ศาลระบุแท็กซี่เสื้อแดงถูกทหารยิงตายที่ซอยรางน้ำ ตัดสินวันนี้
#1
ตอบ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 19:02
วันนี้ (26 พ.ย.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำสั่งการไต่สวนคำร้องชันสูตรศพคดีดำ อช. 1/2555 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 6 เป็นโจทก์ ยื่นคำร้องขอให้ชันสูตรการเสียชีวิตของนายชาญณรงค์ พลศรีลา แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เพื่อทำคำสั่ง แสดงว่าผู้ตายเป็นใคร ตายที่ไหน เมื่อใด และถึงเหตุ และพฤติการณ์ที่ตาย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 150 ซึ่งนายชาญณรงค์ถูกยิงเสียชีวิตบริเวณหน้าปั๊มน้ำมันเชลล์ ซ.รางน้ำ เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2553 ในช่วงรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี
คดีนี้ข้อเท็จจริงรับฟังเป็นที่ยุติจากพยานทุกปากว่า เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2553 กลุ่ม นปช.จัดให้มีการชุมนุมเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ นายกรัฐมนตรีขณะนั้นประกาศยุบสภา โดยมีการตั้งเวทีปราศรัยและชุมนุมที่บริเวณสะพานผ่านฟ้า ถ.ราชดำเนิน และต่อมาได้ไปตั้งเวทีปราศรัยที่บริเวณสี่แยกราชประสงค์ ต่อมารัฐบาลได้ประกาศใช้ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 และต่อมาวันที่ 7 เมษายน 2553 ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ตาม พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ตามคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 1/2553 ตั้งศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) และตั้งนายสุเทพเป็นผู้อำนายการ ตามคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 2/2552 ต่อมามีคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่พิเศษ 93/2553 ให้ พล.อ.อนุพงศ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ขณะนั้นเป็นหัวหน้าผู้รับผิดชอบ
เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2553 ศอฉ.ส่งกำลังเข้าไปขอคืนพื้นที่บริเวณถนนราชดำเนิน เกิดการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ทหารและกลุ่มผู้ชุมนุม มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก ต่อมาศาลแพ่งมีคำสั่งให้ ศอฉ.ดำเนินการตามมาตรการสากลและเท่าที่จำเป็นต่อผู้ชุมนุม ต่อมาวันที่ 14 พฤษภาคม 2553 ศอฉ.ใช้มาตรการปิดล้อมและสกัดกั้นผู้ชุมนุมบริเวณถนนราชปรารภ ถนนศรีอยุธยา ถนนเพชรบุรี และถนนราชวิถี เวลา 14.00 น.ส่งทหารเข้าวางกำลังบนถนนราชปรารภระหว่างซอย 12-14 กระทั่งวันที่ 15 พฤษภาคม 2553 เวลา 15.00 น. นายชาญณรงค์ ผู้ตายซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้ชุมนุม นปช.ได้นำเอายางรถยนต์ไปวางเป็นแนวบังเกอร์บริเวณหน้าสถานีบริการน้ำมันเซลล์ มีเสียงปืนดังขึ้นเป็นชุดๆ และนายชาญณรงค์ ผู้ตายถูกกระสุนปืนถึงแก่ความตาย
มีปัญหาต้องวินิจฉัยว่าผู้ตายคือใคร ตายที่ไหน เมื่อใด ได้ความจากนางสุริยัน พลศรีลา ภรรยาผู้ตาย พนักงานสอบสวน นายนิโคลัส นอร์ทิส ช่างภาพอิสระชาวเยอรมัน และนักข่าวชาวไทยและต่างประเทศที่ไปถ่ายภาพทำข่าวในที่เกิดเหตุ เป็นพยานเบิกความประกอบภาพถ่ายที่เกิดเหตุ ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ผู้ตายชื่อนายชาญณรงค์ พลศรีลา ตายที่โรงพยาบาลพญาไท 1 เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2553 เวลาประมาณ 14.00 น. ตามรายงานการตรวจศพ
ปัญหาต้องวินิจฉัยว่า เหตุและพฤติการณ์ที่ตายและใครเป็นผู้ทำให้ตาย สำหรับเหตุที่ตายมี แพทย์ผู้ตรวจชันสูตรศพผู้ตายเบิกความว่า นายชาญณรงค์ ผู้ตายถูกกระสุนความเร็วสูงเข้าที่ท้องทำให้ลำไส้ขาดหลายแห่ง และเก็บหัวกระสุนที่ได้จากศพผู้ตายส่งไปตรวจ โดยผู้เชี่ยวชาญด้านการตรวจอาวุธปืนตรวจพิสูจน์แล้วยืนยันว่าเป็นหัวกระสุนขนาด .223 หรือ 5.56 มิลลิเมตร และหัวกระสุนดังกล่าวใช้กับปืนความเร็วสูงชนิดเอ็ม16, เอชเค33 และทาโวร์-ทาร์ 21
สำหรับพฤติการณ์ที่ตายและใครทำให้ตายนั้น ได้ความจากพยานกลุ่มที่เป็นนักข่าวทั้งชาวไทยและต่างประเทศที่ไปถ่ายภาพและรายงานข่าวในที่เกิดเหตุซึ่งเป็นประจักษ์พยานที่สำคัญ เบิกความว่า กระสุนปืนถูกยิงมาจากทางที่ทหารประการอยู่หลังรั้วหีบเพลงลวดหนาม และกระสอบทรายที่ตั้งอยู่บริเวณถนนราชปรารภด้านฝั่งประตูน้ำ กระสุนถูกผู้ตาย ผู้ชุมนุมคนอื่นๆ มีสื่อมวลชนถ่ายภาพเหตุการณ์ไว้ นอกจากนี้ มีเจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐานที่ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุเบิกความยืนยันว่าพบรอยกระสุนปืนฝั่งที่ผู้ตายและผู้ชุมนุมอยู่ โดยกระสุนปืนถูกยิงมาจากทางที่ทหารประจำการอยู่ มีแผนที่สังเขปและภาพถ่ายเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุเป็นพยาน
ขณะที่พยานซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ทหารที่ปฎิบัติหน้าที่ในบริเวณดังกล่าว สังกัดกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 31 รักษาพระองค์ เบิกความยอมรับว่า ทำหน้าที่ที่ถนนราชปรารภตามที่ ศอฉ.ส่งไป แต่ไม่มีทหารในสังกัดยิงใส่ผู้ชุมนุม ขัดกับพยานหลักฐานรอยกระสุนปืนที่พบ คำเบิกความของพยานกลุ่มนี้จึงมีพิรุธขัดแย้งกับหลักฐานภาพถ่าย
ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่ากระสุนปืนที่ยิงถูกนายชาญณรงค์ ผู้ตายมาจากทางทหาร แต่เมื่อคำสั่ง ศอฉ.ให้ พล.1 รอ.ไปทำหน้าที่บริเวณดังกล่าว ไม่ปรากฏว่ากองพันทหารราบที่ 3 สังกัด พล.1 รอ. หรือไม่ เนื่องจากผู้ร้องไม่นำสืบให้ชัดว่า เป็นหน่วยใดและบริเวณที่เกิดเหตุมีทหารหน่วยกองพันทหารราบที่ 3 เพียงหน่วยเดียวเท่านั้น แต่ไม่มีพยานเห็นขณะยิง จึงฟังไม่ได้ว่าทหารจากกองพันทหารราบที่ 3 เป็นผู้ยิง อาจเป็นหน่วยอื่นก็เป็นได้ จึงฟังได้เพียงว่าทหารที่ ศอฉ.ส่งไปปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ทำให้ตาย ส่วนผลการตรวจปืนไม่สามารถยืนยันได้แน่นอนว่าทหารไม่ได้ยิงเพราะเปลี่ยนลำกล้องได้
ดังนั้น ข้อเท็จจริงในปัญหาข้อที่ว่าเหตุและพฤติการณ์ที่ตายเป็นอย่างไรและจากใครเป็นผู้กระทำร้ายผู้ตายเท่าที่จะทราบได้ จึงรับฟังได้ว่า ผู้ตาย ตายเพราะถูกกระสุนปืนจากอาวุธปืนความเร็วสูง ขนาด .223 หรือ 5.56 มิลลิเมตร ของทหารที่ ศอฉ.ส่งไปดำเนินการตามมาตรการปิดล้อมและสกัดกั้นกลุ่มผู้ชุมนุมเพื่อขอคืนพื้นที่และผิวจราจรบริเวณถนนราชปรารภ
อาศัยเหตุผลดังที่ได้วินิจฉัยมาดังกล่าวขั้นต้น จึงมีคำสั่งว่าผู้ตายคือนายชาญณรงค์ พลศรีลา ตายที่โรงพยาบาลพญาไท 1 แขวงถนนพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2553 เวลาประมาณ 14.00 น. เหตุและพฤติการณ์ที่ตายคือ ถูกทหารที่มาปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งของศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ในการดำเนินการตามมาตรการปิดล้อมและสกัดกั้นกลุ่มผู้ชุมนุมเพื่อขอคืนพื้นที่และผิวการจราจรบริเวณถนนราชปรารภ ยิงด้วยอาวุธปืนความเร็วสูง ขนาด .223 หรือ 5.56 มิลลิเมตร หัวกระสุนปืนลูกโดดถูกที่บริเวณหน้าท้องและแขนขวา เป็นเหตุให้ลำไส้เล็กฉีกขาดหลายตำแหน่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการฟังคำสั่งวันนี้มีนางสุริยัน พลศรีลา ภรรยาผู้ตาย น.ส.มนชยา และน.ส.นิพาดา พลศรีลา บุตรสาวผู้ตาย นางธิดา ถาวรเศรษฐ์ ประธาน นปช. นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำ นปช.มาร่วมฟังคำสั่งด้วย
ภายหลังฟังพิพากษา นางธิดา โตจิราการ ประธาน นปช.กล่าวว่า ที่ศาลมีคำสั่งในวันนนี้รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก และพยานที่มาเบิกความต่อศาลคดีนี้ก็มากจากสื่อมวลชนที่ไม่ได้เป็นสื่อของเสื้อแดง เรื่องการเยียวยาญาติและครอบครัวผู้ตายด้วยการจ่ายเงินนั้นเป็นส่วนหนึ่ง แต่การที่ผู้ตายถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ก่อการร้ายทำให้ชื่อเสียงเกียรติยศของครอบครัวผู้ตายเสียหาย จึงควรเยียวยาความรู้สึกด้วยการเสนอความจริงแก้ไขชื่อเสียงให้
ขณะที่ นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำ นปช.กล่าวว่า เมื่อคำสั่งศาลระบุว่านายชาญณรงค์ ผู้ตาย ถูกเจ้าหน้าที่ทหารที่ปฎิบัติตามคำสั่ง ศอฉ.ยิงตาย ดังนั้น นายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ ในฐานะ ผอ.ศอฉ.ควรต้องออกมารับผิดชอบ และในคดีนี้ที่ฝ่ายทหารมาเบิกความว่ากลุ่มผู้ชุมนุมมีอาวุธนั้น ศาลก็ไม่ได้นำประเด็นดังกล่าวมาพิจารณาเนื่องจากไม่เกี่ยวกับการตายของนายชาญณรงค์ และจากการตรวจพิสูจน์ในที่เกิดเหตุปรากฏร่องรอยกระสุนของทหารมากถึง 33 รอย แสดงให้เห็นว่าผู้ชุมนุมไม่มีอาวุธอื่นใด มีเพียงหนังสติ๊กเป็นอาวุธเท่านั้น
นางสุริยัน ภรรยากล่าวว่า ดีใจที่ได้รับความยุติธรรมและคาดการณ์ไว้แล้วว่าผลคำสั่งศาลน่าจะออกมาลักษณะนี้ เพราะก่อนหน้านี้มีพยานที่เห็นเหตุการณ์มาบอกว่าสามีเสียชีวิตจากการถูกเจ้าหน้าที่ทหารยิง ส่วนการดำเนินการต่อไปนั้นต้องขอปรึกษาทนายความก่อน
ด้านนายโชคชัย ทนายญาติผู้ตายกล่าวว่า หลังศาลมีคำสั่ง พนักงานอัยการก็จะนำคำสั่งศาลไปมอบให้พนักงานสอบสวนเจ้าของสำนวนสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีต่อไป
คุกสถานเดียว
#2
ตอบ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 19:03
#3
ตอบ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 19:11
ฝนถล่มวะมาสาย ฮ่าๆๆ
#4
ตอบ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 19:13
***อาศัยเหตุผลดังที่ได้วินิจฉัยมาดังกล่าวขั้นต้น จึงมีคำสั่งว่าผู้ตายคือนายชาญณรงค์ พลศรีลา ตายที่โรงพยาบาลพญาไท 1 แขวงถนนพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2553 เวลาประมาณ 14.00 น. เหตุและพฤติการณ์ที่ตายคือ ถูกทหารที่มา
ปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งของศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.)
ในการดำเนินการตามมาตรการปิดล้อมและสกัดกั้นกลุ่มผู้ชุมนุมเพื่อขอคืน พื้นที่และผิวการจราจรบริเวณถนนราชปรารภ ยิงด้วยอาวุธปืนความเร็วสูง ขนาด .223 หรือ 5.56 มิลลิเมตร หัวกระสุนปืนลูกโดดถูกที่บริเวณหน้าท้องและแขนขวา เป็นเหตุให้ลำไส้เล็กฉีกขาดหลายตำแหน่ง***
มาตรา ๑๗ พนักงานเจ้าหน้าที่และผู้มีอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกับพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามพระราชกำหนดนี้
ไม่ต้องรับผิดทั้งทางแพ่ง ทางอาญา หรือทางวินัย เนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่ในการระงับหรือป้องกันการกระทำผิดกฎหมาย หากเป็นการกระทำที่สุจริต ไม่เลือกปฏิบัติ และไม่เกินสมควรแก่เหตุหรือไม่เกินกว่ากรณีจำเป็น
แต่ไม่ตัดสิทธิผู้ได้รับความเสียหายที่จะเรียกร้องค่าเสียหายจากทางราชการ ตามกฎหมายว่าด้วยความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่
- Kyubey, TIK Tik tik and บัวทอง... like this
"น้อมส่งเสด็จสู่พระนิพพาน"
#5
ตอบ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 19:15
#6
ตอบ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 19:16
ป้ายก็มีบอกว่า "เขตใช้กระสุนจริง"...และอีกอย่าง ทหารก็ทำตามหน้าที่นะครับ
ขอเทิดทูนศักดิ์ศรียิ่งสิ่งใด
...แม้แต่ลมหายใจก็ยอมพลี
โลกยังไม่สิ้นหวัง ถ้ายังมั่นในความดี
...ศรัทธาไม่เคยหน่ายหนี คนดีไม่มีวันตาย
#7
ตอบ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 19:16
ก็ขอให้ไปสู่สุขติแล้วกัน เกิดชาติหน้าฉันใดก็อย่าให้พวกแกนนำชั่วๆ นปช.มันพาไปตายอีกแล้วกัน
เขาขอคืนพื้นที่ใช้ชาวบ้านทำมาหากิน ก็คืนเค้าไปสิ
พื้นที่ชุมนุมอยู่ สี่แยก รปส.แล้วมาเพ่นพ่านทำไมแถวซอยรางน้ำ ห่างกันเป็นกิโล...
Edited by คนกรุงธน, 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 19:21.
"น้อมส่งเสด็จสู่พระนิพพาน"
#8
ตอบ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 19:17
• เอือมระอากับบรรดาพี่น้องที่หลงทางจริงๆ เห็นต่างกันยังรับได้ครับ แต่เห็นผิดเป็นชอบแบบนี้มันบัดซบจริงๆ •
• หายนะของประเทศไทย ก็คือการที่ "ควายเลือกควาย" เข้ามาทำลายประเทศ •
#9
ตอบ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 19:17
#10
ตอบ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 19:19
กร๊าก
ถ้าคิดว่ากฎหมายคุ้มครอง ตัวเองไม่ผิด ทหาร และแมงสาป จะโวยวายทำไม เงียบปากไป แล้วรอไปขึ้นศาลสิ
Edited by หมูอวกาศ, 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 19:20.
#12
ตอบ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 19:23
กฎหมายคุ้มครองไม่ใช่จะทำอะไรก็ได้ แน่จริงอย่ากลัว DSI สิ ถ้าคิดว่าตัวเองไม่ผิดแน่ กฎหมายคุ้มครองกร๊าก
ถ้าคิดว่ากฎหมายคุ้มครอง ตัวเองไม่ผิด ทหาร และแมงสาป จะโวยวายทำไม เงียบปากไป แล้วรอไปขึ้นศาลสิ
ใช่เลยครับ ไม่ใช่จะทำอะไรก็ได้...แบบนี้ใช่ไหมครับ
- พ่อไอ้ร้อยล็อคอิน likes this
ขอเทิดทูนศักดิ์ศรียิ่งสิ่งใด
...แม้แต่ลมหายใจก็ยอมพลี
โลกยังไม่สิ้นหวัง ถ้ายังมั่นในความดี
...ศรัทธาไม่เคยหน่ายหนี คนดีไม่มีวันตาย
#13
ตอบ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 19:25
แต่ม๊อบแมงสาป เข้าไปทำร้ายตำรวจ ก็ต้องโดนจับโดยละมุนละม่อม ด้วยส้นเท้า ถูกหลักชัดเจน
#14
ตอบ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 19:45
มะเห็นเป็นไรนี่หว่า เจ็บแล้วก็หาย ตำรวจต้องรีบปล่อยตัวโดยไม่ต้องมีหลักประกันแท็กซี่แดงเขาไม่ได้ไปทำอะไรทหาร ก็โดนยิง
แต่ม๊อบแมงสาป เข้าไปทำร้ายตำรวจ ก็ต้องโดนจับโดยละมุนละม่อม ด้วยส้นเท้า ถูกหลักชัดเจน
แต่พวกเอ็ง ตายหยังเขียด...เหอๆๆๆ มันต่างกันว่ะไอ้น้อง...
"น้อมส่งเสด็จสู่พระนิพพาน"
#15
ตอบ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 19:47
ทำผิดกฎหมายไหมนั่น
กระสุนก็สำหรับปืนหลายขนาด หนึ่งในนั้น คือ ทราโว่ที่ถูกพบเมื่อวานนี้ไง
แหม..ถ้าเราเป็นคนชอบมั่วๆ ก็คงบอกว่า ตายเพราะถูกกระสุนจากปืนที่ถูกเสื้อแดงยึดจากทหารนั่นล่ะ
เผอิญ ไม่เลวเหมือนกากแดง
ก็ว่ากันไปตามคำสั่งศาล
ฟ้าสีทองผ่องอำไพ ประชาชนจะเป็นใหญ่ในแผ่นดิน
#16
ตอบ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 19:49
เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) กล่าวภายหลังศาลมีคำสั่งว่าการเสียชีวิตของ นายชาญณรงค์ พลศรีลา คนขับแท็กซี่ เสียชีวิตจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ บริเวณหน้าปั้มน้ำมันเชลล์ถนนราชปรารภ เมื่อวันที่ 15 พ.ค.53 ซึ่งเป็นหนึ่งในคดีการเสียชีวิตของประชาชนและเจ้าหน้าที่รัฐ จำนวน 99 ศพ ในเหตุการณ์สลายการชุมนุมกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เมื่อเดือน เม.ย.-พ.ค.2553 ว่า ขั้นตอนหลังจากนี้พนักงานอัยการจะรับสำนวนการไต่สวนทั้งหมดจากศาล เพื่อส่งตัวมายังพนักงานสอบสวนเพื่อทำสำนวนคดีหลักคือคดีฆาตกรรม เช่นเดียวกับกรณีของนายพัน คำกอง ที่ศาลมีคำสั่งก่อนหน้านี้ และสิ่งที่เหมือนกันคำสั่งศาลระบุว่าชัดเจนคือการเสียชีวิตของทั้ง 2 คน เกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ ที่ปฏิบัติการภายใต้คำสั่ง ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.)
นายธาริต กล่าวว่า ดังนั้น เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติการจะเข้าข่ายการปฏิบัติการ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 70 ซึ่งมีแนวโน้มจะไม่ถูกแจ้งข้อกล่าวหา ทั้งนี้พนักงานสอบสวนจะพิจารณาข้อกฎหมายการแจ้งข้อกล่าวหาของผู้ที่ออกคำสั่ง การปฏิบัติการของศอฉ.ซึ่งผู้เกี่ยวข้องขณะนั้นคือ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในฐานะ ผอ.ศอฉ. และนายอภิสิทธิ์ เวชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี
นายธาริต กล่าวอีกว่า หลังจากศาลมีคำสั่งไต่สวนการเสียชีวิตทั้ง 2 ราย ทำให้การดำเนินของคณะพนักงานสอบสวนสามารถดำเนินคดีได้ชัดเจนและรวดเร็วยิ่งขึ้น แต่อย่างไรก็ตามดีเอสไอทำคดีดังกล่าวในรูปแบบคณะพนักงานสอบสวน ที่มีอัยการ ตำรวจ ดีเอสไอ ทำงานร่วมกัน ดังนั้นการแจ้งข้อกล่าวหาใคร จะต้องเข้่าที่ประชุมเพื่อลงมติเห็นชอบร่วมกัน
#17
ตอบ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 19:53
ถูกทหารที่มาปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งของศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ในการดำเนินการตามมาตรการปิดล้อมและสกัดกั้นกลุ่มผู้ชุมนุมเพื่อขอคืนพื้นที่และผิวการจราจรบริเวณถนนราชปรารภ
แล้วมันก็แกล้งลืมว่าศอฉ.เขาประกาศไว้แล้วว่าเป็นเขตห้ามเข้า ใช้กระสุนจริง
ผมไม่เคยเห็นตำรวจ ทหารประเทศไหน ที่ประกาศเตือนแล้วตามหลักปฏิบัติ แล้วมีคนเข้ามาในพื้นที่แจ้งเตือน
หรือปรี่เข้ามาหาทั้งๆที่้เจ้าหน้าที่เตือนแล้ว
จะมีความผิด ถูกลงโทษเลยสักคน
กลัวอีหมูกับนางธิดากระอักเลือดตายก่อนน่ะสิ
แล้วอย่าลืม 2 ประเด็นนี้ด้วย
นายชาญณรงค์ ผู้ตายซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้ชุมนุม นปช.ได้นำเอายางรถยนต์ไปวางเป็นแนวบังเกอร์บริเวณหน้าสถานีบริการน้ำมันเซลล์ มีเสียงปืนดังขึ้นเป็นชุดๆ และนายชาญณรงค์ ผู้ตายถูกกระสุนปืนถึงแก่ความตาย
ไม่ปรากฏว่ากองพันทหารราบที่ 3 สังกัด พล.1 รอ. หรือไม่ เนื่องจากผู้ร้องไม่นำสืบให้ชัดว่า เป็นหน่วยใดและบริเวณที่เกิดเหตุมีทหารหน่วยกองพันทหารราบที่ 3 เพียงหน่วยเดียวเท่านั้น แต่ไม่มีพยานเห็นขณะยิง จึงฟังไม่ได้ว่าทหารจากกองพันทหารราบที่ 3 เป็นผู้ยิง อาจเป็นหน่วยอื่นก็เป็นได้
Edited by ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่, 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 19:58.
#18
ตอบ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 19:53
พระราชกำหนด
การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน
พ.ศ. ๒๕๔๘
มาตรา ๙ ในกรณีที่มีความจำเป็นเพื่อแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินให้ยุติลงได้โดยเร็ว หรือป้องกันมิให้เกิดเหตุการณ์ร้ายแรงมากขึ้น ให้นายกรัฐมนตรีมีอำนาจออกข้อกำหนด ดังต่อไปนี้
(๑) ห้ามมิให้บุคคลใดออกนอกเคหสถานภายในระยะเวลาที่กำหนด เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือเป็นบุคคลซึ่งได้รับยกเว้น
(๒) ห้ามมิให้มีการชุมนุมหรือมั่วสุมกัน ณ ที่ใด ๆ หรือกระทำการใดอันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย
(๓) ห้ามการเสนอข่าว การจำหน่าย หรือทำให้แพร่หลายซึ่งหนังสือ สิ่งพิมพ์ หรือสื่ออื่นใดที่มีข้อความอันอาจทำให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัวหรือเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสารทำให้เกิดความเข้าใจผิดในสถานการณ์ฉุกเฉินจนกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ หรือความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ทั้งในเขตพื้นที่ที่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินหรือทั่วราชอาณาจักร
(๔) ห้ามการใช้เส้นทางคมนาคมหรือการใช้ยานพาหนะ หรือกำหนดเงื่อนไขการใช้เส้นทางคมนาคมหรือการใช้ยานพาหนะ
(๕) ห้ามการใช้อาคาร หรือเข้าไปหรืออยู่ในสถานที่ใด ๆ
(๖) ให้อพยพประชาชนออกจากพื้นที่ที่กำหนดเพื่อความปลอดภัยของประชาชนดังกล่าว หรือห้ามผู้ใดเข้าไปในพื้นที่ที่กำหนด
“Live as if you were to die tomorrow. Learn as if you were to live forever.” - Mahatma Gandhi
สนใจบ้านพักคนชราเสรีไทย (FB Secret Group) ติดต่อ (PM) เว็บบอร์ด
#19
ตอบ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 20:01
1. คดีอาญาต้องมีเจ้าทุกข์และผู้ถูกกล่าวหา
2. คุณต้องระบุตัวผูุ้ถูกกล่าวหามาให้ได้ว่าใคร ชื่ออะไร ทำอะไรที่ไหนอย่างไร
3. ถ้าระบุแต่เพียงว่า "ก็ทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ในวันนั้นแหละ" ร้อยทั้งร้อย หลุดหมดครับ
4. ถ้าจะโยงให้ถึง ศอฉ. คุณก็ต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าศอฉ. สั้งให้ฆ่า ถ้าไม่คงจะฟ้องจ้างวานหรือเป็นตัวการไม่ได้ เพราะศอฉ. อาจแก้ต่างว่าสั่งการมาอย่างถูกต้องตามขั้นตอนจากเบาไปหาหนักแล้ว แต่ผู้ปฏิบัติไม่ทำตามคำสั่งให้่ไปหามาซึ่งจะวนกลับมาที่ข้อ 1
บอกได้เลยว่ายากจะหาคนมาลงโทษในคดีนี้ได้นอกจากจะเป็นประเด็นให้เสื้อแดงตีป๊บครื้นเครงกันเองในกะลา
#20
ตอบ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 20:29
http://www.dsiacadem...-02-19-10-40-47
คดียิงพลาดถูกน้องฟลุ๊กตาย
ศาลสั่งจำคุก 3 ตร.บางชันคนละ 2 ปี ยิง “น้องฟลุ๊ค” ดับ ขณะยิงสกัดรถจับคดียาเสพติด แต่กระสุนพลาดโดนน้องฟลุ๊คเสียชีวิต ศาลชี้การกระทำของจำเลยเป็นการปฏิบัติหน้าที่และไม่เคยต้องโทษมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอลงอาญาไว้ 2 ปี
- RiDKuN_user likes this
"น้อมส่งเสด็จสู่พระนิพพาน"
#21
ตอบ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 20:45
#22
ตอบ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 20:48
ศาลอาญาไต่สวนการตาย “ชาญณรงค์ พลศรีลา” แท็กซี่เสื้อแดง ระบุชัดถูกยิงตายที่ซอยรางน้ำเมื่อปี 2553 เกิดจากฝีมือทหารที่ปฏิบัติตามคำสั่ง ศอฉ.
คุกสถานเดียว
คุกสถานเดียว... ใครกันแน่จ๊ะคุณหมูตอน เค้ายังมีขั้นตอนอีกยาวไกล และมีกฏหมายคุ้มครองที่ชอบธรรม
แต่คุกแน่ๆ ก็พวกแกนนำกาสรสีชาด หรือไม่ก็ นายใหญ่ไข่เน่า โน่น
ดอกไม้งามมีหนามแหลม ใช่บานแย้มให้คนชม บานไว้เพื่อสะสม ความอุดมแห่งผืนดิน...
#23
ตอบ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 20:49
แท็กซี่แดงเขาไม่ได้ไปทำอะไรทหาร ก็โดนยิง
แต่ม๊อบแมงสาป เข้าไปทำร้ายตำรวจ ก็ต้องโดนจับโดยละมุนละม่อม ด้วยส้นเท้า ถูกหลักชัดเจน
ตรรกะ ป่วยสุดในสามโลกล่ะ ตาหมู
กฎหมายมันก็แค่สิงที่สร้างมาอย่างมีเป้าหมาย แต่หาก เอาแต่บอกว่ากฎหมายเป็นแบบนี้ แบบนั้น โดยไม่สนใจว่าเป้าหมายจริงๆ นันคืออะไร ก็คงไม่ใช่
#24
ตอบ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 20:53
~ ทักษิณตาย เสรีไทยไชโย ~
#25
ตอบ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 21:01
วันอังคารที่ 31 มกราคม 2555 เวลา 10:15 น.
“บิ๊กอ๊อด” สั่งสอบทหารยิงถล่มรถกระบะชาวบ้านที่หนองจิก เผย 4 ศพไม่ใช่แนวร่วม ลั่นต้องให้ความเป็นธรรม
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 31 ม.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงความคืบหน้าเหตุทหารพรานยิงถล่มรถกระบะจนทำให้มีผู้เสียชีวิต 4 ศพ และบาดเจ็บ 5 ราย ที่ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เมื่อคืนวันที่ 29 ม.ค.ที่ผ่านมา ว่า ขณะนี้ตนกำลังให้เจ้าหน้าที่ทั้งแม่ทัพภาคที่ 4 รวมทั้งทางจังหวัด ได้ตรวจสอบทั้งข้อเท็จจริง และข้อกฎหมายว่าการดำเนินการของทหารพรานเป็นไปตามกฎการใช้กำลังหรือไม่ เพราะแม้ทหารมีกฎระเบียบการใช้กำลังต่อเป้าหมายอยู่ แต่เราก็ต้องตรวจสอบสถานการณ์เฉพาะหน้าในวันนั้นๆ ด้วย เพราะการติดตามเป้าหมายก็ต้องระวังตัวด้วย ไม่ใช่ทะเล่อเข้าไปแบบหน้าสิ่วหน้าขวานจนเขาต้องกลายเป็นศพ ส่งผลให้ญาติพี่น้องเขาต้องเสียใจ
“เมื่อมีการร้องเรียนมาแบบนี้ก็ต้องให้ความยุติธรรม กับทุกฝ่าย รวมทั้งประชาชนด้วย ไม่ใช่เข้าข้างทหารอย่างเดียว เพื่อไม่ให้กลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียว และป้องกันไม่ให้เกิดเหตุลุกลามไป เพราะในพื้นที่มีชาวไทยพุทธอยู่ด้วย จึงเกรงว่าจะลุกลามไปมากกว่านั้น ผมจึงได้สั่งให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย เพื่อดูว่าใครผิดใครถูก ถ้าทางราชการผิด เราก็ว่าไปตามข้อเท็จจริง แต่ถ้าหากเรามีส่วนถูกด้วย เราก็จะต้องชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจ ซึ่งวันนี้คงจะได้ข้อคิดในทางที่ถูกต้องมาก เพราะเราไม่เชื่อว่าเราจะกระทำถูกมาก เพราะหลังจากที่เราได้ตรวจสอบทั้ง 4 ศพแล้ว ก็ไม่ใช่เป็นแนวร่วม ดังนั้นจึงต้องตรวจสอบรายละเอียดก่อน ถ้าหากเราตรวจสอบแล้วว่าทางเจ้าหน้าที่เราผิด เราก็ต้องยอมรับผิด ยอมชดใช้ ยอมทุกอย่าง และต้องยอมขอโทษด้วย คาดว่าคงใช้ตรวจสอบไม่นาน เพราะพิสูจน์ว่าใครถูกใครผิด” พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าว
เมื่อถามว่า ทั้ง 4 ศพที่เสียชีวิต ไม่ใช่แนวร่วมทั้งหมดหรือไม่ พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวยอมรับว่า เป็นไปอย่างที่โฆษกกองทัพภาคที่ 4 ได้ชี้แจงไปว่าใน 9 คนที่อยู่ในรถกระบะ ซึ่งทางทหารเห็นว่ามี 1 คนกระโดดขึ้นรถกระบะไป ดังนั้นบุลคลผู้นั้นอาจจะเป็นผู้บริสุทธิ์ที่ทั้ง 8 ใช้เป็นฉากกำบังในการป้องกันตัวก็ได้ ขณะนี้กำลังสอบสวนอยู่ ต้องรอฟังรายละเอียดอีกครั้ง
เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่าทหารเห็นว่ามีคนในรถกระบะยิงถล่มฐานทหารพรานใช่หรือไม่ พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า เขาว่าสงสัยและได้ติดตามอยู่ เพราะเห็นว่ามีรถกระบะ 1 คัน และรถมอเตอร์ไซด์ ที่ใช้เครื่องยิง 40 มิลลิเมตรเข้าไปในฐานจำนวน 3 นัด เพราะฉะนั้นทหารก็ต้องติดตาม โดยเขารายงานว่า 1 คนที่อยู่ในมอเตอร์ไซด์ได้วิ่งขึ้นรถกระบะ จึงได้ติดตามรถกระบะไป ซึ่งขณะนี้ก็ยังไม่ทราบว่าผู้ต้องสงสัยที่หนีไปมีใครบ้าง กำลังตรวจสอบกันอยู่ ส่วนอาวุธที่พบในรถกระบะนั้น พบว่าเป็นปืนเอชเคกับปืนพก ซึ่งชาวบ้านบอกว่าอาจจะเป็นปืนที่ทหารเอามาทิ้งไว้ในรถก็ได้ แต่ทหารบอกว่าไม่ได้ทิ้งปืนอาก้าเข้าไปในรถคันนั้น ส่วนที่ชาวบ้านอ้างว่าพกปืนไว้เพื่อป้องกันตัวนั้น พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ปืนอาก้าแบบนี้คงไม่ได้มีไว้สำหรับป้องกันตัว ถ้าปืนพกก็ใช่.
คดีนี้ไปถึงไหนแล้ว ได้รับ 7.7 ล้านบาท หรือไม่ หรือ ว่ารัฐบาลเห็นว่ามีชนชั้นต่ำกว่าไพร่
Tam-mic-ra ฟันธง! คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ ..... คิดครับคิด จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96 ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3
#26
ตอบ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 21:02
ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่ากระสุนปืนที่ยิงถูกนายชาญณรงค์ ผู้ตายมาจากทางทหาร แต่เมื่อคำสั่ง ศอฉ.ให้ พล.1 รอ.ไปทำหน้าที่บริเวณดังกล่าว ไม่ปรากฏว่ากองพันทหารราบที่ 3 สังกัด พล.1 รอ. หรือไม่ เนื่องจากผู้ร้องไม่นำสืบให้ชัดว่า เป็นหน่วยใดและบริเวณที่เกิดเหตุมีทหารหน่วยกองพันทหารราบที่ 3 เพียงหน่วยเดียวเท่านั้น แต่ไม่มีพยานเห็นขณะยิง จึงฟังไม่ได้ว่าทหารจากกองพันทหารราบที่ 3 เป็นผู้ยิง อาจเป็นหน่วยอื่นก็เป็นได้ จึงฟังได้เพียงว่าทหารที่ ศอฉ.ส่งไปปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ทำให้ตาย ส่วนผลการตรวจปืนไม่สามารถยืนยันได้แน่นอนว่าทหารไม่ได้ยิงเพราะเปลี่ยนลำกล้องได้
ดังนั้น ข้อเท็จจริงในปัญหาข้อที่ว่าเหตุและพฤติการณ์ที่ตายเป็นอย่างไรและจากใครเป็นผู้กระทำร้ายผู้ตายเท่าที่จะทราบได้ จึงรับฟังได้ว่า ผู้ตาย ตายเพราะถูกกระสุนปืนจากอาวุธปืนความเร็วสูง ขนาด .223 หรือ 5.56 มิลลิเมตร ของทหารที่ ศอฉ.ส่งไปดำเนินการตามมาตรการปิดล้อมและสกัดกั้นกลุ่มผู้ชุมนุมเพื่อขอคืนพื้นที่และผิวจราจรบริเวณถนนราชปรารภ
อ่านสามรอบ สรุปได้ว่า ยิงมาจากฝั่งทหาร มีหลักฐานอย่างเดียวคือ กระสุน ที่ทหารใช้ แต่ไม่มีพยานรู้เห็น หาอาวุธที่ยิงยังไม่ได้ พฤติกรรมการตายก็ยังสรุปไม่ได้
บอกได้สั้นๆ อะ นำสืบกันอีกยาว เรืองเอาผิด ต้องหาตัวคนยิง และ อาวุธที่ใช้ให้ได้ก่อน
คดีเป็นแบบนี้ อีก 10 ปี จะเสร็จไหม
- serithai11 and DarkSwan like this
[color=#0000ff;][font="Tahoma, sans-serif;"]เราจะรู้.....รสชาติของความสุข[/color][font="Tahoma, sans-serif;"]ก็ต่อเมื่อ เราผ่านความทุกข์มาก่อน[/font][/font]
#27
ตอบ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 21:08
อย่างคุณเพลิงว่า ผมว่า สิบปีอ่ะอย่างน้อย เผลอๆ ถ้าทนายลากยาว สืบพยานหลายปาก ตอนนัดไต่สวน มีป่วยขอเลื่อน อาจจะแตะที่เกือบยี่สิบปี
อยากเห็นมาร์คติดคุกพรุ่งนี้ว่ะ หมูฯ
ทำไงดีวะ
- เพลิงสีนิล likes this
ถ้าอยากได้ความเท่าเทียม
ก็ปีนป่ายขึ้นไปให้อยู่เทียบเท่ากับคนอื่นเค้า
อย่าได้กระชากฉุดให้คนอื่นเขาลงมาตกต่ำเท่ากับตน
#28
ตอบ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 21:10
หมูอวกาศ ไปอ่านดูดีๆ ก่อนดีไหม ค่อยสรุป
ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่ากระสุนปืนที่ยิงถูกนายชาญณรงค์ ผู้ตายมาจากทางทหาร แต่เมื่อคำสั่ง ศอฉ.ให้ พล.1 รอ.ไปทำหน้าที่บริเวณดังกล่าว ไม่ปรากฏว่ากองพันทหารราบที่ 3 สังกัด พล.1 รอ. หรือไม่ เนื่องจากผู้ร้องไม่นำสืบให้ชัดว่า เป็นหน่วยใดและบริเวณที่เกิดเหตุมีทหารหน่วยกองพันทหารราบที่ 3 เพียงหน่วยเดียวเท่านั้น แต่ไม่มีพยานเห็นขณะยิง จึงฟังไม่ได้ว่าทหารจากกองพันทหารราบที่ 3 เป็นผู้ยิง อาจเป็นหน่วยอื่นก็เป็นได้ จึงฟังได้เพียงว่าทหารที่ ศอฉ.ส่งไปปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ทำให้ตาย ส่วนผลการตรวจปืนไม่สามารถยืนยันได้แน่นอนว่าทหารไม่ได้ยิงเพราะเปลี่ยนลำกล้องได้
ดังนั้น ข้อเท็จจริงในปัญหาข้อที่ว่าเหตุและพฤติการณ์ที่ตายเป็นอย่างไรและจากใครเป็นผู้กระทำร้ายผู้ตายเท่าที่จะทราบได้ จึงรับฟังได้ว่า ผู้ตาย ตายเพราะถูกกระสุนปืนจากอาวุธปืนความเร็วสูง ขนาด .223 หรือ 5.56 มิลลิเมตร ของทหารที่ ศอฉ.ส่งไปดำเนินการตามมาตรการปิดล้อมและสกัดกั้นกลุ่มผู้ชุมนุมเพื่อขอคืนพื้นที่และผิวจราจรบริเวณถนนราชปรารภ
อ่านสามรอบ สรุปได้ว่า ยิงมาจากฝั่งทหาร มีหลักฐานอย่างเดียวคือ กระสุน ที่ทหารใช้ แต่ไม่มีพยานรู้เห็น หาอาวุธที่ยิงยังไม่ได้ พฤติกรรมการตายก็ยังสรุปไม่ได้
บอกได้สั้นๆ อะ นำสืบกันอีกยาว เรืองเอาผิด ต้องหาตัวคนยิง และ อาวุธที่ใช้ให้ได้ก่อน
คดีเป็นแบบนี้ อีก 10 ปี จะเสร็จไหม
เรื่องกระสุนคงต้องดูด้วยว่ามีแต่ทหารที่มี กระสุนชนิดนี้หรือเปล่าครับ
http://www.mcot.net/...7f#.ULN3aId8njI
กรุงเทพฯ 27 พ.ค.-พลตำรวจโทสัณฐาน ชยนนท์ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แถลงผลการตรวจค้นโรงแรมสวัสดี ซอยหลังสวน 5 แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน หลังสืบทราบว่าแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. และชายชุดดำ เข้าพักอาศัยระหว่างชุมนุมการชุมนุมที่สี่แยกราชประสงค์ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้นำหมายค้นศาลอาญาเข้าตรวจค้นเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา จากการตรวจค้นพบปืนทราโว่ของเจ้าหน้าที่ทหาร ที่ถูกยึดไประหว่างผลักดันผู้ชุมนุมที่บริเวณสี่แยกคอกวัว เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2553 จำนวน 1 กระบอก กระสุนปืนขนาด .223 มม.จำนวน 98 นัด ดาบปลายปืน 1 เล่ม เสื้อคลุมของเจ้าหน้าที่กาชาด 1 ตัว อาวุธปืนลูกซองไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก กระสุนปืนเบอร์ 12 จำนวน 8 นัด วิทยุสื่อสาร กางเกงลายพรางทหารเสื้อยืดสีดำและของกลางอื่น ๆ อีกหลายรายการ
- เพลิงสีนิล likes this
“Live as if you were to die tomorrow. Learn as if you were to live forever.” - Mahatma Gandhi
สนใจบ้านพักคนชราเสรีไทย (FB Secret Group) ติดต่อ (PM) เว็บบอร์ด
#29
ตอบ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 21:10
#30
ตอบ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 21:18
ถ้าตัดสินถึงที่สุดแล้วไม่ติดคุกก็อย่าไปเที่ยวเผาบ้านเผาเมืองนะครับ
มันจะเผาศาลกันแทนน่ะสิครับ ข้อหาตัดสินไม่ถูกใจ
- A DESIGN FOR LIFE likes this
ถ้าอยากได้ความเท่าเทียม
ก็ปีนป่ายขึ้นไปให้อยู่เทียบเท่ากับคนอื่นเค้า
อย่าได้กระชากฉุดให้คนอื่นเขาลงมาตกต่ำเท่ากับตน
#31
ตอบ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 21:24
ชาบู กัน จัง ไอ้ที่ เฮ กันนี่ ฟังแกนนำอย่างเดียว มั้ง คงไม่ได้อ่านให้ละเอียด และ ก็ตัดแปะ ไปทั่ว เหมือนคนคิดอะไรเองไม่เป็น ทำตามๆ กันไป
เฮ้ยยยย! ที่นี่ประเทศไทย จริงๆ
- TIK Tik tik likes this
[color=#0000ff;][font="Tahoma, sans-serif;"]เราจะรู้.....รสชาติของความสุข[/color][font="Tahoma, sans-serif;"]ก็ต่อเมื่อ เราผ่านความทุกข์มาก่อน[/font][/font]
#32
ตอบ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 08:30
และมีการยิงต่อสู้เจ้าหน้าที่ตั้งแต่ 10 เม.ย.มาแล้วทำให้ทหารเสียชีวิต เจ้าหน้าที่แจ้งเตือนแล้ว ทั้งประกาศ ทั้งติดป้ายเตือนทำตามขั้นตอนแล้ว
จึงจำเป็นต้องป้องกันตัว...เนื่องจากมีข่าวว่า จะทำคาร์บอม 555...บลาๆๆๆๆๆๆ
Edited by คนกรุงธน, 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 08:31.
"น้อมส่งเสด็จสู่พระนิพพาน"
#33
ตอบ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 11:35
สมควรแก่เหตุ เข้าคุกไป อย่าหัวหมอแบบปชป ทำกฎหมายเป็นกฎหมาสิคุณ
ควายไหนคุก เอาแบบใส่ชุด ใส่โซ่เหมือนพวก พ่อแกนนำพวกมรึงมาสิ
ว่าอันไหนมาเท่กว่ากัน แล้วไอเจ๋งล่ะไม่ไปเยี่ยมมันบ้างล่ะ ไอ้หมู.........
#34
ตอบ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 11:57
กฎหมายคุ้มครองไม่ใช่จะทำอะไรก็ได้ แน่จริงอย่ากลัว DSI สิ ถ้าคิดว่าตัวเองไม่ผิดแน่ กฎหมายคุ้มครองกร๊าก
ถ้าคิดว่ากฎหมายคุ้มครอง ตัวเองไม่ผิด ทหาร และแมงสาป จะโวยวายทำไม เงียบปากไป แล้วรอไปขึ้นศาลสิ
ใช่เลยครับ ไม่ใช่จะทำอะไรก็ได้...แบบนี้ใช่ไหมครับ
นึกถึงเหตุการณ์ตากใบ สมัยทักษิณเลย
ว่าตร.ชอบใช้ความรุนแรงในการปฏิบัติหน้าที่มากกว่าทหารอีก
Edited by อาตี๋, 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 11:58.
สิทธิตามระบอบประชาติปไตยมีไว้สำหรับให้เสื้อแดงผู้เรียกร้องประชาติปไตยเท่านั้น
ผู้อื่นห้ามใช้มิเช่นนั้นจะโดนประชาติปไตยลงโทษ
#35
ตอบ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 12:19
#36
ตอบ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 12:44
อ่าน พรก สถานการณ์ฉุกเฉิน 2548 ม . 17 ยัง กากหมูสมควรแก่เหตุ เข้าคุกไป อย่าหัวหมอแบบปชป ทำกฎหมายเป็นกฎหมาสิคุณ
#37
ตอบ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 12:47
#38
ตอบ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 - 13:17
ผู้ใช้ 0 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้
สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 0 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน