ฟังข่าว รัฐบาลชุดนี้ตัดเงินค่ายา ที่ใช้รักษาเข่าเสื่อม จริงหรือปล่าวครับ
#1
ตอบ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 11:21
คนแก่ คนที่รับบำนาญ เดือนละไม่กี่บาท
คนแก่ที่ต้องรักษาโรคข้อเข่าเสื่อม ต้องทรมานมาก
นี่ยังต้องควักกระเป๋าจ่ายค่ายาเองอีกหรือ
ทั้งๆที่มีสิทธิเบิกได้
#3
ตอบ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 11:49
ปลัดคลัง เผย พร้อมทบทวนการห้ามใช้ยานำเข้ากลูโคซามีน เพื่อรักษาโรคข้อเสื่อมอีกครั้ง หลังกระทบหลายฝ่าย แจงนโยบายการควบคุมค่ารักษาไม่ได้ริดรอนสิทธิ์ข้าราชการ
สืบเนื่องจากกรณีที่กระทรวงการคลังส่งหนังสือแจ้งหัวหน้าส่วนราชการทั่วประเทศยกเลิกเบิกค่ายากลูโคซามีนซัลเฟต รักษาอาการข้อเสื่อม โดยชี้แจงว่า ยาบรรเทาอาการข้อเสื่อมมีประสิทธิผลในการรักษาไม่ชัดเจน และไม่มีความคุ้มค่าพอที่จะให้เบิกจากระบบสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ โดยคำสั่งดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ ตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน เป็นต้นไป สร้างความไม่พอใจให้แก่กลุ่มข้าราชการ จนมีการหารือร่วมกันเพื่อฟ้องศาลปกครองและยื่นหนังสือต่อคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร ขอให้ทบทวน เพราะถูกมองว่าเป็นการจำกัดและละเมิดสิทธิ ตามที่ได้รายงานข่าวไปนั้น
ล่าสุด วานนี้ (21 ตุลาคม) นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า จะกลับไปพิจารณารายละเอียดอีกครั้งเพราะเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน มีคนเกี่ยวข้องจํานวนมาก ซึ่งหากมีผลกระทบต่อการรักษาพยาบาลของข้าราชการ ก็จะทบทวนอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม กระทรวงการคลังมีหน้าที่แจ้งกระทรวงสาธารณสุขและหัวหน้าส่วนราชการ ในฐานะผู้รักษาพยาบาล ขณะที่ส่วนราชการจะเป็นต้นสังกัดข้าราชการจะได้ออกระเบียบปฏิบัติ ซึ่งเกณฑ์ดังกล่าวจะเริ่มมีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2555 นี้
ทั้งนี้ นโยบายการควบคุมค่ารักษาเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ของรัฐบาลในการควบคุมค่าใช้จ่ายประจําไม่ให้เกินร้อยละ 70 ของงบประมาณรายจ่าย ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ร้อยละ 72-73 เพราะที่่ผ่านมาค่ารักษาพยาบาลเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าระบบสวัสดิการอื่น ๆ ทั้ง กองทุนประกันสังคม หรือระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้าหรือ 30 บาทรักษาทุกโรค
นายอารีพงศ์ กล่าวต่อไปว่า การควบคุมรายจ่ายรักษาพยาบาลเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างวินัยทางการคลัง เพราะในอนาคตจะมีการกู้เงินอีกมากเพื่อลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน แต่เราก็มีเป้าหมายจะคุมเพดานหนี้สาธารณะไม่ให้เกินร้อยละ 50 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ จึงจําเป็นต้องควบคุมรายจ่ายที่สูงเกินจริง แต่ไม่ได้ไปริดรอนสิทธิ์ของข้าราชการลง เนื่องจากผลศึกษาของแพทย์ ก็พบว่า ยาที่ผลิตในประเทศกับยานอกมีประสิทธิภาพเทียบเคียงกัน แต่ราคาแตกต่างกันมาก ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ หากแพทย์เห็นว่าจําเป็นต้องใช้ยานอก ให้แพทย์ลงความเห็นร่วมกัน 3 คน ก็ยังสามารถเบิกยาดังกล่าวได้
http://health.kapook.../view49407.html
และนี่เป็นความคิดเห็นของแพทย์ครับ
ข้อคิดเห็นที่แตกต่างต่อกระแสยารักษาโรคข้อเข่าเสื่อม (กลูโคซามีน)
รองศาสตราจารย์ นพ.กิตติ โตเต็มโชคชัยการ
หน่วยโรคภูมิแพ้ อิมมูโนวิทยาและโรคข้อ
ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี
เชื่อว่าวันนี้ผู้ป่วยที่เป็นโรคข้อเข่าเสื่อม มีข้อสงสัยมากขึ้นกว่าวันก่อน ๆ ไม่เพียงสงสัยในเรื่องโรค การรักษา และข้อสงสัยล่าสุด กับประสิทธิภาพของตัวยากลูโคซามีนที่รัฐตั้งข้อสงสัย…
โรคข้อเสื่อม เป็นโรคที่พบบ่อย โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป ในวัยนี้กระดูกจะเริ่มเสื่อมลง ซึ่งอาจเกิดจากการใช้งานข้อมาก อุบัติเหตุจากการเล่นกีฬา ทำให้กระดูกอ่อนถูกทำลายการรักษาขึ้นอยู่กับสาเหตุ ถ้าใช้งานข้อหนักเกินไปก็ต้องลดการใช้งานข้อ ถ้าเกิดจากน้ำหนักตัว ก็ต้องลดน้ำหนัก แต่ถ้าข้อยังเสื่อมลงเรื่อย ๆ จนเกิดอาการปวดข้อ อาจจะต้องใช้การรักษาด้วยยา
Q การรักษาด้วยยาจะใช้เมื่อไหร่ ผลลัพธ์เป็นอย่างไร
การรักษาด้วยยามีทั้งแบบรักษาตามอาการ กับรักษาระยะยาว คนไข้ที่มีอาการปวดเข่า บรรเทาได้ด้วยยาแก้ปวดอย่างพาราเซตามอล ซึ่งมีผลข้างเคียงน้อย แต่เป็นการรักษาแบบครั้งคราว และอีกวิธีคือการรักษาแบบระยะยาว เพื่อชะลออาการข้อเสื่อม เป็นยาที่รับประทานอย่างต่อเนื่อง เช่น กลูโคซามีน ซัลเฟต คอนโดรอิติน ซัลเฟต ไดอะเซอเรน และยาฉีดเข้าข้อยากลุ่มนี้ มีการพิสูจน์มาแล้วว่าช่วยลดอาการปวดในระยะยาว
Q มีกระแสอ้างว่า กลูโคซามีนให้ผลการรักษาไม่ชัดเจนมีความเห็นอย่างไร
ทราบข่าวว่า มีรายงานตั้งข้อสงสัยในตัวยากลูโคซามีนว่าให้ผลการรักษาไม่ชัดเจน จนเป็นข้อมูลที่รัฐนำมาอ้างในการตัดสิทธิ์รายชื่อยารักษาโรคข้อเสื่อม ออกจากบัญชีเบิกจ่าย ซึ่งประเด็นนี้ต้องย้อนกลับไปดูงานวิจัยชิ้นนี้ ว่าใช้ยาอะไร และวิจัยในผู้ป่วยกลุ่มไหน การศึกษา GAIT Study ที่ทำในสหรัฐอเมริกา ซึ่งรัฐนำมาใช้เป็นข้อมูล เป็นการศึกษากลูโคซามีน ไฮโดรคลอไรด์ ซึ่งอยู่ในผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ไม่ใช่กลูโคซามีน ซัลเฟต ซึ่งตัวยากลูโคซามีน ซัลเฟตนี้มีรายงานสนับสนุนจากหลายแหล่งพบว่า ช่วยชะลออาการปวดได้ในระยะยาว
Q ประสบการณ์ในการใช้ กลูโคซามีนกับคนไข้ เป็นอย่างไร
ผู้ป่วยจำนวนมากมีผลการรักษาที่ดี จากที่เคยมีอาการปวดข้อ ข้อติด ข้อฝืด ข้อขัด ข้อเสียว เมื่อรับประทานยากลูโคซามีน ซัลเฟต อย่างต่อเนื่องจะลดอาการปวด และสามารถใช้งานข้อได้ดีขึ้น
Q ข้อแนะนำในการเลือกยาชะลอโรคข้อเสื่อม
ต้องรับประทานยาติดต่อกันนานพอสมควรจึงจะเห็นประสิทธิภาพ ยาที่ให้ผลการรักษาที่ดี ต้องมีการศึกษา การวิจัยในระยะยาวจนมั่นใจว่าได้ผลดี หากใช้ยาที่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่มีผลการวิจัยสนับสนุน หรือยาเลียนแบบ จะเป็นการเสี่ยงและทำให้เสียเวลา มารู้ตัวอีกทีก็ช้าไปเสียแล้ว
ศาสตราจารย์ นพ.วีระชัย โควสุวรรณ
ศาสตราจารย์ นพ.วีระชัย โควสุวรรณ
ศัลยแพทย์ออร์โธปิดิกส์ แพทย์ด้านเศรษฐศาสตร์สาธารณสุขและระบาดวิทยา
ภาควิชาออร์โธปิดิกส์
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
เมื่อรัฐตัดสิทธิ์เบิกจ่ายยารักษาโรคข้อเข่าเสื่อม ไม่เพียงแค่ทำให้คนสูงวัยในวงการราชการต่างวิพากษ์วิจารณ์ แต่ยังกลายเป็นหัวข้อถกเถียงในวงการแพทย์ ถึงความถูกต้องของข้อมูลที่ใช้อ้างอิง ?
Q ได้ข่าวว่าในวงการออโธปิดิกส์ กำลังมีประเด็นฮอตให้วิจารณ์
เป็นความเห็นที่แตกต่างมากกว่า จากการอ่านบทความ BMJ ที่เป็นวารสารทางการแพทย์ ในสหราชอาณาจักร ผู้วิจัยได้ทำการศึกษาแบบ Indirect Meta-analysis หรือ network Meta-analysis ซึ่งเป็นการสังเคราะห์ข้อมูลจากงานวิจัยของยา กลูโคซามีน และ ยาดรอยตินเทียบกับยาหลอก แล้วสรุปว่าให้ผลทางการรักษาไม่ชัดเจน แพทย์ในวงการมีความเห็นว่า ผลการศึกษานี้เป็นการเปรียบเทียบทางอ้อม ซึ่งการวิเคราะห์ชนิดนี้มีการตั้งความเชื่อของผู้วิจัยประกอบเข้ากับการวิเคราะห์มากกว่าการใช้ข้อมูลจากงานวิจัยโดยตรง ในความเป็นจริงแล้วการสังเคราะห์งานวิจัยทางการแพทย์มี 2 วิธีการ คือ Direct กับ Indirect Meta-analysis ซึ่งวิธีวิจัยแบบ Direct จะมีความน่าเชื่อถือ ไม่ซับซ้อนและตรงไปตรงมามากกว่าวิธี Indirect
Q แล้วมีงานวิจัย หรือสถาบันอื่นที่น่าเชื่ออีกหรือไม่
หน่วยงานวิจัยทางการแพทย์ด้านกระดูกและข้อ ซึ่งเป็นที่ยอมรับและน่าเชื่อถือที่สุดมี 4 หน่วยงาน คือ OARSI, EULAR, Cochrane และAAOSโดยทุกหน่วยทำการวิจัยเรื่องข้อเข่าเสื่อม แบบ Direct Meta-analysis มีผลการศึกษาออกมาว่ากลูโคซามีน ซัลเฟต ให้ประสิทธิภาพดีกว่ายาหลอก ซึ่งขัดแย้งกับผลสรุปของ BMJ ดังนั้นจึงไม่ควรนำงานวิจัยของ BMJ มาใช้ในการอ้างอิงเพียงงานวิจัยเดียว
Q การใช้ข้อมูลนี้มาอ้างอิงส่งผลอย่างไร
ตอนนี้รัฐใช้เป็นข้อมูลในการตัดสิทธิ์เบิกจ่ายยารักษาข้อเข่าเสื่อม มีผลให้ข้าราชการไม่สามารถเบิกจ่ายยาบรรเทาอาการข้อเสื่อมได้ตั้งแต่ต้นปี ซึ่งผลการศึกษาของ BMJ ทำเฉพาะกับตัวยากลูโคซามีน บางตำรับ แต่รัฐนำมาอ้างว่ายาในกลุ่ม SYSADOA ทั้งหมดไม่มีประสิทธิภาพในการรักษา เหมือนเป็นการกล่าวหา อย. ของประเทศไทยที่ยอมขึ้นทะเบียนยากลุ่มนี้ และยังกล่าวหาว่าแพทย์ใช้ยาไม่มีประสิทธิภาพมาตลอด ส่งผลให้ผู้ป่วยสามารถร้องเรียนแพทย์ผู้ทำการรักษาได้ด้วย จึงมีการตั้งข้อสงสัยกันว่า หรือรัฐไม่มีเงิน ต้องการแค่ประหยัดงบประมาณเท่านั้น จึงพยายามหาข้ออ้างทางวิชาการเพื่อริดรอนสิทธิการรักษาของข้าราชการ
Q เคยมีประสบการณ์ตรงในการรักษาด้วยยากลูโคซามีนหรือไม่
จากประสบการณ์รักษาคนไข้มาหลายราย ตัวยากลูโคซามีน ซัลเฟต ใช้ในการรักษาโรคข้อเสื่อมได้ผลดี คนไข้ต้องได้รับประทานยาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถ้ายาตัวนี้ไม่ดีจริงคงไม่ได้รับการ อนุมัติจาก อย. ที่เป็นหน่วยงานของรัฐเอง ทำเช่นนี้ก็เหมือนกับรัฐตบหน้าตัวเอง นอกจากนี้การรักษาอย่างต่อเนื่องจนอาการเข่าเสื่อมดีขึ้น ทำให้คนไข้ไม่ต้องไปเสี่ยงกับการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่า ที่มีต้นทุนสูง เสี่ยงกับการติดเชื้อได้อีกด้วย ซึ่งไม่เข้าใจว่า กลุ่มแพทย์ที่ไม่เคยดูแลผู้ป่วยโรคข้อเสื่อมกล้าออกความเห็น ให้ใช้แต่ยาแก้ปวดที่มีประสิทธิภาพในการลดปวดด้อยกว่ายากลุ่มนี้ (จากการสังเคราะห์ของOARSI, EULAR, Cochrane และAAOS) และยังแนะนำให้ผ่าตัดเข่า ทำไมไม่ให้แพทย์ที่รักษาผู้ป่วยโดยตรงเป็นผู้ตัดสิน ราชวิทยาลัยออร์โธปิดิกส์ได้ออกแนวทางการรักษาข้อเสื่อมให้กับแพทย์ทั่วไปแล้ว ซึ่งถ้าแพทย์ใช้แนวทางนี้จะช่วยให้การรักษาผู้ป่วยเหมาะสมและคุ้มค่ามากขึ้น ซึ่งคิดว่าแพทย์ด้านกระดูกและข้อมีความรับผิดชอบสูงพอที่จะพิจารณาปัญหาขาดงบประมาณของประเทศ ซึ่งไม่ด้อยกว่ากลุ่มแพทย์ที่ออกความเห็นดังกล่าว
ศาสตราจารย์กิตติคุณ นพ.เสก อักษรานุเคราะห์
ศาสตราจารย์กิตติคุณ นพ.เสก อักษรานุเคราะห์
ผู้อำนวยการศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู สภากาชาดไทย
จากการที่รัฐตัดกลุ่มยารักษาโรคไขข้อ ออกจากรายชื่อบัญชียาที่เบิกจ่ายได้ ทำให้เกิดข้อสงสัยอย่างมากมาย โดยเฉพาะแพทย์ด้านกระดูก และหนึ่งในนั้นคือแพทย์ผู้ริเริ่มรักษาคนไข้ด้วยตัวยานี้ มีประสบการณ์รักษามานานนับสิบ ๆ ปี
โรคข้อมีอยู่หลายชนิด ที่พบมากที่สุดคือข้อเสื่อม ตอนที่คนเราอายุยังน้อยกระดูกอ่อนจะหนา เมื่ออายุมากขึ้นร่างการซ่อมแซมกระดูกที่สึกหรอได้น้อยลง ก็จะทำให้กระดูกอ่อนบางลงเรื่อย ๆ กระดูกเสียดสีกันได้ง่ายขึ้น จนเกิดอาการ ที่เราเรียกว่าโรคข้อเสื่อม
Q แนวทางรักษาโรคข้อของคุณหมอเป็นอย่างไร
ขึ้นอยู่กับระดับความเสื่อมของคนไข้ว่าน้อย กลาง หรือมาก เราพบกับคนไข้ตอนที่ปัญหาอยู่ในระดับไหน การป้องกันดีกว่าการรักษา แนวทางคือการพยายามคงสภาพที่ดีของข้อไว้ ไม่ให้ข้อเสื่อมเร็ว ยืดเวลาการใช้งานข้อออกไป อีกอย่างคือการปฏิบัติตัวให้ถูกต้อง นั่ง-นอน-ยืน และออกกำลังกายให้ทำให้ถูกต้อง รวมทั้งการใช้ยาควบคู่กันไปด้วยเพื่อชะลอการเสื่อมของข้อ ช่วยไม่ให้เกิดอาการเข่าเจ็บ หรือเข่าดังในที่สุด
Q กลุ่มยาไหนที่ใช้รักษาโรคข้อเสื่อมโดยเฉพาะ
ยาที่ใช้มากในการรักษาโรคข้อเสื่อมโดยเฉพาะ คือกลูโคซามีน ซัลเฟต ซึ่งเป็นยาที่มีประวัติการใช้มายาวนาน ในอดีตใช้วิธีฉีดเข้าไปโดยตรงที่ข้อ และมีการพัฒนาต่อมาเป็นรูปแบบรับประทาน ซึ่งกลูโคซามีน รูปแบบรับประทานที่จะให้ผลการรักษาต้องเป็นกลูโคซามีน ซัลเฟต และจะให้ประสิทธิภาพดีที่สุด ต้องรับประทาน 1500 มิลลิกรัมต่อวัน โดยกลูโคซามีน ซัลเฟต ถ้ารับประทานต่อเนื่องจะไปกระตุ้นการสร้างกระดูกอ่อนให้หนาตัวขึ้น
Q คุณหมอมั่นใจในประสิทธิภาพของยากลูโคซามีนแค่ไหน
มั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ ผมเป็นคนแรก ๆ ที่เริ่มใช้ยาตัวนี้รักษาคนไข้ที่เป็นข้อเสื่อม เมื่อได้ผลดีก็ใช้รักษาคนไข้มาโดยตลอดหลายสิบปี ถึงตอนนี้ก็ใช้รักษาคนไข้มาเป็นพัน ๆ คน และตัวผมเองก็รับประทานกลูโคซามีน ซัลเฟต มาแล้วกว่า 12 ปี ข้อเข่ายังใช้การได้ดี แม้แต่แพทย์ด้านกระดูกเองยังรับประทานตัวยานี้เลย ก็เลยไม่เข้าใจว่า ทำไมรัฐบาลถึงอ้างว่าตัวยาไม่ดี และนำมาเป็นข้ออ้างเพื่อไม่ให้ข้าราชการใช้สิทธิ์เบิกได้อีกต่อไป
สมปอง จูฑะวงศ์
ข้าราชการบำนาญ อาจารย์ 2 ระดับ 7
กระทรวงศึกษาธิการ
เมื่อรัฐประกาศตัดสิทธิ์การเบิกจ่ายยารักษาโรคข้อเข่า รัฐได้ไปเต็ม ๆ คือ การประหยัดงบรายจ่าย แต่ก็เสียไปเต็ม ๆ เหมือนกัน ในแง่ความรู้สึก ขวัญและกำลังใจของข้าราชการสูงวัยที่ได้รับผลกระทบไปทั่วประเทศ
ประสบการณ์ในการรักษาโรคข้อ
มีปัญหาเรื่องของเอ็นข้อไหล่อักเสบ และข้อเข่าอักเสบ ไปรับการรักษาที่โรงพยาบาล แรก ๆ หมอก็ให้ยาแก้ปวด ควบคู่กับการกายภาพ อาการก็ดีขึ้นมาบ้างแต่ไม่หายขาด ต่อมาหมอให้แผนการรักษาแบบระยะยาวโดยให้กินยา กลูโคซามีน หลังจากกินยาต่อเนื่องไปไม่นานอาการก็ค่อย ๆ ดีขึ้นเรื่อย ๆ ตอนนี้ก็กำลังทำการรักษาอยู่ และเชื่อว่าจะดีขึ้นแน่นอน มั่นใจในตัวยานี้มาก ๆ
การที่รัฐตัดสิทธิ์การเบิกในตัวกลุ่มนี้ มีผลอย่างไร
รัฐเค้าไม่ให้เบิกตั้งแต่มกราคมนี้แล้ว ตอนนี้ข้าราชการเดือดร้อนกันมาก เพราะเงินเดือนข้าราชการไม่มากข้าราชการบำนาญก็ยิ่งแย่ เพราะได้เงินเดือนตายตัวไม่มีการปรับขึ้น ยารักษาโรคข้อมีราคาค่อนข้างสูง ตอนนี้รัฐไม่ยอมให้เบิก เราก็ต้องจ่ายเองไปเต็ม ๆ อยากให้รัฐเห็นใจข้าราชการสูงวัยที่ต้องมาเสียเงินค่ายาเอง ไม่น่ามาตัดสิทธิ์ตัวยานี้เลย
กับประเด็นที่รัฐสงสัยว่า ยากลุ่มนี้อาจมีประสิทธิภาพไม่ดีจริง
ไม่ค่อยเห็นด้วย เพราะมีประสบการณ์ด้วยตัวเองมาหลาย ๆ ปี เห็นผลจากการรักษามาแล้วถ้าบอกว่าประสิทธิภาพของยาไม่ดี ก็ไม่น่าใช่ อีกอย่างคือตัวเองเชื่อในประสบการณ์ความสามารถของหมอ ถ้าหมอรักษามาหลายปีจนมั่นใจ และใช้กับคนไข้จนหายดี ก็น่าจะเป็นตัวยาที่มีประสิทธิภาพดี
http://health.kapook.../view21783.html
ผมขอเน้นที่ข้อความนี้ครับ
เหมือนรัฐจะจงใจใช้งานศึกษาอ้างอิงแบบต้องการจะตัดงบ แต่แพทย์หลายๆคนไม่เห็นด้วย เพราะสิ่งที่เค้าอ้างอิง มันไม่ใช่ตัวยาแบบเดียวกันกับที่เบิกครับQ มีกระแสอ้างว่า กลูโคซามีนให้ผลการรักษาไม่ชัดเจนมีความเห็นอย่างไร
ทราบข่าวว่า มีรายงานตั้งข้อสงสัยในตัวยากลูโคซามีนว่าให้ผลการรักษาไม่ชัดเจน จนเป็นข้อมูลที่รัฐนำมาอ้างในการตัดสิทธิ์รายชื่อยารักษาโรคข้อเสื่อม ออกจากบัญชีเบิกจ่าย ซึ่งประเด็นนี้ต้องย้อนกลับไปดูงานวิจัยชิ้นนี้ ว่าใช้ยาอะไร และวิจัยในผู้ป่วยกลุ่มไหน การศึกษา GAIT Study ที่ทำในสหรัฐอเมริกา ซึ่งรัฐนำมาใช้เป็นข้อมูล เป็นการศึกษากลูโคซามีน ไฮโดรคลอไรด์ ซึ่งอยู่ในผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ไม่ใช่กลูโคซามีน ซัลเฟต ซึ่งตัวยากลูโคซามีน ซัลเฟตนี้มีรายงานสนับสนุนจากหลายแหล่งพบว่า ช่วยชะลออาการปวดได้ในระยะยาว
#4
ตอบ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 12:01
จะยกระดับการรักษาพยาบาลของ 30 บาทก็ทำไม่ได้เพราะไม่มีเงิน
เลยใช้วิธีกระชากอันที่มันสูงกว่าลงมา จะได้ต่ำเตี้ยเรี่ยดินเหมือนๆกัน
ข้าราชการเป็นคนส่วนน้อย ก้มหน้ารับกรรมไปเถอะ
ความเป็นกลางมันคือหลุมหลบภัยของคนขี้ขลาด - ชัย ราชวัตร
#5
ตอบ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 12:20
มีกระทู้ของเพื่อนสมาชิก "นายตัวเกร็ง" เล่าเรื่องจริงที่คุณแม่เจอมากับตัว เรื่องตัดยารักษาโรคครับ
กระทู้อยู่ข้างล่างนี่แหละครับท่าน ที่ไหนสักแห่ง
http://webboard.seri...่น/#entry460863
ถึงผมจะเป็นคนหัวขบถ แต่ไม่คิดทรยศบุญคุณแผ่นดินเกิด
เสียงส่วนใหญ่ของประชาชน ไม่ใช่ใบอนุญาตทำร้ายประเทศชาติ
#6
ตอบ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 12:28
#7
ตอบ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 12:47
http://www.thaihospi...hp?topic=6414.0
What is a rebel? - A man who says NO! _ Albert Camus
#8
ตอบ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 13:01
ไม่ค่อยดี. แต่ข่าวก็ยังไม่แน่นอน....
#9
ตอบ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 13:35
#10
ตอบ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 16:45
เข่าอ่อนเลยครับ !!!
#11
ตอบ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 18:16
ขอเทิดทูนศักดิ์ศรียิ่งสิ่งใด
...แม้แต่ลมหายใจก็ยอมพลี
โลกยังไม่สิ้นหวัง ถ้ายังมั่นในความดี
...ศรัทธาไม่เคยหน่ายหนี คนดีไม่มีวันตาย
#12
ตอบ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 18:36
#13
ตอบ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 20:27
ข้าราชการ ไม่ใช่ฐานเสียง อย่ามาหยุมหยิม....
ในนี้มีเยอะนะ เดี๋ยวมีคนมาจัดให้หรอก
ถึงสูงศักดิ์อัครฐานสักปานไหน.ถึงวิไลเลิศฟ้าสง่าศรี..ถึงเก่งกาจฉลาดกล้าปัญญาดี..ถ้าไม่มี "คุณธรรม" ก็ต่ำคน.... พระราชนิพนธ์ในล้นเกล้า รัชกาลที่ ๕ " https://www.facebook...akwarakfromyala https://www.facebook.com/NARAPEACE
#15
ตอบ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2555 - 20:40
ข้าราชการ ไม่ใช่ฐานเสียง อย่ามาหยุมหยิม....
ในนี้มีเยอะนะ เดี๋ยวมีคนมาจัดให้หรอก
๕๕๕
ข้อเข่ายังแข็งแรงดีอยู่ค่ะ ยัง...ยังไม่จัดเต็มใส่คุณ rArA
น่าน ไม่ทันขาดคำ แม่บิวตี้มาแระ
ถึงสูงศักดิ์อัครฐานสักปานไหน.ถึงวิไลเลิศฟ้าสง่าศรี..ถึงเก่งกาจฉลาดกล้าปัญญาดี..ถ้าไม่มี "คุณธรรม" ก็ต่ำคน.... พระราชนิพนธ์ในล้นเกล้า รัชกาลที่ ๕ " https://www.facebook...akwarakfromyala https://www.facebook.com/NARAPEACE
ผู้ใช้ 1 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้
สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 1 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน