สภากาชาดไทยขายเลือดที่รับบริจาค
#1
Posted 17 November 2012 - 12:34
อยากให้ชี้แจงจุดนี้ พวกออกมาต่อต้านยังไม่เคยเจ็บหนักหรือมีญาติต้องการเลือด เลยยังไม่รู้
#2
Posted 17 November 2012 - 12:49
#3
Posted 17 November 2012 - 13:32
#5
Posted 17 November 2012 - 16:07
POPULAR
ก็น่าจะอยู่ในราคาที่ รพ เอกชนรับได้นั่นแหละ 5555
ถ้ากาชาด นำเลือดที่รับบริจาคมา ไปให้ รพ เอกชนฟรี ๆ มันจะถูกต้องหรือ เพราะ รพ
เอกชนเขาแสวงหากำไร เอาของฟรีไปค้ากำไร มันคงไม่ใช่แล้ว 55555
ผู้บริจาคโลหิต ส่วนใหญ่บริจาคเพราะมีจิตเมตตา ไม่ได้หวังผลตอบแทนอะไร การจะไปตั้ง
เงื่อนไขว่าควรมีโน่นมีนี่ตอบแทนก็คงไม่ใช่เรื่อง ควรรอให้มันถึงจุดวิกฤติของสังคมที่ขาด
คุณธรรมเมตตาธรรมจริง ๆ ก่อนก็ได้ ค่อยมาเรียกร้องค่าตอบแทนกัน 5555555555
#7
Posted 17 November 2012 - 16:28
แต่ให้เชื่อ เมือได้พิจารณาไตร่ตรอง พิสููจน์ ด้วยตนเอง ว่าเป็นจริงดังนั้นแล้ว จึงเชื่อ"
หาก "การซื้อ-ขาย เลืือด และ อวัยวะมนุษย์" ไม่ผิดกฎหมาย โลกนี้ คงได้วุ่นวายกันใหญ่
ไม่เชื่อว่า สภากาชาด จะทำดัง หัวข้อกระทู้
- Satan for Vendetta likes this
#8
Posted 17 November 2012 - 16:34
การที่ "สภากาชาด" ขายเลือด ที่รับบริจาค มาให้กับ "รพ.เอกชน"
ก็เป็นเรื่องที่ สมควรแล้วหล่ะครับ เพราะคนที่มาบริจาค
ก็ต้องการที่จะให้นำเลือดที่ตนบริจาค ไปใช้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด
เพราะอายุของเลือดที่รับ บริจาคมา น่าจะอยู่ได้ ประมาณ 35 วัน เท่านั้น
อีกทั้ง "รพ. เอกชน" ก็สามารถนำไปหาผลกำไร ได้อยู่แล้วครับ
ขอเทิดทูนศักดิ์ศรียิ่งสิ่งใด
...แม้แต่ลมหายใจก็ยอมพลี
โลกยังไม่สิ้นหวัง ถ้ายังมั่นในความดี
...ศรัทธาไม่เคยหน่ายหนี คนดีไม่มีวันตาย
#9
Posted 17 November 2012 - 16:34
ต่างจากรัฐบาล ใครๆ เขาก็ไม่อยากให้ ..อ้อ มีบริษัทนำ้มันบริจาคให้
#10
Posted 17 November 2012 - 16:42
POPULAR
ตัวเราเองเคยป่วยหนักต้องการเกร็ดเลือด นอนอยู่ รพ. เอกชน
นอนรอนานมาก กว่าจะได้เกร็ดเลือด ต้องรอข้ามวัน แถมยังได้ตอนกลางคืนดึกๆอีก
เมื่อดูในใบเสร็จ พบว่า การให้เกร็ดเลือดนี้ มีเฉพาะค่าใช้จ่ายที่เป็นเวชภัณฑ์พวก เข็ม สายน้ำเกลือฯลฯ
ไม่ได้เสียเงินค่าเกร็ดเลือดเลย
ที่จำได้เพราะซึ่้งใจมากที่ได้เกร็ดเลือดมาช่วยชีวิตแบบฟรีๆ
และสำนึกในความกรุณาของผู้บริจาคอยู่เสมอ
ที่ให้โดยไม่หวังผลตอบแทนใดๆ
- มารุจัง, Charlie, นายตัวเกร็ง and 13 others like this
#11
Posted 17 November 2012 - 17:00
ยุ่งยาก และคิดแล้วว่าขอซื้อจากกาชาดสะดวกและประหยัดกว่านั่นแหละ
แต่ประเด็นที่สำคัญก็คือ สังคมที่กำลังจะพัฒนาไปเป็นเหมือนประเทศที่เรียกตัวเอง
ว่าเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ก็คือ ความมีน้ำใจช่วยเหลือซึ่งกันและกันมันคงไม่
เหมือนเดิม ทุกอย่างคงต้องว่ากันเป็นเรื่องผลประโยชน์ คนที่แข็งแรงเท่านั้นที่มี
ที่ยืนในสังคม คนอ่อนแอ ก็คงต้องขาย ตับ ขายไต ขายเลือด ประทังชีวิตนั่นแหละ
ถ้า รพ เอกชนประกาศรับซื้อ โลหิต เหมือน กาชาด ประกาศรับบริจาคโลหิต
ก็มองไม่ออกเหมือนกันว่า สภาพสังคมไทยตอนนั้น มันจะมีลักษณะเป็นอย่างไร
55555
#12
Posted 17 November 2012 - 17:04
แต่ผมอยากถามว่าการรับซื้อเลือดเป็นสิ่งเลวยังไง ถ้าทำอย่างถูกหลักการแพทย์ บันทึกประวัติถูกต้อง ไม่ให้มีการขายเลือดจนผู้ขายเป็นอันตราย
เลือดไม่เหมือนตับ ไต ลูกตา
ทำไมเราต้องเอามาตรฐานเดียวกันมาใช้กับสิ่งที่ไม่เหมือนกัน
ประชาธิปไตยก็เหมือนส้วมสาธารณะแบบนั่งเต็มตูด ควายนับถือศาสนาชินวัตรใช้แล้วสกปรกชิบเป๋ง
#13
Posted 17 November 2012 - 17:21
เราชินกับการบริจาคเลือด (ซึ่งเป็นสิ่งที่ดี)
แต่ผมอยากถามว่าการรับซื้อเลือดเป็นสิ่งเลวยังไง ถ้าทำอย่างถูกหลักการแพทย์ บันทึกประวัติถูกต้อง ไม่ให้มีการขายเลือดจนผู้ขายเป็นอันตราย
เลือดไม่เหมือนตับ ไต ลูกตา
ทำไมเราต้องเอามาตรฐานเดียวกันมาใช้กับสิ่งที่ไม่เหมือนกัน
ยกตัวอย่าง มีเคสเกิดขึ้นใน รพ แห่งหนึ่ง 3 ุุเคส ทั้ง 3 เคส ต้องการเลือดกรุ๊ป O เหมือนกัน (สมมุติว่า ต้องการเลือดแต่ละเคส พอ ๆ กัน)
เคสที่ 1 คนไข้เสียเลือดมาก อาจเสียชีวิตได้ในอีก 30-60 นาที แต่คนไข้ฐานะปานกลาง
เคสที่ 2 คนไข้เสียเลือดพอประมาณ อาจสูญเสียความสามารถบางประการ หากไม่ทำการผ่าตัด ซึ่งต้องใช้เลือด คนไข้มีฐานะดีพอประมาณ
เคสที่ 3 คนไข้เสียต้องผ่าตัด เคศธรรมดา ๆ แต่มีกำหนดการต้องไปเจรจาการค้า มูลูค่านับหมื่นล้าน หลังผ่าตัด (เลื่อนกำหนดการไม่ได้ อาจสูญเสีย ดีีลนี้)
คนไข้มีฐานะดีมาก ๆ (แบบรำ่รวยมหาศาล)
รพ. มีเลือดไม่เพียงพอ ต้องการเลือดเพิ่ม มีคนมาแจ้งความจำนงให้เลือด จำนวน 10 กว่า คน (สมมุติว่า พอสำหรับ เคส กว่า ๆ ไม่ถึง 2 เคส)
ถ้า เลือดซื้อ-ขายได้ ลองคิดดูว่า จะเกิดอะไรขึ้น
- KundeT likes this
#14
Posted 17 November 2012 - 17:30
สังคมที่ขาดการดูแลช่วยเหลือกันมากกว่า 555
ทุกวันนี้ เราก็เคยเห็นข่าวว่ามีผู้ขายไตอยู่ ดูแล้วมันเป็นเรื่องน่าสะเทือนใจมากว่า
มันขัดสนหรือไร้น้ำใจกันขนาดนี้แล้วหรือ ซึ่งผมเองคิดว่ามันคงยังไม่ถึงจุดนั้น เพียง
แต่ว่า ผู้ขายไตเอง ก็คงไม่รู้จะสื่อสารให้สังคมได้รับรู้ถึงความยากลำบากอย่างไร
แต่ถ้าเรามองอีกด้านหนึ่งของผู้ต้องการไต มันหมายถึงความอยู่รอดของชีวิต ถ้าคุณ
ไม่มีเงินคุณไม่รอด ถ้ามีเงิน หาซื้อไตได้ คุณก็รอด มันก้ำกึ่งกันจริง ๆ ว่ามันดีหรือไม่ดี
แต่เรื่องของโลหิตนี่ มันไม่ถึงขนาดนั้น เพราะบริจาค หรือขายแล้วมันไม่มีผลกระทบต่อ
ผู้บริจาคหรือขาย แต่การที่ รพ เอกชน ไม่ประกาศรับซื้อเลือด แต่ใช้วิธีซื้อจาก กาชาดแทน
เขาก็คงมองกันแล้วว่า ถ้ามีการรับซื้อกันอย่างเอิกเกริก คงไม่ใช่เรื่องดีต่อสังคมแน่ทั้งในด้าน
ผลกระทบกับการบริจาคโลหิตของสภากาชาด และผลกระทบต่อความรู้สึกของสังคมที่อาจ
เปลี่ยนไปจากการบริจาคเป็นการซื้อขายนั่นแหละ 55555
- KundeT likes this
#15
Posted 17 November 2012 - 17:33
เราชินกับการบริจาคเลือด (ซึ่งเป็นสิ่งที่ดี)
แต่ผมอยากถามว่าการรับซื้อเลือดเป็นสิ่งเลวยังไง ถ้าทำอย่างถูกหลักการแพทย์ บันทึกประวัติถูกต้อง ไม่ให้มีการขายเลือดจนผู้ขายเป็นอันตราย
เลือดไม่เหมือนตับ ไต ลูกตา
ทำไมเราต้องเอามาตรฐานเดียวกันมาใช้กับสิ่งที่ไม่เหมือนกัน
ยกตัวอย่าง มีเคสเกิดขึ้นใน รพ แห่งหนึ่ง 3 ุุเคส ทั้ง 3 เคส ต้องการเลือดกรุ๊ป O เหมือนกัน (สมมุติว่า ต้องการเลือดแต่ละเคส พอ ๆ กัน)
เคสที่ 1 คนไข้เสียเลือดมาก อาจเสียชีวิตได้ในอีก 30-60 นาที แต่คนไข้ฐานะปานกลาง
เคสที่ 2 คนไข้เสียเลือดพอประมาณ อาจสูญเสียความสามารถบางประการ หากไม่ทำการผ่าตัด ซึ่งต้องใช้เลือด คนไข้มีฐานะดีพอประมาณ
เคสที่ 3 คนไข้เสียต้องผ่าตัด เคศธรรมดา ๆ แต่มีกำหนดการต้องไปเจรจาการค้า มูลูค่านับหมื่นล้าน หลังผ่าตัด (เลื่อนกำหนดการไม่ได้ อาจสูญเสีย ดีีลนี้)
คนไข้มีฐานะดีมาก ๆ (แบบรำ่รวยมหาศาล)
รพ. มีเลือดไม่เพียงพอ ต้องการเลือดเพิ่ม มีคนมาแจ้งความจำนงให้เลือด จำนวน 10 กว่า คน (สมมุติว่า พอสำหรับ เคส กว่า ๆ ไม่ถึง 2 เคส)
ถ้า เลือดซื้อ-ขายได้ ลองคิดดูว่า จะเกิดอะไรขึ้น
ลองคิดตามแล้วครับ
คำตอบของผมคือ สถานการณ์สมมุติของคุณที่บอกว่า รพ. เลือดไม่พอก็จะไม่เกิดขึ้น เพราะก่อนหน้านั้นก็จะมีคนมาขายเลือดกรุ๊ป O กันมากพอที่จะให้ทั้งสามราย ไม่ต้องเลือกว่าจะให้ใคร
Edited by เพื่อนร่วมชาติ, 17 November 2012 - 17:34.
ประชาธิปไตยก็เหมือนส้วมสาธารณะแบบนั่งเต็มตูด ควายนับถือศาสนาชินวัตรใช้แล้วสกปรกชิบเป๋ง
#16
Posted 17 November 2012 - 17:39
POPULAR
แต่เพราะคนสมัยนี้ เห็นเงินเป็นใหญ่ ไม่พิจารณาเหตุผลอะไร คิดแต่ว่าคนอื่นจะเลวเหมือนตัวไง พูดจาเอาตัวเองเป็นบรรทัดฐาน
#17
Posted 17 November 2012 - 17:50
มันก็ยังช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์เช่นกัน ผมบริจาคแล้วก็ถือว่าได้ทำบุญแล้ว
- นายตัวเกร็ง, pinkpanda, เมรีสีน้ำเงิน and 2 others like this
ใครอยู่เบื้องหลังการอุ้มฆ่าเอกยุทธ์ อัญชัญบุตร
#18
Posted 17 November 2012 - 17:50
กาชาดจะเอาไปทำอะไรก็เรื่องของกาชาด
เพราะส่วนตัวมันใจว่ามีเหตุผลเสมอ
แค่วันที่ให้ เรามีความสุข จนวันนี้ทุกครั้งที่นึกถึงก็มีความสุข
แค่นี้ก็พอแล้วค่ะ
- นายตัวเกร็ง, pinkpanda, เมรีสีน้ำเงิน and 5 others like this
#19
Posted 17 November 2012 - 17:50
ต้องถามว่า แล้วกาชาดรับบริจาคเลือด ค่าอุปกรณ์ ค่าเวชภัณฑ์ทั้งหลาย ใครจะจ่าย กาชาดเขาเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร แต่ไม่ได้แปลว่าต้องแบกภาระค่าใช้จ่ายไว้ด้วย เชื่อว่าการขายให้โรงพยาบาลเอกชน ก็น่าจะเป็นราคาที่เหมาะสม และไม่ใช่การค้าเพื่อหวังกำไร
แต่เพราะคนสมัยนี้ เห็นเงินเป็นใหญ่ ไม่พิจารณาเหตุผลอะไร คิดแต่ว่าคนอื่นจะเลวเหมือนตัวไง พูดจาเอาตัวเองเป็นบรรทัดฐาน
ใชค่ะ ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นส่วนนึงเป็นค่าใช้จ่ายในการทดสอบว่าเลือดของคนที่กาชาดนำมาให้กับเลือดของคนไข้นั้นเข้ากันได้หรือไม่
เพราะถึงแม้ว่ากรุ๊ปเดียวกัน ก็ไม่ได้หมายความว่าจะใช้กันได้ทุกครั้ง ก็เพื่อความปลอดภัยของผู้รับ รู้สึกว่าจะใช้หลายขั้นตอนด้วยค่ะ
ไม่น่าคิดร้ายๆกับสภากาชาดเลย ทุกครั้งที่มีภัยกาชาดก็ให้ความช่วยเหลือทุกที
Edited by Enzo, 17 November 2012 - 17:52.
- tu249cm, นายตัวเกร็ง, เมรีสีน้ำเงิน and 6 others like this
#20
Posted 17 November 2012 - 18:01
Edited by Cemeterys, 17 November 2012 - 18:04.
#21
Posted 17 November 2012 - 18:11
แต่จากกระทู้นี้ http://www.pantip.co.../P12942604.html ดูท่าจะไปกันใหญ่
อานิสงฆ์การบริจาคเลือดที่เห็นได้ชัดเจนหลังบริจาคสิบกว่าครั้งเอง คือ ทุกครั้งที่ได้รับการคอมเมนหน้าเครื่องวัดต่างๆ รวมทั้งจดหมายแจ้งผลเลือด จะกลับไปแก้จุดนั้น เพื่อให้ได้กลับมาบริจาคอีกครั้ง สุขภาพเราก็ดีขึ้นเอง แต่บางครั้งก็รู้สึกลึกๆเมื่อมีข่าวอุบัติเหตุเมาแล้วขับ หรือเมาแล้วทำร้ายกัน ว่าเสียดายมาก แค่ไม่ต้องเมาอุบัติเหตุก็มากพอแล้ว เลือดก็แทบไม่พออยู่แล้ว นี่คือส่วนหนึ่งที่ภาษีน้ำเมาไม่สามารถมาชดเชยได้
- KundeT likes this
มันจะทำให้เราคิดก่อนพูดได้ดีขึ้น เมื่อเชื่อว่าคำพูดที่ออกไปเหล่านั้นคือคำที่เราจะได้ยินเองในอนาคต
และถ้าเราจะทำดีได้มากขึ้น เมื่อเชื่อว่าเราจะได้เจอสิ่งดีๆในอนาคต
แม้ว่าวันนี้เราจะยังไม่เห็นว่ามันดีอย่างไรแต่อย่างน้อยทำให้เราผ่านวันนี้ไปได้อย่างราบรื่น
#22
Posted 17 November 2012 - 18:33
#23
Posted 17 November 2012 - 19:20
อย่างตัวผมอยู่จังหวัดระยอง แต่เหตุผลที่ผมไม่อยากไปบริจาคเพราะหาที่จอดรถยากมาก
ไม่รู้ว่าจังหวัดอื่นเป็นเหมือนกันหรือเปล่า
แล้วทำไมไม่ลองปรับวิธีการให้ทางสถานีอนามัยประจำตำบลมีการรับบริจาคเลือดล่ะ
แค่ตำบลละ 1 แห่งก็น่าจะทำให้มีการบริจาคเพิ่มขึ้น ทุกวันนี้จะบริจาคทีต้องเดินทาง
ไปที่โรงพยาบาลในเมือง ที่จอดรถก็หายาก วันดีคืนดี เจอหัวปิงปองตั้งด่านไถเงินอีก
หรือว่าเลือดที่รับบริจาคแล้วมีขั้นตอนการเก็บรักษายุ่งยาก เลยต้องให้กระทำในสถานที่เฉพาะ
ผู้รู้ช่วยชี้แนะด้วยนะครับ
- ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่ likes this
#24
Posted 17 November 2012 - 19:48
เพราะที่จอดรถยนต์หายากมาก
ใครอยู่เบื้องหลังการอุ้มฆ่าเอกยุทธ์ อัญชัญบุตร
#25
Posted 17 November 2012 - 19:53
#26
Posted 17 November 2012 - 19:58
สภากาชาด เขาไม่ได้รับบริจาคแต่เลือดนี่ฮ่ะ อย่างอื่นก็รับบริจาคด้วย อย่างรถบัส ทางช่อง3ยังบริจาคให้
สภากาชาดรับบริจาค หรือช่อง 3 บริจาคให้เอง
- KundeT likes this
“Live as if you were to die tomorrow. Learn as if you were to live forever.” - Mahatma Gandhi
สนใจบ้านพักคนชราเสรีไทย (FB Secret Group) ติดต่อ (PM) เว็บบอร์ด
#27
Posted 17 November 2012 - 20:05
ขอแค่เอาเลือดที่ได้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ ไม่เอาไปผสมกับเลือดควาย เลือดสัตว์แล้วเอาไปเททิ้งที่หน้ารัฐสภาเหมือนที่เสื้อแดงทำก็พอแล้ว
ทำแบบนั้นไม่ได้ประโยชน์แถมยังแพร่เชื้อโรคอีกด้วย
#28
Posted 17 November 2012 - 20:20
ก็นับเป็นเรื่องที่สมควรแล้วเพราะเลือดที่ขายไปก็ได้ช่วยชีวิตมนุษย์เหมือนกัน
“People shouldn't be afraid of their government. Governments should be afraid of their people.”
#29
Posted 17 November 2012 - 22:23
POPULAR
ส่วนรพ.เอกชนก็คิดกับคนไข้ เฉพาะค่าถุงเหมือนกัน(บวกค่าบริการทางการแพทย์). . ไม่ได้คิดค่าเลือดค่ะ
#31
Posted 17 November 2012 - 22:57
เพราะคิดว่ากาชาดเป็นองค์กรการกุศลเงินที่เขาขายมาได้ก็คงไม่ได้เข้าพกเข้าห่อใครก็วนกลับมา
ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ไม่ทางใดก็ทางหนึ่งอีกอยู่ดี (หากมีหลักฐานว่าผู้บริหารขายเลือดเอาเงินเข้ากระเป๋า
ตัวเองคนที่ผมจะด่าก็คือผู้บริหารคนนั้นอยู่ดีไม่ใช่กาชาด)
แล้วอีกอย่าง บางคนคิดง่ายๆ แค่ "ได้เลือดเราไปฟรีๆ แล้วยังเอาไปขายอีกเลวจริงๆ" คือเลือดมัน
เก็บไว้ได้ไม่นานก็เสีย ถ้ากาชาดสามารถเอาเลือดที่เกินในช่วงนั้นๆ กระจายไปช่วยคนได้อีกมันจะ
ไม่ดีกว่าการปล่อยเลือดให้เสียเปล่าหรือ?
การจัดเก็บเลือดคนที่บริจาคมาก็มีค่าใช้จ่าย ทั้งค่าเครื่องมือ ค่าบุคลากร ฯลฯ การจะให้กาชาด
รับภาระส่วนนี้โดยไม่มีรายได้เลยนอกจากการรอรับบริจาคเงินอย่างเดียวผมว่าทำไปไม่นานก็เจ๊งแน่ๆ
ผมว่าคนที่มองกาชาดแง่ร้ายนี่ออกจะใจแคบนะครับเพราะถ้าลองคิดในมุมของกาชาดดู
ก็น่าจะเข้าใจได้ไม่ยากเลยว่ากว่าจะเป็นองค์กรการกุศลที่ใหญ่และช่วยเหลือคนได้มากขนาดนี้
ไม่ใช่เพราะความมีจิตสาธารณะอย่างเดียวแต่มันต้องมี "เงิน" ประกอบด้วย ในโลกความเป็นจริง
มีแค่ "ใจ" อย่างเดียวแต่ไม่มี "เงิน" อาจสามารถช่วยคนได้แต่คงไม่สามารถช่วยคนได้ในวงกว้าง
และยาวนาน
หากคนที่ไม่เข้าใจกาชาดลองรวมกลุ่มกันทำสาธารณะประโยชน์ เอาง่ายๆ เลยแค่เลี้ยงอาหารกลางวัน
เด็กยากไร้ไปซักครึ่งปีโดยมีเงินหมุนแค่เงินบริจาคอย่างเดียว ผมอยากรู้ว่าจะทำไปได้โดยไม่ร้องจ๊ากมั้ย
ปล. พูดถึงการบริจาคเลือดกับกาชาด ผมไม่ชอบคนที่เห็นการบริจาคเลือดเป็น "บริการรับตรวจเลือด"
เอามากๆ โดยเฉพาะคู่รักบางคู่หรือคนที่อยากตรวจเอดส์แต่ดันไม่อยากลงทุนที่ไปเนียนบริจาคเลือด
แล้วให้กาชาดเขาตรวจให้ มันเป็นการเพิ่มภาระให้ทางกาชาดแถมถ้าเลือดมีเชื้อแอบแฝงคนที่รับเลือดไป
จะเป็นยังไง? เป็นไปได้ผมอยากให้คนกลุ่มนั้นเลิกทำบาปต่อเพื่อนมนุษย์ทางอ้อมด้วยความมักง่ายแบบนี้
- ต้นหอม, อู๋ ฮานามิ, Tiger Lily and 1 other like this
#32
Posted 17 November 2012 - 23:20
ไม่ต้องการค่าตอบแทนใดๆเพราะมันเป็นหนทางหนึ่งในการทำบุญ...
จิตกุศลคนบริจาคมีอยู่ทุกคนครับ....
ความคิดที่จะให้ซื้อเลือดที่เป็นส่วนหนึ่งของร่างกายมันเป็นความคิดเห็นแก่เงินมากไป
- ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่ likes this
เขียนเรื่องการเมือง : ดราม่า ,เขียนเรื่องสังคม : ดราม่า เขียนเรื่องบันเทิง : ดราม่า
แต่พอโพสเรื่องหื่น : มีความเห็นเป็นไปทางเดียวกันเสมอ >3<
#33
Posted 17 November 2012 - 23:30
พยายามไปบริจาคตลอด สุขใจที่ได้ให้ค่ะ
#34
Posted 17 November 2012 - 23:34
ส่วนเรื่องขายเลือดผมไม่เคยได้ยิน เคยได้ยินแต่ข่าวลือ(?) เรื่องการซื้อ-ขายไต
Edited by อู๋ ฮานามิ, 17 November 2012 - 23:36.
ถึงผมจะเป็นคนหัวขบถ แต่ไม่คิดทรยศบุญคุณแผ่นดินเกิด
เสียงส่วนใหญ่ของประชาชน ไม่ใช่ใบอนุญาตทำร้ายประเทศชาติ
#35
Posted 18 November 2012 - 02:13
เพียงแค่เวลาปกติ(ที่ไม่มีการรณรงค์) คนบริจาคน้อยลงเพราะ "สถานที่มันไม่อำนวย" ครับ
การบริจาค เสร็จแล้วต้องนอนพัก ต้องกินเครื่องดื่มบำรุง ไม่งั้นคอพับคออ่อน
ใครจะมาบริจาคตอนที่ต้องฝ่ารถกลับไปทำงานล่ะครับ
น่าจะมีการตั้งศูนย์รับบริจาคให้กระจายทั่วทั้งประเทศ และในเมืองหลวงก็ตั้งจุดที่บริจาคได้ง่าย
ขี้คร้าน เลือดเหลือพอเพียงแน่นอน เพราะคนใจศรัทธามีทั่วไปครับ
เห็นด้วยมากๆ เลยทำตัวโตไว้แต่เพราะคนสมัยนี้ เห็นเงินเป็นใหญ่ ไม่พิจารณาเหตุผลอะไร
คิดแต่ว่าคนอื่นจะเลวเหมือนตัวไง พูดจาเอาตัวเองเป็นบรรทัดฐาน
เจอเคสแบบนี้หลายทีแล้ว "ตัวเองคิดเห็นแก่เงิน เลยคิดว่าคนอื่นจะเหมือนตัวเอง"
แต่ส่วนมาก ผมเจอเคสแบบนี้จากเว็บพันทิปเยอะที่สุดครับ
ขนาดเว็บที่ถูกด่าว่ากากๆแบบเว็บจ่าฯ ยังไม่เคยเจอพวกที่เอะอะคิดด้านลบแบบพันทิปเลย
(แล้วก็ชอบ "ปล่อยข่าว" ด้วย)
Edited by ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่, 18 November 2012 - 02:14.
#36
Posted 18 November 2012 - 07:00
อย่างที่บอก ได้มาแล้วต้องเอาเลือดมา match กันใช้เวลาอย่างน้อยก็ชั่วโมง
เลือดบางชนิดไม่ใช่วันเดียวจะหาได้ด้วยซ้ำ
ทุกวันทางโรงพยาบาลแต่ละที่ต้องแจ้งไปทางกาชาด
ว่าต้องการเลือดแบบไหน เท่าไหร่ค่ะ แล้วถึงออกไปรับ บางครั้งก็ได้มาไม่พอค่ะ
กาชาดเป็นองค์กรที่ไม่แสวงหากำไรเลย
ตอนน้ำท่วมกาชาดเป็นที่รวมความช่วยเหลือต่างๆ
ตัวเองยังทั้งบริจาคของและไปแพคถุงยังชีพเลยค่ะ
ของจะส่งไปไหนเสื้อสีอะไร ไม่มีคำถามนี้ ทุกคนคือประชาชนคนไทยค่ะ
Edited by Enzo, 18 November 2012 - 07:02.
#37
Posted 19 November 2012 - 21:28
เราชินกับการบริจาคเลือด (ซึ่งเป็นสิ่งที่ดี)
แต่ผมอยากถามว่าการรับซื้อเลือดเป็นสิ่งเลวยังไง ถ้าทำอย่างถูกหลักการแพทย์ บันทึกประวัติถูกต้อง ไม่ให้มีการขายเลือดจนผู้ขายเป็นอันตราย
เลือดไม่เหมือนตับ ไต ลูกตา
ทำไมเราต้องเอามาตรฐานเดียวกันมาใช้กับสิ่งที่ไม่เหมือนกัน
ยกตัวอย่าง มีเคสเกิดขึ้นใน รพ แห่งหนึ่ง 3 ุุเคส ทั้ง 3 เคส ต้องการเลือดกรุ๊ป O เหมือนกัน (สมมุติว่า ต้องการเลือดแต่ละเคส พอ ๆ กัน)
เคสที่ 1 คนไข้เสียเลือดมาก อาจเสียชีวิตได้ในอีก 30-60 นาที แต่คนไข้ฐานะปานกลาง
เคสที่ 2 คนไข้เสียเลือดพอประมาณ อาจสูญเสียความสามารถบางประการ หากไม่ทำการผ่าตัด ซึ่งต้องใช้เลือด คนไข้มีฐานะดีพอประมาณ
เคสที่ 3 คนไข้เสียต้องผ่าตัด เคศธรรมดา ๆ แต่มีกำหนดการต้องไปเจรจาการค้า มูลูค่านับหมื่นล้าน หลังผ่าตัด (เลื่อนกำหนดการไม่ได้ อาจสูญเสีย ดีีลนี้)
คนไข้มีฐานะดีมาก ๆ (แบบรำ่รวยมหาศาล)
รพ. มีเลือดไม่เพียงพอ ต้องการเลือดเพิ่ม มีคนมาแจ้งความจำนงให้เลือด จำนวน 10 กว่า คน (สมมุติว่า พอสำหรับ เคส กว่า ๆ ไม่ถึง 2 เคส)
ถ้า เลือดซื้อ-ขายได้ ลองคิดดูว่า จะเกิดอะไรขึ้น
ลองคิดตามแล้วครับ
คำตอบของผมคือ สถานการณ์สมมุติของคุณที่บอกว่า รพ. เลือดไม่พอก็จะไม่เกิดขึ้น เพราะก่อนหน้านั้นก็จะมีคนมาขายเลือดกรุ๊ป O กันมากพอที่จะให้ทั้งสามราย ไม่ต้องเลือกว่าจะให้ใคร
แล้วลองคิดต่ออีกนิด เปลี่ยนกรุ๊ปเืลือด จาก O เป็น AB negative
#38
Posted 19 November 2012 - 21:49
คนดีจริงไม่โกงที่วัด ไม่ยุแยงให้คนแตกแยก ไม่หลอกคนอื่นให้มารับเคราะห์ตายแทน
#39
Posted 19 November 2012 - 21:58
#40
Posted 19 November 2012 - 22:03
ส่วนเรื่องบวกกำไรผมก็ไม่ทราบ แต่ตราบใดที่ไม่มีหลักฐานมีแต่ข่าวลือ ก็ฟังหูไว้หูละกันครับ ตัวผมก็มีบริจาคบ้างตามโอกาส
#41
Posted 19 November 2012 - 22:07
เราชินกับการบริจาคเลือด (ซึ่งเป็นสิ่งที่ดี)
แต่ผมอยากถามว่าการรับซื้อเลือดเป็นสิ่งเลวยังไง ถ้าทำอย่างถูกหลักการแพทย์ บันทึกประวัติถูกต้อง ไม่ให้มีการขายเลือดจนผู้ขายเป็นอันตราย
เลือดไม่เหมือนตับ ไต ลูกตา
ทำไมเราต้องเอามาตรฐานเดียวกันมาใช้กับสิ่งที่ไม่เหมือนกัน
ยกตัวอย่าง มีเคสเกิดขึ้นใน รพ แห่งหนึ่ง 3 ุุเคส ทั้ง 3 เคส ต้องการเลือดกรุ๊ป O เหมือนกัน (สมมุติว่า ต้องการเลือดแต่ละเคส พอ ๆ กัน)
เคสที่ 1 คนไข้เสียเลือดมาก อาจเสียชีวิตได้ในอีก 30-60 นาที แต่คนไข้ฐานะปานกลาง
เคสที่ 2 คนไข้เสียเลือดพอประมาณ อาจสูญเสียความสามารถบางประการ หากไม่ทำการผ่าตัด ซึ่งต้องใช้เลือด คนไข้มีฐานะดีพอประมาณ
เคสที่ 3 คนไข้เสียต้องผ่าตัด เคศธรรมดา ๆ แต่มีกำหนดการต้องไปเจรจาการค้า มูลูค่านับหมื่นล้าน หลังผ่าตัด (เลื่อนกำหนดการไม่ได้ อาจสูญเสีย ดีีลนี้)
คนไข้มีฐานะดีมาก ๆ (แบบรำ่รวยมหาศาล)
รพ. มีเลือดไม่เพียงพอ ต้องการเลือดเพิ่ม มีคนมาแจ้งความจำนงให้เลือด จำนวน 10 กว่า คน (สมมุติว่า พอสำหรับ เคส กว่า ๆ ไม่ถึง 2 เคส)
ถ้า เลือดซื้อ-ขายได้ ลองคิดดูว่า จะเกิดอะไรขึ้น
ลองคิดตามแล้วครับ
คำตอบของผมคือ สถานการณ์สมมุติของคุณที่บอกว่า รพ. เลือดไม่พอก็จะไม่เกิดขึ้น เพราะก่อนหน้านั้นก็จะมีคนมาขายเลือดกรุ๊ป O กันมากพอที่จะให้ทั้งสามราย ไม่ต้องเลือกว่าจะให้ใคร
แล้วลองคิดต่ออีกนิด เปลี่ยนกรุ๊ปเืลือด จาก O เป็น AB negative
มันก็จะมีเลือดสำรองของกรุ๊ปนี้มากกว่าในปัจจุบัน
ในขณะที่โอกาสจะเจอผู้ต้องการเลือดกรุ๊ปนี้ยังเท่ากับปัจจุบัน
แล้วไงเหรอครับ
ปัญหาการเลือกปฏิบัติที่คุณพูดมา เป็นปัญหาเรื่องจรรยาบรรณทางการแพทย์ ซึ่งในปัจจุบันก็มีอยู่แล้ว
มันไม่ใช่ปัญหาเรื่องระบบหาโลหิตสำรอง
ถ้าแพทย์มีจรรยาบรรณ ระบบซื้อเลือดก็ไม่มีปัญหา เพราะแพทย์จะรักษาตามจรรยาบรรณ
แต่ถ้าแพทย์ไม่มีจรรยาบรรณ จะใช้ระบบบริจาคแบบปัจจุบัน มันก็มีปัญหาอยู่ดี
ถ้าไม่เห็นดีกับวิธีรับซื้อเลือด ผมขอเหตุผลที่เป็นปัญหาของแนวทางการซื้อเลือดโดยตรงดีกว่าครับ
ผมขี้เกียจอธิบายอะไรที่มันไม่ตรงประเด็น
ประชาธิปไตยก็เหมือนส้วมสาธารณะแบบนั่งเต็มตูด ควายนับถือศาสนาชินวัตรใช้แล้วสกปรกชิบเป๋ง
#42
Posted 19 November 2012 - 22:09
พ่อเล่านะ ผมไม่ทันได้ดู
ในเรื่องแม่วัลลีไปขายเลือดเพื่อเอาเงินมาเลี้ยงดูครอบครัว
ไม่แน่ใจนะ ยุคนั้นขายเลือดได้ด้วยหรือยังไง
ปล.พ่อเล่าให้ฟังจริงๆนะ ผมไม่ทัน
#43
Posted 19 November 2012 - 22:13
ส่วนเรื่องการขายเลือดของผู้บริจาค ส่วนตัวผมไม่ติดใจเลย ไม่ว่ากาชาดจะมีการขายหรือไม่ก็แล้วแต่ หลักใหญ่ใจความเรื่องนี้มันมีอยู่สองประเด็น ประเด็นแรกจุดประสงค์ของผู้ไปบริจาคก็เพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ก็คือมาทำบุญ อันนี้เมื่อทำแล้วก็ไม่ควรมีจิตสงสัย
อีกประเด็นที่สำคัญ ถ้ากาชาดเอาเลือดไปขายให้ รพ.เอกชนจริง ก็ยิ่งนับว่าเป็นเรื่องดี เพราะรู้ๆกันว่า รพ.เอกชนเป็นเรื่องของคนมีฐานะที่มีความสามารถในการจ่าย เงินที่ได้กาชาดก็ต้องเอาไปใช้จ่ายเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของสังคมในมิติอื่นๆ
เอาใว้ถ้าเกิดกรณีจับผิดกาชาด หรือจับทุจริตอมของบริจาคของกาชาดให้จับได้ก่อน ค่อยมาคุยว่าการขายเลือดเหมาะสมหรือไม่ แต่นาทีนี้ผมขอเชื่อกาชาดก่อน
- Satan for Vendetta likes this
มันผู้ได สนับสนุนการนิรโทษกรรม ไม่ลากคอไอ้ฆาตกรชั่วใจสัตว์ โหดอำมหิต ผู้บงการฆ่าพี่น้องเสื้อแดงของกู 91 ศพ และพี่น้อง กปปส.ของกูอีก 20 ศพ มาลงโทษลงทัณฑ์ตามกบิลเมือง กูขอสาปแช่งให้มันและทุกๆคนที่มันรัก จงประสพกับความวิบัติฉิบหายในชาตินี้ และต่อๆไปทุกภพทุกชาติ จนกว่าจะสิ้นกาล
#44
Posted 19 November 2012 - 22:17
ในตอนรักษาต้องใช้เกร็ดเลือด ..... บางครั้งหมอบอกขอ 10 อาจได้ไม่ครบทัยทีแต่ทยอยมา
แต่ก็ได้มาเรื่อยๆจนครบ....และไม่เคยมีค่าใช้จ่ายที่ว่าเป็นค่าเกร็ดเลือดเลย
#46
Posted 20 November 2012 - 13:37
ใจรัญพวกนี้มันไม่ได้มีอะไรมากมาย เพียงแค่ต้องการ ทำลายแบบโยงใย
ที่บัดซบกันได้ขนาดนี้ไม่ใช่อะไรเลย
เพียงความเชื่อที่จะสร้างสังคมแบบใหม่อันศิวิไล
จึงจ้องทำลายทุบทิ้งรากฐานทุกๆอย่าง ที่มันเชื่อว่าเป็นส่วนสำคัญเป็นองค์ประกอบของสังคมเก่า
พวกหัวก้าวหน้าดักดานทั้งนั้นละครับ ไม่เชื่อไล่ดูประวัติความคิดเห็นของพวกมันดูได้ อัปpreeเรียกพี่ทั้งนั้น
- voodoo likes this
#47
Posted 20 November 2012 - 14:59
#48
Posted 22 November 2012 - 13:11
หรือฟังเขาเล่าว่า
คิดเยอะๆ ก่อนตัดสินใจ
#49
Posted 24 March 2014 - 23:46
สบายใจที่ได้ทำความดี และผมเชื่อมั่นในองค์กรนี้เสมอมาครับ ข้อมูลไม่ชัดเจน
#50
Posted 25 March 2014 - 00:01
พ่อเล่าว่าสมัยก่อนมีหนังดังมากซื่อ วัลลี เป็นเด็กกตัณญู
พ่อเล่านะ ผมไม่ทันได้ดู
ในเรื่องแม่วัลลีไปขายเลือดเพื่อเอาเงินมาเลี้ยงดูครอบครัว
ไม่แน่ใจนะ ยุคนั้นขายเลือดได้ด้วยหรือยังไง
ปล.พ่อเล่าให้ฟังจริงๆนะ ผมไม่ทัน
ผิดครับ วัลลีไม่ได้ขายเลือด เธอวิ่งจากโรงเรียนมาดูแลยายตอนเที่ยงทุกวัน
วัลลี มีตัวตนจริงๆ อายุมากกว่าผมไม่กี่ปี http://th.wikipedia....i/วัลลี_บุญเส็ง
Edited by voodoo, 25 March 2014 - 00:05.
1 user(s) are reading this topic
0 members, 1 guests, 0 anonymous users