
MThai News ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวิฑูรย์ กมลนฤเมธ ประธานสภาอุตสาหกรรมจัดงหวัดขอนแก่น เปิดเผยถึงการปรับอัตราค่าแรงเป็น 300 บาท ที่มีผลวันที่ 1 มกราคม 2556 ว่าจากการหารือกับผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมใน จ.ขอนแก่นและจังหวัดใกล้เคียง ถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นใน 3 กลุ่ม คือ
สถานประกอบการขนาดใหญ่ เช่น โรงงานแห-อวน โรงงานผลิตรองเท้า และโรงงานทางด้านสิ่งทอ อาจจะย้ายฐานการผลิตไปขนาดกลางจะต้องรับภาระต้นทุนสูงขึ้นมีกำไรลดลง ส่วนกลุ่มสุดท้ายที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด คือ สถานประกอบการขนาดเล็ก ที่ไม่สามารถแบกรับค่าใช้จ่ายสูงขึ้นเท่าตัว ได้และอยู่ในข่ายที่อ่อนไหวต่อการเลิกกิจการ
ทั้งนี้ รายใหญ่ขณะนี้นอกจากจะย้ายฐานการผลิตแล้ว ทราบว่าบางแห่งไม่ได้ปิดกิจการ แต่เลิกจ้างแรงงานที่มีอยู่ 700 คน และให้คนงานรับเป็นงานเหมาจ่ายค่าแรงตามชิ้นงานที่รับไปทำที่บ้านแทน ทำให้แรงงานกลุ่มนี้จะเป็นแรงงานนอกระบบที่ไม่มีทั้งประกันสังคม สวัสดิการและค่าล่วงเวลา
ขณะที่ผู้ประกอบการ จ.มหาสารคาม ที่มีโรงงาน 3 แห่ง ขายกิจการไปแล้ว 2 แห่ง ก่อนที่จะถึงวันปรับอัตราค่าแรงเป็น 300 บาท เพื่อจะได้ไม่ต้องแบกรับภาระค่าแรง แต่ที่กระทบหนักสุดคือกลุ่มว้ยแรงงานที่ต้องตกงานเพิ่มมากขึ้นจากการปิดกิจการหรือจ้างแรงงานต่างด้าวเพื่อลดภาระแทน
อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ผู้ประกอบการเองก็ยังไม่มีความพร้อมในการแบกรับภาระค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น ไม่ใช่เพียงค่าแรงเท่านั้น ยังรวมถึงต้นทุนวัตถุดิบด้วยขณะที่ภาครัฐบาลไม่ได้ให้ความสนใจ
MThai News
http://news.mthai.co...ews/203569.html