Jump to content


Photo
- - - - -

สามก๊ก เอามาใช้ในทางการเมือง-ทหาร ได้จริงๆ หรือ?


  • Please log in to reply
230 ความเห็นในกระทู้นี้

#201 เพลิงสีนิล

เพลิงสีนิล

    สมาชิก ชั้น 7 โฟร์ซีซั่น

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,629 posts

ตอบ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 19:32


เอารูปมาให้ดูดีกว่าครับ

Chibizhizhan_eng2.png

1.ด้วยข้อสงสัยอะครับ แม่น้ำแยกซีเกียงตรงโจโฉตั้งค่าย กว้างแค่ไหนครับ บริเวณด้านข้าง เทียบเรือไม่ได้จริงหรือ ในวันที่หมอกลงหนา ใช่ว่าจะเห็นเรือในระยะ 10 เมตรนะครับ ถ้าเรือใหญ่ก็เห็นได้ไกลกว่า แต่ระยะธนูถึงและมีแรงพอจะปักเป้าหมาย น่าจะไม่กิน 30

2. อันนี้ผมอ้างจากนิยายนะ ผมก็ไม่เคยไปสถานที่จริง ฝ่ายวุยกลัวทหารซุ่มจึงไม่ออกมา แสดงว่า ขอบตลิ่ง มีพื้นที้ให้ทหารเดินเท้าเดินได้เป็นแนวยาว

3. ผมย้ำจริงๆอะครับ ถ้าเรือเทียบท่า ไม่ต้องเอาโซ่คล้องหรอกครับท่าน เพราะจะต้องจอดเทียบชิดกันและ โยงเรือด้วยกันไว้อยู่แล้ว ขอเพียงรู้ตำแหน่งและไปถึงด้วยความรวดเร็ว ก็มีโอกาสสูงที่จะเผาทั้งยวง

n00454.jpg

1. ด้านข้างเทียบเรืออะไรไม่ได้หรือครับ ถ้าไม่มีคลื่นมันก็จดได้แหละครับ ความกว้างของแม่น้ำบอกไม่ได้ เพราะหน้าน้ำหลากมันกว้างกว่าเดิม ส่วนเรื่องการมองเห็นนี่ เวลานั้นไม่ใช่กลางวันนะครับ หมอกหนาจริง ๆ ขนาดกลางวันยังเห็นแค่ไม่กี่สิบเมตร แล้วกลางคืนจะเห็นกี่เมตรกันครับ ขงเบ้งเปิดไฟตัดหมอกรึไงครับ ส่วนระยะธนูที่คุณบอกไม่น่าเกิน 30 นี่คิดเอาเองรึเปล่าครับ ปกถ้าไม่เอาความแม่นประเภทยิงแอปเปิ้ลบนหัวหรือปลายทวนมันยิงได้เกิน 100 เมตรอีกนะครับ
2. โลซกกลัวทัพโจโฉออกเรือ ขงเบ้งบอกหมอกหนา โจโฉไม่กล้าออกเรือเพราะกลัวซุ่มโจมตี ไม่เกี่ยวกับบนฝั่ง  ส่วนริ่มตลิ่งนะในนิยายยังให้พวกแม่ทัพขนทหารไปยิงเลยนี่ครับ
3. เรื่อเทียบท่าไม่ต้องเอาโซ่คล้อง? อย่าไปยึดติดกับคำว่าโซ่ครับ เรือเทียบท่ายังไงก็ต้องหาอะไรผูกกับท่าครับ จะเป็นเชือกหรือโซ่ก็ว่ากันไป แล้วเรือที่โยงเข้าด้วยกันก็ต้องหาอะไรมาผูกให้ติดกันอยู่ดี และตอนจอดชิดก็มีการทักท้วงแล้วไม่ใช่หรือครับว่าเสี่ยงโดนเผา แต่ที่ทำเพราะลมพัดออกจากทัพโจโฉ ต่อให้รู้ตำแหน่งถ้าลมไม่เป็นใจก็เผาทั้งยวงไม่ได้
 
 
 



จริงๆ ผมได้คำตอบแล้วอะครับ
แต่ประเด็นของผมที่ถกเถียงกับท่่าน คือ ทำไมไม่ใช้ธนูไฟ ผมและท่านต่างยกเหตุผลมา โดยผมยกเหตุผลที่ ฝ่ายโจโฉไม่ใช้ธนูไฟ มาแย้งเป็นข้อๆ
ส่วนจริงไม่จริงในประวัติศาสตร์อย่างไรนั้นอีกเรื่อง เพราะผมก็ไม่ได้ใเชื่อว่า พี่เบ้ง ทำได้แบบชิวๆ หรือ เหตุการณ์ใันจะเหมือนในนิยายจริงๆ
นิยานก็คือนิยายอะครับ ลองไล่ดูใน คอมเม้นฯ ที่โต้ตอบกันสิครับ ท่านอาจ งง ประเด็น

1 เรื่องระยะธนู ผมอ้างเอาจากเท่าที่เคยลองยิงอะครับ ยิงแบบให้ปักเป้าเน้นๆ (ไม่ใช่แบบยิงเอียงขึ้นฟ้าแล้วให้ตกลงมาปัก) อันนี้เคยลองแล้วครับ ไม่เคยถึง 100 เมตรสักที แต่อันนี้ผมไม่เถียงนะ อาจต่างกันด้วยสภาพร่างกาย และ วัสดุ คนโบราณอาจยิงหวังผลในระยะร้อยเมตรเป็นไปได้
แต่ก็ได้บอกไปแล้วครับว่า การใช้ธนูไฟมันอาจมีอุปสรร หลายๆ อย่าง เช่น เชื้อเพลิง ปริมาณ การเตรียมตัว และ สถานการณ์ (อันนี้ผมลอง search ดูแล้วด้วยความอยากรู้ แต่ก็ไม่รู้จริงๆ นอกจากขึ้ไต้ที่ใช้ทำคบไฟ ในสมัยนั้นเอาอะไรเป็นเชื้อเพลิงอีก)

2 เรื่องโซ่คล้องผมแย้งท่านที่ท่าน ว่า จะล่องเรือไปเผาได้อย่างไรเมื่อไม่มีโซ่คล้อง ผมก็ตอบให้ไงครับว่า ตอนจอดเทียบว่าต้องโยงเรือไว้
การยิงธนูไฟเป็นการเผยที่ตั้ง และผมก็ได้แย้งว่าปัจจัยด้านภูมิศาสตร์และข่าวสารที่ได้เปรียบเสียเปรียบกันอยู่ ปัจจับเหล่านี้อาจเป็นเหตุผลที่ ฝ่ายวุยไม่ยิงธนูไฟ

3 ส่้วนเรื่องลม ผมก็แย้งท่านไปแล้วครับว่า ถ้าหมอกลง ลมแรงหรือครับ

Edited by เพลิงสีนิล, 21 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 20:20.

[color=#0000ff;][font="Tahoma, sans-serif;"]เราจะรู้.....รสชาติของความสุข[/color][font="Tahoma, sans-serif;"]ก็ต่อเมื่อ     เราผ่านความทุกข์มาก่อน[/font][/font]


#202 เพลิงสีนิล

เพลิงสีนิล

    สมาชิก ชั้น 7 โฟร์ซีซั่น

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,629 posts

ตอบ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 19:38


ใช้พลธนูกี่คน ตั้งหน้ากระดาน กี่แถว ยาวแค่ไหน
ขงเบ้งต้องเอาเรือมากี่ลำจึงจะได้ธนูไปแสนดอก
 
สุดท้ายทำไมทัพโจโฉไม่ใช้ธนูไฟ ในเมื่อมันมองไม่เห็น
แต่ถ้าใช้ธนูไฟ ยิงไปติดเรือขงเบ้งก็จะรู้ได้ว่าเป้าอยู่ตรงไหน   -_-

 
 
ผมรู้ครับ เพราะ "โง่" กันทั้งกองทัพครับ
หรือถ้าไม่ยอมรับ ก็แสดงว่า คนแต่งจิตนาการไม่เก่ง
คนอ่านเลยจับผิดได้  :)
 
คาดว่าคนแต่งคงไม่เคยเห็นการรบ ไม่เคยเจอหมอกตอน
กลางคืน และไม่รู้จักธนูไฟ
 




การทำอะไรโง่ๆ กันเป็นหมู่คณะ อย่าคิดว่าเป็นไปไม่ได้ครับ

เห็นมากับตา กับเรื่อง ผู้นำโง่

ในอนาคต ลองคิดดูสิครับ ลูกหลานเรา คงสงสัย

เลือก ผู้นำโง่ๆ มาบริหาร กันได้ยังไง

5555555

: )

[color=#0000ff;][font="Tahoma, sans-serif;"]เราจะรู้.....รสชาติของความสุข[/color][font="Tahoma, sans-serif;"]ก็ต่อเมื่อ     เราผ่านความทุกข์มาก่อน[/font][/font]


#203 phoosana

phoosana

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 7,687 posts

ตอบ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 21:35

การเปิดเผยที่ตั้ง ฝังดูเข้าที

ในคืนเดือนมืดสนิท ไม่มีแสงรบกวน

บุหรี่มวนเดียว มองเห็นได้ไกลเป็นกิโล

 

แล้วอยู่สองฝ้่่งแม่น้ำแม้ว่าไกล มันไม่มีปืนใหญ่สักหน่อย แบบยิงปูพรมแม่นๆ ด้วย

การตั้งทัพสมัยก่อนเรื่องการ การเผยที่ตั้งเพียงเพราะจุดไฟ ผมยังไม่ค่อยเห็นด้วยนัก


We love fender.

#204 เช never die

เช never die

    มหาอำมาตย์แดง ชั้นที่ 1.(ระดับเดียวกับท่านตู่,ท่านเต้น)

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 11,845 posts

ตอบ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 22:13

ตอนที่ขงเบ้งเริ่มเผาทัพเรือโจโฉ ณ.วัน ว. เวลา ณ. อุยกายที่แกล้งเข้ามาสวามิภักดิ์กับโจโฉ นำกองเรือที่บรรทุกฟางราดด้วยน้ำมันหลายสิบลำพุ่งเข้าหากองทัพเรือโจโฉด้วยความเร็วสูงตามลมสลาตัน ...

 

ณ.ตอนนั้น เทียหยกปรึกษาอีกคนของโจโฉได้พูดเตือนว่า "นายท่าน ข้ารู้สึกว่าเรือพวกนี้มีบางอย่างไม่ชอบมาพากล  ขออย่าให้เรือเหล่านี้เข้าใกล้เรือของพวกเราได้  ถ้าเรือเหล่านี้เต็มไปด้วยเสบียงศึก(ที่จะเข้ามาสวามิภักดิ์)  เรือแต่ละลำจะต้องกินน้ำลึกกว่านี้และแล่นได้ช้า  แต่นายท่านก็สังเกตได้เรือรบของอุยกายนั้นลอยเหนือผิวน้ำเพียงเล็กน้อยและแล่น มาเร็วยิ่ง  ลมตะวันออกเฉียงใต้ก็กำลังพัดกระหน่ำในตอนนี้  พวกเราควรจะมั่นใจเสียก่อนว่านี่ไม่ใช่อุบายของง่อก๊ก

 

เมื่อได้ยินคำพูดของเทียหยก  โจโฉก็รู้ตัวว่าหลงกลเสียแล้ว  เขาจึงสั่งให้แม่ทัพบุนเพ่งไปหยุดเรือเหล่านั้นก่อนที่จะเข้ามาใกล้เรือรบโจโฉ ของฝั่งวุย  อุยกายนำเรือใหญ่สิบลำที่บรรทุกหญ้าแห้งที่ราดน้ำมันจนเปียกชุ่ม  เรือลำใหญ่ที่สุดนั้นลากจูงเรือลำที่เหลือ  และทั้งขบวนเรือก็แล่นเข้าหาค่ายโจโฉอย่างรวดเร็ว

 

บุนเพ่งตะโกนร้องบอกให้อุยกายหยุดเรือเสีย  ไม่เช่นนั้นเขาจะสั่งให้ยิงธนูเข้าใส่  แต่เรือของอุยกายก็แล่นเข้าใส่เรือของโจโฉด้วยความเร็วสูง  อุยกายหยิบอาวุธของเขาออกมาเตรียมพร้อม  แล้วเรือทั้งสิบลำก็เริ่มจุดไฟเผาเรือ  เตรียมโจมตีเรือศึกของโจโฉด้วยไฟ.

 

ลมตะวันออกเฉียงใต้ก็พัดโหมกระหน่ำให้ไฟแรงขึ้น  เรือรบโจโฉที่ยึดติดด้วยกันด้วยโซ่เหล็ก  เหมือนดั่งติดกับดักไปไหนไม่ได้  ไฟก็ลามจากเรือลำหนึ่งไปอีกลำอย่างรวดเร็ว  แล้วเรือทั้งหมดก็ตกอยู่ภายใต้ทะเลเพลิง

 

........................................

 

ถ้าวิเคราะห์จากทิศทางกระแสลม ....

 

โจโฉเดินทัพมาจากภาคเหนือ เมื่อเริ่มต้นฤดูหนาว ดังนั้นลมหนาวจะพัดมาจากไซบีเรีย ทางด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือด้านหลังของทัพโจโฉตลอดเวลา แต่จะมีบางช่วงในเวลาเริ่มเข้าฤดูหนาวที่กระแสลมจะพัดหวนจากทิศตะวันออกเฉียงใต้ขึ้นไปทางเหนือเป็นช่วงสั้นๆ ซึ่งหอบเอาความชื้นมากทางทะเลจีนใต้ เมื่อความชื้นปะทะกับลมเย็นจะทำให้เกิดหมอกหนา แล้วขงเบ้งก็อาศัยจังหวะช่วงต้นที่ลมพัดหวนขึ้นเหนือเบาๆเป็นหมอกหนานี้ไปโขมยลูกธนูของโจโฉ แล้วพอช่วงลมหวนพัดแรงขึ้นเหนือนี้ใช้เผาทำลายทัพโจโฉ


Edited by onegeo, 21 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 22:15.

มันผู้ได สนับสนุนการนิรโทษกรรม ไม่ลากคอไอ้ฆาตกรชั่วใจสัตว์ โหดอำมหิต ผู้บงการฆ่าพี่น้องเสื้อแดงของกู 91 ศพ และพี่น้อง กปปส.ของกูอีก 20 ศพ มาลงโทษลงทัณฑ์ตามกบิลเมือง กูขอสาปแช่งให้มันและทุกๆคนที่มันรัก จงประสพกับความวิบัติฉิบหายในชาตินี้ และต่อๆไปทุกภพทุกชาติ จนกว่าจะสิ้นกาล


#205 Solidus

Solidus

    เลิกเล่น

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 14,367 posts

ตอบ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 00:07


เอารูปมาให้ดูดีกว่าครับ

Chibizhizhan_eng2.png

1.ด้วยข้อสงสัยอะครับ แม่น้ำแยกซีเกียงตรงโจโฉตั้งค่าย กว้างแค่ไหนครับ บริเวณด้านข้าง เทียบเรือไม่ได้จริงหรือ ในวันที่หมอกลงหนา ใช่ว่าจะเห็นเรือในระยะ 10 เมตรนะครับ ถ้าเรือใหญ่ก็เห็นได้ไกลกว่า แต่ระยะธนูถึงและมีแรงพอจะปักเป้าหมาย น่าจะไม่กิน 30

2. อันนี้ผมอ้างจากนิยายนะ ผมก็ไม่เคยไปสถานที่จริง ฝ่ายวุยกลัวทหารซุ่มจึงไม่ออกมา แสดงว่า ขอบตลิ่ง มีพื้นที้ให้ทหารเดินเท้าเดินได้เป็นแนวยาว

3. ผมย้ำจริงๆอะครับ ถ้าเรือเทียบท่า ไม่ต้องเอาโซ่คล้องหรอกครับท่าน เพราะจะต้องจอดเทียบชิดกันและ โยงเรือด้วยกันไว้อยู่แล้ว ขอเพียงรู้ตำแหน่งและไปถึงด้วยความรวดเร็ว ก็มีโอกาสสูงที่จะเผาทั้งยวง

n00454.jpg

1. ด้านข้างเทียบเรืออะไรไม่ได้หรือครับ ถ้าไม่มีคลื่นมันก็จดได้แหละครับ ความกว้างของแม่น้ำบอกไม่ได้ เพราะหน้าน้ำหลากมันกว้างกว่าเดิม ส่วนเรื่องการมองเห็นนี่ เวลานั้นไม่ใช่กลางวันนะครับ หมอกหนาจริง ๆ ขนาดกลางวันยังเห็นแค่ไม่กี่สิบเมตร แล้วกลางคืนจะเห็นกี่เมตรกันครับ ขงเบ้งเปิดไฟตัดหมอกรึไงครับ ส่วนระยะธนูที่คุณบอกไม่น่าเกิน 30 นี่คิดเอาเองรึเปล่าครับ ปกถ้าไม่เอาความแม่นประเภทยิงแอปเปิ้ลบนหัวหรือปลายทวนมันยิงได้เกิน 100 เมตรอีกนะครับ
2. โลซกกลัวทัพโจโฉออกเรือ ขงเบ้งบอกหมอกหนา โจโฉไม่กล้าออกเรือเพราะกลัวซุ่มโจมตี ไม่เกี่ยวกับบนฝั่ง  ส่วนริ่มตลิ่งนะในนิยายยังให้พวกแม่ทัพขนทหารไปยิงเลยนี่ครับ
3. เรื่อเทียบท่าไม่ต้องเอาโซ่คล้อง? อย่าไปยึดติดกับคำว่าโซ่ครับ เรือเทียบท่ายังไงก็ต้องหาอะไรผูกกับท่าครับ จะเป็นเชือกหรือโซ่ก็ว่ากันไป แล้วเรือที่โยงเข้าด้วยกันก็ต้องหาอะไรมาผูกให้ติดกันอยู่ดี และตอนจอดชิดก็มีการทักท้วงแล้วไม่ใช่หรือครับว่าเสี่ยงโดนเผา แต่ที่ทำเพราะลมพัดออกจากทัพโจโฉ ต่อให้รู้ตำแหน่งถ้าลมไม่เป็นใจก็เผาทั้งยวงไม่ได้
 
 
 

 


จริงๆ ผมได้คำตอบแล้วอะครับ
แต่ประเด็นของผมที่ถกเถียงกับท่่าน คือ ทำไมไม่ใช้ธนูไฟ ผมและท่านต่างยกเหตุผลมา โดยผมยกเหตุผลที่ ฝ่ายโจโฉไม่ใช้ธนูไฟ มาแย้งเป็นข้อๆ
ส่วนจริงไม่จริงในประวัติศาสตร์อย่างไรนั้นอีกเรื่อง เพราะผมก็ไม่ได้ใเชื่อว่า พี่เบ้ง ทำได้แบบชิวๆ หรือ เหตุการณ์ใันจะเหมือนในนิยายจริงๆ
นิยานก็คือนิยายอะครับ ลองไล่ดูใน คอมเม้นฯ ที่โต้ตอบกันสิครับ ท่านอาจ งง ประเด็น

1 เรื่องระยะธนู ผมอ้างเอาจากเท่าที่เคยลองยิงอะครับ ยิงแบบให้ปักเป้าเน้นๆ (ไม่ใช่แบบยิงเอียงขึ้นฟ้าแล้วให้ตกลงมาปัก) อันนี้เคยลองแล้วครับ ไม่เคยถึง 100 เมตรสักที แต่อันนี้ผมไม่เถียงนะ อาจต่างกันด้วยสภาพร่างกาย และ วัสดุ คนโบราณอาจยิงหวังผลในระยะร้อยเมตรเป็นไปได้
แต่ก็ได้บอกไปแล้วครับว่า การใช้ธนูไฟมันอาจมีอุปสรร หลายๆ อย่าง เช่น เชื้อเพลิง ปริมาณ การเตรียมตัว และ สถานการณ์ (อันนี้ผมลอง search ดูแล้วด้วยความอยากรู้ แต่ก็ไม่รู้จริงๆ นอกจากขึ้ไต้ที่ใช้ทำคบไฟ ในสมัยนั้นเอาอะไรเป็นเชื้อเพลิงอีก)

2 เรื่องโซ่คล้องผมแย้งท่านที่ท่าน ว่า จะล่องเรือไปเผาได้อย่างไรเมื่อไม่มีโซ่คล้อง ผมก็ตอบให้ไงครับว่า ตอนจอดเทียบว่าต้องโยงเรือไว้
การยิงธนูไฟเป็นการเผยที่ตั้ง และผมก็ได้แย้งว่าปัจจัยด้านภูมิศาสตร์และข่าวสารที่ได้เปรียบเสียเปรียบกันอยู่ ปัจจับเหล่านี้อาจเป็นเหตุผลที่ ฝ่ายวุยไม่ยิงธนูไฟ

3 ส่้วนเรื่องลม ผมก็แย้งท่านไปแล้วครับว่า ถ้าหมอกลง ลมแรงหรือครับ

1. ถ้าแค่ไม่เกิน 30 เมตร อยู่ในระยะธนูปักเป้าเน้น ๆ แน่ครับ อย่าว่าแต่ธนูเลยครับใช้หอกซัดก็ยังถึง แล้วทำไมถึงไม่ให้ใช้วิธีเอียงขึ้นฟ้าแล้วปักครับในเมื่อมันเป็นวิธียิงอย่างหนึ่งแต่หมอกหนาคืนเดือนมืดเห็นเงาตะคุ่มมันจะห่างกี่เมตรกันเชียว

2. เหตุการณ์ขงเบ้งยืมลูกธนูเกิดก่อนเหตุการณ์บังทองให้ใช้โซ่คล้องเรือ ถ้ามันคล้องกันอยู่แล้วจะเขียนให้บังทองมาเสนอความคิดยังไงมิทราบ เรื่องเผยที่ตั้งไม่ต้องห่วงหรอกครับ มันเห็นกันตั้งแต่กลางวันแล้ว ทัพสองฝ่ายอยู่กันคนละฟากของแม่น้ำ แถมทัพโจโฉกลัวทัพจิวยี่ไม่รู้ที่ตั้ง ตอนกลางคืนยังให้จุดคบไฟกันสว่างจ้าอีก แบบนี้ยังจะกลัวเขารู้ที่ต้องไม่ใช้ธนูไฟอีกหรือครับ

3. ลมแรงมีประโยชน์ในการให้ไฟลามไปติดที่ข้างเคียง ถ้าลมไม่แรงมันก็เผาได้แค่ไม่เท่าไหร่ยิ่งเป็นลมพัดออกจากทัพโจโฉอีก แล้วตอนนั้นทัพโจโฉกำลังหาทางลงน้ำอยู่ทัพส่วนใหญ่จึงอยู่บนฝั่ง


Edited by Jörmungandr, 22 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 00:33.

[color=#ff0000;]สำหรับผมคงเลิกเล่นบอร์ดนี้ไว้เพียงเท่านี้ ถ้าไอดีนี้ยังมีบุคคลอื่นที่ใครบางคนคิดว่าเป็นตัวจริงอยู่จริง เขาก็เข้ามาใช้บอร์ดนี้ต่อเองแต่ไม่ใช่ผมแน่นอน[/color]

ลาก่อน สวัสดีครับ 17 มกราคม 2556


#206 Solidus

Solidus

    เลิกเล่น

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 14,367 posts

ตอบ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 00:19

การเปิดเผยที่ตั้ง ฝังดูเข้าที

ในคืนเดือนมืดสนิท ไม่มีแสงรบกวน

บุหรี่มวนเดียว มองเห็นได้ไกลเป็นกิโล

 

แล้วอยู่สองฝ้่่งแม่น้ำแม้ว่าไกล มันไม่มีปืนใหญ่สักหน่อย แบบยิงปูพรมแม่นๆ ด้วย

การตั้งทัพสมัยก่อนเรื่องการ การเผยที่ตั้งเพียงเพราะจุดไฟ ผมยังไม่ค่อยเห็นด้วยนัก

มันเผยที่ตั้งไปตั้งนานเป็นเดือนแล้วล่ะครับ เล่นจุดไฟตอนกลางคืนซะสว่างจนจิวยี่ยังตกใจ

ปัญหาคือทัพโจโฉยังอยู่บนฝั่งส่วนใหญ่ หาทางลงน้ำอยู่ ส่วนทัพซุนกวนก็คนน้อยไม่พอบุกขึ้นฝั่ง มันก็เลยยันไปมาอย่างนี้แหละครับ

พอทัพโจโฉหาทางลงน้ำด้วยวิธีของบังทอง ทัพส่วนใหญ่ก็มาอยู่บนเรือ ก็ดันโดนเผาซะอีก


Edited by Jörmungandr, 22 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 00:21.

[color=#ff0000;]สำหรับผมคงเลิกเล่นบอร์ดนี้ไว้เพียงเท่านี้ ถ้าไอดีนี้ยังมีบุคคลอื่นที่ใครบางคนคิดว่าเป็นตัวจริงอยู่จริง เขาก็เข้ามาใช้บอร์ดนี้ต่อเองแต่ไม่ใช่ผมแน่นอน[/color]

ลาก่อน สวัสดีครับ 17 มกราคม 2556


#207 Solidus

Solidus

    เลิกเล่น

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 14,367 posts

ตอบ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 00:32

ผมได้ลอง หาเปรียบเทียบ ขนาดความกว้าง นะช่วง ที่น่าจะเป็นเซ็กเพ็ก แล้วเปรียบเทียบกับสิ่งที่ผมพอประมาณได้ นะครับ คือแม่น้ำโขงช่วงสะพานมิตรภาพ ชึ่งช่วงนี้ ความยาวของแม่น้าโขงจะประมาณ 700 เมตร(ค่าประมาณ)โดยใช้ เทียบระหว่างแผนที่โลก ขนาด 5 mi /5 KM วัดได้ ว่าช่วงเซ็กเพ็ก นั้น ช่วงความยาวอยู่ที่ ประมาณ 1ซม.แต่แม่น้ำโขงอยู่ที่ 3-4 มม. แสดงว่าช่วงนั้นกว้างกว่าแม่น้ำโขงช่วงหนองคาย อยู่ประมาณ 3เท่าตัว ก็น่าจะอยู่ในช่วง 2-3 กิโลเมตร(กว้างโคตร) http://www.thaisamko...MapSamkok02.jpg

ก็กว้างขนาดนั้นถึงเรียกว่าทะเลกันเลยล่ะครับ


[color=#ff0000;]สำหรับผมคงเลิกเล่นบอร์ดนี้ไว้เพียงเท่านี้ ถ้าไอดีนี้ยังมีบุคคลอื่นที่ใครบางคนคิดว่าเป็นตัวจริงอยู่จริง เขาก็เข้ามาใช้บอร์ดนี้ต่อเองแต่ไม่ใช่ผมแน่นอน[/color]

ลาก่อน สวัสดีครับ 17 มกราคม 2556


#208 เช never die

เช never die

    มหาอำมาตย์แดง ชั้นที่ 1.(ระดับเดียวกับท่านตู่,ท่านเต้น)

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 11,845 posts

ตอบ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 00:41

เพื่อสำแดงอานุภาพและศักยะสงครามข่มขวัญแคว้นกังตั๋งและบรรดาหัวเมืองทั้ง ปวงทางฝั่งใต้ของแม่น้ำแยงซี โจโฉได้ตั้งค่ายฝ่ายกองทัพบกเรียงรายทั้งด้านตะวันออกและด้านตะวันตกของ เมืองเกงจิ๋วเป็นระยะทางถึงสามพันเส้น ในส่วนกองทัพเรือได้จอดเรือทอดสมอรายเรียงยาวเหยียด ดังที่สามก๊กฉบับเจ้าพระยาพระคลัง (หน) อุปมาไว้ว่า “แลเรือรบซึ่งทอดอยู่ชายทะเลนั้นดังหนึ่งจะเต็มไปทั้งมหาสมุทร” 

            อันแม่น้ำแยงซีช่วงนี้ในสมัยนั้นกว้างขวางมาก มีขนาดกว้างประมาณสิบเท่าของแม่น้ำเจ้าพระยา เพราะเหตุนี้ในยุคสมัยนั้นจึงเรียกแม่น้ำแยงซีว่าทะเล


มันผู้ได สนับสนุนการนิรโทษกรรม ไม่ลากคอไอ้ฆาตกรชั่วใจสัตว์ โหดอำมหิต ผู้บงการฆ่าพี่น้องเสื้อแดงของกู 91 ศพ และพี่น้อง กปปส.ของกูอีก 20 ศพ มาลงโทษลงทัณฑ์ตามกบิลเมือง กูขอสาปแช่งให้มันและทุกๆคนที่มันรัก จงประสพกับความวิบัติฉิบหายในชาตินี้ และต่อๆไปทุกภพทุกชาติ จนกว่าจะสิ้นกาล


#209 Samkok911

Samkok911

    น้องใหม่

  • Members
  • Pip
  • 12 posts

ตอบ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 00:45

ขออนุญาตร่วมให้ข้อมูลครับ

เห็นว่ากำลังถกกันด้วยเหตุด้วยผลทั้งสองฝ่าย

ผมจึงคัดลอกเนื้อหาตอนขงเบ้งยืมลูกเกาทัณฑ์จากสามก๊กฉบับภาษาอังกฤษของบริวิทเทเลอร์มาให้อ่านดูบ้าง

เพื่อเป็นข้อมูลดิบในการสนทนากันต่อไปครับ (ผมทำตัวสีแดงให้ด้วย ในประเด็นที่โต้แย้งกัน)

 

Then the twenty boats were fastened together by long ropes and moved over to the north bank. The night proved very foggy and the mist was very dense along the river, so that one person could scarcely see another. In spite of the fog, Zhuge Liang urged the boats forward as if into the vast fairy kingdom.

 

The little fleet reached Cao Cao's naval camp about the fifth watch, and Zhuge Liang gave orders to form line lying prows west, and then to beat the drums and shout.

 

"But what shall we do if they attack us?" exclaimed Lu Su.

 

Zhuge Liang replied with a smile, "I think their fleet will not venture out in this fog. Go on with your wine, and let us be happy. We will go back when the fog lifts."

 

As soon as the shouting from the river was heard by those in the camp, the two admirals, Mao Jie and Yu Jin, ran off to report to Cao Cao, who said, "Coming up in a fog like this means that they have prepared an ambush for us. Do not go out, but get all the force together and shoot at them."

 

He also sent orders to the ground camps to dispatch six thousand of archers and crossbowmen to aid the marines.

 

The naval forces were then lined up shooting on the bank to prevent a landing. Presently the soldiers arrived, and ten thousand and more soldiers were shooting down into the river, where the arrows fell like rain. By and bye Zhuge Liang ordered the boats to turn round so that their prows pointed east and to go closer in so that many arrows might hit them.

 

Zhuge Liang ordered the drums to be kept beating till the sun was high and the fog began to disperse, when the boats got under way and sailed down stream. The whole twenty boats were bristling with arrows on both sides.

 

As they left, Zhuge Liang asked all the crews to shout derisively, "We thank you, Sir Prime Minister, for the arrows!"

 

They told Cao Cao, but by the time he came, the light boats helped by the swift current were seven miles long down the river and pursuit was impossible. Cao Cao saw that he had been duped and was very sorry, but there was no help for it.

 

On the way down Zhuge Liang said to his companion, "Every boat must have five or six thousand arrows and so, without the expenditure of an ounce of energy, we must have more than ten myriad arrows, which tomorrow can be shot back again at Cao Cao's army to his great inconvenience."

 

"You are really superhuman," said Lu Su. "But how did you know there would be a thick fog today?"

 

"One cannot be a leader without knowing the workings of heaven and the ways of earth. One must understand the secret gates and the interdependence of the elements, the mysteries of tactics and the value of forces. It is but an ordinary talent. I calculated three days ago that there would be a fog today, and so I set the limit at three days. Zhou Yu would give me ten days, but neither artificers nor materials, so that he might find occasion to put me to death as I knew. But my fate lies with the Supreme, and how could Zhou Yu harm me?"

 

Lu Su could not but agree. When the boats arrived, five hundred soldiers were in readiness on the bank to carry away the arrows. Zhuge Liang bade them go on board the boats, collect them and bear them to the tent of the Commander-in-Chief. Lu Su went to report that the arrows had been obtained and told Zhou Yu by what means.

 

Zhou Yu was amazed and sighed sadly, saying, "He is better than I. His methods are more than human."


Edited by Samkok911, 22 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 00:52.


#210 เช never die

เช never die

    มหาอำมาตย์แดง ชั้นที่ 1.(ระดับเดียวกับท่านตู่,ท่านเต้น)

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 11,845 posts

ตอบ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 01:02

Zhou Yu was amazed and sighed sadly, saying, "He is better than I. His methods are more than human

 

"จิวยี่ต้องประหลาดใจ ถึงกับรำพึงอย่างเศร้าสร้อยว่า กุนซือผู้นี้(ขงเบ้ง) มีสติปัญญาเหนือกว่าข้าพเจ้า อันการคิดอ่านของกุนซือผู้นี้เหนือกว่ามนุษย์ธรรมดามากนัก"


Edited by onegeo, 22 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 01:04.

มันผู้ได สนับสนุนการนิรโทษกรรม ไม่ลากคอไอ้ฆาตกรชั่วใจสัตว์ โหดอำมหิต ผู้บงการฆ่าพี่น้องเสื้อแดงของกู 91 ศพ และพี่น้อง กปปส.ของกูอีก 20 ศพ มาลงโทษลงทัณฑ์ตามกบิลเมือง กูขอสาปแช่งให้มันและทุกๆคนที่มันรัก จงประสพกับความวิบัติฉิบหายในชาตินี้ และต่อๆไปทุกภพทุกชาติ จนกว่าจะสิ้นกาล


#211 ตะนิ่นตาญี

ตะนิ่นตาญี

    La vie en rose

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,174 posts

ตอบ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 08:16

ใช้พลธนูกี่คน ตั้งหน้ากระดาน กี่แถว ยาวแค่ไหน

ขงเบ้งต้องเอาเรือมากี่ลำจึงจะได้ธนูไปแสนดอก

 

สุดท้ายทำไมทัพโจโฉไม่ใช้ธนูไฟ ในเมื่อมันมองไม่เห็น

แต่ถ้าใช้ธนูไฟ ยิงไปติดเรือขงเบ้งก็จะรู้ได้ว่าเป้าอยู่ตรงไหน   -_-

 

 

ผมรู้ครับ เพราะ "โง่" กันทั้งกองทัพครับ

หรือถ้าไม่ยอมรับ ก็แสดงว่า คนแต่งจิตนาการไม่เก่ง

คนอ่านเลยจับผิดได้  :)

 

คาดว่าคนแต่งคงไม่เคยเห็นการรบ ไม่เคยเจอหมอกตอน

กลางคืน และไม่รู้จักธนูไฟ

 

 

ถ้าจำไม่ผิด ในสามก๊กฉบับวนิพก โจโฉก็ให้แต่งทหารกองธนูไฟครับ แต่ขงเบ้งรู้อยู่แล้ว ก็เลยให้ผูกหุ่นฟางแล้วเอาน้ำราดให้ชุ่ม ภายในเรือที่อยู่ด้านหลังกำแพงหุ่นฟางก็ให้ทหาร ประโคมกลองตีฆ้องเคาะเกราะโห่ร้องทำทีว่าฝ่ายซุนกวนจะบุกมาเป็นทัพใหญ่

 

โดยสภาพความเป็นจริงในแผ่นดินจีนปัจจุบัน เวลาหมอกลงจัด อย่าว่าแต่ 200 - 300 เมตรจะมองไม่เห็นเลย เอาว่าในปัจจุบัน ไฟตัดหมอกหน้ารถยังสาดทุลุพอมองเห็นได้ไม่เกิน 20 - 30 เมตรเท่านั้น แล้วเสียงดังอื้ออึงทั้งกลองรบทั้งเสียงโห่ร้องที่ขงเบ้งสังให้ทหารที่หลบในเรือช่วยกันทำ มันก็ทำให้โจโฉต้องสาดเกาทันท์ไปทุกทิศทุกทางที่ได้ยินเสียงกลองศึกเสียงโห่ร้อง

 

อีกส่วนหนึ่ง ลูกเกาทันท์แสนดอกถือว่าไม่เยอะครับ ถ้านับกำลังพลโจโฉทั้งทับก ทัพเรือ รวมกันมากกว่าร้อยหมื่นนาย ก็ทหารประมาณหนึ่งล้านนายนั่นแหละ ยุคใกล้เคียงกัน ตอนที่พวกแซกซ็อนจากเยอรมันบุกเข้ายึดเกาะอังกฤษ เพิ่งจะใช้ทหารแค่แปดพันนาย(ไม่ถึงหมื่น) ตอนที่นโปเลียนเป็นใหญ่ กองทัพฝรั่งเศษก็เพิ่งจะมีทหารประจำการแค่ยี่สิบหมื่นเท่านั้นเอง

 

 

ยิ่งเห็นความโง่เข้าไปอีก

- โห่ร้องยังไงถึงได้ฟังให้เหมือนเป็นกองทัพใหญ่?

- อยู่หลังกองฟาง เสียงก็สะท้อนกลับ เสียงจะดังขึ้นหรือ?

- ยิงจากบนเรือ ยังไงก็ยิงได้แค่แถวหน้า ไม่เหมือนการรบบนบก

ที่สลับแถวทหารได้ แต่บนเรือ ทำไม่ได้

- ยิงติดกองฟางเป็นแสน แสดงว่าต้องยิงหลักสิบล้าน กองทหารยิง

ไปเป็นสิบล้านลูกโดยไม่เห็นอะไรเลย ไม่เรียกว่า "โง่" จะให้เรียกว่าอะไร?

 

 

- โห่ร้องยังไงถึงได้ฟังให้เหมือนเป็นกองทัพใหญ่?

 

ไม่ใช่เสียงโห่ร้องอย่างเดียว ยังมีเสียงตีฆ้องศึก กลองศึกด้วยครับ

 

- อยู่หลังกองฟาง เสียงก็สะท้อนกลับ เสียงจะดังขึ้นหรือ?

 

เอากลองศึกใบนึงมาตีกลางท้องน้ำ เสียงก็ดังไปเจ็ดคุ้งน้ำแปดคุ้งน้ำแล้วครับ เอากลองศึกซักยี่สิบใบ เสียงมันจะดังขนาดไหน

 

- ยิงจากบนเรือ ยังไงก็ยิงได้แค่แถวหน้า ไม่เหมือนการรบบนบก

ที่สลับแถวทหารได้ แต่บนเรือ ทำไม่ได้

 

ต้องนึกภาพเรือรบจีนท้องแบนในสมัยโบราณด้วยครับ นึกไม่ออกก็ไปเอาภาพเรือใบเจ็ดเสาของเจิ้งเหอมาดู

 

- ยิงติดกองฟางเป็นแสน แสดงว่าต้องยิงหลักสิบล้าน กองทหารยิง

ไปเป็นสิบล้านลูกโดยไม่เห็นอะไรเลย ไม่เรียกว่า "โง่" จะให้เรียกว่าอะไร?

 

ยิงไปตามเสียงที่ถูกลวงมาครับ เสียงกลองศึกเสียงโห่ร้องดังมาจากทิศทางไดก็ยิงไปทางทิศนั้น ตามที่เหล่าทหารน้ำได้เคยฝึกฝนกันมา ขงเบ้งเองก็ทำอุบายให้ทหารไปทำสัญญาณ แยกเรือทำกลลวงว่าจะบุกทางโน้นบ้าง ทางนี้บ้าง รวมเบ็ดเสร็จเกาทันท์ที่เก็บได้จากหุ่นฟางประมาณเก้าหมื่นดอก กับที่ให้เรือเล็กไปเก็บที่ปลายน้ำในตอนสายๆได้อีกหมื่นดอก รวมเป็นสิบหมื่นดอกไม่ขาดไม่เกิน และไม่ต้องหัวหลุดจากบ่าตามที่ท้าพนันใว้กับจิวยี่

 

ขออนุญาต เพื่อนเพื่อน ทุกคน สักนิดเถอะครับ

 

ตะนิ่นตาญี คิดว่า ขงเบ้ง ไม่ได้ฉลาดดุจดั่งที่ จิวยี่ คิดหรอกครับ

 

เพียงแต่ จิวยี่ นั้น หลงตัวเอง มากเกินไป ขืนไปบอกว่า ขงเบ้ง โง่ ก็จะกลายเป็นว่า ตนเองนั้นโง่กว่า ขงเบ้ง

 

ทำไม ตะนิ่นตาญี ถึงคิดอย่างนั้น...

 

ขออนุญาต เพื่อนเพื่อน คัดลอกส่วนหนึ่งของ สามก๊ก ฉบับ เจ้าพระยาคลัง(หน) มาดังนี้

 

 

"...ฝ่าย ซุนเซ็ก จึงว่า ซึ่งบิดามิฟังจะยกไปให้ได้ ข้าพเจ้าจะขอไปด้วย ซุนเกี๋ยน มีความรักรับ ซุนเซ็ก ลงเรือ

 

แล้วยกทหารข้ามอ่าวทะเลไปถึง ปากน้ำฮวนเสีย ต่อกันกับ เมืองกังแฮ 

 

...ฝ่าย หองจอ เจ้าเมืองกังแฮ แจ้งในหนังสือซึ่ง เล่าเปียว ให้มา จึงจัดแจงทหารพร้อมแล้ว

 

ก็ยกมาตั้งอยู่ ปากน้ำเมืองฮวนเสีย ครั้นเห็น ซุนเกี๋ยน ยกทัพเรือมา ก็ให้ทหารทั้งปวงยิงเกาทํณฑ์เป็นอันมาก

 

ซุนเกี๋ยน ให้ทหารบังตัวลอยเรือล่อให้ยิงรบถึงสามวันสามคืน ทหารกองทัพเรือมิได้เป็นอันตราย  

 

หองจอ นั้น ได้ยิงระดมไปจนสิ้นลูกเกาทัณฑ์ 

 

...ฝ่าย ซุนเกี๋ยน เห็นเกาทัณฑ์สงบลง จึงให้ทหารชักเอาลูกเกาทัณฑ์ซึ่งติดเรือรบทั้งปวงนั้น

 

นับได้ลูกเกาทัณฑ์ประมาณสิบห้าหมื่น..."

 

 

การยุทธทางทะเล ในครั้งนั้น นำทัพโดย ซุนเกี๋ยน และมี เทียเภา กับ อุยกาย ขุนศึกผู้ภักดี ไปด้วย 

 

การยุทธทางทะเล ในครั้งต่อมา นำทัพโดย จิวยี่ และ ก็ มี เทียเภา กับ อุยกาย ไปด้วยเช่นกัน

 

คำสั่งของ จิวยี่ ที่ใช้ให้ ขงเบ้ง จัดทำ เกาทัณฑ์ ให้ได้ สิบหมื่น ในระยะเวลา ๑๐ วัน นั้น

 

ออกมาในการประชุม "สภาสงคราม" ย้ำอีกครั้งหนึ่ง "สภาสงคราม"  

 

สามก๊ก ฉบับ เจ้าพระยาคลัง(หน) ใช้คำว่า "ครั้งเวลารุ่งเช้า จิวยี่ จึงให้ทหารทั้งปวงมาพร้อมกันแล้ว...."

 

"ทหารทั้งปวงมาพร้อมกันแล้ว" ตะนิ่นตาญี ดัดจริตใช้ คำว่า "สภาสงคราม" เพื่อนเพื่อนคงไม่ว่ากระไร

 

ในที่ประชุมครั้งนั้น มีหรือจะที่ขาด "เทียเภา กับ อุยกาย" คนเก่า-คนแก่ ของ ตระกูล ซุน

 

เทียเภา กับ อุยกาย ขุนศึกผู้ภักดี ซึ่งได้ ร่วมอยู่ใน มหาสงคราม ทางทะเล เมื่อครั้ง ซุน รุ่นพ่อ นำทัพ

 

ไม่ได้เฉลียวใจคิดอะไรเลยหรือ? จิวยี่ จุมพล แห่งแคว้น ไม่ได้มีความรอบรู้ในประวัติศาตร์แห่ง สงครามทางทะเล

 

ที่ บรรพชน คน รุ่นพ่อ ได้สร้างไว้เลยหรือ? จึงได้ให้ เด็กหนุ่มวัยละอ่อน (อายุ ของ ขงเบ้ง ขณะนั้น น่าจะ ประมาณ ๒๗-๒๘ ปี)

 

เอา ผลไม้ ที่อยู่บน ต้นไม้แห่งกังตั๋ง มาขายให้ จอมจุมพล จิวยี่ กิน จิว-กุงจิ้น-ยี่ เธอ หลงตัวเอง มากเกินไปหรือเปล่า?

 

ตะนิ่นตาญี

 

วันเสาร์ที่ ๒๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๕

 

เวลา ๘.๑๖ นาฬิกา 

 

 

 

หมายเหตุ ตะนิ่นตาญี เขียน โดยอ้างอิงมาจาก สามก๊ก ฉบับ เจ้าพระยาคลัง(หน) นะครับ

 

ซึ่งนั่นก็คือ มี พื้นฐาน มาจาก นิยาย ล้วนล้วน ครับ เขียน เอามัน-อ่านสนุก เข้าว่า

 

ตรงไหน จริงอิงประวัติศาสตร์ ตรงไหนเป็น นิยาย ก็ขอให้อยู่ใน ดุลยพินิจ ของเพื่อนเพื่อนนะครับ  :D 


"จะยอมตายหมายให้เกียรติดำรง จะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา"

#212 เช never die

เช never die

    มหาอำมาตย์แดง ชั้นที่ 1.(ระดับเดียวกับท่านตู่,ท่านเต้น)

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 11,845 posts

ตอบ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 09:37

ถ้าจำไม่ผิด ตอนที่อาจารย์ฮกหลง-ขงเบ้ง ออกจากเขาโลงังกั๋งมาช่วยเป็นกุนซือให้เล่าปี่นั้น ขงเบ้งก็เพิ่งจะอายุ 25 ย่าง 26 ปี กำลังจะพ้นวัยเบญจเพศพอดีๆ แต่เด็กอายุแค่นี้กลับใช้พลังจักรวาลทั้งไฟและน้ำ้ ทำลายทัพโจโฉไปเฉียดๆ ยี่สิบหมื่น โดยเสียทหารระดับไพร่ราบทหารเลวไม่กี่สิบนาย

 

ซึ่งจะว่าไปอายุขงเบ้งตอนนั้นก็ถือว่าไล่ๆกันไม่อ่อนไม่แก่กว่า ซุนกวน - จิวยี่ เท่าไหร่ จิวยี่ -ซุนกวนตอนนั้นก็เพิ่งแต่งงานได้ สองสามปี คะเนอายุน่าจะอยู่ในราว 26 - 28 ปี (ซุนกวน -  จิวยี่เป้นเพื่อนเล่นกันมาแต่เด็ก ร่ำเรียนหนังสือในชั้นเดียวกัน)

 

ผิดพลาดขออภัย


มันผู้ได สนับสนุนการนิรโทษกรรม ไม่ลากคอไอ้ฆาตกรชั่วใจสัตว์ โหดอำมหิต ผู้บงการฆ่าพี่น้องเสื้อแดงของกู 91 ศพ และพี่น้อง กปปส.ของกูอีก 20 ศพ มาลงโทษลงทัณฑ์ตามกบิลเมือง กูขอสาปแช่งให้มันและทุกๆคนที่มันรัก จงประสพกับความวิบัติฉิบหายในชาตินี้ และต่อๆไปทุกภพทุกชาติ จนกว่าจะสิ้นกาล


#213 ter162525

ter162525

    มหาอำมาตย์ใต้พระบาทตลอดกาล

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,077 posts

ตอบ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 09:43

ถ้าจำไม่ผิด ตอนที่อาจารย์ฮกหลง-ขงเบ้ง ออกจากเขาโลงังกั๋งมาช่วยเป็นกุนซือให้เล่าปี่นั้น ขงเบ้งก็เพิ่งจะอายุ 25 ย่าง 26 ปี กำลังจะพ้นวัยเบญจเพศพอดีๆ แต่เด็กอายุแค่นี้กลับใช้พลังจักรวาลทั้งไฟและน้ำ้ ทำลายทัพโจโฉไปเฉียดๆ ยี่สิบหมื่น โดยเสียทหารระดับไพร่ราบทหารเลวไม่กี่สิบนาย
 
ซึ่งจะว่าไปอายุขงเบ้งตอนนั้นก็ถือว่าไล่ๆกันไม่อ่อนไม่แก่กว่า ซุนกวน - จิวยี่ เท่าไหร่ จิวยี่ -ซุนกวนตอนนั้นก็เพิ่งแต่งงานได้ สองสามปี คะเนอายุน่าจะอยู่ในราว 26 - 28 ปี (ซุนกวน -  จิวยี่เป้นเพื่อนเล่นกันมาแต่เด็ก ร่ำเรียนหนังสือในชั้นเดียวกัน)
 
ผิดพลาดขออภัย

ถ้าผมจำไม่ผิด ในจำได้ว่า ขงเบ้ง ชอบพูดว่าติดตามนายมาตอนอายุ 27 แต่ถ้า 27 จริง จะเป็นไปได้ว่า ออกมาตอน25 ของ เรา เพราะผมจำได้ราๆ ว่าการนับอายุ ของจีน จะนับ 1 ตั้งแต่ตั้ง ท้อง เลย อายุที่แจ้งจึงจะเกินกว่าอายุจริง 2 ปี
บรรพชนเป็นพยาน ข้าลูกหลานแผ่นดินท่าน ขอสาปส่ง มันผู้ใด ทรยศ คดโกงชาติ ขายแผ่นดิน ขอให้มันบรรลัย อย่าได้มีสุขในแผ่นดินนี้ เดินเหยียบไปในถิ่นใด ขอให้มันร้อนรนดังถูกเพลิงเผา มันผู้ใด คิดล้มล้างกษัตริย์ผู้ทรงทศพิธ ของให้มันผู้นั้นเกิดเป็นคนอนาถทุกชาติไป

#214 เพลิงสีนิล

เพลิงสีนิล

    สมาชิก ชั้น 7 โฟร์ซีซั่น

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,629 posts

ตอบ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 10:11




เอารูปมาให้ดูดีกว่าครับ

Chibizhizhan_eng2.png

1.ด้วยข้อสงสัยอะครับ แม่น้ำแยกซีเกียงตรงโจโฉตั้งค่าย กว้างแค่ไหนครับ บริเวณด้านข้าง เทียบเรือไม่ได้จริงหรือ ในวันที่หมอกลงหนา ใช่ว่าจะเห็นเรือในระยะ 10 เมตรนะครับ ถ้าเรือใหญ่ก็เห็นได้ไกลกว่า แต่ระยะธนูถึงและมีแรงพอจะปักเป้าหมาย น่าจะไม่กิน 30

2. อันนี้ผมอ้างจากนิยายนะ ผมก็ไม่เคยไปสถานที่จริง ฝ่ายวุยกลัวทหารซุ่มจึงไม่ออกมา แสดงว่า ขอบตลิ่ง มีพื้นที้ให้ทหารเดินเท้าเดินได้เป็นแนวยาว

3. ผมย้ำจริงๆอะครับ ถ้าเรือเทียบท่า ไม่ต้องเอาโซ่คล้องหรอกครับท่าน เพราะจะต้องจอดเทียบชิดกันและ โยงเรือด้วยกันไว้อยู่แล้ว ขอเพียงรู้ตำแหน่งและไปถึงด้วยความรวดเร็ว ก็มีโอกาสสูงที่จะเผาทั้งยวง

n00454.jpg

1. ด้านข้างเทียบเรืออะไรไม่ได้หรือครับ ถ้าไม่มีคลื่นมันก็จดได้แหละครับ ความกว้างของแม่น้ำบอกไม่ได้ เพราะหน้าน้ำหลากมันกว้างกว่าเดิม ส่วนเรื่องการมองเห็นนี่ เวลานั้นไม่ใช่กลางวันนะครับ หมอกหนาจริง ๆ ขนาดกลางวันยังเห็นแค่ไม่กี่สิบเมตร แล้วกลางคืนจะเห็นกี่เมตรกันครับ ขงเบ้งเปิดไฟตัดหมอกรึไงครับ ส่วนระยะธนูที่คุณบอกไม่น่าเกิน 30 นี่คิดเอาเองรึเปล่าครับ ปกถ้าไม่เอาความแม่นประเภทยิงแอปเปิ้ลบนหัวหรือปลายทวนมันยิงได้เกิน 100 เมตรอีกนะครับ
2. โลซกกลัวทัพโจโฉออกเรือ ขงเบ้งบอกหมอกหนา โจโฉไม่กล้าออกเรือเพราะกลัวซุ่มโจมตี ไม่เกี่ยวกับบนฝั่ง  ส่วนริ่มตลิ่งนะในนิยายยังให้พวกแม่ทัพขนทหารไปยิงเลยนี่ครับ
3. เรื่อเทียบท่าไม่ต้องเอาโซ่คล้อง? อย่าไปยึดติดกับคำว่าโซ่ครับ เรือเทียบท่ายังไงก็ต้องหาอะไรผูกกับท่าครับ จะเป็นเชือกหรือโซ่ก็ว่ากันไป แล้วเรือที่โยงเข้าด้วยกันก็ต้องหาอะไรมาผูกให้ติดกันอยู่ดี และตอนจอดชิดก็มีการทักท้วงแล้วไม่ใช่หรือครับว่าเสี่ยงโดนเผา แต่ที่ทำเพราะลมพัดออกจากทัพโจโฉ ต่อให้รู้ตำแหน่งถ้าลมไม่เป็นใจก็เผาทั้งยวงไม่ได้
 
 
 
 
 
 



จริงๆ ผมได้คำตอบแล้วอะครับ
แต่ประเด็นของผมที่ถกเถียงกับท่่าน คือ ทำไมไม่ใช้ธนูไฟ ผมและท่านต่างยกเหตุผลมา โดยผมยกเหตุผลที่ ฝ่ายโจโฉไม่ใช้ธนูไฟ มาแย้งเป็นข้อๆ
ส่วนจริงไม่จริงในประวัติศาสตร์อย่างไรนั้นอีกเรื่อง เพราะผมก็ไม่ได้ใเชื่อว่า พี่เบ้ง ทำได้แบบชิวๆ หรือ เหตุการณ์ใันจะเหมือนในนิยายจริงๆ
นิยานก็คือนิยายอะครับ ลองไล่ดูใน คอมเม้นฯ ที่โต้ตอบกันสิครับ ท่านอาจ งง ประเด็น

1 เรื่องระยะธนู ผมอ้างเอาจากเท่าที่เคยลองยิงอะครับ ยิงแบบให้ปักเป้าเน้นๆ (ไม่ใช่แบบยิงเอียงขึ้นฟ้าแล้วให้ตกลงมาปัก) อันนี้เคยลองแล้วครับ ไม่เคยถึง 100 เมตรสักที แต่อันนี้ผมไม่เถียงนะ อาจต่างกันด้วยสภาพร่างกาย และ วัสดุ คนโบราณอาจยิงหวังผลในระยะร้อยเมตรเป็นไปได้
แต่ก็ได้บอกไปแล้วครับว่า การใช้ธนูไฟมันอาจมีอุปสรร หลายๆ อย่าง เช่น เชื้อเพลิง ปริมาณ การเตรียมตัว และ สถานการณ์ (อันนี้ผมลอง search ดูแล้วด้วยความอยากรู้ แต่ก็ไม่รู้จริงๆ นอกจากขึ้ไต้ที่ใช้ทำคบไฟ ในสมัยนั้นเอาอะไรเป็นเชื้อเพลิงอีก)

2 เรื่องโซ่คล้องผมแย้งท่านที่ท่าน ว่า จะล่องเรือไปเผาได้อย่างไรเมื่อไม่มีโซ่คล้อง ผมก็ตอบให้ไงครับว่า ตอนจอดเทียบว่าต้องโยงเรือไว้
การยิงธนูไฟเป็นการเผยที่ตั้ง และผมก็ได้แย้งว่าปัจจัยด้านภูมิศาสตร์และข่าวสารที่ได้เปรียบเสียเปรียบกันอยู่ ปัจจับเหล่านี้อาจเป็นเหตุผลที่ ฝ่ายวุยไม่ยิงธนูไฟ

3 ส่้วนเรื่องลม ผมก็แย้งท่านไปแล้วครับว่า ถ้าหมอกลง ลมแรงหรือครับ
 
 


1. ถ้าแค่ไม่เกิน 30 เมตร อยู่ในระยะธนูปักเป้าเน้น ๆ แน่ครับ อย่าว่าแต่ธนูเลยครับใช้หอกซัดก็ยังถึง แล้วทำไมถึงไม่ให้ใช้วิธีเอียงขึ้นฟ้าแล้วปักครับในเมื่อมันเป็นวิธียิงอย่างหนึ่งแต่หมอกหนาคืนเดือนมืดเห็นเงาตะคุ่มมันจะห่างกี่เมตรกันเชียว
2. เหตุการณ์ขงเบ้งยืมลูกธนูเกิดก่อนเหตุการณ์บังทองให้ใช้โซ่คล้องเรือ ถ้ามันคล้องกันอยู่แล้วจะเขียนให้บังทองมาเสนอความคิดยังไงมิทราบ เรื่องเผยที่ตั้งไม่ต้องห่วงหรอกครับ มันเห็นกันตั้งแต่กลางวันแล้ว ทัพสองฝ่ายอยู่กันคนละฟากของแม่น้ำ แถมทัพโจโฉกลัวทัพจิวยี่ไม่รู้ที่ตั้ง ตอนกลางคืนยังให้จุดคบไฟกันสว่างจ้าอีก แบบนี้ยังจะกลัวเขารู้ที่ต้องไม่ใช้ธนูไฟอีกหรือครับ
3. ลมแรงมีประโยชน์ในการให้ไฟลามไปติดที่ข้างเคียง ถ้าลมไม่แรงมันก็เผาได้แค่ไม่เท่าไหร่ยิ่งเป็นลมพัดออกจากทัพโจโฉอีก แล้วตอนนั้นทัพโจโฉกำลังหาทางลงน้ำอยู่ทัพส่วนใหญ่จึงอยู่บนฝั่ง
 
 
 


1 อันนี้ต้องลองอะครับ เอาไม้ถูบ้านก็ได้เอาผ้าออกไม่ต้องมีหัวอะครับ ว่ากำลังคนปัจจุบันถึงไหม พอดีผมไม่ใช่นักกีฬาขว้างไม่ถึง

แล้วที่ผมถามเรื่องระยะธนูก็เพราะว่า มองเห็นได้ไกลการใช้ธนูไฟง่ายเลยครับ เพราะสามารถเผาและหยุดเรือศัตรูไว้กลางน้ำ แต่ถ้าเห็นใกล้แสดงว่ามันถึงที่ตั้งแล้วเผาเรือเขาแล้วจะหยุดยังไงถ้าถึงท่าเรือที่จอดเทียบไว้ แล้ว กรณีถ้ายิงกันแต่ไกลๆ แล้วเห็นถึงที่ตั้งกองกำลัง ไม่ใช่ที่ตั้งค่ายนะครับ ทหารต้องอยู่ในค่ายเท่านั้นเหรอครับ ถ้ามีกองกำลังอีกส่วนที่วิ่งเรียบตะลิ่ง รอโจมตีอะครับ กองซุ่มที่เตรียมไว้ก็ซวย

2 อันนี้ผมตอบไปแล้วครับ ถ้าเรือเทียบท่าไม่ต้องรอโซ้คล้องก็ได้ มันต้องโยงเรือกันไว้อยู่แล้ว กลางวันเห็นครับ แม่ทัพนายกองรู้และ พลทหารละครับ รู้กันไหม มองไม่ชัดออกคำสั่งยังไง

3 ไม่มีลมเผายังไง ไม่มีลมก็เผาได้อยู่ดีอะครับ ช้าหรือเร็วเท่านั้นเอง แล้วเวลาเผานี่เราต้องเผาตัวเรือเท่านั้นหรือครับ ถ้ามีติดใบเรือถึงไม่มีลมก็ไวอยู่ดี

Edited by เพลิงสีนิล, 22 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 10:35.

[color=#0000ff;][font="Tahoma, sans-serif;"]เราจะรู้.....รสชาติของความสุข[/color][font="Tahoma, sans-serif;"]ก็ต่อเมื่อ     เราผ่านความทุกข์มาก่อน[/font][/font]


#215 เช never die

เช never die

    มหาอำมาตย์แดง ชั้นที่ 1.(ระดับเดียวกับท่านตู่,ท่านเต้น)

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 11,845 posts

ตอบ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 10:13

อีกส่วนหนึ่ง สามก๊กหลายๆสำนวนชอบที่จะแปลความหมายภูมิประเทศในการรบแบบกำกวม ทำให้คนอ่านรุ่นหลังนึกภาพไม่ค่อยออก ยกตัวอย่างสมรภูมิเซ็กเพ็ก ชอบแปลความว่า โจโฉอยู่ทางฝั่งเหนือของแม่น้ำ ส่วนแดนกังตั๋งของซุนกวนอยู่ทางฝั่งใต้ของแม่น้ำ แปลแบบนี้จะนึกภาพไม่ค่อยออก

 

แต่ถ้าบอกว่า โจโฉเคลื่อนทัพมาจากภาคเหนือ ตั้งค่ายอยู่ฝั่งซ้ายของแม่น้ำแยงซี ส่วนแดนกังตั๋งตั๋งมีอิทธิพลตลอดแนวฝั่งขวาของแม่น้ำแยงซี แค่นี้คนอ่านก็จะนึกภาพออกได้ทันที ถ้านึกภาพว่าแม่น้ำแยงซีใหลจากเทือกเขาสูงชันทางภาคตะวันตกของจีน ไปลงทะเลจีนใต้ซึ่งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของประเทศ แค่นี้ก็จะทำให้นึกภาพตามได้ง่ายขึ้น

 

 

ผิดพลาดขออภัย


มันผู้ได สนับสนุนการนิรโทษกรรม ไม่ลากคอไอ้ฆาตกรชั่วใจสัตว์ โหดอำมหิต ผู้บงการฆ่าพี่น้องเสื้อแดงของกู 91 ศพ และพี่น้อง กปปส.ของกูอีก 20 ศพ มาลงโทษลงทัณฑ์ตามกบิลเมือง กูขอสาปแช่งให้มันและทุกๆคนที่มันรัก จงประสพกับความวิบัติฉิบหายในชาตินี้ และต่อๆไปทุกภพทุกชาติ จนกว่าจะสิ้นกาล


#216 ter162525

ter162525

    มหาอำมาตย์ใต้พระบาทตลอดกาล

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,077 posts

ตอบ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 10:21

อีกส่วนหนึ่ง สามก๊กหลายๆสำนวนชอบที่จะแปลความหมายภูมิประเทศในการรบแบบกำกวม ทำให้คนอ่านรุ่นหลังนึกภาพไม่ค่อยออก ยกตัวอย่างสมรภูมิเซ็กเพ็ก ชอบแปลความว่า โจโฉอยู่ทางฝั่งเหนือของแม่น้ำ ส่วนแดนกังตั๋งของซุนกวนอยู่ทางฝั่งใต้ของแม่น้ำ แปลแบบนี้จะนึกภาพไม่ค่อยออก
 
แต่ถ้าบอกว่า โจโฉเคลื่อนทัพมาจากภาคเหนือ ตั้งค่ายอยู่ฝั่งซ้ายของแม่น้ำแยงซี ส่วนแดนกังตั๋งตั๋งมีอิทธิพลตลอดแนวฝั่งขวาของแม่น้ำแยงซี แค่นี้คนอ่านก็จะนึกภาพออกได้ทันที ถ้านึกภาพว่าแม่น้ำแยงซีใหลจากเทือกเขาสูงชันทางภาคตะวันตกของจีน ไปลงทะเลจีนใต้ซึ่งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของประเทศ แค่นี้ก็จะทำให้นึกภาพตามได้ง่ายขึ้น
 
 
ผิดพลาดขออภัย


ถ้าดูในแผนที่ทีผมเอามาให้ดู ช่วงเซ็กเพ็ง จะอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ ช่วงทัพโจโฉน่าจะอยู่ตะวันตกเฉียงเหนือ ครับ
บรรพชนเป็นพยาน ข้าลูกหลานแผ่นดินท่าน ขอสาปส่ง มันผู้ใด ทรยศ คดโกงชาติ ขายแผ่นดิน ขอให้มันบรรลัย อย่าได้มีสุขในแผ่นดินนี้ เดินเหยียบไปในถิ่นใด ขอให้มันร้อนรนดังถูกเพลิงเผา มันผู้ใด คิดล้มล้างกษัตริย์ผู้ทรงทศพิธ ของให้มันผู้นั้นเกิดเป็นคนอนาถทุกชาติไป

#217 เช never die

เช never die

    มหาอำมาตย์แดง ชั้นที่ 1.(ระดับเดียวกับท่านตู่,ท่านเต้น)

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 11,845 posts

ตอบ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 10:36

อีกส่วนหนึ่ง สามก๊กหลายๆสำนวนชอบที่จะแปลความหมายภูมิประเทศในการรบแบบกำกวม ทำให้คนอ่านรุ่นหลังนึกภาพไม่ค่อยออก ยกตัวอย่างสมรภูมิเซ็กเพ็ก ชอบแปลความว่า โจโฉอยู่ทางฝั่งเหนือของแม่น้ำ ส่วนแดนกังตั๋งของซุนกวนอยู่ทางฝั่งใต้ของแม่น้ำ แปลแบบนี้จะนึกภาพไม่ค่อยออก
 
แต่ถ้าบอกว่า โจโฉเคลื่อนทัพมาจากภาคเหนือ ตั้งค่ายอยู่ฝั่งซ้ายของแม่น้ำแยงซี ส่วนแดนกังตั๋งตั๋งมีอิทธิพลตลอดแนวฝั่งขวาของแม่น้ำแยงซี แค่นี้คนอ่านก็จะนึกภาพออกได้ทันที ถ้านึกภาพว่าแม่น้ำแยงซีใหลจากเทือกเขาสูงชันทางภาคตะวันตกของจีน ไปลงทะเลจีนใต้ซึ่งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของประเทศ แค่นี้ก็จะทำให้นึกภาพตามได้ง่ายขึ้น
 
 
ผิดพลาดขออภัย


ถ้าดูในแผนที่ทีผมเอามาให้ดู ช่วงเซ็กเพ็ง จะอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ ช่วงทัพโจโฉน่าจะอยู่ตะวันตกเฉียงเหนือ ครับ

 

 

ถ้ามีแผนที่ประกอบแบบนี้ ก็ไม่ยากเท่าไหร่

 

แต่ลองนึกภาพ หนังสือสามก๊กหนาเป็นคืบ มีแต่ตัวอักษร ไม่มีภาพไม่มีแผนที่สักภาพ คนอ่านคงจะมึนตึ้บละครับว่ามันตั้งทัพรบกันแบบไหน รุกรบ - ล่าถอยกันอย่างไร ยิ่งคนไม่มีพื้นภูมิด้านภูมิศาสตร์ของจีน อ่านไปอ่านมาคงจะงง แล้วก็เลิกอ่านไปดื้อๆ


มันผู้ได สนับสนุนการนิรโทษกรรม ไม่ลากคอไอ้ฆาตกรชั่วใจสัตว์ โหดอำมหิต ผู้บงการฆ่าพี่น้องเสื้อแดงของกู 91 ศพ และพี่น้อง กปปส.ของกูอีก 20 ศพ มาลงโทษลงทัณฑ์ตามกบิลเมือง กูขอสาปแช่งให้มันและทุกๆคนที่มันรัก จงประสพกับความวิบัติฉิบหายในชาตินี้ และต่อๆไปทุกภพทุกชาติ จนกว่าจะสิ้นกาล


#218 Solidus

Solidus

    เลิกเล่น

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 14,367 posts

ตอบ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 16:10

1 อันนี้ต้องลองอะครับ เอาไม้ถูบ้านก็ได้เอาผ้าออกไม่ต้องมีหัวอะครับ ว่ากำลังคนปัจจุบันถึงไหม พอดีผมไม่ใช่นักกีฬาขว้างไม่ถึง

แล้วที่ผมถามเรื่องระยะธนูก็เพราะว่า มองเห็นได้ไกลการใช้ธนูไฟง่ายเลยครับ เพราะสามารถเผาและหยุดเรือศัตรูไว้กลางน้ำ แต่ถ้าเห็นใกล้แสดงว่ามันถึงที่ตั้งแล้วเผาเรือเขาแล้วจะหยุดยังไงถ้าถึงท่าเรือที่จอดเทียบไว้ แล้ว กรณีถ้ายิงกันแต่ไกลๆ แล้วเห็นถึงที่ตั้งกองกำลัง ไม่ใช่ที่ตั้งค่ายนะครับ ทหารต้องอยู่ในค่ายเท่านั้นเหรอครับ ถ้ามีกองกำลังอีกส่วนที่วิ่งเรียบตะลิ่ง รอโจมตีอะครับ กองซุ่มที่เตรียมไว้ก็ซวย

2 อันนี้ผมตอบไปแล้วครับ ถ้าเรือเทียบท่าไม่ต้องรอโซ้คล้องก็ได้ มันต้องโยงเรือกันไว้อยู่แล้ว กลางวันเห็นครับ แม่ทัพนายกองรู้และ พลทหารละครับ รู้กันไหม มองไม่ชัดออกคำสั่งยังไง

3 ไม่มีลมเผายังไง ไม่มีลมก็เผาได้อยู่ดีอะครับ ช้าหรือเร็วเท่านั้นเอง แล้วเวลาเผานี่เราต้องเผาตัวเรือเท่านั้นหรือครับ ถ้ามีติดใบเรือถึงไม่มีลมก็ไวอยู่ดี

1. แหลนที่ใช้แข่งพุ่งกันก็เกิน 30 เมตรแล้วครับ

เรื่องระยะ มองเห็นได้ไกลใช้ธนูไฟไม่ง่ายครับ เพราะจะโดนสวนด้วยธนูธรรมดาที่ระยะไกลกว่า แต่นี่เล่นยิงเป็นชั่วโมงไม่โดนอีกฝ่ายสวนสักแอะ ถึงใกล้ที่ตั้งแต่ถ้าลมพัดออกจากกองทัพมันมีปัญหาน้อยกว่าลมพัดเข้าหากองทัพ ส่วนเรื่องท่าเรือ จำเป็นต้องมีท่ารึครับในเมื่อเรือมันมีสมอไว้จอดได้ เรือใช้สมอจอดมันกระจัดกระจายไม่เป็นกลุ่มก้อน ไหม้ไปลำหนึ่ง ลำที่เหลือก็ยังรบต่อได้ แต่ทัพที่กำลังน้อยกว่ามันจะเสียเปรียบ บังทองถึงต้องไปวางอุบายให้ทัพโจโฉผูกโยงเรือให้ติดกันเป็นกลุ่มก้อน ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดหลังขงเบ้งไปยืมลูกธนูแล้วครับ ส่วนเรื่องที่ตั้งกองกำลังยังไงมันก็ต้องจุดไฟบอกที่ตั้งอยู่ดีแหละครับ ทหารส่วนใหญ่มันก็อยู่ในค่ายกัน เพราะมันมีที่ป้องกันได้ นอกจากพวกไปออกรบ หรือลาดตะเวน

 

2. เรือไม่ต้องเทียบท่าก็จอดได้เพราะใช้สมอ เอาเชือกโยงก็ไม่ต้องผูกติดกัน ไม่งั้นบังทองจะมาเสียเวลามาวางอุบายให้เอาเรือมาติดกันทำไม มองเห็นไม่ชัดออกคำสั่งยังไง ไม่สงสัยกันบ้างรึที่ให้แม่ทัพคุมทหารเป็นพันวิ่งไปตามชายฝั่งเพื่อยิงเรือขงเบ้งนะออกคำสั่งยังไง

 

3. ไม่มีลมก็เผาได้ ก็แสดงว่าหมอกลงจัด ลมไม่แรงนี้ ปัจจัยเรื่องลมแรงไม่แรงไม่ใช่เหตุมาอ้างว่าจะใช้ธนูไฟหรือไม่ใช้สิครับ  :lol:  :lol:  :lol:


Edited by Jörmungandr, 22 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 16:10.

[color=#ff0000;]สำหรับผมคงเลิกเล่นบอร์ดนี้ไว้เพียงเท่านี้ ถ้าไอดีนี้ยังมีบุคคลอื่นที่ใครบางคนคิดว่าเป็นตัวจริงอยู่จริง เขาก็เข้ามาใช้บอร์ดนี้ต่อเองแต่ไม่ใช่ผมแน่นอน[/color]

ลาก่อน สวัสดีครับ 17 มกราคม 2556


#219 Solidus

Solidus

    เลิกเล่น

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 14,367 posts

ตอบ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 16:26

อีกส่วนหนึ่ง สามก๊กหลายๆสำนวนชอบที่จะแปลความหมายภูมิประเทศในการรบแบบกำกวม ทำให้คนอ่านรุ่นหลังนึกภาพไม่ค่อยออก ยกตัวอย่างสมรภูมิเซ็กเพ็ก ชอบแปลความว่า โจโฉอยู่ทางฝั่งเหนือของแม่น้ำ ส่วนแดนกังตั๋งของซุนกวนอยู่ทางฝั่งใต้ของแม่น้ำ แปลแบบนี้จะนึกภาพไม่ค่อยออก
 
แต่ถ้าบอกว่า โจโฉเคลื่อนทัพมาจากภาคเหนือ ตั้งค่ายอยู่ฝั่งซ้ายของแม่น้ำแยงซี ส่วนแดนกังตั๋งตั๋งมีอิทธิพลตลอดแนวฝั่งขวาของแม่น้ำแยงซี แค่นี้คนอ่านก็จะนึกภาพออกได้ทันที ถ้านึกภาพว่าแม่น้ำแยงซีใหลจากเทือกเขาสูงชันทางภาคตะวันตกของจีน ไปลงทะเลจีนใต้ซึ่งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของประเทศ แค่นี้ก็จะทำให้นึกภาพตามได้ง่ายขึ้น
 
 
ผิดพลาดขออภัย


ถ้าดูในแผนที่ทีผมเอามาให้ดู ช่วงเซ็กเพ็ง จะอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ ช่วงทัพโจโฉน่าจะอยู่ตะวันตกเฉียงเหนือ ครับ

 

 

ถ้ามีแผนที่ประกอบแบบนี้ ก็ไม่ยากเท่าไหร่

 

แต่ลองนึกภาพ หนังสือสามก๊กหนาเป็นคืบ มีแต่ตัวอักษร ไม่มีภาพไม่มีแผนที่สักภาพ คนอ่านคงจะมึนตึ้บละครับว่ามันตั้งทัพรบกันแบบไหน รุกรบ - ล่าถอยกันอย่างไร ยิ่งคนไม่มีพื้นภูมิด้านภูมิศาสตร์ของจีน อ่านไปอ่านมาคงจะงง แล้วก็เลิกอ่านไปดื้อๆ

บางตอน การที่รู้ภูมิศาสตร์จีนก็ทำให้งงกว่าที่ไม่รู้อะไรเลยก็มีครับ


[color=#ff0000;]สำหรับผมคงเลิกเล่นบอร์ดนี้ไว้เพียงเท่านี้ ถ้าไอดีนี้ยังมีบุคคลอื่นที่ใครบางคนคิดว่าเป็นตัวจริงอยู่จริง เขาก็เข้ามาใช้บอร์ดนี้ต่อเองแต่ไม่ใช่ผมแน่นอน[/color]

ลาก่อน สวัสดีครับ 17 มกราคม 2556


#220 เช never die

เช never die

    มหาอำมาตย์แดง ชั้นที่ 1.(ระดับเดียวกับท่านตู่,ท่านเต้น)

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 11,845 posts

ตอบ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 16:51

สามก๊กฉบับภาษาจีนบรรยายความตอนนี้ว่า “ขอวานท่านช่วยจัดแจงเรือให้ ข้าพเจ้ายืมสักยี่สิบลำ พร้อมทหารประจำเรือลำละสามสิบคน ในเรือแต่ละลำให้บรรทุกฟางหญ้าทำเป็นฟ่อนจำนวนพันฟ่อน วางไว้ที่ข้างเรือทั้งสองกราบ แล้วเอาผ้าดำคลุมไว้ให้มิดชิด และให้จัดม้าล่อฆ้องกลองให้พร้อมไว้สำหรับฉลองชัยชนะ ท่านจงจัดแจงแต่งการทั้งนี้ไว้ให้พร้อม ข้าพเจ้าต้องการเมื่อใดขอให้ได้เมื่อนั้น”

 

เจี้ยนอันศกปีที่สิบสาม เดือนสิบสองข้างแรม หมอกลงจัดทั่วทั้งแม่น้ำแยงซี ในขณะที่อากาศหนาวเหน็บปกคลุมแผ่ไปทั่ว ขงเบ้งชวนโลซกลงเรือน้อย ตามด้วยขบวนเรืออีกยี่สิบลำแจวขึ้นไปทางฝั่งเหนือ ล่องเลียบค่ายน้ำของโจโฉตั้งแต่ด้านทิศตะวันออกไปทางด้านตะวันตก 

            ขบวนเรือของขงเบ้งลอยล่องเป็นทิวยาวขนานกับแนวค่ายน้ำในชั่วระยะเกาทัณฑ์ เท่านั้น พลันที่ขงเบ้งสั่งให้ทหารตีกลองศึกและม้าล่อเสียงดังสนั่นประหนึ่งว่าจะ ยาตราทัพเรือเข้าโจมตีกองทัพของโจโฉ โลซกยิ่งตกใจเป็นอันมาก ละล่ำละลักถามขงเบ้งว่าท่านจะบ้าไปแล้วหรือ เรายกมาแต่เพียงเท่านี้ อาวุธก็มิได้พรักพร้อม กลับจะมาท้าโจโฉทำยุทธนาวี หากโจโฉยกกองทัพออกมาแล้วท่านจะต้านทานรับมือประการใด 

            ขงเบ้งได้ฟังดังนั้นก็หัวเราะแล้วว่า “หมอก ลงหนักอยู่ ที่ไหนโจโฉจะอาจยกทัพเรือออกมา ท่านกับเราตั้งหน้าเสพสุราเล่นให้สบายใจกว่าจะสว่างขึ้น เราจึงจะถอยเรือล่องกลับลงไป” 

            ขงเบ้งกล่าวแล้วก็ยกจอกสุราขึ้นชนกับโลซก  ส่วนโลซกกำลังตกใจยกจอกขึ้นชนเพื่อไม่ให้เสียมารยาทแต่ดื่มไม่ลง วางจอกสุราลงที่เดิม ในขณะที่สีหน้าก็ตื่นตระหนกอย่างรุนแรง ขงเบ้งเห็นดังนั้นก็หัวเราะ แล้วดื่มสุราด้วยความสุขสบายใจ 

            ทาง ฝ่ายกองทัพของโจโฉกำลังพักผ่อนหลับนอนอย่างสุขสบาย จนปลายยามสามได้ยินเสียงกลองศึกและม้าล่อดังสนั่นมาแต่ทางทะเล  มองฝ่าหมอกไปเห็นเงาดำตะคุ่มเป็นแนวยาวคล้ายกองเรือรบก็สำคัญว่ากองทัพเมือง กังตั๋งยกทัพเรือมาปล้นค่าย ทหารเวรจึงรีบไปรายงานให้โจโฉทราบ 

            โจโฉตกใจตื่นขึ้น ฟังรายงานแล้วจึงออกไปยืนหน้าค่าย มองไปทางทะเลแต่หมอกลงจัดมองไม่เห็นว่ากำลังทหารเรือเมืองกังตั๋งมากแลน้อย ได้ยินแต่เสียงกลองศึกม้าล่อดังสนั่น สำคัญว่าจิวยี่ยกกองทัพเรือมาปล้นค่าย จึงเรียกอิกิ๋ม มอกาย มาสั่งการว่าจิวยี่ยกกองทัพมาปล้นค่ายเราวันนี้เห็นทีจะเป็นอุบายลวงให้เรา ยกออกไปต่อสู้แล้วจะคอยซุ่มโจมตีกระหนาบ เราก็จะเสียทีแก่ทหารเมืองกังตั๋ง ดังนั้นจึงอย่าเพ่อออกรบ ให้ท่านคุมทหารเรือตั้งมั่นไว้ในที่ตั้ง แล้วระดมยิงเกาทัณฑ์สกัดกั้นกองทัพเรือเมืองกังตั๋งไว้อย่าให้ยกล่วงค่ายน้ำ เข้ามาได้ 

            อิกิ๋มและมอกายรับคำสั่งแล้วคำนับลา โจโฉกลับออกไปสั่งทหารให้ตั้งมั่นในที่ตั้งเดิม และให้ทหารที่ค่ายน้ำตลอดแนวระดมยิงเกาทัณฑ์ใส่กองทัพเรือของเมืองกังตั๋ง

            โจโฉสั่งอิกิ๋มและมอกายแล้วยังไม่วางใจเกรงว่าจะเสียทีแก่จิวยี่ จึงสั่งให้เรียกเตียวเลี้ยวและซิหลงให้เกณฑ์ทหารจากกองทัพบกอีกห้าพันนาย พร้อมเกาทัณฑ์เต็มอัตราศึกลงไปที่ชายทะเลแล้วระดมยิงสกัดกองทัพเรือเมืองกัง ตั๋งมิให้รุกขึ้นฝั่งได้ 

            เตียวเลี้ยวและซิหลงรับคำสั่งแล้วจึงคำนับลาโจโฉออกไปจัดกำลังพลเกาทัณฑ์ เข้าประจำการตามชายทะเลแล้วระดมยิงไปที่กองทัพเรือของจิวยี่ดังห่าฝน 

            ทหาร ของโจโฉทั้งจากกองทัพเรือและกองทัพบกกว่าหมื่นนายได้ระดมยิงเกาทัณฑ์ไปยัง กองทัพเรือของจิวยี่ที่ลอยลำอยู่ในทะเล เห็นเป็นเงาตะคุ่มอยู่ไม่รู้กำลังมากแลน้อย คงได้ยินแต่เสียงม้าล่อฆ้องกลองดังสนั่นหวั่นไหวท่ามกลางม่านหมอกอันหนาทึบ 

            ขงเบ้งให้ลากเรือทั้งยี่สิบลำล่องเลียบค่ายน้ำจากด้านตะวันออกไปทางตะวันตก มัดฟางและหญ้าซึ่งคลุมด้วยผ้าดำไว้ต้องเกาทัณฑ์ไว้แน่นหนาจนเรือเอียงลง ขงเบ้งจึงให้หยุดม้าล่อฆ้องกลองแล้วให้กลับเรือล่องเลียบค่ายน้ำของโจโฉจาก ด้านตะวันตกไปทางด้านตะวันออก แล้วให้ตีกลองศึกและม้าล่อดังสนั่นหวั่นไหวเป็นเพลงรบอีกครั้งหนึ่ง 

            ทหาร โจโฉบนค่ายน้ำเห็นเงาตะคุ่มอยู่ในทะเลเป็นทิวยาวล่องขึ้นไปทางด้านตะวันตก แล้วย้อนกลับมาทางด้านตะวันออกก็สำคัญว่ากองทัพเรือจิวยี่พยายามจะเข้าตีแต่ ฝ่าม่านเกาทัณฑ์เข้ามาไม่ได้ จึงยิ่งเร่งระดมยิงเกาทัณฑ์ไปที่เงาตะคุ่มนั้นอย่างไม่ยั้งมือ จนกราบเรือที่ต้องลูกเกาทัณฑ์แล้วเอียงไปข้างหนึ่งค่อย ๆ ทรงตัวและเพียบลง ขงเบ้งก็รู้ว่าลูกเกาทัณฑ์ของทหารโจโฉยิงมาติดหญ้าฟางในเรือทั้งยี่สิบลำมาก พอแก่ความต้องการแล้ว พอดีสว่างขึ้นขงเบ้งจึงให้ทหารหยุดตีม้าล่อฆ้องกลอง แล้วให้ทหารในเรือร้องตะโกนขึ้นพร้อมกันว่า ขอขอบคุณโจโฉที่ให้ยืมเกาทัณฑ์ ไว้วันหน้าจะมามอบคืน


มันผู้ได สนับสนุนการนิรโทษกรรม ไม่ลากคอไอ้ฆาตกรชั่วใจสัตว์ โหดอำมหิต ผู้บงการฆ่าพี่น้องเสื้อแดงของกู 91 ศพ และพี่น้อง กปปส.ของกูอีก 20 ศพ มาลงโทษลงทัณฑ์ตามกบิลเมือง กูขอสาปแช่งให้มันและทุกๆคนที่มันรัก จงประสพกับความวิบัติฉิบหายในชาตินี้ และต่อๆไปทุกภพทุกชาติ จนกว่าจะสิ้นกาล


#221 เพลิงสีนิล

เพลิงสีนิล

    สมาชิก ชั้น 7 โฟร์ซีซั่น

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,629 posts

ตอบ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 17:39


1 อันนี้ต้องลองอะครับ เอาไม้ถูบ้านก็ได้เอาผ้าออกไม่ต้องมีหัวอะครับ ว่ากำลังคนปัจจุบันถึงไหม พอดีผมไม่ใช่นักกีฬาขว้างไม่ถึง

แล้วที่ผมถามเรื่องระยะธนูก็เพราะว่า มองเห็นได้ไกลการใช้ธนูไฟง่ายเลยครับ เพราะสามารถเผาและหยุดเรือศัตรูไว้กลางน้ำ แต่ถ้าเห็นใกล้แสดงว่ามันถึงที่ตั้งแล้วเผาเรือเขาแล้วจะหยุดยังไงถ้าถึงท่าเรือที่จอดเทียบไว้ แล้ว กรณีถ้ายิงกันแต่ไกลๆ แล้วเห็นถึงที่ตั้งกองกำลัง ไม่ใช่ที่ตั้งค่ายนะครับ ทหารต้องอยู่ในค่ายเท่านั้นเหรอครับ ถ้ามีกองกำลังอีกส่วนที่วิ่งเรียบตะลิ่ง รอโจมตีอะครับ กองซุ่มที่เตรียมไว้ก็ซวย

2 อันนี้ผมตอบไปแล้วครับ ถ้าเรือเทียบท่าไม่ต้องรอโซ้คล้องก็ได้ มันต้องโยงเรือกันไว้อยู่แล้ว กลางวันเห็นครับ แม่ทัพนายกองรู้และ พลทหารละครับ รู้กันไหม มองไม่ชัดออกคำสั่งยังไง

3 ไม่มีลมเผายังไง ไม่มีลมก็เผาได้อยู่ดีอะครับ ช้าหรือเร็วเท่านั้นเอง แล้วเวลาเผานี่เราต้องเผาตัวเรือเท่านั้นหรือครับ ถ้ามีติดใบเรือถึงไม่มีลมก็ไวอยู่ดี

1. แหลนที่ใช้แข่งพุ่งกันก็เกิน 30 เมตรแล้วครับ
เรื่องระยะ มองเห็นได้ไกลใช้ธนูไฟไม่ง่ายครับ เพราะจะโดนสวนด้วยธนูธรรมดาที่ระยะไกลกว่า แต่นี่เล่นยิงเป็นชั่วโมงไม่โดนอีกฝ่ายสวนสักแอะ ถึงใกล้ที่ตั้งแต่ถ้าลมพัดออกจากกองทัพมันมีปัญหาน้อยกว่าลมพัดเข้าหากองทัพ ส่วนเรื่องท่าเรือ จำเป็นต้องมีท่ารึครับในเมื่อเรือมันมีสมอไว้จอดได้ เรือใช้สมอจอดมันกระจัดกระจายไม่เป็นกลุ่มก้อน ไหม้ไปลำหนึ่ง ลำที่เหลือก็ยังรบต่อได้ แต่ทัพที่กำลังน้อยกว่ามันจะเสียเปรียบ บังทองถึงต้องไปวางอุบายให้ทัพโจโฉผูกโยงเรือให้ติดกันเป็นกลุ่มก้อน ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดหลังขงเบ้งไปยืมลูกธนูแล้วครับ ส่วนเรื่องที่ตั้งกองกำลังยังไงมันก็ต้องจุดไฟบอกที่ตั้งอยู่ดีแหละครับ ทหารส่วนใหญ่มันก็อยู่ในค่ายกัน เพราะมันมีที่ป้องกันได้ นอกจากพวกไปออกรบ หรือลาดตะเวน
 
2. เรือไม่ต้องเทียบท่าก็จอดได้เพราะใช้สมอ เอาเชือกโยงก็ไม่ต้องผูกติดกัน ไม่งั้นบังทองจะมาเสียเวลามาวางอุบายให้เอาเรือมาติดกันทำไม มองเห็นไม่ชัดออกคำสั่งยังไง ไม่สงสัยกันบ้างรึที่ให้แม่ทัพคุมทหารเป็นพันวิ่งไปตามชายฝั่งเพื่อยิงเรือขงเบ้งนะออกคำสั่งยังไง
 
3. ไม่มีลมก็เผาได้ ก็แสดงว่าหมอกลงจัด ลมไม่แรงนี้ ปัจจัยเรื่องลมแรงไม่แรงไม่ใช่เหตุมาอ้างว่าจะใช้ธนูไฟหรือไม่ใช้สิครับ  :lol:  :lol:  :lol:
 
 



1 พุ่งเหลน เหมือนยืนพุ่งหอกหรือครับ ผมถึงบอกให้ลองไงครับ แล้วจริงๆ ถ้าใกล้มากแล้วมันใช้ได้ ไม่ต้องธนูก็ได้ครับ เอา คบไฟเขวี้ยงมันไปเลย แล้วที่ผมยกจำนวนพลธนูพันคนผมยกมาลอยๆ แต่ในตอนนั้นฝ่ายวุยยกคนไปเท่าไหรครับ น่าจะเป็นพลธนูเท่าไร (โดยส่วนตัวผมว่า พี่เบ้งดักมาได้สัก สามหมืี่นก็เก่งแล้ว)

2 จอดเรือทอดสมอกระจัดกระจาย โดนกองเรือยกมาก บุกขึ้นเรือทันไหมครับ และ เหตุผลนี้มันขัดแย้ง กับเหตุผลที่ว่า ทหารส่วนใหญ่อยู่ในค่ายของท่าน ถ้าอยู่ในค่าย แต่ เอาเรื่อทอดสมอกระจัดกระจาย ศัตรูยกมาก็สนุกสิครับ ในเมื่อทหารส่วนใหญ่อยู่ในค่าย แต่ บนเรือมีไม่กี่คน แล้วยังจอดกระจัดกระจาย เหตุผลมันไปกันคนละทางนะผมว่า

3 อันนี้ผมก็บอกท่านแล้วอีกนั้นแหละครับว่า ที่ไม่ใช้ธนูไฟ เพราะกลัวโดนเขาไหลเรือมาเผาทั้งยวง

จับประเด็นใหม่เพื่อความไม่ งง ของผมและท่าน

1 ถ้าใช้ธนูไฟในวันที่หมอกลงจัด ใช้ในระยะไกลหรือใกล้
2 ถ้ากองกำลังส่วนใหญ่อยู่ในค่าย จอดเรือกระจัดกระจายได้หรือไม่ ในการรบรู้หรือครับว่า เขาจะเอาเรือเปล่ามา ถ้าทหารมาเต็มลำเรือ ละครับ
3 สรุปตรงกันแล้วนะครับว่าไม่มีลม เป็นไปได้ไหมครับว่า ถึงฝ่ายวุยจะเห็นหุ่นฝางก็ไม่ได้คิดว่าจะยืมธนู แต่อาจคิดว่าจะเอาเรือมาเผากองเรือก็ได้

ซุนวูกล่าวว่า รู้เขารู้เรา รบร้อยชนะร้อย จริงครับ

แม่ทัพนายกองส่วนใหญ่ก็รู้ในหลักการนี้ แต่

แต่สงครามก็ยังมีแพ้ ชนะเสมอ เพราะสิ่งที่ต่างกันคือ "ไอ้ที่รู้มามันจริงหรือไม่จริง"

Edited by เพลิงสีนิล, 22 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 17:41.

[color=#0000ff;][font="Tahoma, sans-serif;"]เราจะรู้.....รสชาติของความสุข[/color][font="Tahoma, sans-serif;"]ก็ต่อเมื่อ     เราผ่านความทุกข์มาก่อน[/font][/font]


#222 เช never die

เช never die

    มหาอำมาตย์แดง ชั้นที่ 1.(ระดับเดียวกับท่านตู่,ท่านเต้น)

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 11,845 posts

ตอบ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 21:41

ความกะล่อนปลิ้นปล้อนของขงเบ้งกับเล่าปี่ ....

 

พลันที่โจโฉเสียทีหนีกลับไปภาคเหนือ ศึกสามเส้าชิงสามเมืองทางภาคใต้ฝั่งเหนือของแม่น้ำแยงซีก็ก่อตัวขึ้น โดยโจหยินเป็นผู้บัญชาการใหญ่ของฝ่ายโจโฉรักษาดินแดนแถบนี้ ในขณะที่เล่าปี่กับจิวยี่ต่างตั้งเป้าหมายที่จะแย่งชิงเมืองลำกุ๋น เมืองเกงจิ๋ว และเมืองซงหยงให้จงได้ 

           ทางฝ่ายเมืองหลวงนั้นหากโจหยินเสียสามเมืองนี้แล้ว อิทธิพลอำนาจทางการทหารของโจโฉในภาคใต้ก็จะหมดสิ้นไป 

           ทาง ฝ่ายกังตั๋งนั้นเล่า หากชิงสามเมืองนี้ได้แล้วอิทธิพลอำนาจทางการทหารของกังตั๋งก็จะคุกคามต่อ ฝ่ายเมืองหลวงในทันที ในขณะเดียวกันนั้นก็ขจัดหรืออย่างน้อยก็จำกัดอำนาจอิทธิพลทางการทหารของเล่า ปี่และขงเบ้งไปในตัว 

           ส่วนทางฝ่ายเล่าปี่มีทหารอยู่เพียง หมื่นเศษ และนี่คือโอกาสเดียวที่จะเปิดหนทางอันกว้างใหญ่ไปสู่การตั้งตัวขึ้นเป็นใหญ่ ในแผ่นดิน เพราะการยึดเมืองลำกุ๋น เมืองเกงจิ๋ว และเมืองซงหยงให้สำเร็จนั้น จะทำให้กำลังทางการทหารของเล่าปี่เติบใหญ่ขึ้นเป็นประวัติการณ์ ทั้งยังมีอาณาเขตดินแดนกว้างใหญ่ไพศาลในพื้นที่ภาคใต้ฝั่งเหนือของแม่น้ำแยง ซี 

           ที่สำคัญที่สุดคือการได้เมืองเกงจิ๋วคือ การบรรลุเป้าหมายยุทธศาสตร์ขั้นแรกของยุทธศาสตร์สามก๊กที่ขงเบ้งได้เสนอต่อ เล่าปี่ก่อนที่พญามังกรผู้แจ้งฟ้าจบดินจะเคลื่อนตัวเลื้อยลงจากโงลังกั๋ง และเป็นรากฐานของการก้าวไปสู่ยุทธศาสตร์สามก๊กขั้นที่สองคือการยึดเมือง เสฉวนตามแบบอย่างของพระเจ้าฮั่นโกโจปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์ฮั่น จากนั้นจึงรอคอยการบรรลุยุทธศาสตร์ขั้นที่สาม คือการรวบรวมแผ่นดินจีนเข้าเป็นหนึ่ง 

           ยุทธการยึดเกงจิ๋วจึงเป็นยุทธการสำคัญที่สุดที่ชี้อนาคตของเล่าปี่ว่าจะก้าวขึ้นสู่พระแท่นมังกรทองได้สำเร็จหรือไม่ 

           เล่า ปี่ ขงเบ้ง ออกไปต้อนรับจิวยี่และโลซกที่ด้านนอกแล้วเชิญไปสนทนากันที่ศาลาบัญชาการ ต่างฝ่ายต่างถ้อยทีคำนับกันตามธรรมเนียมแล้ว เล่าปี่จึงเชิญให้จิวยี่และโลซกนั่งตามตำแหน่งที่แขกเมือง ไต่ถามสารทุกข์สุขดิบกันเป็นพิธีแล้ว เล่าปี่จึงสั่งให้แต่งโต๊ะเลี้ยงจิวยี่และโลซกที่กองบัญชาการทหารนั้น 

           เล่า ปี่ได้กล่าวสรรเสริญจิวยี่และโลซกว่าโจโฉกรีฑาทัพใหญ่กว่าร้อยหมื่นลงใต้ใน ครั้งนี้ หมายมั่นจะเหยียบย่ำยึดครองหัวเมืองฝ่ายใต้ไว้ในอำนาจทั้งสิ้น แต่ด้วยสติปัญญาความสามารถของท่าน จึงเอาชัยชนะแก่โจโฉทำลายกองทัพกว่าร้อยหมื่นให้ราบพนาสูญไปได้ในค่ำคืน เดียว ข้าพเจ้าเลื่อมใสในสติปัญญาความสามารถของท่านยิ่งนัก คุณูปการอันใหญ่หลวงในครั้งนี้จะเป็นที่จดจำของอาณาประชาราษฎรทั้งปวง 

           แล้ว ว่าเมื่อโจโฉเสียทีหนีกลับไปเมืองหลวงแล้วหัวเมืองฝ่ายใต้ทั้งปวงก็จะสงบ สันติและอาณาประชาราษฎรจะได้รับความสุขก็เพราะท่านในครั้งนี้ 

           จิ วยี่ได้ฟังก็หัวเราะ รีบกล่าวถ่อมตัวว่าข้าพเจ้าทำการครั้งนี้ได้สำเร็จก็เพราะได้อาศัยความคิด สติปัญญาของขงเบ้งแลการเรียกลมสลาตันมาผลาญกองทัพโจโฉนั่นต่างหาก 

           ครั้นเห็นเป็นโอกาสอันสมควร จิวยี่จึงถามว่า “ซึ่งท่านคุมทหารมาตั้งอยู่ที่นี้ ท่านคิดจะยกไปตีเอาเมืองลำกุ๋นหรือ” 

           เล่าปี่จึงตอบจิวยี่ตามที่ขงเบ้งได้กระซิบแนะนำไว้ว่า “ซึ่ง ข้าพเจ้ายกมาตั้งอยู่ที่นี้เพราะคิดว่าท่านจะไปตีเอาเมืองลำกุ๋น ข้าพเจ้าจะคุมทหารไปช่วยเป็นการเร็ว แม้ท่านไม่ไปข้าพเจ้าก็คิดอยู่ว่าจะไปตีเอาเมืองลำกุ๋นให้” 

           เพราะ เหตุผลแบบนี้ หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช จึงได้วิพากษ์เล่าปี่และขงเบ้งไว้ในสามก๊กฉบับนายทุนว่า ทั้งเล่าปี่และขงเบ้งเป็นพวกกะล่อนปลิ้นปล้อน ในแต่ละวันคิดอ่านแต่จะหลอกลวงผู้คน โจโฉต่างหากเล่าที่เป็นอัครมหาเสนาบดีที่อุทิศตัวเพื่อแผ่นดินและราษฎร


มันผู้ได สนับสนุนการนิรโทษกรรม ไม่ลากคอไอ้ฆาตกรชั่วใจสัตว์ โหดอำมหิต ผู้บงการฆ่าพี่น้องเสื้อแดงของกู 91 ศพ และพี่น้อง กปปส.ของกูอีก 20 ศพ มาลงโทษลงทัณฑ์ตามกบิลเมือง กูขอสาปแช่งให้มันและทุกๆคนที่มันรัก จงประสพกับความวิบัติฉิบหายในชาตินี้ และต่อๆไปทุกภพทุกชาติ จนกว่าจะสิ้นกาล


#223 Solidus

Solidus

    เลิกเล่น

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 14,367 posts

ตอบ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 00:07

1 พุ่งเหลน เหมือนยืนพุ่งหอกหรือครับ ผมถึงบอกให้ลองไงครับ แล้วจริงๆ ถ้าใกล้มากแล้วมันใช้ได้ ไม่ต้องธนูก็ได้ครับ เอา คบไฟเขวี้ยงมันไปเลย แล้วที่ผมยกจำนวนพลธนูพันคนผมยกมาลอยๆ แต่ในตอนนั้นฝ่ายวุยยกคนไปเท่าไหรครับ น่าจะเป็นพลธนูเท่าไร (โดยส่วนตัวผมว่า พี่เบ้งดักมาได้สัก สามหมืี่นก็เก่งแล้ว)

2 จอดเรือทอดสมอกระจัดกระจาย โดนกองเรือยกมาก บุกขึ้นเรือทันไหมครับ และ เหตุผลนี้มันขัดแย้ง กับเหตุผลที่ว่า ทหารส่วนใหญ่อยู่ในค่ายของท่าน ถ้าอยู่ในค่าย แต่ เอาเรื่อทอดสมอกระจัดกระจาย ศัตรูยกมาก็สนุกสิครับ ในเมื่อทหารส่วนใหญ่อยู่ในค่าย แต่ บนเรือมีไม่กี่คน แล้วยังจอดกระจัดกระจาย เหตุผลมันไปกันคนละทางนะผมว่า

3 อันนี้ผมก็บอกท่านแล้วอีกนั้นแหละครับว่า ที่ไม่ใช้ธนูไฟ เพราะกลัวโดนเขาไหลเรือมาเผาทั้งยวง

จับประเด็นใหม่เพื่อความไม่ งง ของผมและท่าน

1 ถ้าใช้ธนูไฟในวันที่หมอกลงจัด ใช้ในระยะไกลหรือใกล้
2 ถ้ากองกำลังส่วนใหญ่อยู่ในค่าย จอดเรือกระจัดกระจายได้หรือไม่ ในการรบรู้หรือครับว่า เขาจะเอาเรือเปล่ามา ถ้าทหารมาเต็มลำเรือ ละครับ
3 สรุปตรงกันแล้วนะครับว่าไม่มีลม เป็นไปได้ไหมครับว่า ถึงฝ่ายวุยจะเห็นหุ่นฝางก็ไม่ได้คิดว่าจะยืมธนู แต่อาจคิดว่าจะเอาเรือมาเผากองเรือก็ได้

ซุนวูกล่าวว่า รู้เขารู้เรา รบร้อยชนะร้อย จริงครับ

แม่ทัพนายกองส่วนใหญ่ก็รู้ในหลักการนี้ แต่

แต่สงครามก็ยังมีแพ้ ชนะเสมอ เพราะสิ่งที่ต่างกันคือ "ไอ้ที่รู้มามันจริงหรือไม่จริง"

1. เคยลองสมัยเรียนได้ 30 เมตรครับ คุณเคยดูกีฬาพุ่งแหลนไหมครับ ยืนเหมือนพุ่งหอกไหมล่ะ หรือว่าแหลนที่ใช้ในกีฬานี้ไม่มีที่มาจากการใช้อาวุธประเภทหอก (เคยมีข่าวอุบัติเหตุ กรรมการโดนแหลนพุ่งเสียบด้วย)  ระยะเห็นเงาตะคุ่มกลางหมอกจัดตอนการคืนนี่มันคงไกลมากจนระยะธนูไฟไม่ถึงเลยนะครับ ระยะที่เห็นแบบนี้กี่เมตรล่ะดีครับ เรื่องใช้คบไฟเขวี้ยวนี่ไม่ต้องห่วงกระมังครับ ถ้าไม่ถึง 10 เมตรนี่คงไม่โดนแค่คบไฟเขวี้ยงหรอกครับ ขนาดลูกทุ่มน้ำหนักที่หนักเกิน 5 กิโลมันยังทุ่มกันเกิน 10 เมตร

ส่วนเรื่องค่ายนะ คุณคิดว่าค่ายมันมีอยู่บนบกรึเนี่ย ในน้ำไม่มีรั้วค่ายเลยรึ คำสั่งให้ทหารบนบกช่วยยิงก็หลายพันนายแล้วครับ การช่วยยิงได้ก็ต้องรู้ตำแหน่งพวกตัวเองก่อนงานนี้มีแววจะเห็นเกิน 10 เมตรนะครับ มันขัดกับเรื่องหมอกลงจัดอีก

 

2. ก็คุณดันไปคิดว่าค่ายมันอยู่บนบก แล้วคุณคิดไหมว่ารั้วค่ายมันอยู่ตรงไหน ดูท่าเรื่องค่ายนี่คุณกับผมจะเข้าใจไม่ตรงกันนะครับ แล้วตำแหน่งเรือจอดมันอยู่ในระยะยิงธนูไหมล่ะครับ มีทหารยามไหมล่ะครับ เรือกระจัดกระจายมันยึดได้ทีละลำ เผาได้ทีละลำ คงได้โดนธนูจากบนบกพรุนล่ะครับ ฝ่ายทัพซุนกวนน้อยกว่าทัพโจโฉหลายเท่านะครับ

 

3. เรื่องไม่มีลมสรุปตรงกันยังไงครับ ผมเอามาจากที่คุณบอก "ไม่มีลมเผายังไง ไม่มีลมก็เผาได้อยู่ดีอะครับ ช้าหรือเร็วเท่านั้นเอง" ในเมื่อกำลังคุยกันว่าลมไม่แรงเผาได้หรือไม่ ก็ยอมรับแล้วนี่ว่าเผาได้ ส่วนเรื่องที่ไม่ใช้ธนูไฟ เพราะคนแต่งไม่ได้แต่งให้ใช้ธนูไฟไงครับ โจโฉถึงไม่ได้ใช้ธนูไฟ :lol: :lol: :lol: ฝ่ายวุยเห็นหุ่นฟางนี่คงไม่ใช่กระมังครับในเมื่อนิยายมันบอกว่าหมอกลงจัดแทบไม่เห็นอะไร ถ้าเห็นเป็นหุ่นฟางก็แสดงว่าใกล้มาแทบจะติดกันแล้วสิครับ เรื่องกลัวโดนเผามันติดรั้วค่ายรอบนอกก่อนแหละครับ ต่างจากกรณีอุยกายที่ห้ามเรือไม่ทันเข้ามาในค่ายแล้ว เรือก็โดนอุบายบังทองผูกติดกัน แถมลมยังพัดเข้าทัพโจโฉอีก

 

เรื่องของเรื่องซุนกวนไปดูทัพโจโฉ เข้าระยะยิงธนู เลยโดนยิงจนเรือเอียง ตอนถอยหนีกลับเรือก็โดนอีกข้าง เรือก็กลับมาตรง ไม่ได้จะยืมลูกธนูอะไร ไม่ได้เข้าระยะธนูไฟอีกทั้งระยะเวลาก็ไม่ได้นานเป็นชั่วโมงแบบในนิยายที่ขงเบ้งไปยืมลูกธนู


[color=#ff0000;]สำหรับผมคงเลิกเล่นบอร์ดนี้ไว้เพียงเท่านี้ ถ้าไอดีนี้ยังมีบุคคลอื่นที่ใครบางคนคิดว่าเป็นตัวจริงอยู่จริง เขาก็เข้ามาใช้บอร์ดนี้ต่อเองแต่ไม่ใช่ผมแน่นอน[/color]

ลาก่อน สวัสดีครับ 17 มกราคม 2556


#224 Solidus

Solidus

    เลิกเล่น

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 14,367 posts

ตอบ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 00:52

สามก๊กฉบับภาษาจีนบรรยายความตอนนี้ว่า “ขอวานท่านช่วยจัดแจงเรือให้ ข้าพเจ้ายืมสักยี่สิบลำ พร้อมทหารประจำเรือลำละสามสิบคน ในเรือแต่ละลำให้บรรทุกฟางหญ้าทำเป็นฟ่อนจำนวนพันฟ่อน วางไว้ที่ข้างเรือทั้งสองกราบ แล้วเอาผ้าดำคลุมไว้ให้มิดชิด และให้จัดม้าล่อฆ้องกลองให้พร้อมไว้สำหรับฉลองชัยชนะ ท่านจงจัดแจงแต่งการทั้งนี้ไว้ให้พร้อม ข้าพเจ้าต้องการเมื่อใดขอให้ได้เมื่อนั้น”

 

เจี้ยนอันศกปีที่สิบสาม เดือนสิบสองข้างแรม หมอกลงจัดทั่วทั้งแม่น้ำแยงซี ในขณะที่อากาศหนาวเหน็บปกคลุมแผ่ไปทั่ว ขงเบ้งชวนโลซกลงเรือน้อย ตามด้วยขบวนเรืออีกยี่สิบลำแจวขึ้นไปทางฝั่งเหนือ ล่องเลียบค่ายน้ำของโจโฉตั้งแต่ด้านทิศตะวันออกไปทางด้านตะวันตก 

            ขบวนเรือของขงเบ้งลอยล่องเป็นทิวยาวขนานกับแนวค่ายน้ำในชั่วระยะเกาทัณฑ์ เท่านั้น พลันที่ขงเบ้งสั่งให้ทหารตีกลองศึกและม้าล่อเสียงดังสนั่นประหนึ่งว่าจะ ยาตราทัพเรือเข้าโจมตีกองทัพของโจโฉ โลซกยิ่งตกใจเป็นอันมาก ละล่ำละลักถามขงเบ้งว่าท่านจะบ้าไปแล้วหรือ เรายกมาแต่เพียงเท่านี้ อาวุธก็มิได้พรักพร้อม กลับจะมาท้าโจโฉทำยุทธนาวี หากโจโฉยกกองทัพออกมาแล้วท่านจะต้านทานรับมือประการใด 

            ขงเบ้งได้ฟังดังนั้นก็หัวเราะแล้วว่า “หมอก ลงหนักอยู่ ที่ไหนโจโฉจะอาจยกทัพเรือออกมา ท่านกับเราตั้งหน้าเสพสุราเล่นให้สบายใจกว่าจะสว่างขึ้น เราจึงจะถอยเรือล่องกลับลงไป” 

            ขงเบ้งกล่าวแล้วก็ยกจอกสุราขึ้นชนกับโลซก  ส่วนโลซกกำลังตกใจยกจอกขึ้นชนเพื่อไม่ให้เสียมารยาทแต่ดื่มไม่ลง วางจอกสุราลงที่เดิม ในขณะที่สีหน้าก็ตื่นตระหนกอย่างรุนแรง ขงเบ้งเห็นดังนั้นก็หัวเราะ แล้วดื่มสุราด้วยความสุขสบายใจ 

            ทาง ฝ่ายกองทัพของโจโฉกำลังพักผ่อนหลับนอนอย่างสุขสบาย จนปลายยามสามได้ยินเสียงกลองศึกและม้าล่อดังสนั่นมาแต่ทางทะเล  มองฝ่าหมอกไปเห็นเงาดำตะคุ่มเป็นแนวยาวคล้ายกองเรือรบก็สำคัญว่ากองทัพเมือง กังตั๋งยกทัพเรือมาปล้นค่าย ทหารเวรจึงรีบไปรายงานให้โจโฉทราบ 

            โจโฉตกใจตื่นขึ้น ฟังรายงานแล้วจึงออกไปยืนหน้าค่าย มองไปทางทะเลแต่หมอกลงจัดมองไม่เห็นว่ากำลังทหารเรือเมืองกังตั๋งมากแลน้อย ได้ยินแต่เสียงกลองศึกม้าล่อดังสนั่น สำคัญว่าจิวยี่ยกกองทัพเรือมาปล้นค่าย จึงเรียกอิกิ๋ม มอกาย มาสั่งการว่าจิวยี่ยกกองทัพมาปล้นค่ายเราวันนี้เห็นทีจะเป็นอุบายลวงให้เรา ยกออกไปต่อสู้แล้วจะคอยซุ่มโจมตีกระหนาบ เราก็จะเสียทีแก่ทหารเมืองกังตั๋ง ดังนั้นจึงอย่าเพ่อออกรบ ให้ท่านคุมทหารเรือตั้งมั่นไว้ในที่ตั้ง แล้วระดมยิงเกาทัณฑ์สกัดกั้นกองทัพเรือเมืองกังตั๋งไว้อย่าให้ยกล่วงค่ายน้ำ เข้ามาได้ 

            อิกิ๋มและมอกายรับคำสั่งแล้วคำนับลา โจโฉกลับออกไปสั่งทหารให้ตั้งมั่นในที่ตั้งเดิม และให้ทหารที่ค่ายน้ำตลอดแนวระดมยิงเกาทัณฑ์ใส่กองทัพเรือของเมืองกังตั๋ง

            โจโฉสั่งอิกิ๋มและมอกายแล้วยังไม่วางใจเกรงว่าจะเสียทีแก่จิวยี่ จึงสั่งให้เรียกเตียวเลี้ยวและซิหลงให้เกณฑ์ทหารจากกองทัพบกอีกห้าพันนาย พร้อมเกาทัณฑ์เต็มอัตราศึกลงไปที่ชายทะเลแล้วระดมยิงสกัดกองทัพเรือเมืองกัง ตั๋งมิให้รุกขึ้นฝั่งได้ 

            เตียวเลี้ยวและซิหลงรับคำสั่งแล้วจึงคำนับลาโจโฉออกไปจัดกำลังพลเกาทัณฑ์ เข้าประจำการตามชายทะเลแล้วระดมยิงไปที่กองทัพเรือของจิวยี่ดังห่าฝน 

            ทหาร ของโจโฉทั้งจากกองทัพเรือและกองทัพบกกว่าหมื่นนายได้ระดมยิงเกาทัณฑ์ไปยัง กองทัพเรือของจิวยี่ที่ลอยลำอยู่ในทะเล เห็นเป็นเงาตะคุ่มอยู่ไม่รู้กำลังมากแลน้อย คงได้ยินแต่เสียงม้าล่อฆ้องกลองดังสนั่นหวั่นไหวท่ามกลางม่านหมอกอันหนาทึบ 

            ขงเบ้งให้ลากเรือทั้งยี่สิบลำล่องเลียบค่ายน้ำจากด้านตะวันออกไปทางตะวันตก มัดฟางและหญ้าซึ่งคลุมด้วยผ้าดำไว้ต้องเกาทัณฑ์ไว้แน่นหนาจนเรือเอียงลง ขงเบ้งจึงให้หยุดม้าล่อฆ้องกลองแล้วให้กลับเรือล่องเลียบค่ายน้ำของโจโฉจาก ด้านตะวันตกไปทางด้านตะวันออก แล้วให้ตีกลองศึกและม้าล่อดังสนั่นหวั่นไหวเป็นเพลงรบอีกครั้งหนึ่ง 

            ทหาร โจโฉบนค่ายน้ำเห็นเงาตะคุ่มอยู่ในทะเลเป็นทิวยาวล่องขึ้นไปทางด้านตะวันตก แล้วย้อนกลับมาทางด้านตะวันออกก็สำคัญว่ากองทัพเรือจิวยี่พยายามจะเข้าตีแต่ ฝ่าม่านเกาทัณฑ์เข้ามาไม่ได้ จึงยิ่งเร่งระดมยิงเกาทัณฑ์ไปที่เงาตะคุ่มนั้นอย่างไม่ยั้งมือ จนกราบเรือที่ต้องลูกเกาทัณฑ์แล้วเอียงไปข้างหนึ่งค่อย ๆ ทรงตัวและเพียบลง ขงเบ้งก็รู้ว่าลูกเกาทัณฑ์ของทหารโจโฉยิงมาติดหญ้าฟางในเรือทั้งยี่สิบลำมาก พอแก่ความต้องการแล้ว พอดีสว่างขึ้นขงเบ้งจึงให้ทหารหยุดตีม้าล่อฆ้องกลอง แล้วให้ทหารในเรือร้องตะโกนขึ้นพร้อมกันว่า ขอขอบคุณโจโฉที่ให้ยืมเกาทัณฑ์ ไว้วันหน้าจะมามอบคืน

 

ทัศนวิสัยการยิง - กลางคืนข้างแรม หมอกลงจัด เห็นเป็นเงาตะคุ่ม ปัญหาตรงนี้คือมันเห็นเป็นเงาตะคุ่มได้อย่างไร ระยะไกลจากทัพโจโฉเท่าไหร่แน่

ระยะเวลาที่ยิง - เดือนสิบสอง ปลายยามสามถึงสว่าง ปัญหาตรงนี้คือยิงนานเท่าไหร่  ปลายยามสามก็ประมาณตีสาม เดือนสิบสองกว่าจะสว่างก็เกิน 6 โมง ระยะวลาที่ยิงก็น่าจะนาน 3 ชั่วโมง

จำนวนคนที่ยิง - กว่าหมื่นนาย ปัดให้สองหมื่นนาย เป็นทัพบกซะห้าพัน ทัพเรือหมื่นห้า มีเรือกว่า 2 พันลำ ตกลำละ 8 นาย :o :o :o


Edited by Jörmungandr, 23 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 08:17.

[color=#ff0000;]สำหรับผมคงเลิกเล่นบอร์ดนี้ไว้เพียงเท่านี้ ถ้าไอดีนี้ยังมีบุคคลอื่นที่ใครบางคนคิดว่าเป็นตัวจริงอยู่จริง เขาก็เข้ามาใช้บอร์ดนี้ต่อเองแต่ไม่ใช่ผมแน่นอน[/color]

ลาก่อน สวัสดีครับ 17 มกราคม 2556


#225 เพลิงสีนิล

เพลิงสีนิล

    สมาชิก ชั้น 7 โฟร์ซีซั่น

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,629 posts

ตอบ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 20:12


1 พุ่งเหลน เหมือนยืนพุ่งหอกหรือครับ ผมถึงบอกให้ลองไงครับ แล้วจริงๆ ถ้าใกล้มากแล้วมันใช้ได้ ไม่ต้องธนูก็ได้ครับ เอา คบไฟเขวี้ยงมันไปเลย แล้วที่ผมยกจำนวนพลธนูพันคนผมยกมาลอยๆ แต่ในตอนนั้นฝ่ายวุยยกคนไปเท่าไหรครับ น่าจะเป็นพลธนูเท่าไร (โดยส่วนตัวผมว่า พี่เบ้งดักมาได้สัก สามหมืี่นก็เก่งแล้ว)

2 จอดเรือทอดสมอกระจัดกระจาย โดนกองเรือยกมาก บุกขึ้นเรือทันไหมครับ และ เหตุผลนี้มันขัดแย้ง กับเหตุผลที่ว่า ทหารส่วนใหญ่อยู่ในค่ายของท่าน ถ้าอยู่ในค่าย แต่ เอาเรื่อทอดสมอกระจัดกระจาย ศัตรูยกมาก็สนุกสิครับ ในเมื่อทหารส่วนใหญ่อยู่ในค่าย แต่ บนเรือมีไม่กี่คน แล้วยังจอดกระจัดกระจาย เหตุผลมันไปกันคนละทางนะผมว่า

3 อันนี้ผมก็บอกท่านแล้วอีกนั้นแหละครับว่า ที่ไม่ใช้ธนูไฟ เพราะกลัวโดนเขาไหลเรือมาเผาทั้งยวง

จับประเด็นใหม่เพื่อความไม่ งง ของผมและท่าน

1 ถ้าใช้ธนูไฟในวันที่หมอกลงจัด ใช้ในระยะไกลหรือใกล้
2 ถ้ากองกำลังส่วนใหญ่อยู่ในค่าย จอดเรือกระจัดกระจายได้หรือไม่ ในการรบรู้หรือครับว่า เขาจะเอาเรือเปล่ามา ถ้าทหารมาเต็มลำเรือ ละครับ
3 สรุปตรงกันแล้วนะครับว่าไม่มีลม เป็นไปได้ไหมครับว่า ถึงฝ่ายวุยจะเห็นหุ่นฝางก็ไม่ได้คิดว่าจะยืมธนู แต่อาจคิดว่าจะเอาเรือมาเผากองเรือก็ได้

ซุนวูกล่าวว่า รู้เขารู้เรา รบร้อยชนะร้อย จริงครับ

แม่ทัพนายกองส่วนใหญ่ก็รู้ในหลักการนี้ แต่

แต่สงครามก็ยังมีแพ้ ชนะเสมอ เพราะสิ่งที่ต่างกันคือ "ไอ้ที่รู้มามันจริงหรือไม่จริง"

1. เคยลองสมัยเรียนได้ 30 เมตรครับ คุณเคยดูกีฬาพุ่งแหลนไหมครับ ยืนเหมือนพุ่งหอกไหมล่ะ หรือว่าแหลนที่ใช้ในกีฬานี้ไม่มีที่มาจากการใช้อาวุธประเภทหอก (เคยมีข่าวอุบัติเหตุ กรรมการโดนแหลนพุ่งเสียบด้วย)  ระยะเห็นเงาตะคุ่มกลางหมอกจัดตอนการคืนนี่มันคงไกลมากจนระยะธนูไฟไม่ถึงเลยนะครับ ระยะที่เห็นแบบนี้กี่เมตรล่ะดีครับ เรื่องใช้คบไฟเขวี้ยวนี่ไม่ต้องห่วงกระมังครับ ถ้าไม่ถึง 10 เมตรนี่คงไม่โดนแค่คบไฟเขวี้ยงหรอกครับ ขนาดลูกทุ่มน้ำหนักที่หนักเกิน 5 กิโลมันยังทุ่มกันเกิน 10 เมตร
ส่วนเรื่องค่ายนะ คุณคิดว่าค่ายมันมีอยู่บนบกรึเนี่ย ในน้ำไม่มีรั้วค่ายเลยรึ คำสั่งให้ทหารบนบกช่วยยิงก็หลายพันนายแล้วครับ การช่วยยิงได้ก็ต้องรู้ตำแหน่งพวกตัวเองก่อนงานนี้มีแววจะเห็นเกิน 10 เมตรนะครับ มันขัดกับเรื่องหมอกลงจัดอีก
 
2. ก็คุณดันไปคิดว่าค่ายมันอยู่บนบก แล้วคุณคิดไหมว่ารั้วค่ายมันอยู่ตรงไหน ดูท่าเรื่องค่ายนี่คุณกับผมจะเข้าใจไม่ตรงกันนะครับ แล้วตำแหน่งเรือจอดมันอยู่ในระยะยิงธนูไหมล่ะครับ มีทหารยามไหมล่ะครับ เรือกระจัดกระจายมันยึดได้ทีละลำ เผาได้ทีละลำ คงได้โดนธนูจากบนบกพรุนล่ะครับ ฝ่ายทัพซุนกวนน้อยกว่าทัพโจโฉหลายเท่านะครับ
 
3. เรื่องไม่มีลมสรุปตรงกันยังไงครับ ผมเอามาจากที่คุณบอก "ไม่มีลมเผายังไง ไม่มีลมก็เผาได้อยู่ดีอะครับ ช้าหรือเร็วเท่านั้นเอง" ในเมื่อกำลังคุยกันว่าลมไม่แรงเผาได้หรือไม่ ก็ยอมรับแล้วนี่ว่าเผาได้ ส่วนเรื่องที่ไม่ใช้ธนูไฟ เพราะคนแต่งไม่ได้แต่งให้ใช้ธนูไฟไงครับ โจโฉถึงไม่ได้ใช้ธนูไฟ :lol: :lol: :lol: ฝ่ายวุยเห็นหุ่นฟางนี่คงไม่ใช่กระมังครับในเมื่อนิยายมันบอกว่าหมอกลงจัดแทบไม่เห็นอะไร ถ้าเห็นเป็นหุ่นฟางก็แสดงว่าใกล้มาแทบจะติดกันแล้วสิครับ เรื่องกลัวโดนเผามันติดรั้วค่ายรอบนอกก่อนแหละครับ ต่างจากกรณีอุยกายที่ห้ามเรือไม่ทันเข้ามาในค่ายแล้ว เรือก็โดนอุบายบังทองผูกติดกัน แถมลมยังพัดเข้าทัพโจโฉอีก
 
เรื่องของเรื่องซุนกวนไปดูทัพโจโฉ เข้าระยะยิงธนู เลยโดนยิงจนเรือเอียง ตอนถอยหนีกลับเรือก็โดนอีกข้าง เรือก็กลับมาตรง ไม่ได้จะยืมลูกธนูอะไร ไม่ได้เข้าระยะธนูไฟอีกทั้งระยะเวลาก็ไม่ได้นานเป็นชั่วโมงแบบในนิยายที่ขงเบ้งไปยืมลูกธนู
 
 



1. สถิติพุ่งเหลนโลก 70 กว่าเมตรครับ แต่น้ำหนักหอกกับเหลนนี่ต่างกัน ระยะวิ่งและท่าทางการพุ่ง ก็ต่างกันครับ อันนี้ลองสิครับ
แต่ที่ผมตั้งคำถามคือ ในวันที่หมอกลง จะยิงในระยะไกลหรือใกล้

2. การจอดเรือก็เหมือนกันครับ ถ้าจอดเรือกระจัดกระจาย ไม่จำเป็นเลยครับที่ต้องเผา เตรียมทัพมารบทางน้ำ วุยถนัดรบบนที่ราบ เอาทหารมากมายไปอยู่ในเรือ ก็จบแล้วอะครับ แม่ทัพฝ่านตรงข้ามรู้ ไม่ต้องเผาหรอกครับ บุกจมเรือ แล้ว ถอยตีแบบกองโจรก็จบแล้ว สงครามผาแดงไม่เกิดแน่ครับ การรักษาท่าเทียบเรือ ก็จำเป็นต้องมีกองกำลังประจำ อยู่แล้ว ท่านจะทำรั้วล้อมกองเรือหรือครับ แล้วจอดเรือกระจัดกระจาย ท่านก็บอกเองนิครับว่า จะยิงต้องรู้ตำแหน่งพวกตัวเองก่อน ยิงไปติดเรือตัวเองก็คงฮา และเป็นเหตุที่จะ
ตัดสินใจไม่ใช้ธนูไฟไหมครับ
- จอดเรือกระจัดกระจาย ต้องรู้ตำแหน่ง ไม่ิยิงธนูเพราะไฟกลัวโดนพวกตนเอง เป็นไปได้ไหม
- จอดเทียบท่า ก็รวมกันเป็นกระจุก ไม่ยิงธนูไฟกลัวเข้าทางศัตรู เอาเรือติดไฟไหลไปเผาเรื่อที่จอดเทียบก็ได้ เป็นไปได้ไหม

3. หมอกลง แสดงว่าไม่มีลมใช่ไหมครับ ที่ผมว่าตรงกันก็ตรงนี้อะครับ เหตุการณ์นี้ตัดตัวแปรเรื่อง ลม ออกไปได้เลย เพราะไม่จำเป็นต้องอ้างถึงกันอีกแล้ว

จากคำถามสามข้อ มี ข้อสงสัยเพิ่มเติมดังนี้ครับ

ในเหตุการณ์นี้ ฝ่ายวุย รู้ล่วงหน้าหรือไม่ ว่าจะมีหมอกลงจัด

ถ้าท่านเป็นแม่ทัพ ในสถานการณ์ที่ไม่รู้ว่า ศัตรูมาไม้ไหน ท่านจะสั่งการอย่างไร


รู้เขารู้เรา รบร้อยชนะร้อย ปรัชญาที่ใครๆ ก็รู้

นิยายสามก๊ก ถึงผมอ่านมันไม่จบสักที แต่อ่านๆ ไปก็พอรู้ว่า ตัวละครที่ชื่อ ขงเบ้ง ถูกเขียนขึ้นมา เสียดสี หลักพิชัยสงครามอันนี้
ในยุคราชวงศ์ฮั่น แน่นอน ตำราพิชัยสงครามซุนวู โด่งดังมา เหตุการณ์ในยุคเลียดก๊ก ก็เหมือนเป็น case study ของบรรดาแม่ทัพนายกอง
ที่ร่ำเรียนกันในยามที่บ้านเมืองสงบ แต่ละตัวละครต่างก็คิดว่า รู้ เหมือน โจโฉ หรือ สุมาอี้ ที่รู้และชำนาญ แต่ตัวละคร ขงเบ้ง ก็เอาสิ่งที่โจโฉคิดว่ารู้มาย้อนเกล็ดโจโฉเอง
โดยทำให้มันสวนทางกันซะ

รู้เขา รู้เรา มันจึงสำคัญที่ว่า ใครที่รู้จริง

Edited by เพลิงสีนิล, 23 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 20:25.

[color=#0000ff;][font="Tahoma, sans-serif;"]เราจะรู้.....รสชาติของความสุข[/color][font="Tahoma, sans-serif;"]ก็ต่อเมื่อ     เราผ่านความทุกข์มาก่อน[/font][/font]


#226 Solidus

Solidus

    เลิกเล่น

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 14,367 posts

ตอบ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 21:49

1. สถิติพุ่งเหลนโลก 70 กว่าเมตรครับ แต่น้ำหนักหอกกับเหลนนี่ต่างกัน ระยะวิ่งและท่าทางการพุ่ง ก็ต่างกันครับ อันนี้ลองสิครับ
แต่ที่ผมตั้งคำถามคือ ในวันที่หมอกลง จะยิงในระยะไกลหรือใกล้

2. การจอดเรือก็เหมือนกันครับ ถ้าจอดเรือกระจัดกระจาย ไม่จำเป็นเลยครับที่ต้องเผา เตรียมทัพมารบทางน้ำ วุยถนัดรบบนที่ราบ เอาทหารมากมายไปอยู่ในเรือ ก็จบแล้วอะครับ แม่ทัพฝ่านตรงข้ามรู้ ไม่ต้องเผาหรอกครับ บุกจมเรือ แล้ว ถอยตีแบบกองโจรก็จบแล้ว สงครามผาแดงไม่เกิดแน่ครับ การรักษาท่าเทียบเรือ ก็จำเป็นต้องมีกองกำลังประจำ อยู่แล้ว ท่านจะทำรั้วล้อมกองเรือหรือครับ แล้วจอดเรือกระจัดกระจาย ท่านก็บอกเองนิครับว่า จะยิงต้องรู้ตำแหน่งพวกตัวเองก่อน ยิงไปติดเรือตัวเองก็คงฮา และเป็นเหตุที่จะ
ตัดสินใจไม่ใช้ธนูไฟไหมครับ
- จอดเรือกระจัดกระจาย ต้องรู้ตำแหน่ง ไม่ิยิงธนูเพราะไฟกลัวโดนพวกตนเอง เป็นไปได้ไหม
- จอดเทียบท่า ก็รวมกันเป็นกระจุก ไม่ยิงธนูไฟกลัวเข้าทางศัตรู เอาเรือติดไฟไหลไปเผาเรื่อที่จอดเทียบก็ได้ เป็นไปได้ไหม

3. หมอกลง แสดงว่าไม่มีลมใช่ไหมครับ ที่ผมว่าตรงกันก็ตรงนี้อะครับ เหตุการณ์นี้ตัดตัวแปรเรื่อง ลม ออกไปได้เลย เพราะไม่จำเป็นต้องอ้างถึงกันอีกแล้ว

จากคำถามสามข้อ มี ข้อสงสัยเพิ่มเติมดังนี้ครับ

ในเหตุการณ์นี้ ฝ่ายวุย รู้ล่วงหน้าหรือไม่ ว่าจะมีหมอกลงจัด

ถ้าท่านเป็นแม่ทัพ ในสถานการณ์ที่ไม่รู้ว่า ศัตรูมาไม้ไหน ท่านจะสั่งการอย่างไร


รู้เขารู้เรา รบร้อยชนะร้อย ปรัชญาที่ใครๆ ก็รู้

นิยายสามก๊ก ถึงผมอ่านมันไม่จบสักที แต่อ่านๆ ไปก็พอรู้ว่า ตัวละครที่ชื่อ ขงเบ้ง ถูกเขียนขึ้นมา เสียดสี หลักพิชัยสงครามอันนี้
ในยุคราชวงศ์ฮั่น แน่นอน ตำราพิชัยสงครามซุนวู โด่งดังมา เหตุการณ์ในยุคเลียดก๊ก ก็เหมือนเป็น case study ของบรรดาแม่ทัพนายกอง
ที่ร่ำเรียนกันในยามที่บ้านเมืองสงบ ฃฃฃแต่คนต่างก็คิดว่า รู้ เหมือน โจโฉ หรือ สุมาอี้ ที่รู้และชำนาญ แต่ตัวละคร ขงเบ้ง ก็เอาสิ่งที่โจโฉคิดว่ารู้มาย้อนเกล็ดโจโฉเอง
โดยทำให้มันสวนทางกันซะ

รู้เขา รู้เรา มันจึงสำคัญที่ว่า ใครที่รู้จริง

1. สถิตโลก 70 กว่าเมตรก็ดีแล้วครับ แค่ 30 เมตรก็ไม่ยากเกินคนธรรมดาสินะครับ ให้ลองแต่คุณดันให้ใช้ไม้ถูกพื้นนี่มันไม่ยิ่งกว่าใช้แหลนอีกรึครับ :lol: :lol: :lol: แล้วน้ำหนักต่างกันเท่าไหร่ล่ะครับ หอกซัดน้ำหนักเท่าไหร่ แหลนน้ำหนักเท่าไหร่ ไม้ถูพื้นน้ำหนักเท่าไหร่ (จะว่าไปแหลนมันจัดเป็นหอกชนิดหนึ่ง แล้วมันจะหนักต่างจากหอกได้อย่างไร) แล้วลูกธนูที่เบากว่านี้คุณคิดว่าระยะจะน้อยกว่าพุ่งแหลนรึครับ วันที่หมอกลงจัดแต่ดันเห็นเงาตะคุ่มนี่คุณคิดว่าห่างกันกี่เมตรเชียวครับ ระยะนี้ต้องยิงไกลหรือใกล้ล่ะครับ แต่พวกบนฝั่งต้องยิงข้ามเรือพวกตัวเองที่จอดขนาดตลอดแนวฝั่งคิดว่าต้องยิงไกลหรือใกล้ครับ ถ้าไม่เห็นเป้าหมายทัพบกจะยิงช่วยทัพเรือยังไงมิทราบครับ ในเมื่อทัพเรือตัวเองจอดขวางอยู่ เรือพวกตัวเองขวางอยู่ยิงตรงไม่ได้ต้องแบบยิงเอียงขึ้นฟ้าแล้วให้ตกลงมาปัก

2. ตอนแรกจอดกระจัดกระจาย แต่บังทองออกอุบายเอามารวมเป็นกลุ่ม ถึงได้โดนเผาทั้งก้อนแบบนั้น ถ้ามันรวมเป็นกลุ่มอยู่แล้วบังทองออกอุบายเพื่ออะไรครับ เรือจอดกระจัดกระจายขนานตามชายฝั่งอยู่ในระยะยิงของทัพบก แล้วฝ่ายง่อจะบุกมาจมเรือยังไงมิทราบ บุกยังไม่ถึงเรือก็โดนทัพบกยิงกระหน่ำแล้ว พวกง่อที่คนน้อยก่าไม่เอามาเสี่ยงหรอกครับ สู้หาวิธีให้ทัพวุยออกเรือไปสู้กลางน้ำตามที่ง่อถนัดดีกว่า เรื่องทำรั้วไม่ได้ล้อมแค่กองเรือหรอกครับ ต้องทำล้อมค่ายบกที่ยาวเป็นพันเส้นด้วย การรักษาท่าเทียบเรือของคุณดูท่าจะขัดกับในนิยายอีกที่ให้จอดเรือใหญ่เป็นกำแพงค่ายด้านนอกแล้วให้ทหารลงเรือเล็กฝึกกันอยู่ด้านใน แล้วท่าเรือไปอยู่ไหนซะล่ะ เรื่องตำแหน่งพวกเดียวมันรู้กันอยู่แล้วถึงได้ยิงช่วยกันได้

3. เรื่องหมอกลงนี่แหละตัวแปรสำคัญที่ใส่เข้ามาทำให้ขัดกับเรื่องอื่น ๆ (จริง ๆ ขงเบ้งยืมเกาทัณฑ์มันก็เป็นเรื่องแต่งขึ้นมาอวยขงเบ้งอยู่แล้ว) คุณลองตัดเรื่องหมอกออกไป เหลือแค่กลางคืนข้างแรมดูครับ ในห่างระยะ 100 กว่าเมตรคุณมองเห็นชัดเจนหรือเห็นเป็นเงาตะคุ่มครับ คุณแยกออกไหมว่าเป็นคนหรือหุ่นฟาง สมัยนั้นไม่ได้มีสปอตไลท์ส่องนะครับ ส่วนเรื่องกลัวว่าทัพโจโฉจะนำทัพเรืออกมาสู้ไม่ต้องห่วงครับ ครั้งก่อนแพ้ศึกทางน้ำยับเยินไปขนาดนั้น ชัวมอกับเตียวอุ๋นก็หัวขาดไปแล้ว ที่เหลือก็ไม่ชำนาญเท่าทหารก็ยังเมาเรืออ้วกแตกอ้วกแตนกันอยู่ แล้วใครจะกล้าออกเรือไปรบครับ ทำได้แค่ยิงสกัดแค่นั้น ระยะก็มีเพียงธนูธรรมดาที่ถึง


เรื่องที่คุณถามเพิ่มว่าถ้าผมเป็นแม่ทัพ ในสถานการณ์ที่ไม่รู้ว่า ศัตรูมาไม้ไหน ผมจะสั่งการอย่างไร เรื่องนี้คงต้องมาสรุปก่อนกระมังครับว่าไอ้ที่เห็นเป็นเงาตะคุ่ม หมอกลงจัด กลางคืนข้างแรม มันคือระยะกี่เมตร


Edited by Jörmungandr, 24 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 04:43.

[color=#ff0000;]สำหรับผมคงเลิกเล่นบอร์ดนี้ไว้เพียงเท่านี้ ถ้าไอดีนี้ยังมีบุคคลอื่นที่ใครบางคนคิดว่าเป็นตัวจริงอยู่จริง เขาก็เข้ามาใช้บอร์ดนี้ต่อเองแต่ไม่ใช่ผมแน่นอน[/color]

ลาก่อน สวัสดีครับ 17 มกราคม 2556


#227 เพลิงสีนิล

เพลิงสีนิล

    สมาชิก ชั้น 7 โฟร์ซีซั่น

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,629 posts

ตอบ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 13:10

1. สถิติพุ่งเหลนโลก 70 กว่าเมตรครับ แต่น้ำหนักหอกกับเหลนนี่ต่างกัน ระยะวิ่งและท่าทางการพุ่ง ก็ต่างกันครับ อันนี้ลองสิครับ
แต่ที่ผมตั้งคำถามคือ ในวันที่หมอกลง จะยิงในระยะไกลหรือใกล้

2. การจอดเรือก็เหมือนกันครับ ถ้าจอดเรือกระจัดกระจาย ไม่จำเป็นเลยครับที่ต้องเผา เตรียมทัพมารบทางน้ำ วุยถนัดรบบนที่ราบ เอาทหารมากมายไปอยู่ในเรือ ก็จบแล้วอะครับ แม่ทัพฝ่านตรงข้ามรู้ ไม่ต้องเผาหรอกครับ บุกจมเรือ แล้ว ถอยตีแบบกองโจรก็จบแล้ว สงครามผาแดงไม่เกิดแน่ครับ การรักษาท่าเทียบเรือ ก็จำเป็นต้องมีกองกำลังประจำ อยู่แล้ว ท่านจะทำรั้วล้อมกองเรือหรือครับ แล้วจอดเรือกระจัดกระจาย ท่านก็บอกเองนิครับว่า จะยิงต้องรู้ตำแหน่งพวกตัวเองก่อน ยิงไปติดเรือตัวเองก็คงฮา และเป็นเหตุที่จะ
ตัดสินใจไม่ใช้ธนูไฟไหมครับ
- จอดเรือกระจัดกระจาย ต้องรู้ตำแหน่ง ไม่ิยิงธนูเพราะไฟกลัวโดนพวกตนเอง เป็นไปได้ไหม
- จอดเทียบท่า ก็รวมกันเป็นกระจุก ไม่ยิงธนูไฟกลัวเข้าทางศัตรู เอาเรือติดไฟไหลไปเผาเรื่อที่จอดเทียบก็ได้ เป็นไปได้ไหม

3. หมอกลง แสดงว่าไม่มีลมใช่ไหมครับ ที่ผมว่าตรงกันก็ตรงนี้อะครับ เหตุการณ์นี้ตัดตัวแปรเรื่อง ลม ออกไปได้เลย เพราะไม่จำเป็นต้องอ้างถึงกันอีกแล้ว

จากคำถามสามข้อ มี ข้อสงสัยเพิ่มเติมดังนี้ครับ

ในเหตุการณ์นี้ ฝ่ายวุย รู้ล่วงหน้าหรือไม่ ว่าจะมีหมอกลงจัด

ถ้าท่านเป็นแม่ทัพ ในสถานการณ์ที่ไม่รู้ว่า ศัตรูมาไม้ไหน ท่านจะสั่งการอย่างไร


รู้เขารู้เรา รบร้อยชนะร้อย ปรัชญาที่ใครๆ ก็รู้

นิยายสามก๊ก ถึงผมอ่านมันไม่จบสักที แต่อ่านๆ ไปก็พอรู้ว่า ตัวละครที่ชื่อ ขงเบ้ง ถูกเขียนขึ้นมา เสียดสี หลักพิชัยสงครามอันนี้
ในยุคราชวงศ์ฮั่น แน่นอน ตำราพิชัยสงครามซุนวู โด่งดังมา เหตุการณ์ในยุคเลียดก๊ก ก็เหมือนเป็น case study ของบรรดาแม่ทัพนายกอง
ที่ร่ำเรียนกันในยามที่บ้านเมืองสงบ ฃฃฃแต่คนต่างก็คิดว่า รู้ เหมือน โจโฉ หรือ สุมาอี้ ที่รู้และชำนาญ แต่ตัวละคร ขงเบ้ง ก็เอาสิ่งที่โจโฉคิดว่ารู้มาย้อนเกล็ดโจโฉเอง
โดยทำให้มันสวนทางกันซะ

รู้เขา รู้เรา มันจึงสำคัญที่ว่า ใครที่รู้จริง

1. สถิตโลก 70 กว่าเมตรก็ดีแล้วครับ แค่ 30 เมตรก็ไม่ยากเกินคนธรรมดาสินะครับ ให้ลองแต่คุณดันให้ใช้ไม้ถูกพื้นนี่มันไม่ยิ่งกว่าใช้แหลนอีกรึครับ :lol: :lol: :lol: แล้วน้ำหนักต่างกันเท่าไหร่ล่ะครับ หอกซัดน้ำหนักเท่าไหร่ แหลนน้ำหนักเท่าไหร่ ไม้ถูพื้นน้ำหนักเท่าไหร่ (จะว่าไปแหลนมันจัดเป็นหอกชนิดหนึ่ง แล้วมันจะหนักต่างจากหอกได้อย่างไร) แล้วลูกธนูที่เบากว่านี้คุณคิดว่าระยะจะน้อยกว่าพุ่งแหลนรึครับ วันที่หมอกลงจัดแต่ดันเห็นเงาตะคุ่มนี่คุณคิดว่าห่างกันกี่เมตรเชียวครับ ระยะนี้ต้องยิงไกลหรือใกล้ล่ะครับ แต่พวกบนฝั่งต้องยิงข้ามเรือพวกตัวเองที่จอดขนาดตลอดแนวฝั่งคิดว่าต้องยิงไกลหรือใกล้ครับ ถ้าไม่เห็นเป้าหมายทัพบกจะยิงช่วยทัพเรือยังไงมิทราบครับ ในเมื่อทัพเรือตัวเองจอดขวางอยู่ เรือพวกตัวเองขวางอยู่ยิงตรงไม่ได้ต้องแบบยิงเอียงขึ้นฟ้าแล้วให้ตกลงมาปัก

2. ตอนแรกจอดกระจัดกระจาย แต่บังทองออกอุบายเอามารวมเป็นกลุ่ม ถึงได้โดนเผาทั้งก้อนแบบนั้น ถ้ามันรวมเป็นกลุ่มอยู่แล้วบังทองออกอุบายเพื่ออะไรครับ เรือจอดกระจัดกระจายขนานตามชายฝั่งอยู่ในระยะยิงของทัพบก แล้วฝ่ายง่อจะบุกมาจมเรือยังไงมิทราบ บุกยังไม่ถึงเรือก็โดนทัพบกยิงกระหน่ำแล้ว พวกง่อที่คนน้อยก่าไม่เอามาเสี่ยงหรอกครับ สู้หาวิธีให้ทัพวุยออกเรือไปสู้กลางน้ำตามที่ง่อถนัดดีกว่า เรื่องทำรั้วไม่ได้ล้อมแค่กองเรือหรอกครับ ต้องทำล้อมค่ายบกที่ยาวเป็นพันเส้นด้วย การรักษาท่าเทียบเรือของคุณดูท่าจะขัดกับในนิยายอีกที่ให้จอดเรือใหญ่เป็นกำแพงค่ายด้านนอกแล้วให้ทหารลงเรือเล็กฝึกกันอยู่ด้านใน แล้วท่าเรือไปอยู่ไหนซะล่ะ เรื่องตำแหน่งพวกเดียวมันรู้กันอยู่แล้วถึงได้ยิงช่วยกันได้

3. เรื่องหมอกลงนี่แหละตัวแปรสำคัญที่ใส่เข้ามาทำให้ขัดกับเรื่องอื่น ๆ (จริง ๆ ขงเบ้งยืมเกาทัณฑ์มันก็เป็นเรื่องแต่งขึ้นมาอวยขงเบ้งอยู่แล้ว) คุณลองตัดเรื่องหมอกออกไป เหลือแค่กลางคืนข้างแรมดูครับ ในห่างระยะ 100 กว่าเมตรคุณมองเห็นชัดเจนหรือเห็นเป็นเงาตะคุ่มครับ คุณแยกออกไหมว่าเป็นคนหรือหุ่นฟาง สมัยนั้นไม่ได้มีสปอตไลท์ส่องนะครับ ส่วนเรื่องกลัวว่าทัพโจโฉจะนำทัพเรืออกมาสู้ไม่ต้องห่วงครับ ครั้งก่อนแพ้ศึกทางน้ำยับเยินไปขนาดนั้น ชัวมอกับเตียวอุ๋นก็หัวขาดไปแล้ว ที่เหลือก็ไม่ชำนาญเท่าทหารก็ยังเมาเรืออ้วกแตกอ้วกแตนกันอยู่ แล้วใครจะกล้าออกเรือไปรบครับ ทำได้แค่ยิงสกัดแค่นั้น ระยะก็มีเพียงธนูธรรมดาที่ถึง


เรื่องที่คุณถามเพิ่มว่าถ้าผมเป็นแม่ทัพ ในสถานการณ์ที่ไม่รู้ว่า ศัตรูมาไม้ไหน ผมจะสั่งการอย่างไร เรื่องนี้คงต้องมาสรุปก่อนกระมังครับว่าไอ้ที่เห็นเป็นเงาตะคุ่ม หมอกลงจัด กลางคืนข้างแรม มันคือระยะกี่เมตร

      1 -  เหลน เบากว่าอะครับ    แล้ว หอกในสมัยสามก๊ก    ลอก search รูปดูสิครับ  ขว้างไหวไหม   เรื่องไม้ถูพื้นอันนี้ผมพลาดเองครับ เพราะที่บ้านใช้แบบปากแบนหนีบ

            หัวไว้  เอาหัวออกก็ยังเหลือส่วนที่หนีบ คล้าย ๆ  หอกสมัยนั้นนิดหน่อย    

         -  เรื่องระยะธนูสำคัญครับ  ใกล้หรือไกล  

         -  เรือจอบเทียบท่า จำเป็นหรือครับ ว่าต้องอยู่หน้าค่าย  เยื้องได้ไหม  เป็นแนวตามแม่น้ำ  

         -  เรื่องหมอกก็เหมือนกันครับ ก็มีหลายแบบ

 

             article-2063928-0ee0a60700000578-742_634

 

             หรือ แบบนี้ 

 

             20060612.diary_120606_008.JPG

 

            มองได้ทั้งนั้นอะครับ  

 

     2  เรื่องจอดเรือเทียบท่านี่ ถ้าท่านจอดกระจัดกระจาย ทหารวุย พักผ่อนกันยังไง       ส่วนที่บังทองแนะนั้นเป็นการออก ล่องเรือออกไปหรือเปล่า    

         ที่ให้ล่ามเรือไว้ด้วยกัน เพื่อไม่ให้มันโคลงเคลงมาก ทหารวุยจะได้ไ่ม่เมาเรือ   จะได้รบได้   

         

          อีกอย่างบุกยังไม่ถึงเรื่อท่านก็สั่งยิงกระหน่ำแล้ว จนพรุนแล้ว มันก็เป็นส่วนที่แสดงให้เห็นความเคยชินของคนที่เป็นแม่ทัพอะครับ ว่า ยิงไว้  

          ก่อนหรือเปล่า  พฤติกรรมแบบนี้ ผมก็ไม่แปลกใจอะครับ ว่าแม่ทัพบางคนในวุย จะสั่งยิงไว้ก่อน   แม้ได้ยินแค่เสียงก็ตาม  

 

          ส่วนข้อแตกต่างของการเผาเรือ ระหว่างเทียบท่า  กับ เผากองเรือ ระหว่างรบ   ผมเสียหายต่างกันมากครับ

           เทียบท่าเผาได้แค่เรือ  เพระาทหารหนีขึ้นฝั่งได้ง่าย    มีำกำลังคนสร้างเรือใหม่ไม่ยาก 

           แต่เผากองเรื่อระหว่างรบ  มันหลอกไปเผากลางน้ำ    ใส่เกราะตกน้ำ อาจถึงตายได้     

 

   3.   เหตุที่ท่านยกมาก็เพียงพอแล้วละครับว่า  ต้องใช้ธนู   ทหารไม่กล้าออกเรือมารบ   ข้อนี้ผมยกมาสนับสนุนเรื่อง ลม ที่จะเผาเรือเท่านั้นเอง  

 

 

่จากที่ถก กันมาก็ยังสรุปไม่ได้อยู่ดีอะครับ ว่าใช้ธนูไฟ ได้หรือไม่    


Edited by เพลิงสีนิล, 24 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 15:48.

[color=#0000ff;][font="Tahoma, sans-serif;"]เราจะรู้.....รสชาติของความสุข[/color][font="Tahoma, sans-serif;"]ก็ต่อเมื่อ     เราผ่านความทุกข์มาก่อน[/font][/font]


#228 ter162525

ter162525

    มหาอำมาตย์ใต้พระบาทตลอดกาล

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,077 posts

ตอบ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 15:26

สงสัย ธนู เกี่ยวอะไร กับหอกหรือเหลน งง ระยะ ผมบอกแล้ว ว่า ธนู อย่างง่ายที่พวกผมทำเล่นๆสามารถยิงได้ไกล 30-40 เมตร(ไม่ไผ่กับเชือกไนเลือน ลูกธนูใช้ไม้ไผ่พันปลายให้หนักท้ายผูกพู่)ไม่ไผ่นี้ ง้ากันแค่ 2-3 ครั้งก็จะหักกันแล้ว ธนูที่ใช้ในสงครามจะไกลขนาดไหน
บรรพชนเป็นพยาน ข้าลูกหลานแผ่นดินท่าน ขอสาปส่ง มันผู้ใด ทรยศ คดโกงชาติ ขายแผ่นดิน ขอให้มันบรรลัย อย่าได้มีสุขในแผ่นดินนี้ เดินเหยียบไปในถิ่นใด ขอให้มันร้อนรนดังถูกเพลิงเผา มันผู้ใด คิดล้มล้างกษัตริย์ผู้ทรงทศพิธ ของให้มันผู้นั้นเกิดเป็นคนอนาถทุกชาติไป

#229 เพลิงสีนิล

เพลิงสีนิล

    สมาชิก ชั้น 7 โฟร์ซีซั่น

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,629 posts

ตอบ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 16:00

สงสัย ธนู เกี่ยวอะไร กับหอกหรือเหลน งง ระยะ ผมบอกแล้ว ว่า ธนู อย่างง่ายที่พวกผมทำเล่นๆสามารถยิงได้ไกล 30-40 เมตร(ไม่ไผ่กับเชือกไนเลือน ลูกธนูใช้ไม้ไผ่พันปลายให้หนักท้ายผูกพู่)ไม่ไผ่นี้ ง้ากันแค่ 2-3 ครั้งก็จะหักกันแล้ว ธนูที่ใช้ในสงครามจะไกลขนาดไหน

 

ท่านอาจจะ งง  

 

คือ กำลัง ถก กันเรื่อง    ในกรณีเรือฝางยืมธนู    ทำไมถึงไม่ใช้ธนูไฟ    

 

ผมก็ยกเหตุมา่ว่า  อาจมีเหตุที่ วุย  ไม่สามารถใช้ธนูไฟก็เป็นได้  

 

อ้างถึงกันไป  อ้างถึงกันมา  ออกเรื่อง หอก เรื่อง เหลน ได้ไงไม่รู้  

 

 

จาก  ข้อสงสัยแรกๆ   ถกไป ถกมา  จนเริ่ม งง กันแล้ว   :)    

 

 

สิ่งที่ผม ยังสงสัย ค้างอยู่  และยังหาคำตอบไม่ไ้ด้คือ 

   

   -  ธนูไฟในสมัยนั้น  เอาอะไปเป็นเชื้อเพลิง จุด ธนู     ผมคิดว่าเป็น ขี้ไต้    แต่ปริมาณที่ใช้เท่าไร  เป็นไปได้หรือไม่ว่ามีการเตรียมพร้อมไว้ก่อน แม้เหตุการณ์เกิดกระทันหัน ก็เอามาให้ได้      และ ถ้าใช้ธนูไฟ อัตราการพุ่งของลูกศรในระยะทางไกลทำให้ไฟดับได้หรือไม่   ซึ่งกรณีนี้ผมบอกว่าเตรียมไว้ก่อนเป็นเรื่องยาก  ทำจำนวนธนูไฟจำนวนมากมาย ไม่ใช่เรื่องง่ายและปริมาณ เชื้อเพลิงเวลาในการจุด อาจะเป็นปัญหาสำคัญ   อันนี้ก็โดนแย้งว่า  เอาผ้าชุบน้ำมันพันเอา แล้ว ยิงก็ได้    เลยยังไม่ได้ข้อสรุปเพราะหาข้อมูลมายืนยันกันไม่ได้ 

 

    -  เป็นไปได้ไหมที่ วุย  ไม่ยอมใช้ธนูไฟ เพราะ กล้ว  ศัตรูไหลเรือมาน้ำมายัง ท่าเทียบ เพื่อเผาเรือ   เพราะหากหยุดเรือไว้ กลางน้ำไม่ได้  แต่อันนี้ท่าน  Jörmungandr บอกว่าจอดเรือกระจัดกระจายก็ได้   ผมก็ยกเหตุผลมาแย้ง  

   

    -  จาก ข้อที่สองเลยมี ข้อสงสัยว่า  ในวันที่หมอกลง เห็นได้ไกลแค่ไหน    เพราะจากข้ออ้างสองข้อบน สำคัญคือระยะมองเห็น และระยะยิงหวังผลมีผมต่อการตัิดสินใจ  ของแม่ทัพ    เพราะถ้าระยะไกลเกินกว่า  100 เมตร  ถึงไม่ใช้ธนูไฟ  พี่เบ้งก็คงตายกลางน้ำไปแล้ว  

   

    -  แม่น้ำแยงซีเกียงที่ต้งค่ายของโจโฉ กว้างแค่ไหน   ผมมองแผนที่ยังไง มันก็ไม่ได้กว้างมากมาย      

 

 

สำหรับผม  ผมว่านิยายมันโม้  แต่    นักเขียนคงไม่โง่ ขนาดไม่ศึกษาอะไร ก่อนเขียนเลย


Edited by เพลิงสีนิล, 24 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 16:17.

[color=#0000ff;][font="Tahoma, sans-serif;"]เราจะรู้.....รสชาติของความสุข[/color][font="Tahoma, sans-serif;"]ก็ต่อเมื่อ     เราผ่านความทุกข์มาก่อน[/font][/font]


#230 Solidus

Solidus

    เลิกเล่น

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 14,367 posts

ตอบ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 00:16

    1 -  เหลน เบากว่าอะครับ    แล้ว หอกในสมัยสามก๊ก    ลอก search รูปดูสิครับ  ขว้างไหวไหม   เรื่องไม้ถูพื้นอันนี้ผมพลาดเองครับ เพราะที่บ้านใช้แบบปากแบนหนีบ

            หัวไว้  เอาหัวออกก็ยังเหลือส่วนที่หนีบ คล้าย ๆ  หอกสมัยนั้นนิดหน่อย    

         -  เรื่องระยะธนูสำคัญครับ  ใกล้หรือไกล  

         -  เรือจอบเทียบท่า จำเป็นหรือครับ ว่าต้องอยู่หน้าค่าย  เยื้องได้ไหม  เป็นแนวตามแม่น้ำ  

         -  เรื่องหมอกก็เหมือนกันครับ ก็มีหลายแบบ

 

             article-2063928-0ee0a60700000578-742_634

 

             หรือ แบบนี้ 

 

             20060612.diary_120606_008.JPG

 

            มองได้ทั้งนั้นอะครับ  

 

     2  เรื่องจอดเรือเทียบท่านี่ ถ้าท่านจอดกระจัดกระจาย ทหารวุย พักผ่อนกันยังไง       ส่วนที่บังทองแนะนั้นเป็นการออก ล่องเรือออกไปหรือเปล่า    

         ที่ให้ล่ามเรือไว้ด้วยกัน เพื่อไม่ให้มันโคลงเคลงมาก ทหารวุยจะได้ไ่ม่เมาเรือ   จะได้รบได้   

         

          อีกอย่างบุกยังไม่ถึงเรื่อท่านก็สั่งยิงกระหน่ำแล้ว จนพรุนแล้ว มันก็เป็นส่วนที่แสดงให้เห็นความเคยชินของคนที่เป็นแม่ทัพอะครับ ว่า ยิงไว้  

          ก่อนหรือเปล่า  พฤติกรรมแบบนี้ ผมก็ไม่แปลกใจอะครับ ว่าแม่ทัพบางคนในวุย จะสั่งยิงไว้ก่อน   แม้ได้ยินแค่เสียงก็ตาม  

 

          ส่วนข้อแตกต่างของการเผาเรือ ระหว่างเทียบท่า  กับ เผากองเรือ ระหว่างรบ   ผมเสียหายต่างกันมากครับ

           เทียบท่าเผาได้แค่เรือ  เพระาทหารหนีขึ้นฝั่งได้ง่าย    มีำกำลังคนสร้างเรือใหม่ไม่ยาก 

           แต่เผากองเรื่อระหว่างรบ  มันหลอกไปเผากลางน้ำ    ใส่เกราะตกน้ำ อาจถึงตายได้     

 

   3.   เหตุที่ท่านยกมาก็เพียงพอแล้วละครับว่า  ต้องใช้ธนู   ทหารไม่กล้าออกเรือมารบ   ข้อนี้ผมยกมาสนับสนุนเรื่อง ลม ที่จะเผาเรือเท่านั้นเอง  

 

 

่จากที่ถก กันมาก็ยังสรุปไม่ได้อยู่ดีอะครับ ว่าใช้ธนูไฟ ได้หรือไม่    

1. แหลนเบากว่า? มันจะเบากว่าไงมิทราบในเมื่อมันก็จัดเป็นหอก หอกมีหลายชนิดครับ หอกที่เอาไว้ปาโดยเฉพาะก็มี ถือมือเดียวหนักครึ่งกิโลก็มีครับ เอาแค่หอกซัดหลังม้า หอกซัดหลังช้างก็ต่างกันแล้ว

- ระยะธนูสำคัญว่าใกล้หรือไกล ลิโป้ยิงปลายทวน 150 ก้าวบางสำนวนให้ 5 เส้นที่เป้าหมายเป็นจุดยังถึง ไอ้แค่ยิงเป็นกลุ่มดังห่าฝนสำหรับกองทัพนะเหลือเฟือ ดีที่ไม่เจอสมัยมองโกลที่ยิงถึง 500 เมตร ถ้าเป้าหมายอยู่แค่ 30 เมตร แล้วจะยิงไกล 100 เมตรทำไม ถึงให้สรุปก่อนว่าเรือขงเบ้งมันห่างทัพโจโฉกี่เมตร

- การตั้งค่ายของกระบวนทัพบกที่ทอดยาวถึงสามพันเส้น วกอ้อมไปอิงเนินเขา ด้านหน้าเป็นทะเล ด้านหลังอิงเนินเขาอยู่ทุกค่าย แล้วมิทราบเรือแค่ 2000 ลำ จะจอดเยื้องค่ายยังไงครับ จอดยังไงมันก็อยู่หน้าค่าย

- ตกลงเรือขงเบ้งจุดคบไฟด้วยหรือครับ ถึงเอาภาพที่เปิดไฟมาเทียบ แล้วมองเห็นได้ไกลหลายสิบเมตรนี่เรียกว่าหมอกลงจัดรึครับ สรุปได้ยังไอ้เงาตะคุ่มกลางหมอกจัดตอนกลางคืนข้างแรมมันห่างกี่เมตร

 

2. ผักผ่อนกันยังไง ค่ายบกมันไม่มีรึครับ แล้วมันมีการให้ลงเรือเล็กเพื่อฝึกซ้อมด้วยนะครับใช้เรือใหญ่บังคลื่นอยู่ด้านนอก จะนอนก็นอนในเรือเล็กได้ เรือใหญ่เหลือแค่พวกเฝ้ายาม เรื่องบังทองนะ ตอนนั้นพูดถึงเรื่องการตั้งค่ายอยู่นะครับ เป็นการตั้งรับ ไม่รู้ว่าโจโฉมันลืมคิดถึงเรื่องบุกหรือคนแต่งคิดว่ายังไงก็ต้องโดนเผาเพราะปูทางมาแล้ว เลยไม่ได้เผื่อเรื่องบุกไว้ ผูกยึดเรือเป็นก้อนแบบนั้นบังคับทิศทางล่องเรือข้ามฝังไม่ได้กันพอดี

 

เรื่องสั่งยิงใครว่าได้ยินแต่เสียง ในเมื่อดันบรรยายว่าเห็นเป็นเงาตะคุ่ม แสดงว่าไม่ได้ยิงแต่เสียง แล้วบุกยังไม่ทันถึงก็ยิงกระหน่ำนั้นถูกครับ แต่ไม่ได้ยิงกระหน่ำตลอดเวลา 3 ชั่วโมงแบบนั้น ยิงแค่ชุดสองชุดก็หยุดดูท่าทีแล้วครับ อีกฝ่ายยังนิ่งเฉยแสดงว่าต้องมีอุบายอะไรบางอย่างแล้วครับ

 

การเผาเรือระหว่างเทียบท่ากับเผากองเรือระหว่างรบ ตอนทัพโจโฉโดนเผาก็ตอนเรือเทียบท่าแต่ตอนนั้นโดนอุบายบังทองไปแล้วทำให้แยกเรือไม่ทันทหารส่วนใหญ่ยังตายเลยครับบ้างโดนไฟเผา บางก็ตกน้ำจมน้ำ แล้วที่คุณบอกว่าหากเผากองเรือระหว่างรบ เผากลางน้ำ ใส่เกราะตกน้ำ อาจถึงตายได้ คุณไม่คิดหรือว่าในเมื่อคุณเองบอกว่าทัพโจโฉเทียบท่าอยู่ เรือขงเบ้งมันก็อยู่กลางน้ำ ทำไมจะใช้ธนูไฟไม่ได้

 

3. ใช่ต้องใช้ธนู ออกเรือไม่ได้ ที่สำคัญคือระยะธนูไฟไปไม่ถึง แต่ต้องตัดเรื่องหมอกลงจัดดันมองเห็นเป็นเงาตะคุ่มได้

ทหารไม่กล้าออกเรือเพราะครั้งก่อนพ่ายยับ คนยังฝึกไม่ชำนาญพอสู้กลางน้ำได้ ไม่ใช่ไม่กล้าออกเรือเพราะหมอกลงจัด

 

จะสรุปว่าใช้ธนูไฟได้หรือไม่คงต้องไปสรุปให้ได้ก่อนว่าเห็นเป็นเงาตะคุ่ม หมอกลงจัด กลางคืนข้างแรม มันระยะห่างกี่เมตร


Edited by Jörmungandr, 25 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 04:09.

[color=#ff0000;]สำหรับผมคงเลิกเล่นบอร์ดนี้ไว้เพียงเท่านี้ ถ้าไอดีนี้ยังมีบุคคลอื่นที่ใครบางคนคิดว่าเป็นตัวจริงอยู่จริง เขาก็เข้ามาใช้บอร์ดนี้ต่อเองแต่ไม่ใช่ผมแน่นอน[/color]

ลาก่อน สวัสดีครับ 17 มกราคม 2556


#231 Solidus

Solidus

    เลิกเล่น

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 14,367 posts

ตอบ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 00:24

สงสัย ธนู เกี่ยวอะไร กับหอกหรือเหลน งง ระยะ ผมบอกแล้ว ว่า ธนู อย่างง่ายที่พวกผมทำเล่นๆสามารถยิงได้ไกล 30-40 เมตร(ไม่ไผ่กับเชือกไนเลือน ลูกธนูใช้ไม้ไผ่พันปลายให้หนักท้ายผูกพู่)ไม่ไผ่นี้ ง้ากันแค่ 2-3 ครั้งก็จะหักกันแล้ว ธนูที่ใช้ในสงครามจะไกลขนาดไหน

ยกเรื่องหอกแหลนมา เพราะระยะธนูต้องเกินกว่าระยะหอกแหลนไงครับ สถิติโลกพุ่งแหลน (javelin) ถึง 90 เมตรเลยนะครับ

ธนูที่ใช้ในสงครามถ้ายิงเป้าหมายเป็นกลุ่มก็เกิน 200 เมตรครับ เจอธนูมองโกลนี่ไกลเกิน 500 เมตร แต่พลธนูต้องใช้เวลาฝึกนานครับ เมื่อมาถึงยุคปืนไฟ พลธนูเลยลดบทบาทไปเพราะพลปืนไฟใช้เวลาฝึกสั้นกว่าพลธนูมาก วันเดียวก็ยิงกันได้แล้ว ถึงแม้ว่าช่วงแรก ๆ ระยะปืนไฟจะสั้นกว่าก็ตาม


Edited by Jörmungandr, 25 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 04:27.

[color=#ff0000;]สำหรับผมคงเลิกเล่นบอร์ดนี้ไว้เพียงเท่านี้ ถ้าไอดีนี้ยังมีบุคคลอื่นที่ใครบางคนคิดว่าเป็นตัวจริงอยู่จริง เขาก็เข้ามาใช้บอร์ดนี้ต่อเองแต่ไม่ใช่ผมแน่นอน[/color]

ลาก่อน สวัสดีครับ 17 มกราคม 2556





ผู้ใช้ 6 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้

สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 6 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน