
หลังจากแฟนเพจ 1 แสนไลค์ที่ใช้ชื่อ “Oak Panthongtae Shinawatra” ที่หลายคนเข้าใจว่า เป็นของนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อ้างแหล่งข่าว “เจ้าหน้าที่ไทยที่คอยประสานงานกับทางพม่า” ว่า มีคนวางแผนสังหาร พ.ต.ท.ทักษิณโอกาสเยือนประเทศพม่าวันที่ 10 พ.ย.โดยโยงเหตุการณ์การจับกุมอาวุธสงครามโดยเฉพาะอาร์พีจีได้ที่แนวชายแดนพื้นที่ จ.ท่าขี้เหล็ก ขณะที่ “นายพล พ.พาน" ที่แฟนเพจดังกล่าวอ้างถึง อย่าง “พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี” ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ออกมาปฏิเสธว่า ไม่เคยรู้เรื่องดังกล่าว และไม่คิดว่าจะมีใครกล้าทำ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กระทรวงกลาโหม ก็ยืนยันว่า การจับ RPG ไม่เกี่ยวข้องกับการเดินทางไป จ.ท่าขี้เหล็ก ของ พ.ต.ท.ทักษิณ พร้อมบอกว่า “อย่าไปเขียนให้มันเกี่ยวพันกัน เพราะไม่ได้เดี่ยวพันกัน จับลูกจรวด RPG ได้แค่ 3 ลูก ไม่มีอาวุธปืน” และหาก พ.ต.ท.ทักษิณเดินมาจริง ก็แสดงว่าไม่มีอะไร เพราะท่านคงประเมินสถานการณ์เอง ถ้าปลอดภัยก็คงจะมา ส่วน พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวสั้นๆ ว่า “จากการตรวจสอบแล้วพบว่าอาวุธที่จับกุมได้ที่ประเทศพม่านั้น ไม่เชื่อมโยงกับพ.ต.ท.ทักษิณแต่อย่างใด”
มีเพียง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ ที่ออกมารับลูกว่า เรื่องดังกล่าวน่าจะเป็นจริง น่าสนใจว่า ข้อมูลที่แฟนเพจซึ่งอ้างชื่อลูกชายอดีตนายกฯทักษิณอ้างถึง เป็นการ .”เต้าข่าว” ขึ้นมาอย่างที่คนบางกลุ่มสงสัยหรือไม่? และหากจะเต้าข่าวขึ้นมาจริงจะทำไปเพื่อเหตุใด? อีกเรื่องที่น่าสนใจพอกัน ก็คือผู้ที่อยู่เบื้องหลังแฟนเพจ 1 แสนไลค์ “Oak Panthongtae Shinawatra” เป็นใคร เพราะถึงวันนี้ นอกจากบทบาทที่เห็นได้ชัดคือเคลื่อนไหวทางการเมืองร่วม “คู่ขนาน” ไปกับพรรคเพื่อไทย (พท.) ก็ยังไม่เคยปรากฎหลักฐานที่ชัดเจนเลยว่า นายพานทองแท้เป็นผู้โพสต์ข้อความบนแฟนเพจดังกล่าวด้วยตัวเอง

จุลสารราชดำเนิน ฉบับที่ 24 เผยแพร่เมื่อกลางเดือน ต.ค.2555 ที่ผ่านมา ได้พยายามสืบเสาะหาที่มา “คนเบื้องหลัง” แฟนเพจโอ๊คเช่นกัน ก่อนที่ "นายณัฐวุฒิ กรัณยโสภณ" จะนำมาเขียนเป็นบทความชื่อ "รู้ทัน 3 ขา ดิจิตอล พรรคเพื่อไทย ไล่จับแฟนเพจ โอ๊ค-พานทองแท้" โดยพบข้อมูลที่น่าสนใจ ซึ่งโยงใยแฟนเพจดังกล่าวกับว่าที่เลขาธิการ พท.คนใหม่อย่าง “นายภูมิธรรม เวชยชัย” รวมถึงกลุ่มนักเลงคีย์บอร์ดอย่าง “นักรบไซเบอร์” และแฟนเพจ Yingluck Shinawatra ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ ด้วย เป็น “3 ขา ดิจิตอล” ของ พท.ในเวลานั้น ก่อนการปรากฎตัวของเว็บไซต์ insidethaigov.com ที่มี “นาย ส.” ชายร่างอวบบนตึกไทยคู่ฟ้าอยู่เบื้องหลัง
เนื้อหาของบทความดังกล่าว มีดังนี้....
บนแฟนเพจ Oak Panthongtae Shinawatra ของ “โอ๊ค-พานทองแท้ ชินวัตร” www.facebook.com/oakpanthongtae ผู้สืบสันดานคนโตของ “ทักษิณ ชินวัตร-พจมาน ดามาพงศ์” แห่งบ้านจันทร์ส่องหล้า ถึงปลายเดือนส.ค.2555 มีคนกด Like หรือถูกใจไปแล้วร่วม “1 แสนคน” น่าสนใจว่า “แฟนเพจ” ของผู้ที่ระบุโปรไฟล์ไว้ว่ามีอาชีพ “นักธุรกิจ” และสนใจเรื่องการถ่ายภาพ ทำอาหาร ทำสวน เล่นกีฬา ของเก่า รถโบราณ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ สัตว์ป่า และการเมือง ได้เข้ามามีบทบาท “เคียงบ่าเคียงไหล่” กับพรรคเพื่อไทยและเครือข่าย ในการเดินเกมทางการเมืองสมัยรัฐบาล “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ได้อย่างไร? หรือ “แฟนเพจ 1 แสนไลค์” ดังกล่าว จะ 1 ในยุทธศาสตร์การสปินข่าว-ช่วงชิงพื้นที่สื่อ ที่ทีมงานรอบตัว “อดีตนายกฯทักษิณ” มีความเจนจัด เพราะถึงวันนี้ “โอ๊ค-พานทองแท้” ยังไม่เคยแสดงหลักฐาน ว่าทุกข้อความบน “แฟนเพจ” ร้อนดังกล่าว มาจากปลายนิ้วของตัวเอง แถมในเวลาไล่เลี่ยกัน “คนต่างประเทศ” ก็สั่งการไปยังกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ให้ขยายแนวรุก-แนบรบเพิ่มเติมผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ โดยมี “อ้วน-ภูมิธรรม เวชยชัย” เป็นหัวหน้าทีม ฉ.ก.ที่เรียกตัวเองว่า “นักรบไซเบอร์”
ราชดำเนิน ได้สอบถามไปคนในทีมโฆษกพรรคเพื่อไทย ก่อนได้รับข้อมูลว่า ทีมงานหลักๆ ของนักรบไซเบอร์เป็นคนในกองโฆษกพรรคเพื่อไทย จำนวนราว 10 คน โดยมี “วอร์รูม” ตั้งอยู่ในที่ทำการพรรคพรรคเพื่อไทย บนถนนเพชรบุรีตัดใหม่ รับผิดชอบทำภารกิจหลัก 2 ข้อ...
1.คัดกรองข่าวสารจากโลกอินเตอร์เน็ต ก่อนรวบรวมประเด็นส่งให้ทีมยุทธศาสตร์พรรค เพื่อมอบหมายให้ทีมโฆษกพรรคออกมาแถลงข่าวชี้แจง-ตอบโต้
2.คอยตอบโต้ฝ่ายตรงข้ามในโลกอินเตอร์เน็ตแทนพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าจะตามเว็บบอร์ด เฟสบุ๊ก ทวิตเตอร์ ฯลฯ รวมถึงส่งเอสเอ็มเอสไปตามรายการโทรทัศน์ต่างๆ
นอกจากนี้ “วอร์รูมนักรบไซเบอร์” ยังได้ประสานงานไปยัง “เว็บข่าว-เว็บบอร์ด” ชื่อดัง ให้เข้ามาร่วมเป็นเครือข่าย ด้วย 2 วัตถุประสงค์ 1.ส่งต่อวาระที่พรรคเพื่อไทยนำเสนอ และ 2.ร่วมตอบโต้ฝ่ายตรงข้ามพรรคเพื่อไทย แต่แหล่งข่าวปฏิเสธจะให้ข้อมูลว่า มี “เว็บข่าว-เว็บบอร์ด” ใด ตกลงเข้ามาเป็นเครือข่ายบ้าง คู่ขนานไปในเวลาเดียวกับที่ “แฟนเพจโอ๊ค-ทีมนักรบไซเบอร์” ทำสงครามน้ำลายอิเล็กทรอนิคส์กับฝ่ายตรงข้ามผ่านโลกอินเตอร์เน็ต แฟนเพจ Yingluck Shinawatra ของนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ที่หลานสาวผู้นำหญิงอย่าง “ชยิกา วงศ์นภาจันทร์” บุตรสาวของ “เยาวเรศ ชินวัตร” พร้อมด้วยเพื่อนอีก 4-5 คนดูแล จะคอยโพสต์แต่ข้อมูลด้านดีๆ ของตัวยิ่งลักษณ์ อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ยุทธศาสตร์ “3 ขา ดิจิตอล” ของพรรคเพื่อไทย ทำงานสอดประสานกัน ก็เกิดคำถามในมุมวิชาชีพสื่อขึ้นมาว่า ปัจจัยอะไรที่ทำให้สื่อกระแสหลักต้องหยิบข้อมูล โดยเฉพาะจากแฟนเพจ “โอ๊ค-พานทองแท้” มานำเสนอต่อ โดยสื่อบางค่าย “ให้น้ำหนัก” ถึงขนาดน้ำขึ้น “พาดหัว” เพราะแค่ฐานะลูกชายอดีตนายกรัฐมนตรี หรือตำแหน่ง “รองประธานบริษัท ว้อยซ์ทีวี จำกัด-ผู้จัดการมูลนิธิไทยคม” อาจยังไม่เพียงพอต่อการเป็น “จุดโฟกัส” ทางการเมือง แถมนับตั้งแต่ ราชดำเนิน ตั้งคำถามสั้นๆ ไปใน “กล่องข้อความ” ของแฟนเพจดังกล่าว ว่า “โอ๊คโพสต์เองหรือมีทีมงานทำให้?” นับแต่ต้นเดือน ส.ค.2555 ...จนถึงบัดนี้ก็ยังไม่มี “คำตอบ” อะไร กลับมา...
“อวัฒนา พิมลศิริผล” หัวหน้าโต๊ะข่าวการเมือง ไทยรัฐออนไลน์ กล่าวว่า ตอนแรกไม่คิดว่าสิ่งที่อยู่ในแฟนเพจโอ๊คจะมีคุณค่าข่าว แต่พอมาเล่นเรื่องอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์หนีทหาร แล้วปรากฏว่าอยู่ในกระแส มีคนพอดีสนใจพอดี ทำให้มีคลิ๊กเข้ามาอ่านเยอะระดับหนึ่ง ไทยรัฐออนไลน์จึงต้องตามดูว่าแฟนเพจโอ๊คจะโพสต์อะไรบ้าง แต่ไม่ใช่ทุกอย่างที่โพสต์จะถูกนำเสนอ เพราะต้องผ่านการพิจารณาจากกองบรรณาธิการไทยรัฐออนไลน์ก่อน ว่ามีประเด็นหรือคุณค่าข่าวหรือไม่ ด้าน “ชิงชัย รุ่งละโภ” บรรณาธิการข่าวการเมือง หนังสือพิมพ์บ้านเมือง กล่าวว่า เหตุที่ต้องเล่นข่าวแฟนเพจโอ๊ค เพราะเป็นบุตรชายของอดีตนายกฯ ทักษิณ ซึ่งเป็นตัวละครเอกเรื่องความขัดแย้งหลายปีที่ผ่านมา สิ่งที่ปรากฏในแฟนเพจโอ๊ค จึงเป็นตัวแทนความเคลื่อนไหวของผู้เป็นพ่อ ซึ่งเรามองว่ามีมากกว่าการให้สัมภาษณ์ของ ส.ส.พรรคเพี่อไทยหรือแกนนำคนเสื้อแดง เสียอีก อย่างไรก็ตาม “อรทัย ทองเจริญ” หัวหน้าข่าวโต๊ะการเมือง สถานีโทรทัศน์เนชั่นแชนแนล กลับมองว่า ความเคลื่อนไหวในแฟนเพจโอ๊คมีน้ำหนักไม่ต่างจากคำให้สัมภาษณ์ของ ส.ส.พรรคเพื่อไทย เพราะแต่บทความในแฟนเพจโอ๊คปล่อยมาเพื่อหวังสร้างกระแส แทนที่จะได้ติดตามความเคลื่อนไหวของคนใกล้ชิดอดีตนายกฯ ทักษิณ กลับมีข้อความที่เน้นไปที่การตอบโต้ทางการเมือง ที่สำคัญตัวพานทองแท้ก็ไม่เคยออกมาชี้แจง ข้อสงสัยเรื่องการให้คนยืมชื่อไปใช้แม้แต่ครั้งเดียว
“ถึงเวลานี้ เราก็รู้แล้วว่าสิ่งที่อยู่ในแฟนเพจโอ๊ค เป็นแค่ 1 ในเครื่องมือตอบโต้ทางการเมือง ดังนั้นข้อมูลที่ปรากฏ สื่อก็ตามดูได้ แต่ไม่ควรนำมาขยายผลจนกลายเป็นให้ความสำคัญ”
ท่ามกลางการต่อสู้ทางการเมืองอันเข้มข้น ที่ทุกพื้นที่ถูกแปรเป็นสมรภูมิได้หมด ไม่ว่าจะบนดิน-ใต้ดิน บนฟ้า-เหนือฟ้า ในโลกจริง-ในโลกเสมือน ดูเหมือนจะมีโจทย์มากมายให้สื่อต้องคิด เพื่อระแวดระวัง ไม่ให้ตกเป็น “เครื่องมือทางการเมือง” ของฝ่ายใด...
ที่มา: http://www.isranews....anpage-oak.html