หลังจากที่ใช้ความพยายามนาน แรมปี ในที่สุด พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ก็ประสบความสำเร็จในการสั่งปลดนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกจากราชการทหาร ในความผิดที่เรียกกันง่ายๆว่าหนีทหาร และอาจถือว่าเป็นผลงานที่เด่นที่สุด นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีในคณะรัฐบาล
แต่ดูเหมือนว่ารัฐบาลจะยังไม่หยุดเพียงแค่นั้น แม้จะเคยประกาศนโยบาย “ไม่แก้แค้นแต่จะแก้ไข” ยังมีแผนขั้นบันไดถึง 5 ขั้น ที่จะขจัดหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรให้พ้นไปจากวงการเมือง ขั้นที่ 2 จะยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้นายอภิสิทธิ์หลุดจาก ส.ส. ขั้นที่ 3 ให้ถอดยศ ขั้นที่ 4 คืนเงินเดือน ขั้นที่ 5 ฟ้องคดีอาญา
พรรคเพื่อไทยอาจยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้นายอภิสิทธิ์พ้นจากส.ส.ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 102 (5) ฐานเคยถูกปลดออกจากราชการ ในความผิดฐานกระทำการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ จึงต้องพ้นจาก ส.ส.ตามมาตรา 106 (5) และให้ตีความการเสนอชื่อนายอภิสิทธิ์เป็นนายกรัฐมนตรีในญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพื่อล้มญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ
อย่างน้อยที่สุดก็เพื่อบีบให้นายอภิสิทธิ์ลาออกจาก ส.ส. โดยเปรียบเทียบกับกรณีของนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ อดีตรองนายกรัฐมนตรี แต่ทั้งสองกรณีมีความแตกต่างกัน ตรงที่องค์การต่างๆ รวมทั้ง ป.ป.ช.สอบสวน และมหาดไทยสั่งลงโทษความผิดวินัยร้ายแรงนายยงยุทธ และปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ส่วนนายอภิสิทธิ์ถูกกระทรวงกลาโหมสอบสวนเอง และสั่งลงโทษเอง
พรรคประชาธิปัตย์จึงเตรียมฟ้องศาลปกครอง ให้ตัดสินว่าคำสั่งปลดนายอภิสิทธิ์ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่? เพราะนายอภิสิทธิ์ไม่ได้มีโอกาสชี้แจงต่อคณะกรรมการสอบสวนของกระทรวงกลาโหม ส่วนนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ วิจารณ์ว่าเป็นการสั่งปลดที่น่ามหัศจรรย์ที่สุด เพราะนายอภิสิทธิ์ลาออกจากราชการมาถึง 24 ปีแล้ว
ถึงแม้รัฐบาลจะคุมอำนาจเบ็ดเสร็จ ทั้งอำนาจบริหารและนิติบัญญัติ แต่แผนการขจัดผู้นำฝ่ายค้าน 5 ขั้น อาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เพราะรัฐบาลไม่ได้คุมอำนาจตุลาการด้วยรัฐมนตรีกลาโหมหรือรัฐบาล ไม่มีอำนาจสั่งการได้เองหมดทั้ง 5 ขั้น แต่บางส่วนเป็นอำนาจฝ่ายตุลาการ ที่จะตัดสินและให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย รวมทั้งการฟ้องคดีอาญา ที่จะต้องใช้เวลายาวนาน
ผลการสำรวจความเห็นของประชาชน ก่อนหน้านี้คนส่วนใหญ่เบื่อหน่ายฝ่ายค้านถ้าเล่นเกมการเมืองมากเกินไป ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล แต่ถ้าการสั่งปลดนายอภิสิทธิ์เป็นเกมการเมือง เพื่อล้มญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล อาจทำให้ชาวบ้านเบื่อหน่ายยิ่งกว่า เมื่อตรวจสอบในสภาไม่ได้ อาจทำให้ชาวบ้านหลั่งไหลไปร่วมฝ่ายที่ตั้งวงอยู่นอกสภา.
http://www.thairath....l/editor/305491
