ไหว้ก็ได้ ใครช่วยเอาเรื่องการได้มาของปริญญาเอกของเหลิมทีเหอะ
#2
ตอบ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 19:51
ขอเทิดทูนศักดิ์ศรียิ่งสิ่งใด
...แม้แต่ลมหายใจก็ยอมพลี
โลกยังไม่สิ้นหวัง ถ้ายังมั่นในความดี
...ศรัทธาไม่เคยหน่ายหนี คนดีไม่มีวันตาย
#3
ตอบ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 20:18
Tam-mic-ra ฟันธง! คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ ..... คิดครับคิด จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96 ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3
#4
ตอบ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 20:19
- สิงห์สนามซ้อม likes this
#5
ตอบ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 20:36
ดอ๊กเหลิม
จะตามอยู่กับ
สมัคร
#6
ตอบ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 21:08
อ.ป โท เป็นที่ ปรึกษา ให้ นักเรียน ป. เอกhttp://www.youtube.com/watch?v=EfPK5sBx69o
จะเหมือน เอาเด็ก ป.1 มาช่วยสอน ป.2 ไหมครับ......
เราตระกูลชินจัง ขอยก ฐานะ เสื้อแดง จาก ไพร่ เป็น ควายแดง ณ.บัดนี้
ถึงแม้ พ่อแม่ เองจะให้ฐานะความเป็น คน มาแต่กำเนิดก็ตาม
#7
ตอบ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 21:15
นอกจากด้อยพัฒนาด้านการเมืองการปกครองแล้ว
การอวดอ้างปริญญาเอกของมัน ยังส่อถึงด้อยพัฒนาด้านการศึกษาด้วย
#8
ตอบ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 21:17
http://www.youtube.com/watch?v=EfPK5sBx69o
ผมวานใครเอาคลิปนี้ไปแปะที่ราชดำเนินทีได้มั้ยครับ ผมโพสไม่ได้
#9
ตอบ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 21:24
มันก็ไม่อายหรอกครับ
คนพรรค์นี้
#10
ตอบ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 22:15
ตามประวัติอย่างเป็นทางการของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ในเว็บไซต์ของพรรคพลังประชาชน ระบุรายละเอียดทางการศึกษาของเขาไว้ดังนี้คือ
ประถมศึกษา โรงเรียนวัดบางบอน
มัธยมศึกษา โรงเรียนวัดสิงห์
นิติศาสตร์บัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำแหง
นิติศาสตร์มหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำแหง
และ ระดับการศึกษาสูงสุดคือ ปรัชญาดุษฎีบัณฑิตทางสังคมศาสตร์ สาขานิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ที่จบการศึกษาในปี พ.ศ.2549
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง และ บุตรชายนายดวง อยู่บำรุง
ในการสัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเกือบทุกครั้ง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุงมักจะ “ยกตนข่มท่าน” อยู่เสมอว่าเป็น ด็อกเตอร์ทางกฎหมายที่มีความรู้เหนือกว่าคนอื่น อย่างเช่นครั้งหนึ่งที่เขากล่าว
“ด็อกเตอร์กฎหมายเรียนยาก ในเมืองไทย แต่ด็อกเตอร์นิด้าเดินชนกันตาย ด็อกเตอร์กฎหมายในเมืองไทยเพิ่งมีสามสี่คน เดี๋ยวผมตั้งวงเป็นนักวิชาการบ้างเอามาชำแหละกัน วิจารณ์นักวิชาการบ้างแล้วจะทำยังไง แล้วก็ไปบอก แหมรัฐมนตรีไม่ยินยอม มันก็ระดับหนึ่ง มันเรียนหนังสือมาด้วยกัน มองตาก็รู้ใจ นิด้าไม่มีหรอก จวกทุกรัฐบาล แต่พลังประชาชนจะโดนหนักหน่อย พวกผมไม่ได้คิดถือเป็นธรรมดา และพวกอาจารย์พวกนี้ ชอบวิจารณ์ นักการเมืองในระบอบประชาธิปไตย เอาเข้าจริงๆ เอาปืนไปจี้ให้ลงเลือกตั้ง ไม่เอากลัวแพ้”
แท้จริงแล้ว ร.ต.อ.เฉลิม จบปริญญาเอกดังที่เขาคุยโวโอ้อวดจริงหรือไม่? และ มีความรู้ความสามารถคู่ควรแก่ศักดิ์และสิทธิ์แห่งปริญญาดุษฎีบัณฑิตทาง นิติศาสตร์จริงหรือไม่?
ปัญหานี้ไม่ใช่ปัญหาของการดูหมิ่นสถาบันฯ ไม่ใช่ปัญหาส่วนบุคคล แต่เป็นปัญหาที่สะท้อนภาพความเน่าเฟะและเหลวแหลกของสถาบันการศึกษาไทยที่ เห็นแก่ได้และถูกการเมืองเข้าแทรกแซง-กัดกร่อน ทั้งยังฉายภาพให้เห็นมาตรฐานทางคุณธรรมและจริยธรรมของผู้ปกครองประเทศอีก ด้วย
1.“สนธิ” ฝัง “เหลิม” คนเนรคุณ ท้าสอบภาษาอังกฤษพิสูจน์เป็น ดร.จริงหรือปลอม (9 มิ.ย. 2551)
“สนธิ” อัด “เหลิม” เนรคุณ ไม่เลิกพฤติกรรมข่มขู่แบล็กเมล์ ท้าพูดให้ชัดแกนนำพันธมิตรฯ ทำครอบครัวผู้ใหญ่แตกแยกคือใคร เตือนถ้ารู้ความจริงต้องรีบฆ่าตัวตาย พร้อมทั้งให้พิสูจน์มาตรฐานภาษาอังกฤษด็อกเตอร์ว่าจริงหรือปลอม
2.“เหลิม” หน้าแหกรับไม่ผ่านมาตรฐานโทเฟล ปากสั่นหลักสูตรไม่บังคับ (10 มิ.ย. 2551)
มท.1 ยอมรับไม่ผ่านมาตรฐานการสอบภาษาอังกฤษ (โทเฟล) ตามคำท้าทายของ “สนธิ” แต่ยังอ้างน้ำขุ่นๆ หลักสูตรด็อกเตอร์ทางกฎหมายไม่ได้บังคับให้ต้องสอบ เล่นลิ้นให้พันธมิตรฯ ยึดแบบอย่าง ส.ว.เปิดอภิปรายในสภา
3.“ศ.ดร.ภูวดล” ชำแหละวิทยานิพนธ์ “ดร.เหลิม” โหลยโท่ย จี้ ม.ราม ถอดวุฒิฯ (10 มิ.ย. 2551)
“ภูวดล ทรงประเสริฐ” ชำแหละวิทยานิพนธ์ปริญญาเอก “ดร.เป็ดเหลิม” สุดโหลยโท่ย ไร้มาตรฐาน แค่ชื่อยาวก็เป็นกิโล แถมบทคัดย่อภาษาไทยกับอังกฤษแปลความหมายคนละเรื่อง เรียกร้อง ม.รามฯทบทวนใหม่ ขณะเดียวกัน ยังชี้ว่าเรื่องดังกล่าวสะท้อนความล้มเหลวของระบบการศึกษาไทยที่มากับระบอบ ทักษิณ
4.เปิดบทคัดย่อวิทยานิพนธ์ ป.เอก “ดร.เหลิม”! (11 มิ.ย. 2551)
เปิดบทคัดย่อวิทยานิพนธ์ปริญญาเอก ดร.เฉลิม อยู่บำรุง หลักฐานชี้ชัดต่ำกว่ามาตรฐาน แค่คำแปลระเบียบวิธีวิจัยง่ายๆ และถือเป็นหัวใจของงานวิจัยทั้งเล่มยังแปลผิด
5.เปิดโปง! “เป็ดเหลิม” ซื้อปริญญา-สมรู้ร่วมคิดอธิการฯ เด้ง ผอ.โครงการเพราะไม่ให้จบ (13 มิ.ย. 2551)
เพื่อนร่วมรุ่นปริญญาเอก ม.รามฯ แฉไม่เคยเห็น “เป็ดเหลิม” เข้าเรียนแต่สอบผ่านทุกวิชา แถมใช้อภิสิทธิ์ในการสอบเหนือนักศึกษาปริญญาเอกทั่วไปทุกครั้ง ส่วนภาษาอังกฤษก็ไม่เคยเห็นสอบทั้ง TOEFL และ RU. Test แฉดุษฎีนิพนธ์ครั้งแรกไม่ผ่าน ต้องให้อธิการฯ เด้ง ผอ.โครงการจึงผ่านฉลุย
http://www.manager.c...D=9510000070817
เคียงข้างลุงกำนัน ปฏิรูปการเมืองไทย กำจัดระบอบทักษิณ ขับไล่มวลหมู่ขี้ข้า วันที่ 26 พฤษภาคม 2557...
#11
ตอบ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 22:20
ขึ้นชื่อว่าร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุงใน พ.ศ.นี้ คงยากที่จะหาคนไม่รู้จัก ส่วนใน พ.ศ.ก่อนๆ จะรู้จักแบบไหน ในฐานะคนติดตามการเมืองก็ต้องรู้ประวัติหรือทำความรู้จักกันนิดหน่อย ด้วยคนไทยไม่ว่าอาวุโสหรืออ่อนวัยต่างหลงลืมหรือไม่จดจำบทเรียนในประวัติ ศาสตร์ และบางส่วนมักเห่อ รวมทั้งคอยแห่แหนกับการมีอำนาจ
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เริ่มแสดงร่วมการมีอำนาจตั้งแต่เป็น สิบโทเฉลิม อยู่บำรุงเป็นสารวัตรทหารในหน่วยของ พ.อ.สาคร กิจวิริยะ (สห.มทบ. 11) ซึ่งเป็นนายทหารรุ่น จปร.7 รุ่นเดียวกับ พล.ต.มนูญกฤต รูปขจรและพล.ต.จำลอง ศรีเมือง ต่อมาได้ย้ายมาเป็นตำรวจจนได้รับยศร้อยตำรวจเอกเป็นตำรวจกองปราบ มีชื่อดังจนเป็นข่าวหน้าหนึ่งในหนังสือพิมพ์หลายฉบับ ไม่ว่าการเข้าไปจัดการแหล่งบันเทิง ในโรงแรมแอมบาสซาเดอร์ หรือเรื่องการจับเพชรที่เยาวราชที่คุณสอน สุขบรรจง อดีตประธานชมรมนักข่าวอาชญากรรมมีเครื่องช่วยจำให้น้องๆ นักข่าวรุ่นหลังได้รับรู้ ซึ่งจัดการแบบไหน ในแต่ละเรื่องคนที่จดจำได้ดีต้องไปถาม ร.ต.อ.เฉลิม แต่คนที่จดจำจนวันตายคือเจ้าของธุรกิจนั่นเอง
เมื่อมาเล่นการเมืองครั้งแรกก็สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ เจรจาหาที่ตั้งให้พรรคประชาธิปัตย์ มาได้ดีเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในรัฐบาล พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ นั้น ร.ต.อ.เฉลิม มีอำนาจหน้าที่กำกับดูแลองค์การสื่อสารมวลชนแห่งประเทศไทย (อ.ส.ม.ท.) แต่ทั้งบีบ-เค้น-ควบคุมผู้เกี่ยวข้อง (www.matichon.co.th) ในบางครั้งถึงกับเข้าไปสั่งการในห้องตัดต่อเอง จนคนในช่อง 9 เรียกว่า “บรรณาธิการเฉลิม” ทั้งสร้างวีรกรรมนำรถถ่ายทอดโทรทัศน์ไปลักลอบดักฟังข้อมูลของฝ่ายตรงข้าม จนเป็นที่มาของฉายา “เหลิมดาวเทียม” (www.positioningmag.com) และการทุจริตคอร์รัปชันในรัฐบาลที่เรียกว่า “บุฟเฟ่ต์คาบิเนต” ก็ถูกทำการรัฐประหารโดยคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (รสช.) ซึ่งร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เป็นหนึ่งในนักการเมืองที่ถูกกล่าวหาว่าร่ำรวยผิดปกติ และถูกยึดทรัพย์จำนวน 32 ล้านบาทและต้องลี้ภัยไปอยู่ที่ประเทศเดนมาร์ก
จากเหตุการณ์ครั้งนั้น ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ถึงประกาศว่าเลิกเล่นการเมือง แต่วันนี้ยังคงเล่นการเมืองและผลักดันให้ลูกชายเล่นการเมือง ทั้งประกาศซ้ำว่าถ้าลูกชายไม่ได้รับการเลือกตั้งครั้งล่าสุด (พ.ศ. 2554) จะยุติบทบาททางการเมือง แต่แล้วก็มารับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี การพูดแบบ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง จึงเป็นคำพูดที่พายเรือในอ่างชูวิทย์ ซึ่งคนไทยเราต้องเอาไปทบทวนและพิจารณาก่อนจะเชื่อหรือไม่เชื่อทุกครั้ง
อีกทั้งคำพูดที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ชอบใช้อยู่ประจำคือคำว่า แอ๊กอาร์ต (Act art) ซึ่งคำว่า แอ๊ก แปลว่า แสดงหรือเล่นละคร ส่วนอาร์ต แปลว่า ศิลปะเมื่อมารวมกันก็เป็นศิลปการแสดงหรือศิลปะการเล่นละคร เมื่อรวมคำพูดแล้วเราก็จะเข้าใจร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุงในทางการศึกษาพฤติกรรมทางการเมือง ก็จัดได้ว่าร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เป็นพวกที่เป็นนักแสดงซึ่งต้องเติมคำหรือเรียกใหม่ว่าเป็นนักแสดงที่มีศิลปะ ชั้นสูง ไม่สูงได้อย่างไร พูดไปพูดมาได้เป็นรองนายกรัฐมนตรี…ฮา
จากพฤติกรรมข้างต้น คงเป็นคำถามพื้นๆ ที่คนไทยห่วงใยบ้านเมืองอยากรู้ เพราะดูการเมืองบ้านเราเหมือนดูลิเกเข้าไปทุกทีอย่าง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เมื่อมี ด-ว-ง อีกครั้ง ได้เป็นรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยในสมัยสมัคร สุนทรเวช นั่งกำกับกรมที่ดินมีการฟ้องบริษัทศรีสุบรรณ แต่พอพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล กรมที่ดินถอนฟ้อง ผมไม่เห็น ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ออกมาพูดอะไร มาวันนี้พรรคเพื่อไทยมาเป็นรัฐบาลผมจึงอยากเห็นว่ารองนายกรัฐมนตรีที่ชื่อ เฉลิมประกาศปราบบ่อนการพนัน ปราบยาเสพติด จะปราบคอร์รัปชันด้วยหรือไม่ ก็ที่ดินที่เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ระบุจังหวัดมาด้วย เดี๋ยวรายงานด่วนเป็นเกาะฉลุยที่ไม่มีสารบบในประเทศไทย หรือ เกาะกินฉลุย คุ้ยชำเละบ่อนที่ไม่อยู่ในอาณัติ ด้วยการประกาศแบบตีเอาเมืองขึ้น เหมือนสัญญาณเตือนว่าวันนี้คนพูดเป็นคนมีอำนาจ เพิ่งได้รับการปราบดา และกำลังรอค่าต๋งค่าส่งส่วย ซึ่งพฤติกรรมที่กล่าวมาเป็นพฤติกรรมของนักการเมืองเลวๆ ที่ชอบทำ จนชาวบ้านที่รู้ทันต่างเบื่อระอา
ผมจึงไม่อยากเห็นใครมาว่า ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง แต่อยากเห็นนักการเมืองที่ไม่เฉพาะร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เป็นแบบอย่างที่ดี ที่คนเอาไปพูดต่อๆ ได้ว่า “นักการเมืองคนนี้ของจริง พูดคำไหนคำนั้น” ไม่ใช่พอลับหลังบอกว่า “นักการเมืองคนนี้เลวจริง พูดคำไหนเป็นคำขู่เอาเงินเมื่อนั้น” ซึ่งภาพความรู้สึกเหล่านี้มีอยู่จริงที่นักการเมืองทั้งหลายควรพิจารณา
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เคยได้รับสมญานามว่า “เหลิมดาวเทียม” ซึ่งเป็นที่มาของการเร่งการรัฐประหารของคณะรสช.เมื่อ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2534 และในปลายปี พ.ศ. 2552 สื่อมวลชนประจำรัฐสภาได้ตั้งฉายาให้ ร.ต.อ.เฉลิมว่า “ดาวดับ” อันเนื่องจากวาทกรรมที่บอกว่า “พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ได้ทำผิดกฎหมาย แต่ทำในสิ่งที่กฎหมายห้าม”
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง วันนี้ยังเวียนว่ายตายเกิดในทางการเมือง ในฐานะคนอยากเห็นบ้านเมืองที่ดีไปข้างหน้า ไม่อยากเห็นคนบ้าอำนาจอยู่ข้างหลัง จึงใคร่เตือนสติซึ่งก็ไม่รู้ว่าเป็นการสีไวโอลินให้ใครฟังหรือเปล่า จึงขอสรุปสั้นๆ ว่า
อย่าหลง... ถ้าคุณหลงให้กลับย้อนไปดูตอนถูกยึดทรัพย์ 32 ล้านบาท
อย่าเหลิง...ถ้าคุณเหลิงให้คิดถึงตอนลี้ภัยไปอยู่เดนมาร์ก
อย่าเหลิม...ถ้าคุณเหลิมหรือเหิมอีกครั้ง บอกได้เลยว่าจะไม่เหลืออะไร
และให้คิดว่าชีวิตนี้เป็นอนิจจัง
http://webboard.seri...่วยเอาเรื่องกา/
เคียงข้างลุงกำนัน ปฏิรูปการเมืองไทย กำจัดระบอบทักษิณ ขับไล่มวลหมู่ขี้ข้า วันที่ 26 พฤษภาคม 2557...
#12
ตอบ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 22:30
ซึ่งมีจำนวนทั้งสิ้น 277 หน้า
เลขทะเบียน (ISBN 974-09-1829-8)
ที่ถูกเสนอต่อคณะกรรมการที่ปรึกษาดุษฎีนิพนธ์
ของมหาวิทยาลัย รามคำแหง เพื่อเป็นสาระสมบูรณ์ของการศึกษาตามหลักสูตรปริญญา นิติศาสตร์ดุษฎีบัณฑิต ปีการศึกษา 2547 ได้ใช้ความสามารถจริงของผู้ศึกษาวิจัย และจัดทำเนื้อหาดุษฎีนิพนธ์ชิ้นนี้จริงหรือไม่ หรือเป็นเพียงขั้นตอนกลไกหนึ่งในการสำเร็จการศึกษา แบบไม่ต้องศึกษา โดยใช้เพียงสายสัมพันธ์กับคณาจารย์ของสถาบันการศึกษา
คำถามเหล่านี้ต่างหากที่น่าสนใจอย่างมากมาย
ต่อเกียรติยศและชื่อเสียงของสถาบัน
ของมหาวิทยาลัยรามคำแหง
มาก มายกว่าความจริง ที่เที่ยวมีการฟ้องร้อง และแจ้งความในข้อกล่าวหาว่าหมิ่นประมาท หมิ่นเกียรติหมิ่นศักดิ์ศรีของสถาบันการศึกษา ความจริงในการพิสูจน์ทราบต่อความสามารถในการศึกษา และขั้นตอนในการได้มาซึ่ง ดุษฎีบัณฑิต ต่างหาก คือความจริงสำคัญ ที่ศิษย์มหาวิทยาลัยรามคำแหง ควรช่วยกันทวงถาม และถามหากเกียรติยศเหล่านั้น
จากสิ่งที่ศิษย์เก่าได้ร่วมกันสร้างขึ้นมา
อย่าลืมนะครับ คุณเฉลิม อยู่บำรุง ไม่ได้สร้างรามคำแหง
แต่ศิษย์เก่าทุกคน ของมหาวิทยาลัยรามคำแหง
สร้างรามคำแหงขึ้นมาจากศูนย์
http://www.oknation.net/blog/print.php?id=271152
คนที่อยู่เบื้องหลัง ป.เอกของเฉลิม
น่าจะเป็นอดีตอธิการบดีรามคำแหง รังสรรค์ แสงสุข............ฮ่า ฮ่่า ฮ่า ฮ่า
- kokkai likes this
เคียงข้างลุงกำนัน ปฏิรูปการเมืองไทย กำจัดระบอบทักษิณ ขับไล่มวลหมู่ขี้ข้า วันที่ 26 พฤษภาคม 2557...
#13
ตอบ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 22:34
ไปบ้างไม่ไปบ้าง การบ้านหรืองานที่ได้รับมอบหมายจ้างคนอื่นทำ
พยายามจัดกิจกรรมในกลุ่มที่เรียนด้วยกัน ของผมจัดตีกอล์ฟกัน
แล้วก็เอาวงดนตรีไปงานแต่งลูกชายของครูที่สอนปอ.เอกด้วย
ตอนนี้จบแล้ว แล้วลูกชายที่เอาวงดนตรีไปงานแต่งดันได้มาบรรจุที่ทำงานผม
แต่กับผู้น้อยเท่าที่เห็นคือลาราชการไปเรียนเลยจนจะสองปีแล้วยังไม่เคยเห็นหน้า
เพราะไปเรียนประจำ อ่านหนังสือดึกดื่น ขณะนี้ยังไม่จบ
ผมคนกลางเอียงข้างความถูกต้อง
ผู้ใช้ 0 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้
สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 0 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน