงิน
ไปตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ ให้ดูแลให้มีการติดแก๊สเพื่อลดต้นทุน
ในการเดินรถเถอะครับ ลองศึกษาดูคงไม่ยากถ้าท่านจริงใจจะทำจริงๆ
ในความคิดผมแล้วมันคงเป็นเรื่องยากมากที่จะทำอย่างที่ท่านโจโฉกล่าวมาได้ เพราะนักการเมืองประเทศนี้มันไม่สนอะไรนอกจากผลประโยชน์เข้าตัวมัน ซึ่งผมมองว่าการที่เราจะพัฒนาระบบขนส่งให้เกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดได้ ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล หน่วงานของรัฐ และประชาชน ร่วมมือกันดำเนินการเปลี่ยนแปลง แต่ทุกวันนี้ถ้าจะถามถึงสภาพที่เป็นอยู่นะครับ เฮ้อออออ
เหนื่อยที่จะพูดจริงๆ
ปล. แค่อยากบ่นให้ฟังเฉยๆครับ
เจอพวกเดียวกันแล้ว
ปัญหาคล้ายๆ กันเลยเนอะ หน่วย รสก อ่ะ น่าเบือ