.
การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองของไทย มันเกิดจากการติดความหรู่หร่าความสะดวกสบายที่ชาวตะวันตกหล่อหลอมให้หลงเชื่อ ความสะดวกสบายที่ต้องตั้งโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ มีชนชั้นใหม่ที่เราไม่เคยมีนั้นก็คือ ชนชั้นกรรมกร ชั้นชั้นแรงงาน และชนชั้นรากหญ้า
-.
การก้าวล่วงสถาบันพระมหากษัตริย์เกิดขึ้นอย่างน่ากลัวในตอนที่นายปรีดีย์ อดีตมหาเสนาอำมาตย์ใหญ่แห่งกรุงสยาม ได้ทำการยึดอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดทั้งในราชสำนัก และในสภาการเมืองในขณะนั้น และทำให้เหตุการณ์ในครั้งนั้นเป็นแบบอย่างนำไปสู่แบบแผนของการยึดอำนาจหรือที่เรียกกันว่า "การปฏิวัติ" การปฏิวัติเกิดขึ้นหลายต่อหลายครั้ง เพราะแบบอย่างอันเป็นแบบแผนของการปฏิวัติจากบิดาแห่งการปฏิวัติรัฐประหารของไทยท่านนี้ ซึ่งมีอิทธิพลอย่างมากต่อการใส่ร้ายป้ายสีกัน และพาลก้าวล่วงสถาบันพระมหากษัตริย์เรื่อยมา ทั้งๆ ที่พวกขุนนางในอดีตนั้น มีหน้าที่ในการทำงานให้ประชาชนอยู่เย็นเป็นสุข แต่แทนที่จะทำงานกลับขอปรับขึ้นเงินเดือน แม้ว่าพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวจะทรงลดเบี้ยหวัดของพระองค์เองเพื่อให้เห็นเป็นตัวอย่างในการเสียสละเพื่อประชาชน แต่มันกลับเป็นชนวนเร่งให้คณะราษฎร์โดยมีนายปรีดีย์เป็นกุนซือในการก่อการในช่วงปี พ.ศ. 2475 กระทำการปฏิวัติรัฐประหารยึดอำนาจ แล้วอ้างมติประชาชนจากปลายกระบอกปืนของไอ้พลหล
.
ในปัจจุบันบางคนบอกว่าอย่าปฏิวัติ ก็น่าจะไปยกเลิกผลการปฏิวัติในปี พ.ศ. 2475 ที่ไอ้อับปรีย์ พนมยงค์ กับพวกได้ทำการชั่วร้ายขึ้นในกรุงสยาม ซึ่งแน่ละมันไม่เห็นจะแปลกอะไรหากในปัจจุบันเราจะวนในอ่างของการปฏิวัติรัฐประหาร เพราะมันถูกใช้ตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงการปกครองแล้วนี่น่ะ และมันก็ไม่เห็นจะแปลกอะไรหากนักการเมืองจะอยากให้ประชาชนยกย่องขอให้จงเจริญกันด้วยการป้ายสีสถาบันพระมหากษัตริย์ และเอาเรื่องไม่เป็นเรื่องมาลดความน่าเชืิ่อถือของสถาบันพระมหากษัตริย์ เพราะมันก็ถูกใช้เป็บแบบอย่างอย่างเป็นแบบแผนเอาไว้ในการเริ่มต้นเปลี่ยนแปลงการปกครองแล้วนั้นเอง
Edited by chanbaan, 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 22:12.