40 ข้อเท็จจริงการสร้างสนามฟุตซอล
#1
ตอบ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 09:16
POPULAR
กทม.ยอมรับผิดแต่เพียงผู้เดียวที่สร้างไม่สมบูรณ์แบบอย่างที่สุด
ทำให้ฟีฟ่า ไม่ขอใช้สนามแห่งนี้ ในการแข่งขันชิงแชมป์โลก
แต่ คนไทย และคนกรุงเทพฯ มีสิทธิ์ ที่จะได้รู้ข้อเท็จจริง ..ระหว่างก่อสร้าง !!
น่าแปลกใจ และน่าเห็นใจ กทม.นะครับที่ คนยอมรับผิดมีแค่คนเดียว...
....................................................................................
Tamm Ishot
เรามาดูรายละเอียดการสร้างบางกอกฟุตซอลอารีนากันนะครับ
ใน ๔๐ ข้อเท็จจริงสนามบางกอกฟุตซอลอารีนาหนองจอกครับ
๑. ฟีฟ่าเลือกไทยเป็นเจ้าภาพเมื่อเดือนมี.ค. ๒๕๕๓
๒. ภาระการสร้างสนามอยู่ที่กระทรวงการท่องเที่ยวและและกีฬา
๓. ขณะนั้นชุมพล ศิลปอาชาพรรคชาติไทยพัฒนาเป็นเจ้ากระทรวง
๔. กทม.ถูกจับให้รับภารกิจนี้หลังฟีฟ่าเลือกไทยเป็นเจ้าภาพแล้ว
๕. ครม.มีมติให้ใช้พื้นที่ที่หนองจอกสร้างสนามเมื่อพ.ย. ๒๕๕๓
๖. ซึ่งพื้นที่นี้เป็นของกทมเอง หลังจากเจ้าของพื้นที่ที่อื่นๆ ปฏิเสธ
๗. กทม.จ้างม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรีให้ออกแบบต้นปี ๒๕๕๔
๘. ตามสัญญาม.จะใช้เวลา ๑ ปี แต่กทม.ขอเร่งรัดจนเสร็จใน ๖ เดือน
๙. จากนั้นต้องผ่านความเห็นชอบของรมว.กระทรวงมหาดไทย
๑๐. รมว.มหาดไทยในขณะนั้นคือยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ พรรคเพื่อไทย
๑๑. แล้วเรื่องก้อต้องไปผ่านสำนักงบประมาณของรัฐบาลต่ออีกทีหนึ่ง
๑๒. สำนักงบประมาณยื่นเรื่องเห็นชอบกลับมาปลายเดือนธ.ค.๒๕๕๔
๑๓. เบ็ดเสร็จรัฐบาลใช้เวลาในการผ่านความเห็นชอบถึง ๖ เดือนเต็ม
๑๔. โดยกทม.ได้ผู้รับเหมาคือบริษัทอีเอ็มซี (มหาชน) ตั้งแต่ก.ค. ๒๕๕๔
๑๕. แต่กว่าจะลงมือก่อสร้างได้จริงก็ล่วงเข้าเดือนม.ค. ๒๕๕๕ แล้ว
๑๖. สิริเวลาในการก่อสร้างสนามแห่งนี้จนถึงวันนี้ต่ำกว่า ๑๐ เดือนเต็ม
๑๗. ในส่วนงบประมาณรัฐบาลปชป.อนุมัติวงเงิน ๑,๒๓๙ ล้านบาท
๑๘. ซึ่งเป็นวงเงินที่อนุมัติไว้เมื่อเดือนพ.ค.๒๕๕๔ ระยะเวลา ๓ ปี
๑๙. นับตั้งแต่ปีงบประมาณ ๒๕๕๔-๒๕๕๖
๒๐. นับเป็นเงินอุดหนุนจากรัฐบาล ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์
๒๑. แต่เมื่อรัฐบาลพรรคเพื่อไทยขึ้นมาบริหารกลับไม่มีการโอนเงินให้
๒๒. กทม.ขอโอนเปลี่ยนแปลงงบจนได้เงินมา ๔๐๒ ล้านบาท
๒๓. รัฐบาลยิ่งลักษณ์ตั้งงบประมาณปี ๒๕๕๕ มาให้ ๑ ล้านบาท
๒๔. ขณะนั้นกทม.จะใช้งบสำรองตอกเสาเข็มก่อนก็ยังทำไม่ได้
๒๕. เหตุผลคือแบบยังไม่ผ่านการเห็นชอบ (ซึ่งผ่านเมื่อธ.ค. ๒๕๕๔)
๒๖. ระหว่างนั้นมีการยื้องบประมาณจากกรมบัญชีกลาง
๒๗. และปัญหาโรงงานวัสดุก่อสร้างประสบปัญหาอุทกภัยเมื่อปีก่อน
๒๘. ขณะก่อสร้าง กทม.สั่งพื้นปูสนามจากอเมริกาเมื่อมิ.ย. ๒๕๕๕
๒๙. มีใบกำกับสินค้าว่าส่งมาจากต้นทางตั้งแต่ ๒๘ กันยายน ๒๕๕๕
๓๐. แต่จากใบกำกับสินค้าที่ต้องส่งตรงมาคลองเตย เรือกลับไปที่จีน
๓๑. ซึ่งทำให้เกิดปัญหาส่งออกสินค้าล็อตนี้กลับมาไทยล่าช้า
๓๒. ขณะที่อินดอร์สเตเดียมหัวหมากสั่งพื้นสนามไป ๕ ก.ย. ๒๕๕๕
๓๓. แต่อินดอร์ฯ กลับได้รับพื้นสนามมาติดตั้งแล้วเสร็จก่อนกำหนด
๓๔. ระหว่างนั้นกทม.ตัดสินใจสั่งพื้นสนามจากมาเลเซียไต้หวันและอิตาลี
๓๕. ของล็อตนี้เดินทางมาถึงประเทศไทยเมื่อ ๓๐ ต.ค. ๒๕๕๕
๓๖. แต่ฟีฟ่าขอให้กทม.รอพื้นสนามที่สั่งจากอเมริกาที่จะมาถึงใน ๒ วัน
๓๗. ซึ่งสุดท้ายแล้วพื้นสนามจากอเมริกามาถึงไทยเมื่อ ๑ พ.ย. ๒๕๕๕
๓๘. เมื่อถึงกำหนดเส้นตายฟีฟ่าประกาศไม่ให้ใช้สนามนี้แข่งขัน
๓๙. โดยให้เหตุผลเรื่องความปลอดภัยเป็นสำคัญ
๔๐. แม้วิศวกรรมสถานของไทยได้ออกใบรับรองความปลอดภัยให้แล้ว
โพสท์ก่อนหน้านี้ขาดข้อมูลหลังจากลงมือสร้างสนาม
เลยเอามาเติมให้เต็มให้ได้เห็นภาพที่ชัดเจนขึ้นนะครับ
สรุปจากบทความ
อนุสรณ์สถานบางกอกฟุตซอลอารีนาความตั้งใจที่สูญเปล่าของกทม.
โดยรัชญา จันทะรัง
ASTVผู้จัดการออนไลน์
๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๕
- Shart, overtherainbow, Bookmarks and 9 others like this
#2
ตอบ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 09:21
#3
ตอบ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 09:26
#4
ตอบ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 10:19
๒. ภาระการสร้างสนามอยู่ที่กระทรวงการท่องเที่ยวและและกีฬา
๓. ขณะนั้นชุมพล ศิลปอาชาพรรคชาติไทยพัฒนาเป็นเจ้ากระทรวง
๔. กทม.ถูกจับให้รับภารกิจนี้หลังฟีฟ่าเลือกไทยเป็นเจ้าภาพแล้ว
>> อย่าโยนความชั่วให้คนอื่น... รัฐบาลไหนจับให้ กทม เป็นเจ้าภาพครับ... จริงๆแล้ว กระทรวงอยากได้งบนี้ใจจะขาดแต่...
>> บางพรรค อยากเอาไปทำเอง เอาทั้งกล่องและเงิน...
มติ ครม.ปี"53 ให้ กทม.ทำย้อน รอยกลับไปดูจุดเริ่มต้นปี 2553 เป็นยุค "รัฐบาลประชาธิปัตย์" โดยมี "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" เป็นนายกรัฐมนตรี ได้มีมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ "กทม." ซึ่งมีผู้ว่าราชการสังกัดพรรคเดียวกัน "ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร" รับหน้าที่เป็นเจ้าภาพงานพร้อมก่อสร้างสนามแข่งขัน โดยรัฐบาลอุดหนุนงบประมาณให้ทั้งหมด 1,239 ล้านบาท
ว่ากันว่ามติ ครม.ดังกล่าว แม้แต่ "ชุมพล ศิลปอาชา" เจ้ากระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจากพรรคชาติไทยพัฒนา หนึ่งในพรรคร่วมรัฐบาลถึงกับออกอาการควันออกหู เพราะงานนี้ "รมว.ชุมพล" ตั้งใจจะชงงานให้กับ "กกท.-การกีฬาแห่งประเทศไทย" หน่วยงานในสังกัดรับเป็นเจ้าภาพคุม โปรเจ็กต์นี้ตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ
http://www.prachacha...pid=09&catid=07
๕. ครม.มีมติให้ใช้พื้นที่ที่หนองจอกสร้างสนามเมื่อพ.ย. ๒๕๕๓
๖. ซึ่งพื้นที่นี้เป็นของกทมเอง หลังจากเจ้าของพื้นที่ที่อื่นๆ ปฏิเสธ
>> ย้ำว่า ครม ที่เลือก หนองจอก... ก็ รัฐบาล ม้ากเหมือนเคย...
>> จาก มีค ถึง พย 53... เสียเวลาไปกี่เดือนกับการ หาพื้นที่... ในรัฐบาลเดียว...
๗. กทม.จ้างม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรีให้ออกแบบต้นปี ๒๕๕๔
๙. จากนั้นต้องผ่านความเห็นชอบของรมว.กระทรวงมหาดไทย
๑๐. รมว.มหาดไทยในขณะนั้นคือยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ พรรคเพื่อไทย
๑๑. แล้วเรื่องก้อต้องไปผ่านสำนักงบประมาณของรัฐบาลต่ออีกทีหนึ่ง
๑๒. สำนักงบประมาณยื่นเรื่องเห็นชอบกลับมาปลายเดือนธ.ค.๒๕๕๔๑๓. เบ็ดเสร็จรัฐบาลใช้เวลาในการผ่านความเห็นชอบถึง ๖ เดือนเต็ม
>> ถ้าทำงานกับ พรรคอื่นไม่ได้.... ผมว่า ลาออกไปเถอะครับ... เที่ยวหน้า.. ครั้งหน้า ท่านก็ต้องทำงานกับเพื่อไทยอีก...
>> แล้วก็อย่าบิดเบือน... ถามว่า ที่นานเนี่ย ติดที่ มหาดไทย หรือ สำนักงบประมาณ...
>> ถามว่า ช่วงปลายปีที่แล้ว... เรามีปัญหาอะไรกันครับ... เราควรใช้เงินทำอะไรก่อนครับ...
>> ถามว่า ต่อให้ได้เงินมาแล้ว... สร้างได้หรือไม่...
พย 54 ถนนสุวินทวงศ์ แยกหนองจอกทางเข้าสนาม
ทางไปแยกหนองจอก..
ข้อมูลจาก เท่ง หงส์แดง
http://www.pantip.co.../S12875963.html
๒๑. แต่เมื่อรัฐบาลพรรคเพื่อไทยขึ้นมาบริหารกลับไม่มีการโอนเงินให้
๒๒. กทม.ขอโอนเปลี่ยนแปลงงบจนได้เงินมา ๔๐๒ ล้านบาท
๒๓. รัฐบาลยิ่งลักษณ์ตั้งงบประมาณปี ๒๕๕๕ มาให้ ๑ ล้านบาท
>> อันนี้ก็ต้องรอว่า รัฐบาลจะแก้ตัวอย่างไร... แต่.. กทม ไม่ได้อับจนถึงขนาดสร้างเองไม่ได้..
>> งบอนุมัติแล้ว... ยังไงก็ต้องได้... แต่อาจไม่ทัน... มันก็เหมือนหมุนเงินไม่ทัน... ไม่ใช่เงินไม่มี...
>> แค่ ขาดสภาพคล่อง... ถามว่า ทาง ธุรกิจเค้าทำกันอย่างไร... เมื่อ หมุนเงินไม่ทัน...
>> เรื่องนี้ ใครทำธุรกิจแก้ปัญหานี้ไม่เป็น... ไม่แค่เสียโอกาส ดีไม่ดี เจ๊ง....
ที่เหลือ มีแต่น้ำ... เป็น ปัญหา เทคนิคทั่วไปในการก่อสร้าง... ของมาช้า.. ของไม่ครบ..
คนในวงการเค้าไม่เอามาอ้างหรอกครับ.... อายเค้า...
ต้นฉบับ จากนี่...
http://web.parliamen...php?prid=350374
ใครว่า ASTV รับเงินแม้วหว่า...
"คนโง่มักจะชอบว่าคนอื่นว่าโง่"
"ถ้าคนเราคิดเหมือนกันหมด ก็ไม่มีเลือกตั้งซิครับ"
"ผมไม่พูด เรื่อง 112 แล้ว นะครับ กรุณาอย่าถาม (17 พค 2012)"
#5
ตอบ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 10:23
>> อันนี้ก็ต้องรอว่า รัฐบาลจะแก้ตัวอย่างไร... แต่.. กทม ไม่ได้อับจนถึงขนาดสร้างเองไม่ได้..
>> งบอนุมัติแล้ว... ยังไงก็ต้องได้... แต่อาจไม่ทัน... มันก็เหมือนหมุนเงินไม่ทัน... ไม่ใช่เงินไม่มี...
>> แค่ ขาดสภาพคล่อง... ถามว่า ทาง ธุรกิจเค้าทำกันอย่างไร... เมื่อ หมุนเงินไม่ทัน...
>> เรื่องนี้ ใครทำธุรกิจแก้ปัญหานี้ไม่เป็น... ไม่แค่เสียโอกาส ดีไม่ดี เจ๊ง....
ที่เหลือ มีแต่น้ำ... เป็น ปัญหา เทคนิคทั่วไปในการก่อสร้าง... ของมาช้า.. ของไม่ครบ..
คนในวงการเค้าไม่เอามาอ้างหรอกครับ.... อายเค้า...
ต้นฉบับ จากนี่...
http://web.parliamen...php?prid=350374
ใครว่า ASTV รับเงินแม้วหว่า...
ผมขอขยายความใหม่นะครับ...ผมว่ามันจริงนะ
- baezae likes this
[color=#000080;]เมื่อมั่งมี...มากมาย...มิตรหมายมอง[/color][color=#800000;] เมื่อหม่นหมอง...มิตรมอง...เหมือนหมูหมา[/color][color=#800080;]เมื่อไม่มี...หมดมิตร...มุ่งมองมา[/color][color=#ff0000;]เมื่อมอดม้วย...แม้หมูหมา...ไม่มามอง[/color]
#6
ตอบ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 10:28
#7
ตอบ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 10:29
>> อันนี้ก็ต้องรอว่า รัฐบาลจะแก้ตัวอย่างไร... แต่.. กทม ไม่ได้อับจนถึงขนาดสร้างเองไม่ได้..
>> งบอนุมัติแล้ว... ยังไงก็ต้องได้... แต่อาจไม่ทัน... มันก็เหมือนหมุนเงินไม่ทัน... ไม่ใช่เงินไม่มี...
>> แค่ ขาดสภาพคล่อง... ถามว่า ทาง ธุรกิจเค้าทำกันอย่างไร... เมื่อ หมุนเงินไม่ทัน...
>> เรื่องนี้ ใครทำธุรกิจแก้ปัญหานี้ไม่เป็น... ไม่แค่เสียโอกาส ดีไม่ดี เจ๊ง....
ที่เหลือ มีแต่น้ำ... เป็น ปัญหา เทคนิคทั่วไปในการก่อสร้าง... ของมาช้า.. ของไม่ครบ..
คนในวงการเค้าไม่เอามาอ้างหรอกครับ.... อายเค้า...
ต้นฉบับ จากนี่...
http://web.parliamen...php?prid=350374
ใครว่า ASTV รับเงินแม้วหว่า...
ผมขอขยายความใหม่นะครับ...ผมว่ามันจริงนะ
ขำอีกแล้วเว้ย หนูน้อยการ์ตูนวิตถาร
พยายามสุดฤทธิ์แล้ว ก็ยังช่วยป้าปูสุดรักสุดสวาทไม่ได้ ๕๕๕
แหม พี่อยากรู้จริง ๆ ว่าคนฉะล้้าดฉลาดอย่างน้องจะแก้ปัญหานี้ยังไง ให้ได้เงินจากรัฐบาลปูสุดรักของน้องมาใช้ก่อสร้างได้เร็วกว่านี้เยอะกว่านี้
เอาแบบไม่ผิดระเบียบราชการนะเว้ยเฮ้ย
ประชาธิปไตยก็เหมือนส้วมสาธารณะแบบนั่งเต็มตูด ควายนับถือศาสนาชินวัตรใช้แล้วสกปรกชิบเป๋ง
#8
ตอบ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 10:32
>> อันนี้ก็ต้องรอว่า รัฐบาลจะแก้ตัวอย่างไร... แต่.. กทม ไม่ได้อับจนถึงขนาดสร้างเองไม่ได้..
>> งบอนุมัติแล้ว... ยังไงก็ต้องได้... แต่อาจไม่ทัน... มันก็เหมือนหมุนเงินไม่ทัน... ไม่ใช่เงินไม่มี...
>> แค่ ขาดสภาพคล่อง... ถามว่า ทาง ธุรกิจเค้าทำกันอย่างไร... เมื่อ หมุนเงินไม่ทัน...
>> เรื่องนี้ ใครทำธุรกิจแก้ปัญหานี้ไม่เป็น... ไม่แค่เสียโอกาส ดีไม่ดี เจ๊ง....
ที่เหลือ มีแต่น้ำ... เป็น ปัญหา เทคนิคทั่วไปในการก่อสร้าง... ของมาช้า.. ของไม่ครบ..
คนในวงการเค้าไม่เอามาอ้างหรอกครับ.... อายเค้า...
ต้นฉบับ จากนี่...
http://web.parliamen...php?prid=350374
ใครว่า ASTV รับเงินแม้วหว่า...
ผมขอขยายความใหม่นะครับ...ผมว่ามันจริงนะ
ข้อนี้ชัดเจนว่า เฮนไตไม่ได้เข้าใจระบบการเบิกจ่ายงบประมาณ และการทำงานของส่วนราชการเลย
๑. ในกรณีที่งบยังไม่มา คือก่อน ธค. ๕๔ ที่มีมติอนุมัติงบ กทม. ไม่สามารถทำการก่อสร้างใด ๆ ได้เลย เพราะถ้าทำ ไม่ว่าจะเอาเงินมาจากไหน เท่ากับทำผิดกฎหมาย เพราะเป็นการปฏิบัติหน้าที่ ทำโครงการที่ยังไม่ได้รับอนุมัติงบประมาณ
๒. ในขณะที่ได้รับอนุมัติงบ ๑ ล้านบาทตอนต้นปี ๕๕ นั้น ถามว่ารัฐบาลหมุนเงินไม่ทันจริงหรือ? ภาระหน้าที่นี้เป็นของรัฐบาลเต็ม ๆ เพราะตามมมติ ครม. รัฐบาลจะเป็นผู้สนับสนุนงบการก่อสร้างเต็มจำนวน ถ้ารัฐบาลหมุนไม่ทัน เหตุใดจึงสามารถนำงบไปอุดคืนภาษีรถยนต์ จำนำข้าว แทบเลต ได้อย่างชนิดที่เรียกว่า เททิ้ง
๓. เมื่อไม่มีงบ กทม. ก็เลยต้องดิ้นด้วยการ หมุนเงิน อย่างที่เฮนไตว่าไว้นั่นแหละ แล้วถามว่า รัฐบาลทำอะไร? เป็นผู้ต้องรับผิดชอบเรื่องนี้ในส่วนงบประมาณแท้ ๆ?
ตรรกะวิบัติไปหน่อยนะ
- คลำปม, ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่, Somebody and 2 others like this
#9
ตอบ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 10:32
เงินแค่พันล้านเอง กระจอก รบ.พท. ไม่มีปัญหาาาาใช่ปะ
ความเท็จแม้นเร้นได้ในปัจจุบัน แต่ก็เหมือนซ่อนสุริยันไว้หลังเมฆ
อย่านึกถึงแต่ความผิดพลาด จงระลึกถึงต้นเหตุของความผิดพลาด
#10
ตอบ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 10:48
๕. ครม.มีมติให้ใช้พื้นที่ที่หนองจอกสร้างสนามเมื่อพ.ย. ๒๕๕๓
๖. ซึ่งพื้นที่นี้เป็นของกทมเอง หลังจากเจ้าของพื้นที่ที่อื่นๆ ปฏิเสธ
>> ย้ำว่า ครม ที่เลือก หนองจอก... ก็ รัฐบาล ม้ากเหมือนเคย...
>> จาก มีค ถึง พย 53... เสียเวลาไปกี่เดือนกับการ หาพื้นที่... ในรัฐบาลเดียว...
ขอข้อ 5,6 ก่อนนะครับ
มีนาคม 53 - พฤศจิกายน 53 มีเหตุการณ์อะไรบ้าง
มีนาคม 53 - พฤษภาคม 53
คงไม่ต้องพูดอะไรมาก กับเหตุการณืช่วงนั้นนะครับ รัฐบาลโดนควายแดงก่อม๊อบประท้วงอยู่ตลอด
มิถุนายน 53 - กรกฎาคม 53 ช่วงเวลา 2 เดือนหลังจากเหตุการณ์ความไม่สงบ มีอะไรเกิดขึ้นบ้าง
22 กรกฎาคม 53
http://www.siamsport...100722_126.html
ตัวแทนฟีฟ่า เสนอ ไทย สร้างสนามฟุตซอลแห่งใหม่ เพื่อใช้สำหรับการชิงแชมป์โลก ปี 2012 หลังสนามอิมแพ็ค อารีน่า ไม่เหมาะ ด้าน กทม. รับเรื่อง พร้อมนำสานต่อกับรัฐบาล ขณะที่ อินดอร์ สเตเดี้ยม หัวหมาก ผ่านฉลุย โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา อนุมัติงบปรับปรุง 150 ล้านบาท ด้าน "บิ๊กป๋อม" อดิศักดิ์ เบ็ญจศิริวรรณ ชี้การสร้างสนามใหม่ต้องเร่งดำเนินการ ส่วนแนวโน้มเพิ่มทีมเป็น 24 ทีม น่าจะผ่านบอร์ดฟีฟ่า ด้วยเหตุการจัดแบ่งสายแข่งขัน จะลงตัวกว่า 20 ทีม
รับทราบว่าต้องสร้างสนามใหม่เดือน กรกฎาคม เหลือเวลาอีก 3 เดือนก่อน พฤศจิกายนในการคัดเลือกสถานที่ก่อสร้าง
สิงหาคม 53 - พฤศจิกายน 53
9 สิงหาคม 53 หลังจากฟีฟ่าเข้ามาตรวจสอบและเสนอให้สร้างสนามใหม่เพียง 16 วัน
http://sport.teenee....thai/64929.html
“บังยี” นายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย และคณะกรรมการบริหารสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) เปิดเผยว่า จากการที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เปิดโอกาสให้ตนเองพร้อมด้วย ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร, นางทยา ทีปสุวรรณ รองผู้ว่าราชการ กทม., นายสามารถ มะลูลีม อุปนายกสมาคมฟุตบอลฯ, นายอดิศักดิ์ เบ็ญจศิริวรรณ ประธานพัฒนาฟุตซอล เข้าพบเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 9 ส.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อหาหารือรายละเอียดต่างๆที่รัฐบาลจะให้การสนับสนุนในการที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพฟุตซอลชิงแชมป์โลก 2012 หรือ ปี พ.ศ.2555 โดยเฉพาะการสร้างสนามรองรับพิธีเปิด-ปิดการแข่งขันที่ “ฟีฟ่า” ระบุว่าต้องมีความจุ 10,000-15,000 คน ซึ่งใช้เวลาหารือราว 1 ชั่วโมง
นายวรวีร์ กล่าวว่า น่าปลื้มใจมากที่ท่านนายกรัฐมนตรีให้ความเอาใจใส่ต่อการเป็นเจ้าภาพจัด ฟุตซอลชิงแชมป์โลก 2012 เป็นอย่างมาก โดยทางผู้บริหาร กทม.ได้นำแผนงาน และแบบแปลนการก่อสร้างสนามไปเสนอให้ท่านนายกฯรับทราบข้อมูล ซึ่งท่านได้ให้แนวทางมา 3 แนวทางด้วยกัน คือ
1.การก่อสร้างสนามใหม่ในที่ดินของรถไฟ โดยให้ กทม.ไปเจรจากับการรถไฟก่อน 2.การก่อสร้างที่ศูนย์ฝึกอาชีพกรุงเทพมหานคร เขตหนองจอก และ 3.ให้ปรับปรุงอินดอร์ สเตเดี้ยม หัวหมาก หรือ อาคารนิมิบุตร ให้มีที่จุตามที่ “ฟีฟ่า” ระบุ โดยมอบหมายให้ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ และ รองฯทยา ไปดำเนินการทันที และให้สรุปให้ได้ภายในเดือนนี้ รวมทั้งเสนอแผนงานและการของบประมาณการปรับปรุงสนามแข่งขันในต่างจังหวัดที่ จะเป็นเจ้าภาพร่วมแนบมาพร้อมกันด้วย
บังยี” กล่าวอีกว่า ตนเองก็ให้สัญญากับท่านนายกรัฐมนตรีว่า หลังการเป็นเจ้าภาพฟุตซอลชิงแชมป์โลก 2012 ตนจะพัฒนาสนามที่จะสร้างขึ้นมาใหม่นี้ให้เป็นศูนย์พัฒนาฟุตซอลแห่งอาเซียน ทีมฟุตซอลของชาติต่างๆในอาเซียน จะมาฝึกซ้อมหรือเก็บตัวที่นี่ รวมทั้งการอบรมบุคลากรที่เกี่ยวข้องด้วย
11 สิงหาคม 53
http://www.siamsport...100811_121.html
วางแผนออกแบบแปลนกราฟฟิกสำหรับการก่อสร้างสนามฟุตซอลแห่งใหม่มูลค่ากว่า 1,500 ล้านบาทที่จะใช้ในพิธีเปิดและปิดการแข่งขัน "ฟุตซอล ฟีฟ่า เวิลด์ คัพ 2012" ออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับกรุงเทพมหานคร ก่อนที่จะเข้าเจรจากับการรถไฟแห่งประเทศไทยบนเนื้อที่กว่า 50 ไร่ บริเวณย่านมักกะสัน เริ่มโครงการก่อสร้างในเดือนกุมภาพันธ์ ใช้เวลา 14-16 เดือน และจะแล้วเสร็จในเดือน มิ.ย. 55 ก่อนที่จะรองรับการแข่งขันในเดือน พ.ย. 55 ต่อไป
11 กันยายน 53 มีการหาแนวทางเพิ่มเติม
http://www.komchadlu...ml#.UJspHsWPK1x
ผ่าทางตัน หายิมเนเซียมหลังใหม่ขนาด 1-1.5 หมื่นที่นั่ง รับศึกฟุตบอลโลก“บังยี” วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย เผยอาจลงที่สนามยิงเป้าบิน กกท.หัวหมาก
25 กันยายน 53 ที่ๆเหมาะสมบริเวณมักกะสันซึ่งเป็นของการรถไฟ นั้นการรถไฟมีแผนที่จะใช้พัฒนาทำอย่างอื่น
http://www.thairath....nt/sport/113946
ผู้ว่าฯกทม. กล่าวอีกว่า เป้าหมายเบอร์หนึ่งของเราในการสร้างสนามฟุตซอลคือ พื้นที่ย่านมักกะสัน เพราะดูจะมีความเหมาะสมต่อการลงทุน ซึ่งหลังจากเสร็จสิ้นการแข่งขันฟุตซอลชิงแชมป์โลก 2012 ไปแล้ว ยังคงสามารถจัดงานรวมถึงการแข่งขันกีฬาในระดับนานาชาติได้อย่างต่อเนื่องทันที เพื่อเป็นการโกยเม็ดเงินเข้าประเทศไทยได้อีกทางหนึ่งด้วย แต่ติดตรงที่พื้นที่ดังกล่าวเป็นของการรถไฟฯ และการรถไฟฯเองมีแผนที่จะพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวด้วยงบประมาณกว่า 1 แสนล้านบาทอีกด้วย ซึ่งตนจะนำเรื่องนี้เสนอต่อมติครม.เพื่อที่จะช่วยเจรจาถึงความเป็นไปได้ต่อไป
30 ตุลาคม 53 ใช้เวลา 1 เดือนในการศึกษาและคัดเลือกพื้นที่ก่อสร้างเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีวันที่ 2 พฤศจิกายน 53
http://www.thairath....t/region/122948
กทม.เตรียมเสนอพื้นที่ในสถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิ้ง บริเวณมักกะสัน หรือสถาบันพัฒนาข้าราชการ กทม. ให้ครม.วันที่ 2 พ.ย. เลือกใช้สร้างสนามฟุตซอลชิงแชมป์โลก 2555 ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพ
3 พฤศจิกายน 53 ครมชี้ขาดเลือกหนองจอก 1 วันหลังจากเสนอ
http://www.siamsport...101102_102.html
ครม. ชี้ขาดท่วมท้น 21-1 เสียง นำโดย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ดันเรื่องด้วยตัวเอง พร้อมชงเรื่องเข้า ครม. ตัดสินใจเลือกส่วนราชการกรุงเทพมหานคร ย่านหนองจอก ใช้เป็นที่สร้างสนามแข่งขัน ทำพิธีเปิดปิดฟุตซอลโลก 2012 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ตามแบบที่กรุงเทพมหานครเสนอมา ด้าน "ฟีฟ่ายี" วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอล โฟนอินข้ามทวีป หลังติดภารกิจประชุมฟีฟ่าอยู่ที่สวิตฯ ว่าปัญหาการก่อสร้างจบแล้ว พร้อมยันสนามไม่ไกลเกินกฎของฟีฟ่า
Edited by HiddenMan, 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 11:27.
“Live as if you were to die tomorrow. Learn as if you were to live forever.” - Mahatma Gandhi
สนใจบ้านพักคนชราเสรีไทย (FB Secret Group) ติดต่อ (PM) เว็บบอร์ด
#11
ตอบ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 11:13
ประชาธิปไตยก็เหมือนส้วมสาธารณะแบบนั่งเต็มตูด ควายนับถือศาสนาชินวัตรใช้แล้วสกปรกชิบเป๋ง
#12
ตอบ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 11:15
โถๆๆๆๆๆ นึกว่าจะแน่สักแค่ไหนผมแย้งเฉพาะข้อมูลนะครับ...
๒. ภาระการสร้างสนามอยู่ที่กระทรวงการท่องเที่ยวและและกีฬา
๓. ขณะนั้นชุมพล ศิลปอาชาพรรคชาติไทยพัฒนาเป็นเจ้ากระทรวง
๔. กทม.ถูกจับให้รับภารกิจนี้หลังฟีฟ่าเลือกไทยเป็นเจ้าภาพแล้ว
>> อย่าโยนความชั่วให้คนอื่น... รัฐบาลไหนจับให้ กทม เป็นเจ้าภาพครับ... จริงๆแล้ว กระทรวงอยากได้งบนี้ใจจะขาดแต่...
>> บางพรรค อยากเอาไปทำเอง เอาทั้งกล่องและเงิน...
มติ ครม.ปี"53 ให้ กทม.ทำย้อน รอยกลับไปดูจุดเริ่มต้นปี 2553 เป็นยุค "รัฐบาลประชาธิปัตย์" โดยมี "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" เป็นนายกรัฐมนตรี ได้มีมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ "กทม." ซึ่งมีผู้ว่าราชการสังกัดพรรคเดียวกัน "ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร" รับหน้าที่เป็นเจ้าภาพงานพร้อมก่อสร้างสนามแข่งขัน โดยรัฐบาลอุดหนุนงบประมาณให้ทั้งหมด 1,239 ล้านบาท
ว่ากันว่ามติ ครม.ดังกล่าว แม้แต่ "ชุมพล ศิลปอาชา" เจ้ากระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจากพรรคชาติไทยพัฒนา หนึ่งในพรรคร่วมรัฐบาลถึงกับออกอาการควันออกหู เพราะงานนี้ "รมว.ชุมพล" ตั้งใจจะชงงานให้กับ "กกท.-การกีฬาแห่งประเทศไทย" หน่วยงานในสังกัดรับเป็นเจ้าภาพคุม โปรเจ็กต์นี้ตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ
http://www.prachacha...pid=09&catid=07
๕. ครม.มีมติให้ใช้พื้นที่ที่หนองจอกสร้างสนามเมื่อพ.ย. ๒๕๕๓
๖. ซึ่งพื้นที่นี้เป็นของกทมเอง หลังจากเจ้าของพื้นที่ที่อื่นๆ ปฏิเสธ
>> ย้ำว่า ครม ที่เลือก หนองจอก... ก็ รัฐบาล ม้ากเหมือนเคย...
>> จาก มีค ถึง พย 53... เสียเวลาไปกี่เดือนกับการ หาพื้นที่... ในรัฐบาลเดียว...
๗. กทม.จ้างม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรีให้ออกแบบต้นปี ๒๕๕๔
๙. จากนั้นต้องผ่านความเห็นชอบของรมว.กระทรวงมหาดไทย
๑๐. รมว.มหาดไทยในขณะนั้นคือยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ พรรคเพื่อไทย
๑๑. แล้วเรื่องก้อต้องไปผ่านสำนักงบประมาณของรัฐบาลต่ออีกทีหนึ่ง
๑๒. สำนักงบประมาณยื่นเรื่องเห็นชอบกลับมาปลายเดือนธ.ค.๒๕๕๔๑๓. เบ็ดเสร็จรัฐบาลใช้เวลาในการผ่านความเห็นชอบถึง ๖ เดือนเต็ม
>> ถ้าทำงานกับ พรรคอื่นไม่ได้.... ผมว่า ลาออกไปเถอะครับ... เที่ยวหน้า.. ครั้งหน้า ท่านก็ต้องทำงานกับเพื่อไทยอีก...
>> แล้วก็อย่าบิดเบือน... ถามว่า ที่นานเนี่ย ติดที่ มหาดไทย หรือ สำนักงบประมาณ...
>> ถามว่า ช่วงปลายปีที่แล้ว... เรามีปัญหาอะไรกันครับ... เราควรใช้เงินทำอะไรก่อนครับ...
>> ถามว่า ต่อให้ได้เงินมาแล้ว... สร้างได้หรือไม่...
พย 54 ถนนสุวินทวงศ์ แยกหนองจอกทางเข้าสนาม
ทางไปแยกหนองจอก..
ข้อมูลจาก เท่ง หงส์แดง
http://www.pantip.co.../S12875963.html
๒๑. แต่เมื่อรัฐบาลพรรคเพื่อไทยขึ้นมาบริหารกลับไม่มีการโอนเงินให้
๒๒. กทม.ขอโอนเปลี่ยนแปลงงบจนได้เงินมา ๔๐๒ ล้านบาท
๒๓. รัฐบาลยิ่งลักษณ์ตั้งงบประมาณปี ๒๕๕๕ มาให้ ๑ ล้านบาท
>> อันนี้ก็ต้องรอว่า รัฐบาลจะแก้ตัวอย่างไร... แต่.. กทม ไม่ได้อับจนถึงขนาดสร้างเองไม่ได้..
>> งบอนุมัติแล้ว... ยังไงก็ต้องได้... แต่อาจไม่ทัน... มันก็เหมือนหมุนเงินไม่ทัน... ไม่ใช่เงินไม่มี...
>> แค่ ขาดสภาพคล่อง... ถามว่า ทาง ธุรกิจเค้าทำกันอย่างไร... เมื่อ หมุนเงินไม่ทัน...
>> เรื่องนี้ ใครทำธุรกิจแก้ปัญหานี้ไม่เป็น... ไม่แค่เสียโอกาส ดีไม่ดี เจ๊ง....
ที่เหลือ มีแต่น้ำ... เป็น ปัญหา เทคนิคทั่วไปในการก่อสร้าง... ของมาช้า.. ของไม่ครบ..
คนในวงการเค้าไม่เอามาอ้างหรอกครับ.... อายเค้า...
ต้นฉบับ จากนี่...
http://web.parliamen...php?prid=350374
ใครว่า ASTV รับเงินแม้วหว่า...
สุดท้ายก็สันดานแถเข้าข้างควายแดงกับ ตั๊กขี้เหมือนเดิมนี่หว่า
ไหนๆก็ เห่า ออกมาแล้ว จะขอชี้แจงเป็นข้อๆเลยแล้วกันนะ
1. เรื่องที่เปลี่ยนหน่วยงานรับผิดชอบเพื่อจะเอากล่องกับเงิน ไม่ขออกความเห็นเพราะไม่รู้ข้อมูล ถือว่ายอมไป
2. การเสียเวลไป 6 - 7 เดือนในการหาพื้นที่ ไม่ใช่เรื่องเกินเลย จริงๆถือว่าเร็วแล้วด้วย ถามว่าเพราะอะไร
จะยกตัวอย่างให้ฟัง องค์การแห่งหนึ่งมีหน้าที่ก่อสร้างรถไฟฟ้าให้บริการระบบขนส่งมวลชน แค่จะสรุปว่าจะก่อสร้างสถานีรถไฟฟ้าสีชมพู (สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี) ในบริเวณไหนถึงจะเชื่อมกับสายสีม่วงได้ ขนาดตัวเองเป็นรัฐบาลมาปีกว่า แค่คุยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ได้ข้อสรุปเพื่อทำแบบโดยเร็ว ยังทำไม่ได้เลย ทั้งที่หน่วยงานแถวนั้น (จ.นนท์ ไทยคม กรมทางหลวง) ก็คนฝั่งตัวเองทั้งนั้น จนวันนี้ก็ยังไม่มีความคืบหน้าอะไร ฉะนั้น ถ้าไม่รู้จริง อย่ามาหน้าด้านด่าคนอื่น
3. เพื่อไทยโง่มากเลยสิ ไม่มีวิศวกรเก่งๆประเมิณเลยสิว่า สนามแบบนี้ ต้องใช้เวลาก่อสร้างอย่างน้อย 500 วัน เรื่องแค่นี้ต่อให้ กทม. มันโง่ไม่ตามเรื่องแต่ก็น่าจะคิดได้เองว่า เป็นเรื่องเร่งด่วน ต้องรีบพิจารณา แต่ก็ยังเสือกใช้เวลาตัง 6 เดือน โห นี่มรึงเป็นรัฐมนตรีหรือเป็นเด็กปัญญาอ่อนวะเนี่ย (ทีตอนจ่ายเงินช่วยน้ำท่วมไม่เห็นต้องใช้เวลาคิดนานขนาดนี้เลย)
4. แล้วเรื่องนี้ก็หน้าด้านที่สุด ผมไม่คิดว่า เสื้อแดงคนไหนจะกล้าเอาเรื่องนี้มาเล่น เพราะมันคงดู โง่ พอสมควร แต่ก็มีพวกบ้าการ์ตูนวิตถารโง่ๆกระโดดมางับจนได้ จะบอกให้เลยนะว่า เรื่องนี้ พรรคเพื่อควายไทย โดยอีปูยิ่งลักษณ์ผิดเต็มๆ เพราะอะไรรู้ไหม เพราะ กทม. ไม่ใช่หน่วยงานที่ถือเงินอยู่ในมือ มีารยได้จาภาษีโรงเรือน กิจการหรือทรัพย์สินบางอย่าง หรือมีรายได้จากภาษีท้องถิ่นสูงมาก็จริง แต่เมื่อนำไปจ่ายเป็นค่าใช้จ่ายแล้ว ที่เหลือก็ต้องส่งคืนส่วนกลางทั้งหมด
แล้วงบค่าก่อสร้างนี่ 1,239 ล้านบาทนะ ไม่ใช่เงิน แค่ หมื่นกว่าบาท จะได้หากันง่ายๆ ตัวเองโอนให้เขาแค่ 1 ล้านบาท จากพันกว่าล้านยังมีหน้ามาด่าเขาอีก
แล้วอันนี้ก็เหมือนกัน
ถ้าไม่รู้จริง อย่ามาโชว์โง่แถวนี้อีกนะครับ หัดมียางอายบ้าง๒๑. แต่เมื่อรัฐบาลพรรคเพื่อไทยขึ้นมาบริหารกลับไม่มีการโอนเงินให้
๒๒. กทม.ขอโอนเปลี่ยนแปลงงบจนได้เงินมา ๔๐๒ ล้านบาท
๒๓. รัฐบาลยิ่งลักษณ์ตั้งงบประมาณปี ๒๕๕๕ มาให้ ๑ ล้านบาท
>> อันนี้ก็ต้องรอว่า รัฐบาลจะแก้ตัวอย่างไร... แต่.. กทม ไม่ได้อับจนถึงขนาดสร้างเองไม่ได้..
>> งบอนุมัติแล้ว... ยังไงก็ต้องได้... แต่อาจไม่ทัน... มันก็เหมือนหมุนเงินไม่ทัน... ไม่ใช่เงินไม่มี...
>> แค่ ขาดสภาพคล่อง... ถามว่า ทาง ธุรกิจเค้าทำกันอย่างไร... เมื่อ หมุนเงินไม่ทัน...
>> เรื่องนี้ ใครทำธุรกิจแก้ปัญหานี้ไม่เป็น... ไม่แค่เสียโอกาส ดีไม่ดี เจ๊ง....
ที่เหลือ มีแต่น้ำ... เป็น ปัญหา เทคนิคทั่วไปในการก่อสร้าง... ของมาช้า.. ของไม่ครบ..
คนในวงการเค้าไม่เอามาอ้างหรอกครับ.... อายเค้า...
จะบอกอะไรให้เอาบุญ องค์กรบางองค์กรที่มีหน้าที่ก่อสร้างรถไฟฟ้า สมมติว่าโครงการมูลค่า 14,000 ล้านบาท ใช้เวลาก่อสร้าง 4 ปี
เท่ากับต้องได้รับเงินเฉลี่ยจากคลังปีละ 3,500 ล้านบาท และในทุกปีที่ได้รับต้องใช้ให้หมด แต่นี่มรึงให้เค้ามาแค่ 1 ล้านบาท ย้ำ ตั้ง 1 ล้านบาท
โอ้แม่เจ้า คงมีแต่ไอ้รัฐบาลชั่วาตินี้เท่านั้นมั้งที่กลั่นแกล้งหน่วยงานที่ไม่ได้มีหน้าที่หาเงินตัวเองได้ขนาดนี้ในโลกนี้
อ้อ แล้วการ์ตูนวิตถารอย่าไปเป็นลูกเศรษฐีบริษัทรับเหมาก่อสร้างขนาดใหญ่นะ ถ้าเขารู้ว่ามีแนวคิดการบริหารแบบนี้ เขาคงไม่โอนมรดกให้บริหารบริษัทหรอก
เพราะมัน โง่ จะบอกให้ว่า โง่ยังไงรู้ไหม
ธรรมชาติงานบริษัทรับเหมาก่อสร้าง ไม่มีใครเตรียมเงินมาไว้ในการก่อสร้าเกิน 30% ของมูลค่างานที่ตัวเองรับมาหรอกครับ เอาไปบริหารความเสี่ยงกับโครงการใรมืออ่นๆด้วยดีกว่า แล้วสิ่งหนึ่งที่ทำให้ผู้รับเหมาเดือดร้อนมากก็คือ ทำงานเสร็จ แต่ไม่ได้เงินจากเจ้าของงานตามงวดงาน เพราะต้องแกภาระดอกเบี้ยเงินกู้ ค่าใช้จ่ายที่อาจเอาเงินงวดงานนี้ไปหมุนให้กับโครงการอื่นในมือได้ ฯ ส่วนตัวเคยมีประสบการณ์ตรงจ่ายเงินช้าให้กับบริษัทรับเหมาระดับ Big 4 ของประเทศ ***โทรไปฟ้องรัฐมนตรีเลย ขนาดเงินงวดงานหนึ่งแค่ 2-3 ร้อยล้าน แล้วนี่บริษัทที่มาทำงานนี้ของ กทม. (EMC) ไม่ได้มีสเกลขนาดนั้นยิ่งเดือดร้อนใหญ่ ถ้าจะถามว่าทำไมผมรู้เรื่องนี้ ก็เพราะผมทำงานให้กับรัฐในลักษณะนี้ รู้จักผู้บริหารและลูกหลานของบริษัทพวกนี้พอสมควร
เมื่อเข้าเงื่อนไขแบบนี้ ไม่ทราบว่า การ์ตูนวิตรถาร จะให้ กทม. ไปเสกเงินมาจากไหนหรือ
จำไว้ ถ้าไม่รู้จริง ไม่รู้จักการบริหารงานของหน่วยงานรัฐ ไม่รู้จักธรรมชาติการทำงานและบริหารงานของบริษัทรับเหมาก่อสร้าง
อย่าสะเออะ มาด่าคนอื่น จะได้ดู ไม่โง่
#13
ตอบ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 11:21
>> อันนี้ก็ต้องรอว่า รัฐบาลจะแก้ตัวอย่างไร... แต่.. กทม ไม่ได้อับจนถึงขนาดสร้างเองไม่ได้..
>> งบอนุมัติแล้ว... ยังไงก็ต้องได้... แต่อาจไม่ทัน... มันก็เหมือนหมุนเงินไม่ทัน... ไม่ใช่เงินไม่มี...
>> แค่ ขาดสภาพคล่อง... ถามว่า ทาง ธุรกิจเค้าทำกันอย่างไร... เมื่อ หมุนเงินไม่ทัน...
>> เรื่องนี้ ใครทำธุรกิจแก้ปัญหานี้ไม่เป็น... ไม่แค่เสียโอกาส ดีไม่ดี เจ๊ง....
ที่เหลือ มีแต่น้ำ... เป็น ปัญหา เทคนิคทั่วไปในการก่อสร้าง... ของมาช้า.. ของไม่ครบ..
คนในวงการเค้าไม่เอามาอ้างหรอกครับ.... อายเค้า...
ต้นฉบับ จากนี่...
http://web.parliamen...php?prid=350374
ใครว่า ASTV รับเงินแม้วหว่า...
ผมขอขยายความใหม่นะครับ...ผมว่ามันจริงนะ
ข้อนี้ชัดเจนว่า เฮนไตไม่ได้เข้าใจระบบการเบิกจ่ายงบประมาณ และการทำงานของส่วนราชการเลย
๑. ในกรณีที่งบยังไม่มา คือก่อน ธค. ๕๔ ที่มีมติอนุมัติงบ กทม. ไม่สามารถทำการก่อสร้างใด ๆ ได้เลย เพราะถ้าทำ ไม่ว่าจะเอาเงินมาจากไหน เท่ากับทำผิดกฎหมาย เพราะเป็นการปฏิบัติหน้าที่ ทำโครงการที่ยังไม่ได้รับอนุมัติงบประมาณ
๒. ในขณะที่ได้รับอนุมัติงบ ๑ ล้านบาทตอนต้นปี ๕๕ นั้น ถามว่ารัฐบาลหมุนเงินไม่ทันจริงหรือ? ภาระหน้าที่นี้เป็นของรัฐบาลเต็ม ๆ เพราะตามมมติ ครม. รัฐบาลจะเป็นผู้สนับสนุนงบการก่อสร้างเต็มจำนวน ถ้ารัฐบาลหมุนไม่ทัน เหตุใดจึงสามารถนำงบไปอุดคืนภาษีรถยนต์ จำนำข้าว แทบเลต ได้อย่างชนิดที่เรียกว่า เททิ้ง
๓. เมื่อไม่มีงบ กทม. ก็เลยต้องดิ้นด้วยการ หมุนเงิน อย่างที่เฮนไตว่าไว้นั่นแหละ แล้วถามว่า รัฐบาลทำอะไร? เป็นผู้ต้องรับผิดชอบเรื่องนี้ในส่วนงบประมาณแท้ ๆ?
ตรรกะวิบัติไปหน่อยนะ
งบปี 57 ตอนนี้ที่ทำงานตั้งแล้วค่ะ เพื่อขอเงิน
โดยต้องทำต้นงบปี 56 คือ ตค พย เพื่อจะได้เอาเข้า ครม
เพราะฉะนั้นการตั้งงบผูกพัน ปี 56
1238 ล้าน นั่นคือ คำถามว่า ทำไมถึงตั้งให้ก่อนจ่ายแค่เดือนเดียว จริงๆ ต้องโยนงบในตั้งแต่ต้นปีงบ 55 แล้วค่ะ
ปล.อย่างที่คุุณว่าค่ะ ถ้าเรื่องตามข้อ 1 นี่ ขรก โดน DSI เรียกแน่ๆ ค่ะ
ปล.การหมุนเงิน จ่ายเงินของ ราชการ ต้องจ่ายตามงวดในสัญญา ตาม TOR มันพลิกแพลงได้ยาก ไม่เหมือนกับเอกชนค่ะ
ความคล่องตัวมันต่างกัน หากให้ผู้รับเหมาทำงานให้ โดยที่คุณไม่จ่ายค่างวดให้เขา แต่เขายินดีสร้างให้
โดยรัฐประกันว่าจะจ่ายแน่ๆ อันนี้มันเกิดความไม่แน่นอนกับบริษัทได้ค่ะ ไม่เมคชัวร์ อีกอย่างทำให้เกิดข้อครหาเรื่องเอื้อผลประโยชน์ให้กับเอกชนด้วยค่ะ
ทำงานหลวงต้องรอบคอบค่ะ
ถ้าคุณเห็นตาย ทำงานหลวง จะเข้าใจดี
Edited by pinkpanda, 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 11:25.
#14
ตอบ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 11:27
http://th.wikipedia....คร_(ไทย-ญี่ปุ่น)
คนที่จะหนาว คือ กทท.เจ้าของ อินดอร์ หัวหมาก และ รัชมังคลา ที่ นิยม ใช้จัด คอนเสริร์ต
ถ้า ผู้ประกอบการ ย้าย ไป แสดงที่ หนองจอก แทน ทั้งหมด
Edited by plunk, 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 11:30.
#15
ตอบ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 11:36
อย่าปล่อยให้เค้ามาปรามาสพี่ว่า "โง่" เลย ผมเชียร์พี่นะ...จุ๊บๆ
#16
ตอบ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 12:43
แล้ว สนามแห่งนี้ ใช้ครั้งเดียว แล้วทิ้งเหรอ? ปัจจุบัน กทม มี แค่ สนาม ไทย ญี่ปุ่น เพียง แห่งเดียว อายุก็เกื่อบๆ จะ 30 ปี จุได้เพียง 6600 ที่นั่ง
http://th.wikipedia....คร_(ไทย-ญี่ปุ่น)
คนที่จะหนาว คือ กทท.เจ้าของ อินดอร์ หัวหมาก และ รัชมังคลา ที่ นิยม ใช้จัด คอนเสริร์ต
ถ้า ผู้ประกอบการ ย้าย ไป แสดงที่ หนองจอก แทน ทั้งหมด
แปะลิงค์ให้ใหม่ครับ
http://th.wikipedia....ร_(ไทย-ญี่ปุ่น)
Edited by อู๋ ฮานามิ, 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 12:43.
ถึงผมจะเป็นคนหัวขบถ แต่ไม่คิดทรยศบุญคุณแผ่นดินเกิด
เสียงส่วนใหญ่ของประชาชน ไม่ใช่ใบอนุญาตทำร้ายประเทศชาติ
#17
ตอบ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 12:46
เอ่อ..ว่าแต่ที่เค้าเอามาให้อ่านอ่ะ จะอ่านหรือเปล่าหว่า
เยอะเกิน...3 บรรทัดอ่ะ
ลูกหลานที่รัก จงจำปฏิปทานี้ไว้ “ถ้ามีความจำเป็นเราต้องเสียสละเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และปวงชนชาวไทย แม้แต่ชีวิตก็ต้องยอม”
#18
ตอบ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 15:05
เป็นตูคงอายชิกหายเลยว่ะ หนูน้อยการ์ตูนวิตถาร
พี่ไต๋ อย่ายอมเค้าพี่ .. เข้ามาเถียงแมงสาป ให้หน้าหงายเลย พี่..ผมเชียร์พี่อยู๋นะพี่...
อย่าปล่อยให้เค้ามาปรามาสพี่ว่า "โง่" เลย ผมเชียร์พี่นะ...จุ๊บๆ
แมงสาปขายังไม่ชี้ฟ้า...อย่ายอมๆๆ สู้ต่อไปๆๆ
เอ่อ..ว่าแต่ที่เค้าเอามาให้อ่านอ่ะ จะอ่านหรือเปล่าหว่า
เยอะเกิน...3 บรรทัดอ่ะ
ตายๆๆๆ แบบนี้ตายหยังเขียด สามความคิดเห็น จาก สมาชิกทั้งสามท่าน
ล้วนไปในทิศทางเดียวกัน เพียงแต่ต่างกันที่ "บาลี" เท่านั้น
สรุปแล้ว.........มียาทาสีข้างหรือยัง หรือว่า หนังกำพร้ามันแข็งเป็นไต ไปแล้ว!!!
ขอเทิดทูนศักดิ์ศรียิ่งสิ่งใด
...แม้แต่ลมหายใจก็ยอมพลี
โลกยังไม่สิ้นหวัง ถ้ายังมั่นในความดี
...ศรัทธาไม่เคยหน่ายหนี คนดีไม่มีวันตาย
#19
ตอบ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 20:28
ผมแย้งเฉพาะข้อมูลนะครับ...
๔. กทม.ถูกจับให้รับภารกิจนี้หลังฟีฟ่าเลือกไทยเป็นเจ้าภาพแล้ว
>> อย่าโยนความชั่วให้คนอื่น... รัฐบาลไหนจับให้ กทม เป็นเจ้าภาพครับ... จริงๆแล้ว กระทรวงอยากได้งบนี้ใจจะขาดแต่...
>> บางพรรค อยากเอาไปทำเอง เอาทั้งกล่องและเงิน...
ถ้ามีใครโยนมาให้ กทม. ก็คงเป็น สมามคมฟุตบอลฯ ตั้งแต่เสนอชื่อขอเป็นเจ้าภาพ
1 กันยายน 2552
http://www.thairath....ent/sport/30256
บิ๊กป๋อมเตรียมให้ ผู้ว่าฯกทม. ยื่นหนังสือต่อ เซปป์ แบล็ตเตอร์ เสนอกรุงเทพฯเป็นเจ้าภาพ ฟุตซอลโลก 2012 ตัดหน้ากรุงปราก ที่มาตามคิว แสดงความพร้อมที่จะเป็นเจ้าภาพ โดยมี อิมแพค อารีนา เป็นสังเวียนหลักในการแข่งขัน
วันนี้(1ก.ย.) นายอดิศักดิ์ เบ็ญจศิริวรรณ ประธานพัฒนาฟุตซอลแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงการที่จะเสนอให้ประเทศไทย ได้เป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขันฟุตซอล ชิงแชมป์โลก รอบสุดท้ายในปี 2012 โดย ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ผู้ว่า กทม. จะเป็นผูยื่นหนังสือขอเสนอตัวเป็นเจ้าภาพต่อ เซ็ปป์ เบล็ตเตอร์ ที่จะมาเยือนประเทศไทยในช่วงกลางเดือนนี้
16 กันยายน 2552 ทางฟีฟ่าตอบรับข้อเสนอ
http://news.giggog.com/276595
เซปป์ แบล็ตเตอร์ ประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือฟีฟ่า ได้เดินทางไปเปิดสนามหญ้าเทียมที่ศูนย์ฝึกฟุตบอลแห่งชาติหนองจอก อย่างเป็นทางการ หลังจากสร้างเสร็จมาเกือบ 2 ปี โดยมีนายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย และนายกนกพันธ์ จุลเกษม ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ต้อนรับ ซึ่งเซปป์ แบล็ตเตอร์ เปิดเผยถึงการพูดคุยกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ว่าทางฟีฟ่าได้รับเรื่องที่กรุงเทพมหานครยื่นเสนอขอเป็นเจ้าภาพจัดการแข่ง ขันฟุตซอลชิงแชมป์โลก ในปี 2012 แล้ว โดยขณะนี้มีคู่แข่ง 2 ชาติ จากทวีปยุโรป และแอฟริกาใต้
19 มีนาคม 2555 ฟีฟ่าเลือกประเทศไทยเป็นเจ้าภาพฟุตซอลโลก 2012... ตั้งแต่เริ่มเสนอชื่อ จนได้รับเลือก นายชุมพล ทำอะไรไปบ้าง ควันออกหูเพราะขอทำแล้วไม่ได้มากกว่า...
http://www.thairath....ent/sport/71722
ฟุตซอลไทยเฮ! ฟีฟ่า เลือกไทย เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตซอลชิงแชมป์โลก ครั้งที่ 7 รอบสุดท้าย ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ในปี 2012 ด้าน "บิ๊กป๋อม" อดิศักดิ์ เบ็ญจศิริวรรณ ตั้งเป้าเตรียมทีมล่วงหน้า 2 ปี หวังพาทีมไทยเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายให้ได้...
ปล. งานนี้ผมเห็นว่า กทม. และสมาคมฟุตบอลจึงเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรงมากกว่า ส่วนเรื่องการขัดขา ก็มารอดูข้อมูลกันต่อไป ในส่วนที่อยู่นอกพื้นที่ กทม. ก็คงต้องเป็น เจ้ากระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาขณะนั้นกับสมาคมฟุตบอล แต่จะให้ดูแค่สนามต่างจังหวัดก้อนมันคงเล็กไป ถึงได้ควันออกหู เพราะอยากเหมาไว้คนเดียว ส่วนเรื่องงบ ก็ต้องชงเรื่องขออนุมัติจาก ครม. กันต่อไป
Edited by HiddenMan, 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 20:32.
- pinkpanda likes this
“Live as if you were to die tomorrow. Learn as if you were to live forever.” - Mahatma Gandhi
สนใจบ้านพักคนชราเสรีไทย (FB Secret Group) ติดต่อ (PM) เว็บบอร์ด
#20
ตอบ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 20:33
“Live as if you were to die tomorrow. Learn as if you were to live forever.” - Mahatma Gandhi
สนใจบ้านพักคนชราเสรีไทย (FB Secret Group) ติดต่อ (PM) เว็บบอร์ด
#21
ตอบ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 20:57
>> ถามว่า ช่วงปลายปีที่แล้ว... เรามีปัญหาอะไรกันครับ... เราควรใช้เงินทำอะไรก่อนครับ...
>> ถามว่า ต่อให้ได้เงินมาแล้ว... สร้างได้หรือไม่...
#22
ตอบ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 21:07
>> อย่าโยนความชั่วให้คนอื่น...
ใช้เวลาอนุมัติในครม 6 เืดือน ให้งบ กทม 1 ล้าน มาสร้าง แต่พรรคเพื่อควายแดง ของไอ้วิตถาร ออกมาโยนความผิดให้ กทม ฝ่ายเดียว ทุเรศจริงๆ
ยังมีหน้า ติดป้ายขนาดใหญ่เอาความดีความชอบ แต่ผิดไม่ช่วยรับผิดชอบนะ
ที่รัฐสภา วันนี้ (8 พฤศจิกายน) นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย ได้แถลงข่าวถึงกรณีที่สหพันธ์ฟุตบอลระหว่างประเทศ หรือ ฟีฟ่า ตัดสินใจไม่เลือกใช้สนามบางกอก ฟุตซอล อารีนา ในการแข่งขันฟุตซอลโลก 2012 ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ว่า ถือเป็นความบกพร่องของ กทม. และจะทำให้ต่างประเทศไม่เชื่อมั่น หากประเทศไทยได้จัดการแข่งขันกีฬาระดับโลกอีก เนื่องจาก กทม. ได้ทำเสียของไปแล้ว เพราะแม้แต่สนามฟุตซอลก็ยังสร้างไม่เสร็จ
- Somebody likes this
#23
ตอบ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 21:26
#24
ตอบ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 21:40
#25
ตอบ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 22:03
สไตล์เฮนไตเขาล่ะ
#26
ตอบ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 12:12
ผมมีคำถามนิดเดียว ที่ยังหาหลักฐานมาตอบข้อสงสัยผมไม่ได้ (timeline เป็นแบบย้อนเวลาจากผลไปสู่เหตุนะครับ)
1. การก่อสร้างระยะเวลานาน ต้องมีการเบิกจ่ายเงินเป็นงวดๆ
2. จากป้ายประกาศซึ่ง กำหนดการก่อสร้าง เริ่ม 14 ม.ค. 55 ถึง 7 เม.ย. 56 ดังนั้นเดาได้เลยว่าในปีงบ 55 ต้องมีการเบิกจ่ายหลายงวดซึ่งเกิน 1 ล้านบาทแน่นอน
3. แล้วทำไมในเมื่อ กทม. ได้งบมาแค่ 1 ล้านในปีงบ 55 จึงกล้าทำสัญญาก่อสร้างที่ต้องจ่ายเงินเกิน 1 ล้านบาทได้
และ ทำไมตอนนั้น(และจนถึงตอนนี้) ไม่มีการโวยวายจาก กทม. เลย
ผมกำลังคิดถึงประเด็นความเป็นไปได้ที่ทำให้ กทม. กล้าเซ็นสัญญา 2 ประเด็น คือ การโยกงบประมาณ กับ การใช้งบนอก แต่ยังหาหลักฐานรองรับไม่ได้ครับ
#27
ตอบ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 12:29
ตกลงประเด็นใบงบ 1 ล้านนี่ผมว่าตกไปได้แล้วละครับ เพราะแสดงว่ามันมีงบอื่นๆ อยู่
ถ้าอยากเล่น ไปเล่นเรื่องอื่นดีกว่าเอาหน้างบหน้าเดียว 1 ล้านมาป่าวประกาศว่า กทม. ได้ 1 ล้านเถอะ
http://www.skyscrape...d.php?t=1478741
#28
ตอบ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 13:11
แหม คุณ pinkpanda แอบมาตั้งกระทู้ใหม่อยู่ตรงนี้ เลยขออนุญาติตามมาคุยด้วยครับ กระทู้นู้นเล่นกับเด็กเยอะไปหน่อยเลยไม่ค่อยได้สาระ
ผมมีคำถามนิดเดียว ที่ยังหาหลักฐานมาตอบข้อสงสัยผมไม่ได้ (timeline เป็นแบบย้อนเวลาจากผลไปสู่เหตุนะครับ)
1. การก่อสร้างระยะเวลานาน ต้องมีการเบิกจ่ายเงินเป็นงวดๆ
2. จากป้ายประกาศซึ่ง กำหนดการก่อสร้าง เริ่ม 14 ม.ค. 55 ถึง 7 เม.ย. 56 ดังนั้นเดาได้เลยว่าในปีงบ 55 ต้องมีการเบิกจ่ายหลายงวดซึ่งเกิน 1 ล้านบาทแน่นอน
3. แล้วทำไมในเมื่อ กทม. ได้งบมาแค่ 1 ล้านในปีงบ 55 จึงกล้าทำสัญญาก่อสร้างที่ต้องจ่ายเงินเกิน 1 ล้านบาทได้
และ ทำไมตอนนั้น(และจนถึงตอนนี้) ไม่มีการโวยวายจาก กทม. เลย
ผมกำลังคิดถึงประเด็นความเป็นไปได้ที่ทำให้ กทม. กล้าเซ็นสัญญา 2 ประเด็น คือ การโยกงบประมาณ กับ การใช้งบนอก แต่ยังหาหลักฐานรองรับไม่ได้ครับ
ต้องขอโ ทษที ยังไม่ขอตอบนะคะ
ช่วงนี้งานยุ่งมาก นี่เตรียมประชุม เตรียมคำกล่าว เตรียมเรื่องย้าย แล้วก็เตรียมเรื่องไปอบรม 3 เดือน
วีคนี้ยุ่งมากค่ะ
เอาไว้ขอมีเวลานะคะ
วันนี้งานเข้าทั้งวัน ^O^
ปล.มาตอบกลางๆ ไว้ก่อน คิดว่ามีการโยกงบอื่นลงมาจัดการก่อนมั้งคะ หรือไม่ก็ขอเพิ่มเติม
เช่นหน่วยงานเรา ขอค่าวัสดุสารเคมีไป 10 ล้านบาทต่อไป แต่จะมีงบกลางซึ่งเป็นงบทำการเผื่อไว้ เช่น 20 ล้านบาท
หากไตรมาส 3 จำเป็น มีวิกฤติต้องใช้สารเคมีเพิ่ม ก็ทำบันทึกขออนุมัติเพิ่มได้ค่ะ โดยดึงเงินจากงบกลางมาทำ เพียงแต่ระบบ sap ตัดเงินเข้าออกต้องสัมพันธ์กับ sap บัญชี sap พัสดุ และ sap ของสาขาค่ะ
Edited by pinkpanda, 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 13:37.
#29
ตอบ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 23:43
จากลิงค์นี้ที่ได้จากพันทิปอีกที มีข่าวเก่าหลายข่าวอ้างถึงการเบิกงบประมาณ 400 ล้านจากรัฐบาล
ตกลงประเด็นใบงบ 1 ล้านนี่ผมว่าตกไปได้แล้วละครับ เพราะแสดงว่ามันมีงบอื่นๆ อยู่
ถ้าอยากเล่น ไปเล่นเรื่องอื่นดีกว่าเอาหน้างบหน้าเดียว 1 ล้านมาป่าวประกาศว่า กทม. ได้ 1 ล้านเถอะ
http://www.skyscrape...d.php?t=1478741
จากรายละเอียดที่ผมรวบรวมมา เป็นอย่างนี้นะครับ
๑. รัฐแปรญัตติงบให้กทม. เพื่อก่อสร้างสนามเป็น ๒ รอบ รอบแรกปี ๕๕ ๑ ล้าน รอบสองปี ๕๖ อีก ๑.๒๓๘ ล้าน และนอกจากงบ ๑ ล้านบาทในปี ๕๕ ที่ได้มา รัฐให้กทม. เปลี่ยนแปลงงบ ๔๐๐ ล้านบาท จากโครงการบำบัดน้ำเสียในปี ๕๑ ที่ กทม. ได้รับอนุมัติมาแล้วมาใช้ก่อน
http://www.gotoknow....gs/posts/489011
๒. หลังจากนั้น กทม. ก็ยังไม่ได้รับการสนับสนุนงบเพื่อมาสร้างสนามฟุตซอลเพิ่มเติม จึงต้องมีการขอเปลี่ยนแปลงงบหลาย ๆ รายการ ตั้งแต่ปี ๕๐ จนถึง ๕๔ เพื่อนำมาอุด นั่นคือเดือน พค.
http://www.cgd.go.th..._Current2/0865
๓. ข่าวจากเดลินิวส์เดือน มิย. ระบุว่าทางกทม. ทำการทวงงบประมาณจากรัฐบาล เพราะไม่ได้จัดสรรมาให้ตามที่ตกลง
http://www.dailynews...thailand/118446
๔. หนังสืองบรายจ่ายเพิ่มเติม ๕๕ ของ กทม. (โพสต์เมื่อสิงหา) ระบุการตั้งงบฉุกเฉินของสภา กทม. เพื่อนำมาใช้ในการก่อสร้าง ซึ่งก็เป็นงบของ กทม. ที่ได้รับอนุมัติมาแล้ว ทั้งนี้เพราะไม่สามารถเบิกงบก่อสร้างสนาม ที่ไม่ได้รับการอนุมัติวงเงินได้
http://office.bangko...ndex.php?id=527 อยู่ในรายการที่ ๕ สำนักการโยธา หน้าที่ ๔๓
๕. ซึ่งจากหนังสือประมาณการงบประมาณรายจ่ายของ กทม. เมื่อปลายปี ๕๔ ไม่พบว่า กทม. มีดำริที่จะออกเงินเองสำหรับการก่อสร้าง เนื่องจากไม่ได้ตั้งงบส่วนนี้ไว้เลย
http://office.bangko...ndex.php?id=288 อยู่ในรายการที่ ๔ กสารงบประมาณรายจ่ายจำแนกตามโครงสร้างแผนงาน หน้า ๒๙ ของแผนประมาณการงบประมาณ
------------------------------
คำถาม
๑. ในเมื่อทราบชัดอยู่แล้วว่า ต้องใช้งบประมาณในการก่อสร้าง ๑.๒๓๙ พันล้านบาท เหตุใดรัฐจึงเกลี่ยงบประมาณให้อย่างไม่เหมาะสมในเรื่องนี้ โดยในปี ๕๕ ที่ควรจะต้องจ่ายเงินอย่างน้อยครึ่งหนึ่งของค่าก่อสร้างทั้งหมด รัฐกลับให้เงินมาสำหรับโครงการนี้เพียง ๑ ล้าน แล้วที่เหลือ ให้กทม. ออกไปก่อนจากงบอื่น ๆ ที่ได้รับการอนุมัติแล้ว
ตรงนี้จะบอกว่ารัฐไม่มีเงินไม่ได้นะครับ เพราะ ณ ช่วงเวลาดังกล่าว รัฐสามารถเอาเงินไปสุรุ่ยสุร่ายกับโครงการต่าง ๆ ที่ใช้เงินมากกว่านับสิบนับร้อยเท่าได้
๒. ที่ได้รับการอนุมัติมาในกรอบจนถึงปลายปีงบ ๕๕ มีเพียงงบ ๑ ล้าน กับที่บอกให้ไปเอางบกำจัดน้ำเสียมาใช้ รวมแล้ว ๔๐๐ ล้าน แล้วที่เหลือล่ะครับ? รัฐไม่มีผู้มีความรู้เรื่องการจ่ายเงินเป็นงวด ๆ ของโครงการเลยหรืออย่างไร ด้วยจำนวนเงิน ๑.๒๔ พันล้าน ต่อให้นับไปสิ้นสุดที่เมย. ๕๖ ยังเฉลี่ยต้องใช้จ่ายเดือนละราว ๘๐ ถึง ๙๐ ล้าน หมายความว่า ๔๐๐ ล้านที่ว่า อยู่ได้เต็มที่ก็แค่เดือนพฤษภาไม่เกินมิถุนา แล้วที่เหลือล่ะ?
อีกข้อที่ต้องด่า กทม. อย่างมาก ๆ คือ การที่วางใจไม่ยอมกระตือรือร้นในการคาดคั้นเรื่องงบมาตั้งแต่ต้น รู้อยู่แล้วว่าด้วยจำนวนเงินดังกล่าวมันไม่พออย่างแน่นอน เงินก็ยังไม่มีในมือ ไม่มีหลักประกันอะไรว่าเค้าจะโอนมาให้อีกรอบตอนมิย. แล้วก็ไม่ได้จริง ๆ
ข้อมูลจากบริษัทที่รับเหมา กทม. จ่ายเงินช้ามากกกกกกกกก เงินไม่มา เค้าก็ไม่เดินงานให้เหมือนกัน แล้วถามว่าทำไมเงินถึงมาช้า ทำไม กทม. จึงไม่สามารถเบิกเงินได้ล่ะ?
#30
ตอบ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 00:33
จากลิงค์นี้ที่ได้จากพันทิปอีกที มีข่าวเก่าหลายข่าวอ้างถึงการเบิกงบประมาณ 400 ล้านจากรัฐบาล
ตกลงประเด็นใบงบ 1 ล้านนี่ผมว่าตกไปได้แล้วละครับ เพราะแสดงว่ามันมีงบอื่นๆ อยู่
ถ้าอยากเล่น ไปเล่นเรื่องอื่นดีกว่าเอาหน้างบหน้าเดียว 1 ล้านมาป่าวประกาศว่า กทม. ได้ 1 ล้านเถอะ
http://www.skyscrape...d.php?t=1478741
จากรายละเอียดที่ผมรวบรวมมา เป็นอย่างนี้นะครับ
๑. รัฐแปรญัตติงบให้กทม. เพื่อก่อสร้างสนามเป็น ๒ รอบ รอบแรกปี ๕๕ ๑ ล้าน รอบสองปี ๕๖ อีก ๑.๒๓๘ ล้าน และนอกจากงบ ๑ ล้านบาทในปี ๕๕ ที่ได้มา รัฐให้กทม. เปลี่ยนแปลงงบ ๔๐๐ ล้านบาท จากโครงการบำบัดน้ำเสียในปี ๕๑ ที่ กทม. ได้รับอนุมัติมาแล้วมาใช้ก่อน
http://www.gotoknow....gs/posts/489011
๒. หลังจากนั้น กทม. ก็ยังไม่ได้รับการสนับสนุนงบเพื่อมาสร้างสนามฟุตซอลเพิ่มเติม จึงต้องมีการขอเปลี่ยนแปลงงบหลาย ๆ รายการ ตั้งแต่ปี ๕๐ จนถึง ๕๔ เพื่อนำมาอุด นั่นคือเดือน พค.
http://www.cgd.go.th..._Current2/0865
๓. ข่าวจากเดลินิวส์เดือน มิย. ระบุว่าทางกทม. ทำการทวงงบประมาณจากรัฐบาล เพราะไม่ได้จัดสรรมาให้ตามที่ตกลง
http://www.dailynews...thailand/118446
๔. หนังสืองบรายจ่ายเพิ่มเติม ๕๕ ของ กทม. (โพสต์เมื่อสิงหา) ระบุการตั้งงบฉุกเฉินของสภา กทม. เพื่อนำมาใช้ในการก่อสร้าง ซึ่งก็เป็นงบของ กทม. ที่ได้รับอนุมัติมาแล้ว ทั้งนี้เพราะไม่สามารถเบิกงบก่อสร้างสนาม ที่ไม่ได้รับการอนุมัติวงเงินได้
http://office.bangko...ndex.php?id=527 อยู่ในรายการที่ ๕ สำนักการโยธา หน้าที่ ๔๓
๕. ซึ่งจากหนังสือประมาณการงบประมาณรายจ่ายของ กทม. เมื่อปลายปี ๕๔ ไม่พบว่า กทม. มีดำริที่จะออกเงินเองสำหรับการก่อสร้าง เนื่องจากไม่ได้ตั้งงบส่วนนี้ไว้เลย
http://office.bangko...ndex.php?id=288 อยู่ในรายการที่ ๔ กสารงบประมาณรายจ่ายจำแนกตามโครงสร้างแผนงาน หน้า ๒๙ ของแผนประมาณการงบประมาณ
------------------------------
คำถาม
๑. ในเมื่อทราบชัดอยู่แล้วว่า ต้องใช้งบประมาณในการก่อสร้าง ๑.๒๓๙ พันล้านบาท เหตุใดรัฐจึงเกลี่ยงบประมาณให้อย่างไม่เหมาะสมในเรื่องนี้ โดยในปี ๕๕ ที่ควรจะต้องจ่ายเงินอย่างน้อยครึ่งหนึ่งของค่าก่อสร้างทั้งหมด รัฐกลับให้เงินมาสำหรับโครงการนี้เพียง ๑ ล้าน แล้วที่เหลือ ให้กทม. ออกไปก่อนจากงบอื่น ๆ ที่ได้รับการอนุมัติแล้ว
ตรงนี้จะบอกว่ารัฐไม่มีเงินไม่ได้นะครับ เพราะ ณ ช่วงเวลาดังกล่าว รัฐสามารถเอาเงินไปสุรุ่ยสุร่ายกับโครงการต่าง ๆ ที่ใช้เงินมากกว่านับสิบนับร้อยเท่าได้
๒. ที่ได้รับการอนุมัติมาในกรอบจนถึงปลายปีงบ ๕๕ มีเพียงงบ ๑ ล้าน กับที่บอกให้ไปเอางบกำจัดน้ำเสียมาใช้ รวมแล้ว ๔๐๐ ล้าน แล้วที่เหลือล่ะครับ? รัฐไม่มีผู้มีความรู้เรื่องการจ่ายเงินเป็นงวด ๆ ของโครงการเลยหรืออย่างไร ด้วยจำนวนเงิน ๑.๒๔ พันล้าน ต่อให้นับไปสิ้นสุดที่เมย. ๕๖ ยังเฉลี่ยต้องใช้จ่ายเดือนละราว ๘๐ ถึง ๙๐ ล้าน หมายความว่า ๔๐๐ ล้านที่ว่า อยู่ได้เต็มที่ก็แค่เดือนพฤษภาไม่เกินมิถุนา แล้วที่เหลือล่ะ?
อีกข้อที่ต้องด่า กทม. อย่างมาก ๆ คือ การที่วางใจไม่ยอมกระตือรือร้นในการคาดคั้นเรื่องงบมาตั้งแต่ต้น รู้อยู่แล้วว่าด้วยจำนวนเงินดังกล่าวมันไม่พออย่างแน่นอน เงินก็ยังไม่มีในมือ ไม่มีหลักประกันอะไรว่าเค้าจะโอนมาให้อีกรอบตอนมิย. แล้วก็ไม่ได้จริง ๆ
ข้อมูลจากบริษัทที่รับเหมา กทม. จ่ายเงินช้ามากกกกกกกกก เงินไม่มา เค้าก็ไม่เดินงานให้เหมือนกัน แล้วถามว่าทำไมเงินถึงมาช้า ทำไม กทม. จึงไม่สามารถเบิกเงินได้ล่ะ?
นี่คื อประชาธิปไตยแบบที่คนส่วนใหญ่ต้องการใช่หรือเปล่า
ต่อหน้าทำเป็นยิ้มใส่ แต่ถือมีดไว้ข้างหลังคอยแทงกันและกัน
เมื่อไหร่นักการเมืองไทยจะทำหน้าที่สมกับเกียรติที่ได้รับกันเสียที ทำงานกันแบบมืออาชีพ เน้นคำว่าทำงานการเมืองนะ
ไม่ใช่เล่นการเมือง เพราะการเมืองไม่ใช่ของเล่น ไม่ใช่ของสนุกที่จะทำเละเทะ
การเมืองที่ดี จะสร้างอนาคตที่ยั่งยืนแก่ลูกหลานได้
ปล.ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ ค่ะ
#31
ตอบ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 12:39
จากรายละเอียดที่ผมรวบรวมมา เป็นอย่างนี้นะครับ
๑. รัฐแปรญัตติงบให้กทม. เพื่อก่อสร้างสนามเป็น ๒ รอบ รอบแรกปี ๕๕ ๑ ล้าน รอบสองปี ๕๖ อีก ๑.๒๓๘ ล้าน และนอกจากงบ ๑ ล้านบาทในปี ๕๕ ที่ได้มา รัฐให้กทม. เปลี่ยนแปลงงบ ๔๐๐ ล้านบาท จากโครงการบำบัดน้ำเสียในปี ๕๑ ที่ กทม. ได้รับอนุมัติมาแล้วมาใช้ก่อน
http://www.gotoknow....gs/posts/489011
๒. หลังจากนั้น กทม. ก็ยังไม่ได้รับการสนับสนุนงบเพื่อมาสร้างสนามฟุตซอลเพิ่มเติม จึงต้องมีการขอเปลี่ยนแปลงงบหลาย ๆ รายการ ตั้งแต่ปี ๕๐ จนถึง ๕๔ เพื่อนำมาอุด นั่นคือเดือน พค.
http://www.cgd.go.th..._Current2/0865
๓. ข่าวจากเดลินิวส์เดือน มิย. ระบุว่าทางกทม. ทำการทวงงบประมาณจากรัฐบาล เพราะไม่ได้จัดสรรมาให้ตามที่ตกลง
http://www.dailynews...thailand/118446
๔. หนังสืองบรายจ่ายเพิ่มเติม ๕๕ ของ กทม. (โพสต์เมื่อสิงหา) ระบุการตั้งงบฉุกเฉินของสภา กทม. เพื่อนำมาใช้ในการก่อสร้าง ซึ่งก็เป็นงบของ กทม. ที่ได้รับอนุมัติมาแล้ว ทั้งนี้เพราะไม่สามารถเบิกงบก่อสร้างสนาม ที่ไม่ได้รับการอนุมัติวงเงินได้
http://office.bangko...ndex.php?id=527 อยู่ในรายการที่ ๕ สำนักการโยธา หน้าที่ ๔๓
๕. ซึ่งจากหนังสือประมาณการงบประมาณรายจ่ายของ กทม. เมื่อปลายปี ๕๔ ไม่พบว่า กทม. มีดำริที่จะออกเงินเองสำหรับการก่อสร้าง เนื่องจากไม่ได้ตั้งงบส่วนนี้ไว้เลย
http://office.bangko...ndex.php?id=288 อยู่ในรายการที่ ๔ กสารงบประมาณรายจ่ายจำแนกตามโครงสร้างแผนงาน หน้า ๒๙ ของแผนประมาณการงบประมาณ
------------------------------
คำถาม
๑. ในเมื่อทราบชัดอยู่แล้วว่า ต้องใช้งบประมาณในการก่อสร้าง ๑.๒๓๙ พันล้านบาท เหตุใดรัฐจึงเกลี่ยงบประมาณให้อย่างไม่เหมาะสมในเรื่องนี้ โดยในปี ๕๕ ที่ควรจะต้องจ่ายเงินอย่างน้อยครึ่งหนึ่งของค่าก่อสร้างทั้งหมด รัฐกลับให้เงินมาสำหรับโครงการนี้เพียง ๑ ล้าน แล้วที่เหลือ ให้กทม. ออกไปก่อนจากงบอื่น ๆ ที่ได้รับการอนุมัติแล้ว
ตรงนี้จะบอกว่ารัฐไม่มีเงินไม่ได้นะครับ เพราะ ณ ช่วงเวลาดังกล่าว รัฐสามารถเอาเงินไปสุรุ่ยสุร่ายกับโครงการต่าง ๆ ที่ใช้เงินมากกว่านับสิบนับร้อยเท่าได้
๒. ที่ได้รับการอนุมัติมาในกรอบจนถึงปลายปีงบ ๕๕ มีเพียงงบ ๑ ล้าน กับที่บอกให้ไปเอางบกำจัดน้ำเสียมาใช้ รวมแล้ว ๔๐๐ ล้าน แล้วที่เหลือล่ะครับ? รัฐไม่มีผู้มีความรู้เรื่องการจ่ายเงินเป็นงวด ๆ ของโครงการเลยหรืออย่างไร ด้วยจำนวนเงิน ๑.๒๔ พันล้าน ต่อให้นับไปสิ้นสุดที่เมย. ๕๖ ยังเฉลี่ยต้องใช้จ่ายเดือนละราว ๘๐ ถึง ๙๐ ล้าน หมายความว่า ๔๐๐ ล้านที่ว่า อยู่ได้เต็มที่ก็แค่เดือนพฤษภาไม่เกินมิถุนา แล้วที่เหลือล่ะ?
อีกข้อที่ต้องด่า กทม. อย่างมาก ๆ คือ การที่วางใจไม่ยอมกระตือรือร้นในการคาดคั้นเรื่องงบมาตั้งแต่ต้น รู้อยู่แล้วว่าด้วยจำนวนเงินดังกล่าวมันไม่พออย่างแน่นอน เงินก็ยังไม่มีในมือ ไม่มีหลักประกันอะไรว่าเค้าจะโอนมาให้อีกรอบตอนมิย. แล้วก็ไม่ได้จริง ๆ
ข้อมูลจากบริษัทที่รับเหมา กทม. จ่ายเงินช้ามากกกกกกกกก เงินไม่มา เค้าก็ไม่เดินงานให้เหมือนกัน แล้วถามว่าทำไมเงินถึงมาช้า ทำไม กทม. จึงไม่สามารถเบิกเงินได้ล่ะ?
อันนี้เป็นอีกความคิดเห็นจากอีกกระทู้ แต่น่าจะเป็นข้อมูลของกันและกันได้ เลยจับมารวมกันนะครับ
การทำงานก่อสร้าง ก่อนจะมีแผนการก่อสร้างหลักหรือ masterplan ออกมา มันต้องมีการทำ cash flow เพื่อพล้อต s-curve แล้วถึงเอาตรงนี้มาเป็นข้อมูลในการทำแผนหลัก
เพราะผู้รับเหมาเอง ด้วยขั้นตอนเบิกจ่ายของราชการที่ช้า จำเป็นต้องใช้บริการ factoring จากธนาคาร หรือการขายบิลนั่นแหละ
จึงต้องมีแผน s-curve ออกมาประกอบการพิจ่ารณาของธนาคารด้วย ซึ่งแผนประกอบดังกล่าว ต้องได้รับการรับรองจากผู้ว่าจ้างว่าถูกต้อง
เพราะงั้น ข้ออ้าง ไม่มีงบให้เบิก ผู้รับเหมาทำงานไม่ได้ ไม่มี
ส่วนกรณีเงินรัฐบาลให้เบิก 1 ล้าน ไร้สาระมาก
ระเบียบการว่าจ้างระหว่างภาครัฐกับเอกชนของกรมบัญชีกลาง เค้าระบุชัดเจนอยุ่แล้วว่า วงเงินโครงการต้องโดนจัดตั้ง 100% ถึงจะสามารถทำสัญญากับเอกชนได้
กรณีเดียว ที่รัฐบาล หรือกรมบัญชีกลางให้เบิกไม่ครบจำนวน หรือ 1 ล้าน มันเกิดได้กรณีเดียวคือ
งาน ไม่เรียบร้อยตามงวดเบิก
ยกตัวอย่าง โดยปกติแผนงานก่อสร้าง เมื่อทำ cash flow แล้วจะซอยย่อยงวดเบิกออกไป ตามมูลค่าผลงานที่ทำ
ตอกเสาเข็ม เบิกได้ สิบล้าน / ทำ footing ขึ้นฐานรากเบิกได้อีก 5 ล้าน ประมาณนี้
ถ้าบัญชีกลางอนุมัติ งวดเบิกไม่ครบตามจำนวน แปลว่า progress งานไม่ได้ตามสัญญา
มันไม่มีหรอกครับ ไอ้ประเภท ของบปี 54 สร้างได้ครึ่งตึก ปี 55 ของบสร้างอีกครั้งตึก
ภาครัฐมีระเบียบปฏิบัติอยู่แล้ว คือ บัญชีกลางจะต้องถือเงิน 100% ไว้ กทม ถึงจะสามารถไปทำสัญญาว่าจ้างผู้รับเหมาได้ แต่จะให้เบิกรึเปล่า มันมีระเบียบ และสัญญาว่าจ้างคุมอยู่
ถ้าคุณทำได้ตามสัญญา แล้วรัฐไม่ให้เบิก ก็ฟ้องได้เลยครับ
คำถาม
1. ในเมื่อทราบอยู่แล้วว่าการแข่งมีในเดือนพฤศจิกายน ใครหน้าไหนมันไปอนุมัติแผนงานก่อสร้าง ให้แล้วเสร็จเดือนเมษายน ปี 56 ??????
ไม่ต้องบอกว่า ขอขยายกรอบนะครับ เพราะ นี่คือกำหนดแผนหลัก ที่ต้องแนบท้ายสัญญาว่าจ้าง ที่ กทม. ลงนามกับคู่สัญญา
ส่วนตัวนะครับ ในฐานะที่ทำงานในวงการก่อสร้างกับภาครัฐมา
ข้ออ้างที่ผู้รับผิดชอบออกมาบอกประชาชนแต่ละข้อ ไร้สาระ และดูถูกภูมิปัญญาคนฟังมาก
ผมจะโอเคเลยนะครับ ถ้าตั้งแต่แรกท่านผู้ว่า หรือ กทม ออกมายอมรับว่า งานก่อสร้างล่าช้ามีอุปสรรค์ เสร็จไม่ทันตามกำหนด
มันคือเรื่องปกติ
แต่ไอ้การขายฝันว่าเสร็จแน่ ทั้งๆที่มันยังไม่เสร็จ พอถึงเวลาก็ออกมาอ้างสิ่งที่ประชาชนส่วนใหญ่ไม่ทราบ หรือไม่เข้าใจข้อเท็จจริง มันน่าเกลียดมาก
โดยเฉพาะเรื่องงบประมาณ เพราะหลักการก็คือ ครม.อนุมัติงบก่อสร้างดังกล่าวไปตั้งแต่ ปี54 ปีงบประมาณ 55 แล้ว
งบเมื่ออนุมัติผ่าน ครม. แล้วเป็นสิทธิขาดของบัญชีกลางที่จะให้เบิกไม่ให้เบิก ตามสัญญาว่าจ้างเท่านั้น
แต่ถ้าเป็นงบนอกเหนือสัญญา เช่น งานเพิ่ม-ลด
แล้ว กทม ไปตกลงกับคู่สัญญาให้ทำงานเพิ่ม-ลด ทั้งๆที่ ครม ไม่อนุมัติ - กทม ต้องหาเงินมาจ่ายเอง
นี่คือหลักการข้อเท็จจริง
จากทั้ง 2 ท่าน ได้ข้อมูลเพิ่มค่อนข้างเยอะ น่าจะได้ความคิดอะไรดีๆ นะครับ ขอบคุณที่บอร์ดนี้ยังมีคนที่คุยด้วยข้อมูลและข้อเท็จจริงกันอยู่พอสมควรเลย
#32
ตอบ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 12:51
จากรายละเอียดที่ผมรวบรวมมา เป็นอย่างนี้นะครับ
๑. รัฐแปรญัตติงบให้กทม. เพื่อก่อสร้างสนามเป็น ๒ รอบ รอบแรกปี ๕๕ ๑ ล้าน รอบสองปี ๕๖ อีก ๑.๒๓๘ ล้าน และนอกจากงบ ๑ ล้านบาทในปี ๕๕ ที่ได้มา รัฐให้กทม. เปลี่ยนแปลงงบ ๔๐๐ ล้านบาท จากโครงการบำบัดน้ำเสียในปี ๕๑ ที่ กทม. ได้รับอนุมัติมาแล้วมาใช้ก่อน
http://www.gotoknow....gs/posts/489011
๒. หลังจากนั้น กทม. ก็ยังไม่ได้รับการสนับสนุนงบเพื่อมาสร้างสนามฟุตซอลเพิ่มเติม จึงต้องมีการขอเปลี่ยนแปลงงบหลาย ๆ รายการ ตั้งแต่ปี ๕๐ จนถึง ๕๔ เพื่อนำมาอุด นั่นคือเดือน พค.
http://www.cgd.go.th..._Current2/0865
๓. ข่าวจากเดลินิวส์เดือน มิย. ระบุว่าทางกทม. ทำการทวงงบประมาณจากรัฐบาล เพราะไม่ได้จัดสรรมาให้ตามที่ตกลง
http://www.dailynews...thailand/118446
๔. หนังสืองบรายจ่ายเพิ่มเติม ๕๕ ของ กทม. (โพสต์เมื่อสิงหา) ระบุการตั้งงบฉุกเฉินของสภา กทม. เพื่อนำมาใช้ในการก่อสร้าง ซึ่งก็เป็นงบของ กทม. ที่ได้รับอนุมัติมาแล้ว ทั้งนี้เพราะไม่สามารถเบิกงบก่อสร้างสนาม ที่ไม่ได้รับการอนุมัติวงเงินได้
http://office.bangko...ndex.php?id=527 อยู่ในรายการที่ ๕ สำนักการโยธา หน้าที่ ๔๓
๕. ซึ่งจากหนังสือประมาณการงบประมาณรายจ่ายของ กทม. เมื่อปลายปี ๕๔ ไม่พบว่า กทม. มีดำริที่จะออกเงินเองสำหรับการก่อสร้าง เนื่องจากไม่ได้ตั้งงบส่วนนี้ไว้เลย
http://office.bangko...ndex.php?id=288 อยู่ในรายการที่ ๔ กสารงบประมาณรายจ่ายจำแนกตามโครงสร้างแผนงาน หน้า ๒๙ ของแผนประมาณการงบประมาณ
------------------------------
คำถาม
๑. ในเมื่อทราบชัดอยู่แล้วว่า ต้องใช้งบประมาณในการก่อสร้าง ๑.๒๓๙ พันล้านบาท เหตุใดรัฐจึงเกลี่ยงบประมาณให้อย่างไม่เหมาะสมในเรื่องนี้ โดยในปี ๕๕ ที่ควรจะต้องจ่ายเงินอย่างน้อยครึ่งหนึ่งของค่าก่อสร้างทั้งหมด รัฐกลับให้เงินมาสำหรับโครงการนี้เพียง ๑ ล้าน แล้วที่เหลือ ให้กทม. ออกไปก่อนจากงบอื่น ๆ ที่ได้รับการอนุมัติแล้ว
ตรงนี้จะบอกว่ารัฐไม่มีเงินไม่ได้นะครับ เพราะ ณ ช่วงเวลาดังกล่าว รัฐสามารถเอาเงินไปสุรุ่ยสุร่ายกับโครงการต่าง ๆ ที่ใช้เงินมากกว่านับสิบนับร้อยเท่าได้
๒. ที่ได้รับการอนุมัติมาในกรอบจนถึงปลายปีงบ ๕๕ มีเพียงงบ ๑ ล้าน กับที่บอกให้ไปเอางบกำจัดน้ำเสียมาใช้ รวมแล้ว ๔๐๐ ล้าน แล้วที่เหลือล่ะครับ? รัฐไม่มีผู้มีความรู้เรื่องการจ่ายเงินเป็นงวด ๆ ของโครงการเลยหรืออย่างไร ด้วยจำนวนเงิน ๑.๒๔ พันล้าน ต่อให้นับไปสิ้นสุดที่เมย. ๕๖ ยังเฉลี่ยต้องใช้จ่ายเดือนละราว ๘๐ ถึง ๙๐ ล้าน หมายความว่า ๔๐๐ ล้านที่ว่า อยู่ได้เต็มที่ก็แค่เดือนพฤษภาไม่เกินมิถุนา แล้วที่เหลือล่ะ?
อีกข้อที่ต้องด่า กทม. อย่างมาก ๆ คือ การที่วางใจไม่ยอมกระตือรือร้นในการคาดคั้นเรื่องงบมาตั้งแต่ต้น รู้อยู่แล้วว่าด้วยจำนวนเงินดังกล่าวมันไม่พออย่างแน่นอน เงินก็ยังไม่มีในมือ ไม่มีหลักประกันอะไรว่าเค้าจะโอนมาให้อีกรอบตอนมิย. แล้วก็ไม่ได้จริง ๆ
ข้อมูลจากบริษัทที่รับเหมา กทม. จ่ายเงินช้ามากกกกกกกกก เงินไม่มา เค้าก็ไม่เดินงานให้เหมือนกัน แล้วถามว่าทำไมเงินถึงมาช้า ทำไม กทม. จึงไม่สามารถเบิกเงินได้ล่ะ?
อันนี้เป็นอีกความคิดเห็นจากอีกกระทู้ แต่น่าจะเป็นข้อมูลของกันและกันได้ เลยจับมารวมกันนะครับการทำงานก่อสร้าง ก่อนจะมีแผนการก่อสร้างหลักหรือ masterplan ออกมา มันต้องมีการทำ cash flow เพื่อพล้อต s-curve แล้วถึงเอาตรงนี้มาเป็นข้อมูลในการทำแผนหลัก
เพราะผู้รับเหมาเอง ด้วยขั้นตอนเบิกจ่ายของราชการที่ช้า จำเป็นต้องใช้บริการ factoring จากธนาคาร หรือการขายบิลนั่นแหละ
จึงต้องมีแผน s-curve ออกมาประกอบการพิจ่ารณาของธนาคารด้วย ซึ่งแผนประกอบดังกล่าว ต้องได้รับการรับรองจากผู้ว่าจ้างว่าถูกต้อง
เพราะงั้น ข้ออ้าง ไม่มีงบให้เบิก ผู้รับเหมาทำงานไม่ได้ ไม่มี
ส่วนกรณีเงินรัฐบาลให้เบิก 1 ล้าน ไร้สาระมาก
ระเบียบการว่าจ้างระหว่างภาครัฐกับเอกชนของกรมบัญชีกลาง เค้าระบุชัดเจนอยุ่แล้วว่า วงเงินโครงการต้องโดนจัดตั้ง 100% ถึงจะสามารถทำสัญญากับเอกชนได้
กรณีเดียว ที่รัฐบาล หรือกรมบัญชีกลางให้เบิกไม่ครบจำนวน หรือ 1 ล้าน มันเกิดได้กรณีเดียวคือ
งาน ไม่เรียบร้อยตามงวดเบิก
ยกตัวอย่าง โดยปกติแผนงานก่อสร้าง เมื่อทำ cash flow แล้วจะซอยย่อยงวดเบิกออกไป ตามมูลค่าผลงานที่ทำ
ตอกเสาเข็ม เบิกได้ สิบล้าน / ทำ footing ขึ้นฐานรากเบิกได้อีก 5 ล้าน ประมาณนี้
ถ้าบัญชีกลางอนุมัติ งวดเบิกไม่ครบตามจำนวน แปลว่า progress งานไม่ได้ตามสัญญา
มันไม่มีหรอกครับ ไอ้ประเภท ของบปี 54 สร้างได้ครึ่งตึก ปี 55 ของบสร้างอีกครั้งตึก
ภาครัฐมีระเบียบปฏิบัติอยู่แล้ว คือ บัญชีกลางจะต้องถือเงิน 100% ไว้ กทม ถึงจะสามารถไปทำสัญญาว่าจ้างผู้รับเหมาได้ แต่จะให้เบิกรึเปล่า มันมีระเบียบ และสัญญาว่าจ้างคุมอยู่
ถ้าคุณทำได้ตามสัญญา แล้วรัฐไม่ให้เบิก ก็ฟ้องได้เลยครับ
คำถาม
1. ในเมื่อทราบอยู่แล้วว่าการแข่งมีในเดือนพฤศจิกายน ใครหน้าไหนมันไปอนุมัติแผนงานก่อสร้าง ให้แล้วเสร็จเดือนเมษายน ปี 56 ??????
ไม่ต้องบอกว่า ขอขยายกรอบนะครับ เพราะ นี่คือกำหนดแผนหลัก ที่ต้องแนบท้ายสัญญาว่าจ้าง ที่ กทม. ลงนามกับคู่สัญญา
ส่วนตัวนะครับ ในฐานะที่ทำงานในวงการก่อสร้างกับภาครัฐมา
ข้ออ้างที่ผู้รับผิดชอบออกมาบอกประชาชนแต่ละข้อ ไร้สาระ และดูถูกภูมิปัญญาคนฟังมาก
ผมจะโอเคเลยนะครับ ถ้าตั้งแต่แรกท่านผู้ว่า หรือ กทม ออกมายอมรับว่า งานก่อสร้างล่าช้ามีอุปสรรค์ เสร็จไม่ทันตามกำหนด
มันคือเรื่องปกติ
แต่ไอ้การขายฝันว่าเสร็จแน่ ทั้งๆที่มันยังไม่เสร็จ พอถึงเวลาก็ออกมาอ้างสิ่งที่ประชาชนส่วนใหญ่ไม่ทราบ หรือไม่เข้าใจข้อเท็จจริง มันน่าเกลียดมาก
โดยเฉพาะเรื่องงบประมาณ เพราะหลักการก็คือ ครม.อนุมัติงบก่อสร้างดังกล่าวไปตั้งแต่ ปี54 ปีงบประมาณ 55 แล้ว
งบเมื่ออนุมัติผ่าน ครม. แล้วเป็นสิทธิขาดของบัญชีกลางที่จะให้เบิกไม่ให้เบิก ตามสัญญาว่าจ้างเท่านั้น
แต่ถ้าเป็นงบนอกเหนือสัญญา เช่น งานเพิ่ม-ลด
แล้ว กทม ไปตกลงกับคู่สัญญาให้ทำงานเพิ่ม-ลด ทั้งๆที่ ครม ไม่อนุมัติ - กทม ต้องหาเงินมาจ่ายเอง
นี่คือหลักการข้อเท็จจริง
จากทั้ง 2 ท่าน ได้ข้อมูลเพิ่มค่อนข้างเยอะ น่าจะได้ความคิดอะไรดีๆ นะครับ ขอบคุณที่บอร์ดนี้ยังมีคนที่คุยด้วยข้อมูลและข้อเท็จจริงกันอยู่พอสมควรเลย
จากความเห็นคุณลิ้มนัลโด้
๑. วงเงินถูกตั้งไว้เต็มจำนวน ๑๐๐ เปอร์เซนต์แล้ว แต่เป็นการตั้งงบผูกพัน ๒ ปี คือ ปี ๕๕ จำนวน ๑ ล้านบาท และ ปี ๕๖ จำนวน ๑๒๓๘ ล้านบาท ซึ่งเป็นเรื่องปกติของโครงการที่มีระยะเวลาการก่อสร้างมากกว่า ๑ ปี
ในกรณีสนามฟุตซอลนี้ กรมบัญชีกลางจะถือไว้เต็มจำนววน ๑.๒๔ พันล้านหรือเปล่า ไม่มีการให้ข้อมูลจากกรมบัญชีกลางมา แต่จากข้อมูลที่กรมบัญชีกลางให้ข่าว คือมีการปฏิเสธการเบิกเงินค่าก่อสร้าง ณ เดือนมิถุนายน ๒๕๕๕ ด้วยเหตุผลว่า "งบโครงการไม่ได้รับการอนุมัติ" ดังลิงค์ข่าวที่ผมได้ให้ไว้
๒. ในปี ๕๕ เนื่องจากงบที่อนุมัติให้มาคือ ๑ ล้านบาท ดังที่เห็นในเอกสารงบประมาณของกระทรวงมหาดไทย กทม.ก็สามารถเบิกได้เต็มจำนวนนั้น แต่ปัญหาคือ จำนวนเงินเพียงเท่านั้นไม่มีทางที่จะดำเนินโครงการตลอดระยะเวลา ๑ ปีได้ กทม. จึงต้องเปลี่ยนแปลงงบบำบัดน้ำเสียของปี ๕๑ มาใช้แทน จำนวน ๔๐๐ ล้านบาท และเมื่อถึงเดือนพฤษภาคม งบตัวนั้นก็หมดไป กทม. ซึ่งจะขอเบิกงบก่อสร้างก็ไม่ได้ เพราะไม่ได้รับการอนุมัติ จึงต้องขอเปลี่ยนแปลงงบตัวอื่นมาแทน
นี่เท่ากับว่า กทม. ต้องออกไปก่อนแทบจะทั้งหมดตั้งแต่แรก ถามว่าเงินที่อุดหนุนเต็มจำนวนโดยรัฐบาล มันหมายความว่าผู้รับการอุดหนุนต้องออกไปก่อนแล้วค่อยเบิก อย่างนั้นหรือ?
ข้อวิเคราะห์ของคุณลิ้มนัลโด้นั้นถูกต้อง ตามหลักของการดีลงานกับภาครัฐ แต่ไม่ถูกต้อง ตามหลักฐานของเอกสารงบประมาณ และข้อมูลที่ออกมาจากกรมบัญชีกลางที่เป็นผู้อนุมัติเงิน
พึงวิเคราะห์ครับ
ผู้ใช้ 2 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้
สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 2 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน