สัตว์ป่าคุ้มครองทั้งนั้น แถมไปไล่ฆ่าสัตว์ป่าในเขตอุทยานฯ ท้าทายกฎหมายสองต่อ
จับพ.ต.ท.พร้อมพวกเข้าล่าสัตว์ป่าแก่งกระจาน
อีกเหตุการณ์หนึ่งเมื่อเวลา 10.00 น.นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ร่วมกับเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าแก่งกระจาน และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แก่งกระจาน ควบคุมตัว พ.ต.ท.ธีรยุทธ เกตุมั่งมี อายุ 44 ปี สว.สส.สภ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมพวกอีก 8 คน ประกอบด้วย นายนิธิศ เกษมสงคราม อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 31/69 หมู่ 11 ต.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี นายศานิต อำนวยเลขา อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 139 หมู่ 6 ต.บ้านลาด อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี นายอรรถวุตต์ ดียิ่ง อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 276 หมู่ 5 ต. บ้านหม้อ อ.เมืองเพชรบุรี นายสมชาย ปีดอก อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 55 หมู่ 3 ต.สองพี่น้อง อ.แก่งกระจาน และนายสายชล กลัดหลำ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24 หมู่ 3 นายกิตติพล แซ่ลิ้ม อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 255 หมู่ 3 นายระย้า คนอง อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18 หมู่ 4 นายสุชิน กลัดหลำ อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24/1 หมู่ 3 ต.สองพี่น้อง อ.แก่งกระจาน
หลังสืบทราบว่ากลุ่มบุคคลดังกล่าวมีพฤติกรรมลักลอบล่าสัตว์ในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และสามารถติดตามจับกุมได้ที่ป่าห้วยแม่ประโดน หมู่ที่ 3 ต.สองพี่น้อง อ.แก่งกระจาน ซึ่งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่ายางน้ำกลัดเหนือ - ใต้ เขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 10 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยนำตัวทั้งหมดมาแถลงข่าวที่บริเวณหน้าที่ทำการอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี
ซึ่งการแถลงข่าวเจ้าหน้าที่ได้นำอาวุธปืนที่กลุ่มบุคคลดังกล่าวใช้ในการล่าสัตว์ประกอบด้วยปืนยาวติดกล้องส่องขยายขนาด .22 จำนวน 2 กระบอก ปืนยาวขนาด .22 ไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก ปืนลูกซองยาว 2 กระบอก ปืนลูกซองยาวไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก ปืนพกสั้นขนาด 11 . จำนวน 2 กระบอก ขนาด 9 มม. 2 กระบอก เครื่องกระสุนปืนขนาดต่างๆอีกกว่า 100 นัด มีดเดินป่าขนาดใหญ่ 3 เล่ม พร้อมของกลางเป็นซากกระจง เพศเมีย น้ำหนักประมาณ 3 กิโลกรัม ซึ่งเป็นสัตว์ป่าสงวนประเภท 2 จำนวน 1 ตัว และกบภูเขา หรือ “กบทูต” กบพื้นถิ่นที่อาศัยและแพร่พันธุ์อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานจำนวน 100 ตัว และเรือซึ่งใช้เป็นพาหนะในการล่าสัตว์และอุปกรณ์เดินป่าร่วมแถลง
นายชัยวัฒน์ เผยว่า เมื่อวันที่ 9 พ.ย.55 ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่อุทยานได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า เมื่อวันที่ 8 พ.ย. ได้มีชายแปลกหน้า จำนวน 4 คน โดยได้เช่าเรือของนายสายชล ที่ท่าลิงลมเพื่อเข้าไปล่าสัตว์ที่ห้วยแม่ประโดน ตนจึงนำกำลังเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าแก่งกระจานฯ กว่า 30 คน แบ่งกำลังเดินเท้าทางบก และลงเรือทางน้ำ ต่อมานายประพันธ์ จิตต์เทศ พนักงานพิทักษ์ป่าฯหัวหน้าชุดติดตามจับกุมทางบก ได้จับกุมตัว ได้ที่บริเวณหน้าด่านค่ายฝึกรบพิเศษแก่งกระจาน ตรวจค้นรถ พบซากตะพาบน้ำจำนวน 2 ขา ปืนพกสั้น จำนวน 3 กระบอก ปืนลูกซองยาวจำนวน 1 กระบอก ขยายผลสอบถามทราบว่ามีกลุ่มคนอยู่ในป่าบริเวณปากห้วยแม่ประโดน อีก ตนจึงนำกำลังเจ้าหน้าที่เดินทางด้วยเรือไปยังจุดดังกล่าว เมื่อถึงบริเวณกลางป่าเรียกว่า เนินทอดน่อง พบเพิงตรวจค้นพบซากสัตว์ ขนเม่น เนื้อและขนกระจง ขากบทูต สุรา แกลอนน้ำ และกองไฟ 2 กอง สันนิษฐานเบื้องต้นน่าจะใช้มาแล้วจำนวน 1 วัน จึงแกะรอยเดินทางโดยเรือตามไปที่บริเวณต้นน้ำแม่ประโดนซึ่งเป็นแม่น้ำสายหนึ่งที่รวมเป็นต้นน้ำเพชรบุรี
กระทั่งเวลา 23.50น.ของวันที่ 10 พ.ย. 55 พบแสงไฟเดินส่องมาตามลำน้ำจึงแสดงตัวเข้าจับกุม ผู้ต้องหา 4 คน คือนายกิตติพล นายศานิต นายนิธิศ และนายระย้า จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ซุ่มดักรอขยายผลกระทั่ง พบเรือต้องสงสัยจึงตรวจค้นและจับกุมตัวนายสายชล นายสุชิน นายสมชาย นายอรรถวุตต์ และ พ.ต.ท.ธีรยุทธ พร้อมของกลางเป็นอาวุธปืน และซากสัตว์ทั้งหมด
เบื้องต้นสอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุนายศานิต ได้ชักชวนนายนิธิศ นายอรรถวุตต์ และ พ.ต.ท.ธีรยุทธ เพื่อนสนิทเข้าไปเที่ยวป่า โดยได้ว่าจ้างนายระย้า เป็นคนนำทางเข้าป่า และจ้างนายสายชล นายสุชิน และนายสมชายให้เป็นผู้ขับเรือและลูกหาบล่าสัตว์ โดยเดินทางเข้าป่ามาพร้อมอาวุธทั้งหมดผ่านเส้นทางศูนย์ฝึกรบพิเศษแก่งกระจาน ตั้งแต่วันที่ 8 พ.ย. และร่วมกันล่าสัตว์ จับกบทูต กระทั่งมาถูกจับกุมดังกล่าว
นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน กล่าวว่า รู้สึกเสียใจ เจ้าหน้าที่ทุกคนที่ร่วมกันเดินลาดตระเวนและร่วมจับกุมต่างก็รู้สึกหดหู่ เพราะทำหน้าที่ในการปกป้องผืนป่าและสัตว์ป่าที่มีในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานที่กำลังรอขึ้นเป็นมรดกโลก ด้วยค่าตอบแทนเพียงน้อยนิด เสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย แต่มาเจอเจ้าหน้าที่ของรัฐ เข้ามากระทำการล่าสัตว์อย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย จากการข่าวก็ยังพบว่า ทีมนี้เข้ามาล่าเป็นประจำตกเดือนละสองครั้ง และเจ้าหน้าที่ทุกคนติดตามเพื่อต้องการที่จะจับกุมให้ได้ กระทั่งมาประสบความสำเร็จในครั้งนี้ และทุกคนยืนยันว่า หากกลุ่มนักล่าเหล่านี้ไม่ถูกดำเนินคดี พวกเขาจะลาออกจากเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าทั้งหมด เพราะต้องการให้เป็นคดีตัวอย่างโดยไม่ให้มีการกระทำเยี่ยงนี้อีกต่อไป
เบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหาบุคคลทั้งหมดว่าร่วมกระทำความผิด- มีและพาอาวุธปืน- ยิงปืน- ล่าสัตว์- ครอบครองซากสัตว์ป่า โดยไม่ได้รับอนุญาต และล่าสัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ. สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 และควบคุมตัวทั้งหมดพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.แก่งกระจานดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ที่มา http://bit.ly/SYTpUf (คมชัดลึก)