20 ความเห็นในกระทู้นี้

[แฮปปี้]

ผมไม่ได้เป็นคนรวย แต่ก็ไม่เดือดร้อนและไม่มีหนี้สินใดๆ ประกอบธุรกิจส่วนตัว ในช่วงการชุมนุมของคนเสื้อแดง ธุรกิจได้รับความเสียหาย แต่ปัจจุบันก็สามารถกลับมาได้เหมือนเดิม ปีนี้กลับมามีกำไรแล้ว นับตั้งแต่ปี 53 ที่ขาดทุนยับ

ผมคิดมานานแล้วว่า ผมควรทำอะไรที่เป็นการตอบแทนแผ่นดินบ้าง ทำอะไรที่เป็นการตอบแทนเพื่อนมนุษย์ที่ร่วมโลกใบนี้ แต่ที่ผ่านมา ผมได้ใช้เวลาส่วนมากไปในทาง คิดค้น วิจัย พัฒนา เกี่ยวกับธุรกิจของตัวเอง อยู่แต่ในห้องทดลองแทบไม่เคยออกไปไหน เพราะเป็นคนที่คิดทำสิ่งใด ถ้าไม่สำเร็จจะไม่ยอมเลิก

แต่วันนี้ ผมคิดว่า ผมประสบความสำเร็จในธุรกิจที่ทำแล้ว ธุรกิจที่จะไปได้ดีเรื่อยๆ ถ้าไม่มีเหตุบ้านการณ์เมืองให้ได้รับผลกระทบอีก

ข้อเสนอของผมก็คือ ผมอยากให้ทุกท่านที่มีแนวคิดไปในทางเดียวกันกับผม เข้ามาร่วมกิจกรรมสาธารณะที่เป็นประโยชน์แบบเห็นผลได้จริง

เช่น รวมกลุ่มกันเป็นอาสาสมัครในเรื่องๆต่างเพื่อเป็นการช่วยเหลือสังคม หรือกิจกรรมต่างๆที่ลงมือปฎิบัติกันจริงจัง ให้เห็นผลเป็นรูปธรรม สมมุติว่า ในอนาคตมีเหตุการณืชุมนุมทางการเมืองเกิดขึ้นอีก เราก็รวมกลุ่มกันเป็น อาสาพยาบาลช่วยเหลือผู้ชุมนุมในทุกเรื่องที่สามารถช่วยได้ หากช่วยไม่ได้เราก็จะใช้วิธีการส่งต่อ เป็นต้น

หรือในสภาวะที่ปกติ เราก็ร่วมกันไปทำกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ต่างๆกันอย่างเป็นกลุ่มเป็นก้อนหรือกิจกรรมใดๆก็ได้ตามที่สมาชิกกลุ่มเห็นชอบร่วมกัน

ท่านใดที่มีความรู้เรื่องไหน ก็นำมาปรับประยุกต์ใช้ เป็นการทำประโยชน์ในวิชาชีพของตัวเองให้กับสังคม นอกเหนือจากงานประจำ ใช้ระบบประชาธิปไตย ในการขับเคลื่อนกลุ่ม ทุกท่านสามารถแสดงความคิดเห็นได้อย่างเต็มที่ เพราะมีความรู้ความสามารถกันทุกคน

หากมีท่านที่เข้ามาแสดงเจตนารมณ์ต้องการร่วมกันทำกิจกรรมสาธารณะประโยชน์ด้วยกัน มีหลายๆท่าน ผมจะแจ้งเบอร์โทรให้ทุกท่านทราบ

ในเบื้องต้น ผมยินดีบริจาคให้เป็นกองทุน หนึ่งแสนบาท(เงินเดือนของผม 1 เดือนที่ผมเป็นคนตั้งเงินเดือนให้ตัวเอง)

มอบพื้นที่ อาคารพานิชย์ 4 ชั้น ให้เป็นสำนักงาน ทุกท่านเข้ามาใช้พื้นที่ได้ตลอดเวลา

มอบอุปกรณ์สำนักงานที่จำเป็นให้ครบทุกอย่าง(เป็นสำนักงานส่วนตัวเดิมของผม ที่ผมจะหยุดใช้สิ้นปีนี้)

ยินดีมอบรายได้ส่วนหนึ่งจากการดำเนินธุรกิจของผมเป็นประจำทุกเดือน เพื่อสบทบเป็นทุนของกลุ่ม

ผมเห็นว่า การที่เราอยู่กันแต่ในโลกไซเบอร์ รวมกลุ่มกันหลวมๆอาจจะยังไม่ได้แสดงความสามารถที่แท้จริงกันออกมา การรวมกลุ่มกันแบบจริงจัง เปิดเผยตัวเอง จะทำให้ศักยภาพในการทำกิจกรรมต่างๆเห็นผลเป็นรูปธรรมมากขึ้น

ทั้งนี้ผมวางแผนงานเอาไว้ว่า จะเริ่มดำเนินการหลังปีใหม่ หากไม่มีท่านใดสนใจ ผมอาจจะทำคนเดียวไปก่อน แล้วค่อยๆหาท่านที่สนใจไปเรื่อยๆเพราะตั้งแต่ปีหน้า ผมว่างงาน เป็นแค่หุ้นส่วนธุรกิจ(ผมทำงานมากจนตาเกือบจะบอด ต้องหยุดพักฟักฟื้นตา)แต่ผมไม่ชอบอยู่เฉยๆขออุทิศตัวทำงานการกุศลไปเรื่อยๆดีกว่า

หากท่านใดมีความคิดเห็นอย่างไร ก็ร่วมกันแสดงความคิดเห็นกันนะครับ

ด้วยความเคารพ

[คนบูรพา]

ขอสนับสนุน.........ความคิดดีๆสร้างสรรค์.........เพื่อสังคมอย่างงี้ครับ

[pream]

ผมว่าก็เป็นแนวคิดที่ดีที่จะเริ่มต้นนะครับ แต่ลองเพิ่มเป้าประสงค์จุดเริ่มต้นเป็นตัวอย่างสักตัวอย่างสิครับ ผมเชื่อว่าสมาชิกในนี้เป็นคนที่ไม่อยู่นิ่งเฉยอยู่แล้ว อาจมีการต่อยอดเพิ่มขึ้น และอาจเป็นไปได้ว่ายังไม่แน่ใจว่าเป้าประสงค์ของ จขกท คืออะไร ลองบอกอย่างที่ผมว่าไว้สักตัวอย่างนะครับ

Edited by pream, 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 09:23.

[ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่]

ขอขอบพระคุณในน้ำใจของท่านแฮป***ครับ
กรุงศรีอยุธยาไม่สิ้นคนดี

ส่วนตัวผม มีองค์กรสาธารณะประโยชน์ที่ช่วยทำอยู่แล้ว 3 องค์กร
ซึ่งมีงานตลอดทั้งปี จึงยังนึกไม่ออกว่าจะร่วมทำงานอาสาอะไรนอกเหนือจากที่ทำอยู่ได้ครับ
ตอนนี้จึงนึกได้เพียงว่า...ขบวนการเสรีไทยของเรานี่แหละครับ น่าสนับสนุนที่สุด
หากทีมแอดมินและเว็บมาสเตอร์ต้องการ
เงินทุนของท่านแฮปปี้ จะสามารถช่วยให้เสรีไทยมีโดเมนและเซิร์ฟเวอร์ไปอีกยาวนาน
มีสถานที่ทำกิจกรรม (ถ้าต้องการ)
เพราะทุกวันนี้ ทีมงานก็อาสาทำเว็บอร์ดกันโดยไม่มีค่าแรง ไม่เห็นแก่เหน็ดแก่เหนื่อย และใช้เวลาส่วนตัวของตนมาทำทั้งสิ้นครับ

อันนี้เป็นไอเดียผมเฉยๆ ต้องสอบถามความสมัครใจจากเสรีไทยของเราอีกทีนะครับท่าน

[แฮปปี้]

จุดประสงค์ของผมก็คือ เป็นองค์กร การกุศล ครับ โดยส่วนตัว ผมทำธุรกิจ 2 ส่วน คือ คลีนิคทางการแพทย์(เป็นหุ้นส่วน)และผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์(เป็นธุรกิจส่วนตัวของผม ที่คิดค้นผลิตภัณฑ์ขายให้กับคลีนิคและลูกค้าคนอื่นๆ)

ผมมีหน้าที่ ผลิต คิดค้น วิจัย ผลิตภัณฑ์ ต่างๆที่ใช้ในคลีนิคและคิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ

ให้กับลุกค้าที่ต้องการเป็นผู้ผลิต เช่น มีลูกค้าต้องการที่จะผลิตครีมหน้าใส แต่ไม่รู้จะผลิตอย่างไรให้ได้มาตรฐาน

ผมก็จะรับงานมา คิดส่วนผสมต่างๆให้ มีเอกสารอธิบายให้ อย.พิจารณา เมื่อผ่านอย.แล้ว ลูกค้าก็สามารถนำไปผลิตได้

โดยผมได้รับค่าตอบแทนตามจำนวนที่ตกลงกัน ผลิตภัณฑ์ต่างๆที่ขายกันเยอะแยะในตอนนี้ อาจเป็นสูตรที่ผมคิดค้นขึ้นมาก็ได้

ปัจจุบัน บริษัท ที่ประกอบธุรกิจประเภทนี้ มีเยอะมากขึ้น แค่แจ้งความประสงค์ว่า อยากจะผลิตอะไรออกมาขาย แค่จ่ายมัดจำ ทุกอย่างก็จะเรียบร้อย

ทั้งนี้เมื่อผมขายสิทธิ์ให้แก่ลูกค้าไปแล้ว ผมก็จะไม่ทราบว่า ลูกค้าจะนำไปผลิตแล้วตั้งชื่อทางการค้าว่าชื่ออะไรบ้าง

การที่ผมอธิบายให้ทุกท่านทราบถึงงานที่ผมทำ เพื่อจะบอกกับทุกท่านว่า ผมไม่มีความรู้ในเรื่องอื่นๆมากนัก อยากจะทำการกุศล

หรืออยากจะมีส่วนร่วมในทางการเมือง ผมเองก็ไม่มีความรู้ เพราะเริ่มสนใจการเมืองจริงจังบ้างก็ตอนมีม็อบเสื้อแดง แต่ก็ไม่ค่อยมีเวลา

แต่เมื่อผมต้องหยุดเพราะถ้าทำไปตาอาจจะบอดได้ หากทิ้งสำนักงานไว้เฉยๆก็ไม่มีประโยชน์อะไร เลยคิดอยากจะทำอะไรให้เกิดประโยชน์บ้าง

แผนงานที่ผมวางไว้ก็คือ

1.จัดตั้งชมรมหรือองค์กรอะไรซักอย่าง จดทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในภายหลัง

2.มีสื่ออย่างใดอย่างหนึ่ง เป็นของตัวเอง เช่น เวปไซต์ วิทยุชุมชน หรืออาจจะเป็นเวปไซต์ที่คล้ายๆกระปุก ก็ได้(เคยคิดที่จะเช่าเวลา ทีวีดาวเทียม แค่คิดเท่านั้นนะครับ)

3.เป็นองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร

4.มีวัตถุประสงค์หลักในการทำกิจกรรมร่วมกัน ทั้งการกุศล การเมือง อาสาสมัคร สังคมสงเคราะห์ หรืออื่นๆที่เห็นสมควร

5.มีรูปแบบการบริหาร ที่เป็นไปในลักษณะของคณะกรรมการ เพื่อความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เเป็นที่น่าเชื่อถือของบุคคลทั่วไป

หรืออื่นๆที่เห็นสมควร ตอนนี้ผมยังคิดไม่ออก เลยต้องขอความคิดเห็นจากทุกท่านครับ

[baboon]

ดีครับ ทำเป็นสมาคม ชมรมอะไรไปก่อน พอเริ่มมีสมาชิกที่อุดมการณ์เดียวกันแน่นแฟ้นมากขึ้นสามารถพัฒนาเป็นพรรคการเมืองได้ และก็จะเป็นพรรคการเมืองตามทฤษฎีอย่างแท้จริงเสียด้วย

[RaRa]

เรื่องการตั้งกลุ่มที่ท่าน จขกท. ว่ามา ผมเห็นด้วยในหลักการเบื้องต้นทุกอย่าง

แต่...มีข้อเสนอแนะ นิดนึง นะครับ เกี่ยวกับเรื่องที่ ท่าน จขกท. ให้

"ทำกิจกรรมแบบเปิดเผยตัว" ....ผมว่ามี เพื่อน สมาชิก สรท. บางท่านยังไม่สามารถที่จะทำได้

และขออยู่เป็นเบื้องหลังไปสักระยะก่อน เพราะอาจจะไปกระทบกับหน้าที่การงานที่ทำอยู่ได้นะครับ

ด้วยความเคารพ ท่าน จขกท. ครับ

[พอล คุง]

เห็นด้วยครับ

ส่วนถ้าเรืองเว็ปไซค์ผมพอช่วยได้ครับ

ผมพอมีพื้นที่เซิพส่วนตัวเหลือ พอสมควร เด๋วผมจะจัดพื้นที่ให้ส่วนหนึ่งร่วมด้วยแล้วกันครับ

[ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่]

เข้าใจท่านแฮป***แล้วครับ ว่าอยากตั้งองค์กรสาธารณะประโยชน์

ในฐานะที่ทำงานในองค์กรแบบนี้มาบ้างนิดหน่อย
การจัดตั้งองค์กรไม่แสวงผลกำไรมีขั้นตอนเยอะมากๆๆครับ

1. ท่านแฮป***ควรมีที่ปรึกษาก่อนเลยครับ คนที่เคยดูแลองค์กรพวกนี้มา ว่าต้องการอะไรบ้างในการจัดตั้งองค์กรขึ้นมา

2. อุดมการณ์ขององค์กรคืออะไร เป็น mission statement น่ะครับ
เพราะจะมีผลต่อการระดมทุนในภายภาคหน้า

3. ผู้บริหาร
เพราะคนก่อตั้งมักเป็นประธาน ก็ต้องหาผอ.มาดูแลครับ
ต่อให้เป็นองค์กรเล็กกระจิ๊ดก็ต้องมีคนดูแล เพราะองค์กรแบบนี้จะได้รับยกเว้นไม่เสียภาษี จึงต้องส่งบัญชีให้ตรวจสอบอย่างเข้มงวดกันเลยทีเดียว

4. การจะทำให้องค์กรใหม่เป็นที่เชือ่ถือแก่คนทั่วไป อาศัยเวลาและการพีอาร์อย่างมหาศาลครับ
ในวงการเอ็นจีโอ อันนี้ขอสารภาพตามตรงนะครับว่า...เป็นวงการที่โคตรเขี้ยว และปัดแข้งปัดขากันอย่างไม่น่าเชื่อ
(ตอนเข้าไปทำงานใหม่ๆ คนมาจากสายธุรกิจที่มีการแข่งขันสูงมากอย่างผม ยังมีงง ไปไม่เป็น)
ท่านแฮป***ต้องอดทนใช้เวลาหน่อยนะครับ ต้องอึดครับ อึด

สู้สู้คร้าบ

[raffy]

นัดประชุมรวมตัวครั้งที่ 1 เลยครับ
จัดวาระ หัวข้อ ตามที่ท่านผึ้งฯ ให้ไว้ก่อนแล้ว
เพื่อมากำหนดทิศทาง บทบาทและเดินหน้าให้เป็นไปตามระบบ
การประชุมครั้งแรกบางทียังไม่ตกผลึกซะทั้งหมด
แต่อย่างน้อยก็ได้กรองไปบางส่วน หรือแบ่งแยกกลับไปศึกษา หาข้อมูลเพิ่มเติม
เพื่อจะมาต่อยอดในการประชุมครั้งที่ 2 ครับ
กำหนดวันเวลาเลยครับ
ถ้ายังไงการติดต่อก็ใช้ PM ส่วนตัวกันก็ดีนะครับ

[Super@2]

ผมฝันว่าจะทำ รถเข็นผู้พิการ ในราคาถูก

[Lelouch Vi Britannia]

เริ่มแรกเลย ผมอยากจะเสนอว่า พันธกิจสำคัญที่แท้จริง ของคุณคืออะไร เพราะแนวคิดนี้ มีคนเริ่มทำมาก่อนหน้าแล้วครับ คือ Peter F. Drucker
เป็นผู้ริเริ่มครับ ซึ่งถ้าใครเป็นผู้บริหารก็จะรู้จักกันพอสมควรละนะ ส่วนถ้าจะให้ช่วยอะไรก็ปรึกษาได้ ซึ่งผมเองก็ร้อนวิชามาเหมือนกัน
ซึ่งส่วนใหญ่ การที่องค์กรไม่แสวงหากำไรทั้งหลายจะล้มเหลว ก็ด้วยเหตุผลที่หลายท่านกล่าวมา ซึ่งหลักๆเลยคือ ไม่มีผู้บริหาร กับ จัดการการเงิน ไม่ดีพอ
และสุดท้ายเลยคือ การที่ไม่ทำตามพันธกิจที่ตัวเองตั้งไว้ ซึ่งองค์กรจะหลงทางไปทางไหนก็ไม่รู้

[พอล คุง]

ใจจริง ผมมีโครงการบางอย่างที่จะทำนะครับ เป็นองค์กรช่วยเหลือผู้คนในด้านต่าง ๆ รวมอยู่ในองค์กรเดียวกัน

แต่ไม่มีทุนสนับสนุน อ่ะ

ผมคิดว่า ต้องมีสักวัน ที่ผมจะทำได้สำเร็จครับ

[พอล คุง]

เริ่มแรกเลย ผมอยากจะเสนอว่า พันธกิจสำคัญที่แท้จริง ของคุณคืออะไร เพราะแนวคิดนี้ มีคนเริ่มทำมาก่อนหน้าแล้วครับ คือ Peter F. Drucker
เป็นผู้ริเริ่มครับ ซึ่งถ้าใครเป็นผู้บริหารก็จะรู้จักกันพอสมควรละนะ ส่วนถ้าจะให้ช่วยอะไรก็ปรึกษาได้ ซึ่งผมเองก็ร้อนวิชามาเหมือนกัน
ซึ่งส่วนใหญ่ การที่องค์กรไม่แสวงหากำไรทั้งหลายจะล้มเหลว ก็ด้วยเหตุผลที่หลายท่านกล่าวมา ซึ่งหลักๆเลยคือ ไม่มีผู้บริหาร กับ จัดการการเงิน ไม่ดีพอ
และสุดท้ายเลยคือ การที่ไม่ทำตามพันธกิจที่ตัวเองตั้งไว้ ซึ่งองค์กรจะหลงทางไปทางไหนก็ไม่รู้

เห็นด้วยเลยครับ

องค์กรที่ตั้งคิดไม่มีคนบริหารจัดการที่ดีพอ รวมไปถึงการเงินอ่ะครับ

ที่สำคัญ มักจะถูกการเมือง หรือ นักธุรกิจ เข้าแทรก ตลอดเลย ไม่รู้ทำไม

[Lelouch Vi Britannia]

เริ่มแรกเลย ผมอยากจะเสนอว่า พันธกิจสำคัญที่แท้จริง ของคุณคืออะไร เพราะแนวคิดนี้ มีคนเริ่มทำมาก่อนหน้าแล้วครับ คือ Peter F. Drucker
เป็นผู้ริเริ่มครับ ซึ่งถ้าใครเป็นผู้บริหารก็จะรู้จักกันพอสมควรละนะ ส่วนถ้าจะให้ช่วยอะไรก็ปรึกษาได้ ซึ่งผมเองก็ร้อนวิชามาเหมือนกัน
ซึ่งส่วนใหญ่ การที่องค์กรไม่แสวงหากำไรทั้งหลายจะล้มเหลว ก็ด้วยเหตุผลที่หลายท่านกล่าวมา ซึ่งหลักๆเลยคือ ไม่มีผู้บริหาร กับ จัดการการเงิน ไม่ดีพอ
และสุดท้ายเลยคือ การที่ไม่ทำตามพันธกิจที่ตัวเองตั้งไว้ ซึ่งองค์กรจะหลงทางไปทางไหนก็ไม่รู้

เห็นด้วยเลยครับ

องค์กรที่ตั้งคิดไม่มีคนบริหารจัดการที่ดีพอ รวมไปถึงการเงินอ่ะครับ

ที่สำคัญ มักจะถูกการเมือง หรือ นักธุรกิจ เข้าแทรก ตลอดเลย ไม่รู้ทำไม

เพราะมันเป็นการเพิ่มเครดิตให้ตัวเองไงครับ ซึ่งหลายบริษัทก็ทำมาหลายปีแล้ว ไอ้ที่ขึ้นชื่อว่าผู้ใหญ่ใจดี นี่แหละ ตัวดีเลย
ส่วนเสริมเรื่องเงินอีกนิดนึง เงินในที่นี้ส่วนใหญ่ 2 ประเภทที่จะล้มเหลว คือ 1.เงินมากไปจนล้นมือ 2.เงินน้อยไปจนกลายเป็นองค์กรไส้แห้ง ซึ่งการจัดการเงินเบื้องต้นเลยคือ ง่ายๆ
ครับ แค่ท่านกำหนดตัวเงินให้มีค่าทุกบาททุกสตางค์ไปเลยครับ กำหนดไปเลยว่าเงินอันไหนใช้เผื่อสำรอง ใช้เผื่อการบริการ ใช้เผื่อการค้นคว้า ซึ่ง ถ้ายังเหลือเงินที่ไม่มีค่าอยู่ก็ดูว่า
อะไรคือความสำเร็จจากความบังเอิญ สำรวจสาเหตุของความบังเอิญ แล้วคุณจะได้วิธิการใหม่ๆ การบริการใหม่ๆ ที่ตอบสนองสังคมได้มากขึ้นอีกครับ

[Maruay]

เป็นไอเดียที่ดีมากจริง ๆ ครับ และน่าชื่นชมมาก ๆ ด้วยที่เมื่อคน ๆ หนึ่งประสบความสำเร็จแล้วไม่โลภ

ผมมีความเห็นว่า ควรกำหนด Vision, Mission ขององค์กรให้ชัดเจนนะครับ เช่น ต้องการให้เป็นองค์กรที่ช่วยเหลือด้านการแพทย์แก่คนกลุ่มใด กลุ่มหนึ่ง หรือเยียวผู้ประสบภัยจากการชุมนุมและความไม่สงบทางการเมืองตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบัน

ส่วนการจดทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมายนั้นคงต้องอยู่บน วิสัยทัศน์และพันธกิจขององค์กรนะครับ (หากเป็นมูลนิธิหรือสมาคมที่ถูกต้องตามกฎหมาย นั้นจะต้องไม่ข้องเกี่ยวกับการเมือง)

เห็นด้วยกับสมาชิกหลาย ๆ ท่านที่ได้เสนอไปแล้วว่า เราอาจประชุมกำหนดอุดมการณ์ร่วมกันก่อน เริ่มวางแผนในรายละเอียดนะครับ ซึ่งอาจต้องใช้เวลาพอควร

ส่วนตัวผมไม่มีความรู้ด้านคอม มากนัก แต่พอมีความรู้ด้านการบัญชี ภาาษีอากรและกฎหมายองค์กรไม่แสวงหากำไรจากต่างประเทศ (เช่นมูลนิธิ) ซึ่งหากพอช่วยส่วนนี้ได้ก็ยินดีครับ

[Niskat]

2 thumps up

[หลานคนสร้างชาติ]

ผมไม่ได้เป็นคนรวย แต่ก็ไม่เดือดร้อนและไม่มีหนี้สินใดๆ ประกอบธุรกิจส่วนตัว ในช่วงการชุมนุมของคนเสื้อแดง ธุรกิจได้รับความเสียหาย แต่ปัจจุบันก็สามารถกลับมาได้เหมือนเดิม ปีนี้กลับมามีกำไรแล้ว นับตั้งแต่ปี 53 ที่ขาดทุนยับ

ผมคิดมานานแล้วว่า ผมควรทำอะไรที่เป็นการตอบแทนแผ่นดินบ้าง ทำอะไรที่เป็นการตอบแทนเพื่อนมนุษย์ที่ร่วมโลกใบนี้ แต่ที่ผ่านมา ผมได้ใช้เวลาส่วนมากไปในทาง คิดค้น วิจัย พัฒนา เกี่ยวกับธุรกิจของตัวเอง อยู่แต่ในห้องทดลองแทบไม่เคยออกไปไหน เพราะเป็นคนที่คิดทำสิ่งใด ถ้าไม่สำเร็จจะไม่ยอมเลิก

แต่วันนี้ ผมคิดว่า ผมประสบความสำเร็จในธุรกิจที่ทำแล้ว ธุรกิจที่จะไปได้ดีเรื่อยๆ ถ้าไม่มีเหตุบ้านการณ์เมืองให้ได้รับผลกระทบอีก

ข้อเสนอของผมก็คือ ผมอยากให้ทุกท่านที่มีแนวคิดไปในทางเดียวกันกับผม เข้ามาร่วมกิจกรรมสาธารณะที่เป็นประโยชน์แบบเห็นผลได้จริง

เช่น รวมกลุ่มกันเป็นอาสาสมัครในเรื่องๆต่างเพื่อเป็นการช่วยเหลือสังคม หรือกิจกรรมต่างๆที่ลงมือปฎิบัติกันจริงจัง ให้เห็นผลเป็นรูปธรรม สมมุติว่า ในอนาคตมีเหตุการณืชุมนุมทางการเมืองเกิดขึ้นอีก เราก็รวมกลุ่มกันเป็น อาสาพยาบาลช่วยเหลือผู้ชุมนุมในทุกเรื่องที่สามารถช่วยได้ หากช่วยไม่ได้เราก็จะใช้วิธีการส่งต่อ เป็นต้น

หรือในสภาวะที่ปกติ เราก็ร่วมกันไปทำกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ต่างๆกันอย่างเป็นกลุ่มเป็นก้อนหรือกิจกรรมใดๆก็ได้ตามที่สมาชิกกลุ่มเห็นชอบร่วมกัน

ท่านใดที่มีความรู้เรื่องไหน ก็นำมาปรับประยุกต์ใช้ เป็นการทำประโยชน์ในวิชาชีพของตัวเองให้กับสังคม นอกเหนือจากงานประจำ ใช้ระบบประชาธิปไตย ในการขับเคลื่อนกลุ่ม ทุกท่านสามารถแสดงความคิดเห็นได้อย่างเต็มที่ เพราะมีความรู้ความสามารถกันทุกคน

หากมีท่านที่เข้ามาแสดงเจตนารมณ์ต้องการร่วมกันทำกิจกรรมสาธารณะประโยชน์ด้วยกัน มีหลายๆท่าน ผมจะแจ้งเบอร์โทรให้ทุกท่านทราบ

ในเบื้องต้น ผมยินดีบริจาคให้เป็นกองทุน หนึ่งแสนบาท(เงินเดือนของผม 1 เดือนที่ผมเป็นคนตั้งเงินเดือนให้ตัวเอง)

มอบพื้นที่ อาคารพานิชย์ 4 ชั้น ให้เป็นสำนักงาน ทุกท่านเข้ามาใช้พื้นที่ได้ตลอดเวลา

มอบอุปกรณ์สำนักงานที่จำเป็นให้ครบทุกอย่าง(เป็นสำนักงานส่วนตัวเดิมของผม ที่ผมจะหยุดใช้สิ้นปีนี้)

ยินดีมอบรายได้ส่วนหนึ่งจากการดำเนินธุรกิจของผมเป็นประจำทุกเดือน เพื่อสบทบเป็นทุนของกลุ่ม

ผมเห็นว่า การที่เราอยู่กันแต่ในโลกไซเบอร์ รวมกลุ่มกันหลวมๆอาจจะยังไม่ได้แสดงความสามารถที่แท้จริงกันออกมา การรวมกลุ่มกันแบบจริงจัง เปิดเผยตัวเอง จะทำให้ศักยภาพในการทำกิจกรรมต่างๆเห็นผลเป็นรูปธรรมมากขึ้น

ทั้งนี้ผมวางแผนงานเอาไว้ว่า จะเริ่มดำเนินการหลังปีใหม่ หากไม่มีท่านใดสนใจ ผมอาจจะทำคนเดียวไปก่อน แล้วค่อยๆหาท่านที่สนใจไปเรื่อยๆเพราะตั้งแต่ปีหน้า ผมว่างงาน เป็นแค่หุ้นส่วนธุรกิจ(ผมทำงานมากจนตาเกือบจะบอด ต้องหยุดพักฟักฟื้นตา)แต่ผมไม่ชอบอยู่เฉยๆขออุทิศตัวทำงานการกุศลไปเรื่อยๆดีกว่า

หากท่านใดมีความคิดเห็นอย่างไร ก็ร่วมกันแสดงความคิดเห็นกันนะครับ

ด้วยความเคารพ

นับถือ น้ำใจบริสุทธิ์ ครับ

[ดอกปีบ]

Good idea!

[ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่]

ผมฝันว่าจะทำ รถเข็นผู้พิการ ในราคาถูก

BEST IDEA!!

ท่านซุปฯลองถามตอบคำถามก่อนก็ได้นะครับ "ทำไมไม่มีคนทำรถเข็นราคาถูกมาก่อนหน้าเรา?"
เพราะไม่มีคน "มีใจ" ที่จะทำเหรอ?
หรือว่ามีคนทำแล้วแต่เราไม่รู้
หรือว่ามีคนคิดทำ ทว่าทำไม่ได้ เนื่องจาก...เก้าลอเก้า...ครับ

เป็นความคิดที่น่าอนุโมทนามากมายเลยครับท่าน

เริ่มแรกเลย ผมอยากจะเสนอว่า พันธกิจสำคัญที่แท้จริง ของคุณคืออะไร เพราะแนวคิดนี้ มีคนเริ่มทำมาก่อนหน้าแล้วครับ คือ Peter F. Drucker
เป็นผู้ริเริ่มครับ ซึ่งถ้าใครเป็นผู้บริหารก็จะรู้จักกันพอสมควรละนะ ส่วนถ้าจะให้ช่วยอะไรก็ปรึกษาได้ ซึ่งผมเองก็ร้อนวิชามาเหมือนกัน
ซึ่งส่วนใหญ่ การที่องค์กรไม่แสวงหากำไรทั้งหลายจะล้มเหลว ก็ด้วยเหตุผลที่หลายท่านกล่าวมา ซึ่งหลักๆเลยคือ ไม่มีผู้บริหาร กับ จัดการการเงิน ไม่ดีพอ
และสุดท้ายเลยคือ การที่ไม่ทำตามพันธกิจที่ตัวเองตั้งไว้ ซึ่งองค์กรจะหลงทางไปทางไหนก็ไม่รู้

เห็นด้วยเลยครับ

องค์กรที่ตั้งคิดไม่มีคนบริหารจัดการที่ดีพอ รวมไปถึงการเงินอ่ะครับ

ที่สำคัญ มักจะถูกการเมือง หรือ นักธุรกิจ เข้าแทรก ตลอดเลย ไม่รู้ทำไม

ยืนยันความคิดของ poulkung ครับ
หนึ่งในองค์กรที่ผมอาสาทำงานอยู่ ก็มีกลุ่มเฟมินิสต์เข้ามาช่วยหลายกลุ่ม
ปรากฏว่าตอนผมป่วย เลยไม่ได้เข้าประชุมอยู่นานหลายเดือน ผมกลับมาอีกที..อ้าว..แตกคอกันหมดแล้ว
เพราะกลุ่มหนึ่งเข้ามาอาศัยองค์กรเพื่อผลประโยชน์ คือสร้างผลงานเพื่อไต่เต้าเข้าไปสู่พรรคการเมือง
กลุ่มที่มาเกาะเพื่อปูทาง พอได้เข้าไปเป็นสส.ปาร์ตี้ลิสต์ ก็ถีบกลุ่มทิ้งเลย

ให้เดาซิว่าเป็นปาร์ตี้ลิสต์พรรคอาราย
เอิงเงย...


แต่พวกนักการเมืองที่ดี ที่เข้ามาช่วยองค์กรการกุศลโดยไม่แสวงประโยชน็ก็มี และช่วยจริงช่วยจังโดยไม่ได้อะไรเลย
ขออนุญาตเปิดเผยชื่อเพื่อประกาศความดี ณ ตรงนี้ ท่านได้เข้ามาช่วยองค์กรที่ผมกล่าวถึง โดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทนมา 2 ปีแล้วครับ
คือสส.รัชดา ธนาดิเรก กับสส.ผุสดี ตามไท

ท่านลองหาดูแล้วกันว่าทั้งสองอยู่พรรคอะไร
วันนี้กล้องก็จับหลายครั้งเลย


ปล. มาเพิ่ม
Oreki Houtarou
น้องไม่ใช่อายุ 14 แล้วหรือครับ เห็นบอกว่าร้อนวิชาสายปีเตอร์ ดรัคเกอร์
โธ่ แล้วงี้ท่านโจหนุ่มน้อยอายุ 14 ก้อไม่มีเพื่อนแล้วดี้!!

Edited by ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่, 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 17:55.

[Lelouch Vi Britannia]

ผมฝันว่าจะทำ รถเข็นผู้พิการ ในราคาถูก

BEST IDEA!!

ท่านซุปฯลองถามตอบคำถามก่อนก็ได้นะครับ "ทำไมไม่มีคนทำรถเข็นราคาถูกมาก่อนหน้าเรา?"
เพราะไม่มีคน "มีใจ" ที่จะทำเหรอ?
หรือว่ามีคนทำแล้วแต่เราไม่รู้
หรือว่ามีคนคิดทำ ทว่าทำไม่ได้ เนื่องจาก...เก้าลอเก้า...ครับ

เป็นความคิดที่น่าอนุโมทนามากมายเลยครับท่าน

เริ่มแรกเลย ผมอยากจะเสนอว่า พันธกิจสำคัญที่แท้จริง ของคุณคืออะไร เพราะแนวคิดนี้ มีคนเริ่มทำมาก่อนหน้าแล้วครับ คือ Peter F. Drucker
เป็นผู้ริเริ่มครับ ซึ่งถ้าใครเป็นผู้บริหารก็จะรู้จักกันพอสมควรละนะ ส่วนถ้าจะให้ช่วยอะไรก็ปรึกษาได้ ซึ่งผมเองก็ร้อนวิชามาเหมือนกัน
ซึ่งส่วนใหญ่ การที่องค์กรไม่แสวงหากำไรทั้งหลายจะล้มเหลว ก็ด้วยเหตุผลที่หลายท่านกล่าวมา ซึ่งหลักๆเลยคือ ไม่มีผู้บริหาร กับ จัดการการเงิน ไม่ดีพอ
และสุดท้ายเลยคือ การที่ไม่ทำตามพันธกิจที่ตัวเองตั้งไว้ ซึ่งองค์กรจะหลงทางไปทางไหนก็ไม่รู้

เห็นด้วยเลยครับ

องค์กรที่ตั้งคิดไม่มีคนบริหารจัดการที่ดีพอ รวมไปถึงการเงินอ่ะครับ

ที่สำคัญ มักจะถูกการเมือง หรือ นักธุรกิจ เข้าแทรก ตลอดเลย ไม่รู้ทำไม

ยืนยันความคิดของ poulkung ครับ
หนึ่งในองค์กรที่ผมอาสาทำงานอยู่ ก็มีกลุ่มเฟมินิสต์เข้ามาช่วยหลายกลุ่ม
ปรากฏว่าตอนผมป่วย เลยไม่ได้เข้าประชุมอยู่นานหลายเดือน ผมกลับมาอีกที..อ้าว..แตกคอกันหมดแล้ว
เพราะกลุ่มหนึ่งเข้ามาอาศัยองค์กรเพื่อผลประโยชน์ คือสร้างผลงานเพื่อไต่เต้าเข้าไปสู่พรรคการเมือง
กลุ่มที่มาเกาะเพื่อปูทาง พอได้เข้าไปเป็นสส.ปาร์ตี้ลิสต์ ก็ถีบกลุ่มทิ้งเลย

ให้เดาซิว่าเป็นปาร์ตี้ลิสต์พรรคอาราย
เอิงเงย...


แต่พวกนักการเมืองที่ดี ที่เข้ามาช่วยองค์กรการกุศลโดยไม่แสวงประโยชน็ก็มี และช่วยจริงช่วยจังโดยไม่ได้อะไรเลย
ขออนุญาตเปิดเผยชื่อเพื่อประกาศความดี ณ ตรงนี้ ท่านได้เข้ามาช่วยองค์กรที่ผมกล่าวถึง โดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทนมา 2 ปีแล้วครับ
คือสส.รัชดา ธนาดิเรก กับสส.ผุสดี ตามไท

ท่านลองหาดูแล้วกันว่าทั้งสองอยู่พรรคอะไร
วันนี้กล้องก็จับหลายครั้งเลย


ปล. มาเพิ่ม
Oreki Houtarou
น้องไม่ใช่อายุ 14 แล้วหรือครับ เห็นบอกว่าร้อนวิชาสายปีเตอร์ ดรัคเกอร์
โธ่ แล้วงี้ท่านโจหนุ่มน้อยอายุ 14 ก้อไม่มีเพื่อนแล้วดี้!!

ก็ 14 อะดิครับ แต่เรื่องพวกนี้ ผมศึกษามาตั้งแต่ 13 มันก็เหมือนกับเพิ่งเรียนไปเสร็จก็ร้อนวิชานั่นแหละ ส่วนท่านโจหนุ่มน้อยนั้น - -. คิดไม่ตกจริงๆ
ว่าใครไม่มีเพื่อนกันแน่