นักข่าวสงคราม ตกงานเป็นแถวถ่ายภาพรุนแรง มีด้วยเหรอครับคุณตำรวจ
เมื่อเช้าหน่วยตำรวจที่ตีกับยิงแก๊สน้ำตาเป็นตำรวจจากจ.อุดรฯนะคับ
#51
ตอบ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 19:18
#53
ตอบ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 21:01
ถุย หลานรนสร้างชาติ
มาตราไหนของ พรบ.ความมั่นคง ให้สิทธิทำร้าย ประชาชน
ที่คุณยกมาทั้ง 15 , 16 นะ เค้าให้แค่ควมคุมตัวเท่านั้น ไม่มีสิทธิไปทำร้ายคนทีไม่มีอาวุธ โดยเฉพาะกรณีนักข่าวซึ่งเป็นสือมวลชน
กรุณาตอบที่
เป็น คุณ ยอมให้จับง่ายๆ เหรอ
และค่อนข้างแน่นอนคงไม่มีใครยอมให้จับง่ายๆ แบบกิ้งกือครับ
ต้องสู้กันหน่อย
แบบนี้คราาาาบ
Edited by หลานคนสร้างชาติ, 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 21:06.
#54
ตอบ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 21:03
ได้หลานกากๆ แบบนี้ผมตบหัวทิ่มครับ โง่ +. ไร้สาระมากๆ
=_____=
กระทู้ 400. คน. ของกากหมูไม่เห็น หลานกากๆ เข้าไปเรียกร้องหอกอะไรเลย
อ่อ. ขี้ข้าแม้ว เหมือนกัน
ขอลิงค์ครับ จะเข้าไปอ่าน อยากรู้ อยากเห็นครับ
#55
ตอบ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 21:08
- หลานคนสร้างชาติ likes this
#56
ตอบ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 21:13
แล้วมิทราบว่านักข่าวไปกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักรอย่างไรครับ แล้วทำประกาศออกมารึยังว่าให้ควบคุมตัว ทำร้ายร่างกาย พังข้าวของนักข่าวได้ครับ เอาประกาศ กอ.รมน. มาให้ดูหน่อยครับ
ถามมาตราใดไม่ตอบมาล่ะครับ สงสัยก็ควบคุมได้ที่ใช้อำนาจมาตราใดครับ ทำร้ายร่างกาย พังข้าวของนักข่าวใช้อำนาจมาตราใดครับ
พ.ร.บ.ความมั่นคง มาตราไหนให้อำนาจจับกุม ทำร้ายร่างกาย พังข้าวของนักข่าวได้ครับ
ไม่ตั้งข้อหาแล้วจับไปทำไมครับ เข้าใจผิดเลยจับได้ พังของได้ ทำร้ายร่างกายได้ใช่ไหมครับ
ปกติไม่ได้ครับ
แต่อยู่ภายใต้สภาวการไม่ปกติ รัฐบาล ประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงภายในราชอาณาจักร เพื่อดูแลและควบคุมการชุมนุม
จึงทำได้
และผู้เข้าร่วม รวมถึงนักข่าวย่อมต้อง ยอมรับ สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเจ้าหน้าที่รัฐ ใช้อำนาจที่มีอยู่ตามพรบ
ที่ต้องใช้ พรบ เพราะคนมันเยอะ มันมั่ว กันไปหมด
เอาสั้นๆ นะครับ
สามารถออกคำสั่งให้ใช้กำลังทหารเพื่อช่วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง หรือตำรวจระงับเหตุการณ์ร้ายแรงหรือควบคุมสถานการณ์ให้เกิดความสงบโดยด่วน โดยกฎหมายฉบับนี้กำหนดให้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุม และควบคุมตัวบุคคลที่สงสัยว่าเป็นผู้ร่วมกระทำการให้เกิดการกระทำอันเป็นภัย ต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หรือเป็นผู้ใช้ ผู้โฆษณา ผู้สนับสนุนการกระทำนั้นได้ทันที ให้อำนาจปราบปรามบุคคล กลุ่มบุคคลท ออกหนังสือสอบถาม หรือออกคำสั่งเรียกบุคคลใดมารายงานตัวต่อเจ้าพนักงาน สามารถเข้าตรวจค้นบุคคล ยานพาหนะ เคหสถาน สิ่งปลูกสร้าง หรือสถานที่ใดๆ ตามความจำเป็นเมื่อมีเหตุสงสัยตามสมควรว่ามีทรัพย์สินซึ่งมีไว้เป็นความผิด ยึดหรืออายัดทรัพย์สิน เอกสาร หรือพยานหลักฐานที่เกี่ยวกับการกระทำอันเป็นภัยต่อความมั่นคงในราชอาณาจักร
แค่สงสัยก็ควบคุมตัวได้ครับ
แต่การกักขังหลังจับกุมต้องขอต่อศาล
มาตรา 15, 16 ครับ
มาตรา ๑๕ ในกรณีที่ ปรากฏเหตุการณ์ อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักรแต่ยังไม่มีความจําเป็นต้องประกาศ สถานการณ์ฉุกเฉินตามกฎหมายว่าด้วยการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุก เฉิน และเหตุการณ์ นั้นมีแนวโน้มที่จะมี อยู่ต่อไปเป็นเวลานานทั้งอย่ในอํานาจหน้าที่หรือความรับผิดชอบในการแก้ไข ปัญหาของหน่วยงานของรัฐหลายหน่วยคณะรัฐมนตรีจะมีมติมอบหมายให้ กอ.รมน. เป็นผู้รับผิดชอบในการป้องกัน ปราบปราม ระงับ ยับยั้ง และแก้ไขหรือบรรเทาเหตุการณ์ที่ กระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักรนั้นภายในพื้นที่และระยะเวลาที่กําหน ดได้ ทั้งนี้ให้ประกาศให้ทราบโดยทั่วไป
ในกรณีที่เหตุการณ์ตามวรรคหนึ่งสิ้นสุดลงหรือสามารถดําเนินการแก้ไขได้ตาม อํานาจหน้าที่ของหน่วยงานของรัฐที่รับผิดชอบตามปกติ ให้นายกรัฐมนตรีประกาศให้อํานาจหน้าที่ของ กอ.รมน.ที่ได้รับมอบหมายตามวรรคหนึ่งสิ้นสุดลง และให้ นายกรัฐมนตรีรายงานผลต่อสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาทราบโดยเร็ว
มาตรา ๑๖ ในการดําเนินการตามที่ได้รับมอบหมายตามมาตรา ๑๕ ให้ กอ.รมน. มีอํานาจหน้าที่ดังต่อไปนี้ด้วย
(๑) ป้องกัน ปราบปราม ระงับ ยับยั้ง และแก้ไขหรือบรรเทาเหตุการณ์ที่กระทบต่อความมั่นคง
ภายในราชอาณาจักรตามที่ได้รับมอบหมายตามมาตรา ๑๕
(๒) จัดทําแผนการดําเนินการตาม (๑) เสนอต่อคณะกรรมการเพื่อให้ความเห็นชอบ
(๓) กํากับ ติดตาม และเร่งรัดหน่วยงานของรัฐและเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องให้ดําเนินการ หรือบูรณาการในการดําเนินการให้เป็นไปตามแผนตาม (๒)
(๔) สั่งให้เจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งมีพฤติกรรมว่าจะเป็นภัยต่อความมั่นคงภายในราช อาณาจักรหรือเป็นอุปสรรคต่อการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรออกจากพื้น ที่ที่กําหนดในการจัดทําแผนตาม (๒) ให้ กอ.รมน. ประชุมหารือกับสํานักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติและหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยว ข้องด้วย และในการนี้ให้จัดทําแผนเผชิญเหตุในแต่ละสถานการณ์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้น
ในกรณีที่มีคําสั่งตาม (๔) แล้ว ให้ กอ.รมน. แจ้งให้หน่วยงานของรัฐที่เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้นั้นสังกัดทราบพร้อมด้วย เหตุผล และให้เจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งได้รับคําสั่ งให้ออกจากพื้นที่นั้นไปรายงานตัวยัง หน่วยงานของรัฐที่ตนสังกัดโดยเร็ว ในการนี้ ให้หน่วยงานของรัฐเจ้าสังกัดดําเนินการออกคําสั่งให้เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ นั้นพ้นจากตําแหน่งหน้าที่ หรือพ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ตามที่ กำหนดไว้ในคำสั่งดังกล่าว เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติการตามอํานาจหน้าที่ตามวรรคหนึ่ง ถ้ามีความจําเป็นที่ กอ.รมน.ต้องใช้อํานาจหรือหน้าที่ตามกฎหมายใดที่อยู่ในอํานาจหน้าที่หรือความ รับผิดชอบของหน่วยงานของรัฐใด ให้คณะรัฐมนตรีมีอํานาจแต่งตั้งผู้ดํารงตําแหน่งใด ๆ ใน กอ.รมน.เป็นเจ้าพนักงานหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายนั้น หรือมีมติให้หน่วยงานของรัฐนั้นมอบอํานาจหน้าที่และความรับผิดชอบ ตามกฎหมายในเรื่องดังกล่าว ใน กอ.รมน. ดําเนินการแทนหรือมีอํานาจดําเนินการด้วยภายในพื้นที่ และระยะเวลาที่กําหนด ทั้งนี้ ต้องกําหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการใช้อํานาจนั้นไว้ด้วย
มาตรา ๑๗ ในกรณีที่มีความจําเป็นเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์ที่ กระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักรให้ เป็นไปตามอํานาจหน้าที่ในมาตรา ๑๖ ในเขตพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง ให้ผู้อํานวย การโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการมีอํานาจจัดตั้งศูนย์ อํานวยการหรือหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นเพื่อปฏิบัติภารกิจอย่างหนึ่ง อย่างใดหรือหลายอย่างเป็นการเฉพาะก็ได้โครงสร้าง อัตรากําลัง การบริหารจัดการ อํานาจหน้าที่ การกํากับติดตามหรือบังคับบัญชาศูนย์อํานวยการหรือหน่วยงานที่เรียกชื่อ อย่างอื่นตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามที่ผู้อํานวยการโดยความเห็นชอบ ของคณะกรรมการกําหนด โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษาและให้ นําความในมาตรา ๙ มาใช้บังคับกับศูนย์หรือหน่วยงานตามวรรคหนึ่งด้วยโดยอนุโลม โดยให้อํานาจของผู้อํานวยการเป็นอํานาจของผู้อํานวยการศูนย์หรือหัวหน้าหน่วยงานนั้น
มาตรา ๑๘ เพื่อประโยชน์ในการป้องกัน ปราบปราม ระงับ ยับยั้ง และแก้ไขหรือบรรเทาเหตุการณ์ภายในพื้นที่ตามมาตรา ๑๕ ให้ผู้อํานวยการโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีมีอํานาจออกข้อกําหนด ดังต่อไปนี้
(๑) ให้เจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องปฏิบัติการหรืองดเว้นการปฏิบัติการอย่างหนึ่งอย่างใด
(๒) ห้ามเข้าหรือให้ออกจากบริเวณพื้นที่ อาคาร หรือสถานที่ ที่กําหนดในห้วงเวลาที่ปฏิบัติการ เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือเป็นบุคคลซึ่งได้รับการยกเว้น
(๓) ห้ามออกนอกเคหสถานในเวลาที่กําหนด
(๔) ห้ามนําอาวุธออกนอกเคหสถาน
(๕) ห้ามการใช้เส้นทางคมนาคมหรือการใช้ยานพาหนะ หรือกําหนดเงื่อนไขการใช้เส้นทางคมนาคมหรือการใช้ยานพาหนะ
(๖) ให้บุคคลปฏิบัติหรืองดเว้นการปฏิบัติอย่างหนึ่งอย่างใดอันเกี่ยวกับเครื่อง มือหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดแก่ชีวิต ร่างกาย หรือทรัพย์สินของประชาชน
ข้อกําหนดตามวรรคหนึ่งจะกําหนดหลักเกณฑ์ เงื่อนเวลาหรือเงื่อนไขที่ กําหนดไว้ด้วยก็ได้ทั้งนี้ การกําหนดดังกล่าวต้องไม่ก่อความเดือดร้อนแก่ประชาชนเกินสมควรแก่เหตุ
แค่สงสัยก็ควบคุมตัวได้ครับ
แต่การกักขังหลังจับกุมต้องขอต่อศาล
และค่อนข้างแน่นอนคงไม่มีใครยอมให้จับง่ายๆ แบบกิ้งกือครับ
ต้องสู้กันหน่อย
ถ้ายกมาตรา 18 มาแสดงว่านักข่าวก็ต้องฝ่าฝืนมาตรานี้ซึ่งมีบทลงโทษ แล้วทำไมไม่แจ้งข้อหาครับ
ถ้าเป็น พรก ฉุกเฉิน จะไม่ว่าสักคำ
จัดให้หน่อย
#57
ตอบ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 21:18
ชัดๆ ม๊อบ โยนแก๊สน้ำตาใส่ตำรวจ
ม็อบโง่เนอะ เปิดกระป๋องแกสน้ำตาไม่เป็น
กว่าจะเปิดได้ กว่าจะขว้าง
แก๊สออกมาเป็นทางขาวยาวยิ่งกว่าหางงู กระจายเข้าฝั่งตัวเองเต็มๆ
- สงสารสาวจันทร์, tu249cm, Bookmarks and 5 others like this
#58
ตอบ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 21:35
ชัดๆ ม๊อบ โยนแก๊สน้ำตาใส่ตำรวจ
ม็อบโง่เนอะ เปิดกระป๋องแกสน้ำตาไม่เป็น
กว่าจะเปิดได้ กว่าจะขว้าง
แก๊สออกมาเป็นทางขาวยาวยิ่งกว่าหางงู กระจายเข้าฝั่งตัวเองเต็มๆ
ลำดับเหตการจากคลิบ
ม็อบเริ่่มแหกลวดหนามไปหาตำรวจ
ความจริงเดินอ้อมก็ได้ แหมเดินนิดเดียวก็ไม่ยอม
(ถ้าเป็นม็อบ ซอมบี้ ผีชีวะ หรือ ผีดิบกระโดดจีน จะไม่ว่าสักคำ เพราะมันเดินทางตรงได้ อย่างเดียว)
ขว้าง แกสน้ำตา แบบกระป๊องเขียว (หมดอายุ) ใส่ตำรวจ ก่อน
ตามหลักพิชัยยุทธ ลงมือก่อนได้เปรียบ
ตำรวจใช้หลัก สงบ สยบ ความเคลื่อนใหว ไม่ไหวแล้ว เอาบ้าง ด้วยแบบกระป็องขาว ใหม่เอี่ยม
หลังจากนั้นก็นัวเนีย กันละครับ
ส่วนในภาพผมเห็นด้วยกับคุณ asawinee
คนในภาพขว้าง แกสน้ำตา แบบกระป๊องขาว (ไม่หมดอายุ) ใส่ตำรวจ
ก็คงมาจากฝั่งตำรวจละครับ เพราะมั่ว ตะลุมบอนกันแล้ว
เป็นข้อสังเกตุนะครับ
ขอความคิดท่านอื่นบ้าง
Edited by หลานคนสร้างชาติ, 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 21:44.
#59
ตอบ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 21:58
#61
ตอบ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 22:39
คลิปมาไม่ครบก่อนมีการข้างแก๊ซหายไปตั้ง 5 นาที
ในคลิปพยายามชี้นำให้เห็นว่าม๊อบขว้างก่อน ถ้าคนไม่สังเกตุเวลาดีๆจะคิดว่าเป็นอย่างนั้น
#62
ตอบ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 23:34
ตะกวดมันปามา จะให้เค้าเก็บมาดมหรือไง ปัญญาอ่อน ไอ้เนรคุณล้มเจ้าชัดๆ ม๊อบ โยนแก๊สน้ำตาใส่ตำรวจ
- TH_BorderBoy likes this
#63
ตอบ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 02:53
มันเป็นความสามารถเฉพาะตัวจริงๆครับสำหรับพวกคุณที่โยนความผิดให้คนอื่น อาการเช่นนี้ไม่ใช่ โยนคืนตำรวจหรือครับ ไม่ใช่ประทัดนะครับ จะปล่อยควันเยอะขนาดนี้ค่อยโยน แล้วควันนั้นจะไปไหน คนโยนก็โดนเองหรือ?ชัดๆ ม๊อบ โยนแก๊สน้ำตาใส่ตำรวจ
ลองหาภาพใหม่ที่ เป็นการถอดสลักแล้วโยนดีกว่า แน่นอนชัดเจนกว่า
#64
ตอบ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 03:49
ชัดๆ ม๊อบ โยนแก๊สน้ำตาใส่ตำรวจ
ม็อบโง่เนอะ เปิดกระป๋องแกสน้ำตาไม่เป็น
กว่าจะเปิดได้ กว่าจะขว้าง
แก๊สออกมาเป็นทางขาวยาวยิ่งกว่าหางงู กระจายเข้าฝั่งตัวเองเต็มๆ
ลำดับเหตการจากคลิบ
ม็อบเริ่่มแหกลวดหนามไปหาตำรวจ
ความจริงเดินอ้อมก็ได้ แหมเดินนิดเดียวก็ไม่ยอม
(ถ้าเป็นม็อบ ซอมบี้ ผีชีวะ หรือ ผีดิบกระโดดจีน จะไม่ว่าสักคำ เพราะมันเดินทางตรงได้ อย่างเดียว)
ขว้าง แกสน้ำตา แบบกระป๊องเขียว (หมดอายุ) ใส่ตำรวจ ก่อน
ตามหลักพิชัยยุทธ ลงมือก่อนได้เปรียบ
ตำรวจใช้หลัก สงบ สยบ ความเคลื่อนใหว ไม่ไหวแล้ว เอาบ้าง ด้วยแบบกระป็องขาว ใหม่เอี่ยม
หลังจากนั้นก็นัวเนีย กันละครับ
ส่วนในภาพผมเห็นด้วยกับคุณ asawinee
คนในภาพขว้าง แกสน้ำตา แบบกระป๊องขาว (ไม่หมดอายุ) ใส่ตำรวจ
ก็คงมาจากฝั่งตำรวจละครับ เพราะมั่ว ตะลุมบอนกันแล้ว
เป็นข้อสังเกตุนะครับ
ขอความคิดท่านอื่นบ้าง
Edited by whiskypeak, 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 03:57.
ถูกใจเสื้อแดง ของแพงไม่ว่า โดนโกงไม่ด่า ขอแค่ตระกูลชินนรกเป็น นายก พอ..
#65
ตอบ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 03:59
ถุย หลานรนสร้างชาติ
มาตราไหนของ พรบ.ความมั่นคง ให้สิทธิทำร้าย ประชาชน
ที่คุณยกมาทั้ง 15 , 16 นะ เค้าให้แค่ควมคุมตัวเท่านั้น ไม่มีสิทธิไปทำร้ายคนทีไม่มีอาวุธ โดยเฉพาะกรณีนักข่าวซึ่งเป็นสือมวลชน
กรุณาตอบที่เป็น คุณ ยอมให้จับง่ายๆ เหรอ
และค่อนข้างแน่นอนคงไม่มีใครยอมให้จับง่ายๆ แบบกิ้งกือครับ
ต้องสู้กันหน่อย
แบบนี้คราาาาบ
สมองมันเอียงดูอ่ะไรอ่านอ่ะไรก็เเดงดีหมด ดูวินาทีที่ 0.16 ให้ดีหางควันมาจากทางตะกวดก่อนเห็นๆ
ไอ้คนทำคลิปก็เหลือเเดกจริงๆตัดมาเเต่ตอนที่ผู้ชุมนุมขว้างกลับ
คุณบอกคนอื่นอย่าเชื่อข่าวลือ ผมว่าคุณเองกรองข้อมูลให้ดีก่อนเหอะ
#66
ตอบ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 04:17
ชัดๆ ม๊อบ โยนแก๊สน้ำตาใส่ตำรวจ
ม็อบโง่เนอะ เปิดกระป๋องแกสน้ำตาไม่เป็น
กว่าจะเปิดได้ กว่าจะขว้าง
แก๊สออกมาเป็นทางขาวยาวยิ่งกว่าหางงู กระจายเข้าฝั่งตัวเองเต็มๆ
ลำดับเหตการจากคลิบ
ม็อบเริ่่มแหกลวดหนามไปหาตำรวจ
ความจริงเดินอ้อมก็ได้ แหมเดินนิดเดียวก็ไม่ยอม
(ถ้าเป็นม็อบ ซอมบี้ ผีชีวะ หรือ ผีดิบกระโดดจีน จะไม่ว่าสักคำ เพราะมันเดินทางตรงได้ อย่างเดียว)
ขว้าง แกสน้ำตา แบบกระป๊องเขียว (หมดอายุ) ใส่ตำรวจ ก่อน
ตามหลักพิชัยยุทธ ลงมือก่อนได้เปรียบ
ตำรวจใช้หลัก สงบ สยบ ความเคลื่อนใหว ไม่ไหวแล้ว เอาบ้าง ด้วยแบบกระป็องขาว ใหม่เอี่ยม
หลังจากนั้นก็นัวเนีย กันละครับ
ส่วนในภาพผมเห็นด้วยกับคุณ asawinee
คนในภาพขว้าง แกสน้ำตา แบบกระป๊องขาว (ไม่หมดอายุ) ใส่ตำรวจ
ก็คงมาจากฝั่งตำรวจละครับ เพราะมั่ว ตะลุมบอนกันแล้ว
เป็นข้อสังเกตุนะครับ
ขอความคิดท่านอื่นบ้าง
ทำไมผมดูแล้วมันไม่ใช่อย่างตาม แบบที่คุณพูดมาเลยอ่ะ --" เพราะควันเท่าที่เห็นครั้งแรก เหมือนมันมาจากฝ่ายฝ่ายชุมนุม แต่ลมมันพัดมาทางตำรวจ แถมคลิปก็ของขาดๆหายๆ รอดูคลิปตัวเต็ม ดีกว่าแหะ ยังไม่ขอสรุปครับ เหมือนมีบางเวลาหายไปจากคลิป มันแปลกๆๆ นะ ถ้าจะแบบย่อเวลา ก็น่าย่อตอนที่มันไม่มีอะไร แต่มาดันข้ามๆ ตอนเหตุการณ์เกิด มันแปลกๆๆ เลยขอยังไม่สรุปล่ะกันว่าใครขว้างก่อนครับ
กฎหมายมันก็แค่สิงที่สร้างมาอย่างมีเป้าหมาย แต่หาก เอาแต่บอกว่ากฎหมายเป็นแบบนี้ แบบนั้น โดยไม่สนใจว่าเป้าหมายจริงๆ นันคืออะไร ก็คงไม่ใช่
#67
ตอบ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 09:51
แล้วมิทราบว่านักข่าวไปกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักรอย่างไรครับ แล้วทำประกาศออกมารึยังว่าให้ควบคุมตัว ทำร้ายร่างกาย พังข้าวของนักข่าวได้ครับ เอาประกาศ กอ.รมน. มาให้ดูหน่อยครับ
ถามมาตราใดไม่ตอบมาล่ะครับ สงสัยก็ควบคุมได้ที่ใช้อำนาจมาตราใดครับ ทำร้ายร่างกาย พังข้าวของนักข่าวใช้อำนาจมาตราใดครับ
พ.ร.บ.ความมั่นคง มาตราไหนให้อำนาจจับกุม ทำร้ายร่างกาย พังข้าวของนักข่าวได้ครับ
ไม่ตั้งข้อหาแล้วจับไปทำไมครับ เข้าใจผิดเลยจับได้ พังของได้ ทำร้ายร่างกายได้ใช่ไหมครับ
ปกติไม่ได้ครับ
แต่อยู่ภายใต้สภาวการไม่ปกติ รัฐบาล ประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงภายในราชอาณาจักร เพื่อดูแลและควบคุมการชุมนุม
จึงทำได้
และผู้เข้าร่วม รวมถึงนักข่าวย่อมต้อง ยอมรับ สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเจ้าหน้าที่รัฐ ใช้อำนาจที่มีอยู่ตามพรบ
ที่ต้องใช้ พรบ เพราะคนมันเยอะ มันมั่ว กันไปหมด
เอาสั้นๆ นะครับ
สามารถออกคำสั่งให้ใช้กำลังทหารเพื่อช่วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง หรือตำรวจระงับเหตุการณ์ร้ายแรงหรือควบคุมสถานการณ์ให้เกิดความสงบโดยด่วน โดยกฎหมายฉบับนี้กำหนดให้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุม และควบคุมตัวบุคคลที่สงสัยว่าเป็นผู้ร่วมกระทำการให้เกิดการกระทำอันเป็นภัย ต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หรือเป็นผู้ใช้ ผู้โฆษณา ผู้สนับสนุนการกระทำนั้นได้ทันที ให้อำนาจปราบปรามบุคคล กลุ่มบุคคลท ออกหนังสือสอบถาม หรือออกคำสั่งเรียกบุคคลใดมารายงานตัวต่อเจ้าพนักงาน สามารถเข้าตรวจค้นบุคคล ยานพาหนะ เคหสถาน สิ่งปลูกสร้าง หรือสถานที่ใดๆ ตามความจำเป็นเมื่อมีเหตุสงสัยตามสมควรว่ามีทรัพย์สินซึ่งมีไว้เป็นความผิด ยึดหรืออายัดทรัพย์สิน เอกสาร หรือพยานหลักฐานที่เกี่ยวกับการกระทำอันเป็นภัยต่อความมั่นคงในราชอาณาจักร
แค่สงสัยก็ควบคุมตัวได้ครับ
แต่การกักขังหลังจับกุมต้องขอต่อศาล
มาตรา 15, 16 ครับ
มาตรา ๑๕ ในกรณีที่ ปรากฏเหตุการณ์ อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักรแต่ยังไม่มีความจําเป็นต้องประกาศ สถานการณ์ฉุกเฉินตามกฎหมายว่าด้วยการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุก เฉิน และเหตุการณ์ นั้นมีแนวโน้มที่จะมี อยู่ต่อไปเป็นเวลานานทั้งอย่ในอํานาจหน้าที่หรือความรับผิดชอบในการแก้ไข ปัญหาของหน่วยงานของรัฐหลายหน่วยคณะรัฐมนตรีจะมีมติมอบหมายให้ กอ.รมน. เป็นผู้รับผิดชอบในการป้องกัน ปราบปราม ระงับ ยับยั้ง และแก้ไขหรือบรรเทาเหตุการณ์ที่ กระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักรนั้นภายในพื้นที่และระยะเวลาที่กําหน ดได้ ทั้งนี้ให้ประกาศให้ทราบโดยทั่วไป
ในกรณีที่เหตุการณ์ตามวรรคหนึ่งสิ้นสุดลงหรือสามารถดําเนินการแก้ไขได้ตาม อํานาจหน้าที่ของหน่วยงานของรัฐที่รับผิดชอบตามปกติ ให้นายกรัฐมนตรีประกาศให้อํานาจหน้าที่ของ กอ.รมน.ที่ได้รับมอบหมายตามวรรคหนึ่งสิ้นสุดลง และให้ นายกรัฐมนตรีรายงานผลต่อสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาทราบโดยเร็ว
มาตรา ๑๖ ในการดําเนินการตามที่ได้รับมอบหมายตามมาตรา ๑๕ ให้ กอ.รมน. มีอํานาจหน้าที่ดังต่อไปนี้ด้วย
(๑) ป้องกัน ปราบปราม ระงับ ยับยั้ง และแก้ไขหรือบรรเทาเหตุการณ์ที่กระทบต่อความมั่นคง
ภายในราชอาณาจักรตามที่ได้รับมอบหมายตามมาตรา ๑๕
(๒) จัดทําแผนการดําเนินการตาม (๑) เสนอต่อคณะกรรมการเพื่อให้ความเห็นชอบ
(๓) กํากับ ติดตาม และเร่งรัดหน่วยงานของรัฐและเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องให้ดําเนินการ หรือบูรณาการในการดําเนินการให้เป็นไปตามแผนตาม (๒)
(๔) สั่งให้เจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งมีพฤติกรรมว่าจะเป็นภัยต่อความมั่นคงภายในราช อาณาจักรหรือเป็นอุปสรรคต่อการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรออกจากพื้น ที่ที่กําหนดในการจัดทําแผนตาม (๒) ให้ กอ.รมน. ประชุมหารือกับสํานักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติและหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยว ข้องด้วย และในการนี้ให้จัดทําแผนเผชิญเหตุในแต่ละสถานการณ์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้น
ในกรณีที่มีคําสั่งตาม (๔) แล้ว ให้ กอ.รมน. แจ้งให้หน่วยงานของรัฐที่เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้นั้นสังกัดทราบพร้อมด้วย เหตุผล และให้เจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งได้รับคําสั่ งให้ออกจากพื้นที่นั้นไปรายงานตัวยัง หน่วยงานของรัฐที่ตนสังกัดโดยเร็ว ในการนี้ ให้หน่วยงานของรัฐเจ้าสังกัดดําเนินการออกคําสั่งให้เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ นั้นพ้นจากตําแหน่งหน้าที่ หรือพ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ตามที่ กำหนดไว้ในคำสั่งดังกล่าว เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติการตามอํานาจหน้าที่ตามวรรคหนึ่ง ถ้ามีความจําเป็นที่ กอ.รมน.ต้องใช้อํานาจหรือหน้าที่ตามกฎหมายใดที่อยู่ในอํานาจหน้าที่หรือความ รับผิดชอบของหน่วยงานของรัฐใด ให้คณะรัฐมนตรีมีอํานาจแต่งตั้งผู้ดํารงตําแหน่งใด ๆ ใน กอ.รมน.เป็นเจ้าพนักงานหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายนั้น หรือมีมติให้หน่วยงานของรัฐนั้นมอบอํานาจหน้าที่และความรับผิดชอบ ตามกฎหมายในเรื่องดังกล่าว ใน กอ.รมน. ดําเนินการแทนหรือมีอํานาจดําเนินการด้วยภายในพื้นที่ และระยะเวลาที่กําหนด ทั้งนี้ ต้องกําหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการใช้อํานาจนั้นไว้ด้วย
มาตรา ๑๗ ในกรณีที่มีความจําเป็นเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์ที่ กระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักรให้ เป็นไปตามอํานาจหน้าที่ในมาตรา ๑๖ ในเขตพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง ให้ผู้อํานวย การโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการมีอํานาจจัดตั้งศูนย์ อํานวยการหรือหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นเพื่อปฏิบัติภารกิจอย่างหนึ่ง อย่างใดหรือหลายอย่างเป็นการเฉพาะก็ได้โครงสร้าง อัตรากําลัง การบริหารจัดการ อํานาจหน้าที่ การกํากับติดตามหรือบังคับบัญชาศูนย์อํานวยการหรือหน่วยงานที่เรียกชื่อ อย่างอื่นตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามที่ผู้อํานวยการโดยความเห็นชอบ ของคณะกรรมการกําหนด โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษาและให้ นําความในมาตรา ๙ มาใช้บังคับกับศูนย์หรือหน่วยงานตามวรรคหนึ่งด้วยโดยอนุโลม โดยให้อํานาจของผู้อํานวยการเป็นอํานาจของผู้อํานวยการศูนย์หรือหัวหน้าหน่วยงานนั้น
มาตรา ๑๘ เพื่อประโยชน์ในการป้องกัน ปราบปราม ระงับ ยับยั้ง และแก้ไขหรือบรรเทาเหตุการณ์ภายในพื้นที่ตามมาตรา ๑๕ ให้ผู้อํานวยการโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีมีอํานาจออกข้อกําหนด ดังต่อไปนี้
(๑) ให้เจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องปฏิบัติการหรืองดเว้นการปฏิบัติการอย่างหนึ่งอย่างใด
(๒) ห้ามเข้าหรือให้ออกจากบริเวณพื้นที่ อาคาร หรือสถานที่ ที่กําหนดในห้วงเวลาที่ปฏิบัติการ เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือเป็นบุคคลซึ่งได้รับการยกเว้น
(๓) ห้ามออกนอกเคหสถานในเวลาที่กําหนด
(๔) ห้ามนําอาวุธออกนอกเคหสถาน
(๕) ห้ามการใช้เส้นทางคมนาคมหรือการใช้ยานพาหนะ หรือกําหนดเงื่อนไขการใช้เส้นทางคมนาคมหรือการใช้ยานพาหนะ
(๖) ให้บุคคลปฏิบัติหรืองดเว้นการปฏิบัติอย่างหนึ่งอย่างใดอันเกี่ยวกับเครื่อง มือหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดแก่ชีวิต ร่างกาย หรือทรัพย์สินของประชาชน
ข้อกําหนดตามวรรคหนึ่งจะกําหนดหลักเกณฑ์ เงื่อนเวลาหรือเงื่อนไขที่ กําหนดไว้ด้วยก็ได้ทั้งนี้ การกําหนดดังกล่าวต้องไม่ก่อความเดือดร้อนแก่ประชาชนเกินสมควรแก่เหตุ
แค่สงสัยก็ควบคุมตัวได้ครับ
แต่การกักขังหลังจับกุมต้องขอต่อศาล
และค่อนข้างแน่นอนคงไม่มีใครยอมให้จับง่ายๆ แบบกิ้งกือครับ
ต้องสู้กันหน่อย
ถ้ายกมาตรา 18 มาแสดงว่านักข่าวก็ต้องฝ่าฝืนมาตรานี้ซึ่งมีบทลงโทษ แล้วทำไมไม่แจ้งข้อหาครับ
ถ้าเป็น พรก ฉุกเฉิน จะไม่ว่าสักคำ
จัดให้หน่อย
เอาประกาศ กอ.รมน. มาให้ดูหน่อย
#68
ตอบ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 09:53
ชัดๆ ม๊อบ โยนแก๊สน้ำตาใส่ตำรวจ
ม็อบโง่เนอะ เปิดกระป๋องแกสน้ำตาไม่เป็น
กว่าจะเปิดได้ กว่าจะขว้าง
แก๊สออกมาเป็นทางขาวยาวยิ่งกว่าหางงู กระจายเข้าฝั่งตัวเองเต็มๆ
ลำดับเหตการจากคลิบ
ม็อบเริ่่มแหกลวดหนามไปหาตำรวจ
ความจริงเดินอ้อมก็ได้ แหมเดินนิดเดียวก็ไม่ยอม
(ถ้าเป็นม็อบ ซอมบี้ ผีชีวะ หรือ ผีดิบกระโดดจีน จะไม่ว่าสักคำ เพราะมันเดินทางตรงได้ อย่างเดียว)
ขว้าง แกสน้ำตา แบบกระป๊องเขียว (หมดอายุ) ใส่ตำรวจ ก่อน
ตามหลักพิชัยยุทธ ลงมือก่อนได้เปรียบ
ตำรวจใช้หลัก สงบ สยบ ความเคลื่อนใหว ไม่ไหวแล้ว เอาบ้าง ด้วยแบบกระป็องขาว ใหม่เอี่ยม
หลังจากนั้นก็นัวเนีย กันละครับ
ส่วนในภาพผมเห็นด้วยกับคุณ asawinee
คนในภาพขว้าง แกสน้ำตา แบบกระป๊องขาว (ไม่หมดอายุ) ใส่ตำรวจ
ก็คงมาจากฝั่งตำรวจละครับ เพราะมั่ว ตะลุมบอนกันแล้ว
เป็นข้อสังเกตุนะครับ
ขอความคิดท่านอื่นบ้าง
คลิปมาไม่ครบก่อนมีการข้างแก๊ซหายไปตั้ง 5 นาที
#69
ตอบ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 09:54
แล้วมิทราบว่านักข่าวไปกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักรอย่างไรครับ แล้วทำประกาศออกมารึยังว่าให้ควบคุมตัว ทำร้ายร่างกาย พังข้าวของนักข่าวได้ครับ เอาประกาศ กอ.รมน. มาให้ดูหน่อยครับ
ถามมาตราใดไม่ตอบมาล่ะครับ สงสัยก็ควบคุมได้ที่ใช้อำนาจมาตราใดครับ ทำร้ายร่างกาย พังข้าวของนักข่าวใช้อำนาจมาตราใดครับ
พ.ร.บ.ความมั่นคง มาตราไหนให้อำนาจจับกุม ทำร้ายร่างกาย พังข้าวของนักข่าวได้ครับ
ไม่ตั้งข้อหาแล้วจับไปทำไมครับ เข้าใจผิดเลยจับได้ พังของได้ ทำร้ายร่างกายได้ใช่ไหมครับ
ปกติไม่ได้ครับ
แต่อยู่ภายใต้สภาวการไม่ปกติ รัฐบาล ประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงภายในราชอาณาจักร เพื่อดูแลและควบคุมการชุมนุม
จึงทำได้
และผู้เข้าร่วม รวมถึงนักข่าวย่อมต้อง ยอมรับ สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเจ้าหน้าที่รัฐ ใช้อำนาจที่มีอยู่ตามพรบ
ที่ต้องใช้ พรบ เพราะคนมันเยอะ มันมั่ว กันไปหมด
เอาสั้นๆ นะครับ
สามารถออกคำสั่งให้ใช้กำลังทหารเพื่อช่วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง หรือตำรวจระงับเหตุการณ์ร้ายแรงหรือควบคุมสถานการณ์ให้เกิดความสงบโดยด่วน โดยกฎหมายฉบับนี้กำหนดให้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุม และควบคุมตัวบุคคลที่สงสัยว่าเป็นผู้ร่วมกระทำการให้เกิดการกระทำอันเป็นภัย ต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หรือเป็นผู้ใช้ ผู้โฆษณา ผู้สนับสนุนการกระทำนั้นได้ทันที ให้อำนาจปราบปรามบุคคล กลุ่มบุคคลท ออกหนังสือสอบถาม หรือออกคำสั่งเรียกบุคคลใดมารายงานตัวต่อเจ้าพนักงาน สามารถเข้าตรวจค้นบุคคล ยานพาหนะ เคหสถาน สิ่งปลูกสร้าง หรือสถานที่ใดๆ ตามความจำเป็นเมื่อมีเหตุสงสัยตามสมควรว่ามีทรัพย์สินซึ่งมีไว้เป็นความผิด ยึดหรืออายัดทรัพย์สิน เอกสาร หรือพยานหลักฐานที่เกี่ยวกับการกระทำอันเป็นภัยต่อความมั่นคงในราชอาณาจักร
แค่สงสัยก็ควบคุมตัวได้ครับ
แต่การกักขังหลังจับกุมต้องขอต่อศาล
มาตรา 15, 16 ครับ
มาตรา ๑๕ ในกรณีที่ ปรากฏเหตุการณ์ อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักรแต่ยังไม่มีความจําเป็นต้องประกาศ สถานการณ์ฉุกเฉินตามกฎหมายว่าด้วยการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุก เฉิน และเหตุการณ์ นั้นมีแนวโน้มที่จะมี อยู่ต่อไปเป็นเวลานานทั้งอย่ในอํานาจหน้าที่หรือความรับผิดชอบในการแก้ไข ปัญหาของหน่วยงานของรัฐหลายหน่วยคณะรัฐมนตรีจะมีมติมอบหมายให้ กอ.รมน. เป็นผู้รับผิดชอบในการป้องกัน ปราบปราม ระงับ ยับยั้ง และแก้ไขหรือบรรเทาเหตุการณ์ที่ กระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักรนั้นภายในพื้นที่และระยะเวลาที่กําหน ดได้ ทั้งนี้ให้ประกาศให้ทราบโดยทั่วไป
ในกรณีที่เหตุการณ์ตามวรรคหนึ่งสิ้นสุดลงหรือสามารถดําเนินการแก้ไขได้ตาม อํานาจหน้าที่ของหน่วยงานของรัฐที่รับผิดชอบตามปกติ ให้นายกรัฐมนตรีประกาศให้อํานาจหน้าที่ของ กอ.รมน.ที่ได้รับมอบหมายตามวรรคหนึ่งสิ้นสุดลง และให้ นายกรัฐมนตรีรายงานผลต่อสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาทราบโดยเร็ว
มาตรา ๑๖ ในการดําเนินการตามที่ได้รับมอบหมายตามมาตรา ๑๕ ให้ กอ.รมน. มีอํานาจหน้าที่ดังต่อไปนี้ด้วย
(๑) ป้องกัน ปราบปราม ระงับ ยับยั้ง และแก้ไขหรือบรรเทาเหตุการณ์ที่กระทบต่อความมั่นคง
ภายในราชอาณาจักรตามที่ได้รับมอบหมายตามมาตรา ๑๕
(๒) จัดทําแผนการดําเนินการตาม (๑) เสนอต่อคณะกรรมการเพื่อให้ความเห็นชอบ
(๓) กํากับ ติดตาม และเร่งรัดหน่วยงานของรัฐและเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องให้ดําเนินการ หรือบูรณาการในการดําเนินการให้เป็นไปตามแผนตาม (๒)
(๔) สั่งให้เจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งมีพฤติกรรมว่าจะเป็นภัยต่อความมั่นคงภายในราช อาณาจักรหรือเป็นอุปสรรคต่อการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรออกจากพื้น ที่ที่กําหนดในการจัดทําแผนตาม (๒) ให้ กอ.รมน. ประชุมหารือกับสํานักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติและหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยว ข้องด้วย และในการนี้ให้จัดทําแผนเผชิญเหตุในแต่ละสถานการณ์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้น
ในกรณีที่มีคําสั่งตาม (๔) แล้ว ให้ กอ.รมน. แจ้งให้หน่วยงานของรัฐที่เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้นั้นสังกัดทราบพร้อมด้วย เหตุผล และให้เจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งได้รับคําสั่ งให้ออกจากพื้นที่นั้นไปรายงานตัวยัง หน่วยงานของรัฐที่ตนสังกัดโดยเร็ว ในการนี้ ให้หน่วยงานของรัฐเจ้าสังกัดดําเนินการออกคําสั่งให้เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ นั้นพ้นจากตําแหน่งหน้าที่ หรือพ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ตามที่ กำหนดไว้ในคำสั่งดังกล่าว เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติการตามอํานาจหน้าที่ตามวรรคหนึ่ง ถ้ามีความจําเป็นที่ กอ.รมน.ต้องใช้อํานาจหรือหน้าที่ตามกฎหมายใดที่อยู่ในอํานาจหน้าที่หรือความ รับผิดชอบของหน่วยงานของรัฐใด ให้คณะรัฐมนตรีมีอํานาจแต่งตั้งผู้ดํารงตําแหน่งใด ๆ ใน กอ.รมน.เป็นเจ้าพนักงานหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายนั้น หรือมีมติให้หน่วยงานของรัฐนั้นมอบอํานาจหน้าที่และความรับผิดชอบ ตามกฎหมายในเรื่องดังกล่าว ใน กอ.รมน. ดําเนินการแทนหรือมีอํานาจดําเนินการด้วยภายในพื้นที่ และระยะเวลาที่กําหนด ทั้งนี้ ต้องกําหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการใช้อํานาจนั้นไว้ด้วย
มาตรา ๑๗ ในกรณีที่มีความจําเป็นเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์ที่ กระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักรให้ เป็นไปตามอํานาจหน้าที่ในมาตรา ๑๖ ในเขตพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง ให้ผู้อํานวย การโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการมีอํานาจจัดตั้งศูนย์ อํานวยการหรือหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นเพื่อปฏิบัติภารกิจอย่างหนึ่ง อย่างใดหรือหลายอย่างเป็นการเฉพาะก็ได้โครงสร้าง อัตรากําลัง การบริหารจัดการ อํานาจหน้าที่ การกํากับติดตามหรือบังคับบัญชาศูนย์อํานวยการหรือหน่วยงานที่เรียกชื่อ อย่างอื่นตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามที่ผู้อํานวยการโดยความเห็นชอบ ของคณะกรรมการกําหนด โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษาและให้ นําความในมาตรา ๙ มาใช้บังคับกับศูนย์หรือหน่วยงานตามวรรคหนึ่งด้วยโดยอนุโลม โดยให้อํานาจของผู้อํานวยการเป็นอํานาจของผู้อํานวยการศูนย์หรือหัวหน้าหน่วยงานนั้น
มาตรา ๑๘ เพื่อประโยชน์ในการป้องกัน ปราบปราม ระงับ ยับยั้ง และแก้ไขหรือบรรเทาเหตุการณ์ภายในพื้นที่ตามมาตรา ๑๕ ให้ผู้อํานวยการโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีมีอํานาจออกข้อกําหนด ดังต่อไปนี้
(๑) ให้เจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องปฏิบัติการหรืองดเว้นการปฏิบัติการอย่างหนึ่งอย่างใด
(๒) ห้ามเข้าหรือให้ออกจากบริเวณพื้นที่ อาคาร หรือสถานที่ ที่กําหนดในห้วงเวลาที่ปฏิบัติการ เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือเป็นบุคคลซึ่งได้รับการยกเว้น
(๓) ห้ามออกนอกเคหสถานในเวลาที่กําหนด
(๔) ห้ามนําอาวุธออกนอกเคหสถาน
(๕) ห้ามการใช้เส้นทางคมนาคมหรือการใช้ยานพาหนะ หรือกําหนดเงื่อนไขการใช้เส้นทางคมนาคมหรือการใช้ยานพาหนะ
(๖) ให้บุคคลปฏิบัติหรืองดเว้นการปฏิบัติอย่างหนึ่งอย่างใดอันเกี่ยวกับเครื่อง มือหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดแก่ชีวิต ร่างกาย หรือทรัพย์สินของประชาชน
ข้อกําหนดตามวรรคหนึ่งจะกําหนดหลักเกณฑ์ เงื่อนเวลาหรือเงื่อนไขที่ กําหนดไว้ด้วยก็ได้ทั้งนี้ การกําหนดดังกล่าวต้องไม่ก่อความเดือดร้อนแก่ประชาชนเกินสมควรแก่เหตุ
แค่สงสัยก็ควบคุมตัวได้ครับ
แต่การกักขังหลังจับกุมต้องขอต่อศาล
และค่อนข้างแน่นอนคงไม่มีใครยอมให้จับง่ายๆ แบบกิ้งกือครับ
ต้องสู้กันหน่อย
ถ้ายกมาตรา 18 มาแสดงว่านักข่าวก็ต้องฝ่าฝืนมาตรานี้ซึ่งมีบทลงโทษ แล้วทำไมไม่แจ้งข้อหาครับ
ถ้าเป็น พรก ฉุกเฉิน จะไม่ว่าสักคำ
จัดให้หน่อย
เอาประกาศ กอ.รมน. มาให้ดูหน่อย
จ้า จ้า จ้า ขอเวลาค้นก่อน
จบเหนือ เลือดสีเลือดหมู(สายช่าง) หรือเปล่า อศวินี
#70
ตอบ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 09:55
โดยอ้างว่ามีการถ่ายภาพขณะเกิดเหตุการณ์รุนแรง
ถือเป็นการละเมิดสิทธิของประชาชน
เป็นเหตุผลที่ปัญญาอ่อนมากๆ สมเป็นขี้ข้าทักษิณจริงๆ
แปลง่ายๆ คือ กำลังเมามันกับการกระทืบทำร้ายประชาชนอยู่
ถ่ายออกไปคนก็รู้หมดสิ ว่ากำลังขี้ข้ากำลังเอาใจนาย หุๆ
#71
ตอบ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 10:51
เอาประกาศ กอ.รมน. มาให้ดูหน่อย
มาแล้วนะครับ
รวมประกาศ ศอ.รส. ฉบับที่ 1-4 และแผนปฏิบัติการ ศอ.รส.
Sat, 2012-11-24 15:54
รวมประกาศ ศอ.รส. ฉบับที่ 1-4 ลงนามโดย พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์รักษาความสงบเรียบร้อย (ผอ.ศอ.รส.)
ประกาศ ศอ.รส.ฉบับที่ 1/2555
เรื่องห้ามบุคคลเข้าหรือต้องออกจากบริเวณพื้นที่อาคาร หรือสถานที่ที่กำหนด ลงวันที่ 22 พ.ย.55
1. ห้ามบุคคล หรือกลุ่มบุคคลใด เข้าหรือต้องออกจากบริเวณพื้นที่ และอาคารทำเนียบ รัฐบาล และรัฐสภา เว้นแต่ผู้ซึ่งได้รับอนุญาต หรือได้รับคำสั่งจากพนักงานเจ้าหน้าที่
2. ห้ามบุคคล หรือกลุ่มบุคคลใด เข้าหรือต้องออกจากบริเวณพื้นที่ ดังต่อไปนี้ เว้นแต่ผู้ซึ่งได้รับอนุญาต หรือได้รับคำสั่งจากพนักงานเจ้าหน้าที่
ก.ถนนราชดำเนินนอก ตั้งแต่สะพานมัฆวาน ถึงแยกถนนศรีอยุธยา
ข.ถนนลูกหลวงตั้งแต่สะพานวิศุกรรมนฤมาณ ถึงสะพานเทวกรรม
ค.ถนนพิษณุโลก ตั้งแต่แยกวังแดง ถึงแยกพาณิชย์
ง.ถนนนครปฐม ตั้งแต่สะพานอรทัย ถึงแยกวัดเบญจมบพิตร
จ.ถนนพระราม 5 ตั้งแต่แยกพาณิชย์ ถึงถนนลูกหลวง
ฉ.ถนนลิขิต
ช.ถนนราชวิถี ตั้งแต่แยกการเรือนถึงแยกราชวิถี ซ.ถนนพิชัย ตั้งแต่แยกขัตติยานี ถึงถนนราชวิถี
ญ.ถนนอู่ทองใน ตั้งแต่แยกอู่ทองใน ถึงลานพระราชวังดุสิต ด้านหลังพระบรมรูปทรงม้า
3.ให้ ผอ.รมน. ผอ.ศอ.รส. หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายซึ่งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ชั้นสัญญาบัตรหรือเทียบเท่าเป็นผู้ดำเนินการตามประกาศนี้
ประกาศ ศอ.รส. ฉบับที่ 2/2555
เรื่องห้ามการใช้เส้นทางคมนาคม หรือการใช้ยานพาหนะ ลงวันที่ 22 พ.ย.55
1. ห้ามการใช้เส้นทางคมนาคมดังนี้ เว้นแต่ได้รับการอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่
ก.ถนนราชดำเนินนอก ตั้งแต่สะพานมัฆวาน ถึงแยกถนนศรีอยุธยา
ข.ถนนลูกหลวงตั้งแต่สะพานวิศุกรรมนฤมาณ ถึงสะพานเทวกรรม
ค.ถนนพิษณุโลก ตั้งแต่แยกวังแดง ถึงแยกพาณิชย์
ง.ถนนนครปฐม ตั้งแต่สะพานอรทัย ถึงแยกวัดเบญจมบพิตร
จ.ถนนพระราม 5 ตั้งแต่แยกพาณิชย์ ถึงถนนลูกหลวง
ฉ.ถนนลิขิต
ช.ถนนราชวิถี ตั้งแต่แยกการเรือนถึงแยกราชวิถี
ซ.ถนนพิชัย ตั้งแต่แยกขัตติยานี ถึงถนนราชวิถี
ญ.ถนนอู่ทองใน ตั้งแต่แยกอู่ทองใน ถึงลานพระราชวังดุสิต ด้านหลังพระบรมรูปทรงม้า
2.ห้ามใช้ยานพาหนะใดๆ กระทำการอันอาจก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย แก่ประชาชน หรือกระทำการยั่วยุหรือปั่นป่วนการปฏิบัติงานของเจ้าพนักงาน หรือพนักงานเจ้าหน้าที่หรือความสงบสุขของประชาชนในพื้นที่ตามข้อ 1
3.ห้ามนำรถบรรทุกน้ำมันเชื้อเพลิง แก๊ส สารเคมี หรือวัตถุอัตรายใดๆ เข้าไปในพื้นที่ตามข้อ 1 เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่
4.ให้ผู้ประกอบกิจการสถานบริการน้ำมันเชื้อเพลิงหรือแก๊สในพื้นที่ตามข้อ 1 ควบคุมการเก็บรักษาน้ำมัน แก๊ส และรถบรรทุกสิ่งดังกล่าวให้อยู่ในสภาพที่เหมาะสม ปลอดภัย
5.ห้ามมิให้จอดยานพาหนะกีดขวางการจราจรในพื้นที่ตามข้อ 1
6.ให้ผอ.รมน. ผอ.ศอ.รส. หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายซึ่งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ชั้นสัญญาบัตรหรือเทียบเท่าเป็นผู้ดำเนินการตามประกาศนี้
ประกาศ ศอ.รส.ฉบับที่ 3/2555
เรื่องห้ามนำอาวุธออกนอกเคหสถาน ลงวันที่ 22 พ.ย.55
1.ห้ามนำอาวุธออกนอกเคหสถาน
2.ห้าม บุคคลหรือกลุ่มบุคคลนำสิ่งใดที่อาจนำมาใช้ได้อย่างอาวุธ เช่นหนังสติ๊ก ลูกเหล็ก ท่อนเหล็ก ดอกไม้เพลิง หรือสิ่งอื่นใดทำนองเดียวกันที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย ของบุคคลใด รวมถึงเกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินของประชาชน หรือทางราชการ ในพื้นที่ ที่ประกาศเป็นพื้นที่ปรากฎเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (เขตดุสิต พระนคร และป้องปราบศัตรพ่าย)
3.ให้ ผอ.รมน. ผอ.ศอ.รส. หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายซึ่งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ชั้นสัญญาบัตรหรือเทียบ เท่าเป็นผู้ดำเนินการตามประกาศนี้ โดยให้ประกาศมีผลตั้งแต่ออกประกาศ (22 พ.ย.55)
ประกาศ ศอ.รส. ฉบับที่ 4/2555
เรื่องห้ามการใช้ยานพาหนะในเส้นทางคมนาคม ลงวันที่ 23 พ.ย.55
ตามที่ได้มีการประกาศให้เขตพื้นที่ดุสิต เขตพระนคร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร เป็นพื้นที่ปรากฎเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ระหว่างวันที่ 22 พฤศจิกายน 2555 ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2555และมีข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 18 แห่ง พระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 ลงวันที่ 22 พฤศจิกายน 2555 ซึ่งได้มอบอำนาจให้ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ผู้อำนวยการหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราช อาณาจักร หรือผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการกำหนดเงื่อนเวลาในการปฏิบัติตามข้อกำหนดหรือ เงื่อนไขในการปฏิบัติของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามที่เห็นสมควรนั้น
เพื่อประโยชน์ในการป้องกัน ปราบปราม ระงับ ยับยั้ง และแก้ไขหรือบรรเทาเหตุการณ์ในพื้นที่ตามวรรคหนึ่งให้เป็นไปด้วยความเรียบ ร้อย และเกิดประสิทธิภาพ สามารถป้องกันและควบคุมไม่ให้สถานการณ์ขยายลุกลาม จนเกิดความารุนแรงเกิดผลเสียหายต่อเศรษฐกิจ กระทบต่อความมั่นคงในราชอาณาจักร รวมทั้งการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐ อาศัยอำนาจตามความในข้อ 4 และวรรคสามของข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 18 แห่งพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรพ.ศ. 2551 ผู้อำนวยนการศูฯย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อยจึงออกประกาศกำหนดดังนี้
1. ห้ามการใช้ยานพาหนะในเส้นทางคมนาคมดังต่อไปนี้ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่
ก.ถนนศรีอยุธยาตั้งแต่สะพานวัดเบญจมบพิตร ถึงแยกกองพล 1
ข.ลานพระราชวังดุสิต
2. ห้ามมิให้จอดยานพาหนะทุกชนิดกีดขวางการจราจรในพื้นที่ตามข้อ 1
3. ให้ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อยหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ซึ่งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ชั้นสัญญาบัตรหรือเทียบเท่าเป็นผู้ดำเนินการตาม ประกาศนี้
4. ประกาศกำหนดนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
#72
ตอบ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 10:58
นักข่าว กระทำการให้เกิดการกระทำอันเป็นภัย ต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร
#73
ตอบ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 11:06
ห้ามเข้าทางด้านสะพานมัฆวาน แต่ให้เข้าทางด้านแยกวัดเบญฯได้ ทำไมไม่ให้เข้าทางข้างกระทรวงศึกษาเขาจะได้ไม่ต้องอ้อมไปไกล
และไม่ไปยุ่งกับทำเนียบด้วย
แล้วก็ไม่ประกาศทางรถกระจายเสียงด้วย รถกระจายเสียงก็เปิดเท็ป เหมือนประกาศของคิวรถตู้
Tam-mic-ra ฟันธง! คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ ..... คิดครับคิด จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96 ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3
#74
ตอบ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 11:08
ควบคุมตัว ทำร้ายร่างกาย พังข้าวของนักข่าวได้
นักข่าว กระทำการให้เกิดการกระทำอันเป็นภัย ต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร
ของพัง
เพราะเบียดเสียดกัน
ยื้อกัน ดึงกัน
ในการหยุดสถานการณ์ จะต้องจับ
เป็น คุณ ยอมให้จับง่ายๆ เหรอ
และค่อนข้างแน่นอนคงไม่มีใครยอมให้จับง่ายๆ แบบกิ้งกือครับ
ต้องสู้กันหน่อย
แบบนี้คราาาาบ
#75
ตอบ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 11:27
ควบคุมตัว ทำร้ายร่างกาย พังข้าวของนักข่าวได้
นักข่าว กระทำการให้เกิดการกระทำอันเป็นภัย ต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักรของพัง
เพราะเบียดเสียดกัน
ยื้อกัน ดึงกัน
ในการหยุดสถานการณ์ จะต้องจับ
เป็น คุณ ยอมให้จับง่ายๆ เหรอ
และค่อนข้างแน่นอนคงไม่มีใครยอมให้จับง่ายๆ แบบกิ้งกือครับ
ต้องสู้กันหน่อย
แบบนี้คราาาาบ
ของพังเพราะเบียดเสียดกัน ยื้อกัน ดึงกัน
ในการหยุดสถานการณ์ จะต้องจับ
เป็น คุณ ยอมให้จับง่ายๆ เหรอและค่อนข้างแน่นอนคงไม่มีใครยอมให้จับง่ายๆ แบบกิ้งกือครับต้องสู้กันหน่อย
http://www.tnews.co....ml#.ULGczGecGSo
ถูกจับไปแล้ว ถึงได้โดนเตะ หน้าแหก เข้า รพ.
ถูกจับไปแล้ว ถึงได้โดนเตะ ข้าวของพัง
Edited by asawinee, 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 11:28.
#76
ตอบ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 11:28
Tam-mic-ra ฟันธง! คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ ..... คิดครับคิด จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96 ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3
#79
ตอบ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 11:47
Tam-mic-ra ฟันธง! คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ ..... คิดครับคิด จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96 ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3
#80
ตอบ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 21:32
หากเป็นคุณมีคนขว้างระเบิดเข้ามาแล้วมันยังไม่ระเบิด
คุณจะไม่รีบเก็บมันขึ้นมาแล้วขว้างกลับไปเหรอ รึว่ายืนรอให้มันระเบิดก่อน
อย่าโง่น่า!!!
“People shouldn't be afraid of their government. Governments should be afraid of their people.”
#81
ตอบ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 22:26
ขำไอ้เจ้าของล็อคอินนี้มากเลยอะ ..............5555+ จะมั่วไปถึงไหนเนี้ย...........5555+ ถามจริงๆ ติดตามข่าวสารมาอย่างเยอะจนเลอะเลื่อนหรือเปล่า .............5555+ หรือว่า โพยมีข้อมูลให้น้อย จนไม่รู้จะทำยังไงเลยแถ ออกมาในรูปแบบนี้ 5555+
วุ้ย ตอนแรกขอหลักฐาน พอเขาบอกว่าตำรวจให้สัมพาษณ์เองมันก็จะเอาเอกสาร ถามจริงเฮอะ ที่บอกรับรองเนี่ย ถ้าเกิดมันจริงขึ้นมาคุณจะทำยังไง หน้าด้านแล้วทำลืมๆ ไป งั้นเหรอ
เพิ่งเคยได้ยินข้อหาถ่ายภาพรุนแรง มีด้วยหรือ นักข่าวเขาก็ทำข่าวตามหน้าที่
เหตุการณ์เกิดขึ้นนักข่าวก็มีหน้าที่ถ่ายภาพและรายงานตามความจริง
แบบนี้ก็ถูกจับด้วยเหรอ งง งง งง!!!!!
รอข้อมูลชัดๆก่อน นักข่าวจริงหรือเปล่า
นอกจากนี้ต่อให้เป็นนักข่าวจริงก็อยู่ภายใต้กฎหมาย
ข้อหาถ่ายภาพรุนแรง ไม่มี
ใครเต้า ข้าวบ้าๆ อย่างนี้
ยังมีคนเชื่ออีก
ปัดโธ่ เอ้ย
นักข่าวไทยพีบีเอส
ส่วนข้อหาถ่ายภาพรุนแรง ตำรวจเป็นคนให้สัมภาษณ์เอง
ไม่งั้นสื่อเขาจะพาดหัวได้ยังไง
รอดูเอกสาร บันทึกแจ้งข้อกล่าวหา จากเจ้าหน้าที่สืบสวน ก่อนครับ
รับรองไม่มีอย่างที่กล่าวว่าเป็น ข้อหาถ่ายภาพรุนแรง แน่นอน
พูดใครก็พูดได้ เขาถึงเรียกข่าวลือไงครับ
รอดูเอกสาร บันทึกแจ้งข้อกล่าวหา จากเจ้าหน้าที่สืบสวน ก่อนครับ
รอดูครับ เป็นถึงนักข่าว ย่อมมีสังกัด
และต้นสังกัด ลุยไม่เลิกแน่นอน (แล้วคุณจะรู้ว่าเกิดจากข้อหา สาเหตุใด โดนยัดข้อหาหรือไม่)
แต่ถ้านักข่าวตัวเองทำผิดจริง หรือข่าวมั่วไม่มีจริง รับรอง เงียบกริบ
คนเช่นนี้ยังมีในโลกเว้ยเฮ้ยยยยยยยยยยยยยยย!!! 5555+
#82
ตอบ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 22:46
ผู้ใช้ 0 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้
สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 0 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน