16 ความเห็นในกระทู้นี้

[ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่]

http://www.oknation....2/11/17/entry-1

ถ้านายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร ตั้งใจที่จะสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นผู้นำของไทยที่เดินทางไปต่างมากที่สุดในปีแรกของการนั่งในตึกไทยคู่ฟ้า เธอก็คงทำสำเร็จเรียบร้อยไปแล้ว และอาจจะกลายเป็นผู้นำที่สะสมไมล์บินอันดับหนึ่งของอาเซียนไปแล้ว

ถ้าดูเฉพาะในเชิงสถิติ ก็คงต้องบอกว่าน่าประทับใจทีเดียว ในเวลาเพียงปีเศษๆ คุณยิ่งลักษณ์ เดินทางไปเยือนต่างประเทศมาแล้วเกือบ 20 ประเทศ ล่าสุดเฉพาะสองสัปดาห์แรกของเดือนนี้ก็ลุยไปแล้วอีกสามประเทศ เริ่มจากงานประชุมสุดยอดเอเซีย-ยุโรปที่ลาว ตามมาด้วยการประชุมเวทีประชาธิปไตยที่บาหลี อินโดนิเซีย และตบท้ายด้วยการเยือนกรุงลอนดอนของอังกฤษ ก่อนจะรีบบินกลับมาต้อนรับประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐ

คนไทยควรจะดีใจมากเลย ถ้าหากเรามีผู้นำที่ตั้งใจชูธงนโยบายต่างประเทศอย่างจริงจังเพื่อสร้างบทบาทให้ประเทศไทยโดดเด่นในเวทีโลก จะเสียงบประมาณค่าเครื่องบินค่าที่พักของบรรดาผู้ติดตามที่แห่กันไปเป็นโขยงเท่าไหร่ก็ไม่เสียดาย แถมควรสนับสนุนให้แวะไปเยี่ยมเยียนอีกร้อยกว่าประเทศที่เหลือจะได้ปักธงไทยให้เด่นเป็นสง่าไปทั่วโลก

แต่การขึ้นเครื่องบินไปแวะประเทศโน้นประเทศนี้เป็นส่วนที่ง่ายที่สุดของการดำเนินนโยบายต่างประเทศ เพราะมันไม่ต้องอาศัยความรู้ความสามารถอะไรมากมาย แค่เดินตามหมายหรือกำหนดการ (รวมทั้งอ่านสคริปต์) ที่ทีมงานจัดให้ก็ถือว่าใช้ได้แล้ว

รัฐบาลคงรู้ดีว่าที่คุณยิ่งลักษณ์บินไปบินมาบ่อยๆ แบบนี้อาจจะถูกชาวบ้านนินทาได้ว่าปัญหาของประเทศชาติเยอะแยะไม่สนใจ มัวแต่หาเรื่องเดินทางออกนอกประเทศเพื่อไม่ต้องตอบคำถามสื่อมวลชนหรือ ส.ส. ฝ่ายค้าน ก็เลยส่งนายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศไปออกรายการ “รัฐบาลยิ่งลักษณ์ พบประชาชน” เมื่อวันเสาร์ที่แล้วเพื่ออธิบายว่าทำไมนายกฯ ยิ่งลักษณ์ต้องเดินทางไปต่างประเทศเป็นว่าเล่น

แต่ฟังคุณสุรพงษ์สาธยายในรายการแล้ว ผมก็ยังนึกภาพไม่ออกว่าที่ท่านนายกฯ เดินทางไปต่างประเทศแบบไม่หยุดหย่อนนั้น จริงๆ แล้วเป้าหมายคืออะไรกันแน่ (นอกจากเดินตรวจแถวทหาร ถ่ายรูปคู่กับเจ้าบ้าน หรือแต่งชุดสวยๆ เพื่อให้สื่อมวลไทยที่ติดตามไปถ่ายรูปส่งกลับมาให้ชาวบ้านได้ดูกัน)

คุณสุรพงษ์อ้างว่านายกฯ ยิ่งลักษณ์ใช้โอกาสเยือนต่างประเทศเล่าให้ผู้นำประเทศทั้งหลายว่าการเมืองบ้านเราพัฒนาไปถึงไหนและช่วยสร้างความมั่นใจต่อความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจไทย จนมีผลให้ผู้นำหลายประเทศอยากมาเยือนประเทศไทย ยิ่งไปกว่านั้นท่านนายกฯยัง ใช้เป็นโอกาสแสวงหาแหล่งพลังงานในประเทศที่ไปเยือน และอธิบายให้ฟังถึงบทบาทของไทยในการเข้าสู่ความเป็นประชาคมอาเซียน

แต่ถามจริงๆ เถอะ นายกฯ ของเราต้องเสียเวลาและเปลืองงบประมาณมากมายเพื่อไปบอกเล่าในสิ่งที่ผู้นำประเทศเหล่านี้สามารถหาข้อมูลจากสถานทูตตัวเองหรือจากอินเตอร์เน็ตได้อยู่แล้ว

เราควรสนับสนุนเต็มที่ถ้าคุณยิ่งลักษณ์ต้องการเป็นผู้นำที่จะปักธงไทยในเวทีโลกจริงๆ แต่นั่นหมายความว่าคุณยิ่งลักษณ์และทีมงานด้านต่างประเทศต้องบอกคนไทยได้ว่านโยบายต่างประเทศของไทยหน้าตาเป็นอย่างไร และรัฐบาลชุดนี้จะพาประเทศชาติไปในทิศทางไหน

จนถึงทุกวันนี้ เรายังไม่เคยได้ยินคุณยิ่งลักษณ์พูดอะไรที่เป็นเรื่องเป็นราวเกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศแม้แต่ครั้งเดียว บทบาทของไทยจะอยู่ที่ไหนในวันที่อาเซียน 10 ประเทศรวมตัวเป็นประชาคมในอีกเพียงสองปีกว่าข้างหน้า หรือไทยจะวางตัวอย่างไรในภาวะที่ดุลอำนาจในภูมิภาคนี้กำลังเปลี่ยนเพราะการเติบโตทางเศรษฐกิจและทางทหารของจีน คุณยิ่งลักษณ์ก็ไม่เคยบอกเรา

เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าที่อุตสาห์ไปร่วมประชุมระดับผู้นำเอเซียและยุโรปที่กรุงเวียงจันท์ หรือที่เวทีประชาธิปไตยระดับโลกที่บาหลี คุณยิ่งลักษณ์ได้แสดงอะไรหรือพูดอะไรที่มีความหมายบ้าง อย่างน้อยก็ทำให้คนไทยภูมิใจได้บ้างว่าเรามีผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ในระดับสากล (เราคงคาดหวังมากกว่าการได้ยินท่านนายกฯ กลับมาเล่าให้ฟังว่าได้ไปพูดถึงเรื่องกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี การท่องเที่ยวหรือการส่งออกอาหารไทยให้เจ้าบ้านฟัง)

ยิ่งการมาเยือนประเทศไทยของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ก็ยิ่งไม่ต้องพูดถึง รัฐบาลบอกเราไม่ได้เลยว่าไทยจะได้อะไร หรือเสียอะไร หัวข้อการเจรจาและข้อตกลงที่จะลงนามร่วมกันระหว่างการเยือนผู้นำสหรัฐล้วนเป็นวาระที่กำหนดมาจากกรุงวอชิงตันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก หรือพันธมิตรด้านการร่วมมือทางทหาร

ความจริงทุกวันนี้ประเทศไทยอยู่ในฐานะที่จะแสดงบทบาทด้านการทูตในระดับสากลได้อย่างสบายๆ ในฐานะที่เป็นผู้ประสานงานอาเซียนกับจีนในเรื่องของทะเลจีนใต้ที่กำลังเป็นประเด็นความขัดแย้งที่มีทีท่าจะบานปลายกลายเป็นการเผชิญหน้าทางการทหารได้ แต่หลังจากสร้างความฮือฮาบวกความงงงวยให้กับประชาคมโลกด้วยวลีเด็ดที่ว่าจะใช้ความเป็นผู้หญิง (woman’s touch) ในการคลี่คลายปัญหาในทะเลจีนใต้ นายกฯ เราก็ไม่ได้ทำอะไรอีกเลยในเรื่องนี้

แต่ยังไงๆ ผมก็ยังเชียร์ให้คุณยิ่งลักษณ์เดินหน้าสะสมไมล์บินต่อไปอีก เพราะอย่างน้อยก็ถือว่าเป็น “ผลงาน” ที่เป็นรูปธรรมที่สุดงานหนึ่งของรัฐบาลชุดนี้ แต่ขอให้ท่านนายกฯ หาโอกาสอธิบายและตอบคำถามอย่างเป็นเรื่องราวหน่อยว่ารัฐบาลของท่านมีทิศทางนโยบายต่างประเทศอย่างไร และที่เดินทางไปโน้นมานี้นั้นมันช่วยเสริมบทบาทด้านต่างประเทศของไทยอย่างไร

แต่ขออย่างเดียว เวลาตอบคำถามเหล่านี้ ให้ช่วยหาพิธีกรที่มีกึ๋นและเป็นตัวของตัวเองหน่อย ไม่ใช่เอาประเภทเลียแข้งเลียขาอย่างที่เห็นทุกเช้าวันเสาร์

หวังว่าคงไม่ใช่เรื่องที่ “ยาก” เกินไปสำหรับนายกฯ ที่ทีมงานพยายามจะบอกว่าเป็น“หญิงเก่ง” และ “เรียนรู้เร็ว”

[Moo3storey]

ห้าๆๆ เป็นรมต.ได้บินฟรีแล้วยังมีหน้าจะสะสมไมล์อีก

จริงๆผมว่านายกคงต้องมีสะสมอยู่ เพราะคนที่เดินทางบ่อยๆ ก็มักจะสะสมนู่น นี่ นั่น ไว้เป็นที่ระรึก

บางคนก็สะสมสบู่ของโรงแรม ฯลฯ

ส่วนนายกจะสะสมอะไรผมไม่ทราบ เหอๆๆ แต่ถ้าสะสมโพยก็คงแปะได้เต็มฝาบ้านแล้วล่ะ

[pooyong]

http://www.oknation....2/11/17/entry-1


1. แต่ฟังคุณสุรพงษ์สาธยายในรายการแล้ว ผมก็ยังนึกภาพไม่ออกว่าที่ท่านนายกฯ เดินทางไปต่างประเทศแบบไม่หยุดหย่อนนั้น จริงๆ แล้วเป้าหมายคืออะไรกันแน่ (นอกจากเดินตรวจแถวทหาร ถ่ายรูปคู่กับเจ้าบ้าน หรือแต่งชุดสวยๆ เพื่อให้สื่อมวลไทยที่ติดตามไปถ่ายรูปส่งกลับมาให้ชาวบ้านได้ดูกัน)


2. จนถึงทุกวันนี้ เรายังไม่เคยได้ยินคุณยิ่งลักษณ์พูดอะไรที่เป็นเรื่องเป็นราวเกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศแม้แต่ครั้งเดียว

3. เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าที่อุตสาห์ไปร่วมประชุมระดับผู้นำเอเซียและยุโรปที่กรุงเวียงจันท์ หรือที่เวทีประชาธิปไตยระดับโลกที่บาหลี คุณยิ่งลักษณ์ได้แสดงอะไรหรือพูดอะไรที่มีความหมายบ้าง

4. ยิ่งการมาเยือนประเทศไทยของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ก็ยิ่งไม่ต้องพูดถึง รัฐบาลบอกเราไม่ได้เลยว่าไทยจะได้อะไร หรือเสียอะไร

5. หวังว่าคงไม่ใช่เรื่องที่ “ยาก” เกินไปสำหรับนายกฯ ที่ทีมงานพยายามจะบอกว่าเป็น“หญิงเก่ง” และ “เรียนรู้เร็ว”

1. ถ่ายรูปมาลงเฟสบุคครับ

2. นโยบายบริหารในประเทศ ก็ยังไม่พูดครับ

3. แท็งก์ กิ้ว ที่ซั่ม

4. ได้โชว์ว่าโอบามา พอชนะเลือกตั้ง ก็มาไทยเลย ได้หน้าตั้งเยอะ
ส่วนไอ้ที่จะเสียน่ะ ช่างมัน เดี๋ยวก็หนไปอยู่ต่างประเทศแล้ว

5. สายไปแล้วมั้งครับ

[Moo3storey]

บางทีผมก็สงสัยนะ ว่าจริงๆแล้วยิ่งลักษณ์กับคนตระกูลชินวัตรรู้ตัวหรือเปล่าว่าตัวเองกำลังทำอะไร

ยิ่งลักษณ์รู้ตัวบ้างรึเปล่าว่าทำให้ประเทศเสียเวลาไปเปล่าๆ อย่างน้อยก็คง 4 ปี ตราบใดที่ยิ่งลักษณ์ยังจะเอ้อระเหยลอยชายอยู่แบบเดิม

คือยิ่งลักษณ์รู้ตัวมั๊ย ?
หรือว่ายิ่งลักษณ์คิดว่าตัวเองนั้นเป็นนารีขี่ม้าขาวจริงๆ เพราะอย่างในรายการ “รัฐบาลยิ่งลักษณ์ พบประชาชน” ที่ยิ่งลักษณ์มักจะพูดด้วยสีหน้าขึงขังว่าตัวเองทำงานหนักจริงๆ ทั้งแก้ปัญหาน้ำท่วม ฯลฯ และยิ่งลักษณ์มักจะไม่พอใจ(จนออกอาการ)ถ้ามีคนต่อว่าให้ว่าไม่ได้ทำงาน หรือ ทำงานไม่เก่ง อย่างเมื่อครั้งที่ยิ่งลักษณ์โอดครวญออกรายการที่มีคนล้อด้วยคำว่า "เอาอยู่"

หรือว่าจริงๆแล้วยิ่งลักษณ์ก็รู้ตัวเองดีว่าไม่ได้ทำงาน แค่มานั่งเก้าอี้นายกไปวันๆ ถึงเวลาก็หนีไปต่างประเทศ แล้วเจ๊แดงรู้ไหม ? ทักษิณรู้ไหม ?
ถ้ารู้ดีแก่ใจว่าไม่ได้ทำงานอะไร อย่างนี้แสดงว่า "ชั่ว" เพราะกำลังเล่นเกมแสวงหาผลประโยชน์ให้ตัวเอง ทำตัวเป็นนักธุรกิจเอาประเทศชาติไปหากิน โดยไม่สนใจบ้านเมืองและคนในชาติ นโยบายที่ทำอยู่ทุกวันนี้ไม่ว่าจะ จำนำข้าว กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ฯลฯ ก็ทำเพื่อเป็นประชานิยมหลอกชาวบ้าน

ส่วนคนที่บอกว่า "ปล่อยเจ๊ไปเหอะ เพราะยิ่งลักษณ์ไม่ใช่นายกตัวจริง คนที่เป็นนายกคือทักษิณ" คนที่พูดแบบนี้คุณรู้ได้ยังไงว่าไอ้แม้วมันทำงานอยู่ ผมอยากถามว่าแล้วทุกวันนี้ไอ้แม้วมันทำอะไรบ้าง เพราะในความเป็นจริงไอ้แม้วมันไม่ได้ทำอะไรเลย นอกจากเดินสายเอาผลประโยชน์ของชาติไปต่อรองเพื่อผลประโยชน์ของตัวมันเอง

[pooyong]

ยิ่งลักษณ์ กับ ทักษิณ ก็เหมือนคนสูงอายุ ที่พอมีอำนาจวาสนา
พอได้รับคำป้อยอ จากคนสอพลอรอบข้างบ่อยๆ ก็มักจะหลงตัวเอง
ตอนนี้เลยเสพติด อยากแต่จะรับฟัง หรือเลือกรับฟัง แต่คำสอพลอจากคนรอบข้าง
และหลอกตัวเองให้เชื่อ คำสอพลอนั้น ไม่ฟังความเป็นจริงหรอก

[nornoo]

เอ้า.....เขาไม่นับจำนวนโพยที่เจ๊เขาถือไม่ใช่หรือ
ที่สุดใน 3 โลก

Edited by nornoo, 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 05:51.

[IFai]

ฟังจากรายการข่าวบางรายการ นส.ปู ไปตปท.
โดยการเช่าเหมาเรือบินไปนะครับ ..จะสะสมไมล์ได้หรือ

ผมว่าคงเช่าเหมาเรือบินเป็นรายปี ..สะสมคอมมิชชั่น

สมแล้วกับสุภาษิตที่ว่า คางคกขึ้นวอ

ฟังข่าวฟ้าเทพไปเยือนตปท. ไป-กลับ โดยสายการบินไทย

[JUR1ST]

บินไปต่างประเทศจนเป็นงานหลักแล้วมั้ง สงสัยไมล์สะสมจะเยอะกว่า รมว. ต่างประเทศเสียอีก

[พันไมล์]

บางทีผมก็สงสัยนะ ว่าจริงๆแล้วยิ่งลักษณ์กับคนตระกูลชินวัตรรู้ตัวหรือเปล่าว่าตัวเองกำลังทำอะไร

ยิ่งลักษณ์รู้ตัวบ้างรึเปล่าว่าทำให้ประเทศเสียเวลาไปเปล่าๆ อย่างน้อยก็คง 4 ปี ตราบใดที่ยิ่งลักษณ์ยังจะเอ้อระเหยลอยชายอยู่แบบเดิม

คือยิ่งลักษณ์รู้ตัวมั๊ย ?
หรือว่ายิ่งลักษณ์คิดว่าตัวเองนั้นเป็นนารีขี่ม้าขาวจริงๆ เพราะอย่างในรายการ “รัฐบาลยิ่งลักษณ์ พบประชาชน” ที่ยิ่งลักษณ์มักจะพูดด้วยสีหน้าขึงขังว่าตัวเองทำงานหนักจริงๆ ทั้งแก้ปัญหาน้ำท่วม ฯลฯ และยิ่งลักษณ์มักจะไม่พอใจ(จนออกอาการ)ถ้ามีคนต่อว่าให้ว่าไม่ได้ทำงาน หรือ ทำงานไม่เก่ง อย่างเมื่อครั้งที่ยิ่งลักษณ์โอดครวญออกรายการที่มีคนล้อด้วยคำว่า "เอาอยู่"

หรือว่าจริงๆแล้วยิ่งลักษณ์ก็รู้ตัวเองดีว่าไม่ได้ทำงาน แค่มานั่งเก้าอี้นายกไปวันๆ ถึงเวลาก็หนีไปต่างประเทศ แล้วเจ๊แดงรู้ไหม ? ทักษิณรู้ไหม ?
ถ้ารู้ดีแก่ใจว่าไม่ได้ทำงานอะไร อย่างนี้แสดงว่า "ชั่ว" เพราะกำลังเล่นเกมแสวงหาผลประโยชน์ให้ตัวเอง ทำตัวเป็นนักธุรกิจเอาประเทศชาติไปหากิน โดยไม่สนใจบ้านเมืองและคนในชาติ นโยบายที่ทำอยู่ทุกวันนี้ไม่ว่าจะ จำนำข้าว กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ฯลฯ ก็ทำเพื่อเป็นประชานิยมหลอกชาวบ้าน

ส่วนคนที่บอกว่า "ปล่อยเจ๊ไปเหอะ เพราะยิ่งลักษณ์ไม่ใช่นายกตัวจริง คนที่เป็นนายกคือทักษิณ" คนที่พูดแบบนี้คุณรู้ได้ยังไงว่าไอ้แม้วมันทำงานอยู่ ผมอยากถามว่าแล้วทุกวันนี้ไอ้แม้วมันทำอะไรบ้าง เพราะในความเป็นจริงไอ้แม้วมันไม่ได้ทำอะไรเลย นอกจากเดินสายเอาผลประโยชน์ของชาติไปต่อรองเพื่อผลประโยชน์ของตัวมันเอง

64000 ล้านที่ต้องการ อาจจะได้คืนโดยไม่ต้องปรองดองไง

จากใต้โต๊ะการดีลต่างๆ โดยเอาผลประโยชน์ของชาติแลกมา

[RaRa]

จะไปไหนก็ไปเหอะ...ขออย่าเอาความเป็น "นายกของประเทศไทย" ไปขาย ก็เป็นพอ!!

[paj044]

รัฐบาลนี้ทีมงานเขามืออาชีพมั่กๆ เก็บความลับเก่ง ขนาดขายข้าว ยังเป็นความลับเลยคิดดู
แล้วจะให้บอกว่าวันๆนายกไปตปท. ไปทำอะไร ได้ยังไง
นั่นความลับขั้นสุดยอดเลยนะ ลับขนาดตัวนายก ยังไม่รู้เลยว่าไปทำไม

[Bookmarks]

พกโพยไปทุกประเทศ แล้วคิดว่า จะได้อะไรติดกลับมาหรือ

[V for Macaw]

พรวดดดดด สำลักชื่อกระทู้ 5555555555555555

[ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่]

ส่วนคนที่บอกว่า "ปล่อยเจ๊ไปเหอะ เพราะยิ่งลักษณ์ไม่ใช่นายกตัวจริง คนที่เป็นนายกคือทักษิณ" คนที่พูดแบบนี้คุณรู้ได้ยังไงว่าไอ้แม้วมันทำงานอยู่
ผมอยากถามว่าแล้วทุกวันนี้ไอ้แม้วมันทำอะไรบ้าง เพราะในความเป็นจริงไอ้แม้วมันไม่ได้ทำอะไรเลย นอกจากเดินสายเอาผลประโยชน์ของชาติไปต่อรองเพื่อผลประโยชน์ของตัวมันเอง

[อู๋ ฮานามิ]

เป็นนายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน(ตามป้ายข้างถนนหลายๆ จังหวัดที่ตอกย้ำวาทกรรมนี้กันเข้าไป)
ไม่ได้หมายความว่าบริสุทธิ์ผุดผ่องจนแตะต้องไม่ได้ หรือเลวร้ายย่ำแย่จนต้องด่ากันแรงๆ

ผลงานการทำงาน ก็สำคัญพอๆ กับที่มานั่นแหละ
ในเมื่อผลงานที่เห็นมันแย่จริง ก็ต้องติเตียนกันด้วยความหวังดีในฐานะผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งคนหนึ่ง

Edited by อู๋ ฮานามิ, 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 01:13.

[ปุถุชน]

http://www.oknation....2/11/17/entry-1

ถ้านายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร ตั้งใจที่จะสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นผู้นำของไทยที่เดินทางไปต่างมากที่สุดในปีแรกของการนั่งในตึกไทยคู่ฟ้า เธอก็คงทำสำเร็จเรียบร้อยไปแล้ว และอาจจะกลายเป็นผู้นำที่สะสมไมล์บินอันดับหนึ่งของอาเซียนไปแล้ว

ถ้าดูเฉพาะในเชิงสถิติ ก็คงต้องบอกว่าน่าประทับใจทีเดียว ในเวลาเพียงปีเศษๆ คุณยิ่งลักษณ์ เดินทางไปเยือนต่างประเทศมาแล้วเกือบ 20 ประเทศ ล่าสุดเฉพาะสองสัปดาห์แรกของเดือนนี้ก็ลุยไปแล้วอีกสามประเทศ เริ่มจากงานประชุมสุดยอดเอเซีย-ยุโรปที่ลาว ตามมาด้วยการประชุมเวทีประชาธิปไตยที่บาหลี อินโดนิเซีย และตบท้ายด้วยการเยือนกรุงลอนดอนของอังกฤษ ก่อนจะรีบบินกลับมาต้อนรับประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐ

คนไทยควรจะดีใจมากเลย ถ้าหากเรามีผู้นำที่ตั้งใจชูธงนโยบายต่างประเทศอย่างจริงจังเพื่อสร้างบทบาทให้ประเทศไทยโดดเด่นในเวทีโลก จะเสียงบประมาณค่าเครื่องบินค่าที่พักของบรรดาผู้ติดตามที่แห่กันไปเป็นโขยงเท่าไหร่ก็ไม่เสียดาย แถมควรสนับสนุนให้แวะไปเยี่ยมเยียนอีกร้อยกว่าประเทศที่เหลือจะได้ปักธงไทยให้เด่นเป็นสง่าไปทั่วโลก

แต่การขึ้นเครื่องบินไปแวะประเทศโน้นประเทศนี้เป็นส่วนที่ง่ายที่สุดของการดำเนินนโยบายต่างประเทศ เพราะมันไม่ต้องอาศัยความรู้ความสามารถอะไรมากมาย แค่เดินตามหมายหรือกำหนดการ (รวมทั้งอ่านสคริปต์) ที่ทีมงานจัดให้ก็ถือว่าใช้ได้แล้ว

รัฐบาลคงรู้ดีว่าที่คุณยิ่งลักษณ์บินไปบินมาบ่อยๆ แบบนี้อาจจะถูกชาวบ้านนินทาได้ว่าปัญหาของประเทศชาติเยอะแยะไม่สนใจ มัวแต่หาเรื่องเดินทางออกนอกประเทศเพื่อไม่ต้องตอบคำถามสื่อมวลชนหรือ ส.ส. ฝ่ายค้าน ก็เลยส่งนายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศไปออกรายการ “รัฐบาลยิ่งลักษณ์ พบประชาชน” เมื่อวันเสาร์ที่แล้วเพื่ออธิบายว่าทำไมนายกฯ ยิ่งลักษณ์ต้องเดินทางไปต่างประเทศเป็นว่าเล่น

แต่ฟังคุณสุรพงษ์สาธยายในรายการแล้ว ผมก็ยังนึกภาพไม่ออกว่าที่ท่านนายกฯ เดินทางไปต่างประเทศแบบไม่หยุดหย่อนนั้น จริงๆ แล้วเป้าหมายคืออะไรกันแน่ (นอกจากเดินตรวจแถวทหาร ถ่ายรูปคู่กับเจ้าบ้าน หรือแต่งชุดสวยๆ เพื่อให้สื่อมวลไทยที่ติดตามไปถ่ายรูปส่งกลับมาให้ชาวบ้านได้ดูกัน)

คุณสุรพงษ์อ้างว่านายกฯ ยิ่งลักษณ์ใช้โอกาสเยือนต่างประเทศเล่าให้ผู้นำประเทศทั้งหลายว่าการเมืองบ้านเราพัฒนาไปถึงไหนและช่วยสร้างความมั่นใจต่อความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจไทย จนมีผลให้ผู้นำหลายประเทศอยากมาเยือนประเทศไทย ยิ่งไปกว่านั้นท่านนายกฯยัง ใช้เป็นโอกาสแสวงหาแหล่งพลังงานในประเทศที่ไปเยือน และอธิบายให้ฟังถึงบทบาทของไทยในการเข้าสู่ความเป็นประชาคมอาเซียน

แต่ถามจริงๆ เถอะ นายกฯ ของเราต้องเสียเวลาและเปลืองงบประมาณมากมายเพื่อไปบอกเล่าในสิ่งที่ผู้นำประเทศเหล่านี้สามารถหาข้อมูลจากสถานทูตตัวเองหรือจากอินเตอร์เน็ตได้อยู่แล้ว

เราควรสนับสนุนเต็มที่ถ้าคุณยิ่งลักษณ์ต้องการเป็นผู้นำที่จะปักธงไทยในเวทีโลกจริงๆ แต่นั่นหมายความว่าคุณยิ่งลักษณ์และทีมงานด้านต่างประเทศต้องบอกคนไทยได้ว่านโยบายต่างประเทศของไทยหน้าตาเป็นอย่างไร และรัฐบาลชุดนี้จะพาประเทศชาติไปในทิศทางไหน

จนถึงทุกวันนี้ เรายังไม่เคยได้ยินคุณยิ่งลักษณ์พูดอะไรที่เป็นเรื่องเป็นราวเกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศแม้แต่ครั้งเดียว บทบาทของไทยจะอยู่ที่ไหนในวันที่อาเซียน 10 ประเทศรวมตัวเป็นประชาคมในอีกเพียงสองปีกว่าข้างหน้า หรือไทยจะวางตัวอย่างไรในภาวะที่ดุลอำนาจในภูมิภาคนี้กำลังเปลี่ยนเพราะการเติบโตทางเศรษฐกิจและทางทหารของจีน คุณยิ่งลักษณ์ก็ไม่เคยบอกเรา

เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าที่อุตสาห์ไปร่วมประชุมระดับผู้นำเอเซียและยุโรปที่กรุงเวียงจันท์ หรือที่เวทีประชาธิปไตยระดับโลกที่บาหลี คุณยิ่งลักษณ์ได้แสดงอะไรหรือพูดอะไรที่มีความหมายบ้าง อย่างน้อยก็ทำให้คนไทยภูมิใจได้บ้างว่าเรามีผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ในระดับสากล (เราคงคาดหวังมากกว่าการได้ยินท่านนายกฯ กลับมาเล่าให้ฟังว่าได้ไปพูดถึงเรื่องกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี การท่องเที่ยวหรือการส่งออกอาหารไทยให้เจ้าบ้านฟัง)

ยิ่งการมาเยือนประเทศไทยของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ก็ยิ่งไม่ต้องพูดถึง รัฐบาลบอกเราไม่ได้เลยว่าไทยจะได้อะไร หรือเสียอะไร หัวข้อการเจรจาและข้อตกลงที่จะลงนามร่วมกันระหว่างการเยือนผู้นำสหรัฐล้วนเป็นวาระที่กำหนดมาจากกรุงวอชิงตันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก หรือพันธมิตรด้านการร่วมมือทางทหาร

ความจริงทุกวันนี้ประเทศไทยอยู่ในฐานะที่จะแสดงบทบาทด้านการทูตในระดับสากลได้อย่างสบายๆ ในฐานะที่เป็นผู้ประสานงานอาเซียนกับจีนในเรื่องของทะเลจีนใต้ที่กำลังเป็นประเด็นความขัดแย้งที่มีทีท่าจะบานปลายกลายเป็นการเผชิญหน้าทางการทหารได้ แต่หลังจากสร้างความฮือฮาบวกความงงงวยให้กับประชาคมโลกด้วยวลีเด็ดที่ว่าจะใช้ความเป็นผู้หญิง (woman’s touch) ในการคลี่คลายปัญหาในทะเลจีนใต้ นายกฯ เราก็ไม่ได้ทำอะไรอีกเลยในเรื่องนี้

แต่ยังไงๆ ผมก็ยังเชียร์ให้คุณยิ่งลักษณ์เดินหน้าสะสมไมล์บินต่อไปอีก เพราะอย่างน้อยก็ถือว่าเป็น “ผลงาน” ที่เป็นรูปธรรมที่สุดงานหนึ่งของรัฐบาลชุดนี้ แต่ขอให้ท่านนายกฯ หาโอกาสอธิบายและตอบคำถามอย่างเป็นเรื่องราวหน่อยว่ารัฐบาลของท่านมีทิศทางนโยบายต่างประเทศอย่างไร และที่เดินทางไปโน้นมานี้นั้นมันช่วยเสริมบทบาทด้านต่างประเทศของไทยอย่างไร

แต่ขออย่างเดียว เวลาตอบคำถามเหล่านี้ ให้ช่วยหาพิธีกรที่มีกึ๋นและเป็นตัวของตัวเองหน่อย ไม่ใช่เอาประเภทเลียแข้งเลียขาอย่างที่เห็นทุกเช้าวันเสาร์

หวังว่าคงไม่ใช่เรื่องที่ “ยาก” เกินไปสำหรับนายกฯ ที่ทีมงานพยายามจะบอกว่าเป็น“หญิงเก่ง” และ “เรียนรู้เร็ว”

แต่ ยังไงๆ ผมก็ยังเชียร์ให้คุณยิ่งลักษณ์เดินหน้าสะสมไมล์บินต่อไปอีก เพราะอย่างน้อยก็ถือว่าเป็น “ผลงาน” ที่เป็นรูปธรรมที่สุดงานหนึ่งของรัฐบาลชุดนี้.......


ผมไม่เชียร์ครับ....
1. การคอร์รั่ปชั่นในรัฐบาลนี้ไม่ต้องรอให้นายกรัฐมนตรีอยู่ชี้นำหรือสั่งการ....
บรรดาเจ๊และคุณหนูทั้งหลายสั่งการแทนได้.....
2. ผู้สันทัดกรณีชาวต่างด้าวรู้จัก"โพยไทย"มากกว่าเดิม....
3.เงินใช้จ่าย "shopping" เป็นเงินจากภาษีที่ผมถูกหักไป....
4."บัตรเติมเงิน" ตั้งกระทู้/คคห.ไร้สาระในเวบเสรีไทยดอทเนทมากกว่าที่ควร....
5......ฯลฯ

[marrykate]

อันนี้เอามาจาก comment ใต้คลิป "ยิ่งลักษณ์ช๊อตคำถาม ต้องเรียกล่าม" สรุปแล้วที่เดินทางท่องเที่ยว ตปท.(ด้วยภาษีเราชาวไทย) ป้าไปโชว์ชุดใหม่ล้วนๆ

........................................................................................................

นายกฯ อภิสิทธิื ได้รับคำชมจากนานาประเทศมากกว่า­นายกฯ ปู เยอะครับ
ทั้งในเอเปก และใน อีโคฯ ฟอร์ลั่ม
นายกฯ แต่ละคนของไทย ได้คุยทวิภาคีกับชาติใดบ้าง เราเข้าไปบัณทึก สำนักนายกฯ ได้ครับ
แล้วจะเห็นว่า นายกปูของเรา...อยู่ในระดับที่ 'สอบไม่ผ่าน' เพราะ 2 งานดังกล่าว นายกฯ ปู มีคุย 2 ประเทศ งานละ 1 ประเทศ
ส่วนอภิสิทธิ์ 2 งาน 17 ประเทศ 4 องค์ระดับนานาชาติ ห่างชั้นกันเยอะครับ ไปขอเอกสารที่สำนักฯ ซิครับ
eatmail1000 4 hours ago 3