Jump to content


Photo
- - - - -

พท.ดิ้นทุกทางสกัดม็อบตัดไฟต้านรัฐบาล


  • Please log in to reply
ยังไม่มีผู้แสดงความเห็นในกระทู้นี้

#1 55555

55555

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 13,795 posts

ตอบ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 18:52

http://www.posttoday...ตัดไฟต้านรัฐบาล


ออกอาการ “หวั่นไหว” ไม่น้อย กับนัดชุมนุมใหญ่ต้านรัฐบาล ครั้งที่ 2 ภายใต้การนำของ เสธ.อ้าย

โดย...ธนพล บางยี่ขัน

พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ประธานองค์การพิทักษ์สยาม ในวันที่ 24 พ.ย.นี้ ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า
ทุกสรรพกำลังฝาก “เพื่อไทย” ดิ้นรนทุกทาง งัดทุกกลยุทธ์ออกมาเดินเกมเบรกกระแส ลดทอนพลังการชุมนุมด้วยทุกยุทธวิธีเท่าที่จะทำได้
แน่นอนว่า “จุดแข็ง” กว่า 300 เสียงที่มีอยู่ในมือ ทำให้เสถียรภาพ “รัฐบาลเพื่อไทย” แข็งแรงจนไม่ต้องพะวักพะวนกับกลเกมในสภาฯ ที่ตัดสินสุดท้ายกันด้วยคะแนนโหวต
แรงเสียดทานนอกสภาฯ จึงเป็นปัจจัยสุ่มเสี่ยงที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่อาจนิ่งนอนใจ จนถึงขึ้นเคยมีแนวคิด เตรียมประกาศใช้ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร

สอดรับกับ “โฟนอิน” ล่าสุดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ไปยังกลุ่มคนเสื้อแดง จ.สมุทรปราการ ที่พูดแบบมีนัยถึงการชุมนุมครั้งนี้ว่าให้คนเสื้อแดงพร้อมอยู่ในที่ตั้ง รอรับเหตุการณ์ที่ไม่เป็นผลดีต่อรัฐบาล

สัญญาณวิตกที่เห็นได้ชัด คือ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ เตรียมแผนแม่บท 9 ขั้นตอน ไว้รองรับสถานการณ์ ท่ามกลางจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้ 5,000-8,000 นาย ไว้ดูแลทำเนียบรัฐบาล

พร้อมฟอร์ม ครม.ชุดย่อย 9 คน ประกอบด้วย 1.ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง 2.ปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกฯ 3.สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกฯ และรมว.ต่างประเทศ 4.พงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกฯ และรมว.ศึกษาธิการ 5.วราเทพ รัตนากร รมต.ประจำสำนักนายกฯ 6.จารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย 7.พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม 8.พล.อ.พฤณท์ สุวรรณทัต รมช.คมนาคม 9.พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม รวมทั้ง อัชพร จารุจินดา เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อพร้อมจะเรียกประชุมรับมือการชุมนุมได้อย่างทันท่วงทีหากเกิดเหตุฉุกเฉินโดยไม่จำเป็นต้องมีนายกฯ เป็นประธาน

ขณะที่ ผบ.ตร. ที่จะติดตามสถานการณ์วิเคราะห์นาทีต่อนาที หรือ วันต่อวัน ได้สั่งการไปยังเจ้าหน้าที่ ตำรวจ จาก บช.น. บช.ภ.1-9 บช.ก. ทั้งหมด 112 กองร้อย ประมาณ 16,800 นาย และกำลังอาสาสมัครตำรวจ ซึ่งมีอีกประมาณ 29,329 คน จะมาช่วยดูแลความปลอดภัยในพื้นที่

อีกด้านหนึ่งกระทรวงมหาดไทย ผุดวอร์รูมติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยยึดบทเรียนจากเหตุการณ์ 19 ก.ย. 2549 และเหตุการณ์สลายการชุมนุมหน้ารัฐสภา ในวันที่ 7 ต.ค. 2551 เป็นแนว
โดยนายกฯ จะสั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดทุกจังหวัด ให้ 2 หน่วยงานเป็นหลักในการติดตามสถานการณ์

ทั้งนี้ จากม็อบนอกสายตาที่สามารถจุดกระแสให้คนหลายหมื่นไปรวมตัวกันแน่นขนัดสนามม้านางเลิ้งในการชุมนุมครั้งแรก 28 ต.ค.พร้อมยกระดับการชุมนุมครั้งใหม่ใหญ่กว่าเดิม ด้วยเป้าผู้ร่วมชุมนุมเรือนแสน ยิ่งทำให้รัฐบาลไม่อาจอยู่นิ่งได้
เริ่มตั้งแต่ “จุดอ่อน” สำคัญ เรื่องการชี้แจงต่อสาธารณะของ “เสธ.อ้าย” จน “เพื่อไทย” และ “เสื้อแดง” หยิบยก วาทกรรม “แช่แข็งประเทศ” มา “ดิสเครดิต” กลบเป้าหมายเคลื่อนไหวโดยรวมที่ต่อต้านรัฐบาลด้วยเหตุผล คือ 1.ปล่อยให้มีการจาบจ้วงสถาบัน 2.เป็นรัฐบาลหุ่นเชิด และ 3.ทุจริตคอร์รัปชัน

ปมนี้ถูกขยายผลต่อเนื่องเมื่อเห็นว่าการแช่แข็งจะนำไปสู่การถอยหลังของระบอบประชาธิปไตย โดยมี “บก.ลายจุดสมบัติ บุญงามอนงค์” แกนนำกลุ่มวันอาทิตย์สีแดง กระโดดรับลูกจัดกิจกรรมล้อเลียนถล่มแนวความคิด “แช่แข็ง” กระจายไปทั่วอินเทอร์เน็ต คล้ายกับ “พานทองแท้ ชินวัตร” บุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ให้แฟนคลับประกวดตั้งชื่อม็อบผ่านเฟซบุ๊ก
จำนวนผู้เข้าร่วมชุมนุมครั้งที่ผ่านมาหลายหมื่นคน ทำให้เที่ยวนี้ต้องตัดไฟตั้งแต่ต้นลม สกัดกลุ่มมวลชนในพื้นที่หลายจังหวัด ผ่านกลไกของกระทรวงมหาดไทยไล่ไปตามลำดับ พร้อมคาดโทษหากพื้นที่ใดปล่อยปละไม่สามารถสกัดมวลชนไม่ให้ไปร่วมชุมนุมได้

ต่อเนื่องมายังฝั่งตำรวจกำชับไปตั้งแต่ ระดับผู้บัญชาการภาค ผู้บังคับการจังหวัด ให้ช่วยสกัดกั้นมวลชน มีการตั้งด่านสกัดเข้มงวด พร้อมทั้งข่มขู่ผู้ประกอบการขนส่ง ทั้งรถตู้ รถทัวร์ ให้งดรับงาน และงดให้บริการขนส่งมวลชนเข้ากรุงเทพฯ
โดยเฉพาะพื้นที่ซึ่งรายงานข่าวจากหน่วยงานด้านความมั่นคงระบุว่า มีมวลชนเตรียมเดินทางเข้าร่วมชุมนุม 20 จังหวัด อาทิ ตาก ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ นครราชสีมา เลย อุบลราชธานี ลพบุรี สิงห์บุรี นครนายก จันทบุรี ระยอง กระบี่ สตูล ฯลฯ
ทางฝั่ง สส.เพื่อไทย ก็ได้รับมอบหมายให้ไปชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนในแต่ละพื้นที่ กล่อมไม่ให้เข้ามาร่วมชุมนุมในครั้งนี้
ขณะที่อีกด้านหนึ่งมีความพยายามปล่อยข่าวถล่มกลุ่มผู้ชุมนุม ว่าได้รับค่าจ้างให้เข้าร่วมชุมนุมตั้งแต่ 1,0003,000 บาท หรือมีพรรคการเมืองบางพรรคเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงขนคนเข้าร่วมชุมนุม
อีกด้านหนึ่งยังพบความพยายามปลุกกระแสสร้างความน่ากลัวให้กับการชุมนุมครั้งนี้ ดังจะเห็นว่าหน่วยงานด้านความมั่นคงสำคัญ อย่าง สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ออกมาเปิดเผยข้อมูลเรื่องการเตรียมเสื้อแดงเทียมนับ 5,000 คนเข้ามาปั่นป่วนในการชุมนุม ซึ่งสุ่มเสี่ยงจะเกิดการปะทะบานปลายนำไปสู่ความรุนแรง ปั่นป่วน หรือความพยายามสร้างสถานการณ์จากมือที่ 3 หรือการจับตาไปถึงกระแสข่าว เรื่องระเบิดเอ็ม 79 ที่จะนำมาใช้ในพื้นที่
ทางฝั่ง “เสื้อแดง” เคยมีแผนที่จะชุมนุมรอบปริมณฑลทั่วทั้ง กทม. เพื่อเฝ้าระวังเหตุการณ์ แต่สุดท้ายมีมติยกเลิกการชุมนุมดังกล่าว และให้มวลชนติดตามสถานการณ์อยู่ในที่ตั้ง ขณะที่แกนนำจะตั้งวอร์รูมที่ห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียลลาดพร้าวเพื่อติดตามสถานการณ์ และหากเกิดเหตุสามารถเป่านกหวีดระดมคน 1 แสนคนได้ทันที
ไม่เว้นแม้แต่ “เครือข่ายทหาร” ในเพื่อไทย โดยเฉพาะ อดีตเตรียมทหารรุ่น 5 และ เตรียมทหารรุ่น 10 ที่ตบเท้าออกมาส่งสัญญาณผ่านแถลงการณ์คัดค้านการชุมนุมทางการเมืองขององค์การพิทักษ์สยาม พร้อมเรียกร้อง เสธ.อ้าย ไม่ให้ดึงอดีตนายทหารเข้ามาร่วมการชุมนุม
การเคลื่อนไหวจากฝั่งเพื่อไทยระลอกนี้ ล้วนแต่ตอกย้ำความหวั่นวิตก จนต้องดิ้นทุกทางสกัดไม่ให้การชุมนุมในวันที่ 24 พ.ย.นี้ บานปลายกลายเป็นหอกข้างแคร่ทิ่มแทงรัฐบาลในอนาคตต่อไป



พวกเผาไทย มันเอาม๊อบมาทำชั่วไว้แยะ...

พอมีคนทำม๊อบมาไล่หน่อย..ขี้ขึ้นสมอง..เตรียมการณ์ กันใหญ่ เหมือนกับจะไปสู้กับม๊อบสันดานแดงซะงั้น..

ยิ่งข่าวจับตัวนายกยิ่งลักษณ์ นั่นฮาแซงหน้า โอ๊กท่าขี้เหล็กไปแล้ว..

:lol:




ผู้ใช้ 0 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้

สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 0 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน