Jump to content


Photo
- - - - -

ฝากหนังสือให้นายกอ่าน (ANIMAL FARM :การเมืองเรื่องของสัตว์)


This topic has been archived. This means that you cannot reply to this topic.
ยังไม่มีผู้แสดงความเห็นในกระทู้นี้

#1 chackrapbong

chackrapbong

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,057 posts

ตอบ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 - 18:57

ผมแนะนำให้อ่านหนังสือมากขึน อาจเป็นทางหนึ่งที่ช่วยให้กระแส โง่ ลดน้อยถอยลง
แนะนำหนังสือเล่มแล็ก ผมได้รวบรวม(คัดลอก) เนี้อหาที่มีผู้สรุปเป็นแนวทางในการอ่าน จากหลายท่านในเว็ป

เนื้อหาโดยสรุป

ประเด็นสำคัญที่สุดคือ กฎทั้งหลาย มีไว้เพื่อให้ผู้มีอำนาจลบล้าง
สิ่งที่เป็น กฎที่ทุกคนต้องเคารพยึดถือและปฏิบัติตามอาจถูก “เลี่ยง” ได้หากผู้ที่ต้องการเลี่ยงกฎเหล่านั้นเป็นผู้ที่มี อำนาจในตอนต้นของเรื่องสัตว์ทั้งหลาย ต่างก็พากันกำหนดธรรมนูญในการปกครองฟาร์มเพื่อที่พวกตนจะได้”อยู่ดีมีสุข”แต่ต่อมาไม่นานเมื่อมีการสถาปนาระบบ “ผู้นำ” ผู้นำซึ่งเดิมเคยอยู่ภายใต้กฎก็กลายมาเป็นผู้อยู่เหนือกฎเพราะตนเป็นผู้มีอำนาจ อำนาจจึงทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างใน “รัฐสัตว์” เปลี่ยนแปลงไปความเสมอภาคเท่าเทียมกันกลายมาเป็นสิ่งที่ไม่ได้รับการยอมรับ เพราะเกิดสิ่งที่เรียกกันว่า “เสมอภาคกันมากกว่า” ขึ้นมาเพราะฉะนั้นสำหรับผู้มีอำนาจแล้วกฎ ทั้งหลายมีไว้เพื่อให้ได้รับการยกเว้น ซึ่งเมื่อเรามาพิจารณาดูโดยเปรียบเทียบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในหลายๆ ประเทศ รวมทั้งในประเทศไทยด้วยแล้ว ก็คงมองเห็น “ความเหมือน” ระหว่างเหตุการณ์จริงกับนิยายที่ถูกเขียนขึ้นนโยบายต่างๆ ที่ผู้นำประเทศสร้าง ขึ้นมาแม้ในตอนต้นจะมีการวางนโยบาย ต่างๆ เพื่อสังคม แต่เมื่อเสพอำนาจ เข้าไปจนได้ที่ คำว่าสังคมก็แคบเข้ากลายมาเป็นจำกัดอยู่เฉพาะตนเอง และพวกพ้อง นโยบายต่างๆ รวมไป ถึงกฎที่มีอยู่ก็เลยเปลี่ยนไป กลายเป็นสิ่งที่ “สนอง” อำนาจของผู้นำใน ที่สุดครับ
อีกประเด็นที่น่าสนใจ คือ การสร้างภาพ
การสร้างภาพให้สัตว์ทั้งหลายหวาดกลัว เป็นยุทธวิธีที่ “ผู้นำ” นำมาใช้เพื่อสกัดกั้นการกลับมาของศัตรูของตนและเพื่อทำให้ตนอยู่ในอำนาจได้ตลอดไป โฆษกคอยปล่อยข่าวรายวันให้สัตว์ในฟาร์มหวาดกลัวและต้องเชื่อผู้นำเพราะหากไม่เชื่อผู้นำแล้ววันหนึ่ง “มนุษย์”จะกลับมาครอบครองฟาร์มและทำให้สัตว์ลำบาก ซึ่งสัตว์เองก็หลงเชื่อโดยไม่ได้ชั่ง น้ำหนักเลยว่าการที่ตนเองต้องทำงาน หนักเพื่อมนุษย์เจ้าของฟาร์มกับการ ที่ตนเองต้องทำงานหนักเพื่อสัตว์ เจ้าของฟาร์มนั้น มีความแตกต่างกันหรือไม่ ?สัตว์ในเรื่อง ไม่เลือกที่จะใช้สมองคิด แต่เลือกที่จะเชื่อสิ่งที่ตนได้ยินจากผู้อื่น
ประเด็นสุดท้ายก็คือ “ความลืมตัว
เมื่อครั้งเจ้าของฟาร์มเป็นมนุษย์ ก็ใช้อำนาจและใช้ความเป็นมนุษย์ทารุณสัตว์ต่อมาสัตว์ปฏิวัติและเห็นด้วยว่าต้องแก้ปัญหาเรื่องความไม่เสมอภาค สัตว์ก็สามารถทำให้ตนเองเสมอภาค เท่าเทียมกันได้ ไม่มีใครใช้อำนาจข่มเหงกันได้ต่อมาเมื่อเวลาผ่านไปสัตว์ที่มีภาวะผู้นำ ก็เริ่มสร้างความไม่เสมอภาค เมื่อตนเองขึ้นสู่จุดสูงสุดก็ประพฤติปฏิบัติเหมือนกับสิ่งที่ตนเองเคย “ล้มล้าง” มาแล้ว นี่คืออาการของคนลืมตัว หลงมัวเมาในอำนาจซึ่งมีอยู่ทั่วไปในสังคมครับอำนาจเท่านั้นที่ทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้นใน “รัฐสัตว์”!!!
ผู้ประพันธ์ต้องการแสดงให้เห็นว่าการเข้าสู่อำนาจของชนชั้นปกครอง ด้วยการอ้างอุดมการณ์แบบสังคมนิยม โดยแท้จริงแล้วก็ทำเพื่อประโยชน์ของตนเอง และพวกพ้องล้วนๆ ไม่ต่างอะไรกับ "พวกทุนนิยม" และ "พวกศักดินา" ที่ถูกพวกสังคมนิยมกล่าวหามาโดยตลอด
1. อะไรก็ตามที่เดินด้วยสองขาคือศัตรู
2. อะไรก็ตามที่เดินด้วยสี่ขาหรือมีปีกคือมิตร
3. สัตว์จะต้องไม่สวมเสื้อผ้า
........สามข้อแรกภาย ลังก็เพี้ยนเป็น "สี่ขาดี แต่สองขาดีกว่า" เพราะผู้มีอำนาจที่มีสี่ขา เปลี่ยนมาเดินสองขาและใส่เสื้อผ้า
4. สัตว์จะต้องไม่นอนบนเตียง
....นอนบนเตียงมันสบาย ก็เลยเพิ่ม "พร้อมสิ่งปกคลุม" เพื่อให้การนอนเตียงเปล่าๆ เป็นสิ่งที่ถูกต้อง
5. สัตว์จะต้องไม่ดื่มเหล้า
....ภายหลังก็เพิ่มข้อ ความ "มากเกินไป" ต่อท้าย
6. สัตว์จะต้องไม่ฆ่าสัตว์ด้วยกันเอง
....ภายหลังก็ กลายเป็น "สัตว์จะต้องไม่ฆ่ากันเองโดยไร้เหตุผล(ของใคร)"
7. สัตว์ทุกตัวมีความเท่าเทียมกัน
....ภายหลังก็เพี้ยนเป็น "สัตว์ทุกตัวมีความเท่าเทียมกัน แต่สัตว์บางตัวมีความเท่าเทียมมากกว่าสัตว์อื่นๆ"
สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนอย่างหนึ่งของสัตว์ในฟาร์ม คือ พวกมันเลือกที่จะ "ไม่ใช้หัวคิด" แต่ยินดีที่ จะ "เชื่อสิ่งที่ได้ยินจากผู้อื่น" จึงขอแนะนำ Animal Farm ว่าเป็นหนังสือที่ควรอ่านสักครั้งหนึ่งในชีวิต

Four legs good, two legs bad.
George Orwell (1903 - 1950)
British writer.
Animal Farm

Everyone thinks of changing the world, but no one thinks of changing himself. Leo Tolstoy