Edited by กาลามชน, 28 November 2012 - 09:03.
สวนดุสิตโพลเผย ประชาชนเชื่อข้อมูลการอภิปรายของฝ่ายรัฐบาลมากกว่าฝ่ายค้าน
#51
Posted 28 November 2012 - 08:00
ขออภัย...ผมไม่โต้กับผู้ที่พยายามจะเอาชนะด้วยโวหาร
#52
Posted 28 November 2012 - 08:07
ข้อ 1.ผู้ถูกร้อง ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะรัฐมนตรีจงใจบังอาจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติกฎหมาย กล่าวคือ สืบเนื่องจากได้มีการแก้ไขเพิ่มเติม พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2554 และได้มีผลบังคับใช้ในวันที่19 เมษายน 2554 ซึ่งมาตรา 103/7 วรรคหนึ่งได้บัญญัติ ให้หน่วยงานของรัฐต้องดำเนินการจัดทำข้อมูลรายละเอียดค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้าง โดยเฉพาะราคากลางและการคำนวณราคากลางไว้ในระบบข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าตรวจดูได้และในมาตรา 103/7 วรรคสี่
นอกจากกรณีตามวรรคหนึ่ง ในกรณีที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. เห็นสมควรเพื่อดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งอันเป็นการป้องกันและปราบปรามการทุจริต เนื่องจากการใช้อำนาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช.เห็นสมควรในการกำหนดมาตรการเพื่อให้หน่วยงานของรัฐรับไปปฏิบัติ ให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีอำอนาจสั่งให้หน่วยงานของรัฐดำเนินการไปตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. กำหนดมาตรการในเรื่องนั้น แล้วรายงานให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ทราบก็ได้ และเพื่อดำเนินการตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2554 ซึ่งมาตรา 103/8 ให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีหน้าที่รายงาน ต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อสั่งการให้หน่วยงานของรัฐจัดทำข้อมูลเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างตามมาตรา 103/7 วรรคหนึ่ง โดยหน่วยงานของรัฐจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ดำเนินการดังกล่าวและให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีหน้าที่ติดตามผลดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีในกรณีดังกล่าวด้วย
หน่วยงานของรัฐฝ่าฝืนหรือไม่ดำเนินการตามวรรคหนึ่ง ให้ถือว่าผู้ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้อมีความผิดทางวินัยหรือเป็นเหตุที่จะถูกถอดถอนจากตำแหน่งหรือต้องพ้นจากตำแหน่งแล้วแต่กรณี
ข้อเท็จจริง ในหลักเกณฑ์ของกฎหมายย่อมเห็นโดยชัดแจ้งว่า เจตนารมณ์ของกฎหมายต้องการที่จะให้ความสำคัญกับการป้องกันการทุจริตการจัดซื้อจัดจ้างในทุกหน่วยงานของรัฐ เพื่อความโปร่งใสและตรวจสอบได้ จึงได้กำหนดให้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีหน้าที่จัดทำรายงานกำหนดหลักเกณฑ์ ตามมาตรา103/7 และต้องดำเนินการตาม มาตรา 103/8 ให้แล้วเสร็จภายในกำหนดหนึ่งร้อยยี่สิบแปดวันนับแต่วันที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2554 ใช้บังคับ เพื่อให้คณะรัฐมนตรีมีหน้าที่สั่งการให้หน่วยงานของรัฐจัดทำข้อมูลเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างตามมาตรา 103/7 วรรคหนึ่ง
ข้อ 2 ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ในวันที่ 1 สิงหาคม 2554 ประธานกรรมการ ป.ป.ช.ได้ทำหนังสือถึง นายกรัฐมนตรี เรื่อง การให้หน่วยงานของรัฐดำเนินการจัดทำข้อมูลรายละเอียดค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างโดยเฉพาะราคากลาง และการคำนวณราคากลางไว้ในระบบข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าตรวจดูได้และการกำหนดมาตรการที่เกี่ยวข้อเพิ่มเติม พร้อมแนบรายงานซึ่งเป็นรูปแบบดำเนินการจัดทำข้อมูลรายละเอียดค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างโดยเฉพาะราคากลาง และการคำนวณราคากลางไว้ในระบบข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าตรวจดธได้ และการกำหนดมาตรการที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม
แต่นายกรัฐมนตรีรวมทั้งคณะรัฐมนตรีก็ไม่ได้เห็นชอบกับรายงานที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้เสนอ โดยคณะรัฐมนตรีก็ไม่ได้สั่งการให้หน่วยงานของรัฐดำเนินการจัดทำข้อมูลเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างตามมาตรา 103/7 วรรคหนึ่ง แต่ประการใด ประธานคณะกรรมการ ป.ป.ช.ก็ยังได้ทำหนังสือขอให้ทบทวนมติคณะรัฐมนตรีโดยให้เหตุผลว่ามติคณะรัฐมนตรียังไม่ครอบคลุมตามเจตนารมณ์ของ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ.2542 แต่มติคณะรัฐมนตรีได้มีมติไม่รับข้อเสนอของคณะกรรมการ ป.ป.ช.
ข้อ 3 จากข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายดังที่ข้าพเจ้าได้กราบเรียนมาดังกล่าวข้างต้นรับฟังเป็นยุติได้ว่า ผู้ถูกร้อง ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะรัฐมนตรีได้มีพฤติกรรมดังจะกล่าวต่อไปนี้
3.1) จงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติกฎหมาย คือ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 103/7 วรรคหนึ่ง, มาตรา 103/8 และ
3.2) จงใจที่จะกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ประกอบพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 123/1 และ
3.3) จงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ กล่าวคือ ในการบริหารราชการแผ่นดิน รัฐมนตรีต้องดำเนินการตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญและกฎหมาย ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 178
3.4) การกระทำตาม ข้อ 3.1 ข้อ 3.2 ข้อ 3.2 ที่ ผู้ถูกร้อง ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะรัฐมนตรีไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 และประมวลกฎหมายอาญา ได้ก่อให้เกิดความเสียหายต่อการใช้จ่ายงบประมาณแผ่นดิน พฤติการณ์ของผู้ถูกร้องดังกล่าว จึงเป็นมูลเหตุที่มีการทุจริตกันหลายโครงการ และเป็นผลทำให้เกิดความเสียหายต่อรัฐและประชาชนเป็นอย่างมาก
ซึ่งพฤติกรรมของผู้ถูกร้อง ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะรัฐมนตรี ย่อมรับฟังโดยชัดแจ้งว่าเป็นกรณีที่ใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญและกฎหมายอย่างสิ้นเชิง
ข้อ 4 ผู้ถูกร้อง ซึ่งเป็นหัวหน้าคณะรัฐมนตรี โดยหลักความเป็นจริงแล้วมีความจำเป็นอย่างยิ่งยวดที่จำต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญตามกฎหมายโดยเคร่งครัดเพื่อประโยชน์ของบ้านเมือง ซึ่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 ที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2554 ก็มีเจตนารมณ์ในการที่จะป้องกันและปราบปรามการทุจริตงบประมาณของประเทศ ซึ่งถือได้ว่าเป็นเชื้อร้ายอยู่ในสังคมขณะนี้ แต่สิ่งที่ผู้ถูกร้อง ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะรัฐมนตรีได้กระทำกลับตรงกันข้ามกับหลักกฎหมายและหลักความเป็นจริงโดยสิ้นเชิง รายงานกำหนดรูปแบบดำเนินการจัดทำข้อมูลรายละเอียดค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างโดยเฉพาะราคากลางและการคำนวณราคากลาง ที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้นำเสนอตามหน้าที่ที่กฎหมายกำหนด ไม่ได้รับการสนใจใยดี จากคณะรัฐมตรีเลยแม้แต่น้อย
ทั้งๆ ที่กฎหมายได้กำหนดไว้ให้คณะรัฐมนตรีเมื่อได้รับรายงานจาก คณะกรรมการ ป.ป.ช.แล้ว มีหน้าที่โดยตรงในการสั่งการหน่วยงานของรัฐซึ่งอยู่ภายใต้บังคับบัญชาของตนจัดทำข้อมูลเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างตามมาตรา 103/7 วรรคหนึ่ง โดยหน่วยงานของรัฐจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในหนึ่งร้อยแปดสิบวัน นับแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ดำนเนินการดังกล่าวและให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีหน้าที่ติดตามผลดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีในกรณีดังกล่าวด้วย แต่รัฐมนตรีก็มิได้ดำเนินการสั่งการตามที่กฎหมายกำหนดแต่อย่างใด ย่อมแสดงให้เห็นถึงเจตนาโดยชัดแจ้งว่า นอกจากไม่ปฏิบัติตามกฎหมายแล้วยังมีเจตนาที่จะสนับสนุน ส่งเสริมให้มีการทุจริต
ผู้ถูกร้อง เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นหัวหน้ารัฐบาล เป็นหนึ่งในคณะรัฐมนตรี มีพฤติกรรมกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ จงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ จงใจใช้อำนาจหน้าที่ข้อต่อบทบัญญัติแห่งกฎหมาย และฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ใช้อำนาจไปในทางทุจริต อันเข้าลักษณะที่จะต้องถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 มาตรา 270
ข้าพเจ้าดังมีรายนามแนบท้าย ซึ่งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จึงขอใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญมาตรา 271 ประกอบ มาตรา 270 ร้องขอมายังท่านในฐานะประธานวุฒิสภาเพื่อให้ดำเนินการส่งเรื่องดังกล่าวให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติดำเนินการไต่สวน และดำเนินการเพื่อให้วุฒิสภามีมติถอดถอน ผู้ถูกร้อง ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
ส่วนรายละเอียด ข้อมูลพยานหลักฐานต่างๆ ข้าพเจ้าขอส่งในชั้นพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ต่อไป
จึงเรียนมาเพื่อโปรดดำเนินการตามกระบวนการตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 ต่อไป
ขอแสดงความนับถือ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคประชาธิปัตย์
ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร
Tam-mic-ra ฟันธง! คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ ..... คิดครับคิด จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96 ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3
#53
Posted 28 November 2012 - 08:08
หนีสภาก็เก่ง
โบ๊ยก็เก่ง
ไร้ความรับผิดชอบก็เก่ง
ตอบไม่ตรงคำถามเก่งเป็นที่หนึ่ง
ชี้แจงไม่ได้สักข้อ...สุดยอดของความเก่ง
ไม่เคยรับรู้ระบบการทำงานของแต่ละหน่วยงาน....ยิ่่งเก่งนัก
เป็นผู้นำ ที่เก่งที่สุด
เป็นสุดยอดผู้นำ...ที่ผู้นำทั่วโลก...มองตาค้าง...
Edited by bird, 28 November 2012 - 08:09.
#54
Posted 28 November 2012 - 08:09
#55
Posted 28 November 2012 - 08:28
#56
Posted 28 November 2012 - 08:49
นี่แทนทั้งหมดของคนไนประเทศแล้วหรือคะ
#57
Posted 28 November 2012 - 08:50
แจ๊คเค่อร์ เอามาโพสท์เป็นรายวัน
ถ้าจะให้เชื่อ
1.ขอดูคำถามเต็ม ของโพลล์ หน่อยครับรวมถึงพท.สำรวจ
2.ขอดูรูป ของผู้ตอบใบสำรวจหน่อยครับ ไม่เอาเต็มตัว เอาแค่
2.1 รูปดวงตา ว่าแววตาสะท้อนสีเขียวๆ หรือแดง ถ้าถ่ายกลางคืน
ส่องไฟด้วยไปที่ตาด้วย จะชัดเจนขึ้น ..และจะขอบคุณเป็นอย่างยิ่ง
2.2 รูจมูก ถ่ายเงยเข้าไปในรูจมูก
จะเอามาพิจารณาประกอบผลโพลล์
ประโยชน์สูงสุดของประชาชน คือกฏหมายสูงสุดของประเทศ ...วิชา มหาคุณ
#58
Posted 28 November 2012 - 09:06
ขาวบ้านเชื่อ ความตอแหร และ ระเบิดมากกว่า
#59
Posted 28 November 2012 - 09:07
#60
Posted 28 November 2012 - 09:21
ภาคเหนือร้อยละเท่าไหร่
ภาคอีสานร้อยละเท่าไหร่
สองภาคนี้รวมกันเกินครึ่งนึงของภาคอื่นๆไหม ???
#61
Posted 28 November 2012 - 09:26
คนไทยส่วนใหญ่ใช้วิธีเรียนรู้โดยการฟังต่อๆกันมาและเชื่อตามๆกันไป เหมือนนกหรือปลาที่บินหรือว่ายตามกันเป็นฝูงโดยไม่ต้องถามหาเหตุผล
ผมทำใจและมองไม่เห็นใครที่จะสามารถเปลี่ยนกระบวนความคิดนี้ได้ รวมถึงคุณอภิสิทธิ์ที่ขาดลักษณะผู้นำเชิงรุกด้วย... ผมรอไอ้หน้าเหลี่ยมมันพินาศบนกองไฟที่ตัวเองจุดขึ้นมา... ได้แต่หวังว่าหมองูจะตายเพราะงู หมอควายจะตายเพราะควาย
- ดอกปีบ likes this
#62
Posted 28 November 2012 - 09:32
แบบที่ 2 สำรวจนักวิชาการ นักเศรษฐศาสตร์ นักธุรกิจ พวกนี้มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง ผลจะออกมาเป็นลบ
แต่โพลส่วนใหญ่จะเน้นไปที่สำรวจชาวบ้านร้านตลาดทั่วๆไป
ไม่ว่าอย่างไรคะแนนเบื้องต้นมันก็จะออกมากึ่งๆ เหมือนเวลาสำรวจความพึ่งพอใจตามงานสัมมนาต่างๆที่มีคะแนน 1 - 5
ส่วนใหญ่จะตอบ 3-4 .. ไม่ให้มากและต่ำไป และยิ่งโพลเกี่ยวกับการเมืองที่มีความชอบและอคติแฝงอยู่ในตัวผู้ตอบแล้ว ยิ่งไปกันใหญ่เลย
ผมถึงเคยบอกว่า การเสพโพลต้องเสพแบบมีสติ
หากเสพแล้วเสียสติ...มันจะ โง่ เอาได้ครับ
แบบที่คิดว่า..โพลออกมาอย่างไร ความจริงมันต้องเป็นเช่นนั้น..อันนี้ถือว่า โง่เขลาในการเสพมากมายจริงๆ
Edited by MIRO, 28 November 2012 - 09:33.
The most valuable things in life are not measured in monetary terms.
The really important things are not houses and lands, stocks and bonds, automobiles and real estate,
but friendships, trust, confidence, empathy, mercy, love and faith.
#63
Posted 28 November 2012 - 09:33
ถ้ายังไงก็ ... โพลเสรีไทย เลยครับ... รับรองถูกใจ...
โพล์ก็คือโพล... ไม่ใช่ของจริงครับ.... ของจริงต้อง... เลือกตั้ง.. 55555
จะว่าไป... ต้องยอมรับว่า ครั้งนี้ ปชป ทำงานมาดี ผิดคาด.. ผมเคยปรามาสไว้ว่า คงมีแต่เรื่องที่ รู้ๆกันแล้ว...
แต่คราวนี้ไม่ใช่... เรื่องใหม่ๆเยอะมาก... ต้องยกเครดิตให้.. หวังว่าคงไม่ อภิปรายจบแล้ว ยกมือแพ้แล้ว
จบกันนะครับ... ไม่งั้นก็แค่มวยล้ม สะกดจิตสาวก...
ผมภูิมิใจที่ เลือกฝ่ายค้านแข็งแรงแบบนี้มาทำงาน... เป็น การถ่วงดุลรัฐบาล
โกงแต่ทำงาน... หรือ
โกงแต่บ้านเมืองสงบ...
"คนโง่มักจะชอบว่าคนอื่นว่าโง่"
"ถ้าคนเราคิดเหมือนกันหมด ก็ไม่มีเลือกตั้งซิครับ"
"ผมไม่พูด เรื่อง 112 แล้ว นะครับ กรุณาอย่าถาม (17 พค 2012)"
#64
Posted 28 November 2012 - 09:38
แบบที่ 1 สำรวจชาวบ้าน จะออกมาเป็นผลบวกกับรัฐบาล
แบบที่ 2 สำรวจนักวิชาการ นักเศรษฐศาสตร์ นักธุรกิจ พวกนี้มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง ผลจะออกมาเป็นลบ
แต่โพลส่วนใหญ่จะเน้นไปที่สำรวจชาวบ้านร้านตลาดทั่วๆไป
ไม่ว่าอย่างไรคะแนนเบื้องต้นมันก็จะออกมากึ่งๆ เหมือนเวลาสำรวจความพึ่งพอใจตามงานสัมมนาต่างๆที่มีคะแนน 1 - 5
ส่วนใหญ่จะตอบ 3-4 .. ไม่ให้มากและต่ำไป และยิ่งโพลเกี่ยวกับการเมืองที่มีความชอบและอคติแฝงอยู่ในตัวผู้ตอบแล้ว ยิ่งไปกันใหญ่เลย
ผมถึงเคยบอกว่า การเสพโพลต้องเสพแบบมีสติ
หากเสพแล้วเสียสติ...มันจะ โง่ เอาได้ครับ
แบบที่คิดว่า..โพลออกมาอย่างไร ความจริงมันต้องเป็นเช่นนั้น..อันนี้ถือว่า โง่เขลาในการเสพมากมายจริงๆ
ที่ว่า ชาวบ้านเป็นบวก นักธุรกิจเป็นลบ เนี่ย... จินตนาการเอา หรือป่าวครับ...
สวนดุสิต จะดีจะชั่วเค้ายังทำโพล์.... ยังออกไปถาม... ผิดถูกถกเถียงกันได้
เชื่อไม่เชื่อ ถกเถียงกันได้... จะบอกว่าเค้าทำไม่ดี กลุ่มตัวอย่างน้อย ไม่กระจาย... อันนี้ว่าได้..
แต่ ผู้รู้ จะ.. จินตนาการเอาเลยว่า... นักธุรกิจเป็น ลบ...
ไม่ทราบว่า เอามาจาก กลุ่มตัวอย่างกี่รายครับ...
"คนโง่มักจะชอบว่าคนอื่นว่าโง่"
"ถ้าคนเราคิดเหมือนกันหมด ก็ไม่มีเลือกตั้งซิครับ"
"ผมไม่พูด เรื่อง 112 แล้ว นะครับ กรุณาอย่าถาม (17 พค 2012)"
#65
Posted 28 November 2012 - 09:49
เหอ เหอ เหอ น้า hentai มองไม่เห็น ระเบิดฆ่าตัวตาย ที่รัฐบาล
ผูกติดเอวไว้ แน่ ๆ เลย เป็น ระเบิด รุ่นใหม่เอี่ยมมีใช้เฉพาะ
ประเทศไทยเท่านั้น เขาเรียก "ระเบิดเพื่อพี่"
555555
#66
Posted 28 November 2012 - 09:57
ผู้ชำนาญการเมืองให้ความเห็นว่าการอภิปรายครั้งนี้ฝ่ายค้านไม่ได้เตรียมตัวทำการบ้าน ข้อมูลก็เก่า ตัดแปะมาจากสื่อ ความผิดก็เลื่อนลอย ตัวเลขความเสียหายก็เป็นเรื่องของการคาดคะเน แถมยังยื่นหัวข้ออภิปรายไม่ครบ ผิดวิสัยฝ่ายค้านมืออาชีพอย่างยิ่ง ดูแล้วไม่มีคำอธิบายอย่างอื่นนอกจากชะล่าใจว่าการอภิปรายไม่มีความสำคัญ เพราะหวังว่าม๊อบจะล้มรัฐบาลได้สำเร็จ
ผมก็ไม่รู้หรอกว่าข้อมูลเก่า หรือตัดแป๊ะ หรือเอามาจากไหน
แต่ก็เป็นข้อมูลที่ฝ่ายรัฐบาล ตอบไม่ได้สักคำถาม ได้แต่ แถ อย่างเดียว
#67
Posted 28 November 2012 - 09:59
ไม่แปลกที่จะเป็นประเภทหมกหมุ่นถึงขนาดตั้งชื่อเป็นศัพท์เฉพาะ
#68
Posted 28 November 2012 - 10:06
ถ้าเชื่อผลโพล ต้องแปลความ ดังนี้
คนไม่เชื่อรัฐบาลมากกว่าครึ่ง แปลว่าประชาชนยังเคลือบแคงในความไม่โปร่งใสของรัฐบาล
แปลว่าถ้าประชาชนมีสิทธิ์ไม่ไว้วางใจรัฐบาล รัฐบาลจะไม่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนมากกว่าครึ่ง
ดังนั้นรัฐบาลต้องรับผิดชอบด้วยการยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ครับ
Edited by อาตี๋, 28 November 2012 - 10:15.
สิทธิตามระบอบประชาติปไตยมีไว้สำหรับให้เสื้อแดงผู้เรียกร้องประชาติปไตยเท่านั้น
ผู้อื่นห้ามใช้มิเช่นนั้นจะโดนประชาติปไตยลงโทษ
#69
Posted 28 November 2012 - 10:08
แล้วโพลจะทำออกมาว่าไม่ชื่อถือได้ไง
#70
Posted 28 November 2012 - 10:10
#71
Posted 28 November 2012 - 10:22
ผู้ชำนาญการเมืองให้ความเห็นว่าการอภิปรายครั้งนี้ฝ่ายค้านไม่ได้เตรียมตัวทำการบ้าน ข้อมูลก็เก่า ตัดแปะมาจากสื่อ ความผิดก็เลื่อนลอย ตัวเลขความเสียหายก็เป็นเรื่องของการคาดคะเน แถมยังยื่นหัวข้ออภิปรายไม่ครบ ผิดวิสัยฝ่ายค้านมืออาชีพอย่างยิ่ง ดูแล้วไม่มีคำอธิบายอย่างอื่นนอกจากชะล่าใจว่าการอภิปรายไม่มีความสำคัญ เพราะหวังว่าม๊อบจะล้มรัฐบาลได้สำเร็จ
ใคร ??? หรือ ตัวคุณเอง ???
- BearFamily likes this
#72
Posted 28 November 2012 - 10:24
#73
Posted 28 November 2012 - 10:29
แพ้ทั้งในและนอกสภา พูดแล้วไม่มีคนเชื่อเลย เพราะแต่ละตัวมันไม่น่าเชื่อถือในสายตาประชาชนครับ
กรูว่าเค้าคงเข้าใจผิดไอ ที่ว่าข้อมูล เค้าคิดว่า โพยรัฐบาลมันมากกว่า
โพย ปชป. ก็อีปูมันพกอยู่ตลอดเวลา ตั้งแต่เข้ามาเป็นนายก กี่โพยแล้วล่ะ มากกว่า 365-366 โพยแล้ว กรูว่า 55555
#74
Posted 28 November 2012 - 10:32
บทบัญญัติวรรคหนึ่งให้ใช้บังคับกับกรณีที่บุคคลดังกล่าวหรือบุคคลอื่นเป็นตัวการ ผู้ใช้ หรือผู้สนับสนุน รวมทั้งผู้ให้ ผู้ขอให้ หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่บุคคลตามวรรคหนึ่ง เพื่อจูงใจให้กระทำการ ไม่กระทำการ หรือประวิงการกระทำอันมิชอบด้วยหน้าที่ด้วย
การยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเพื่อให้ดำเนินการตามมาตรา ๒๕๐ (๒) ให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
ในกรณีที่ผู้ถูกกล่าวหาตามวรรคหนึ่ง เป็นผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีประธานสภาผู้แทนราษฎร หรือประธานวุฒิสภา ผู้เสียหายจากการกระทำดังกล่าวจะยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเพื่อให้ดำเนินการตามมาตรา ๒๕๐ (๒) หรือจะยื่นคำร้องต่อที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาเพื่อขอให้ตั้งผู้ไต่สวนอิสระตามมาตรา ๒๗๖ ก็ได้แต่ถ้าผู้เสียหายได้ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติแล้ว ผู้เสียหายจะยื่นคำร้องต่อที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาได้ต่อเมื่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติไม่รับดำเนินการไต่สวน ดำเนินการล่าช้าเกินสมควร หรือดำเนินการไต่สวนแล้วเห็นว่าไม่มีมูลความผิดตามข้อกล่าวหา
ในกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเห็นว่ามีเหตุอันควรสงสัยว่ามีกรณีตามวรรคสี่ และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติมีมติให้ดำเนินการตามมาตรา ๒๕๐ (๒) ด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติดำเนินการตามมาตรา ๒๕๐ (๒) โดยเร็วในกรณีนี้ ผู้เสียหายจะยื่นคำร้องต่อที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาตามวรรคสี่ มิได้
ให้นำบทบัญญัติมาตรา ๒๗๒ วรรคหนึ่ง วรรคสี่ และวรรคห้า มาใช้บังคับโดยอนุโลม
หากฟังแล้วอยากจะจัดการกับการทุจริต ภาคประชาชนสามารถทำเองได้ โดยประชาชนผู้เสียหายสามารถยื่นเองได้ตามมาตรา 275
Tam-mic-ra ฟันธง! คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ ..... คิดครับคิด จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96 ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3
#75
Posted 28 November 2012 - 10:34
นางไปเที่ยวต่างประเทศทั้งหมด 23 ประเทศแล้ว(ด้วยภาษีปชช.)...เย้!!!!!
“People shouldn't be afraid of their government. Governments should be afraid of their people.”
#76
Posted 28 November 2012 - 10:37
โพลล์เอแบค = ข่าวบูด
#77
Posted 28 November 2012 - 10:47
ที่กล้าตอบออกมา ว่า " แกเป็นขี้ข้าทักษิณมานานแล้ว"
โคตรสะใจกะคำ คำนี้จริงเลย
Edited by สีนวล...สีนิล, 28 November 2012 - 10:51.
#78
Posted 28 November 2012 - 10:48
Edited by จีรนุช, 28 November 2012 - 10:48.
รำคาญสลิ่มเที่ยมที่เข้ามาปล่อยสารพิษเรียกร้องความรุนเเรงเสดงออกถึงความคลั่งสงครามกลางเมืองยุเเยงสร้างภาพชั่วๆ
เอียนวะ เห็นคนเเถวนี้ไอคิวต่ำกว่า 90 หรือไง
#79
Posted 28 November 2012 - 11:00
#80
Posted 28 November 2012 - 14:39
เคยบอกแล้ว... นับวันจะหาโพล์ที่ถูกใจแมงวาป ยากขึ้นเรื่อยๆ... ผมว่ามีนะครับ แต่ต้องพยายามหาหน่อย...
ถ้ายังไงก็ ... โพลเสรีไทย เลยครับ... รับรองถูกใจ...
โพล์ก็คือโพล... ไม่ใช่ของจริงครับ.... ของจริงต้อง... เลือกตั้ง.. 55555
จะว่าไป... ต้องยอมรับว่า ครั้งนี้ ปชป ทำงานมาดี ผิดคาด.. ผมเคยปรามาสไว้ว่า คงมีแต่เรื่องที่ รู้ๆกันแล้ว...
แต่คราวนี้ไม่ใช่... เรื่องใหม่ๆเยอะมาก... ต้องยกเครดิตให้.. หวังว่าคงไม่ อภิปรายจบแล้ว ยกมือแพ้แล้ว
จบกันนะครับ... ไม่งั้นก็แค่มวยล้ม สะกดจิตสาวก...
ผมภูิมิใจที่ เลือกฝ่ายค้านแข็งแรงแบบนี้มาทำงาน... เป็น การถ่วงดุลรัฐบาล
โกงแต่ทำงาน... หรือ
โกงแต่บ้านเมืองสงบ...
แหม พอโพล นี่เชื่อจัง พองานวิจัย บอกว่าไม่ได้มาตรฐานนะท่านนะ
0 user(s) are reading this topic
0 members, 0 guests, 0 anonymous users