เอาแล้ว...จัดธุดงค์เพราะอยากลงกินเนสบุ๊ค ---ยาวสุดในโลก...
#1
Posted 13 December 2012 - 22:13
"อีเว้นท์" ใหญ่ๆแบบนี้ ไม่ใช่ทำมะกาย ทำไม่ได้น่ะเนี่ย...ผมว่า...
เดินเสร็จ คงเห็นสวรรค์ลอยหมุนแบบ "ติ้วๆๆๆ"
ราคาค่าจอง ค่ามัดจำแต่ละชั้น ก็น่าจะถีบตัวสูงขึ้นอีก...
ปลื้ม!'มส.'เห็นชอบจัดธุดงค์ยาวสุด
กินเนสส์บุ๊กเตรียมบันทึกสถิติโลก ธุดงค์ธรรมชัยเดินบนดอกไม้ 450 ก.ม.ยาวที่สุดในโลก ผ่าน 7 จังหวัด ต้นมกราคมปี56 เผยมส.เห็นชอบพระธรรมกายและคณะสงฆ์จัด พศ.หนุน ฯลฯ
http://www.komchadluek.net/detail/20121213/147120/ปลื้ม!มส.เห็นชอบจัดธุดงค์ยาวสุด.html
#3
Posted 13 December 2012 - 22:27
เทคนิคการปลูกดอกดาวรวยให้ได้บุญเต็มที่
1. เปิดบทสวดสรรเสริญหลวงปู่ฯ ให้ต้นกล้ารวยทุกวัน
2. ก่อนรดน้ำให้นั่งสมาธิ(Meditation)กลั่นจิตกลั่นใจให้ใสๆ นึกถึงพระเดชพระคุณหลวงปู่ และนำน้ำที่จะรดมาอธิษฐานจิตก่อนเสมอ
3. ห้ามสัตว์ทุกชนิดกระโดดข้ามต้นกล้ารวย
4. ให้ทำใจใสๆ ทุกวันเพื่อเตรียมตัวที่จะนำดอกดาวรวยที่ปลูกด้วยหัวใจไปโปรยต้อนรับพระผู้มีบุญที่เดินธุดงค์ในเส้นทางมหาปูชนียาจารย์ด้วยตัวเองให้ได้ทุกวัน
http://www.dmc.tv/pa...าวรวย_LEFT.html
#4
Posted 13 December 2012 - 22:29
POPULAR
- สงสารสาวจันทร์, panda, กรรมกรไอที and 17 others like this
“Live as if you were to die tomorrow. Learn as if you were to live forever.” - Mahatma Gandhi
สนใจบ้านพักคนชราเสรีไทย (FB Secret Group) ติดต่อ (PM) เว็บบอร์ด
#5
Posted 13 December 2012 - 22:34
POPULAR
ไม่ได้แม้เศษบุญเพียง 1 คืบ
- -
Edited by ดาร์ค สวอน, 13 December 2012 - 22:35.
- สงสารสาวจันทร์, กรรมกรไอที, อู๋ ฮานามิ and 15 others like this
ถ้าอยากได้ความเท่าเทียม
ก็ปีนป่ายขึ้นไปให้อยู่เทียบเท่ากับคนอื่นเค้า
อย่าได้กระชากฉุดให้คนอื่นเขาลงมาตกต่ำเท่ากับตน
#6
Posted 13 December 2012 - 22:34
#7
Posted 13 December 2012 - 22:39
ท่านเคยเดินบนกลีบดอกไม้เยอะๆ ที่โปรยเต็มทางเดินมั้ย
อ้อ ลืมบอกไป
กิจกรรมทางศาสนา ทำบุญทำทาน ไม่ได้ทำเพื่อเอาชื่อเสียง หรือเอาลาภ ยศ สรรเสริญ
เราทำเพื่อลดความตระหนี่ แสวงหาความสุข สงบ สบายใจ และสิริมงคล
ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ในลัทธิที่ถูกสร้างและแต่งเติมขึ้นมา
ถ้าทำอย่างเวอร์จนจะเป็นงานอีเวนท์ มีสื่อมาถ่ายรูปอย่างแฟชั่น ดาราเดินบนพรมแดงร่วมงานรับรางวัล ผมว่ามันไม่ใช่
Edited by อู๋ ฮานามิ, 13 December 2012 - 22:48.
- Grimmy, บุคคลทั่วไป, DarkSwan and 5 others like this
ถึงผมจะเป็นคนหัวขบถ แต่ไม่คิดทรยศบุญคุณแผ่นดินเกิด
เสียงส่วนใหญ่ของประชาชน ไม่ใช่ใบอนุญาตทำร้ายประเทศชาติ
#8
Posted 13 December 2012 - 22:47
- สงสารสาวจันทร์, อู๋ ฮานามิ, เต็มเต็ม and 4 others like this
#9
Posted 13 December 2012 - 22:53
Edited by Nokky Hayden, 13 December 2012 - 22:54.
- MuuSang likes this
[font="arial, helvetica, sans-serif;"][color=rgb(0,100,0);]www.racermaniac.com[/color][/font]
[color=rgb(47,79,79);][font="'courier new', courier, monospace;"]W e A r e T h e B i k e A d d i c t e d[/color][/font]
#10
Posted 14 December 2012 - 01:28
เบนซ์ ที่ไอ้แว่นดำมันแจก พร้อมซองอั่งเปาทุกเดือน
สันดานเหมือนกันจริงๆ ถึงจะอยู่วัด บวช แต่ยังกะมาจากการโคลนนิ่ง
สันดานแจกเงิน ไม่รู้ใครเลียนแบบใคร
Edited by ID007, 14 December 2012 - 01:32.
#12
Posted 14 December 2012 - 06:20
กว่าจะเข้าถึงแก่นได้ เจอกระพี้เสียหนาเชียว
เล่นเอาคนที่อยากเข้าถึงหมดกำลังใจไปเหมือนกัน
ส่วนใหญ่ก็ยังหลงอยู่กับความงามของกระพี้
จนลืมความงามที่แท้ของแก่นธรรมไป
มีของดีอยู่ในมือแต่กลับไม่เห็นค่า น่าเสียดาย น่าเสียดาย
#13
Posted 14 December 2012 - 06:43
#14
Posted 14 December 2012 - 07:10
พอชื่อเสียงเริ่มเงียบๆก็ต้องคอยสร้างอีเวนท์เพื่อให้เป็นข่าว
ขนาดเดินให้ได้ลงกินเนสบุ๊คส์ซึ่งไม่ใช่กิจของสงฆ์ก็เอาแล้ว
นี่ถ้าจัดเรียลลิตี้แข่งเทศน์ได้ แบบเดอะวอยซ์ ก็คงทำไปแล้ว
แล้วให้ทำมะชะโยนะจ๊ะๆเป็นหนึ่งในโค้ช กดปุ่มหันเก้าอี้ช่วง Blind Audition
เฮ้อ
- Grimmy, อู๋ ฮานามิ, JUR1ST and 2 others like this
#15
Posted 14 December 2012 - 07:29
ในบรรดา 1 ใน 4 ปัญหาของวัดพระธรรมกาย ที่มีแนวทางผิดเพี้ยนจากศาสนา ซึ่งกรมการศาสนาสรุปออกมาแล้วได้แก่ คือ คำสั่ง สอนของวัด ไม่ว่าจะเป็นการสอนเพื่อเน้นการทำบุญอย่างเดียว การสอนว่านิพพาน เป็นสถานที่มีพระพุทธเจ้าไปนั่งอยู่ในนั้น
โดยสามารถเห็นได้จากการนั่งสมาธิแนวธรรมกาย ขนาดที่ในการเทศนาวันอาทิตย์ที่ 3 ม.ค. พระไชยบูลย์ ธัมมฺชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ยังยืนยันต่อหน้าลูกศิษย์ว่า แนวทางของธรรมกายนิพพานเป็นสถานที่ มีตัวตนคืออัตตา เป็นนิจจัง เที่ยง และเป็นสุข ซึ่งไม่สนใจหลักศาสนาที่ว่าทุกสิ่งเป็นอนิจจัง คือไม่เที่ยง ทุกขัง คือเป็นทุกข์ และอนัตตาคือไม่ใช่ตัวตน
อย่างไรก็ตาม ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาได้มีเอกสาร และหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่า วิชชาธรรมกายที่ก่อกำเนิดโดยหลวงพ่อสด จันฺทสโร หรือหลวงพ่อวัดปากน้ำนั้น เป็นแนวทางที่ทำให้เกิดการหลงงมงายได้ง่าย ๆ
ไม่ว่าจะเป็นหลักฐานจากคำสอนใน พระไตรปิฎกที่ พระธรรมปิฎก หรือเจ้าคุณปยุต ปยุตฺโต เรียบเรียงออกมาเป็นหนังสือชื่อ "นิพพาน อนัตตา" ที่ยืนยันนิพพานไม่ใช่สถานที่ และไม่มีตัวตนไปจนถึงหลักฐานการที่ เสฐียร พงษ์ วรรณปก ราชบัณฑิต ไปยื่นต่อคณะกรรมา ธิการการศาสนาฯ ว่า ในช่วงที่หลวงพ่อสดมีชีวิตได้เกิดติดขัดในการปฏิบัติภาวนา และต้องไปเรียนกับอาจารย์ใหญ่ ฝ่ายวิปัสสนากัมมัฏฐานวัด มหาธาตุ ให้แก้ให้ จึงสามารถผ่านต่อไปได้ โดยมีหลักฐานรูปถ่ายหลวงพ่อสดลงนามถวายไว้ มีข้อความว่า
"ให้สำนักวิปัสสนาวัดมหาธาตุไว้เป็นที่ระลึก ในโอกาสที่ฉันได้เข้าปฏิบัติวิปัสสนา ตามแบบที่วัดมหาธาตุสอนอยู่ในปัจจุบันนี้แล้ว ยืนยันได้ว่าการปฏิบัติแบบนี้ถูกต้องร่องรอยในมหาสติปัฎฐานสูตรทุกประการ" และลงชื่อโดยพระภาวนาโกศลเถร วัดปากน้ำ ธนบุรี
เล่ากันว่าหลวงพ่อวัดปากน้ำสำนึกที่เข้าใจผิดว่านิมิตเป็นการบรรลุธรรม แต่จะประกาศออกไปก็เกรงว่าศิษย์จะสับสน ด้วยว่ามีคนทำตามมากแล้ว และวิธีปฏิบัติธรรมกายเป็นสิ่งที่หลวงพ่อสดทิ้งแล้ว แต่ศิษย์ยังคงสืบต่อกันมา
นอกจากหลักฐานจากภาพถ่าย รวมถึงคำพูดของเสฐียรพงษ์แล้ว ยังมีหลักฐานชิ้นสำคัญที่สามารถอ้างถึงได้นั่นคือ เทปการสอนธรรมะของ พระธรรมธีรราชมหามุนี (โชดก ญาสิทฺธิ ป.9) หรือเจ้าคุณโชดกอาจารย์ใหญ่ ฝ่ายวิปัสสนา วัดมหาธาตุที่ยืนยันได้อีก เพราะ เจ้าคุณโชดกคือพระรูปที่หลวงพ่อสดไปพบ และแก้ไขเรื่องกัมมัฏฐานให้นั่นเอง
เทปดังกล่าวเคยออกอากาศเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2541 ในรายการธรรมร่วมสมัย รวมถึงมีการเผยแพร่อย่างกว้างขวางด้วย
แต่ก่อนที่จะเข้าไปในเนื้อหาของเทปนี้ ต้องเข้าใจพื้นฐานของศาสนาพุทธก่อนว่าจะเริ่มจากการให้ทาน ถือศีล และการภาวนา ซึ่ง การภาวนาจะถือว่าเป็นกุศล เป็นแนวทางสูงสุดของศาสนาพุทธ
ในแง่การภาวนายังแยกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ "สมาธิหรือสมถะ" ซึ่งเป็นการภาวนาขั้นต้น กับ "การวิปัสสนา" ที่เป็นการภาวนาขั้นสูงสุดของศาสนา ซึ่งมีลักษณะแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด
สำหรับสมาธิแนวทางวิชชาธรรมกายก็คือ การเพ่งให้เห็น "ลูกแก้ว" ในร่างกาย นั่นเอง แต่ปัญหาของสมาธิแนวทางนี้คือ ทำให้เกิดการหลงทางได้ง่าย ๆ โดยภาพที่เห็นเป็น "นิมิต" หรือการเพ่งจนปรากฏรูปขึ้นมาได้ด้วยอำนาจของพลังจิต แต่ถือว่ายังอยู่ในขั้นสมถะไม่สามารถก้าวขึ้นไปสู่การวิปัสสนาได้
จากเทปของเจ้าคุณโชดกได้กล่าวว่า การปฏิบัติสมาธิแต่อย่างเดียวเมื่อปฏิบัติมาก ๆ และจะก้าวเข้าสู่การวิปัสสนานั้นอาจทำให้เกิดการหลง หรือเกิดอุปกิเลสได้ถึง 10 ข้อ อาทิ การเกิดแสงสว่าง และเข้าไปยึดติดกับภาพนั้น
"บางอาจารย์ก็นึกเป็นธรรมกาย เป็นปฐมมรรค เป็นแสงสว่าง ไปดูนรก สวรรค์ อธิษฐาน สร้างภาพนรก สร้างสวรรค์ จิตนึกไปเรื่อย เป็นจิตนึกมาเอง แล้วไปยึดติด บางครั้งคิดว่ากิเลสหายไปหมดแล้ว และกลายเป็นพระอรหันต์แล้วทั้งที่ไม่ใช่" เจ้าคุณโชดก กล่าว
นอกจากนั้น เจ้าคุณโชดกยังกล่าวอีกว่า เจ้าคุณวัดปากน้ำหรือหลวงพ่อสด ที่ปฏิบัติด้านสมาธิหรือสมถะมา 43 ปีมาให้ช่วย โดยแนวทางที่หลวงพ่อสดปฏิบัติคือการเพ่งดวงแก้ว และภาวนาว่าสัมมาอรหัง เห็นธรรมกาย เห็นแสงสว่าง
"ท่าน (หลวงพ่อสด) เข้าใจว่าสิ่งที่เห็นเป็นธรรมกาย การทำสมาธิ คือ การเพ่ง หรือการทำจิตให้หยุดอยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง จนทำให้จิตมีพลังขึ้นมาได้ เช่น การเพ่งกำหนดไปที่ลมหายใจ จิตในขั้นนี้จะมีฤทธิ์ มีอำนาจ ตามหลักศาสนาจะใช้จิตประเภทนี้เข้ามาหนุน เนื่องสติปัญญา โดย เมื่อจิตมีพลังเต็มเปี่ยมก็ค่อยถอนจิตออกจากสมาธิเข้ามาสู่การวิปัสสนา คือ การใช้ปัญญาพิจารณาธรรมะ ตามลำดับชั้นโดยเฉพาะในแง่สติปัฏฐาน 4 อาทิ การพิจารณาให้เห็นกายในกาย เห็นเวทนาในเวทนา เห็นจิตในจิตและเห็นธรรมในธรรม ภาวะการบรรลุธรรมขั้นสูงจะเกิดได้ต่อเมื่อเป็นผลของการวิปัสสนาเท่านั้น อันที่จริงธรรมกายในพระไตรปิฎกมีกล่าวไว้หมายถึง ชื่อพระพุทธเจ้าแต่ไม่ใช่วิชาของพระพุทธเจ้า"
ดังนั้นเจ้าคุณโชดกจึงให้หลวงพ่อสดปฏิบัติตามแนวสติปัฏฐาน โดยให้เดินจงกรม นั่งสมาธิ ระยะแรกหลวงพ่อสด ก็ยังยืนยันเห็นพระพุทธเจ้าในนิพพาน ซึ่งเข้าไปจับมือถือแขนก็ได้,เห็นพระเต็มศาลา ฯลฯ
เจ้าคุณโชดก จึงแนะนำให้กำหนดอารมณ์ใหม่ โดยเมื่อเห็นนิมิตหรือภาพติดตานั้น ซึ่งให้พิจารณาว่า "เห็นหนอ ๆ" เพื่อเป็นการยกเอาจิตหรือเอาสติออกมาจากสมาธิ เพื่อใช้ปัญญาพิจารณาตามหลักศาสนา ปรากฏว่าหลวงพ่อสดกำหนดสติตามแนวดังกล่าว ในที่สุดภาพพระที่เคยเห็นเต็มไปหมดก็หายวับไปกับตา และเข้าใจในหลักไตรลักษณ์ศาสนาคือทุกสิ่งเป็นอนิจจังไม่เที่ยง เป็นทุกขังหรือเป็นทุกข์ และเป็นอนัตตาคือไม่ใช่ตัวตน
หลวงพ่อสดถึงกับกล่าวว่า เราติดอยู่ในญาณหรืออำนาจที่เกิดจากสมาธิมาหลายสิบปี เพิ่งมาหลุดได้ในวันนี้ และเป็นที่มาของรูปถ่าย พร้อมกับลายมือที่หลวงพ่อสดให้ไว้เป็นประจักษ์พยาน
เจ้าคุณโชดกเองเคยกล่าวว่า ที่เล่าถึงเรื่องหลวงพ่อวัดปากน้ำไม่ใช่เอามาพูดเสีย ๆ หาย ๆ แต่เอาความดีของท่านมาเล่าให้ฟัง เพราะท่านเป็นพระที่มุ่งศึกษาในการปฏิบัติธรรม และต่อมาท่านก็ได้สู่แนวทางของการวิปัสสนาอย่างแท้จริง
ปัญหาของวิชชาธรรมกายนี้ เสฐียรพงษ์ได้สรุปว่า ธรรมกายของหลวงพ่อสดคือการปฏิบัติสมาธิโดยเข้าใจว่าเป็นมรรคผล แต่ในยุคหลวงพ่อสดก็เป็นแค่การสัมผัสได้เฉพาะตน ไม่ได้นำมาเผยแผ่จนใหญ่โต และสร้างศรัทธาอย่างวัดพระธรรมกายกระทำ เพื่อให้ลูกศิษย์มาทำบุญ
และปัจจุบันก็กลายเป็นการ จัดสรรนิมิต จนทำให้ผู้ปฏิบัติเห็นภาพ และก็มีการบอกว่าได้บรรลุธรรมเป็นขั้น ๆ โดยคนที่ไม่เคยเห็นก็ได้เห็น พอเห็นเข้าก็เกิดศรัทธา มีเท่าไหร่ก็ทุ่มเททำบุญไปหมด
นี่คือขบวนการสูบบุญที่แท้จริง !!!!
http://rulesofkarma....อาตมาเรียนกรรม/
http://www.tairomdha...hp?topic=7388.0
Edited by Stargate-1, 18 December 2012 - 20:23.
- พิฆาตอสูร, เชียร์คนดี, Moo3storey and 1 other like this
Tam-mic-ra ฟันธง! คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ ..... คิดครับคิด จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96 ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3
#17
Posted 14 December 2012 - 07:44
ใช้การตลาดทำแบรนด์ พร้อมโปรโมชั่น ลด แลก แจก แถม เจาะเข้าทุกช่องทาง ทั้งการเมือง ธุรกิจ กระทั่งศาสนา
บ่อนเซาะทำลาย ชาติ ศาสน์ กษัตริย์
จุดมุ่งหมาย คือ กอบโกยให้ได้มากที่สุด
Now! Restart Thailand
#18
Posted 14 December 2012 - 07:44
#19
Posted 14 December 2012 - 07:50
รัฐบาล โกงแบบบูรณาการ
ประโยชน์สูงสุดของประชาชน คือกฏหมายสูงสุดของประเทศ ...วิชา มหาคุณ
#20
Posted 14 December 2012 - 07:52
#21
Posted 14 December 2012 - 09:03
หนึ่งในนโยบาย "สังคยานาพุทธศาสนา" ของรัฐบาลปูแดง
ที่เคยประกาศไว้ตอนหาเสียง และของตระกูล "ชินวัด"?
[attachment=11416:แม้ว ตักบาตรด้วยเพ็ชร.jpg]
#22
Posted 14 December 2012 - 09:07
...มีลาตัวหนึ่งอาศัยอยู่ในฝูงโค มันพยายามกระทำทุกอย่างเลียนแบบโค แล้วก็ร้อง "กูเป็นโคๆๆๆ" ก็ดังภิกขุทั้งหลายที่ไม่ประพฤติ ปฏิบัติตามปฏิปทา, ตามอริยวินัย เพียงแค่นุ่งห่มเป็นภิกขุ ก็ไม่ได้นับเนื่องได้ว่าเป็นภิกขุในหมู่สงฆ์ของตถาคต...ฉันใดฉันนั้น
...ในการสมาทาน ถวายทานใดๆพุทธวจนะกล่าวว่า... แม้เพียงเทน้ำล้างหม้อไหลงบ่อน้ำ เพียงเพื่อหวังให้สัตว์น้อยใหญ่ได้กินเศษอาหารยังเป็นกุศล ไฉนเลยจะไปบอกปัด ขัดลาภแก่ผู้ทำทานแก่ผู้อื่นนั้น เป็นการอกุศลขัดลาภแก่ผู้อื่นนั้น อีกทั้งยังเป็นการขุดตนให้ตกต่ำไปด้วย... พระตถาคตจึงให้พิจารณาเองถึงการให้ทานผู้อื่นผู้ใดว่า "เป็นผู้สมควรได้รับทาน" นั้นหรือไม่... โดยชาติหนึ่งของพระพุทธองค์เคยเกิดเป็นมหาอำมาตย์มีทรัพย์มากมายมหาศาล ทำการแจกถาดเงินถาดทองแก่หมู่ชนทั่วไปในเมืองเป็นเนืองๆ พุทธองค์ตรัสว่านั่นยังไม่ได้กุศลมากมายดังหวังใดเลย เพราะไม่มีผู้ที่ "สมควรได้รับทาน" นั้นมาเป็นผู้รับ หรือดังพุทธวจนะที่ว่า ทำทานกับพระโสดาบัน 100 องค์ ไม่เท่าทำทานพระสกิทาคามี 1 องค์, ทำทานพระสกิทาคามี 100 องค์ ไม่เท่าทำทานพระอนาคามี 1 องค์, ทำทานพระอนาคามี 100 องค์ ไม่เท่าทำทานพระอรหันต์เพียงองค์เดียว, ทำทานพระอรหันต์ 100 องค์ก็ไม่เท่าทำทานสร้างที่อยู่ให้พระภิกษุสงฆ์, ทำทานสร้างที่อยู่ให้ภิกษุสงฆ์ ก็ไม่เท่าทำอาณาปานสติเพียงครั้งเดียว....
- Suraphan07, onerukna, ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่ and 1 other like this
#23
Posted 14 December 2012 - 09:15
ธุดงค์สุดฟ้าไล่ล่า7จังหวัด 450 กม.
ซึ่งจัดเป็นอีเว๊นท์ใหญ่ระดับเมก่าโปรเจคต์เพื่อเป็นการสมนาคุณลูกค้าและแสดงความพร้อมด้านการโกอินเตอร์ด้วยการจัดธุดงค์7 จังหวัด ความยาว 450 กม. โรยด้วยกลีบกุหลาบ เพื่อลงกินเนสบุ๊ค
โดยงานนี้เจตนาเพื่อเผยแพร่ความงามสง่าของผู้สวมใส่ผ้าเหลืองของทางค่านเพื่อขยายฐานลูกค้า หลังจากประสบความสำเร็จได้รับการตอดรัดอย่างดีจากครั้งก่อนกับการธุดงค์งงๆ กลาง กทม ซึ่งญาติโยมต่างตอบรับเป้นอย่างดี ส่งผลให้รถติดเพราะศรัทธาอันมากมาย
ครั้งก่อนเพียงแค่ กทม จังหวัดเดียว ครั้งนี้จึงจัดใหม่ ใหญ่กว่าเดิม 7 จังหวัด 450 กม เพื่อศรัทธาอันท่วมท้น โดยหวังว่าจะได้รับการตอดรัดอย่างอบอุ่นเช่นเดิมจากญาติโยม
รักเสื้อแดง แช่งอำมาตย์ อาฆาตม๊ากนาซี ขอเชิญมาร่วมกันที่นี่เลย!!!!!!
#24
Posted 14 December 2012 - 09:41
บิดเบือน......คำสอนของพุทธองค์
สร้างภาพ.....สร้างกระแส........ทุนหนัก
ทำเหมือนเป็นธุรกิจ.........
กล่อมประสาทคน........จนมั่วเมา
สุดท้าย...........อย่าลืมทำบุญ........กันเยอะๆนะจ๊ะ
#25
Posted 14 December 2012 - 09:51
" ประกาศบอยคอต ช่อง 3 ไม่ว่าจะข่าว ละคร หรือการ์ตูนลูก กรูไม่ดู !!! "
#26
Posted 14 December 2012 - 10:06
"ดาบวิเศษแสนคมอยู่ในมือลิงย่อมไร้ประโยชน์_กลับกัน_ยอดฝีมือที่บรรลุแล้ว ใช้กิ่งไม้ไผ่ก็ฆ่าคนได้ "
#27
Posted 14 December 2012 - 10:09
#28
Posted 14 December 2012 - 10:10
ผมว่าเรื่องหลวงพ่อสด คุณเพลา ๆ ลงหน่อยก็ได้นะ เพราะเราไม่ทราบเหตุการณ์ การนั่งสมาธิแม้แต่ของอาจารย์พุทธทาสก็เห็นปิติแปลก ๆ ได้ หรือแม้แต่การเพ่งก็เป็นวิปัสนาได้...
#29
Posted 14 December 2012 - 10:32
แถมโรยด้วยดอกไม้ตลอดทาง...
"อีเว้นท์" ใหญ่ๆแบบนี้ ไม่ใช่ทำมะกาย ทำไม่ได้น่ะเนี่ย...ผมว่า...
เดินเสร็จ คงเห็นสวรรค์ลอยหมุนแบบ "ติ้วๆๆๆ"
ราคาค่าจอง ค่ามัดจำแต่ละชั้น ก็น่าจะถีบตัวสูงขึ้นอีก...
ปลื้ม!'มส.'เห็นชอบจัดธุดงค์ยาวสุด
กินเนสส์บุ๊กเตรียมบันทึกสถิติโลก ธุดงค์ธรรมชัยเดินบนดอกไม้ 450 ก.ม.ยาวที่สุดในโลก ผ่าน 7 จังหวัด ต้นมกราคมปี56 เผยมส.เห็นชอบพระธรรมกายและคณะสงฆ์จัด พศ.หนุน ฯลฯ
http://www.komchadlu...ดงค์ยาวสุด.html
กิเลส ตัณหา มารของศาสนาพุทธ......!
- nhum likes this
เคียงข้างลุงกำนัน ปฏิรูปการเมืองไทย กำจัดระบอบทักษิณ ขับไล่มวลหมู่ขี้ข้า วันที่ 26 พฤษภาคม 2557...
#31
Posted 14 December 2012 - 11:25
พระบางรูปธุดงด์ไปตามป่าตามเขาบางทีทะลุออกไปฝั่งพม่านู่น
ไอ้ตัวผมก็นึกว่าขบวณยาว 450 ก.ม. ซะอีก ฮ่าๆๆ
#32
Posted 14 December 2012 - 11:47
ผมว่าเรื่องหลวงพ่อสด คุณเพลา ๆ ลงหน่อยก็ได้นะ เพราะเราไม่ทราบเหตุการณ์ การนั่งสมาธิแม้แต่ของอาจารย์พุทธทาสก็เห็นปิติแปลก ๆ ได้ หรือแม้แต่การเพ่งก็เป็นวิปัสนาได้
...
คุณไก่เชลย
ผมว่าที่คุณ Stargate-1 เอาให้อ่านนั้นสมควรจะเผยเพร่ด้วยซ้ำ เพราะบทความนี้เขียนขึ้นเพื่อปกป้องหลวงพ่อสดจากการเอาไปหากินของธรรมกาย ซึ่งธรรมกายเอาเรื่องนี้ของหลวงพ่อสดไปหากิน ให้คนไทยที่ศรัทธาหลวงพ่อสดหลงเชื่อด้วย
- ม่านน้ำ likes this
สิทธิตามระบอบประชาติปไตยมีไว้สำหรับให้เสื้อแดงผู้เรียกร้องประชาติปไตยเท่านั้น
ผู้อื่นห้ามใช้มิเช่นนั้นจะโดนประชาติปไตยลงโทษ
#33
Posted 14 December 2012 - 11:52
เจตนารมณ์ส่วนตัว
- ไม่ใช้ถ้อยคำที่คำหยาบคาย
- ไม่ต่อล้อต่อเถียงอย่างไม่มีเหตุผล
#34
Posted 14 December 2012 - 12:40
กาลามสูตร อย่าเชื่อเพราะเข้ากับความเห็นของตน ขอให้พิจารณาโทษของความโลภโกรธหลง และคุณของความไม่โลภไม่โกรธไม่หลงดูคุณไก่เชลย
ผมว่าที่คุณ Stargate-1 เอาให้อ่านนั้นสมควรจะเผยเพร่ด้วยซ้ำ เพราะบทความนี้เขียนขึ้นเพื่อปกป้องหลวงพ่อสดจากการเอาไปหากินของธรรมกาย ซึ่งธรรมกายเอาเรื่องนี้ของหลวงพ่อสดไปหากิน ให้คนไทยที่ศรัทธาหลวงพ่อสดหลงเชื่อด้วย
การปฏิเสธวิชาของหลวงพ่อสดโดยที่ยังไม่มีโยนิโสมนสิการหรือมีญาณแจ้ง จัดอยู่ในความหลงซึ่งเป็นโทษ
ธรรมของพระพุทธเจ้าเป็นของจริง แล้วยังมีคนไม่ดีหากินกับธรรมของพระพุทธองค์อยู่ใช่หรือไม่ จะต้องถึงปฏิเสธธรรมของพระพุทธเจ้าหรือไม่ ผมไม่อาจบอกได้ว่าวิชาของหลวงพ่อสดเป็นอย่างไร แต่ก็ย่อมมีคนไม่ดีหากินกับวิชาของหลวงพ่อสดได้เช่นกัน จึงไม่ใช่เหตุที่ต้องไปปฏิเสธวิชาของหลวงพ่อสด เพราะเรายังไม่มีญาณถึงขั้นที่จะไปพิสูจน์
Edited by ไก่เชลย, 14 December 2012 - 12:44.
#35
Posted 14 December 2012 - 14:33
ที่จริงเขาอาจไม่ได้หลงนะ คนไปทำบุญวัดนี้อยากไปสวรรค์ อยากรวยชาติหน้า
ถ้าเขาปฎิบัติตามหลักนี้แล้ว คนที่ได้ไปสวรรค์อาจเป็นคนที่ถือศีลเป็นนิจ
ทำบุญมากบ้างน้อยบ้าง แต่ไม่สนใจวิชชานี้จริงๆ จังๆ
แต่คนที่สนใจฝึกวิชชานี้จริงจัง ถ้าใช่ก็ดีไป แต่ถ้าไม่ใช่ อาจได้ไปเป็นพรหมแทน
ฮ่าๆๆๆ
#36
Posted 14 December 2012 - 14:57
รำคาญสลิ่มเที่ยมที่เข้ามาปล่อยสารพิษเรียกร้องความรุนเเรงเสดงออกถึงความคลั่งสงครามกลางเมืองยุเเยงสร้างภาพชั่วๆ
เอียนวะ เห็นคนเเถวนี้ไอคิวต่ำกว่า 90 หรือไง
#37
Posted 14 December 2012 - 16:03
[attachment=11433:Plant-1110-3.jpg]
จำนวนดอกดาวรวยที่ใช้ในธุดงค์ครั้งนี้
เพื่อให้เส้นทางในการเดินธุดงค์ในครั้งนี้ เป็นเส้นทางที่ประหนึ่งปูลาดด้วยทองคำตลอดทั้งสาย เราจะใช้ดอกดาวรวยอยู่ที่ประมาณ 150 ดอกต่อ 1 เมตร
ใน 1 เมตรใช้ 150 ดอก
เมื่อคำนวนแล้วเราต้องใช้ดอกดาวรวยทั้งหมด 68,400,000 ดอก (68 ล้าน 4 แสนดอก) หรือประมาณ 70 ล้านดอก
จำนวนกลีบดอกดาวรวย
1. จำนวนกลีบต่อ 1 ดอก
ดาวรวย 1 ดอกจะมีกลีบประมาณ 350 กลีบ
2. จำนวนกลีบต่อ 1 ต้น
ใน 1 ต้นจะมีประมาณ 20 ดอก, ใน 1 ดอกมี 350 กลีบ, คิดเป็นจำนวนกลีบต่อต้นได้ประมาณ 7,000 กลีบ
3. จำนวนกลีบต่อไร่
ดาวรวย 1 ไร่จะเก็บดอกได้ประมาณ 70,000 ดอก คิดเป็นจำนวนกลีบได้ประมาณ 24,500,000 กลีบ (ยี่สิบสี่ล้านห้าแสนกลีบ)
4. จำนวนกลีบในระยะทาง 456 กิโลเมตร
ระยะทาง 456 กิโลเมตร ใช้ดอกดาวรวยทั้งหมดประมาณ 70 ล้านดอก, โดยใน 1 ดอก มีประมาณ 350 กลีบ
เพราะฉะนั้นดาวรวย 70 ล้านดอก จะคิดเป็นจำนวนกลีบได้ 24,500,000,000 กลีบ (สองหมื่นสี่พันห้าร้อยล้าน กลีบ)
http://www.dmc.tv/pa...าวรวย_LEFT.html
เหอๆๆๆ...แล้วถ้าเชิญร่วมบุญ ดอกละบาทล่ะ...? อู้ววว.
ลองมานับกันเล่นๆทีว่า ในคำอธิษฐานปลูกดอกดาวรวย
มีคำว่า "รวย" กี่คำเอ่ย ? ติ๊กต่อกๆๆๆ....
คำอธิษฐานจิตปลูกดอกดาวรวย
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (3 ครั้ง)
ด้วยบุญกุศล ที่ข้าพเจ้าทั้งหลาย ปลูกต้นกล้า ดาวรวย
เพื่อให้เจริญเติบโต เป็นดอกดาวรวย พันธุ์ทองชฎิลเศรษฐี
เพื่อน้อมถวายบูชา แด่มหาปูชนียาจารย์
เพื่อนำไปโปรยให้เป็น ดั่งถนนทองคำ
ต้อนรับพุทธบุตรผู้มีบุญ ที่เดินธุดงค์ธรรมชัย
ในเส้นทางมหาปูชนียาจารย์
ด้วยการสั่งสมบุญครั้งยิ่งใหญนี้่
ขอให้เป็นผังรวย ตลอดกาล ร่ำรวยทุกชาติ
ร่ำรวยทุกโอกาส ที่เกิดมาสร้างบารมี
ขอบุญนี้ จงดลบันดาลให้ ข้าพเจ้าทั้งหลาย
มีชีวิตที่ร่ำรวย รุ่งเรือง ราบรื่น สดชื่นสว่างไสว
มีสมบัติจักรพรรดิตักไม่พร่อง ดุจท่านชฎิลเศรษฐี
ผู้มีภูเขาทองคำ ให้ถึงพร้อมด้วยบารมี 10 ทัศ
ครบถ้วนบริบูรณ์ ให้เจริญก้าวหน้า
ด้วยมงคลชีวิต เป็นบัณฑิตนักปราชญ์ ฉลาดในศาสตร์ทั้งปวง
ขอให้ข้าพเจ้าทั้งหลาย สามารถสร้างบารมีได้
อย่างสะดวกสบาย มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง
มีกำลังใจที่เข้มแข็ง สามารถเอาชนะอุปสรรคทั้งมวล
ได้อย่างง่ายดาย ให้ถึงพร้อมด้วย ที่สุดแห่งรูปสมบัติ
ที่สุดแห่งทรัพย์สมบัติ คุณสมบัติ บริวารสมบัติ และนิพพานสมบัติ
ขอความปรารถนาทั้งปวง ของข้าพเจ้าทั้งหลาย
จงเป็นผลสำเร็จ จงเป็นผลสำเร็จ จงเป็นผลสำเร็จ เป็นอัศจรรย์ทันใด
และติดตามตัวไป ทุกภพทุกชาติ ตราบกระทั่งถึงที่สุดแห่งธรรม เทอญ
นิพพานะ ปัจจะโยโหตุ
มีแต่คำสะกดจิต "ร่ำรวย รวยๆ รวยๆๆๆ /เศรษฐี เศรษฐี เศรษฐี เศรษฐี"
Edited by Suraphan07, 14 December 2012 - 16:21.
#38
Posted 14 December 2012 - 16:57
เปิดหัวมานะโมฯ สามจบเป็นบาลี แล้วสวดต่อภาษาไทย คนเฝ้าประตูนิพพานจะแปลออกเหรอ งงตายเลย เดี๋ยวเค้าก็เปิดประตูนรกให้แทนเสียหรอก...
Edited by wat, 14 December 2012 - 16:58.
#39
Posted 14 December 2012 - 16:59
เราตระกูลชินจัง ขอยก ฐานะ เสื้อแดง จาก ไพร่ เป็น ควายแดง ณ.บัดนี้
ถึงแม้ พ่อแม่ เองจะให้ฐานะความเป็น คน มาแต่กำเนิดก็ตาม
#40
Posted 14 December 2012 - 17:11
ผมไม่ได้ว่าพวกที่ศรัทธาลัทธินี้ว่าเป็นคนไม่ดีนะครับ เพียงแต่พวกเขาแค่หลงทาง
บางคนก็กู่ไม่กลับแล้วด้วยสิ อีกหน่อยบูชายัญฯ หรือทำอะไรแผลงๆ นอกจากคำสอนของพระพุทธเจ้าฯ ก็คงเห็นดีเห็นงามไปด้วยสินะ
ห้ามมีสุนัขในวัด (ขาดเมตตา) เพียงเพราะกลัวว่าคนที่มาทำบุญจะเผลอไปเหยียบขี้หมาทำให้จิตขุ่นมัวไม่ได้บุญ เหอะๆ
• เอือมระอากับบรรดาพี่น้องที่หลงทางจริงๆ เห็นต่างกันยังรับได้ครับ แต่เห็นผิดเป็นชอบแบบนี้มันบัดซบจริงๆ •
• หายนะของประเทศไทย ก็คือการที่ "ควายเลือกควาย" เข้ามาทำลายประเทศ •
#41
Posted 14 December 2012 - 17:26
#42
Posted 14 December 2012 - 17:29
ขนาดสมัยพุทธกาล วันมาฆบูชา ยังมีสถิติพระสาวกทั้ง 1,250 รูปมาประชุมพร้อมกันโดยมิได้นัดหมายเลย
เฮ้อ ไม่รู้สิครับ ผมอาจโง่ก็ได้ แต่ผมเห็นความเห็นนี้แล้ว ความรู้สึกไม่ดีมันออกมาเต็มเลยอ่ะ เหมือนแต่ก่อนที่แค่ไม่ค่อยชอบ กลับเริ่มเกียจ
มันแค่ความรู้สึกครับ
กฎหมายมันก็แค่สิงที่สร้างมาอย่างมีเป้าหมาย แต่หาก เอาแต่บอกว่ากฎหมายเป็นแบบนี้ แบบนั้น โดยไม่สนใจว่าเป้าหมายจริงๆ นันคืออะไร ก็คงไม่ใช่
#43
Posted 14 December 2012 - 17:57
เงียบไม่แสดงความเห็นก็ไม่มีใครว่าขนาดสมัยพุทธกาล วันมาฆบูชา ยังมีสถิติพระสาวกทั้ง 1,250 รูปมาประชุมพร้อมกันโดยมิได้นัดหมายเลย
#44
Posted 14 December 2012 - 18:22
เฮ้อ ไม่รู้สิครับ ผมอาจโง่ก็ได้ แต่ผมเห็นความเห็นนี้แล้ว ความรู้สึกไม่ดีมันออกมาเต็มเลยอ่ะ เหมือนแต่ก่อนที่แค่ไม่ค่อยชอบ กลับเริ่มเกียจ มันแค่ความรู้สึกครับ
เงียบไม่แสดงความเห็นก็ไม่มีใครว่า
เอาอะไรกับพวก "กูเป็นโค" ล่ะขอรับ ลองถามสิขอรับพระสูตรไหนที่พูดถึง ร้อยเปอเซง...ใครๆก็รู้ กรูก็ฟังเค้ามา แค่สติปัญญาไตร่ตรองหาสัจจะ...ไม่มี...
#45
Posted 14 December 2012 - 18:29
แน่ใจนะขนาดสมัยพุทธกาล วันมาฆบูชา ยังมีสถิติพระสาวกทั้ง 1,250 รูปมาประชุมพร้อมกันโดยมิได้นัดหมายเลย
#46
Posted 14 December 2012 - 18:57
คนเข้าวัดนี้ ได้ร่มเงาของกาฝากผมว่าไอ้พวกนี้ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของต้นไม้นะ แต่มันเป็นกาฝาก นอกจากจะทำให้รูปพรรณของต้นไม้ถูกครอบคลุมบดบังจากต้นและใบกาฝากแล้ว ขณะเดียวกันมันยังบ่อนทำลายต้นไม้ที่มันเกาะอาศัยด้วยการดูดกินธาตุปัจจัยไปบำรุงรากเหง้าบริวารแห่งกาฝากอย่างเอิกเกริก สาธุจ้ะ
ก็เข้าใจ ว่า เป็นประโยชน์สูงสุด
หลงอยู่กับความร่มเย็น จนอดลิ้มรสของผลที่แท้จริง
น่าสงสาร น่าสงสาร
#47
Posted 14 December 2012 - 19:06
อยากให้เพลาๆลงบ้าง งานพวกนี้อ่ะครับ
#48
Posted 14 December 2012 - 19:14
ขนาดสมัยพุทธกาล วันมาฆบูชา ยังมีสถิติพระสาวกทั้ง 1,250 รูปมาประชุมพร้อมกันโดยมิได้นัดหมายเลย
กรู ปวดตับจริงๆ!
ธุดงค์ของจานบินนี่ "นัดหมาย"ไหม? พีอาร์ไหม? ได้ลงกินเนสบุ๊คเพื่ออะไร?
หาใช่ทางสู่การดับทุกข์ไม่
ขออนุญาตถามต่อเป็นความรู้นะครับ
ทำทานพระอรหันต์ 100 องค์ก็ไม่เท่าทำทานสร้างที่อยู่ให้พระภิกษุสงฆ์, ทำทานสร้างที่อยู่ให้ภิกษุสงฆ์ ก็ไม่เท่าทำอาณาปานสติเพียงครั้งเดียว....
สาเหตุใดทำไมบุญที่ได้รับจึงสูงกว่ากันมากครับท่าน
เป็นไปได้ไหม สร้างที่อยู่ถวายสงฆ์เป็น "ประโยชน์สาธารณะ" หรือว่าอย่างไร
ส่วนอาณาปานสตินั้น...ก็เพราะทำทานได้บุญมากสู้ภาวนาจิตไม่ได้ครับท่าน?
ขอบพระคุณท่านล่วงหน้าครับ
- Bookmarks likes this
#49
Posted 14 December 2012 - 20:56
ทำทานพระอรหันต์ 100 องค์ก็ไม่เท่าทำทานสร้างที่อยู่ให้พระภิกษุสงฆ์, ทำทานสร้างที่อยู่ให้ภิกษุสงฆ์ ก็ไม่เท่าทำอาณาปานสติเพียงครั้งเดียว....
สาเหตุใดทำไมบุญที่ได้รับจึงสูงกว่ากันมากครับท่าน
เป็นไปได้ไหม สร้างที่อยู่ถวายสงฆ์เป็น "ประโยชน์สาธารณะ" หรือว่าอย่างไร
ส่วนอาณาปานสตินั้น...ก็เพราะทำทานได้บุญมากสู้ภาวนาจิตไม่ได้ครับท่าน?
ขอบพระคุณท่านล่วงหน้าครับ
1. สงฆ์คือหมู่คณะของภิกษุ การสร้างที่อยู่ถวายสงฆ์เป็น "ประโยชน์สาธารณะ" ที่ว่านั้นเรียก "สังฆทาน" ไงขอรับ คือการให้ทานแก่ภิกษุโดยไม่กำหนดว่าให้ผู้หนึ่งผู้ใด ซึ่งเหตุผลของสังฆทานก็ตามพระสูตรหนึ่งในพุทธวจนะที่ครั้งสมัยพุทธกาลมีคหบดีผู้ทูลถามพระตถาคตว่า ในเมื่ออานิสงค์การถวานทานดังกล่าวไม่เท่ากัน แล้วจะทราบได้อย่างไรว่าให้ทานแก่ภิกษุผู้เป็นอริยะ พระตถาคตกล่าวว่า คงเป็นการยากสำหรับปุถุชนผู้ยังมีกิเลส ใช้เครื่องใช้สิ่งของฟุ่มเฟือยเพื่อการดำรงชีวิตจะทราบได้ถึงวัตรปฎิปทาของพระอริยะเจ้า (ขนาดภิกษุด้วยกัน พระองค์ยังทรงห้ามแสดงอวดอุตริใดๆ, การพยากรณ์ผู้อื่นผู้ใด พระองค์กล่าวนั่นคือวิชชาของเดียรถีย์ มีพระองค์หรือผู้เป็น "สัพพัญญู" เหมือนพระองค์เท่านั้นที่จะสามารถพยากรณ์ผู้ใดได้, พระอริยะระดับอรหันต์เจอหน้ากันยังไม่ทราบเลยว่าใครเป็นใคร นอกเสียจากได้มาสนทนาธรรมด้วยกันตามที่มีพระสูตรกล่าวถึงอยู่) พระตถาคตจึงให้ถวายทานเป็น "สังฆทาน" คือเป็นกองกลางของสงฆ์ ภิกษุสามารถนำไปใช้ได้โดยไม่กำหนดว่าเป็นผู้หนึ่งผู้ใด... ส่วนหลักการพิจารณาว่าภิกษุผู้ใดเป็นอริยะหรือไม่ตามพุทธวจนะ ก็ดูคำแปลได้จากบท อิติปิโสท่อนตั้งแต่สุปฏิปัณโนนั่นแหละขอรับ (ไม่แปลให้เพราะหาในกุ๊กเกิ้งได้เยอะแยะขอรับ) และดูที่ปฎิปทา, จริยวัตรของท่านว่าเหมาะสมตามอริยวินัยหรือไม่ และการกล่าวธรรมใดๆมีความรู้แจ้งแทงตลอดในอรรถในธรรมหรือเปล่าขอรับ...
2. เกี่ยวกับอาณาปานสติ หรือเกี่ยวกับอานิสงค์ที่ได้กล่าวถึงว่าทำไมมากน้อยไม่เท่ากัน... คำว่ามากน้อยนี่วัดยากขอรับ ก็คิดดูง่ายๆขนาดถวายทานแก่พระอรหันต์ผู้บริสุทธิ์ ยังสู้ทำอาณาปาณสติไม่ได้ แล้วไปทำกับใครไม่รู้เป็นอริยบุคคลหรือยังก็ไม่ทราบได้ หรือไปให้ทานสัตว์เดรัจฉานทั้งหลาย ผลทานจะเป็นเช่นไร ไม่ใช่ไม่มีอานิสงค์ แต่วัดเป็นปริมาณคงไม่ทราบได้ว่าจะใช้สิ่งใดเป็นตัววัดขอรับ...
ตามความเห็นของกระพ๊ม มีพระสูตรในพุทธวจนะที่พระตถาคตกล่าวถึงสิ่งที่ปุถุชนควรรู้แจ้งก่อนอื่นใดคือ "อริยสัจสี่" สิ่งที่ควรละให้ไวที่สุดคืออกุศลในจิต... พระตถาคตกล่าวไว้ว่าหากเกิดทุกขเวทนาใดๆทางจิต (อารมณ์นั่นแหละ) ไม่ว่าจะเป็นกาม (รูป, รส, กลิ่น, เสียง, สัมผัสนะขอรับ มิใช่เซ็กซ์อย่างเดียว), พยาบาท, เบียดเบียน, โกรธ, หลง ให้เธอจงใช้ความเพียรดำรงสติสัมปชัญญะ หรือทุกวิถีทางดับมันไปให้ได้โดยไวที่สุด...เพราะอะไร? พระตถาคตกล่าวว่า...หากเธอนั้นทำกาละ (ตาย) ในขณะที่จิตไปเกาะกับเวทนาดังกล่าวนั้นอยู่ "นั่นคือภพที่จะนำเธอไปสู่อบายทุคติวินิตบาต(นรกนั่นแหละ) โดยพลัน... สังเกตดีๆจะต่างกับพระอาจารย์โน้นนี้ที่กล่าวทำนองว่าหากโกรธก็ใคร่ครวญมันไปเรื่อยๆจนกว่ามันจะดับ หรือเห็นว่ามันดับ... ชาวพุทธเราทุกวันนี้ "หลงทาง" กันไปตาม "อรรถกถา" นี่มากมายขอรับ (ในเรื่องที่เราได้ยินประจำๆหากเป็นคนพุทธเช่นวิญญาณเวียนว่ายตายเกิด, การกรวดน้ำ ฯลฯ แต่ไม่ขอกล่าวเดี๋ยวจะเป็นประเด็นโต้กับผู้อื่นยาวยืดอีก...)
นั่นแสดงว่า "จิต หรือมโน หรือวิญญาณ" นั้นเป็นเงื่อนสำคัญที่พระตถาคตได้ค้นพบสัจจะธรรมนี้ ดังพระสูตรที่กล่าวถึงว่า "พระตถาคตบังเกิดขึ้นมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ หากไม่ได้รู้แจ้งในสัจจะความจริงอันเป็นอริยสัจ4 นี้ พระองค์ก็ป่วยการที่จะบังเกิดขึ้นมาในโลกนี้" ในแง่การทำอาณาปานสติซึ่งเป็น 1 ในมรรค 8 นั้นหากเราลองเทียบกับการโกรธแล้วทำกาละ (ตาย)ไปในขณะนั้น ผลจะบังเกิดตรงกันข้ามได้ กล่าวคือพระองค์การันตีไว้ได้ว่า "เธอสามารถก้าวสู่วิมุติ (นิพพาน) ได้ทันทีที่ทำกาละ โดยการทำอาณาปาณสติ แม้เพียงในปฐมฌาณ เพียงเธอเห็นการเกิดดับของจิต, มโน, วิญญาณนี้" ...
นี่แหละขอรับ ที่กระพ๊มคิดว่าทำไมอานิสงค์ดังกล่าวจึงมากมายนักตามคำสอนอันเป็นพุทธวจนะของพระพุทธองค์...
Edited by wat, 14 December 2012 - 21:41.
- Suraphan07 likes this
#50
Posted 14 December 2012 - 21:06
ฉันมาที่บอร์ดแห่งนี้ เพื่อหยุดระบอบทักษิณ
0 user(s) are reading this topic
0 members, 0 guests, 0 anonymous users