โจโฉคิด (อยากให้) ประชาธิปัตย์อ่าน ตอนที่ 2 : ซื้อรถคันแรก คืนภาษี 1 แสน ส่งเสริมการผลิต ECO Car มิสู้ส่งเสริมการลดการใช้น้ำมันไม่ดีกว่าเหรอ!!!???
#1
Posted 13 November 2012 - 08:24
POPULAR
แต่บังเอิญผมเห็นมากับตาแล้วว่า "มีอยู่จริง ใช้งานได้จริง ที่เมืองไทย"
กระทู้ โจโฉคิด (อยากให้) ประชาธิปัตย์อ่าน ตอนที่ 2
"ซื้อรถคันแรก คืนภาษี 1 แสน ส่งเสริมการผลิต ECO Car มิสู้ส่งเสริมการลดการใช้น้ำมันไม่ดีกว่าเหรอ!!!???"
อย่างที่หลายๆท่านทราบว่า
"น้ำมันเป็นสิ่งที่อาจหมดไปจากโลกนี้ไม่วันใดก็วันหนึ่ง"
เหตุไฉนไม่มองไปถึงอนาคตข้างหน้าไปเลยทีเดียว เพื่ออนาคตของประเทศ
เหตุไฉนถึงส่งเสริมให้มีการบริโภคน้ำมันหนักมากขึ้น ด้วยนโยบาย
"ซื้อรถคันแรก คืนภาษี 1 แสน" หรือ "ส่งเสริมการผลิต ECO Car"
รัฐต้องเสียเงินมหาศาลกับนโยบายรถคันแรก นี่ไม่รวมถึงเงินที่ต้องไปแทรกแซง
ราคาน้ำมันในประเทศอีก เสียดายที่นายกฯ และรัฐมนตรีหลายคน
รวมถึงคณะกรรมาธิการที่เกี่ยวข้องชอบเดินทางไปต่างประเทศแต่กลับไม่ได้
ความอะไรเลย จะดีหรือไม่ถ้าลดการใช้น้ำมันได้ แต่ความสะดวกสบาย
ยังคงมีอยู่ เอาเงินที่จะไปคืนภาษีแสนหนึ่ง มาสร้าง "จักรยานเลน" และ
"ส่งเสริมการใช้จักรยาน" กันในกรุงเทพฯและเมืองใหญ่ๆกันก่อนจะดีกว่า
สิ่งที่ผมกล่าวมา หลายๆท่านอาจคิดว่าไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เรื่องที่บอกต่อไปนี้
น่าจะใหม่กับหลายๆท่าน คือ "การสร้างรถพลังงานไฟฟ้า" แทน
การผลิตรถน้ำมัน วันนี้ผมเห็นมากับตาแล้วไม่ต่ำกว่า 4 เดือน ที่รถไฟฟ้าใช้งานได้จริง
และค่ายที่สร้างก็เป็นแบรนด์ที่รู้จักกันดีคือ Nissan และอีกเจ้าหนึ่งเป็นค่าย
รถระดับหรูชื่อว่า tesla motors จะดีกว่าไหมถ้าเปลี่ยนจากส่งเสริมการผลิต
ECO Car เป็นรถพลังงานทางเลือกแบบนี้ ไม่ยุ่งยากหาปั๊มเหมือนแก๊ส NGV
LPG แค่เสียบปลั๊กที่ไหนก็ได้ ชาร์จได้เลย ข้อเสียตอนนี้ไม่เร็วทันใจนัก
แต่กับคนที่เดินทางไปช้อปปิ้ง ตีกอล์ฟ ที่ต้องใช้เวลา เรื่องแบบนี้สบาย
รถทั้งสองเจ้าตอนนี้วิ่งในเมืองไทยแล้วครับ ไว้ว่างๆถ้าพบเจออีก
จะถ่ายรูปมาให้ชม รวมถึงวิธีการชาร์จแบต ส่วนท่านไหนอยากทราบว่า
จะซื้อรถแบบนี้ได้ที่ไหนติดต่อหลังไมค์ เดี๋ยวจะเป็นการโฆษณาเปล่าๆ
มาเข้าเรื่องต่อ การส่งเสริมการใช้รถพลังงานไฟฟ้าไม่เพียงรถการใช้น้ำมัน
และดีต่ออนาคตที่ไม่ต้องพึ่งพาน้ำมันที่มีแต่แพงขึ้นๆ
ในขณะที่ไฟฟ้าใช้พลังงานอะไรมาผลิตก็ได้ เช่น ถ่านหิน นิวเคลียร์ ลม น้ำ
เป็นต้น อันนี้เป็นเรื่องในอนาคตที่ทำได้ ถ้าผลิตจำนวนมากราคาตัวรถก็จะถูกลง
เทียบเท่าราคารถยนต์ในปัจจุบัน ส่วนแก๊ส ก๊าซ น้ำมัน ให้เป็นสิ่งที่ใช้
ในภาคขนส่งต่อไป ในอนาคตใครจะรู้ "รถพลังงานไฟฟ้า" อาจใช้ในภาค
ขนส่งก็ได้ ถ้าไม่เริ่มวันนี้ใครจะเริ่ม
ด้วยความรัก
โจโฉ นายกตลอดกาล
ปล. ท่านไหนมีความเห็นอื่นๆเชิญเต็มที่เลยครับ เหมือนกระทู้ก่อน
- dogman, orogaros, คุณนายนอกบ้าน and 8 others like this
#2
Posted 13 November 2012 - 08:25
#4
Posted 13 November 2012 - 08:34
#5
Posted 13 November 2012 - 08:44
ทำไมบ้านเราไม่มีการสนับสนุนไบโอดีเซลอย่างจริงจัง ไม่สนับสนุนแก๊สโซฮอล์
เพราะพลังงานทางเลือกพวกนี้จะได้ไปกระตุ้นภาคการเกษตรด้วย ช่วยให้เกษตรกรมีรายได้
หรือเพราะเรื่องของพลังงานประโยชน์มหาศาล หากทำตรงนี้ได้คงไม่เป็นประโยชน์กับคนบางกลุ่ม
ผมว่าน่าจะคิดใหม่ทำใหม่(ยืมใช้หน่อย)ได้แล้วครับ เหมือนทุกวันนี้เราอยู่ในวังวนที่ว่าพลังงานในประเทศร่อยหรอเต็มทน
ผมฝันไว้ประมาณนี้ครับ ยามอย่างผมคิดอะไรเยอะๆไม่ค่อยไหว
- chaidan, Anubitz, โจโฉ นายกตลอดกาล and 1 other like this
#6
Posted 13 November 2012 - 09:20
แต่ถ้ามองอนาคตผมว่าน่าจะดีครับ ถ้าเราสามารถผลิตได้เอง ขายเอง ไรงี้
- พระรามลงสรง likes this
ถึงตรูจะเลวยังไง ตรูก้อไม่ได้ขายชาติ เหมือนเสื้อแดงว่ะ เข้าใจนะ
#7
Posted 13 November 2012 - 09:30
#8
Posted 13 November 2012 - 09:38
ไม่แน่นะครับ ปตท ค่อนข้างได้เปรียบเพราะมีสถานบริการทั่วประเทศปตท. คงไม่ค่อยจะชอบความคิดนี้เท่าไหร่แน่ๆ เลยครับ
เช่น ปรับปรุงปั๊ม ให้เพิ่มเป็น เปลี่ยนแบต พร้อมใช้งาน
เมื่อรถเข้ามาใช้บริการ ผมว่า อาจจะได้กำไรกว่าเดิมก็ได้
ลองคิดเล่น ๆ นะครับ
#9
Posted 13 November 2012 - 09:48
ผมเห็นด้วยทุกประการ
แต่สิ่งสำคัญที่ผมอยากให้ท่านโจโฉ บอกกับ พรรคปชป.ก็คือ
"อย่าไปเอาใจกลุ่มทุนพลังงาน" มากนัก
ก็เข้าใจครับ ว่า เขาเป็นกลุ่มทุนที่สนับสนุนพรรคกันอยู่
พลังงานทดแทน หรือพลังงานทางเลือกถึงไม่เกิดไงครับ
แก๊สโซฮอลล์ หรือ ไบโอดีเซล
มันเป็นจุดที่ควรจะต้องไป
เพราะอะไร
สภาวะเศรษฐกิจ ต่อไปนี้ จะเน้นการส่งออกไม่ได้แล้ว
การจะขยายการเติบโตของเศรษฐกิจ จะเปลี่ยนไปเน้น การบริโภคภายในประเทศ
นั่นคือ ถ้าลดการบริโภค การขยายตัวทางเศรษฐกิจมันจะหดลงไปเลย
มันเป็นทฤษฎีเศรษฐศาสตร์น่ะครับ
อ.มาร์คเขารู้ดี เพราะเขามาทางสายนี้
ทีนี้การเพิ่มการบริโภค ก็ต้องระวัง ไม่ใช่เพิ่มแล้ว import มากขึ้น
จึงต้องมีการทดแทน การ import ครับ
นั่นคือ พลังงานทางเลือกจากบ้านเราเอง
ตรงนี้จะเป็นสิ่งสำคัญครับ
แต่ก็อย่างว่า กลุ่มทุนน้ำมัน ย่อมไม่พอใจแน่นอน
ตรงนี้ก็ขึ้นกับพรรคแล้ว ว่าจะเอายังไง
- แอบดูที่รูเดิม likes this
แผ่นดินนี้ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก ทั้งกษัตริย์ยังทรงคุณธรรมอันสูงส่ง
จำคำนี้ไว้ไปบอกยมบาลเวลาเจ้าลงนรกก็แล้วกัน
#10
Posted 13 November 2012 - 09:50
#11
Posted 13 November 2012 - 09:53
ถ้ารถไฟฟ้า มันราคาพอๆกับ รถน้ำมัน.... ใครมันจะอยากวิ่งน้ำมัน....
ตอนนี้ ก็ มีใช้แค่ พวก อำมาตย์ ละครับ...
ถ้าคิดภาษี รถนำเข้า พวกนี้ 0% ... นอกจากนี้... บวกเข้ากับ... โครงการ "รถไฟฟ้าคันแรก" เอาไปลดภาษีได้ 50000....
แค่นี้... ขี้คร้าน รถแบบนี้จะวิ่งเต็มเมือง.... (แล้วจะมีใครด่าว่า รถติดเพราะ โครงการณืนี้หรือป่าว... 5555)
อีกอย่างคือ.... เราต้องสร้างเองครับ.... เค้าสร้างไม่ทันแน่ๆ... ดังนั้น ต้อง หาทาง เอาโรงงานมาสร้างที่ประเทศเราเลย...
นิคมแถว อยุธยา.. ถ้าไม่กลัวน้ำ....
แต่ของแบบนี้ ไม่มีคนทำ ไม่มีคนคิด เพราะ.... นอกจากติดปัญหา กลุ่มทุนแล้ว...
แมงสาปคิดได้แค่ว่า... มันจะเอื้อเอกชนไม่กี่ราย.....
พท คิดได้แค่ว่า... มันไม่เอื้อ อุตสาหกรรม รถยนตร์...
ชท ภท คิดได้แค่ว่า... ไม่รู้จักคนขายวะ....
"คนโง่มักจะชอบว่าคนอื่นว่าโง่"
"ถ้าคนเราคิดเหมือนกันหมด ก็ไม่มีเลือกตั้งซิครับ"
"ผมไม่พูด เรื่อง 112 แล้ว นะครับ กรุณาอย่าถาม (17 พค 2012)"
#12
Posted 13 November 2012 - 10:03
ประเด็นที่เป็นปัญหาคือ.... ราคา...
ถ้ารถไฟฟ้า มันราคาพอๆกับ รถน้ำมัน.... ใครมันจะอยากวิ่งน้ำมัน....
ตอนนี้ ก็ มีใช้แค่ พวก อำมาตย์ ละครับ...
ถ้าคิดภาษี รถนำเข้า พวกนี้ 0% ... นอกจากนี้... บวกเข้ากับ... โครงการ "รถไฟฟ้าคันแรก" เอาไปลดภาษีได้ 50000....
แค่นี้... ขี้คร้าน รถแบบนี้จะวิ่งเต็มเมือง.... (แล้วจะมีใครด่าว่า รถติดเพราะ โครงการณืนี้หรือป่าว... 5555)
อีกอย่างคือ.... เราต้องสร้างเองครับ.... เค้าสร้างไม่ทันแน่ๆ... ดังนั้น ต้อง หาทาง เอาโรงงานมาสร้างที่ประเทศเราเลย...
นิคมแถว อยุธยา.. ถ้าไม่กลัวน้ำ....
แต่ของแบบนี้ ไม่มีคนทำ ไม่มีคนคิด เพราะ.... นอกจากติดปัญหา กลุ่มทุนแล้ว...
แมงสาปคิดได้แค่ว่า... มันจะเอื้อเอกชนไม่กี่ราย.....
พท คิดได้แค่ว่า... มันไม่เอื้อ อุตสาหกรรม รถยนตร์...
ชท ภท คิดได้แค่ว่า... ไม่รู้จักคนขายวะ....
ตะกะ เฮ้ย ตรรรกะเห็นไตผิดแล้ว ราคายังสูงไป ค่าซ่อมค่าอะไหล่สูง หากราคาต่ำลง รถน้ำมันก้จะหายไป
คิดแค่ราคารถ แค่พอๆกัน ที่คนซื้อมาใช้เพราะ หลายคนสู้ราคาได้ และใช้ได้ดีระดับหนึ่งแล้ว
อย่าเอาแต่ตะกะตนเองเป็นที่ตั้ง
เช่น บรรทัดต้องตรง มันไม่เสมอไปแล้ว
ตรงเป็นไม้บรรทัด เก่าไปแล้ว ต้องโค้งเป็นวงกลมสิ ถึงเรียกว่าล้ำยุค
http://www.youtube.com/watch?v=Yw_pzJJoNMM
- RaRa likes this
#13
Posted 13 November 2012 - 10:10
ยกเว้นแต่ว่าโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แบบ Fusion สำเร็จในเร็ววัน (ปัจจุบันยังเป็น Fission) อันนี้อนาคตสดใสแน่ๆครับ (คาดไว้ปี 2050) แต่คิดว่าคงยังไม่ได้เห็นในรุ่นนี้ คงต้องเป็นเด็กๆรุ่นหน้าล่ะมั้ง
#14
Posted 13 November 2012 - 10:14
แต่สำหรับคนที่ขับจักรยานไม่เป็น หรือน้ำหนัก มากเกิน จักรยานรับไหว (ขออภัย ที่ล่วงเกินบางท่านครับ แหะ ๆ) ผมสนับสนุน จักรยานไฟฟ้าครับ
เหตุที่ผมสนับสนุนการใช้จักรยานก็เพราะ จักรยาน มันไม่เปลืองพื้นที่ จอดรถ ครับ ทุกวันนี้ ผมเอาไปจอดหลังตึกที่ทำงานผม นะ ใช้พื้นที่แค่นิดเดียวเองครับ ผูกโซ่ติดไว้กับรางกันชน หน้าต่าง เทียบกับ จักรยานยนต์ ก็ ใช้พื้นที่แค่ 2 ใน 3 นะครับ แถมการเคลื่อนย้ายยังทำได้ง่าย เพราะเบาด้วยครับ สะดวกเวลา ไปเกะกะคนอื่น
เหนือสิ่งอื่นใด เวลา ยางแตก (ไม่ใช้น้ำมันนะ ไม่ต้องกลัวหมด) ผมเข็นกลับบ้านได้ เหนื่อยหน่อย แต่ดีกว่าเข็น จักรยานยนต์
จักรยานไฟฟ้า ถ้าแบตเตอรี่หมด ก็เปลี่ยนมาขี่แบบปกติได้นะครับ
แต่สำหรับคนที่มีปัญหา ด้านการทรงตัว ขี่จักรยานไม่เป็นจริง ๆ ผมก็แนะนำเป็น จักรยานยนต์ไฟฟ้า แบบ มี 2 ล้อ ด้านหลังนะครับ
แต่อย่างว่าแหละครับ ทุกพาหนะนั้นมีข้อเสียคือช้า ไม่ทันการณ์ และออกจะเหนื่อย สำหรับคนเดินทางไกล จึงยังจำเป็นต้องมี รถสาธารณะ ไว้ให้เป็นหลัก ที่จะใช้ครับ แล้วใครพอจะใช้ จักรยาน หรือ พาหนะ ที่ประหยัดน้ำมันอื่นได้ ก็ขอให้ทำนะครับ
แรก ๆ ตอนขี่ใหม่ ๆ มันก็เหนื่อยนะครับ แต่ปัจจุบัน ไม่คิดอะไรมาก แป๊บเดียวถึงบ้านแล้วครับ ไม่ต้องกลัวรถติดด้วย ขึ้นฟุตบาทเลย แหะ ๆ ตำรวจไม่จับ
- กากจริงไรจริง likes this
ขอให้พวกเรา ชาวหลากสี และพันธมิตร จงมีชีวิตรอด จากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ฝีมือปูนา ไปตลอดรอดฝั่งด้วยครับ
PEMDAS ย่อมาจาก ลำดับการคำนวณ Parentheses , Exponentials , Multiply , Divide , Add , Subtract
FWGHSO ย่อมาจาก ลำดับการประเมินผลของ query FROM, WHERE, GROUP BY, HAVING, SELECT, ORDER BY
#15
Posted 13 November 2012 - 10:23
ชาร์ทไปในตัวด้วย ทำแบต 2 ชุด ชุดแรก คือใช้งานอีกชุดคือชาร์ท แล้วสลับการชาร์ท และใช้งาน
เวลาแบตหมด
#16
Posted 13 November 2012 - 10:26
แต่รู้มาว่า แถวตะวันตกเขา ทำกันมานะ ก็ไม่ค่อยประสพความสำเร็จ
เท่าที่ควร ก็เห็นว่า ความเร็วมันไม่สะใจ..ก็ทำนองนี้แหละ แต่ในเขต
กทม. พัฒนาถนน จักรยาน อันนี้ เห็นด้วย 100% ตอนนี้ไม่ว่าถนนไหน
รถติดผลาญน้ำมันกันมหาศาล. อากาศก็เสีย มลพิษ เห็นแล้วบอกตรง ๆ
ไม่จำเป็นไม่อยากออกไปไหน.ผมชอบขี่จักรยานออกกำลังกาย ก็ต้องเข้า
ไปอาศัยกรมทหารหลังบ้าน.เบื่อจริง ๆ อย่าว่าตาแก่ขี้บ่นเลยนะ บางครั้ง
แค่ฝนตกไม่นาน น้ำล้นท่อ เข้าท่วมบ้าน ถนนรถติดยาวเหยียด ตั้งแต่ แยก
สะพานควาย เกือบถึงสนามเป้า. มันอะไรกัน ? บอกตรง ๆ เลยว่า เซ็ง...
- โจโฉ นายกตลอดกาล likes this
#17
Posted 13 November 2012 - 10:47
ขอใ้ห้ได้แย้งว่างั้น.... เหอๆๆ
ประเด็นที่เป็นปัญหาคือ.... ราคา...
ถ้ารถไฟฟ้า มันราคาพอๆกับ รถน้ำมัน.... ใครมันจะอยากวิ่งน้ำมัน....
ตอนนี้ ก็ มีใช้แค่ พวก อำมาตย์ ละครับ...
ถ้าคิดภาษี รถนำเข้า พวกนี้ 0% ... นอกจากนี้... บวกเข้ากับ... โครงการ "รถไฟฟ้าคันแรก" เอาไปลดภาษีได้ 50000....
แค่นี้... ขี้คร้าน รถแบบนี้จะวิ่งเต็มเมือง.... (แล้วจะมีใครด่าว่า รถติดเพราะ โครงการณืนี้หรือป่าว... 5555)
อีกอย่างคือ.... เราต้องสร้างเองครับ.... เค้าสร้างไม่ทันแน่ๆ... ดังนั้น ต้อง หาทาง เอาโรงงานมาสร้างที่ประเทศเราเลย...
นิคมแถว อยุธยา.. ถ้าไม่กลัวน้ำ....
แต่ของแบบนี้ ไม่มีคนทำ ไม่มีคนคิด เพราะ.... นอกจากติดปัญหา กลุ่มทุนแล้ว...
แมงสาปคิดได้แค่ว่า... มันจะเอื้อเอกชนไม่กี่ราย.....
พท คิดได้แค่ว่า... มันไม่เอื้อ อุตสาหกรรม รถยนตร์...
ชท ภท คิดได้แค่ว่า... ไม่รู้จักคนขายวะ....
ตะกะ เฮ้ย ตรรรกะเห็นไตผิดแล้ว ราคายังสูงไป ค่าซ่อมค่าอะไหล่สูง หากราคาต่ำลง รถน้ำมันก้จะหายไป
คิดแค่ราคารถ แค่พอๆกัน ที่คนซื้อมาใช้เพราะ หลายคนสู้ราคาได้ และใช้ได้ดีระดับหนึ่งแล้ว
อย่าเอาแต่ตะกะตนเองเป็นที่ตั้ง
เช่น บรรทัดต้องตรง มันไม่เสมอไปแล้ว
ตรงเป็นไม้บรรทัด เก่าไปแล้ว ต้องโค้งเป็นวงกลมสิ ถึงเรียกว่าล้ำยุค
http://www.youtube.com/watch?v=Yw_pzJJoNMM
ท่าน จะคิดแค่ ขอให้ ราคารถพอๆกัน... ก็พอ... อันนั้นไม่ว่ากันนะครับ... เพราะ methodology ของท่านกับผมมันไม่เหมือนกัน...
ผมคิด แบบ บูรณาการ ตั้งแต่ต้นจนจบ... ไม่้ได้มองแค่เปลือก หรือ ของให้ ได้ชื่อว่า "ทำแล้ว" มันต้อง ทำได้และ น่าจะสำเร็จ ด้วย..
หลักผมมีอยู่ว่า... ตาม กฏของนิวตั้น(5555) ของทุกอย่างมีความเฉื่อย... นิสัยก็มี การใช้รถก็มี ... ความเคยชินก็มี...
อยู่ดีๆ จะบอกว่า... ใช้ไฟฟ้าเหอะ... ราคาเท่ากัน.. แต่ไฟฟ้าถูกกว่า... ถ้าบอกแค่นี้... การต่อต้านมันเยอะ...
เติมยังไง... วิ่งได้แค่ไหน... โดนน้ำได้ป่าว.... แบตใช้ได้กี่ปี....
คนที่จะลงทุนทำปั้มก็ คิดแล้วคิดอีก... คือ... รอดูไปก่อน....
แต่ถ้าเรา เพิ่มแรงเข้าไปช่วย... ส่งสัญญานชัดๆว่า ประเทศเราไปทางนี้วะ.. โดยมี สัญญานจาก นโยบาย มารองรับ.. และ ภาษีที่ลด
ถูกต้องที่ การต่อต้านทีมีมันยังเหมือนเดิม... แต่คนจะรู้ว่า รัฐบาลเอาจริง.... เหมือน ตอน CNG....
แต่ งานนี้ หัวจ่ายไม่ยากเหมือน ไม่ต้องพึงการขนส่ง หรือ ระบบท่อ... เอาจากเสาไฟฟ้าเลย...
ถามว่า แล้ว เอาเงินจากไหน... ก็ ขึ้นภาษีน้ำมัน.. เอามาโป๊ะโครงการณ์... จนกว่าจะเดินได้เอง ถ้า ส่งสัญญานกันชัดๆแบบนี้...
ยังจะเติมน้ำมันกันอยู่.... ผมก็จนปัญญา....
ถ้าไม่มีคนทำปั้ม หรือ ปตท ยึกยัก... กฟผ เลยครับ...
"คนโง่มักจะชอบว่าคนอื่นว่าโง่"
"ถ้าคนเราคิดเหมือนกันหมด ก็ไม่มีเลือกตั้งซิครับ"
"ผมไม่พูด เรื่อง 112 แล้ว นะครับ กรุณาอย่าถาม (17 พค 2012)"
#18
Posted 13 November 2012 - 10:57
ลองคิดดูว่าถ้าดิลกับ nissan หรือ tesla ด้วยเงื่อนไขที่จูงใจให้ตั้งไทยเป็นฐานการผลิต
มีหรือจะไม่สำเร็จ ยิ่งเจ้ารถใหญ่ๆอย่างฮอนด้า โตโยต้า หรือ จีเอ็ม ล้วนมีฐานอยู่ในไทย
ถ้าเขาเห็นว่ารัฐบาลไทยเอื้ออำนวยการผลิตแก่เขาเป็นพิเศษมีหรือจะไม่อยากผลิต
มาบวกกับการส่งเสริมให้คนใช้รถประเภทนี้มากขึ้นมีหรือราคาจะไม่ถูกลง
คนที่เขาติด NGV หรือ LPG เพราะอะไรถ้าไม่ใช่มันถูก แต่ก็ยังกังวลถึงความปลอดภัย
แต่กับรถไฟฟ้านี่ปลอดภัยแน่ ยกเว้นอุบัติเหตุจากการขับขี่ ผมเองอยู่บนโลกนี้ได้ไม่นานหรอก
แต่ถ้ามีความคิดความอ่านที่จะส่งต่อไปคนรุ่นๆต่อไปได้ก็พยายามจะทำดั่งกระทู้นี้
ขอบคุณครับ
โจโฉ นายกตลอดกาล
Edited by โจโฉ นายกตลอดกาล, 13 November 2012 - 10:57.
#19
Posted 13 November 2012 - 11:00
เข้าเรื่องละกัน
ถ้าจะให้มันเกิดก็อย่างเฮนไตว่า ส่งสัญญานชัดๆว่าประเทศเราจะไปทางนี้ แล้วต้องทำให้จริง ไม่เหลาะแหล่ะแบบที่แล้วๆมา
คือทำพอขอไปที ทำให้รู้ว่าทำ หน่วยงานภาครัฐควรต่อยอด โครงการอย่างนี้ผมเชื่อว่ามีมานานแต่ไม่สานต่อกัน
กลุ่มทุนพลังงานกำลังภายในเยอะ นี่ยังไม่นับรวมอิทธิพลมืดหลายๆอย่างในบ้านเรา
มันล้วนแต่เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้การขับเคลื่นเรื่องพลังงานทดแทนก้าวไปได้อย่างเชื่องช้า
สำคัญที่หัวของประเทศ รัฐบาล ผู้นำ มีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน คนที่มาต่อ รับช่วงรับลูกต่อไหม
#20
Posted 13 November 2012 - 11:02
เป็นรถของเพื่อนร่วมก๊วนของผมคนหนึ่งใช้พลังงานไฟฟ้าชาร์จไฟจากปลั๊กไฟสามรูแบบปลั๊กคอมพิวเตอร์นี่แหละครับ
มีสัญญาณแสดงสถานะการชาร์จแบบไฟสีบนกระจกรถ รถที่ว่ายี่ห้อนิสสัน มีทะเบียนถูกต้องในไทย
มันใช้ง่ายมากๆ และ กว่าจะทำธุระเสร็จก็ชาร์จเต็มแล้ว ส่งเสริมและพัฒนาต่อไปได้ไกลแน่ๆ
#21
Posted 13 November 2012 - 12:48
รถไฟฟ้านี้ยังมีส่วนแบตฯ ที่ถิอว่าสิ้นเปลืองและเป็นมลพิษอยู่ที ECO CAR ไม่เคยมีในบ้านเรา เรายังไปส่งเสริมให้เขามาผลิตใช้บ้านเราเป็นฐานได้
ลองคิดดูว่าถ้าดิลกับ nissan หรือ tesla ด้วยเงื่อนไขที่จูงใจให้ตั้งไทยเป็นฐานการผลิต
มีหรือจะไม่สำเร็จ ยิ่งเจ้ารถใหญ่ๆอย่างฮอนด้า โตโยต้า หรือ จีเอ็ม ล้วนมีฐานอยู่ในไทย
ถ้าเขาเห็นว่ารัฐบาลไทยเอื้ออำนวยการผลิตแก่เขาเป็นพิเศษมีหรือจะไม่อยากผลิต
มาบวกกับการส่งเสริมให้คนใช้รถประเภทนี้มากขึ้นมีหรือราคาจะไม่ถูกลง
คนที่เขาติด NGV หรือ LPG เพราะอะไรถ้าไม่ใช่มันถูก แต่ก็ยังกังวลถึงความปลอดภัย
แต่กับรถไฟฟ้านี่ปลอดภัยแน่ ยกเว้นอุบัติเหตุจากการขับขี่ ผมเองอยู่บนโลกนี้ได้ไม่นานหรอก
แต่ถ้ามีความคิดความอ่านที่จะส่งต่อไปคนรุ่นๆต่อไปได้ก็พยายามจะทำดั่งกระทู้นี้
ขอบคุณครับ
โจโฉ นายกตลอดกาล
ที่พัฒนาไปในช่วงหลังและแนวโน้มว่าใช่ได้ คือพลีงงานลม
"รถคนพิการพลังงานลม" 26/01/2553
- โจโฉ นายกตลอดกาล likes this
#22
Posted 13 November 2012 - 12:57
‘รถพลังงานลมรุ่นแรกที่ออกสู่ตลาด ของตาต้า ใช้ชื่อว่า ‘CityCAT ‘ตั้งราคาไว้ประมาณ 400,000 บาท โดยตาต้าหวังไว้ว่า จุดเด่นของ CityCAT ที่ไม่มีการปล่อยมลพิษทางอากาศ และราคาไม่แพง จะทำให้รถพลังลมรุ่นแรกนี้ ทำยอดขายได้ดีในตลาดอินเดียและประเทศต่างๆทั่วโลก’
รายงานพิเศษ LogisticNews สัปดาห์นี้ ผมจะหยิบเรื่องเบาๆแบบมีสาระมาพูดคุยกัน อย่างที่โปรยหัวครับ หลายๆคนอาจไม่เคยได้ยินเรื่อง รถพลังงานลม (Air Car) มาก่อน ผมก็เช่นเดียวกัน แต่ในยุคที่ราคาน้ำมันแพงเช่นปัจจุบัน ทุกประเทศกำลังดิ้นรนหาพลังงานทดแทนใหม่ๆ เพื่อมาชดเชยการใช้พลังงานน้ำมัน ที่ดูเหมือนว่าจะถีบตัวสูงขึ้นไม่หยุด ซึ่งอันนี้ เป็นเรื่องที่ต้องทำความเข้าใจครับว่า พลังงานน้ำมัน หรือแม้แต่ก๊าซธรรมชาติ ทั้ง LPG และ NGV ทั้งหมด เป็นพลังงานที่ใช้และหมดไป เราคงทราบว่า การน้ำมันที่เราใช้นี้ เป็นสิ่งที่ขุดเจาะจากใต้ดิน ใต้ทะเล พบเจอจากแหล่งต่างๆ ทั่วโลก และก็เป็นโชคดี ของประเทศในตะวันออกกลาง หรืออาหรับ ซึ่งแม้ภูมิประเทศ จะเป็นทะเลทราย แห้งแล้งเวิ้งว้าง แต่ก็มีบ่อน้ำมันซ่อนอยู่ข้างล่าง ขุดเจาะเอามาขาย จนพี่แขกของผมร่ำรวยจนไม่รู้จะเอาเงินไปเก็บไว้ไหนในปัจจุบัน
เคยมีผลงานวิจัย หรือจะเรียกว่าพยากรณ์ก็ได้ ว่าอีก 50 ปีข้างหน้า น้ำมันจะถูกขุดขึ้นมาใช้และหมดไป เรื่องดังกล่าว ไม่มีใครทราบว่าจะเป็นจริงหรือไม่ แต่ก็สร้างกระแส ตามกฎเกณฑ์ธรรมชาติ หรือตามหลักการตลาดทั่วไป เมื่อสินค้าใดมีอยู่จำกัด แต่มีความต้องการสูงในตลาด ราคามันก็สูงมากขึ้นเรื่อยๆ เป็นที่มาของการเก็งกำไร ของพวกกองทุนต่างๆ ด้านกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันหรือโอเปค ก็เมินที่จะเพิ่มกำลังผลิต ทำให้ประเทศที่ผลิตน้ำมันได้น้อย และไม่มีการผลิต ต้องหาซื้อมาใช้อย่างเดียว เดือดร้อนกันถ้วนหน้า กรณีดังกล่าวรวมพี่ไทยด้วย ก่อให้เกิดกระแสการใช้พลังงานทดแทนกันทั่วโลก มีนวัตกรรมยานยนต์รูปแบบใหม่ เกิดขึ้น เช่น รถที่ใช้พลังงานน้ำมันที่ผลิตจากพืช เช่น เอทานอล ที่ใช้ผสมน้ำมันก๊าซโซฮออล์ หรือไบโอดีเซลที่ผลิตจากน้ำมันปาล์ม ซึ่งไทยก็ใช้อยู่ในปัจจุบัน รวมทั้งรถพลังงานไฟฟ้า รถพลังงานไนโตเจน รถพลังงานแสงอาทิตย์ จนถึงรถพลังงานลม ซึ่งแต่ละชนิด ก็ยังมีข้อดี และข้อจำกัดแตกต่างกันไป
รถพลังงานลม เป็น ยนตรกรรมที่คิดค้นขึ้นในประเทศลักแซมเบิร์ก โดยบริษัท MDI จากประเทศลักเซมเบิร์ก และ สิทธิบัตรแก่ตาต้าในการผลิตรถยนต์พลังลมในประเทศอินเดีย โดยตาต้ามอเตอร์ บริษัทรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศอินเดีย ประกาศผลิตรถยนต์ที่ใช้พลังงานลมในการขับเคลื่อน โดยจะทยอยนำส่งเข้าสู่โชว์รูมในปี พ.ศ. 2552 รถยนต์พลังลม หรือ AirCar นี้ ใช้การปล่อยอากาศจากระบบบีบอัดอากาศด้วยความดันสูง โดยอากาศที่ปล่อยออกมาจะทำหน้าที่หมุนเพลาทำให้รถเคลื่อนที่ไปได้ โดยการเติมอากาศ สามารถเติมได้ตามสถานีอัดอากาศด้วยราคาไม่แพง โดยความเร็วสูงสุดที่ทำได้อยู่ที่ประมาณ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และสามารถวิ่งได้ประมาณ 200 กิโลเมตรต่อการเติมอากาศหนึ่งครั้ง หรือสามารถเสียบปลั๊ก อัดพลังงานลมเข้าถังได้ ใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมงที่บ้าน (ตอนกลางคืนเมื่อเลิกใช้)
รถพลังงานลมรุ่นแรกที่ออกสู่ตลาด ของตาต้า ใช้ชื่อว่า ‘CityCAT ‘ตั้งราคาไว้ประมาณ 400,000 บาท โดยตาต้าหวังไว้ว่า จุดเด่นของ CityCAT ที่ไม่มีการปล่อยมลพิษทางอากาศ และราคาไม่แพง จะทำให้รถพลังลมรุ่นแรกนี้ ทำยอดขายได้ดีในตลาดอินเดียและประเทศต่างๆทั่วโลก โดยในประเทศไทย ก็มีเอกชนรายหนึ่ง เริ่มนำรถ CityCAT เข้ามาทำตลาดแล้ว
สุดท้ายต้องบอกว่า ผมยังไม่รู้ว่าสมรรถนะของรถพลังงานลมจะเป็นอย่างไร เพราะยังไม่ได้ทดสอบ แต่เรื่องนี้ก็จุดประกายให้ทุกคนคิดเรื่องพลังงานใหม่ ทุกวันนี้ เราหนีการซื้อพลังงานน้ำมันที่เขาขายให้ราคาแพง ไปหาพลังงานอื่นๆ ทั้งก๊าซธรรมชาติ ที่ก็เป็นพลังงานใช้หมดไปเช่นกัน ส่วนเอทานอล หรือไบโอดีเซล ก็มีข้อจำกัด หากความต้องการใช้พลังงานสูงขึ้นมาก ทำให้เราต้องเพิ่มพื้นที่เพาะปลูกพืชน้ำมันมากเช่นกัน ซึ่งสุดท้ายก็มีข้อจำกัด เพราะจะไปเบียดเบียนการปลูกพืชเพื่อใช้บริโภคของมนุษย์ ดังนั้นพลังงานลมอาจเป็นทางออกที่ดีที่สุดในอนาคตก็ได้ครับ
[center]
- โจโฉ นายกตลอดกาล likes this
#23
Posted 13 November 2012 - 13:03
คันหลังนี้ก็น่าสนใจนะครับ ใช้พลังงานบริสุทธิ์แน่นอน
- HiddenMan, โจโฉ นายกตลอดกาล and RaRa like this
#24
Posted 13 November 2012 - 13:47
แฟนเคยดูสารคดีใน true vision เรื่องรถไฟฟ้าในอเมริกา วันนี้ได้อ่านเจอในคมชัดลึกออนไลน์ เลยเอามาลงให้ดูค่ะ
จีเอ็ม ผู้ฆ่ารถไฟฟ้า(1))
มอเตอร์เวิลด์ : จีเอ็ม ผู้ฆ่ารถไฟฟ้า(1))
ผมหมายถึง General Motor หรือ จีเอ็ม ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่สุดของโลกที่กำลังบอบช้ำจากไอเสีย ไม่ใช่ General Manager จากองค์กรใด และคำถามในหัวข้อ ก็ตั้งไม่ผิด ในความเป็นจริงแล้วในอเมริกามีคำถามจากผู้ใช้รถว่า ใครคือผู้ฆ่ารถไฟฟ้า(EV) และอเมริกันชนกลุ่มเดียวกันนี้แหละที่ค้นหาคำตอบได้มาว่า จีเอ็ม คือผู้ฆ่า
ทั้งๆ ที่จีเอ็มคือผู้ให้กำเนิดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่วิ่งได้จริงบนท้องถนนเป็นเจ้าแรกในชื่อว่า EV1 นับจาก EV1 ที่ถือกำเนิดมาในปี 1996 ล่วงมาถึงวันนี้ปี 2012 ก็สิบห้าสิบหกปีแล้ว แต่รถไฟฟ้าก็ยังไม่มีวิ่งกันบนท้องถนนในเชิงพาณิชย์ กลุ่มผู้ใช้รถในอเมริกาจำนวนหนึ่งจึงได้สืบเสาะค้นหาว่าเกิดอะไรขึ้นกับรถไฟฟ้า ผมเองก็สงสัยมานานแล้วแต่ไม่รู้จะไปสืบเสาะจากที่ใด เพราะวันนี้วิทยาการด้านไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ก้าวล้ำหน้าไปกว่าเมื่อเกือบยี่สิบปีที่ผ่านมา
พูดได้ว่าเปลี่ยนกันแบบหน้ามือเป็นหลังมือ รถไฟฟ้าก็ไม่น่าจะยากเย็นอะไรมากมายนัก ที่ผ่านมาเมื่อเราได้ข่าวคราวเรื่องรถยนต์ไฟฟ้าจากค่ายโน้นบ้างนี้บ้างว่าพร้อมที่จะผลิตออกขายแล้วแต่แล้วก็เงียบหายไป มีข่าวตามมาเป็นระยะๆ ว่ายังผลิตเต็มที่ไม่ได้เพราะมีปัญหาเรื่องแบตเตอรี่ เช่นแบตเตอรี่มีราคาแพง อายุการใช้งานไม่ยาวนาน สมรรถนะของการขับเคลื่อนจากแบตเตอรี่ยังไม่ดีพอเมื่อเทียบกับรถยนต์(เครื่องยนต์สันดาปภายใน)ที่ใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิง
แน่นอนในยุคแรกเริ่มของการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าปัญหาอยู่ที่แบตเตอรี่แม้ใน EV1 ของจีเอ็ม แต่ก็ถือว่าประสบความสำเร็จแม้ว่าใน EV1 รุ่นแรกๆ แบตเตอรี่เต็มหม้อวิ่งได้เพียงสี่ห้าสิบไมล์ แบตเตอรี่อายุสั้นมีปัญหามากระหว่างการใช้งาน
จนเมื่อจีเอ็มพัฒนาแบตเตอรี่ใหม่เป็น NiMH ที่วิ่งได้มากกว่า 100 ไมล์ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และสามารถที่จะชาร์จไฟเข้าแบตได้จากไฟในบ้านที่เรียกกันว่า Plug in ในขณะที่ จีเอ็มประสบความสำเร็จกับแบตเตอรี่ รุ่นใหม่ โตโยต้า และ ฮอนด้า นิสสัน และ มิตซูบิชิ ก็พบกับความสำเร็จจากแบตเตอรี่ NIMH เช่นเดียวกัน
ที่โดดเด่นที่สุดเห็นจะเป็น โตโยต้า ราฟ4 EV ที่เป็นที่ติดใจของผู้ที่ได้ใช้มัน รวมทั้ง จีเอ็ม EV1(ที่เปลี่ยนแบตเป็น NiMHแล้ว)
ผมเคยตั้งข้อสงสัยว่า รถไฟฟ้าผลิตออกใช้จริงได้แล้วแต่ไม่มีขายนอกจากให้เช่าเป็นรายเดือนและส่วนมากในอเมริกาและญี่ปุ่นจะให้เช่าสำหรับองค์และหน่วยงานของรัฐเท่านั้น เดี๋ยวนี้ผมหายสงสัยแล้วครับว่าทำไมถึงไม่ขาย เพราะที่สุดแล้วทั้ง จีเอ็ม และโตโยต้า เมื่อหมดสัญญาเช่าแล้ว จะถูกเรียกกลับ รวมทั้งที่ยังไม่หมดสัญญาก็จะถูกซื้อคืน ครับเขาเรียกกลับมาเพื่อที่จะทุบมันทิ้ง
และไม่เชื่อก็ต้องเชื่อครับว่ามีอิทธิพลระดับจักรวาลที่สามารถจ่ายเงิน สี่สิบห้าสิบล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อที่จะซื้อโรงงานผลิตแบตเตอรี่ NiMH มารื้อทิ้ง ที่จริงเรื่องพวกนี้เป็นเรื่องเก่าในอเมริกา แต่ยังพูดกันให้แซดในอินเทอร์เน็ต
เรื่องใครฆ่ารถไฟฟ้าถ้าค้นหาในเว็บจะได้ข้อมูลเหมือนอ่านหนังสือประเภทสายลับ จารกรรมที่ต้องชิงไหวชิงพริบกัน ตั้งแต่ผู้มีอิทธิพลในระดับจักรวาลจนถึงผู้ผลิตรถยนต์ทั่วโลก ใครที่หวังจะได้ใช้รถไฟฟ้าในอนาคตอันใกล้ (เหมือนผม) ก็เลิกหวังได้แล้ว ตามอ่านกันตอนต่อไปแล้วคุณจะอึ้งทึ่งแล้วเสียวกับการฆ่า รถยนต์ไฟฟ้า จากผู้ให้กำเนิดมัน
..............................
( มอเตอร์เวิลด์ : จีเอ็ม ผู้ฆ่ารถไฟฟ้า(1))
#25
Posted 13 November 2012 - 13:53
แมงสาปคิดได้แค่ว่า... มันจะเอื้อเอกชนไม่กี่ราย.....
พท คิดได้แค่ว่า... มันไม่เอื้อ อุตสาหกรรม รถยนตร์...
ชท ภท คิดได้แค่ว่า... ไม่รู้จักคนขายวะ....
แซวคุณเฮนไตหน่อย..... พท ชท ภท ยังพิมพ์ได้ ปชป พิมพ์ง่ายกว่า แมงสาปตั้งเยอะ ....เดี๋ยว 2มาตรฐาน เสียชื่อคนกลางนะคะ
- Benten likes this
#26
Posted 13 November 2012 - 14:35
แมงสาปคิดได้แค่ว่า... มันจะเอื้อเอกชนไม่กี่ราย.....
พท คิดได้แค่ว่า... มันไม่เอื้อ อุตสาหกรรม รถยนตร์...
ชท ภท คิดได้แค่ว่า... ไม่รู้จักคนขายวะ....
แซวคุณเฮนไตหน่อย..... พท ชท ภท ยังพิมพ์ได้ ปชป พิมพ์ง่ายกว่า แมงสาปตั้งเยอะ ....เดี๋ยว 2มาตรฐาน เสียชื่อคนกลางนะคะ
แบบนี้แหละครับ เค้าถึงประกาศตัวเองว่าเป็นคนกลางที่สุดในสามโลก
#27
Posted 13 November 2012 - 14:40
แมงสาปคิดได้แค่ว่า... มันจะเอื้อเอกชนไม่กี่ราย.....
พท คิดได้แค่ว่า... มันไม่เอื้อ อุตสาหกรรม รถยนตร์...
ชท ภท คิดได้แค่ว่า... ไม่รู้จักคนขายวะ....
แซวคุณเฮนไตหน่อย..... พท ชท ภท ยังพิมพ์ได้ ปชป พิมพ์ง่ายกว่า แมงสาปตั้งเยอะ ....เดี๋ยว 2มาตรฐาน เสียชื่อคนกลางนะคะ
พิมพ์ ปชป แล้ว.... คน สรท เค้า ไม่อ่านกันครับ... มันไม่จี๊ด...
"คนโง่มักจะชอบว่าคนอื่นว่าโง่"
"ถ้าคนเราคิดเหมือนกันหมด ก็ไม่มีเลือกตั้งซิครับ"
"ผมไม่พูด เรื่อง 112 แล้ว นะครับ กรุณาอย่าถาม (17 พค 2012)"
#28
Posted 13 November 2012 - 16:12
แมงสาปคิดได้แค่ว่า... มันจะเอื้อเอกชนไม่กี่ราย.....
พท คิดได้แค่ว่า... มันไม่เอื้อ อุตสาหกรรม รถยนตร์...
ชท ภท คิดได้แค่ว่า... ไม่รู้จักคนขายวะ....
แซวคุณเฮนไตหน่อย..... พท ชท ภท ยังพิมพ์ได้ ปชป พิมพ์ง่ายกว่า แมงสาปตั้งเยอะ ....เดี๋ยว 2มาตรฐาน เสียชื่อคนกลางนะคะ
พิมพ์ ปชป แล้ว.... คน สรท เค้า ไม่อ่านกันครับ... มันไม่จี๊ด...
ถ้าใช้ตรรกะนี้ก็ระวังพลพรรคปชป. ใช้คำว่า "ควายแดง" "เผาไทย" เพียงเพราะว่า
"มันไม่จี๊ด" นะครับ
- แอบดูที่รูเดิม likes this
#29
Posted 13 November 2012 - 16:15
อยากได้มากๆเลยค่ะ ท่าน โจโฉ สำหรับ Nissan Leaf( สีฟ้า สวยชะมัด) รออยู่ว่าเมื่อไหร่จะเข้ามาเมืองไทย ตั้งใจไว้ว่าถ้าจะเปลี่ยนรถ (คันเดิมเป็นtoyota vios รุ่นแรก เริ่มเก่าแล้วค่ะ) คันต่อไปต้องเป็นรถไฟฟ้า แต่ไม่รู้ว่าแพงมากขนาดไหน ซื้อไหวรึเปล่า 555
แฟนเคยดูสารคดีใน true vision เรื่องรถไฟฟ้าในอเมริกา วันนี้ได้อ่านเจอในคมชัดลึกออนไลน์ เลยเอามาลงให้ดูค่ะ
มีขายครับ เป็นดีลเลอร์นำเข้ารถนอกยักษ์ใหญ่ของไทย เรื่องราคาไม่แน่ใจ
ไว้จะถามมาฝาก ผมเห็นแต่เจ้าของค่ายนำเข้ารายนี้ขับเวลามาตีกอล์ฟกับผม
ถ้าอยากทราบรายละเอียดสอบถามมาหลังไมค์ได้ครับ เจ้าไหนขาย
- ฉันรักเมืองไทย likes this
#30
Posted 13 November 2012 - 16:17
รถไฟฟ้านี้ยังมีส่วนแบตฯ ที่ถิอว่าสิ้นเปลืองและเป็นมลพิษอยู่
ที ECO CAR ไม่เคยมีในบ้านเรา เรายังไปส่งเสริมให้เขามาผลิตใช้บ้านเราเป็นฐานได้
ลองคิดดูว่าถ้าดิลกับ nissan หรือ tesla ด้วยเงื่อนไขที่จูงใจให้ตั้งไทยเป็นฐานการผลิต
มีหรือจะไม่สำเร็จ ยิ่งเจ้ารถใหญ่ๆอย่างฮอนด้า โตโยต้า หรือ จีเอ็ม ล้วนมีฐานอยู่ในไทย
ถ้าเขาเห็นว่ารัฐบาลไทยเอื้ออำนวยการผลิตแก่เขาเป็นพิเศษมีหรือจะไม่อยากผลิต
มาบวกกับการส่งเสริมให้คนใช้รถประเภทนี้มากขึ้นมีหรือราคาจะไม่ถูกลง
คนที่เขาติด NGV หรือ LPG เพราะอะไรถ้าไม่ใช่มันถูก แต่ก็ยังกังวลถึงความปลอดภัย
แต่กับรถไฟฟ้านี่ปลอดภัยแน่ ยกเว้นอุบัติเหตุจากการขับขี่ ผมเองอยู่บนโลกนี้ได้ไม่นานหรอก
แต่ถ้ามีความคิดความอ่านที่จะส่งต่อไปคนรุ่นๆต่อไปได้ก็พยายามจะทำดั่งกระทู้นี้
ขอบคุณครับ
โจโฉ นายกตลอดกาล
ที่พัฒนาไปในช่วงหลังและแนวโน้มว่าใช่ได้ คือพลีงงานลม
"รถคนพิการพลังงานลม" 26/01/2553
รถพลังลม เห็นด้วยนะครับ เพราะ ทาทา มอเตอร์ สัญชาติอินเดีย เขามีอะไร
ให้เซอร์ไพรส์เสมอตั้งแต่รถอีโค คาร์ คันละไม่กี่หมื่นจนถึงรถพลังลมนี้
#31
Posted 13 November 2012 - 16:22
#32
Posted 13 November 2012 - 16:49
เป็นการต่อยอดทางอุตสาหกรรมเพื่อลดมลภาวะและเป็นพลังงานทางเลือกอีกทาง
ในฝรั่งเศสพัฒนาไปจนถึงที่จอดรถข้างทางมีที่ชาร์ตแบตของ "รถไฟฟ้า" แล้วครับ
เมื่อไปจอดทำธุระ ก็สามารถที่จะหยอดเหรียญชาร์ตไฟทิ้งไว้ได้เลย เมื่อเสร็จจาก
การทำธุระกลับมาก็เต็มพอดี แต่ก็อย่างว่านะครับ "รถไฟฟ้า100%" เป็นเรื่องใหม่ของไทย
นวัตรกรรมใหม่ๆ ราคาย่ิอมสูงไปด้วย เช่นเดียวกับ แบตเตอรรี่ของ "รถลูกผสม"(Hybrid)
ที่ออกมาในช่วงแรกๆ ราคาจะแพงมาก(ต่อลูก)และการทำลายก็มีค่าใช้จ่ายที่สูงตามไปด้วย
แต่ในปัจจุบันราคาแบตเตอรี่ของ "รถลูกผสม"(Hybrid) ถูกลงกว่าแต่ก่อน ถึง 40 %
ซึ่งการพัฒนาต่อยอดของ "รถลูกผสม"(Hybrid) ก็คือ "รถไฟฟ้า100%" ( EV - Electric Vehicle)
แต่ในวันนี้ราคาของ EV ยังมีราคาที่ค่อนข้างสูง เหมือนกับ ตอนที่ "รถลูกผสม" ออกมาตอนแรกๆ
เท่าที่พอทราบราคาคร่าวๆ น่าจะประมาณ 2 ล้านปลายๆ เลยนะครับ ( แต่สำหรับผู้มีฐานะดีก็ไม่ใช่ปัญหา )
จากนั้นก็ต้องมาดูกันถึงเรื่องของสถานี เพื่อ รี-ชาร์ต แบตเตอรี่ ที่ต้องมีการปรับปรุงกันอีกมากมาย
(แต่เรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหากับ ปตท. ถ้าจะทำจริงๆ เพราะซื้อ ปั๊ม Jet ทั้งประเทศยังทำมาแล้วเลย )
แบบที่ท่านโจโฉ กล่าวไว้เบื้องต้นคือ ถ้ามีการเชิญบริษัทผู้ผลิตรถ EV มาลงทุนตั้งฐานการผลิต
ในประเทศไทยนั้นสามารถทำได้ แต่ต้องคิดแบบบูรณาการ ( เลียนแบบรัฐบาล )ตั้งแต่
การลดภาษีเครื่องจักรที่จะนำเข้ามาใช้ในการผลิต ลดภาษีวัสดุนำเข้าที่ใช้ในการผลิต
และส่งเสริมเอกชนในการทำ Spare part ชนิดต่างๆ เพื่อลดต้นทุนในการผลิต เพื่อผู้บริโภคจะได้ใช้
สินค้าที่ดีและมีราคาที่ย่อมเยาว์ลงมา ทั้งนี้ทั้งนั้นถ้าทางภาครัฐ ต้องการให้มีการลงทุนแบบนี้จริงๆ
ขอให้มีการประชาสัมพันธ์ที่ดี เพื่อทำความเข้าใจกับประชาชนผู้บริโภค และ บริษัทผู้ผลิตน้ำมันให้เข้าใจครับผม
- โจโฉ นายกตลอดกาล likes this
ขอเทิดทูนศักดิ์ศรียิ่งสิ่งใด
...แม้แต่ลมหายใจก็ยอมพลี
โลกยังไม่สิ้นหวัง ถ้ายังมั่นในความดี
...ศรัทธาไม่เคยหน่ายหนี คนดีไม่มีวันตาย
#33
Posted 13 November 2012 - 16:57
และต้องปลูกฝังให้คนมีวินัย อย่าไปเดินในเลนจักรยาน
ต้องปลูกฝังให้คนมีวินัย อย่าเอาจักรยานไปวิ่งบนบาทวิถี
ถ้าเจอไปไฟแดงจักรยานก็ต้องจอดเหมือนกัน
เหมือนที่โคเปนเฮเกน ถ้าเดินในเลนจักรยาน เขาถือว่าเป็นเส้นทางของเขา เราไปเดิน เราโดนชน เราก็ผิด
ที่โคเปนฯ อาจจะดูยากหน่อย เพราะบาทวิถีกับเลนจักรยานบางครั้งอยู่ในระดับเดียวกัน เป็นถนนดำเหมือนกัน
แต่คนในประเทศเขารู้ คนที่ไปเที่ยวก็ควรต้องรู้เรื่องพื้นฐานพวกนี้
อยากให้ในมหาวิทยาลัยหลายๆ แห่งปลูกฝังให้นักศึกษาเอาจักรยานไปใช้เหมือนเดิม
ที่เอไอที ถ้าขี่จักรยานยนต์มาต้องจอดไว้ข้างนอก แล้วเดินเข้า หรือเปลี่ยนเป็นจักรยานเข้าไป
ทำให้อากาศข้างในสถาบันดีมากมาย เคยเห็นยามขี่จักรยานไล่ตามรถจักรยานยนต์ แล้วยามก็ ว.
คุยกันว่าให้สกัดรถจักรยานยนต์ด้วย สรุปสุดท้ายจักรยานยนต์ก็ต้องเดินเข็นเข้าไป ขาออก็ต้องเข็นออกในสถาบัน
มีเรื่องขำๆ จากเอไอทีว่า ถ้าจะซื้อพิซซ่าเดลิเวอรี่ คนซื้อต้องขี่จักรยานไปรับหน้าประตู
มิเช่นนั้นคนส่งพิซซ่าต้องเดินเข้าไปส่งที่หอ ซึ่งบางหออยู่ไกลมาก
- โจโฉ นายกตลอดกาล likes this
#34
Posted 13 November 2012 - 20:54
อยู่ที่รัฐบาลจะส่งเสริมหรือเปล่าอีก นายกฯไปอังกฤษก็น่าจะหัดไปดูบ้างนะ
#35
Posted 2 December 2012 - 22:48
นี่คือรถยี่ห้อ "tesla" บนรถระดับบน ที่ชาร์จด้วยไฟฟ้า
จดทะเบียนวิ่งจริงในเมืองไทยแล้ว ไว้มีโอกาสจะเอารูปเจ้านิสสันมาให้ชม
ขออภัยที่ขุดกระทู้นี้อีกครั้ง แต่อยากชี้ให้เห็นว่ารถแบบนี้มีอยู่จริง
วิ่งกันจริงๆในเมืองไทย นี่คือการชาร์จขณะออกรอบตีกอล์ฟ
มีวิธีการชาร์จสองแบบ คือแบบรวดเร็วไม่ต่างกับเติมน้ำมันในปั๊ม
และการชาร์จแบบปกติสำหรับคนไม่เร่งรีบ คือการชาร์จกับปลั๊กไฟตามบ้าน
ถ้าจะเอาแนวคิดนี้ไปพัฒนาต่อยอดส่งเสริมให้มีการใช้ในบ้านเราได้
จะดีมากๆ ลดทั้งมลพิษ ช่วยรัฐประหยัดเงินในการอุ้มราคาน้ำมันอีก
- Anubitz likes this
#36
Posted 2 December 2012 - 23:01
มันเป็นเรื่องของการเปลี่ยนผ่านทางเทคโนโลยี ที่จะค่อยไปตามลำดับๆ
พวกฝรั่งมันก็จะค่อยๆทยอยปล่อยเทคโนโลยีของมันสู่ท้องตลาดทีละขั้น
ขึ้นอยู่กับหลายเหตุผล เช่น
ด้านการตลาด (อยากขายของแต่ละรุ่น เก็บกินออกไปเป็นลอทๆก่อน)
ความพร้อมของเทคโนโลยี (ประสิทธิภาพของรถไฟฟ้าดีหรือยัง)
ต้นทุน (ต้นทุนการผลิตโอเคมั้ย คุ้มมั้ย สำหรับทั้งคนขาย คนซื้อ)
ความคุ้มค่าในการใช้งาน (ต้นทุนค่าเชื้อเพลิงดีกว่าน้ำมันมั้ย.. การชาร์จไฟฟ้ายากง่ายเพียงใด ฯลฯ)
งานนี้.... บริษัท รถยนต์ รอรับเละ อีกรอบแน่นอนครับ
เพราะ เมื่อเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุครถยนต์ไฟฟ้าเข้ามา คนก็ต้องเปลี่ยนรถกันอีกรอบ....
#37
Posted 2 December 2012 - 23:53
สวยดีครับ ผมก็อยากได้แต่มันแพงมากเลย สำหรับผมนะ T_T
#38
Posted 3 December 2012 - 00:22
ขนาดรถ Hybrid ยังไม่ค่อยจะแจ้งเกิดในไทยเลย
ง่ายๆครับท่านโจโฉ พี่โตทำไหมไม่เอารถ Hybrid รุ่น 4 Plug In มาซะทีละ เสียบชาร์ตวิ่งไฟฟ้าได้ไกล ไฟฟ้าหมดก็สลับไปใช้น้ำมันกลับมาชาร์ตได้อีก ถึงบ้านก็เสียบปลั้ก
ปัญหาของ EV มันไม่ได้เกิดเพราะ
1.นักการเมืองผสานกับกลุ่มทุนน้ำมัน ไม่สนับสนุนซะอย่าง ราคายังไงไม่มีทางถึงคำว่า ECO Car ได้ รากหญ้าเอื้อมไม่ถึง
2.ข้อจำกัดของเทคโนโลยี่ปัจจุบัน เช่นการชาร์ทต่อให้มีสถาณีชาร์ทแบบไวก็ยังเสียเวลานานอยู่ดี ยิ่งต่อคิวกันเหมือนเติม NGV คิดแล้วยิ่งสยอง
#39
Posted 3 December 2012 - 02:56
จะกลายเป็นเลน วินมอเตอร์ไซด์
#40
Posted 3 December 2012 - 04:46
นโยบายเช่น การใช้จักรยาน อะไรพวกนี้อ่ะ อยากได้ ๆๆ แบบเลนของจักรยาน จักรยานให้เช่า ให้มลพิษน้อยๆๆ ลง
กฎหมายมันก็แค่สิงที่สร้างมาอย่างมีเป้าหมาย แต่หาก เอาแต่บอกว่ากฎหมายเป็นแบบนี้ แบบนั้น โดยไม่สนใจว่าเป้าหมายจริงๆ นันคืออะไร ก็คงไม่ใช่
#41
Posted 3 December 2012 - 05:27
[color=#ff0000;]สำหรับผมคงเลิกเล่นบอร์ดนี้ไว้เพียงเท่านี้ ถ้าไอดีนี้ยังมีบุคคลอื่นที่ใครบางคนคิดว่าเป็นตัวจริงอยู่จริง เขาก็เข้ามาใช้บอร์ดนี้ต่อเองแต่ไม่ใช่ผมแน่นอน[/color]
ลาก่อน สวัสดีครับ 17 มกราคม 2556
#42
Posted 3 December 2012 - 06:32
ที่แพงเพราะภาษีนำเข้าในบ้านเรา ถ้ารัฐส่งเสริมให้ผลิตในบ้านเราจริงๆจังๆ
บวกกับกำลังซื้อที่มาก ผมก็เชื่อว่ารถพวกนี้อาจซื้อได้ในราคาไม่กี่แสน
เพิ่มเติมอีกนิดตอนนี้ค่ายรถและบรรดาเจ้าที่ติดตั้งอุปกรณ์เชื้อเพลิงในรถ
หันมาสนใจ E85 เพื่อเอาใจคนที่ไม่อยากติดแก๊ส และ ก๊าซ แรกๆราคา E85 ไม่แพง
อนาคตใครจะรู้ มันอาจขึ้นไปอีกก็ได้ แต่ก็ยอมรับว่าเป็นทางเลือกหนึ่งเฉพาะหน้าที่ดี
- ตะนิ่นตาญี likes this
0 user(s) are reading this topic
0 members, 0 guests, 0 anonymous users