สามก๊ก เอามาใช้ในทางการเมือง-ทหาร ได้จริงๆ หรือ?
#101
ตอบ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 00:47
แต่คราววางอุบายเผาสุมาอี้ ดันมีฝนตกมาช่วยซะงั้น
อ้าว! ไหนว่าหยั่งรู้ดินฟ้าไง
- เพลิงสีนิล and พระฤๅษี like this
“ ...คนชั่วจะถูกปราบราบคาบสิ้น แผ่นดินเดือดสูญหายไร้ปัญหา ,
ประเทศชาติผ่านวิกฤติด้วยศรัทธา ยามเมื่อฟ้าสีทองผ่องอำไพ “
#102
ตอบ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 02:47
ทำไมต้องมัดฟางเป็นหุ่นครับ แล้วที่บอกว่าเห็นก็เลือนลางตะคุ่มตะคุ่ม ไหนบอกว่ามองไม่เห็น แต่ได้ยินไงครับ ทหารโจโฉเป็นโรค Synesthesia รึไงครับถึงได้เห็นเสียงได้ ยิงมั่วแต่ลูกธนูติดเรือเป็นแสนแบบนี้ฝ่ายโจโฉไม่ยิงเป็นล้านลูกรึ
มีแต่คนวิเคราะห์เอาเองสินะครับ แล้วในนิยายเขียนไหมล่ะครับ
สงสัยนิดนึงว่า ในนิยายบอกเหตุผลไหมว่าขงเบ้งมั่นใจอย่างไรว่าฝ่ายโจโฉจะไม่ใช้ธนูไฟ
เช่น ตอนที่ขงเบ้งใช้อุบายทำเรือขนฟางเพื่อหลอกให้ฝ่ายโจโฉยิงธนูเข้าใส่เพื่อเอาอาวุธมาใช้
อันนี้จำแม่นมากว่าพ่อยกตอนนี้มาเพื่อชี้ให้เห็น "การใช้ปัญญาแก้สถานการณ์ที่ไม่มีอาวุธไปสู้รบ" ได้อย่างไร เป็นต้น
คำตอบอยู่ในนี้ครับ
ขงเบ้งลวงเอาลูกเกาทัณฑ์ .. ทำได้จริง
อ้างว่าหมอกลงจัดมองข้างหน้าแทบไม่เห็น แล้วมิทราบทหารโจโฉเห็นเรือได้อย่างไร ฝ่ายขงเบ้งจุดไฟบนเรือใช่หรือไม่ ถ้าจุดไฟบนเรือได้ก็แสดงว่าไฟใช้ได้สิครับ
คิดเอาเองนิ ไม่ได้ทดลองจริงๆ ว่าหมอกลงแล้วยิงไป แล้วดับหรือเปล่า
แล้วก็ย่างที่ท่าน solidus คิด ถ้ามองไม่เห็นแล้วจะยิงกันยังไง
"มองไม่เห็น แต่ได้ยินครับ"
ขงเบ้งให้ทหารตีฆ้อง โห่ร้องอื้ออึง โลซกที่นั่งไปด้วยตกใจบอกว่าเราเอาทหารมาน้อย ถ้าโจโฉแล่นเรือออกมาเราจะสู้ได้อย่างไร
ขงเบ้งจึงว่าหมอกลงหนักอยู่ ที่ไหนโจโฉจะยกเรือออกมา ซึ่งก็เป็นตามที่ขงเบ้งคาด
เพราะฝ่ายโจโฉก็ไม่กล้ายกออกมากลัวจะเป็นอุบาย ได้ยินแต่เสียง เห็นก็เลือนลางตะคุ่มตะคุ่ม จึงได้แต่ยิงเกาทัณฑ์ใส่
(ตัวอย่าง ภาพหมอกในประเทศจีน หรือลองกูเกิลค้นรูปภาพด้วยคำว่า fog in china ดูก็ได้ครับ มีเยอะ)
ส่วนเรื่องทำไมไม่ใช้ธนูไฟนั้น ผมเองไม่เคยทดลองยิงธนูไฟใส่หมอกไม่อาจตอบได้เต็มร้อย แต่เรื่องหมอกจัดนั้นพอรู้อยู่บ้าง
วันที่หมอกลงหนัก ๆ ความชื้นในอากาศจะมีมากพอ ๆ กับวันที่ฝนตก
บ้านผมเองอยู่ทางภาคเหนือ เคยไปประเทศจีน เคยเห็นวันที่หมอกลงจัด ๆ และรู้ว่ามันเปียกขนาดไหนเวลาหมอกลง
ขี่มอเตอร์ไซค์ หรือเดินผ่านหมอกตัวก็เปียกปอนแล้ว จึงคิดว่าธนูไฟ ยิงไปยังไงก็ดับ...
สามก๊กเป็นเรื่องแต่งก็จริง... แต่ก็ยังอยู่บนพื้นฐานและกฏเกณฑ์ของธรรมชาติ
ภูมิปัญญาคนโบราณ น่านับถือมากครับ
ธนูไฟชุบน้ำมันไม่ดับง่าย ๆ หรอกครับ ถ้าไม่โดนขนาดฝนตก หมอกโดนความร้อนจากไฟไล่ไม่มาจับจนเปียก
แล้วเรื่องหมอกลงหนัก แถมเป็นเวลากลางคืนข้างแรมอีก แต่เห็นเลือนลางนี่เอาระยะเท่าไหร่ดีครับ
สามก๊กฉบับหลอกว้านจงก็แต่งขึ้นมาเพื่อเล่นงิ้ว หลายเหตุการณ์ในนั้นไม่ได้อยู่บนพื้นฐานและกฏเกณฑ์ของธรรมชาติ
ถ้าเจอโจโฉใช้ธนูไฟ ขงเบ้งคงสั่งให้ทิ้งฟางแล้วแล่นเรือกลับไปหาเล่าปี่โดยพลัน
[color=#ff0000;]สำหรับผมคงเลิกเล่นบอร์ดนี้ไว้เพียงเท่านี้ ถ้าไอดีนี้ยังมีบุคคลอื่นที่ใครบางคนคิดว่าเป็นตัวจริงอยู่จริง เขาก็เข้ามาใช้บอร์ดนี้ต่อเองแต่ไม่ใช่ผมแน่นอน[/color]
ลาก่อน สวัสดีครับ 17 มกราคม 2556
#103
ตอบ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 02:55
หยั่งรู้เท่าที่คนเขียนจะอวยครับ เพราะเหตุการณ์ตามประัติศาสตร์กำหนดไว้แล้วว่ายังไงสุมาอี้ก็ต้องรอด ตายหลังขงเบ้ง ฉะนั้นขงเบ้งทำยังไงก็ฆ่าสุมาอี้ไม่ได้ขงเบ้ง ตอนเผาทัพเรือโจโฉยังรู้เลยว่าจะมีลมมาช่วยโหมไฟ
แต่คราววางอุบายเผาสุมาอี้ ดันมีฝนตกมาช่วยซะงั้น
อ้าว! ไหนว่าหยั่งรู้ดินฟ้าไง
[color=#ff0000;]สำหรับผมคงเลิกเล่นบอร์ดนี้ไว้เพียงเท่านี้ ถ้าไอดีนี้ยังมีบุคคลอื่นที่ใครบางคนคิดว่าเป็นตัวจริงอยู่จริง เขาก็เข้ามาใช้บอร์ดนี้ต่อเองแต่ไม่ใช่ผมแน่นอน[/color]
ลาก่อน สวัสดีครับ 17 มกราคม 2556
#104
ตอบ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 07:57
ขงเบ้ง ตอนเผาทัพเรือโจโฉยังรู้เลยว่าจะมีลมมาช่วยโหมไฟ
แต่คราววางอุบายเผาสุมาอี้ ดันมีฝนตกมาช่วยซะงั้น
อ้าว! ไหนว่าหยั่งรู้ดินฟ้าไง
1. ต้องโทษคนเขียนบท
2. ตอนนั้นไม่ได้เป็นแม่ทัพ คนอื่นรบชนะ แต่แอบอ้างว่าเป็นแผนตนเอง
อย่างไหนถูกหว่า?
#105
ตอบ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 10:36
มีแต่คนวิเคราะห์เอาเองสินะครับ แล้วในนิยายเขียนไหมล่ะครับ
สงสัยนิดนึงว่า ในนิยายบอกเหตุผลไหมว่าขงเบ้งมั่นใจอย่างไรว่าฝ่ายโจโฉจะไม่ใช้ธนูไฟ
เช่น ตอนที่ขงเบ้งใช้อุบายทำเรือขนฟางเพื่อหลอกให้ฝ่ายโจโฉยิงธนูเข้าใส่เพื่อเอาอาวุธมาใช้
อันนี้จำแม่นมากว่าพ่อยกตอนนี้มาเพื่อชี้ให้เห็น "การใช้ปัญญาแก้สถานการณ์ที่ไม่มีอาวุธไปสู้รบ" ได้อย่างไร เป็นต้น
คำตอบอยู่ในนี้ครับ
ขงเบ้งลวงเอาลูกเกาทัณฑ์ .. ทำได้จริง
อ้างว่าหมอกลงจัดมองข้างหน้าแทบไม่เห็น แล้วมิทราบทหารโจโฉเห็นเรือได้อย่างไร ฝ่ายขงเบ้งจุดไฟบนเรือใช่หรือไม่ ถ้าจุดไฟบนเรือได้ก็แสดงว่าไฟใช้ได้สิครับ
ทำไมไม่ใช้ธนูไฟ ถ้าให้ อ้างเหตุผล ก็มีอยู่หลายเหตุผลครับ
อย่างแรก ต้องมีการเตรียมพร้อม เหตุการณ์ ฉุกเฉิน ยิงเลยคงไม่ได้ ถ้าทำเตรียมไว้ ก็เป็นการสิ้นเปลือง หรือ เกิดไฟไหม้ค่ายกันได้ง่ายๆ
อย่างที่สอง ในทัศนวิสัยที่ไม่ดี การใช้ธนูไฟ ก็เปรียบเสมือน เปิดเผยที่ตั้งของกองกำลังในทันที โดนศัตรูยิงธนูสวนมาได้ง่ายๆ
อย่างที่สาม ในกรณีที่รบบนแม่น้ำ การใช้ธนูไฟกับเป้าหมายที่ไม่ชัดเจน อาจไม่ได้ผล
[color=#0000ff;][font="Tahoma, sans-serif;"]เราจะรู้.....รสชาติของความสุข[/color][font="Tahoma, sans-serif;"]ก็ต่อเมื่อ เราผ่านความทุกข์มาก่อน[/font][/font]
#106
ตอบ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 10:41
ผมว่าสิ่งที่น่าสนใจคือหลักการดำเนินชีวิตของ เล่าปี่ และ โจโฉ เพื่อมุ่งไปสู่ความสำเร็จ(รวมแผ่นดินให้เป็นหนึ่ง)
เพราะทั้งสองจัดการกับชีวิตของตนเองจนประสบความสำเร็จระดับหนึ่ง แต่ไม่ถึงเป้าหมายที่ตนว่างไว้
หากใครดึงแนวคิดที่ดีของทั้งสองออกมารวมกัน แล้วนำไปใช้ได้ งานไม่ว่าจะใหญ่หรือเล็กก้น่าจะสำเร็จได้
ส่วนหลักการใช้งานคนนั้น ผมว่า กรณีของขงเบ้งกับโจโฉ จะนำมาเทียบกันยากว่าใครใช้งานคนเก่งกว่ากัน เพราะทรัพยากรบุคคลของโจโฉเยอะเหลือเกิน งานแต่ละครั้งเรียกใช้แทบไม่ซ้ำหน้า ส่วนขงเบ้ง ก็มีแต่คนเดิมๆ แถมคนที่จะมาทดแทนคนที่เสียไปก็มีมาไม่ทัน
#107
ตอบ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 11:13
ที่มัฆวาน-ลานพระบรมรูป อย่างน้อยที่ผมเห็น คือ ( กลศึก แยก-
แล้วทำลาย. ลงมือก่อนได้ชัยก่อน ) ส่วนแผน ( ขงเบ้งขึ้นกำแพง-
แสร้งตีขิม..พยักยิ้มให้ศึก นึกฉงน ) เป็นแผนของ หลอกว้านจง เอา
ไว้เล่นงิ้ว..คิดดู เมืองนั้นเล็กนิดเดียว สุมาอี้ สั่งทหารล้อมเมือง-
ขงเบ้ง.ก็เบ้งเถอะ.หงายเก๋ง .. คือคนเขียนเขาเขียนได้ดี สุมาอี้กลัว
แผนกลศึกขงเบ้งเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เห็นก็เฮ้ย ๆ ช้า ๆ มันจะมาไม้-
ไหนวะนี่ อย่างน้อยก็ขอไม่ประมาทไว้ก่อน ถ้าสุมาอี้ลุยตามคำยุของลูก
เบ้งก็เบ้งเหอะ..ถ้าครั้งนั้น สุมาอี้ สั่งล้อมเมืองสัก 3 วัน เบ้งก็บูด หรือสั่ง
กองตระเวนรอบเมือง..เบ้งก็เบี้ยวอีก...( ละครน้ำเน่าของ ท่านหลอฯ )...
- เพลิงสีนิล likes this
#108
ตอบ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 11:17
ต่อให่ใช้ธนูไฟ(ที่ชุบน้ำมัน) แต่มันไปปักที่เรือ-หุ่นเปียกน้ำ ผมว่ามันคงไม่ติดไฟง่ายนักหรอกครับ ลองก่อไฟ แล้วเอาหญ้าสดใส่ลงไปไฟยังดับเลย แล้วอันนี้กว่าธนูฝ่าหมอกไปส่วนนึง แล้วไปเสียบที่ฟางเปียกอีก ก็คงไม่ทำให้ติดไฟเท่าไหร่
สละชีพเพื่อหลักธรรมคือคำขวัญ
ฆ่าคนเพื่อชิงอำนาจคือวิธีการ
ส่วนลิ่วล้อที่ส่งไปตายก็คือตัวหมากแห่งคุณธรรม
#109
ตอบ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 11:52
1. การนำทัพไม่มีการเตรียมพร้อมรึครับ
มีแต่คนวิเคราะห์เอาเองสินะครับ แล้วในนิยายเขียนไหมล่ะครับ
สงสัยนิดนึงว่า ในนิยายบอกเหตุผลไหมว่าขงเบ้งมั่นใจอย่างไรว่าฝ่ายโจโฉจะไม่ใช้ธนูไฟ
เช่น ตอนที่ขงเบ้งใช้อุบายทำเรือขนฟางเพื่อหลอกให้ฝ่ายโจโฉยิงธนูเข้าใส่เพื่อเอาอาวุธมาใช้
อันนี้จำแม่นมากว่าพ่อยกตอนนี้มาเพื่อชี้ให้เห็น "การใช้ปัญญาแก้สถานการณ์ที่ไม่มีอาวุธไปสู้รบ" ได้อย่างไร เป็นต้น
คำตอบอยู่ในนี้ครับ
ขงเบ้งลวงเอาลูกเกาทัณฑ์ .. ทำได้จริง
อ้างว่าหมอกลงจัดมองข้างหน้าแทบไม่เห็น แล้วมิทราบทหารโจโฉเห็นเรือได้อย่างไร ฝ่ายขงเบ้งจุดไฟบนเรือใช่หรือไม่ ถ้าจุดไฟบนเรือได้ก็แสดงว่าไฟใช้ได้สิครับ
ทำไมไม่ใช้ธนูไฟ ถ้าให้ อ้างเหตุผล ก็มีอยู่หลายเหตุผลครับ
อย่างแรก ต้องมีการเตรียมพร้อม เหตุการณ์ ฉุกเฉิน ยิงเลยคงไม่ได้ ถ้าทำเตรียมไว้ ก็เป็นการสิ้นเปลือง หรือ เกิดไฟไหม้ค่ายกันได้ง่ายๆ
อย่างที่สอง ในทัศนวิสัยที่ไม่ดี การใช้ธนูไฟ ก็เปรียบเสมือน เปิดเผยที่ตั้งของกองกำลังในทันที โดนศัตรูยิงธนูสวนมาได้ง่ายๆ
อย่างที่สาม ในกรณีที่รบบนแม่น้ำ การใช้ธนูไฟกับเป้าหมายที่ไม่ชัดเจน อาจไม่ได้ผล
2. ที่ตั้งกองกำลังฝ่ายโจโฉนั้นรู้อยู่แล้วครับ จะกลัวโดนเผยทำไมกันครับ
3. การรบทางน้ำ ถ้าลมไม่พัดเข้าหาตัวเอง ธนูไฟเป้นทางเลือกที่ดีเพราะจพได้เผาเรือฝ่ายตรงข้ามได้ด้วย
[color=#ff0000;]สำหรับผมคงเลิกเล่นบอร์ดนี้ไว้เพียงเท่านี้ ถ้าไอดีนี้ยังมีบุคคลอื่นที่ใครบางคนคิดว่าเป็นตัวจริงอยู่จริง เขาก็เข้ามาใช้บอร์ดนี้ต่อเองแต่ไม่ใช่ผมแน่นอน[/color]
ลาก่อน สวัสดีครับ 17 มกราคม 2556
#110
ตอบ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 11:55
ระยะเห็นเงาตะคุ่มในหมอกหนานี่ระยะกี่เมตรกันเชียวครับ แล้วฟางนี่ก็ไม่ใช่หญ้าสดนะครับ ข้างนอกเปียกก็ไม่ได้เปียกถึงข้างในแบบฝนตก ถ้าบอกว่าเรือเปียกน้ำแล้วใช้ไฟไม่ได้งั้นเวลารบกันก็ทำเรือให้เปียกก็ไม่ต้องกลัวโดนเผาแล้วสิครับความเห็นส่วนตัว
ต่อให่ใช้ธนูไฟ(ที่ชุบน้ำมัน) แต่มันไปปักที่เรือ-หุ่นเปียกน้ำ ผมว่ามันคงไม่ติดไฟง่ายนักหรอกครับ ลองก่อไฟ แล้วเอาหญ้าสดใส่ลงไปไฟยังดับเลย แล้วอันนี้กว่าธนูฝ่าหมอกไปส่วนนึง แล้วไปเสียบที่ฟางเปียกอีก ก็คงไม่ทำให้ติดไฟเท่าไหร่
[color=#ff0000;]สำหรับผมคงเลิกเล่นบอร์ดนี้ไว้เพียงเท่านี้ ถ้าไอดีนี้ยังมีบุคคลอื่นที่ใครบางคนคิดว่าเป็นตัวจริงอยู่จริง เขาก็เข้ามาใช้บอร์ดนี้ต่อเองแต่ไม่ใช่ผมแน่นอน[/color]
ลาก่อน สวัสดีครับ 17 มกราคม 2556
#111
ตอบ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 11:57
1. การนำทัพไม่มีการเตรียมพร้อมรึครับ
มีแต่คนวิเคราะห์เอาเองสินะครับ แล้วในนิยายเขียนไหมล่ะครับ
สงสัยนิดนึงว่า ในนิยายบอกเหตุผลไหมว่าขงเบ้งมั่นใจอย่างไรว่าฝ่ายโจโฉจะไม่ใช้ธนูไฟ
เช่น ตอนที่ขงเบ้งใช้อุบายทำเรือขนฟางเพื่อหลอกให้ฝ่ายโจโฉยิงธนูเข้าใส่เพื่อเอาอาวุธมาใช้
อันนี้จำแม่นมากว่าพ่อยกตอนนี้มาเพื่อชี้ให้เห็น "การใช้ปัญญาแก้สถานการณ์ที่ไม่มีอาวุธไปสู้รบ" ได้อย่างไร เป็นต้น
คำตอบอยู่ในนี้ครับ
ขงเบ้งลวงเอาลูกเกาทัณฑ์ .. ทำได้จริง
อ้างว่าหมอกลงจัดมองข้างหน้าแทบไม่เห็น แล้วมิทราบทหารโจโฉเห็นเรือได้อย่างไร ฝ่ายขงเบ้งจุดไฟบนเรือใช่หรือไม่ ถ้าจุดไฟบนเรือได้ก็แสดงว่าไฟใช้ได้สิครับ
ทำไมไม่ใช้ธนูไฟ ถ้าให้ อ้างเหตุผล ก็มีอยู่หลายเหตุผลครับ
อย่างแรก ต้องมีการเตรียมพร้อม เหตุการณ์ ฉุกเฉิน ยิงเลยคงไม่ได้ ถ้าทำเตรียมไว้ ก็เป็นการสิ้นเปลือง หรือ เกิดไฟไหม้ค่ายกันได้ง่ายๆ
อย่างที่สอง ในทัศนวิสัยที่ไม่ดี การใช้ธนูไฟ ก็เปรียบเสมือน เปิดเผยที่ตั้งของกองกำลังในทันที โดนศัตรูยิงธนูสวนมาได้ง่ายๆ
อย่างที่สาม ในกรณีที่รบบนแม่น้ำ การใช้ธนูไฟกับเป้าหมายที่ไม่ชัดเจน อาจไม่ได้ผล
2. ที่ตั้งกองกำลังฝ่ายโจโฉนั้นรู้อยู่แล้วครับ จะกลัวโดนเผยทำไมกันครับ
3. การรบทางน้ำ ถ้าลมไม่พัดเข้าหาตัวเอง ธนูไฟเป้นทางเลือกที่ดีเพราะจพได้เผาเรือฝ่ายตรงข้ามได้ด้วย
1 การนำทัพ ต้องพร้อมครับ แต่ จะเอาขี้ไต้ ไปแปะธนู รอไว้เลยคงไม่ใช่ ต้องใช้เวลา
2 ที่ตั้งค่ายนั้นรู้ครับ แต่ในทัศนวิสัยที่ได้เปรียบ จะบอกให้ศัตรูรู้ทำไมอะครับ สู้ใช้ธรรมชาติให้เป็นประโยชน์ดีกว่า ซุนวูบอกไว้
3 การรบทางน้ำ ไปทางเรือ มันก็อย่างข้อแรกที่ท่านว่าอะครับต้องมีการเตรียมตัว ถ้าเขาต้องการให้เรือติดไป แล้ว ล่องไปเผาเรือที่จอดไว้ของฝ่ายตรงข้าม ละครับ
Edited by เพลิงสีนิล, 7 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 11:58.
[color=#0000ff;][font="Tahoma, sans-serif;"]เราจะรู้.....รสชาติของความสุข[/color][font="Tahoma, sans-serif;"]ก็ต่อเมื่อ เราผ่านความทุกข์มาก่อน[/font][/font]
#112
ตอบ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 12:25
ระยะเห็นเงาตะคุ่มในหมอกหนานี่ระยะกี่เมตรกันเชียวครับ แล้วฟางนี่ก็ไม่ใช่หญ้าสดนะครับ ข้างนอกเปียกก็ไม่ได้เปียกถึงข้างในแบบฝนตก ถ้าบอกว่าเรือเปียกน้ำแล้วใช้ไฟไม่ได้งั้นเวลารบกันก็ทำเรือให้เปียกก็ไม่ต้องกลัวโดนเผาแล้วสิครับ
ความเห็นส่วนตัว
ต่อให่ใช้ธนูไฟ(ที่ชุบน้ำมัน) แต่มันไปปักที่เรือ-หุ่นเปียกน้ำ ผมว่ามันคงไม่ติดไฟง่ายนักหรอกครับ ลองก่อไฟ แล้วเอาหญ้าสดใส่ลงไปไฟยังดับเลย แล้วอันนี้กว่าธนูฝ่าหมอกไปส่วนนึง แล้วไปเสียบที่ฟางเปียกอีก ก็คงไม่ทำให้ติดไฟเท่าไหร่
แหม ก็บอกว่าความเห็นส่วนตัว แต่ผมก็คิดว่า ถ้าหมอกลงแล้วต้องไปให้เห็นเงาตะคุ่มนี่ระยะไม่เกินสิบเมตรแล้วมั้ง ถ้าเอาว่าการบมันก็ต้องหลักร้อยเมตร แค่จะบอกว่าถ้าหมอกลงจัดจริงนี่แบบฝนเลยครับ แต่ไม่เป็นเม็ดแบบฝน แต่จะเหมือนเป็นสเปรย์ ซึ่งถ้าเป็นงั้นก็น่าจะใกล้เคียงกับฝนตกซึ่งผมก็คิดว่าเป็นไปได้ที่ไฟจะไม่ติด
แล้วจากในนิยาย ชัวมอเป็นคนสั่งยิง ไม่ใช่พวกโจโฉหรือพวกกุนซือ แต่เป็น"แม่ทัพเกงจิ๋ว" ที่แทบไม่เคยทำสงคราม การที่จะทำอะไรผิดพลาดก็พอเป็นไปได้
สละชีพเพื่อหลักธรรมคือคำขวัญ
ฆ่าคนเพื่อชิงอำนาจคือวิธีการ
ส่วนลิ่วล้อที่ส่งไปตายก็คือตัวหมากแห่งคุณธรรม
#113
ตอบ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 12:50
เอากรณีง่ายๆ กับคำกล่าวที่ว่า ใช้คนจงระวัง แต่อย่าระแวง แค่นี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายแล้วในชีวิตจริง เพราะระหว่างคำว่าระวัง กับระแวงนั้น มันต่างกันนิดเดียว ขึ้นอยู่กับบริบท และขึ้นอยู่กับการตีความว่า อย่างไหนระวัง อย่างไหนระแวง เราอาจจะมองว่าคำสั่งหรือการกระทำของเรานั้นเป็นเพียงแค่การระวัง แต่ลูกน้องก็อาจจะมองว่า เราไม่ไว้ใจเขา
เรื่องแบบนี้มีมากในสุภาษิตจีน มีสุภาษิตด้านหนึ่ง ก็จะมีอีกด้านที่ขัดแย้งกัน แต่เวลาปะทะคารมก็ต้องดูว่าใครจำได้มากกว่า คนนั้นก็ชนะ5555
#114
ตอบ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 12:56
กลยุทธ มันมีอย่างน้อย 2ด้านครับที่ขัดแย้งกันเอง อย่างกรณีม้าเจ๊ก ตั้งทัพบนเขา ก็มีเหตุผล แต่ที่ปรึกษาแย้งให้ตั้งขวางช่องเขาก็มีเหตุผลเช่นกัน ดังนั้นถ้าถามว่านำมาใช้ได้หรือไม่ ก็พูดได้ว่าทั้งใช้ได้และใช้ไม่ได้
เอากรณีง่ายๆ กับคำกล่าวที่ว่า ใช้คนจงระวัง แต่อย่าระแวง แค่นี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายแล้วในชีวิตจริง เพราะระหว่างคำว่าระวัง กับระแวงนั้น มันต่างกันนิดเดียว ขึ้นอยู่กับบริบท และขึ้นอยู่กับการตีความว่า อย่างไหนระวัง อย่างไหนระแวง เราอาจจะมองว่าคำสั่งหรือการกระทำของเรานั้นเป็นเพียงแค่การระวัง แต่ลูกน้องก็อาจจะมองว่า เราไม่ไว้ใจเขา
เรื่องแบบนี้มีมากในสุภาษิตจีน มีสุภาษิตด้านหนึ่ง ก็จะมีอีกด้านที่ขัดแย้งกัน แต่เวลาปะทะคารมก็ต้องดูว่าใครจำได้มากกว่า คนนั้นก็ชนะ5555
น้ำขึ้นให้รีบตัก
ช้าๆ ได้พร้าสองเล่มงาม
- ragnarokbeta1 likes this
#115
ตอบ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 14:38
เขียน ผมจะสรุป ง่าย ๆ ขงเบ้ง( อาศัย ภูมิประเทศเป็นหลักใหญ่.)
ใช้ วิชาดาราศาสตร์ + โหราศาสตร์ .ประกอบ ซึ่งอาจจะเชี่ยวชาญ
กว่าผู้อื่น เช่นรับปาก จิวยี่ ไปเอาธนู โลซกเอง ไปด้วยก็ยังไม่รู้.
อีกอย่าง..ขึ้นไปทำพิธีเรียกลม..ก็เป็นเรื่องดาราศาสตร์ เต็ม ๆ ส่วน -
เรื่องหมอก..ผมเคยไปเจอ แถว ภูกระดึง..หนาจริง ๆ คงน่าจะเห็นได้
ไม่เกิน 10 เมตร อย่าลืมว่า เมืองจีนมี หิมะ นะครับ แต่ตอนนั้น ไม่ได้
กล่าวถึงว่า หิมะตก รึเปล่า ? ขอโทษนะ สายตาผมมันไม่ค่อย อำนวย
ไม่งั้นผมจะเล่าให้ เมากันไปข้างหนึ่งเลย ผมชอบเกล็ดเล็กเกล็ดน้อย-
มันสนุกดี ไปหาอ่าน ฉบับ วณิพก. ของ นายโชติ ซิ สนุก..แล้วก็รู้นิสัย
ของแต่ละคนด้วย.. 2.37 PM แล้ว ลาก่อน ไปนั่งฟังเพลงที่เฟซฯ...
- เพลิงสีนิล likes this
#116
ตอบ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 15:02
ถ้าพูกถึงหลักการบริหาร การทหาร ที่น่าจะตรงมากว่า น่าจะเป็น กลยุทธ ซุนจื่อ
ผมเข้าใจครับ ฮิตเลอร์ก็ใช้ อเมริกาก็ใช้ แล้วก็มีสอนกันอยู่ในโรงเรียนทหาร
ทั้งหลาย แต่การเมืองไทย ผมไม่เคยเจอคนที่ใช้วิเคราะห์เลยนะสิครับ
ทั้งๆ ที่ฝ่ายการเมืองควรจะศึกษาแล้วเอามาใช้ ไม่แน่นะ ตอนนี้วอร์รูมของแดง
อาจจะใช้อยู่ก็ได้
**เมืองไทยใช้ระบบศรีธนญชัย, ของฝรั่งครับ ไว้ท์ลาย, และยึดระเบียบวินัย
อย่างเคร่งครัด เชื่อฟัง เจ้าของคอกคนเดียว
**ถ้าเห็นว่านอกเรื่อง ก็ขอโทษครับ
- ragnarokbeta1, เพลิงสีนิล and พระฤๅษี like this
ประโยชน์สูงสุดของประชาชน คือกฏหมายสูงสุดของประเทศ ...วิชา มหาคุณ
#117
ตอบ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 15:32
**เมืองไทยใช้ระบบศรีธนญชัย, ของฝรั่งครับ ไว้ท์ลาย, และยึดระเบียบวินัย
อย่างเคร่งครัด เชื่อฟัง เจ้าของคอกคนเดียว
**ถ้าเห็นว่านอกเรื่อง ก็ขอโทษครับ
เห็นด้วยว่า คนทั่วไปมักจะชอบ "คนฉลาดแกมโกง" คือคนที่ใช้กลอุบาย
ตุกติแล้วชนะคนอื่น ซึ่งผมเข้าใจว่า "อุบาย" ที่พวกนี้ใช้ เข้าใจง่าย
ต่างกับพวกที่ใช้วิชาความรู้ พออธิบายแล้ว คนไทยส่วนใหญ่ไม่เข้าใจ
ก็เลยพากันไม่ชอบ
- พระฤๅษี likes this
#118
ตอบ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 18:13
1. เวลาที่ว่านี่จะมากกว่ายิงเป็นแสน ๆ ลูกรึครับ
1. การนำทัพไม่มีการเตรียมพร้อมรึครับ
มีแต่คนวิเคราะห์เอาเองสินะครับ แล้วในนิยายเขียนไหมล่ะครับ
สงสัยนิดนึงว่า ในนิยายบอกเหตุผลไหมว่าขงเบ้งมั่นใจอย่างไรว่าฝ่ายโจโฉจะไม่ใช้ธนูไฟ
เช่น ตอนที่ขงเบ้งใช้อุบายทำเรือขนฟางเพื่อหลอกให้ฝ่ายโจโฉยิงธนูเข้าใส่เพื่อเอาอาวุธมาใช้
อันนี้จำแม่นมากว่าพ่อยกตอนนี้มาเพื่อชี้ให้เห็น "การใช้ปัญญาแก้สถานการณ์ที่ไม่มีอาวุธไปสู้รบ" ได้อย่างไร เป็นต้น
คำตอบอยู่ในนี้ครับ
ขงเบ้งลวงเอาลูกเกาทัณฑ์ .. ทำได้จริง
อ้างว่าหมอกลงจัดมองข้างหน้าแทบไม่เห็น แล้วมิทราบทหารโจโฉเห็นเรือได้อย่างไร ฝ่ายขงเบ้งจุดไฟบนเรือใช่หรือไม่ ถ้าจุดไฟบนเรือได้ก็แสดงว่าไฟใช้ได้สิครับ
ทำไมไม่ใช้ธนูไฟ ถ้าให้ อ้างเหตุผล ก็มีอยู่หลายเหตุผลครับ
อย่างแรก ต้องมีการเตรียมพร้อม เหตุการณ์ ฉุกเฉิน ยิงเลยคงไม่ได้ ถ้าทำเตรียมไว้ ก็เป็นการสิ้นเปลือง หรือ เกิดไฟไหม้ค่ายกันได้ง่ายๆ
อย่างที่สอง ในทัศนวิสัยที่ไม่ดี การใช้ธนูไฟ ก็เปรียบเสมือน เปิดเผยที่ตั้งของกองกำลังในทันที โดนศัตรูยิงธนูสวนมาได้ง่ายๆ
อย่างที่สาม ในกรณีที่รบบนแม่น้ำ การใช้ธนูไฟกับเป้าหมายที่ไม่ชัดเจน อาจไม่ได้ผล
2. ที่ตั้งกองกำลังฝ่ายโจโฉนั้นรู้อยู่แล้วครับ จะกลัวโดนเผยทำไมกันครับ
3. การรบทางน้ำ ถ้าลมไม่พัดเข้าหาตัวเอง ธนูไฟเป้นทางเลือกที่ดีเพราะจพได้เผาเรือฝ่ายตรงข้ามได้ด้วย
1 การนำทัพ ต้องพร้อมครับ แต่ จะเอาขี้ไต้ ไปแปะธนู รอไว้เลยคงไม่ใช่ ต้องใช้เวลา
2 ที่ตั้งค่ายนั้นรู้ครับ แต่ในทัศนวิสัยที่ได้เปรียบ จะบอกให้ศัตรูรู้ทำไมอะครับ สู้ใช้ธรรมชาติให้เป็นประโยชน์ดีกว่า ซุนวูบอกไว้
3 การรบทางน้ำ ไปทางเรือ มันก็อย่างข้อแรกที่ท่านว่าอะครับต้องมีการเตรียมตัว ถ้าเขาต้องการให้เรือติดไป แล้ว ล่องไปเผาเรือที่จอดไว้ของฝ่ายตรงข้าม ละครับ
2. ทัศนวิสัยได้เปรียบ? หมอกลงหนักมันเสียเปรียบทั้งคู่ครับ จึงเป็นเหตุผลที่โจโแไม่เอาทัพเรือออกมา แต่การที่โจโฉใช้ธนูไฟก็ไม่ทำให้เสียเปรียบกว่าเดิมเท่าไหร่เพราะรู้ที่ตั้ง ที่ไม่รู้ที่ตั้งคือฝ่ายขงเบ้ง ถ้าขงเบ้งใช้ธนูไฟนั่นแหละเป็นการบอกที่ตั้งชัดเจน แต่ขงเบ้งก็ไปประกาศชัดเจนว่าเรืออยู่ตรงไหน
3. ถ้าลมพัดออกจากข้าศึก ล่องไปก็ได้โดนข้าศึกเขี่ยเรือออกแถมยังจะเอาเรือนั้นย้อนกลับมาเผาทัพตัวเองอีก
[color=#ff0000;]สำหรับผมคงเลิกเล่นบอร์ดนี้ไว้เพียงเท่านี้ ถ้าไอดีนี้ยังมีบุคคลอื่นที่ใครบางคนคิดว่าเป็นตัวจริงอยู่จริง เขาก็เข้ามาใช้บอร์ดนี้ต่อเองแต่ไม่ใช่ผมแน่นอน[/color]
ลาก่อน สวัสดีครับ 17 มกราคม 2556
#119
ตอบ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 18:24
ไม่ถึง 10 เมตรนี่ไม่ต้องใช้ธนูไฟก็ได้แล้วกระมัง
ระยะเห็นเงาตะคุ่มในหมอกหนานี่ระยะกี่เมตรกันเชียวครับ แล้วฟางนี่ก็ไม่ใช่หญ้าสดนะครับ ข้างนอกเปียกก็ไม่ได้เปียกถึงข้างในแบบฝนตก ถ้าบอกว่าเรือเปียกน้ำแล้วใช้ไฟไม่ได้งั้นเวลารบกันก็ทำเรือให้เปียกก็ไม่ต้องกลัวโดนเผาแล้วสิครับ
ความเห็นส่วนตัว
ต่อให่ใช้ธนูไฟ(ที่ชุบน้ำมัน) แต่มันไปปักที่เรือ-หุ่นเปียกน้ำ ผมว่ามันคงไม่ติดไฟง่ายนักหรอกครับ ลองก่อไฟ แล้วเอาหญ้าสดใส่ลงไปไฟยังดับเลย แล้วอันนี้กว่าธนูฝ่าหมอกไปส่วนนึง แล้วไปเสียบที่ฟางเปียกอีก ก็คงไม่ทำให้ติดไฟเท่าไหร่
แหม ก็บอกว่าความเห็นส่วนตัว แต่ผมก็คิดว่า ถ้าหมอกลงแล้วต้องไปให้เห็นเงาตะคุ่มนี่ระยะไม่เกินสิบเมตรแล้วมั้ง ถ้าเอาว่าการบมันก็ต้องหลักร้อยเมตร แค่จะบอกว่าถ้าหมอกลงจัดจริงนี่แบบฝนเลยครับ แต่ไม่เป็นเม็ดแบบฝน แต่จะเหมือนเป็นสเปรย์ ซึ่งถ้าเป็นงั้นก็น่าจะใกล้เคียงกับฝนตกซึ่งผมก็คิดว่าเป็นไปได้ที่ไฟจะไม่ติด
แล้วจากในนิยาย ชัวมอเป็นคนสั่งยิง ไม่ใช่พวกโจโฉหรือพวกกุนซือ แต่เป็น"แม่ทัพเกงจิ๋ว" ที่แทบไม่เคยทำสงคราม การที่จะทำอะไรผิดพลาดก็พอเป็นไปได้
แล้วเรื่องซัวมอสั่งยิง อันนี้สยองนะครับเพราะตอนนั้นซัวมอหัวขาดไปแล้วนี่ครับ
[color=#ff0000;]สำหรับผมคงเลิกเล่นบอร์ดนี้ไว้เพียงเท่านี้ ถ้าไอดีนี้ยังมีบุคคลอื่นที่ใครบางคนคิดว่าเป็นตัวจริงอยู่จริง เขาก็เข้ามาใช้บอร์ดนี้ต่อเองแต่ไม่ใช่ผมแน่นอน[/color]
ลาก่อน สวัสดีครับ 17 มกราคม 2556
#120
ตอบ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 18:38
1. เวลาที่ว่านี่จะมากกว่ายิงเป็นแสน ๆ ลูกรึครับ
1. การนำทัพไม่มีการเตรียมพร้อมรึครับ
มีแต่คนวิเคราะห์เอาเองสินะครับ แล้วในนิยายเขียนไหมล่ะครับ
สงสัยนิดนึงว่า ในนิยายบอกเหตุผลไหมว่าขงเบ้งมั่นใจอย่างไรว่าฝ่ายโจโฉจะไม่ใช้ธนูไฟ
เช่น ตอนที่ขงเบ้งใช้อุบายทำเรือขนฟางเพื่อหลอกให้ฝ่ายโจโฉยิงธนูเข้าใส่เพื่อเอาอาวุธมาใช้
อันนี้จำแม่นมากว่าพ่อยกตอนนี้มาเพื่อชี้ให้เห็น "การใช้ปัญญาแก้สถานการณ์ที่ไม่มีอาวุธไปสู้รบ" ได้อย่างไร เป็นต้น
คำตอบอยู่ในนี้ครับ
ขงเบ้งลวงเอาลูกเกาทัณฑ์ .. ทำได้จริง
อ้างว่าหมอกลงจัดมองข้างหน้าแทบไม่เห็น แล้วมิทราบทหารโจโฉเห็นเรือได้อย่างไร ฝ่ายขงเบ้งจุดไฟบนเรือใช่หรือไม่ ถ้าจุดไฟบนเรือได้ก็แสดงว่าไฟใช้ได้สิครับ
ทำไมไม่ใช้ธนูไฟ ถ้าให้ อ้างเหตุผล ก็มีอยู่หลายเหตุผลครับ
อย่างแรก ต้องมีการเตรียมพร้อม เหตุการณ์ ฉุกเฉิน ยิงเลยคงไม่ได้ ถ้าทำเตรียมไว้ ก็เป็นการสิ้นเปลือง หรือ เกิดไฟไหม้ค่ายกันได้ง่ายๆ
อย่างที่สอง ในทัศนวิสัยที่ไม่ดี การใช้ธนูไฟ ก็เปรียบเสมือน เปิดเผยที่ตั้งของกองกำลังในทันที โดนศัตรูยิงธนูสวนมาได้ง่ายๆ
อย่างที่สาม ในกรณีที่รบบนแม่น้ำ การใช้ธนูไฟกับเป้าหมายที่ไม่ชัดเจน อาจไม่ได้ผล
2. ที่ตั้งกองกำลังฝ่ายโจโฉนั้นรู้อยู่แล้วครับ จะกลัวโดนเผยทำไมกันครับ
3. การรบทางน้ำ ถ้าลมไม่พัดเข้าหาตัวเอง ธนูไฟเป้นทางเลือกที่ดีเพราะจพได้เผาเรือฝ่ายตรงข้ามได้ด้วย
1 การนำทัพ ต้องพร้อมครับ แต่ จะเอาขี้ไต้ ไปแปะธนู รอไว้เลยคงไม่ใช่ ต้องใช้เวลา
2 ที่ตั้งค่ายนั้นรู้ครับ แต่ในทัศนวิสัยที่ได้เปรียบ จะบอกให้ศัตรูรู้ทำไมอะครับ สู้ใช้ธรรมชาติให้เป็นประโยชน์ดีกว่า ซุนวูบอกไว้
3 การรบทางน้ำ ไปทางเรือ มันก็อย่างข้อแรกที่ท่านว่าอะครับต้องมีการเตรียมตัว ถ้าเขาต้องการให้เรือติดไป แล้ว ล่องไปเผาเรือที่จอดไว้ของฝ่ายตรงข้าม ละครับ
2. ทัศนวิสัยได้เปรียบ? หมอกลงหนักมันเสียเปรียบทั้งคู่ครับ จึงเป็นเหตุผลที่โจโแไม่เอาทัพเรือออกมา แต่การที่โจโฉใช้ธนูไฟก็ไม่ทำให้เสียเปรียบกว่าเดิมเท่าไหร่เพราะรู้ที่ตั้ง ที่ไม่รู้ที่ตั้งคือฝ่ายขงเบ้ง ถ้าขงเบ้งใช้ธนูไฟนั่นแหละเป็นการบอกที่ตั้งชัดเจน แต่ขงเบ้งก็ไปประกาศชัดเจนว่าเรืออยู่ตรงไหน
3. ถ้าลมพัดออกจากข้าศึก ล่องไปก็ได้โดนข้าศึกเขี่ยเรือออกแถมยังจะเอาเรือนั้นย้อนกลับมาเผาทัพตัวเองอีก
1. ยิงเป็นแสนๆ ลูก ไม่แปลกครับ คน พันคน ตั้งแถวหน้ากระดาน ตามแ้นวค่าย นาทีละดอก ชม หนึ่ง ก็ 5 - 6 หมืนแล้วนะครับ แต่ให้แปะขี้ใต้ กับธนู ใช้เวลาเท่าไร ใช้ ขี้ใต้เท่าไร สุมกองเพลิงไว้จุดไฟ ต้องกี่จุดอะครับ ถ้า รบ จริงในสถานการณ์ที่ไม่รู้ว่า โดนบุกจริงหรือไม่ เวลาเตรียมคงไม่พอ
2.หมอกลงหนัก เสียเปรียบทั้งคู่ไม่จริง ครับ ฝ่ายบุกย่อมได้เปรียบมากกว่า เพราะเป็นผู้กำหนดเวลาจะบุก ฝ่ายรับรู้เหรอครับว่าจะบุกเข้ายืดตอนไหน เขาเตรียมอะไรมาบ้าง
3. ถ้า....... ขึ้นมาก็จบแล้วครับ ถ้าทางลมมันพัดย้อน คนฉลาดมันจะบุกไปหาอะไรอะครับ
[color=#0000ff;][font="Tahoma, sans-serif;"]เราจะรู้.....รสชาติของความสุข[/color][font="Tahoma, sans-serif;"]ก็ต่อเมื่อ เราผ่านความทุกข์มาก่อน[/font][/font]
#121
ตอบ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 18:41
คือ มันมองกันได้หลายมุม
นิยายเรื่องนี้ ก็ เลยดัง
[color=#0000ff;][font="Tahoma, sans-serif;"]เราจะรู้.....รสชาติของความสุข[/color][font="Tahoma, sans-serif;"]ก็ต่อเมื่อ เราผ่านความทุกข์มาก่อน[/font][/font]
#122
ตอบ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 19:19
1. รบจริงต้องเตรียมพร้อมเผื่อการบุกด้วยครับ ทัพมีทหารนับสิบหมื่นแต่กลับไม่มีการเตรียมธนูไฟไว้เลย ของจริงเป็นไปได้รึครับยิงรบทางน้ำด้วยอีก ถ้าแค่เตรียมการก็แค่เอาผ้าพันลูกธนูไว้ก่อนแค่นั้น เวลาใช้ก้มาชุบเชื้อเพลิงจุดไฟแล้วยิง1. ยิงเป็นแสนๆ ลูก ไม่แปลกครับ คน พันคน ตั้งแถวหน้ากระดาน ตามแ้นวค่าย นาทีละดอก ชม หนึ่ง ก็ 5 - 6 หมืนแล้วนะครับ แต่ให้แปะขี้ใต้ กับธนู ใช้เวลาเท่าไร ใช้ ขี้ใต้เท่าไร สุมกองเพลิงไว้จุดไฟ ต้องกี่จุดอะครับ ถ้า รบ จริงในสถานการณ์ที่ไม่รู้ว่า โดนบุกจริงหรือไม่ เวลาเตรียมคงไม่พอ
2.หมอกลงหนัก เสียเปรียบทั้งคู่ไม่จริง ครับ ฝ่ายบุกย่อมได้เปรียบมากกว่า เพราะเป็นผู้กำหนดเวลาจะบุก ฝ่ายรับรู้เหรอครับว่าจะบุกเข้ายืดตอนไหน เขาเตรียมอะไรมาบ้าง
3. ถ้า....... ขึ้นมาก็จบแล้วครับ ถ้าทางลมมันพัดย้อน คนฉลาดมันจะบุกไปหาอะไรอะครับ
2. หมอกลงหนักทำให้แยกเป้าหมายยากครับ เพราะไม่รู้ว่าที่เห็นเงาตะคุ่มนั้นเป็นศัตรูหรือพวกเดียวกัน แล้วทางทหารถ้าอาวุธพอ ๆ กันฝ่ายรับได้เปรียบนะครับ ตัวอย่างก็เห็นแล้วว่าโจโฉไม่ออกทัพเรือบุกไปหาเพราะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะมาไม้ไหน แล้วถ้าคิดย้อนกลับฝ่ายบุก ๆ ไปจะรู้หรอว่าฝ่ายรับเตรียมอะไรบ้าง
3. จริง ๆ ไม่ต้องถ้า...ก็ได้ เพราะมันบรรยายแล้วว่าทัพโจโฉอยู่เหนือลม ทัพซุนกวนอยู่ใต้ลม ถ้าทัพโจโฉอยู่ใต้ลมคงไม่ต้องมารอขงเบ้งมาทำพิธีหรอกครับ
[color=#ff0000;]สำหรับผมคงเลิกเล่นบอร์ดนี้ไว้เพียงเท่านี้ ถ้าไอดีนี้ยังมีบุคคลอื่นที่ใครบางคนคิดว่าเป็นตัวจริงอยู่จริง เขาก็เข้ามาใช้บอร์ดนี้ต่อเองแต่ไม่ใช่ผมแน่นอน[/color]
ลาก่อน สวัสดีครับ 17 มกราคม 2556
#123
ตอบ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 19:35
ที่สำคัญต้องไม่ลืมว่าส่วนใหญ่เป็นเรื่องแต่งเสน่ห์ อย่างหนึ่งของ สามก๊ก
คือ มันมองกันได้หลายมุม
นิยายเรื่องนี้ ก็ เลยดัง
[color=#ff0000;]สำหรับผมคงเลิกเล่นบอร์ดนี้ไว้เพียงเท่านี้ ถ้าไอดีนี้ยังมีบุคคลอื่นที่ใครบางคนคิดว่าเป็นตัวจริงอยู่จริง เขาก็เข้ามาใช้บอร์ดนี้ต่อเองแต่ไม่ใช่ผมแน่นอน[/color]
ลาก่อน สวัสดีครับ 17 มกราคม 2556
#124
ตอบ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 22:04
คือหลังจากอ่านสามก๊กไปรอบนึงแล้วพอลองได้อ่านอย่างอื่น ส่วนมากเป็นประวัติศาสตร์เกี่ยวกับสงครามหรือจำเพาะเจาะจงเป็นสนามรบๆไป ผมพบว่า สามก๊กมันออกจะเวอร์ แล้วก็ทำให้ผมออกจะดูถูกหน่อยๆไปเลยด้วยซ้ำ ในสงครามจริงๆนั้น เรียกว่าต้องลงทุกรายละเอียดเลยครับ อย่าว่าแต่เรื่องแต่งกลอุบายเลยครับ แค่ทำให้ไม่ผิดหลัก แค่นี้ก็ยากแล้ว ผมแนะนำให้ลองหาประวัติศาสตร์ช่วงศึกอะแซหวุ่นกี้ ในสมัยพระเจ้าตากสินมหาราชอ่านดู แล้วจะเห็นเลยครับ ว่ามันทั้งยุ่งยาก และซับซ้อนขนาดไหน สิ่งหนึ่งที่ผมเห็นจากสนามรบนี้ก็คือ เรื่องการวางแผนนั้น พวกเราไม่เป็นรองใครหรอกครับ จะสู้ไม่ได้ก็เรื่องเทคโนโลยีเท่านั้น
- ragnarokbeta1 likes this
หลักฐานไม่เคยโกหก (Gilbert Grissom C.S.I.)<p>Beneath this mask there is more than flesh. Beneath this mask there is an idea, Mr. Creedy, and ideas are bulletproof.
#125
ตอบ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 23:40
เสน่ห์ อย่างหนึ่งของ สามก๊ก
คือ มันมองกันได้หลายมุม
นิยายเรื่องนี้ ก็ เลยดัง
ใช่เลยครับ
เหมือนกับเรื่อง "บทกลอนที่เป็นข่าว"
ไม่น่าเชื่อว่า เป็นอุบายสร้างกระแสความดังจากสามก๊กนี่เอง
#126
ตอบ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 00:33
พงศาวดารจีนผมฟังครั้งแรกตอนเด็ก ตั้งแต่สร้างโลก และเรียงลำดับยุคต่างๆตามนี้(ผมจำชื่อ ท่องปากเปล่าเลยนะ ไม่ต้องเปิดหนังสือดู)
-ไคเภ็ก ตั้งแต่สร้างโลก
-ห้องสิน
-เลียดก๊ก
-ไซ่ฮั่น
-ไต้ฮั่น
-ตั้งฮั่น
-สามก๊ก
หลังจากสามก๊กแล้ว ก็ไม่ได้ฟังอีกเลย แต่ทราบว่าสุมาเอี๋ยนหลานสุมาอี้แย่งราชสมบัติ จากโจยอยหลานโจโฉ ที่แย่งมาจากพระเจ้า***นเต้อีกทีหนึ่ง
ถ้าถามว่า เหตุการณ์ในสามก๊กนำมาใช้ได้ไหม ก็ตอบว่าได้ เรื่องหนึ่งที่เด่นชัดและยังเห็นอยู่คือ
ผมไง เหมือนตรงไหนหรือ
ตอนเล่าปี่ได้ขงเบ้งมาช่วยงาน เล่าปี่ยังตั้งมั่นมิได้ ส่วนซุ่นกวนตั้งมั่นได้ก่อนใครในสามก๊ก แต่เพราะกำลังยังด้อยกว่าโจโฉ
ซึ่งกินตำแหน่งอุปราชในเมืองหลวง ถ้าซุ่นกวนแพ้แก่โจโฉ เล่าปี่ก็ยากที่จะคิดการใหญ่ได้ ต้องถุกกำจัดโดยโจโฉเป็นลำดับต่อไป
ทั้งสองฝ่ายจึงร่วมมือกันรับมือทัพเรือโจโฉ โดยขงเบ้งมาร่วมวางแผนครั้งนี้ที่กังตั๋ง พอมาถึง พวกที่ปรึกษาของซุ่นกวนก็ลองภูมิรู้ของขงเบ้ง
เพื่อให้เห็นถึงความสามารถว่าโดดเด่นสมคำร่ำลือหรือไม่
พอได้ปะคารมกัน แม้ขงเบ้งผู้เดียวแต่กลับสยบเหล่าที่ปรึกษาของซุ่นกวนได้ทั้งหมด
อย่างนี้ เหมือนไหมครับ
มาเข้าเรื่อง ข้างต้นนั่นแค่แสดงเครดิต
-ตัวตนของขงเบ้งนั้น เห็นพูดกันเสียยาว แต่ผมเชื่อว่า ไม่มีอยู่จริง เรื่องของขงเบ้งที่เล่าๆกัน
เป็นจินตนาการชองคนแต่งเพื่อใช้ถ่ายทอดความคิดต่างๆของตนออกมาให้เรื่องดูสมจริงและสนุก
เหตุผลง่ายๆ ทำไมมีกวนอูเป็นเทพเจ้า แต่ไม่มีขงเบ้งเป็นเทพเจ้า ขนาดเห้งเจียจากไซอิ๋วเราก็รู้ว่าไม่มีจริง แต่มีรูปปั้นให้กราบไหว้
ก็เพราะคนจีนเอามาเป็นสัญญลักษณ์แสดงถึงความฉลาด แล้วทำไมขงเบ้งฉลาดขนาดนั้น กลับไม่มีใครเอามากราบไหว้ แค่นี้แหละจบ
เห็นไหมว่าผมฉลาดและมีเหตุผลดีกว่าที่ปรึกษาทั้งหลายของซุ่นกวนในนี้เสียอีก
แต่ถามว่า คนที่รู้เรื่องดิน ฟ้า อากาศ มีจริงไหม ตอบได้เลยว่า มีจริง สังเกตุได้ว่า แม้คนจีนในปัจจุบัน
ก็ยังได้ัรับการถ่ายทอดศาสตร์ต่างๆเช่นการแพทย์, โหงวเฮ้ง ,ฮวงจุ้ย ซึ่งฮวงจุ้ยคือเรื่องของชัยภูมิ
ลึกกว่านั้นคืออี้จิง (ผมพูดจากความจำ ผิดถูกก็ค้นกันเอาเองนะ) สามารถรู้ฟ้า ดิน ได้
ถ้าถามว่า อี้จิงเกิดมาได้อย่างไร ผมเชื่อว่ามาจากความรู้ของผู้มีอภิญญาทางลัทธิเต๋าคือท่านเล่าจื๊อถ่ายทอดไว้
เต๋าศึกษาธรรมชาติเพื่อการอยู่ร่วมกับธรรมชาติ
ซึ่งผมเชื่อว่ามีการถ่ายทอดกันทั่วไปในหมู่นักบวชหรือนักศึกษาที่ต้องการรับราชการเป็นใหญ่เป็นโต
เรื่องต่างๆข้างต้นจึงเป็นเรื่องที่ต้องหาทางเล่าเรียนกัน แต่ว่าสำนักไหนจะเก่งจริงก็อีกเรื่อง
เปรียบเหมือนการออกร่ำเรียนขณะออกบวชของพระพุทธเจ้า ยังไงยังงั้น แต่ในที่สุดพระพุทธองค์ก็ตรัสรู้เอง
-อย่างที่บอก ก๊กแรกที่ตั้งตนขึ้นก่อนคือก๊กของซุ่นกวน ต่อมาคือเล่าปี่ ระหว่างนี้ โจโฉยังเดป็นแค่อุปราชเมืองหลวง
แม้มีอำนาจมาก และมีความสามารถเฉพาะตัวสูง( ขุนนางใหญ่ต้องศีกษาความรู้ต่างๆสูงกว่าคนทั่วไป ไม่เช่นนั้นคงไม่โดดเด่นจนเป็นใหญ่ได้)
แต่โจโฉก็ไม่ได้ยึดอำนาจฮ่องเต้ แสดงว่า ในเหตุการณ์จริง โจโฉเก่งและใช้ได้ที่สุด
เล่าปี่ต่างหากที่เป็นถึงพระเจ้าอา แต่กลับตั้งตนขึ้นเป็นฮ่องเต้ และยังชิงเมืองเสฉวนจากคนแซ่เดียวกัน เพื่อใช้เป็นเมืองหลวง
ไปละ นอน มาพิมพ์เพื่อหัวเราะก่อนนอน แค่นั้นแหละ
#127
ตอบ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 09:19
เลย. หรือครับ สงสัย.??
#128
ตอบ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 10:17
มานั่งคุยกัน ...เรื่อง สามก๊ก ที่เราอ่าน ๆ กันนี่ ความฉลาด ต้องยกให้
.หลอกว้านจง..ครับ มองกันให้ดี ๆ เถอะครับ มีหลายตอน ออกลักษณะ
..เกินจริง..เขากำหนดตัวละคร เหมือน.นิยาย. ( อิงประวัติศาสตร์) จีนครึ่ง
ประเทศ มีศาล กราบไหว้ นาง ส้าวฉาน. ทั้ง ๆ ที่ไม่มีตัวตน แต่นางก็ได้
ฉายา.เป็น หญิงผู้พลิกแผ่นดิน.นี่คือความฉลาดของ.หลอกว้านจง ดูว่าผม
ก็เคยพูดไว้ที่ไหน นึกไม่ออก อาจจะเป็นที่เฟซฯ ( เรื่องเทียบเคียงว่า )
ผู้ชนะสิบทิศ.. ผู้เขียนบอกว่าใช้ ประวัติศาสตร์ แค่ ๑๘ บรรทัด เทียบกับ
( มังกรหยก ของ กิมย้ง ) ๓ ภาค ใช้ประวัติศาสตร์ .ภาค ๑ กิมก๊ก.บุกจีน
ภาค ๒ มองโกล. ภาค ๓ อยู่ในปกครองของมองโกล จน พรรคจรัส. ไล่
มองโกล.สำเร็จ นับว่า กิมย้ง. ใช้ประวัติศาสตร์มาก น่าจะ พอ ๆ กับ-
หลอกว้านจง .แต่ต่างกันที่ยุคสมัย. และการสู้รบ. แต่ทุกเรื่องที่ผมพูดถึง
ขอรับรองว่า ประโยชน์นะมีแน่ หลายแง่หลายมุมด้วย เพียงแต่คุณจะจับ
เอา ตรงไหนมาใช้เท่านั้น ถ้าจับเอาแบบ..โจโฉ ก็ฉลาดแกมโกม ตัวกูต้อง
รอดก่อน ฆ่าผิด ๑๐ ดีกว่าปล่อยศัตรู ๑ .แต่ดูให้ดีเถอะ ทุกก๊ก แม้จะทำเพื่อ
ตนเอง. แต่ก็เพื่อความอยู่รอดของก๊กตน หลักการปกครองของแต่ละก๊ก แม้
จะต่างกัน แต่ก็ทำเพื่อ ( บ้านเมืองของตัว ) นี่เป็นที่น่ายกย่อง มากกว่าบ้าน
เมืองเราในเวลานี้.ทำลายบ้านเมืองตน ทำเพื่อประโยชน์ตน ทำลายแม้กระทั่ง
สถาบัน. ว่า...โจโฉ ..วางอำนาจ ข่มฮ่องเต้. แต่โจโฉ ก็ต่อสู้ปกป้องบ้านเมือง
มาตลอดอายุ. แต่บ้านเมืองเราเดี๋ยวนี้ล่ะ ?? ขอถาม เขากำลังจะผ่านวาระ ๓.
รธน. บ้านเมืองจะรบราฆ่ากันยังไง คนบงการเขาไม่สนใจ เขาไม่ได้ตายด้วย
โยกย้ายครอบครัวไปกินนอน อยู่เมืองไหนก็ได้ มึงจะฆ่ากันตายไงชั่ง คนแบบ
นี้ เลวอย่า ( ต่งจั๊ว ) จอมโหดมากมายนัก... เฮ้ออ พูดแล้วนอกเรื่อง โทษที ...
#129
ตอบ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 10:56
1. รบจริงต้องเตรียมพร้อมเผื่อการบุกด้วยครับ ทัพมีทหารนับสิบหมื่นแต่กลับไม่มีการเตรียมธนูไฟไว้เลย ของจริงเป็นไปได้รึครับยิงรบทางน้ำด้วยอีก ถ้าแค่เตรียมการก็แค่เอาผ้าพันลูกธนูไว้ก่อนแค่นั้น เวลาใช้ก้มาชุบเชื้อเพลิงจุดไฟแล้วยิง
1. ยิงเป็นแสนๆ ลูก ไม่แปลกครับ คน พันคน ตั้งแถวหน้ากระดาน ตามแ้นวค่าย นาทีละดอก ชม หนึ่ง ก็ 5 - 6 หมืนแล้วนะครับ แต่ให้แปะขี้ใต้ กับธนู ใช้เวลาเท่าไร ใช้ ขี้ใต้เท่าไร สุมกองเพลิงไว้จุดไฟ ต้องกี่จุดอะครับ ถ้า รบ จริงในสถานการณ์ที่ไม่รู้ว่า โดนบุกจริงหรือไม่ เวลาเตรียมคงไม่พอ
2.หมอกลงหนัก เสียเปรียบทั้งคู่ไม่จริง ครับ ฝ่ายบุกย่อมได้เปรียบมากกว่า เพราะเป็นผู้กำหนดเวลาจะบุก ฝ่ายรับรู้เหรอครับว่าจะบุกเข้ายืดตอนไหน เขาเตรียมอะไรมาบ้าง
3. ถ้า....... ขึ้นมาก็จบแล้วครับ ถ้าทางลมมันพัดย้อน คนฉลาดมันจะบุกไปหาอะไรอะครับ
2. หมอกลงหนักทำให้แยกเป้าหมายยากครับ เพราะไม่รู้ว่าที่เห็นเงาตะคุ่มนั้นเป็นศัตรูหรือพวกเดียวกัน แล้วทางทหารถ้าอาวุธพอ ๆ กันฝ่ายรับได้เปรียบนะครับ ตัวอย่างก็เห็นแล้วว่าโจโฉไม่ออกทัพเรือบุกไปหาเพราะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะมาไม้ไหน แล้วถ้าคิดย้อนกลับฝ่ายบุก ๆ ไปจะรู้หรอว่าฝ่ายรับเตรียมอะไรบ้าง
3. จริง ๆ ไม่ต้องถ้า...ก็ได้ เพราะมันบรรยายแล้วว่าทัพโจโฉอยู่เหนือลม ทัพซุนกวนอยู่ใต้ลม ถ้าทัพโจโฉอยู่ใต้ลมคงไม่ต้องมารอขงเบ้งมาทำพิธีหรอกครับ
1. วิธีการที่ท่านยกมาผมไม่แน่ใจว่าใช้ได้จริงหรือไม่ พันปีที่แล้ว เอาอะไรเป็นเชื้อเพลิง แล้วปริมาณเท่าไร ธนูไฟ เหมือนง่าย แต่จริงๆ ง่ายจริงหรือ เอาผ้าพัน ระยะยิง ความผิดพลาดที่จะเกิด วิเคราะห์ดีๆ มีปัจจัยหลายอย่าง แล้วผมก็ไม่เคยยิงธนูไฟจริงๆ สักที
2 โจโฉตั้งค่ายในพื้นที่ใครผมจำไม่ได้ครับ ใครได้เปรียบเสียเปรียบเชิงภูมิศาสตร์ ผมยากจะบอกได้จริงๆ แล้วยังมีเรื่อง Spy อีก ตัวแปรเยอะจริงๆ ครับ
3 ส่วนเรื่องลม ผมก็ไม่ได้คิดว่า พี่เบ้ง เรียกลมได้จริงๆ หรอกครับ ที่เรือโจโฉโดนเผา มันแค่เหตุบังเอิญครับ
[color=#0000ff;][font="Tahoma, sans-serif;"]เราจะรู้.....รสชาติของความสุข[/color][font="Tahoma, sans-serif;"]ก็ต่อเมื่อ เราผ่านความทุกข์มาก่อน[/font][/font]
#130
ตอบ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 10:57
ที่สำคัญต้องไม่ลืมว่าส่วนใหญ่เป็นเรื่องแต่ง
เสน่ห์ อย่างหนึ่งของ สามก๊ก
คือ มันมองกันได้หลายมุม
นิยายเรื่องนี้ ก็ เลยดัง
ขึ้นชื่อว่านิยาย มันก็ต้องเป็นเรื่องแต่งขึ้นอยู่แล้วครับท่าน
[color=#0000ff;][font="Tahoma, sans-serif;"]เราจะรู้.....รสชาติของความสุข[/color][font="Tahoma, sans-serif;"]ก็ต่อเมื่อ เราผ่านความทุกข์มาก่อน[/font][/font]
#131
ตอบ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 12:21
1. รบจริงต้องเตรียมพร้อมเผื่อการบุกด้วยครับ ทัพมีทหารนับสิบหมื่นแต่กลับไม่มีการเตรียมธนูไฟไว้เลย ของจริงเป็นไปได้รึครับยิงรบทางน้ำด้วยอีก ถ้าแค่เตรียมการก็แค่เอาผ้าพันลูกธนูไว้ก่อนแค่นั้น เวลาใช้ก้มาชุบเชื้อเพลิงจุดไฟแล้วยิง
1. ยิงเป็นแสนๆ ลูก ไม่แปลกครับ คน พันคน ตั้งแถวหน้ากระดาน ตามแ้นวค่าย นาทีละดอก ชม หนึ่ง ก็ 5 - 6 หมืนแล้วนะครับ แต่ให้แปะขี้ใต้ กับธนู ใช้เวลาเท่าไร ใช้ ขี้ใต้เท่าไร สุมกองเพลิงไว้จุดไฟ ต้องกี่จุดอะครับ ถ้า รบ จริงในสถานการณ์ที่ไม่รู้ว่า โดนบุกจริงหรือไม่ เวลาเตรียมคงไม่พอ
2.หมอกลงหนัก เสียเปรียบทั้งคู่ไม่จริง ครับ ฝ่ายบุกย่อมได้เปรียบมากกว่า เพราะเป็นผู้กำหนดเวลาจะบุก ฝ่ายรับรู้เหรอครับว่าจะบุกเข้ายืดตอนไหน เขาเตรียมอะไรมาบ้าง
3. ถ้า....... ขึ้นมาก็จบแล้วครับ ถ้าทางลมมันพัดย้อน คนฉลาดมันจะบุกไปหาอะไรอะครับ
2. หมอกลงหนักทำให้แยกเป้าหมายยากครับ เพราะไม่รู้ว่าที่เห็นเงาตะคุ่มนั้นเป็นศัตรูหรือพวกเดียวกัน แล้วทางทหารถ้าอาวุธพอ ๆ กันฝ่ายรับได้เปรียบนะครับ ตัวอย่างก็เห็นแล้วว่าโจโฉไม่ออกทัพเรือบุกไปหาเพราะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะมาไม้ไหน แล้วถ้าคิดย้อนกลับฝ่ายบุก ๆ ไปจะรู้หรอว่าฝ่ายรับเตรียมอะไรบ้าง
3. จริง ๆ ไม่ต้องถ้า...ก็ได้ เพราะมันบรรยายแล้วว่าทัพโจโฉอยู่เหนือลม ทัพซุนกวนอยู่ใต้ลม ถ้าทัพโจโฉอยู่ใต้ลมคงไม่ต้องมารอขงเบ้งมาทำพิธีหรอกครับ
1. วิธีการที่ท่านยกมาผมไม่แน่ใจว่าใช้ได้จริงหรือไม่ พันปีที่แล้ว เอาอะไรเป็นเชื้อเพลิง แล้วปริมาณเท่าไร ธนูไฟ เหมือนง่าย แต่จริงๆ ง่ายจริงหรือ เอาผ้าพัน ระยะยิง ความผิดพลาดที่จะเกิด วิเคราะห์ดีๆ มีปัจจัยหลายอย่าง แล้วผมก็ไม่เคยยิงธนูไฟจริงๆ สักที
2 โจโฉตั้งค่ายในพื้นที่ใครผมจำไม่ได้ครับ ใครได้เปรียบเสียเปรียบเชิงภูมิศาสตร์ ผมยากจะบอกได้จริงๆ แล้วยังมีเรื่อง Spy อีก ตัวแปรเยอะจริงๆ ครับ
3 ส่วนเรื่องลม ผมก็ไม่ได้คิดว่า พี่เบ้ง เรียกลมได้จริงๆ หรอกครับ ที่เรือโจโฉโดนเผา มันแค่เหตุบังเอิญครับ
ผมว่าธนูไฟ ไม่ได้เป็นอาวุธมาตราฐานของทหารราบหรือเปล่าครับ เพราะลูกศรไฟนั้นมีข้อจำกัด ที่ทำให้ใช้ในพื้นที่การรบที่เปิดโล่งได้ไม่ดี เนื่องจากระยยิงที่สั้น และความไม่แม่นยำของมัน ดังนั้นหากกองทัพมีคำจำเป็นต้อนใช้ลูกศรไฟ น่าจะต้องมีการเตรียมการ เป็นกรณีๆไป เช่นในการรบกลางคืน การทำสงครามปิดล้อมเมือง
การประเมินว่าจะใช่ลูกศรเท่าใด แบบไหนนั้น เป็นเรื่องยาก ไม่มีใครทราบว่าจะต้องใช้ทั้งหมดที่มีในการรบครั้งหนึ่งๆเลยหรือไม่ ดังนั้นการแบ่งลูกศรไปทำลูกศรไฟไว้ก่อน จึงไม่เป็นสิ่งที่พึ่งกระทำ เพราะถ้านำลูกศรไฟมาใช้ในงานของลูกศรปกติ ถึงว่าเป็นที่ที่เสียหายกว่า มากกว่ากรณีทีนำลูกศรปกติมาใช้ในงานของลูกศรไฟครับ
อันนี้เดาล้วนๆครับ
Edited by ควันหลง, 8 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 12:21.
#132
ตอบ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 13:26
1. ธนูไฟเป็นอาวุธมาตรฐานแต่ไม่ได้ใช้กันโดยปกติแค่นั้น จะใช้เมื่อต้องการทำลายพวกสิ่งก่อสร้างไปด้วยอย่างเรือหรือที่กำบัง ส่วนนี้ต้องมีการสั่งงานจากแม่ทัพ ในกองทัพต้องมีไว้ส่วนหนึ่งสำรองไว้ก่อน ไม่งั้นเวลาจะต้องใช้ไม่ต้องรอหลายวันเพื่อจะทำธนูไฟก่อนหรือครับ การแบ่งลูกศรไว้ก่อนเป็นสิ่งที่ควรทำเพราะทำให้ทราบปริมาณลูกศรแต่ละชนิดครับ ถ้าลูกศรปกติไม่พอก็ทำเพิ่ม ส่วนการรบเวลากลางคืนก็ใช้ลูกศรปกติแหละครับ มามืด ๆ ป้องกันยากครับ
1. รบจริงต้องเตรียมพร้อมเผื่อการบุกด้วยครับ ทัพมีทหารนับสิบหมื่นแต่กลับไม่มีการเตรียมธนูไฟไว้เลย ของจริงเป็นไปได้รึครับยิงรบทางน้ำด้วยอีก ถ้าแค่เตรียมการก็แค่เอาผ้าพันลูกธนูไว้ก่อนแค่นั้น เวลาใช้ก้มาชุบเชื้อเพลิงจุดไฟแล้วยิง
1. ยิงเป็นแสนๆ ลูก ไม่แปลกครับ คน พันคน ตั้งแถวหน้ากระดาน ตามแ้นวค่าย นาทีละดอก ชม หนึ่ง ก็ 5 - 6 หมืนแล้วนะครับ แต่ให้แปะขี้ใต้ กับธนู ใช้เวลาเท่าไร ใช้ ขี้ใต้เท่าไร สุมกองเพลิงไว้จุดไฟ ต้องกี่จุดอะครับ ถ้า รบ จริงในสถานการณ์ที่ไม่รู้ว่า โดนบุกจริงหรือไม่ เวลาเตรียมคงไม่พอ
2.หมอกลงหนัก เสียเปรียบทั้งคู่ไม่จริง ครับ ฝ่ายบุกย่อมได้เปรียบมากกว่า เพราะเป็นผู้กำหนดเวลาจะบุก ฝ่ายรับรู้เหรอครับว่าจะบุกเข้ายืดตอนไหน เขาเตรียมอะไรมาบ้าง
3. ถ้า....... ขึ้นมาก็จบแล้วครับ ถ้าทางลมมันพัดย้อน คนฉลาดมันจะบุกไปหาอะไรอะครับ
2. หมอกลงหนักทำให้แยกเป้าหมายยากครับ เพราะไม่รู้ว่าที่เห็นเงาตะคุ่มนั้นเป็นศัตรูหรือพวกเดียวกัน แล้วทางทหารถ้าอาวุธพอ ๆ กันฝ่ายรับได้เปรียบนะครับ ตัวอย่างก็เห็นแล้วว่าโจโฉไม่ออกทัพเรือบุกไปหาเพราะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะมาไม้ไหน แล้วถ้าคิดย้อนกลับฝ่ายบุก ๆ ไปจะรู้หรอว่าฝ่ายรับเตรียมอะไรบ้าง
3. จริง ๆ ไม่ต้องถ้า...ก็ได้ เพราะมันบรรยายแล้วว่าทัพโจโฉอยู่เหนือลม ทัพซุนกวนอยู่ใต้ลม ถ้าทัพโจโฉอยู่ใต้ลมคงไม่ต้องมารอขงเบ้งมาทำพิธีหรอกครับ
1. วิธีการที่ท่านยกมาผมไม่แน่ใจว่าใช้ได้จริงหรือไม่ พันปีที่แล้ว เอาอะไรเป็นเชื้อเพลิง แล้วปริมาณเท่าไร ธนูไฟ เหมือนง่าย แต่จริงๆ ง่ายจริงหรือ เอาผ้าพัน ระยะยิง ความผิดพลาดที่จะเกิด วิเคราะห์ดีๆ มีปัจจัยหลายอย่าง แล้วผมก็ไม่เคยยิงธนูไฟจริงๆ สักที
2 โจโฉตั้งค่ายในพื้นที่ใครผมจำไม่ได้ครับ ใครได้เปรียบเสียเปรียบเชิงภูมิศาสตร์ ผมยากจะบอกได้จริงๆ แล้วยังมีเรื่อง Spy อีก ตัวแปรเยอะจริงๆ ครับ
3 ส่วนเรื่องลม ผมก็ไม่ได้คิดว่า พี่เบ้ง เรียกลมได้จริงๆ หรอกครับ ที่เรือโจโฉโดนเผา มันแค่เหตุบังเอิญครับ
ผมว่าธนูไฟ ไม่ได้เป็นอาวุธมาตราฐานของทหารราบหรือเปล่าครับ เพราะลูกศรไฟนั้นมีข้อจำกัด ที่ทำให้ใช้ในพื้นที่การรบที่เปิดโล่งได้ไม่ดี เนื่องจากระยยิงที่สั้น และความไม่แม่นยำของมัน ดังนั้นหากกองทัพมีคำจำเป็นต้อนใช้ลูกศรไฟ น่าจะต้องมีการเตรียมการ เป็นกรณีๆไป เช่นในการรบกลางคืน การทำสงครามปิดล้อมเมือง
การประเมินว่าจะใช่ลูกศรเท่าใด แบบไหนนั้น เป็นเรื่องยาก ไม่มีใครทราบว่าจะต้องใช้ทั้งหมดที่มีในการรบครั้งหนึ่งๆเลยหรือไม่ ดังนั้นการแบ่งลูกศรไปทำลูกศรไฟไว้ก่อน จึงไม่เป็นสิ่งที่พึ่งกระทำ เพราะถ้านำลูกศรไฟมาใช้ในงานของลูกศรปกติ ถึงว่าเป็นที่ที่เสียหายกว่า มากกว่ากรณีทีนำลูกศรปกติมาใช้ในงานของลูกศรไฟครับ
อันนี้เดาล้วนๆครับ
ที่ไม่ใช้ธนูไฟเพราะต้นเรื่องมันมาจากซุนกวนไปดูค่ายโจโฉแล้วกลับ ไม่ได้จะยืมลูกธนูอะไร พวกทหารเวรยามก็พกธนูปกติกัน
2. โจโฉไล่ตีเล่าปี่ ในขณะนั้นก็น่าเป็นพื้นที่โจโฉเองแหละครับ เพราะยึดได้แล้ว แต่แทนที่จะไล่ตีเล่าปีต่อดันหยุดแล้วจะหันมาตีซุนกวน ส่วนใครได้เปรียบเชิงภูมิศาสตร์นี่ ถ้ารบทางน้ำฝ่ายซุนกวนได้เปรียบครับ แต่ตอนขงเบ้งมายืมลูกธนูนี่ โจโฉมันอยู่บนฝั่งไม่ใช่รึ
3. ทัพโจโฉโดนเผาไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่เกิดความตั้งใจครับ ในนิยายทั้งจิวยี่และขงเบ้งก็จะใช้ไฟตรงกันไม่ใช่รึ ขงเบ้งไม่เท่าไหร่เพราะทำเป็นเรียกลมได้ แต่จิวยี่นี่ถ้าไม่รู้ว่าจะมีลมอาคเนย์มาจะคิดแผนใช้ไฟไปทำไม ส่วนในประวัติศาสตร์ก็มีการเตรียมเรือไว้เผาเช่นกัน
[color=#ff0000;]สำหรับผมคงเลิกเล่นบอร์ดนี้ไว้เพียงเท่านี้ ถ้าไอดีนี้ยังมีบุคคลอื่นที่ใครบางคนคิดว่าเป็นตัวจริงอยู่จริง เขาก็เข้ามาใช้บอร์ดนี้ต่อเองแต่ไม่ใช่ผมแน่นอน[/color]
ลาก่อน สวัสดีครับ 17 มกราคม 2556
#133
ตอบ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 15:34
1. ธนูไฟเป็นอาวุธมาตรฐานแต่ไม่ได้ใช้กันโดยปกติแค่นั้น จะใช้เมื่อต้องการทำลายพวกสิ่งก่อสร้างไปด้วยอย่างเรือหรือที่กำบัง ส่วนนี้ต้องมีการสั่งงานจากแม่ทัพ ในกองทัพต้องมีไว้ส่วนหนึ่งสำรองไว้ก่อน ไม่งั้นเวลาจะต้องใช้ไม่ต้องรอหลายวันเพื่อจะทำธนูไฟก่อนหรือครับ การแบ่งลูกศรไว้ก่อนเป็นสิ่งที่ควรทำเพราะทำให้ทราบปริมาณลูกศรแต่ละชนิดครับ ถ้าลูกศรปกติไม่พอก็ทำเพิ่ม ส่วนการรบเวลากลางคืนก็ใช้ลูกศรปกติแหละครับ มามืด ๆ ป้องกันยากครับ
1. รบจริงต้องเตรียมพร้อมเผื่อการบุกด้วยครับ ทัพมีทหารนับสิบหมื่นแต่กลับไม่มีการเตรียมธนูไฟไว้เลย ของจริงเป็นไปได้รึครับยิงรบทางน้ำด้วยอีก ถ้าแค่เตรียมการก็แค่เอาผ้าพันลูกธนูไว้ก่อนแค่นั้น เวลาใช้ก้มาชุบเชื้อเพลิงจุดไฟแล้วยิง
1. ยิงเป็นแสนๆ ลูก ไม่แปลกครับ คน พันคน ตั้งแถวหน้ากระดาน ตามแ้นวค่าย นาทีละดอก ชม หนึ่ง ก็ 5 - 6 หมืนแล้วนะครับ แต่ให้แปะขี้ใต้ กับธนู ใช้เวลาเท่าไร ใช้ ขี้ใต้เท่าไร สุมกองเพลิงไว้จุดไฟ ต้องกี่จุดอะครับ ถ้า รบ จริงในสถานการณ์ที่ไม่รู้ว่า โดนบุกจริงหรือไม่ เวลาเตรียมคงไม่พอ
2.หมอกลงหนัก เสียเปรียบทั้งคู่ไม่จริง ครับ ฝ่ายบุกย่อมได้เปรียบมากกว่า เพราะเป็นผู้กำหนดเวลาจะบุก ฝ่ายรับรู้เหรอครับว่าจะบุกเข้ายืดตอนไหน เขาเตรียมอะไรมาบ้าง
3. ถ้า....... ขึ้นมาก็จบแล้วครับ ถ้าทางลมมันพัดย้อน คนฉลาดมันจะบุกไปหาอะไรอะครับ
2. หมอกลงหนักทำให้แยกเป้าหมายยากครับ เพราะไม่รู้ว่าที่เห็นเงาตะคุ่มนั้นเป็นศัตรูหรือพวกเดียวกัน แล้วทางทหารถ้าอาวุธพอ ๆ กันฝ่ายรับได้เปรียบนะครับ ตัวอย่างก็เห็นแล้วว่าโจโฉไม่ออกทัพเรือบุกไปหาเพราะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะมาไม้ไหน แล้วถ้าคิดย้อนกลับฝ่ายบุก ๆ ไปจะรู้หรอว่าฝ่ายรับเตรียมอะไรบ้าง
3. จริง ๆ ไม่ต้องถ้า...ก็ได้ เพราะมันบรรยายแล้วว่าทัพโจโฉอยู่เหนือลม ทัพซุนกวนอยู่ใต้ลม ถ้าทัพโจโฉอยู่ใต้ลมคงไม่ต้องมารอขงเบ้งมาทำพิธีหรอกครับ
1. วิธีการที่ท่านยกมาผมไม่แน่ใจว่าใช้ได้จริงหรือไม่ พันปีที่แล้ว เอาอะไรเป็นเชื้อเพลิง แล้วปริมาณเท่าไร ธนูไฟ เหมือนง่าย แต่จริงๆ ง่ายจริงหรือ เอาผ้าพัน ระยะยิง ความผิดพลาดที่จะเกิด วิเคราะห์ดีๆ มีปัจจัยหลายอย่าง แล้วผมก็ไม่เคยยิงธนูไฟจริงๆ สักที
2 โจโฉตั้งค่ายในพื้นที่ใครผมจำไม่ได้ครับ ใครได้เปรียบเสียเปรียบเชิงภูมิศาสตร์ ผมยากจะบอกได้จริงๆ แล้วยังมีเรื่อง Spy อีก ตัวแปรเยอะจริงๆ ครับ
3 ส่วนเรื่องลม ผมก็ไม่ได้คิดว่า พี่เบ้ง เรียกลมได้จริงๆ หรอกครับ ที่เรือโจโฉโดนเผา มันแค่เหตุบังเอิญครับ
ผมว่าธนูไฟ ไม่ได้เป็นอาวุธมาตราฐานของทหารราบหรือเปล่าครับ เพราะลูกศรไฟนั้นมีข้อจำกัด ที่ทำให้ใช้ในพื้นที่การรบที่เปิดโล่งได้ไม่ดี เนื่องจากระยยิงที่สั้น และความไม่แม่นยำของมัน ดังนั้นหากกองทัพมีคำจำเป็นต้อนใช้ลูกศรไฟ น่าจะต้องมีการเตรียมการ เป็นกรณีๆไป เช่นในการรบกลางคืน การทำสงครามปิดล้อมเมือง
การประเมินว่าจะใช่ลูกศรเท่าใด แบบไหนนั้น เป็นเรื่องยาก ไม่มีใครทราบว่าจะต้องใช้ทั้งหมดที่มีในการรบครั้งหนึ่งๆเลยหรือไม่ ดังนั้นการแบ่งลูกศรไปทำลูกศรไฟไว้ก่อน จึงไม่เป็นสิ่งที่พึ่งกระทำ เพราะถ้านำลูกศรไฟมาใช้ในงานของลูกศรปกติ ถึงว่าเป็นที่ที่เสียหายกว่า มากกว่ากรณีทีนำลูกศรปกติมาใช้ในงานของลูกศรไฟครับ
อันนี้เดาล้วนๆครับ
ที่ไม่ใช้ธนูไฟเพราะต้นเรื่องมันมาจากซุนกวนไปดูค่ายโจโฉแล้วกลับ ไม่ได้จะยืมลูกธนูอะไร พวกทหารเวรยามก็พกธนูปกติกัน
2. โจโฉไล่ตีเล่าปี่ ในขณะนั้นก็น่าเป็นพื้นที่โจโฉเองแหละครับ เพราะยึดได้แล้ว แต่แทนที่จะไล่ตีเล่าปีต่อดันหยุดแล้วจะหันมาตีซุนกวน ส่วนใครได้เปรียบเชิงภูมิศาสตร์นี่ ถ้ารบทางน้ำฝ่ายซุนกวนได้เปรียบครับ แต่ตอนขงเบ้งมายืมลูกธนูนี่ โจโฉมันอยู่บนฝั่งไม่ใช่รึ
3. ทัพโจโฉโดนเผาไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่เกิดความตั้งใจครับ ในนิยายทั้งจิวยี่และขงเบ้งก็จะใช้ไฟตรงกันไม่ใช่รึ ขงเบ้งไม่เท่าไหร่เพราะทำเป็นเรียกลมได้ แต่จิวยี่นี่ถ้าไม่รู้ว่าจะมีลมอาคเนย์มาจะคิดแผนใช้ไฟไปทำไม ส่วนในประวัติศาสตร์ก็มีการเตรียมเรือไว้เผาเช่นกัน
โอ้วว...ครับผม ความรู้สามก๊กเนี่ยยผมไม่มีเลยครับ เพราะเคยอ่านแค่นิดเดียว ก๊กเดียวก็ยังไม่จบ ฮ่าๆ
#134
ตอบ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 16:58
ขงเบ้งใช้อบาย
#135
ตอบ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 17:00
เครื่องสายhttp://www.youtube.com/watch?v=Dh6w5Ax4T7A
#136
ตอบ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 23:58
1. ธนูไฟเป็นอาวุธมาตรฐานแต่ไม่ได้ใช้กันโดยปกติแค่นั้น จะใช้เมื่อต้องการทำลายพวกสิ่งก่อสร้างไปด้วยอย่างเรือหรือที่กำบัง ส่วนนี้ต้องมีการสั่งงานจากแม่ทัพ ในกองทัพต้องมีไว้ส่วนหนึ่งสำรองไว้ก่อน ไม่งั้นเวลาจะต้องใช้ไม่ต้องรอหลายวันเพื่อจะทำธนูไฟก่อนหรือครับ การแบ่งลูกศรไว้ก่อนเป็นสิ่งที่ควรทำเพราะทำให้ทราบปริมาณลูกศรแต่ละชนิดครับ ถ้าลูกศรปกติไม่พอก็ทำเพิ่ม ส่วนการรบเวลากลางคืนก็ใช้ลูกศรปกติแหละครับ มามืด ๆ ป้องกันยากครับ
1. รบจริงต้องเตรียมพร้อมเผื่อการบุกด้วยครับ ทัพมีทหารนับสิบหมื่นแต่กลับไม่มีการเตรียมธนูไฟไว้เลย ของจริงเป็นไปได้รึครับยิงรบทางน้ำด้วยอีก ถ้าแค่เตรียมการก็แค่เอาผ้าพันลูกธนูไว้ก่อนแค่นั้น เวลาใช้ก้มาชุบเชื้อเพลิงจุดไฟแล้วยิง
1. ยิงเป็นแสนๆ ลูก ไม่แปลกครับ คน พันคน ตั้งแถวหน้ากระดาน ตามแ้นวค่าย นาทีละดอก ชม หนึ่ง ก็ 5 - 6 หมืนแล้วนะครับ แต่ให้แปะขี้ใต้ กับธนู ใช้เวลาเท่าไร ใช้ ขี้ใต้เท่าไร สุมกองเพลิงไว้จุดไฟ ต้องกี่จุดอะครับ ถ้า รบ จริงในสถานการณ์ที่ไม่รู้ว่า โดนบุกจริงหรือไม่ เวลาเตรียมคงไม่พอ
2.หมอกลงหนัก เสียเปรียบทั้งคู่ไม่จริง ครับ ฝ่ายบุกย่อมได้เปรียบมากกว่า เพราะเป็นผู้กำหนดเวลาจะบุก ฝ่ายรับรู้เหรอครับว่าจะบุกเข้ายืดตอนไหน เขาเตรียมอะไรมาบ้าง
3. ถ้า....... ขึ้นมาก็จบแล้วครับ ถ้าทางลมมันพัดย้อน คนฉลาดมันจะบุกไปหาอะไรอะครับ
2. หมอกลงหนักทำให้แยกเป้าหมายยากครับ เพราะไม่รู้ว่าที่เห็นเงาตะคุ่มนั้นเป็นศัตรูหรือพวกเดียวกัน แล้วทางทหารถ้าอาวุธพอ ๆ กันฝ่ายรับได้เปรียบนะครับ ตัวอย่างก็เห็นแล้วว่าโจโฉไม่ออกทัพเรือบุกไปหาเพราะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะมาไม้ไหน แล้วถ้าคิดย้อนกลับฝ่ายบุก ๆ ไปจะรู้หรอว่าฝ่ายรับเตรียมอะไรบ้าง
3. จริง ๆ ไม่ต้องถ้า...ก็ได้ เพราะมันบรรยายแล้วว่าทัพโจโฉอยู่เหนือลม ทัพซุนกวนอยู่ใต้ลม ถ้าทัพโจโฉอยู่ใต้ลมคงไม่ต้องมารอขงเบ้งมาทำพิธีหรอกครับ
1. วิธีการที่ท่านยกมาผมไม่แน่ใจว่าใช้ได้จริงหรือไม่ พันปีที่แล้ว เอาอะไรเป็นเชื้อเพลิง แล้วปริมาณเท่าไร ธนูไฟ เหมือนง่าย แต่จริงๆ ง่ายจริงหรือ เอาผ้าพัน ระยะยิง ความผิดพลาดที่จะเกิด วิเคราะห์ดีๆ มีปัจจัยหลายอย่าง แล้วผมก็ไม่เคยยิงธนูไฟจริงๆ สักที
2 โจโฉตั้งค่ายในพื้นที่ใครผมจำไม่ได้ครับ ใครได้เปรียบเสียเปรียบเชิงภูมิศาสตร์ ผมยากจะบอกได้จริงๆ แล้วยังมีเรื่อง Spy อีก ตัวแปรเยอะจริงๆ ครับ
3 ส่วนเรื่องลม ผมก็ไม่ได้คิดว่า พี่เบ้ง เรียกลมได้จริงๆ หรอกครับ ที่เรือโจโฉโดนเผา มันแค่เหตุบังเอิญครับ
ผมว่าธนูไฟ ไม่ได้เป็นอาวุธมาตราฐานของทหารราบหรือเปล่าครับ เพราะลูกศรไฟนั้นมีข้อจำกัด ที่ทำให้ใช้ในพื้นที่การรบที่เปิดโล่งได้ไม่ดี เนื่องจากระยยิงที่สั้น และความไม่แม่นยำของมัน ดังนั้นหากกองทัพมีคำจำเป็นต้อนใช้ลูกศรไฟ น่าจะต้องมีการเตรียมการ เป็นกรณีๆไป เช่นในการรบกลางคืน การทำสงครามปิดล้อมเมือง
การประเมินว่าจะใช่ลูกศรเท่าใด แบบไหนนั้น เป็นเรื่องยาก ไม่มีใครทราบว่าจะต้องใช้ทั้งหมดที่มีในการรบครั้งหนึ่งๆเลยหรือไม่ ดังนั้นการแบ่งลูกศรไปทำลูกศรไฟไว้ก่อน จึงไม่เป็นสิ่งที่พึ่งกระทำ เพราะถ้านำลูกศรไฟมาใช้ในงานของลูกศรปกติ ถึงว่าเป็นที่ที่เสียหายกว่า มากกว่ากรณีทีนำลูกศรปกติมาใช้ในงานของลูกศรไฟครับ
อันนี้เดาล้วนๆครับ
ที่ไม่ใช้ธนูไฟเพราะต้นเรื่องมันมาจากซุนกวนไปดูค่ายโจโฉแล้วกลับ ไม่ได้จะยืมลูกธนูอะไร พวกทหารเวรยามก็พกธนูปกติกัน
2. โจโฉไล่ตีเล่าปี่ ในขณะนั้นก็น่าเป็นพื้นที่โจโฉเองแหละครับ เพราะยึดได้แล้ว แต่แทนที่จะไล่ตีเล่าปีต่อดันหยุดแล้วจะหันมาตีซุนกวน ส่วนใครได้เปรียบเชิงภูมิศาสตร์นี่ ถ้ารบทางน้ำฝ่ายซุนกวนได้เปรียบครับ แต่ตอนขงเบ้งมายืมลูกธนูนี่ โจโฉมันอยู่บนฝั่งไม่ใช่รึ
3. ทัพโจโฉโดนเผาไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่เกิดความตั้งใจครับ ในนิยายทั้งจิวยี่และขงเบ้งก็จะใช้ไฟตรงกันไม่ใช่รึ ขงเบ้งไม่เท่าไหร่เพราะทำเป็นเรียกลมได้ แต่จิวยี่นี่ถ้าไม่รู้ว่าจะมีลมอาคเนย์มาจะคิดแผนใช้ไฟไปทำไม ส่วนในประวัติศาสตร์ก็มีการเตรียมเรือไว้เผาเช่นกัน
ท่านเล่นตอบ เอาส่วนที่ผมจะเอาไว้ตอบแย้งท่านหมดอย่างนี้ ผมก็ไม่ต้องโต้กับท่านต่อสิครับ กำลังสนุก
แต่ท่านครับ เรากำลังโต้ตอบกันในเรื่อง ทำไมไม่ใช้ธนูไฟ
1 อย่างท่านว่า การใช้ธนูไฟต้องมีการสั่งการ ถึงเตรียมไว้แล้ว แต่ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเรียกว่า แทบจะประชิตในทัศนวิสัยไม่ดีมีโอกาสไม่ได้ใช้สูงครับ แต่ถามว่าผมสงสัยไหม ก็สงสัยอยู่นะ เพราะตอนอ้วนเสียว ล้อมโจโฉไว้ แล้ว ระดมยิงธนูใส่ ทำไมไม่ใช้ธนูไฟเผาค่าย แล้วบุกตีกันไปเลยจบกันไปนานแล้ว มันมีปัจจัยอะไร
ประเด็นแรกนี้ ด้วยเหตุผล ที่ ผมและท่านยกมา ก็ยังสรุปไม่ได้ว่า ใช้ธนูไฟได้หรือไม่ ในเหตุการณ์ ยืมธนูฯ
2 เรื่องพื้นที่ผมไม่ชำนาญ ภูมิศาสตร์ แต่โจโฉยึดเมืองมาจาก เล่าปี่ (ผู้ซื้อใจคนด้วยน้ำตา) เมืองที่ผู้ชำนาญการทหารอย่าง พี่เบ้ง เดินเล่น โจโฉได้เปรียบเยอะเลยครับ แล้ว ตอนที่ พี่เบ้ง ยืมลูกธนูนี่ โจโฉอยู่บนฝั่งครับ ยิงลงมาจากค่ายกันเลยที่เดียว (ในละคร)
ประเ็ด็นที่สอง ทัศนวิสัย ที่ตั้ง ข่าวสาร แผนการ อันนี้ผมว่าทั้งผมและท่าน ออกนอกประเด็นเกี่ยวกับการใช้ธนูไฟ ไปกันไกลเลย ผมไม่ขอสรุปดีกว่า
3 เรื่องแผนใช้ไฟ จิวยี่รู้ครับ แต่ไม่ได้ประเมิณจากกระแสลม แต่ประเมินจากกระแสน้ำ ตามเนื้อเรื่อง
"ฝ่ายจิวยี่แลเห็นปลายธงพัดมาจากต้นลม ณ ค่ายโจโฉก็สะดุ้งใจ จึงคิดว่าการที่คิดไว้เห็นจะไม่เป็นผล ด้วยลืมฉุกคิดถึงเรื่องลมเสีย ว่าแล้วก็อาเจียนโลหิตสลบลงกับที่แล้วก็ป่วยอยู่ ฝ่ายขงเบ้งรู้ดังนั้นก็เข้าพบจิวยี่รู้ว่า ณ เดือนอ้ายแรมห้าค่ำจะเกิดลมสลาตัน จึงแสร้งว่าสามารถทำพิธีเรียกลมสลาตันได้ จิวยี่รู้ดังนั้นมีความยินดีที่ป่วยอยู่ก็คลายลง"
ส่วนตัวผมไม่คิดว่า จิวยี่ไม่รู้เรื่องลมอาคเนย์ เพราะอาการกลุ้มใจของจิวยี่ อาจเป็นเพียงละครแหกตา หลอก Spy ก็ได้เช่นกัน
แต่ที่เราโต้ตอบกันว่า วุ่ย ใช้ธนูไฟยิง มาตามลมหรือไม่ อันนี้ผมสรุปให้ครับ ว่า ทั้ง พี่เบ้ง และ จิวยี่ รู้ว่าหากหมอกหนา คือ มันไม่มีลมแรงครับ เพราะถ้าลมแรงหมอกจะไม่หนาครับ ดังนั้นเป็นไปได้ครับที่ วุ่ยกลัวโดนเขาเอาเรือติดไฟ มาเผาเรื่อที่จอดเลียบค่ายครับ จึงไม่ใช้ธนูไฟ
ประเด็นนี้สำหรับผมพอแล้วอะครับ เพราะดูเหมือน ท่านและผมเริ่มออกทะเลกันไปทุกที เอาไว้ประเด็นใหม่ดีกว่าครับ
และขอบคุณสำหรับ ข้อมูล คำอธิบาย และโต้ตอบกับคนที่อ่านสามก๊ก ไม่จบสักทีอย่างผม โดยไปเบือหน่ายครับ
[color=#0000ff;][font="Tahoma, sans-serif;"]เราจะรู้.....รสชาติของความสุข[/color][font="Tahoma, sans-serif;"]ก็ต่อเมื่อ เราผ่านความทุกข์มาก่อน[/font][/font]
#137
ตอบ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 01:26
1. เหตุการณ์แทบจะประชิดอะไรครับ สามยามจนฟ้าสางนี่เวลาไม่ใช่น้อย ๆ นะครับ ไม่ใช่เหตุการณ์ตามประวัติศาสตร์แบบซุนกวนที่มาดูค่ายโจโฉแล้วกลับไม่ทันใช้ธนูไฟ ทัศนวิสัยไม่ดีแต่ดันโผล่มาใกล้แบบไม่น่าจะเกิน 10 เมตรเนี่ยนะ ส่วนในนิยายต้องการยกให้ขงเบ้งเด่น ขืนแต่งให้ฝ่ายโจโฉใช้ธนูไฟ ขงเบ้งก็เสียหน้าจิวยี่สิครับ ส่วนเรื่องอ้วนเสี้ยวนี่ไม่รู้เรื่องปัจจัยสภาพแวดล้อมยิ่งกว่าอีก ลมพัดไปทางไหนบอกไหมครับ แล้วระยะเอี้ยวเสี้ยวก็อยู่ที่สูงได้เปรียบ จะย่นระยะไปทำไม ไม่ใช่แบบโจโฉขงเบ้งที่ห่างกันไม่ถึง 10 เมตร
1. ธนูไฟเป็นอาวุธมาตรฐานแต่ไม่ได้ใช้กันโดยปกติแค่นั้น จะใช้เมื่อต้องการทำลายพวกสิ่งก่อสร้างไปด้วยอย่างเรือหรือที่กำบัง ส่วนนี้ต้องมีการสั่งงานจากแม่ทัพ ในกองทัพต้องมีไว้ส่วนหนึ่งสำรองไว้ก่อน ไม่งั้นเวลาจะต้องใช้ไม่ต้องรอหลายวันเพื่อจะทำธนูไฟก่อนหรือครับ การแบ่งลูกศรไว้ก่อนเป็นสิ่งที่ควรทำเพราะทำให้ทราบปริมาณลูกศรแต่ละชนิดครับ ถ้าลูกศรปกติไม่พอก็ทำเพิ่ม ส่วนการรบเวลากลางคืนก็ใช้ลูกศรปกติแหละครับ มามืด ๆ ป้องกันยากครับ
1. รบจริงต้องเตรียมพร้อมเผื่อการบุกด้วยครับ ทัพมีทหารนับสิบหมื่นแต่กลับไม่มีการเตรียมธนูไฟไว้เลย ของจริงเป็นไปได้รึครับยิงรบทางน้ำด้วยอีก ถ้าแค่เตรียมการก็แค่เอาผ้าพันลูกธนูไว้ก่อนแค่นั้น เวลาใช้ก้มาชุบเชื้อเพลิงจุดไฟแล้วยิง
1. ยิงเป็นแสนๆ ลูก ไม่แปลกครับ คน พันคน ตั้งแถวหน้ากระดาน ตามแ้นวค่าย นาทีละดอก ชม หนึ่ง ก็ 5 - 6 หมืนแล้วนะครับ แต่ให้แปะขี้ใต้ กับธนู ใช้เวลาเท่าไร ใช้ ขี้ใต้เท่าไร สุมกองเพลิงไว้จุดไฟ ต้องกี่จุดอะครับ ถ้า รบ จริงในสถานการณ์ที่ไม่รู้ว่า โดนบุกจริงหรือไม่ เวลาเตรียมคงไม่พอ
2.หมอกลงหนัก เสียเปรียบทั้งคู่ไม่จริง ครับ ฝ่ายบุกย่อมได้เปรียบมากกว่า เพราะเป็นผู้กำหนดเวลาจะบุก ฝ่ายรับรู้เหรอครับว่าจะบุกเข้ายืดตอนไหน เขาเตรียมอะไรมาบ้าง
3. ถ้า....... ขึ้นมาก็จบแล้วครับ ถ้าทางลมมันพัดย้อน คนฉลาดมันจะบุกไปหาอะไรอะครับ
2. หมอกลงหนักทำให้แยกเป้าหมายยากครับ เพราะไม่รู้ว่าที่เห็นเงาตะคุ่มนั้นเป็นศัตรูหรือพวกเดียวกัน แล้วทางทหารถ้าอาวุธพอ ๆ กันฝ่ายรับได้เปรียบนะครับ ตัวอย่างก็เห็นแล้วว่าโจโฉไม่ออกทัพเรือบุกไปหาเพราะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะมาไม้ไหน แล้วถ้าคิดย้อนกลับฝ่ายบุก ๆ ไปจะรู้หรอว่าฝ่ายรับเตรียมอะไรบ้าง
3. จริง ๆ ไม่ต้องถ้า...ก็ได้ เพราะมันบรรยายแล้วว่าทัพโจโฉอยู่เหนือลม ทัพซุนกวนอยู่ใต้ลม ถ้าทัพโจโฉอยู่ใต้ลมคงไม่ต้องมารอขงเบ้งมาทำพิธีหรอกครับ
1. วิธีการที่ท่านยกมาผมไม่แน่ใจว่าใช้ได้จริงหรือไม่ พันปีที่แล้ว เอาอะไรเป็นเชื้อเพลิง แล้วปริมาณเท่าไร ธนูไฟ เหมือนง่าย แต่จริงๆ ง่ายจริงหรือ เอาผ้าพัน ระยะยิง ความผิดพลาดที่จะเกิด วิเคราะห์ดีๆ มีปัจจัยหลายอย่าง แล้วผมก็ไม่เคยยิงธนูไฟจริงๆ สักที
2 โจโฉตั้งค่ายในพื้นที่ใครผมจำไม่ได้ครับ ใครได้เปรียบเสียเปรียบเชิงภูมิศาสตร์ ผมยากจะบอกได้จริงๆ แล้วยังมีเรื่อง Spy อีก ตัวแปรเยอะจริงๆ ครับ
3 ส่วนเรื่องลม ผมก็ไม่ได้คิดว่า พี่เบ้ง เรียกลมได้จริงๆ หรอกครับ ที่เรือโจโฉโดนเผา มันแค่เหตุบังเอิญครับ
ผมว่าธนูไฟ ไม่ได้เป็นอาวุธมาตราฐานของทหารราบหรือเปล่าครับ เพราะลูกศรไฟนั้นมีข้อจำกัด ที่ทำให้ใช้ในพื้นที่การรบที่เปิดโล่งได้ไม่ดี เนื่องจากระยยิงที่สั้น และความไม่แม่นยำของมัน ดังนั้นหากกองทัพมีคำจำเป็นต้อนใช้ลูกศรไฟ น่าจะต้องมีการเตรียมการ เป็นกรณีๆไป เช่นในการรบกลางคืน การทำสงครามปิดล้อมเมือง
การประเมินว่าจะใช่ลูกศรเท่าใด แบบไหนนั้น เป็นเรื่องยาก ไม่มีใครทราบว่าจะต้องใช้ทั้งหมดที่มีในการรบครั้งหนึ่งๆเลยหรือไม่ ดังนั้นการแบ่งลูกศรไปทำลูกศรไฟไว้ก่อน จึงไม่เป็นสิ่งที่พึ่งกระทำ เพราะถ้านำลูกศรไฟมาใช้ในงานของลูกศรปกติ ถึงว่าเป็นที่ที่เสียหายกว่า มากกว่ากรณีทีนำลูกศรปกติมาใช้ในงานของลูกศรไฟครับ
อันนี้เดาล้วนๆครับ
ที่ไม่ใช้ธนูไฟเพราะต้นเรื่องมันมาจากซุนกวนไปดูค่ายโจโฉแล้วกลับ ไม่ได้จะยืมลูกธนูอะไร พวกทหารเวรยามก็พกธนูปกติกัน
2. โจโฉไล่ตีเล่าปี่ ในขณะนั้นก็น่าเป็นพื้นที่โจโฉเองแหละครับ เพราะยึดได้แล้ว แต่แทนที่จะไล่ตีเล่าปีต่อดันหยุดแล้วจะหันมาตีซุนกวน ส่วนใครได้เปรียบเชิงภูมิศาสตร์นี่ ถ้ารบทางน้ำฝ่ายซุนกวนได้เปรียบครับ แต่ตอนขงเบ้งมายืมลูกธนูนี่ โจโฉมันอยู่บนฝั่งไม่ใช่รึ
3. ทัพโจโฉโดนเผาไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่เกิดความตั้งใจครับ ในนิยายทั้งจิวยี่และขงเบ้งก็จะใช้ไฟตรงกันไม่ใช่รึ ขงเบ้งไม่เท่าไหร่เพราะทำเป็นเรียกลมได้ แต่จิวยี่นี่ถ้าไม่รู้ว่าจะมีลมอาคเนย์มาจะคิดแผนใช้ไฟไปทำไม ส่วนในประวัติศาสตร์ก็มีการเตรียมเรือไว้เผาเช่นกัน
ท่านเล่นตอบ เอาส่วนที่ผมจะเอาไว้ตอบแย้งท่านหมดอย่างนี้ ผมก็ไม่ต้องโต้กับท่านต่อสิครับ กำลังสนุก
แต่ท่านครับ เรากำลังโต้ตอบกันในเรื่อง ทำไมไม่ใช้ธนูไฟ
1 อย่างท่านว่า การใช้ธนูไฟต้องมีการสั่งการ ถึงเตรียมไว้แล้ว แต่ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเรียกว่า แทบจะประชิตในทัศนวิสัยไม่ดีมีโอกาสไม่ได้ใช้สูงครับ แต่ถามว่าผมสงสัยไหม ก็สงสัยอยู่นะ เพราะตอนอ้วนเสียว ล้อมโจโฉไว้ แล้ว ระดมยิงธนูใส่ ทำไมไม่ใช้ธนูไฟเผาค่าย แล้วบุกตีกันไปเลยจบกันไปนานแล้ว มันมีปัจจัยอะไร
ประเด็นแรกนี้ ด้วยเหตุผล ที่ ผมและท่านยกมา ก็ยังสรุปไม่ได้ว่า ใช้ธนูไฟได้หรือไม่ ในเหตุการณ์ ยืมธนูฯ
2 เรื่องพื้นที่ผมไม่ชำนาญ ภูมิศาสตร์ แต่โจโฉยึดเมืองมาจาก เล่าปี่ (ผู้ซื้อใจคนด้วยน้ำตา) เมืองที่ผู้ชำนาญการทหารอย่าง พี่เบ้ง เดินเล่น โจโฉได้เปรียบเยอะเลยครับ แล้ว ตอนที่ พี่เบ้ง ยืมลูกธนูนี่ โจโฉอยู่บนฝั่งครับ ยิงลงมาจากค่ายกันเลยที่เดียว (ในละคร)
ประเ็ด็นที่สอง ทัศนวิสัย ที่ตั้ง ข่าวสาร แผนการ อันนี้ผมว่าทั้งผมและท่าน ออกนอกประเด็นเกี่ยวกับการใช้ธนูไฟ ไปกันไกลเลย ผมไม่ขอสรุปดีกว่า
3 เรื่องแผนใช้ไฟ จิวยี่รู้ครับ แต่ไม่ได้ประเมิณจากกระแสลม แต่ประเมินจากกระแสน้ำ ตามเนื้อเรื่อง
"ฝ่ายจิวยี่แลเห็นปลายธงพัดมาจากต้นลม ณ ค่ายโจโฉก็สะดุ้งใจ จึงคิดว่าการที่คิดไว้เห็นจะไม่เป็นผล ด้วยลืมฉุกคิดถึงเรื่องลมเสีย ว่าแล้วก็อาเจียนโลหิตสลบลงกับที่แล้วก็ป่วยอยู่ ฝ่ายขงเบ้งรู้ดังนั้นก็เข้าพบจิวยี่รู้ว่า ณ เดือนอ้ายแรมห้าค่ำจะเกิดลมสลาตัน จึงแสร้งว่าสามารถทำพิธีเรียกลมสลาตันได้ จิวยี่รู้ดังนั้นมีความยินดีที่ป่วยอยู่ก็คลายลง"
ส่วนตัวผมไม่คิดว่า จิวยี่ไม่รู้เรื่องลมอาคเนย์ เพราะอาการกลุ้มใจของจิวยี่ อาจเป็นเพียงละครแหกตา หลอก Spy ก็ได้เช่นกัน
แต่ที่เราโต้ตอบกันว่า วุ่ย ใช้ธนูไฟยิง มาตามลมหรือไม่ อันนี้ผมสรุปให้ครับ ว่า ทั้ง พี่เบ้ง และ จิวยี่ รู้ว่าหากหมอกหนา คือ มันไม่มีลมแรงครับ เพราะถ้าลมแรงหมอกจะไม่หนาครับ ดังนั้นเป็นไปได้ครับที่ วุ่ยกลัวโดนเขาเอาเรือติดไฟ มาเผาเรื่อที่จอดเลียบค่ายครับ จึงไม่ใช้ธนูไฟ
ประเด็นนี้สำหรับผมพอแล้วอะครับ เพราะดูเหมือน ท่านและผมเริ่มออกทะเลกันไปทุกที เอาไว้ประเด็นใหม่ดีกว่าครับ
และขอบคุณสำหรับ ข้อมูล คำอธิบาย และโต้ตอบกับคนที่อ่านสามก๊ก ไม่จบสักทีอย่างผม โดยไปเบือหน่ายครับ
2. โจโฉอยู่บนฝั่ง แล้วขงเบ้งนั่งเรือไปเป็นฝ่ายบุกแต่จะบุกได้ต้องขึ้นฝั่งอีก คิดว่าจะยังได้เปรียบไหมล่ะครับ เรื่องยิงลงมาจากค่ายในนิยายยังมีการสั่งให้ไปยิงตามชายฝั่งอีกนะนั่น
3. จะใช้ขงเบ้งเหนือกว่าจิวยี่ตามแบบนิยายเล่นงิ้วต้องให้จิวยี่ไม่รู้ครับ
ส่วนเรื่องกลัวเรือติดไฟมาเผาเรือที่จอดเลียบค่าย ตอนนั้นยังไม่มีการผูกเรือกันไม่ใช่รึครับ แล้วทัพก็อยู่บนฝั่งกัน
ทำไมวุยไม่ใช้ธนูไฟ ผมก็สรุปว่าในนิยายต้องการโชว์ความสามารถขงเบ้ง ขืนเขียนไปว่าโดนธนูไฟ ขงเบ้งก็เสียหมาให้จิวยี่กันสิครับ ไม่ก็คนแต่งนิยายลืมนึกประเด็นเรื่องนี้ ส่วนตามประวัติศาสตร์เวลาน้อยเกินไปไม่ทันได้ใช้ ซุนกวนก็กลับไปก่อน
[color=#ff0000;]สำหรับผมคงเลิกเล่นบอร์ดนี้ไว้เพียงเท่านี้ ถ้าไอดีนี้ยังมีบุคคลอื่นที่ใครบางคนคิดว่าเป็นตัวจริงอยู่จริง เขาก็เข้ามาใช้บอร์ดนี้ต่อเองแต่ไม่ใช่ผมแน่นอน[/color]
ลาก่อน สวัสดีครับ 17 มกราคม 2556
#138
ตอบ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 10:38
ความจริงเรื่องลม ฝ่ายทัพโจโฉ ก็รู้ครับ แต่รู้น้อยกว่า หรือ ผู้เขียน
จงใจให้..รู้น้อยกว่า..ก็ต้องคิดกันเอา ถ้าเป็นจริง ผมว่า ขงเบ้ง ก็
เป็นนักดาราศาสตร์ ที่ยอดเยี่ยมแห่งยุค เพราะถ้าคำนวนผิดพลาด
ก็วางชีวิตตัวเองเป็นเดิมพันแล้ว.เรื่องธนู. ก็เดิมพันชีวิตไว้กับ จิวยี่.
ทุกครั้งที่ทำศึก ขงเบ้ง.จะดูภูมิประเทศเป็นหลัก อย่างศึก.เนินพกบ๋อง.
ก็ไม่ใช่ศึกใหญ่โตอะไร และจะประเมิลแม่ทัพนายกองข้าศึกว่ามีอุปนิสัย
อย่างไร เหล่านี้คือ จุดเด่นของขงเบ้ง.....( ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าความคิดของ-
ขงเบ้ง หรือ หลอกว้านจง ) เพราะ ท่านหลอฯ เป็นผู้กำหนด บทบาท
ของบุคคลเหล่านี้.อ่านแล้ว ควรพิจารณาถึง...ความเป็นไปได้...มากกว่า...
#139
ตอบ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 11:18
มันผู้ได สนับสนุนการนิรโทษกรรม ไม่ลากคอไอ้ฆาตกรชั่วใจสัตว์ โหดอำมหิต ผู้บงการฆ่าพี่น้องเสื้อแดงของกู 91 ศพ และพี่น้อง กปปส.ของกูอีก 20 ศพ มาลงโทษลงทัณฑ์ตามกบิลเมือง กูขอสาปแช่งให้มันและทุกๆคนที่มันรัก จงประสพกับความวิบัติฉิบหายในชาตินี้ และต่อๆไปทุกภพทุกชาติ จนกว่าจะสิ้นกาล
#140
ตอบ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 17:52
1. เหตุการณ์แทบจะประชิดอะไรครับ สามยามจนฟ้าสางนี่เวลาไม่ใช่น้อย ๆ นะครับ ไม่ใช่เหตุการณ์ตามประวัติศาสตร์แบบซุนกวนที่มาดูค่ายโจโฉแล้วกลับไม่ทันใช้ธนูไฟ ทัศนวิสัยไม่ดีแต่ดันโผล่มาใกล้แบบไม่น่าจะเกิน 10 เมตรเนี่ยนะ ส่วนในนิยายต้องการยกให้ขงเบ้งเด่น ขืนแต่งให้ฝ่ายโจโฉใช้ธนูไฟ ขงเบ้งก็เสียหน้าจิวยี่สิครับ ส่วนเรื่องอ้วนเสี้ยวนี่ไม่รู้เรื่องปัจจัยสภาพแวดล้อมยิ่งกว่าอีก ลมพัดไปทางไหนบอกไหมครับ แล้วระยะเอี้ยวเสี้ยวก็อยู่ที่สูงได้เปรียบ จะย่นระยะไปทำไม ไม่ใช่แบบโจโฉขงเบ้งที่ห่างกันไม่ถึง 10 เมตร
1. ธนูไฟเป็นอาวุธมาตรฐานแต่ไม่ได้ใช้กันโดยปกติแค่นั้น จะใช้เมื่อต้องการทำลายพวกสิ่งก่อสร้างไปด้วยอย่างเรือหรือที่กำบัง ส่วนนี้ต้องมีการสั่งงานจากแม่ทัพ ในกองทัพต้องมีไว้ส่วนหนึ่งสำรองไว้ก่อน ไม่งั้นเวลาจะต้องใช้ไม่ต้องรอหลายวันเพื่อจะทำธนูไฟก่อนหรือครับ การแบ่งลูกศรไว้ก่อนเป็นสิ่งที่ควรทำเพราะทำให้ทราบปริมาณลูกศรแต่ละชนิดครับ ถ้าลูกศรปกติไม่พอก็ทำเพิ่ม ส่วนการรบเวลากลางคืนก็ใช้ลูกศรปกติแหละครับ มามืด ๆ ป้องกันยากครับ
1. รบจริงต้องเตรียมพร้อมเผื่อการบุกด้วยครับ ทัพมีทหารนับสิบหมื่นแต่กลับไม่มีการเตรียมธนูไฟไว้เลย ของจริงเป็นไปได้รึครับยิงรบทางน้ำด้วยอีก ถ้าแค่เตรียมการก็แค่เอาผ้าพันลูกธนูไว้ก่อนแค่นั้น เวลาใช้ก้มาชุบเชื้อเพลิงจุดไฟแล้วยิง
1. ยิงเป็นแสนๆ ลูก ไม่แปลกครับ คน พันคน ตั้งแถวหน้ากระดาน ตามแ้นวค่าย นาทีละดอก ชม หนึ่ง ก็ 5 - 6 หมืนแล้วนะครับ แต่ให้แปะขี้ใต้ กับธนู ใช้เวลาเท่าไร ใช้ ขี้ใต้เท่าไร สุมกองเพลิงไว้จุดไฟ ต้องกี่จุดอะครับ ถ้า รบ จริงในสถานการณ์ที่ไม่รู้ว่า โดนบุกจริงหรือไม่ เวลาเตรียมคงไม่พอ
2.หมอกลงหนัก เสียเปรียบทั้งคู่ไม่จริง ครับ ฝ่ายบุกย่อมได้เปรียบมากกว่า เพราะเป็นผู้กำหนดเวลาจะบุก ฝ่ายรับรู้เหรอครับว่าจะบุกเข้ายืดตอนไหน เขาเตรียมอะไรมาบ้าง
3. ถ้า....... ขึ้นมาก็จบแล้วครับ ถ้าทางลมมันพัดย้อน คนฉลาดมันจะบุกไปหาอะไรอะครับ
2. หมอกลงหนักทำให้แยกเป้าหมายยากครับ เพราะไม่รู้ว่าที่เห็นเงาตะคุ่มนั้นเป็นศัตรูหรือพวกเดียวกัน แล้วทางทหารถ้าอาวุธพอ ๆ กันฝ่ายรับได้เปรียบนะครับ ตัวอย่างก็เห็นแล้วว่าโจโฉไม่ออกทัพเรือบุกไปหาเพราะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะมาไม้ไหน แล้วถ้าคิดย้อนกลับฝ่ายบุก ๆ ไปจะรู้หรอว่าฝ่ายรับเตรียมอะไรบ้าง
3. จริง ๆ ไม่ต้องถ้า...ก็ได้ เพราะมันบรรยายแล้วว่าทัพโจโฉอยู่เหนือลม ทัพซุนกวนอยู่ใต้ลม ถ้าทัพโจโฉอยู่ใต้ลมคงไม่ต้องมารอขงเบ้งมาทำพิธีหรอกครับ
1. วิธีการที่ท่านยกมาผมไม่แน่ใจว่าใช้ได้จริงหรือไม่ พันปีที่แล้ว เอาอะไรเป็นเชื้อเพลิง แล้วปริมาณเท่าไร ธนูไฟ เหมือนง่าย แต่จริงๆ ง่ายจริงหรือ เอาผ้าพัน ระยะยิง ความผิดพลาดที่จะเกิด วิเคราะห์ดีๆ มีปัจจัยหลายอย่าง แล้วผมก็ไม่เคยยิงธนูไฟจริงๆ สักที
2 โจโฉตั้งค่ายในพื้นที่ใครผมจำไม่ได้ครับ ใครได้เปรียบเสียเปรียบเชิงภูมิศาสตร์ ผมยากจะบอกได้จริงๆ แล้วยังมีเรื่อง Spy อีก ตัวแปรเยอะจริงๆ ครับ
3 ส่วนเรื่องลม ผมก็ไม่ได้คิดว่า พี่เบ้ง เรียกลมได้จริงๆ หรอกครับ ที่เรือโจโฉโดนเผา มันแค่เหตุบังเอิญครับ
ผมว่าธนูไฟ ไม่ได้เป็นอาวุธมาตราฐานของทหารราบหรือเปล่าครับ เพราะลูกศรไฟนั้นมีข้อจำกัด ที่ทำให้ใช้ในพื้นที่การรบที่เปิดโล่งได้ไม่ดี เนื่องจากระยยิงที่สั้น และความไม่แม่นยำของมัน ดังนั้นหากกองทัพมีคำจำเป็นต้อนใช้ลูกศรไฟ น่าจะต้องมีการเตรียมการ เป็นกรณีๆไป เช่นในการรบกลางคืน การทำสงครามปิดล้อมเมือง
การประเมินว่าจะใช่ลูกศรเท่าใด แบบไหนนั้น เป็นเรื่องยาก ไม่มีใครทราบว่าจะต้องใช้ทั้งหมดที่มีในการรบครั้งหนึ่งๆเลยหรือไม่ ดังนั้นการแบ่งลูกศรไปทำลูกศรไฟไว้ก่อน จึงไม่เป็นสิ่งที่พึ่งกระทำ เพราะถ้านำลูกศรไฟมาใช้ในงานของลูกศรปกติ ถึงว่าเป็นที่ที่เสียหายกว่า มากกว่ากรณีทีนำลูกศรปกติมาใช้ในงานของลูกศรไฟครับ
อันนี้เดาล้วนๆครับ
ที่ไม่ใช้ธนูไฟเพราะต้นเรื่องมันมาจากซุนกวนไปดูค่ายโจโฉแล้วกลับ ไม่ได้จะยืมลูกธนูอะไร พวกทหารเวรยามก็พกธนูปกติกัน
2. โจโฉไล่ตีเล่าปี่ ในขณะนั้นก็น่าเป็นพื้นที่โจโฉเองแหละครับ เพราะยึดได้แล้ว แต่แทนที่จะไล่ตีเล่าปีต่อดันหยุดแล้วจะหันมาตีซุนกวน ส่วนใครได้เปรียบเชิงภูมิศาสตร์นี่ ถ้ารบทางน้ำฝ่ายซุนกวนได้เปรียบครับ แต่ตอนขงเบ้งมายืมลูกธนูนี่ โจโฉมันอยู่บนฝั่งไม่ใช่รึ
3. ทัพโจโฉโดนเผาไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่เกิดความตั้งใจครับ ในนิยายทั้งจิวยี่และขงเบ้งก็จะใช้ไฟตรงกันไม่ใช่รึ ขงเบ้งไม่เท่าไหร่เพราะทำเป็นเรียกลมได้ แต่จิวยี่นี่ถ้าไม่รู้ว่าจะมีลมอาคเนย์มาจะคิดแผนใช้ไฟไปทำไม ส่วนในประวัติศาสตร์ก็มีการเตรียมเรือไว้เผาเช่นกัน
ท่านเล่นตอบ เอาส่วนที่ผมจะเอาไว้ตอบแย้งท่านหมดอย่างนี้ ผมก็ไม่ต้องโต้กับท่านต่อสิครับ กำลังสนุก
แต่ท่านครับ เรากำลังโต้ตอบกันในเรื่อง ทำไมไม่ใช้ธนูไฟ
1 อย่างท่านว่า การใช้ธนูไฟต้องมีการสั่งการ ถึงเตรียมไว้แล้ว แต่ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเรียกว่า แทบจะประชิตในทัศนวิสัยไม่ดีมีโอกาสไม่ได้ใช้สูงครับ แต่ถามว่าผมสงสัยไหม ก็สงสัยอยู่นะ เพราะตอนอ้วนเสียว ล้อมโจโฉไว้ แล้ว ระดมยิงธนูใส่ ทำไมไม่ใช้ธนูไฟเผาค่าย แล้วบุกตีกันไปเลยจบกันไปนานแล้ว มันมีปัจจัยอะไร
ประเด็นแรกนี้ ด้วยเหตุผล ที่ ผมและท่านยกมา ก็ยังสรุปไม่ได้ว่า ใช้ธนูไฟได้หรือไม่ ในเหตุการณ์ ยืมธนูฯ
2 เรื่องพื้นที่ผมไม่ชำนาญ ภูมิศาสตร์ แต่โจโฉยึดเมืองมาจาก เล่าปี่ (ผู้ซื้อใจคนด้วยน้ำตา) เมืองที่ผู้ชำนาญการทหารอย่าง พี่เบ้ง เดินเล่น โจโฉได้เปรียบเยอะเลยครับ แล้ว ตอนที่ พี่เบ้ง ยืมลูกธนูนี่ โจโฉอยู่บนฝั่งครับ ยิงลงมาจากค่ายกันเลยที่เดียว (ในละคร)
ประเ็ด็นที่สอง ทัศนวิสัย ที่ตั้ง ข่าวสาร แผนการ อันนี้ผมว่าทั้งผมและท่าน ออกนอกประเด็นเกี่ยวกับการใช้ธนูไฟ ไปกันไกลเลย ผมไม่ขอสรุปดีกว่า
3 เรื่องแผนใช้ไฟ จิวยี่รู้ครับ แต่ไม่ได้ประเมิณจากกระแสลม แต่ประเมินจากกระแสน้ำ ตามเนื้อเรื่อง
"ฝ่ายจิวยี่แลเห็นปลายธงพัดมาจากต้นลม ณ ค่ายโจโฉก็สะดุ้งใจ จึงคิดว่าการที่คิดไว้เห็นจะไม่เป็นผล ด้วยลืมฉุกคิดถึงเรื่องลมเสีย ว่าแล้วก็อาเจียนโลหิตสลบลงกับที่แล้วก็ป่วยอยู่ ฝ่ายขงเบ้งรู้ดังนั้นก็เข้าพบจิวยี่รู้ว่า ณ เดือนอ้ายแรมห้าค่ำจะเกิดลมสลาตัน จึงแสร้งว่าสามารถทำพิธีเรียกลมสลาตันได้ จิวยี่รู้ดังนั้นมีความยินดีที่ป่วยอยู่ก็คลายลง"
ส่วนตัวผมไม่คิดว่า จิวยี่ไม่รู้เรื่องลมอาคเนย์ เพราะอาการกลุ้มใจของจิวยี่ อาจเป็นเพียงละครแหกตา หลอก Spy ก็ได้เช่นกัน
แต่ที่เราโต้ตอบกันว่า วุ่ย ใช้ธนูไฟยิง มาตามลมหรือไม่ อันนี้ผมสรุปให้ครับ ว่า ทั้ง พี่เบ้ง และ จิวยี่ รู้ว่าหากหมอกหนา คือ มันไม่มีลมแรงครับ เพราะถ้าลมแรงหมอกจะไม่หนาครับ ดังนั้นเป็นไปได้ครับที่ วุ่ยกลัวโดนเขาเอาเรือติดไฟ มาเผาเรื่อที่จอดเลียบค่ายครับ จึงไม่ใช้ธนูไฟ
ประเด็นนี้สำหรับผมพอแล้วอะครับ เพราะดูเหมือน ท่านและผมเริ่มออกทะเลกันไปทุกที เอาไว้ประเด็นใหม่ดีกว่าครับ
และขอบคุณสำหรับ ข้อมูล คำอธิบาย และโต้ตอบกับคนที่อ่านสามก๊ก ไม่จบสักทีอย่างผม โดยไปเบือหน่ายครับ
2. โจโฉอยู่บนฝั่ง แล้วขงเบ้งนั่งเรือไปเป็นฝ่ายบุกแต่จะบุกได้ต้องขึ้นฝั่งอีก คิดว่าจะยังได้เปรียบไหมล่ะครับ เรื่องยิงลงมาจากค่ายในนิยายยังมีการสั่งให้ไปยิงตามชายฝั่งอีกนะนั่น
3. จะใช้ขงเบ้งเหนือกว่าจิวยี่ตามแบบนิยายเล่นงิ้วต้องให้จิวยี่ไม่รู้ครับ
ส่วนเรื่องกลัวเรือติดไฟมาเผาเรือที่จอดเลียบค่าย ตอนนั้นยังไม่มีการผูกเรือกันไม่ใช่รึครับ แล้วทัพก็อยู่บนฝั่งกัน
ทำไมวุยไม่ใช้ธนูไฟ ผมก็สรุปว่าในนิยายต้องการโชว์ความสามารถขงเบ้ง ขืนเขียนไปว่าโดนธนูไฟ ขงเบ้งก็เสียหมาให้จิวยี่กันสิครับ ไม่ก็คนแต่งนิยายลืมนึกประเด็นเรื่องนี้ ส่วนตามประวัติศาสตร์เวลาน้อยเกินไปไม่ทันได้ใช้ ซุนกวนก็กลับไปก่อน
เอารูปมาให้ดูดีกว่าครับ
1.ด้วยข้อสงสัยอะครับ แม่น้ำแยกซีเกียงตรงโจโฉตั้งค่าย กว้างแค่ไหนครับ บริเวณด้านข้าง เทียบเรือไม่ได้จริงหรือ ในวันที่หมอกลงหนา ใช่ว่าจะเห็นเรือในระยะ 10 เมตรนะครับ ถ้าเรือใหญ่ก็เห็นได้ไกลกว่า แต่ระยะธนูถึงและมีแรงพอจะปักเป้าหมาย น่าจะไม่กิน 30
2. อันนี้ผมอ้างจากนิยายนะ ผมก็ไม่เคยไปสถานที่จริง ฝ่ายวุยกลัวทหารซุ่มจึงไม่ออกมา แสดงว่า ขอบตลิ่ง มีพื้นที้ให้ทหารเดินเท้าเดินได้เป็นแนวยาว
3. ผมย้ำจริงๆอะครับ ถ้าเรือเทียบท่า ไม่ต้องเอาโซ่คล้องหรอกครับท่าน เพราะจะต้องจอดเทียบชิดกันและ โยงเรือด้วยกันไว้อยู่แล้ว ขอเพียงรู้ตำแหน่งและไปถึงด้วยความรวดเร็ว ก็มีโอกาสสูงที่จะเผาทั้งยวง
[color=#0000ff;][font="Tahoma, sans-serif;"]เราจะรู้.....รสชาติของความสุข[/color][font="Tahoma, sans-serif;"]ก็ต่อเมื่อ เราผ่านความทุกข์มาก่อน[/font][/font]
#141
ตอบ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 18:04
ก็คือ "ใครยึดถือสามก๊กเป็นแบบอย่างก็มีแต่ประตูแพ้ลูกเดียว"
เหนือกว่ากลศึกคือความพลิกแพลง ดั่งที่ซุนวูว่าใว้
"จริงคือลวง ลวงคือจริง รู้เขารู้เรา รบร้อย ชนะร้อย"
มันผู้ได สนับสนุนการนิรโทษกรรม ไม่ลากคอไอ้ฆาตกรชั่วใจสัตว์ โหดอำมหิต ผู้บงการฆ่าพี่น้องเสื้อแดงของกู 91 ศพ และพี่น้อง กปปส.ของกูอีก 20 ศพ มาลงโทษลงทัณฑ์ตามกบิลเมือง กูขอสาปแช่งให้มันและทุกๆคนที่มันรัก จงประสพกับความวิบัติฉิบหายในชาตินี้ และต่อๆไปทุกภพทุกชาติ จนกว่าจะสิ้นกาล
#142
ตอบ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 18:15
ขงเบ้ง ตอนเผาทัพเรือโจโฉยังรู้เลยว่าจะมีลมมาช่วยโหมไฟ
แต่คราววางอุบายเผาสุมาอี้ ดันมีฝนตกมาช่วยซะงั้น
อ้าว! ไหนว่าหยั่งรู้ดินฟ้าไง
เห็นด้วยอย่างยิ่ง พี่เบ้ง ไม่แม่นเท่า กรมอุตุฯ 555555555
[color=#0000ff;][font="Tahoma, sans-serif;"]เราจะรู้.....รสชาติของความสุข[/color][font="Tahoma, sans-serif;"]ก็ต่อเมื่อ เราผ่านความทุกข์มาก่อน[/font][/font]
#143
ตอบ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 20:02
การใช้ไฟ มันต้องมีศิลปะ ด้วย ครับไม่ใช่อยู่ๆอยากใช้ก็ใช้ การศึก ผมเห็นฝ่ายตั้งรับมักจะซัดด้วยธนูก่อน ทั้งนั้น ธูน จริงแล้ว ระยะยิง ไกลกว่า 50 เมตรแน่ๆ น่าจะถึง 100 เมตร เพราะธูนที่ผมเคยทำเล่น ยังยิ่งได้ 30-40 เมตร (ไม่ไผ่+เชือกในล่อนธนูจริง แข็งกว่าเยอะ )เวลายิงเขาไม่ยิงตรงๆ ดังนั้น 10เมตร 20 เมตรตัดไปได้เลย ถามหมอกลงจัด แค่ ประมาณ30เมตรก็มองไม่เห็นแล้ว การใช้ธนูธรรมดา ยิงสะกัดจึงสมเหตุสมผล เพราะถ้าแค่ 10-20 เมตรลูกเดียวก็ถึงตัวแล้ว ถ้าไม่โดนจะตายง่ายๆเลย แล้วที่สำคัญเขายิ่งตามเสียงครับ
ส่วนที่บอกว่า ทำอย่างนั้นอย่างนี้ ก็ท่านรู้แล้วว่าเขามาไม้ไหนมันก็พูดง่ายดิ เหมือนพวกเชียร์มวยนั้นแหละ
#144
ตอบ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 20:33
การใช้ไฟ มันต้องมีศิลปะ ด้วย ครับไม่ใช่อยู่ๆอยากใช้ก็ใช้ การศึก ผมเห็นฝ่ายตั้งรับมักจะซัดด้วยธนูก่อน ทั้งนั้น ธูน จริงแล้ว ระยะยิง ไกลกว่า 50 เมตรแน่ๆ น่าจะถึง 100 เมตร เพราะธูนที่ผมเคยทำเล่น ยังยิ่งได้ 30-40 เมตร (ไม่ไผ่+เชือกในล่อนธนูจริง แข็งกว่าเยอะ )เวลายิงเขาไม่ยิงตรงๆ ดังนั้น 10เมตร 20 เมตรตัดไปได้เลย ถามหมอกลงจัด แค่ ประมาณ30เมตรก็มองไม่เห็นแล้ว การใช้ธนูธรรมดา ยิงสะกัดจึงสมเหตุสมผล เพราะถ้าแค่ 10-20 เมตรลูกเดียวก็ถึงตัวแล้ว ถ้าไม่โดนจะตายง่ายๆเลย แล้วที่สำคัญเขายิ่งตามเสียงครับ
ส่วนที่บอกว่า ทำอย่างนั้นอย่างนี้ ก็ท่านรู้แล้วว่าเขามาไม้ไหนมันก็พูดง่ายดิ เหมือนพวกเชียร์มวยนั้นแหละ
ผมไม่เจอว่า ธนูระยะยิงจะเท่าไหร่ เห็นแต่ longbow ของอังกฤษ
เขาให้ระยะยิงที่ 225 เมตร โดยพลธนูที่มีความเชี่ยวชาญ คิดว่า 150 เมตร
น่าจะถึง แต่ปัญหาที่จะยิงธนูโดยไม่เห็นเป็นแสนลูก ผมเห็นว่าเป็นไปไม่ได้
ถ้าทหาร+นายทหารโง่ขนาดนี้ ไม่ต้องเผา ก็แพ้แล้ว
#145
ตอบ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 20:42
โจโฉแตกทัพเรือต้องไปหาสามก๊กฉบับวนิพกมาอ่านจะมันส์
มันผู้ได สนับสนุนการนิรโทษกรรม ไม่ลากคอไอ้ฆาตกรชั่วใจสัตว์ โหดอำมหิต ผู้บงการฆ่าพี่น้องเสื้อแดงของกู 91 ศพ และพี่น้อง กปปส.ของกูอีก 20 ศพ มาลงโทษลงทัณฑ์ตามกบิลเมือง กูขอสาปแช่งให้มันและทุกๆคนที่มันรัก จงประสพกับความวิบัติฉิบหายในชาตินี้ และต่อๆไปทุกภพทุกชาติ จนกว่าจะสิ้นกาล
#146
ตอบ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 22:30
เอารูปมาให้ดูดีกว่าครับ
1.ด้วยข้อสงสัยอะครับ แม่น้ำแยกซีเกียงตรงโจโฉตั้งค่าย กว้างแค่ไหนครับ บริเวณด้านข้าง เทียบเรือไม่ได้จริงหรือ ในวันที่หมอกลงหนา ใช่ว่าจะเห็นเรือในระยะ 10 เมตรนะครับ ถ้าเรือใหญ่ก็เห็นได้ไกลกว่า แต่ระยะธนูถึงและมีแรงพอจะปักเป้าหมาย น่าจะไม่กิน 30
2. อันนี้ผมอ้างจากนิยายนะ ผมก็ไม่เคยไปสถานที่จริง ฝ่ายวุยกลัวทหารซุ่มจึงไม่ออกมา แสดงว่า ขอบตลิ่ง มีพื้นที้ให้ทหารเดินเท้าเดินได้เป็นแนวยาว
3. ผมย้ำจริงๆอะครับ ถ้าเรือเทียบท่า ไม่ต้องเอาโซ่คล้องหรอกครับท่าน เพราะจะต้องจอดเทียบชิดกันและ โยงเรือด้วยกันไว้อยู่แล้ว ขอเพียงรู้ตำแหน่งและไปถึงด้วยความรวดเร็ว ก็มีโอกาสสูงที่จะเผาทั้งยวง
1. ด้านข้างเทียบเรืออะไรไม่ได้หรือครับ ถ้าไม่มีคลื่นมันก็จดได้แหละครับ ความกว้างของแม่น้ำบอกไม่ได้ เพราะหน้าน้ำหลากมันกว้างกว่าเดิม ส่วนเรื่องการมองเห็นนี่ เวลานั้นไม่ใช่กลางวันนะครับ หมอกหนาจริง ๆ ขนาดกลางวันยังเห็นแค่ไม่กี่สิบเมตร แล้วกลางคืนจะเห็นกี่เมตรกันครับ ขงเบ้งเปิดไฟตัดหมอกรึไงครับ ส่วนระยะธนูที่คุณบอกไม่น่าเกิน 30 นี่คิดเอาเองรึเปล่าครับ ปกถ้าไม่เอาความแม่นประเภทยิงแอปเปิ้ลบนหัวหรือปลายทวนมันยิงได้เกิน 100 เมตรอีกนะครับ
2. โลซกกลัวทัพโจโฉออกเรือ ขงเบ้งบอกหมอกหนา โจโฉไม่กล้าออกเรือเพราะกลัวซุ่มโจมตี ไม่เกี่ยวกับบนฝั่ง ส่วนริ่มตลิ่งนะในนิยายยังให้พวกแม่ทัพขนทหารไปยิงเลยนี่ครับ
3. เรื่อเทียบท่าไม่ต้องเอาโซ่คล้อง? อย่าไปยึดติดกับคำว่าโซ่ครับ เรือเทียบท่ายังไงก็ต้องหาอะไรผูกกับท่าครับ จะเป็นเชือกหรือโซ่ก็ว่ากันไป แล้วเรือที่โยงเข้าด้วยกันก็ต้องหาอะไรมาผูกให้ติดกันอยู่ดี และตอนจอดชิดก็มีการทักท้วงแล้วไม่ใช่หรือครับว่าเสี่ยงโดนเผา แต่ที่ทำเพราะลมพัดออกจากทัพโจโฉ ต่อให้รู้ตำแหน่งถ้าลมไม่เป็นใจก็เผาทั้งยวงไม่ได้
Edited by Solidus, 20 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 23:10.
[color=#ff0000;]สำหรับผมคงเลิกเล่นบอร์ดนี้ไว้เพียงเท่านี้ ถ้าไอดีนี้ยังมีบุคคลอื่นที่ใครบางคนคิดว่าเป็นตัวจริงอยู่จริง เขาก็เข้ามาใช้บอร์ดนี้ต่อเองแต่ไม่ใช่ผมแน่นอน[/color]
ลาก่อน สวัสดีครับ 17 มกราคม 2556
#147
ตอบ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 22:39
การใช้ไฟ มันต้องมีศิลปะ ด้วย ครับไม่ใช่อยู่ๆอยากใช้ก็ใช้ การศึก ผมเห็นฝ่ายตั้งรับมักจะซัดด้วยธนูก่อน ทั้งนั้น ธูน จริงแล้ว ระยะยิง ไกลกว่า 50 เมตรแน่ๆ น่าจะถึง 100 เมตร เพราะธูนที่ผมเคยทำเล่น ยังยิ่งได้ 30-40 เมตร (ไม่ไผ่+เชือกในล่อนธนูจริง แข็งกว่าเยอะ )เวลายิงเขาไม่ยิงตรงๆ ดังนั้น 10เมตร 20 เมตรตัดไปได้เลย ถามหมอกลงจัด แค่ ประมาณ30เมตรก็มองไม่เห็นแล้ว การใช้ธนูธรรมดา ยิงสะกัดจึงสมเหตุสมผล เพราะถ้าแค่ 10-20 เมตรลูกเดียวก็ถึงตัวแล้ว ถ้าไม่โดนจะตายง่ายๆเลย แล้วที่สำคัญเขายิ่งตามเสียงครับ
ส่วนที่บอกว่า ทำอย่างนั้นอย่างนี้ ก็ท่านรู้แล้วว่าเขามาไม้ไหนมันก็พูดง่ายดิ เหมือนพวกเชียร์มวยนั้นแหละ
ธนูไฟยิงได้ต่ำกว่าธนูธรรมดา จะใช้ธนูไฟก็ต้องวิ่งไปรับลูกธนูธรรมดาจากฝ่ายตรงข้ามก่อนถึงจะยิงได้ คุณบอกว่าใช้ธนูธรรมดายิงสกัดนี่สมเหตุสมผลแล้ว แล้วเวลายิงสกัดตั้งแต่สามยามจนฟ้าสางนี่ยังสมเหตุผมผลหรือครับ แล้วเรื่องยิงตามเสียงนะ จะบรรยายว่าเห็นเงาตะคุ่มทำไมครับ ยิงตามเสียงไม่เห็นเป้านี่ต้องใช้ลูกธนูเท่าไหร่ครับถึงจะปักเรือได้เป็นแสนลูก
[color=#ff0000;]สำหรับผมคงเลิกเล่นบอร์ดนี้ไว้เพียงเท่านี้ ถ้าไอดีนี้ยังมีบุคคลอื่นที่ใครบางคนคิดว่าเป็นตัวจริงอยู่จริง เขาก็เข้ามาใช้บอร์ดนี้ต่อเองแต่ไม่ใช่ผมแน่นอน[/color]
ลาก่อน สวัสดีครับ 17 มกราคม 2556
#148
ตอบ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 22:45
ผมไม่เจอว่า ธนูระยะยิงจะเท่าไหร่ เห็นแต่ longbow ของอังกฤษเขาให้ระยะยิงที่ 225 เมตร โดยพลธนูที่มีความเชี่ยวชาญ คิดว่า 150 เมตร
น่าจะถึง แต่ปัญหาที่จะยิงธนูโดยไม่เห็นเป็นแสนลูก ผมเห็นว่าเป็นไปไม่ได้
ถ้าทหาร+นายทหารโง่ขนาดนี้ ไม่ต้องเผา ก็แพ้แล้ว
ลิโป้โชว์ยิงปลายทวนตอนเมา 150 ก้าว คาดว่าระดับธรรมดาก็ยิงถึงแต่ไม่ได้แม่นยำขนาดนั้น ปัญหาคือยิงโดยไม่เห็นแต่ธนูยังปักเรือเป็นแสนลูกนี่ต้องใช้ลูกธนูยิงไปกี่ลูกกัน บรรยายว่าเห็นเงาตะคุ่มมาทำไมกัน แล้วก็ยิงตั้งแต่สามยามจนฟ้าสางนี่ โง่ขนาดนี้ก็สมควรแพ้อย่างที่ท่านว่าแล้วล่ะครับ
Edited by Solidus, 20 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 22:46.
[color=#ff0000;]สำหรับผมคงเลิกเล่นบอร์ดนี้ไว้เพียงเท่านี้ ถ้าไอดีนี้ยังมีบุคคลอื่นที่ใครบางคนคิดว่าเป็นตัวจริงอยู่จริง เขาก็เข้ามาใช้บอร์ดนี้ต่อเองแต่ไม่ใช่ผมแน่นอน[/color]
ลาก่อน สวัสดีครับ 17 มกราคม 2556
#149
ตอบ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 22:50
การใช้ไฟ มันต้องมีศิลปะ ด้วย ครับไม่ใช่อยู่ๆอยากใช้ก็ใช้ การศึก ผมเห็นฝ่ายตั้งรับมักจะซัดด้วยธนูก่อน ทั้งนั้น ธูน จริงแล้ว ระยะยิง ไกลกว่า 50 เมตรแน่ๆ น่าจะถึง 100 เมตร เพราะธูนที่ผมเคยทำเล่น ยังยิ่งได้ 30-40 เมตร (ไม่ไผ่+เชือกในล่อนธนูจริง แข็งกว่าเยอะ )เวลายิงเขาไม่ยิงตรงๆ ดังนั้น 10เมตร 20 เมตรตัดไปได้เลย ถามหมอกลงจัด แค่ ประมาณ30เมตรก็มองไม่เห็นแล้ว การใช้ธนูธรรมดา ยิงสะกัดจึงสมเหตุสมผล เพราะถ้าแค่ 10-20 เมตรลูกเดียวก็ถึงตัวแล้ว ถ้าไม่โดนจะตายง่ายๆเลย แล้วที่สำคัญเขายิ่งตามเสียงครับ
ส่วนที่บอกว่า ทำอย่างนั้นอย่างนี้ ก็ท่านรู้แล้วว่าเขามาไม้ไหนมันก็พูดง่ายดิ เหมือนพวกเชียร์มวยนั้นแหละ
ธนูไฟยิงได้ต่ำกว่าธนูธรรมดา จะใช้ธนูไฟก็ต้องวิ่งไปรับลูกธนูธรรมดาจากฝ่ายตรงข้ามก่อนถึงจะยิงได้ คุณบอกว่าใช้ธนูธรรมดายิงสกัดนี่สมเหตุสมผลแล้ว แล้วเวลายิงสกัดตั้งแต่สามยามจนฟ้าสางนี่ยังสมเหตุผมผลหรือครับ แล้วเรื่องยิงตามเสียงนะ จะบรรยายว่าเห็นเงาตะคุ่มทำไมครับ ยิงตามเสียงไม่เห็นเป้านี่ต้องใช้ลูกธนูเท่าไหร่ครับถึงจะปักเรือได้เป็นแสนลูก
น่าจะสัก 20-30 ล้านดอกนะ
ยิงกันกี่ชั่วโมง พวกนายทหาร
ไม่เอะใจบ้างหรือ?
#150
ตอบ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 23:13
ใช้พลธนูกี่คน ตั้งหน้ากระดาน กี่แถว ยาวแค่ไหน
ขงเบ้งต้องเอาเรือมากี่ลำจึงจะได้ธนูไปแสนดอก
สุดท้ายทำไมทัพโจโฉไม่ใช้ธนูไฟ ในเมื่อมันมองไม่เห็น
แต่ถ้าใช้ธนูไฟ ยิงไปติดเรือขงเบ้งก็จะรู้ได้ว่าเป้าอยู่ตรงไหน
ผู้ใช้ 3 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้
สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 3 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน