ผลกระทบจากค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทต่อวันเท่ากันทั้งประเทศ ผู้ประกอบการหลายแห่งอยู่ไม่ได้ คนงานตกงาน การเคลื่อนย้ายแรงงาน จะปรากฏให้เห็นแน่นอน
ผลกระทบจากอัตราเงินเฟ้อพุ่ง สินค้าขึ้นราคาข้าวของแพง ไม่รู้ว่าดอกเบี้ยปีหน้าจะขยับยังไง
ผลกระทบจากนโยบายรถคันแรก ที่ล้วงเอาเงินภาษีอากรของประชาชนไปใส่กระเป๋าผู้ผลิตซึ่งล้วนเป็นบริษัทข้ามชาติ ส่วนใครที่ไปซื้อรถยนต์คันแรกชีวิตคงเหนื่อยกับการผ่อนและต้องใช้ชีวิตอย่างสุขุมประหยัด ที่ตามมาคือต้องงดจับจ่ายสินค้าอื่นๆ ฉะนั้นบรรดาธุรกิจหลายๆ ประเภทที่ไม่เกี่ยวข้องกับรถยนต์อย่างจุกแน่
ผมว่ามีเหตุผลที่ นโยบายรถคันแรก ทำให้เศรษฐกิจทุกวันนี้ย่ำแย่
#1
ตอบ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 19:28
#2
ตอบ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 19:33
การค้าขายตอนนี้ฝืดเคืองมากไม่เชื่อถามแม่ค้าทุกสาขา เว้นอุตสาหกรรมยานยนต์
เพราะคนต้องเจียดรายได้ไปจ่ายค่ารถทุกเดือน ทำให้ไม่มีเงินพอจะจับจ่ายใช้สอยด้านอื่น เรียกว่าต้องประหยัด
ตอนนีีมันส่งผลต่อพวกห้างค้าปลีกต่างๆที่ออกมาโอดครวน แม่ค้าที่ขายตามร้านข้างถนน ส่งผลหมด ลามเป็นลูกโซ่ไปจากอุตสาหกรรมด้านอื่นๆ
คิดดูขนาดนี่จะปลายปีแล้ว แต่การจับจ่ายเงียบมาก ปกติปลายปี คนจะจับจ่ายคึกคัก
Edited by ขี้ข้าทักษิณ, 16 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 19:35.
- poco likes this
"ไม่เอานิรโทษกรรมของขี้ข้าทักษิณเพื่อทักษิณที่ขี้ขลาด"
#3
ตอบ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 19:35
#5
ตอบ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 20:39
บอกใด้คำเดียวว่า
สมน้ำหน้า
- เช never die, Nokky Hayden, กาลามสูตร and 1 other like this
เถียงกับความจริง เถียงให้ตายก็ไม่มีทางชนะ
#8
ตอบ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 21:29
นโยบายของรัฐบาลหลายอย่างเหมือนยาสเตียรอยด์ กินแล้วหายป่วยทันใจ แต่ส่งผลข้างเคียงในระยะยาว
Edited by อู๋ ฮานามิ, 16 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 21:31.
- IndyDekDee likes this
ถึงผมจะเป็นคนหัวขบถ แต่ไม่คิดทรยศบุญคุณแผ่นดินเกิด
เสียงส่วนใหญ่ของประชาชน ไม่ใช่ใบอนุญาตทำร้ายประเทศชาติ
#11
ตอบ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 21:32
คนที่นี่ไม่เกี่ยงเรื่องราคา ขอให้รสชาติดี สะอาด วัตถุดิบเยี่ยม ทุกเย็นกลับจากที่ทำงานจะจอดรถแวะซื้ออาหารจากตลาดนี่เข้าบ้าน
ญาติเราขายของได้กำไร แต่ละวันทำแทบไม่ทันมาตลอด
จนกระทั่ง นโยบายรถคันแรก
ไม่น่าเชื่อ การค้ากลับซบเซา
ถามแม่ค้าละแวกนั้นก็บอกว่าเป็นเหมือนกันแทบทุกเจ้า
ทุกคนช็อตหมด การค้าฝืดเคืองมาก
ย้ายหนีไปหลายเจ้า รวมทั้งญาติเราด้วย
ถามลูกค้าๆบอก... ต้องประหยัดเพราะ เดิมถึงจะผ่อนบ้านราคาแพง ผ่อนรถราคาแพง ก็พอดีๆ ไม่ตึงมือเกินไป
ทีนี้ ต้องมาผ่อนรถให้ลูกเพิ่มอีกรายการ
ค่าใช้จ่ายเยอะขึ้น แต่รายได้เท่าเดิม
แถมลูกยังเรียนอยู่ ไม่มีรายได้เข้ามา
ประหยัดอะไรได้ ต้องประหยัด ไม่งั้น ผ่อนส่งไม่ไหว
อาหารการกินที่เคยเสพแต่ของดีๆ
ต้องงด
พ่อค้า แม่ค้า เซ็งเป็นแถบๆ
แก้คำผิด
Edited by asawinee, 16 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 21:33.
#12
ตอบ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 21:51
รวมกับค่าน้ำมัน ค่าประกัน ค่าซ่อมบำรุงต่างๆ เกือบ 5 พันบาท
ทำให้รายจ่ายต่อคนเพิ่มขึ้นมา 13000 บาท
เงินส่วนนี้ถูกดึงไปอยู่ใน ผู้ผลิตรถยนต์ ต่างๆ ซึ่งเงินเหล่านี้จะส่งกลับเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ
ผ่านทางผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ กับแรงงานที่เกี่ยวข้องกับการผลิตรถยนต์และชิ้นส่วนได้ OT มากขึ้น
แต่เงินมันไม่ได้กลับเข้าระบบทันที่ และไม่กระจายตัว ทำให้ระบบเศรษฐกิจช่วงนี้ไม่ขับเคลื่อนตัว
ผมคาดว่าจะมีสภาพเป็นอย่างนี้ต่อไป อีกเป็นปี เพราะรถยังมีค้างจองอีกเป็นจำนวนมาก
การที่รายจ่ายต่อเดือนมากขึ้น ทำให้เกิดการประหยัดการใช้จ่าย ทำให้เงินที่จะใช้หมุนเวียนในระบบมีเกิดสภาพคล่องเท่าที่ควร
#13
ตอบ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 22:00
ประมาณนี้
- หน้าตาไม่ดี แต่เร้าใจ, ตามงคล and poco like this
มันผู้ได สนับสนุนการนิรโทษกรรม ไม่ลากคอไอ้ฆาตกรชั่วใจสัตว์ โหดอำมหิต ผู้บงการฆ่าพี่น้องเสื้อแดงของกู 91 ศพ และพี่น้อง กปปส.ของกูอีก 20 ศพ มาลงโทษลงทัณฑ์ตามกบิลเมือง กูขอสาปแช่งให้มันและทุกๆคนที่มันรัก จงประสพกับความวิบัติฉิบหายในชาตินี้ และต่อๆไปทุกภพทุกชาติ จนกว่าจะสิ้นกาล
#14
ตอบ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 22:09
#15
ตอบ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 22:20
#16
ตอบ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 22:20
ต่อไป รัฐบาลจะออกนโยบาย''จำนำรถคันแรก"ต่อจากจำนำข้าว หลังจากนั้นก็จำนองบ้านหลังแรกเป็นนโยบายต่อเนื่อง
เมื่อฝืดเคืองมากๆ พรรคไหนอุตริ ต่อด้วยนโยบาย"จำนำเมียคนแรก" รับประกันยุ่งแน่
(ขอโทษสมาชิกที่เป็นสุภาพสตรีนะครับ ผมแค่ล้อเล่น มิได้บังอาจเล่นของสูง)
#17
ตอบ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 22:23
เป็นส่วนหนึ่งของแผนการทำลายระบบเศรษฐกิจของประเทศ จากนั้นก็จะตามมาด้วยการเข้าโครงการไอเอ็มเอฟอีกรอบ แล้วก้จะมีเศรษฐีขี้ครอกกลุ่มหนึ่งมาไล่ซื้อของถูก
ประมาณนี้
เห็นด้วยกับน้าเช
เพราะมันชั่งคล้ายกับโมเดลเก่าๆ ยังไงก็อย่างงั้นเลย
พอคนผ่อนไม่ได้รถก็โดนยึดออกมาล่นตลาด ไฟแนนซ์ก็เริ่มบูม และก็บวม แล้วก็แตก เพราะหนี้เก็บไม่ได้
#18
ตอบ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 22:24
ความจริง ผมประเมินเศรษฐกิจอีกอย่าง..
คาดว่า..จากการที่รัฐบาลเผาเมือง อัดเงินเข้าตลาด จากโครงการมหามั่วทั้งหลายแหล่
เอาล่ะ...แม้ผมจะเชื่อแบบเดียวกับคนจำนวนมากว่า เงินจำนวนมากตกอยู่ในกระเป๋าโจรมั่ง กลุ่มพ่อค้าบางกลุ่มมั่ง
ยังไง มันก็น่าจะทำให้เกิดกระแสเงินหมุนเวียนในตลาดเพิ่มขึ้น...ยังไง เศรษฐกิจก็น่าจะดีไปซัก 1-2 ปี แล้วค่อยชิ บ หา ย
แต่หลายเดือนมานี่ ลูกค้าบ่นกันอุบว่า ทำไมยอดขายมันตก ตลาดมันเงียบ....แม่ค้าแถวบ้าน ไม่ว่าเสื้อแดง เสื้อเขียว เสื้อสีอะไรก็แล้ว
บ่นเหมือนกันหมดว่า ขายของแย่ลง...จนกระทั้ง มาอ่านบทความข้างบน แล้วกลับมานั่งคิด...
โห...มันเป็นไปได้เหมือนกันแฮะ....กำลังซื้อด้านอื่นมันถูกดูดด้วยห่วงโซ่ ทางยานยนต์ ผ่านโครงการรถคันแรก..
คิดเหมือนหลายความเห็นข้างบน.....คนที่รายได้ไม่เกิน 2 หมื่น ถ้าไม่มีเงินออมเก่า แต่ไปออกรถคันแรก..
ผมว่า ค่าใช้จ่ายด้านอื่นๆ คงถูกตัดไปหลายอย่างเลย.....กำลังซื้อมันถูกดูดไปหมด..
- kokkai likes this
#19
ตอบ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 22:51
#20
ตอบ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 22:57
#21
ตอบ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 00:33
คิดเหมือนอย่าง จขกท. เหมือนกัน เรื่องผ่อนรถแล้วคนไม่มีกำลังซื้อ
ทีแรกแต่คุยเรื่องนี้กับพ่อค้าแม่ค้าเขาไม่ค่อยเชื่อ
พอมาช่วงหลังค้าขายฝืดเคืองเลยเออออไปกับความคิดนี้แล้ว
“ ...คนชั่วจะถูกปราบราบคาบสิ้น แผ่นดินเดือดสูญหายไร้ปัญหา ,
ประเทศชาติผ่านวิกฤติด้วยศรัทธา ยามเมื่อฟ้าสีทองผ่องอำไพ “
#22
ตอบ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 00:55
สาเหตุที่การค้าขายฝืดเคืองเนื่องจากผ่อนรถคันแรก หลายคนอาจเถียงหัวชนฝาว่าไม่จริง
แต่...มันเป็นไปได้อย่างมากครับ
1. ค่าผ่อนรถ คือ Fixed Expense หรือค่าใช้จ่ายคงที่ ครับ
ที่ไม่ว่าลูกหนี้จะมีเงินหรือไม่มีเงินก็ต้องจ่ายหนี้ผ่อนรถ
ทำให้คนมีหนี้รถต้องเก็บเงินรายได้ต่อเดือนใช้ผ่อนรถ
ก่อนจะจับจ่ายซื้อของที่เป็น Variable Expenses-ค่าใช้จ่ายผันแปร
กำลังซื้อจึงหายจากตลาดไปเลย
2. การซื้อรถ คนเรามักไม่คิดล่วงหน้าว่ารายจ่ายจะไม่ใช่มีแค่ค่าผ่อน
แต่..รถมีโสหุ้ยตามมาบานตะไท
ค่าน้ำมัน ค่าทางด่วน ค่าซ่อม ค่าประกันรายปี ค่าภาษีรถยนต์ ค่าต่อทะเบียน ฯลฯ
ทำให้รายได้หมุนไม่พอ จึงต้องงดการใช้จ่ายทางอื่น
ดังนั้น นโยบายรถคันแรกทำให้ใครรวย
บริษัทรถ
ปตท.
กรมการขนส่งทางบก
บ.ประกัน
(ทางด่วนไม่นับ เพราะไม่ใช่ทุกจว.จะมีทางด่วน
ไฟแนนซ์ก็ไม่ใช่ เพราะต้องไปรอลุ้นรถผ่อนไม่ไหวอีก)
นี่มันกระจายรายได้เฉพาะกลุ่มเอามากๆเลยเน้อ
Edited by ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่, 17 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 00:57.
#23
ตอบ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 01:02
ปูลู ไม่ได้ใช้สิทธิรถคันแรกนะ มีอีแก่หลายคันแล้ว
ถ้าอยากได้ความเท่าเทียม
ก็ปีนป่ายขึ้นไปให้อยู่เทียบเท่ากับคนอื่นเค้า
อย่าได้กระชากฉุดให้คนอื่นเขาลงมาตกต่ำเท่ากับตน
#24
ตอบ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 01:27
ขอเทิดทูนศักดิ์ศรียิ่งสิ่งใด
...แม้แต่ลมหายใจก็ยอมพลี
โลกยังไม่สิ้นหวัง ถ้ายังมั่นในความดี
...ศรัทธาไม่เคยหน่ายหนี คนดีไม่มีวันตาย
#25
ตอบ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 06:19
แล้วถ้าไฟแนนซ์ล้ม บริาษัทแม่ของไฟแนนซ์ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหนก็บันดาธนาคารพานิชย์ทั้งหลายแหล่นั่นแหละที่จะถูกบังคับให้เพิ่มทุน แล้วถ้ามันเต็มเพดานจนเพิ่มทุนไม่ไหวอีทีนี้ธนาคารพาณิชย์ในระบบก็ต้องล้มสถานเดียว ทีนี้ประเทศก็ต้องถูกบังคับเข้าไอเอ็มเอฟอีกรอบ
โดยส่วนตัวผมไม่ค่อยกังวลเท่าไหร่ หาทางหนีทีไล่ใว้แล้ว ส่วนที่เป็นที่ดินก็ปล่อยใว้อย่างนั้น ส่วนที่เป็นเงินสดในธนาคารก็เอาไปเปลี่ยนเป้นเงินสกุลอื่นที่มั่นคงอีกบางส่วนก็เอาไปเปลี่ยนเป็นทองคำ
สงสารพวกกิจการที่กู้มาลงทุนในรูปของเงินสกุลต่างประเทศ พวกนี้จะพังพาบตั้งแต่นาทีแรกที่ไฟแนนซ์เริ่มเจ๊งเลย
มันผู้ได สนับสนุนการนิรโทษกรรม ไม่ลากคอไอ้ฆาตกรชั่วใจสัตว์ โหดอำมหิต ผู้บงการฆ่าพี่น้องเสื้อแดงของกู 91 ศพ และพี่น้อง กปปส.ของกูอีก 20 ศพ มาลงโทษลงทัณฑ์ตามกบิลเมือง กูขอสาปแช่งให้มันและทุกๆคนที่มันรัก จงประสพกับความวิบัติฉิบหายในชาตินี้ และต่อๆไปทุกภพทุกชาติ จนกว่าจะสิ้นกาล
#26
ตอบ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 06:29
อดนึกสงสัยไม่ได้ว่า เมื่อทุกคนจนกรอบ
ก็จะขอตัวมารับใช้ปลดหนี้สินให้ แลกกับการกลับมา
แต่ผมว่าคนเริ่มรู้ธาตุแท้แล้วละ
ดูอย่างพวกที่ไปเผาสถานที่ราชการก็บอกว่าไม่ต้องไปอุทรณ์ ฎีกาหรอก
เดี๋ยวก็ครบกำหนดแล้วได้ออกมาเอง
#27
ตอบ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 06:49
มันผู้ได สนับสนุนการนิรโทษกรรม ไม่ลากคอไอ้ฆาตกรชั่วใจสัตว์ โหดอำมหิต ผู้บงการฆ่าพี่น้องเสื้อแดงของกู 91 ศพ และพี่น้อง กปปส.ของกูอีก 20 ศพ มาลงโทษลงทัณฑ์ตามกบิลเมือง กูขอสาปแช่งให้มันและทุกๆคนที่มันรัก จงประสพกับความวิบัติฉิบหายในชาตินี้ และต่อๆไปทุกภพทุกชาติ จนกว่าจะสิ้นกาล
#28
ตอบ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 07:23
ตระกูลอันมั่งคั่ง (รวมทั้งประเทศ)จะตั้งอยู่นานไม่ได้ เพราะสถาน ๔
๑. ไม่แสวงหาพัสดุที่หายแล้ว.
๒. ไม่บูรณะพัสดุที่คร่ำคร่า.
๓. ไม่รู้จักประมาณในการบริโภคทรัพย์.
๔. ตั้งสตรีหรือบุรุษทุศีลให้เป็นแม่เรือนพ่อเรือน.
Edited by Cemeterys, 17 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 07:24.
- GuoJia and Lucas Leiva Benitez Rodger like this
#29
ตอบ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 09:50
พยัคฆ์ติดปีก...
#30
ตอบ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 10:08
อิอิ
ผมอาจจะคนหนึ่งตอนนี้ขี้รถมอไซค์ฮ่างไปก่อน
ฮ่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
ถึงตรูจะเลวยังไง ตรูก้อไม่ได้ขายชาติ เหมือนเสื้อแดงว่ะ เข้าใจนะ
#31
ตอบ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 16:26
ใครที่มีความคิดจะซื้อรถตอนนี้ ขอบอกว่าอดใจอีกนิดรออีกไม่เกินหนึ่งปีหรืออย่างช้าไม่เกินปีครึ่ง ถึงตอนนั้นจะซื้อรถที่ถูกยึดได้ในราคาไม่เกินหนึ่งแสนบาท เพราะหลังจากเศรษฐกิจพังทะลาย บันดาทรัพยืสินของไฟแนนซ์ที่เจ๊งพวกนี้จะถูกขายทอดตลาดในราคาไม่ถึง 25% ของราคาทรัพย์สินเดิม คราวนี้ใครมีเงินสดก้ไล่เก็บซื้อของถูกกันสนุกมือ
ผมพลาด เลย น้าเช นังเมียมันร้องจะเอา ส่งสารลูก น้อย(1 ขวบ) ที่ต้องกระเตงนั้งรถมอไซค์ไปทำงาน กับเมียเพราะเลี้ยงกันเอง แล้วเลยตามใจเมีย ถ้าให้รออีกหน่อย ออกมือ 2 สวยได้สดๆเลย(คันนี้ออกมา 200,000 ถ้าเก็บอีกปีหน้าจะได้ถึง 3แสนกว่า) ไม่ต้องเป็นหนี้ พลาดเลย
#33
ตอบ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 16:55
คนมีรถก่อนจะเปลี่ยนรถทีต้องปล่อยรถเก่า
แต่ว่านโยบายนี้มันสนับสนุนให้คนไม่มีรถซื้อรถเพิ่มปีนี้ปริมาณรถมันเลยเพิ่มขึ้นมามากเป็นพิเศษ
รถติดนี่เป็นมลภาวะอย่างแรงเลยทั้งเงินเติมน้ำมัน ทั้งสุขภาพจิต แถมเอาไปเล่นงานผู้ว่ากทม.ได้อีกด้วย
#34
ตอบ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 17:44
แม้วชอบส่งเสริมให้คนเป็นหนี้ แล้วหาช่องทางกอบโกยจากมัน
#35
ตอบ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 17:57
ตลาดหดหายยยยยยยยยยย
#36
ตอบ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 18:24
Edited by A DESIGN FOR LIFE, 17 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 18:59.
- poco likes this
#37
ตอบ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 18:47
เอาแบบคร่าวๆจุดเริ่มต้นของหายนะก้คือ ถ้าปริมาณรถยนตามโครงการนี้ไม่ต้องมากไม่ต้องถึงห้าสิบเปอร์เซ็นต์ เอาแค่สามสิบเปอร์เซ็นต์ที่ผ่อนต่อไม่ใหวเนื่องจากมีการปล่อยกู้กันง่ายๆ หายนะที่จะตามมาก็คือบรรดาไฟแนนซ์ที่ปล่อยกู้ต้องแทงบัญชีเป้นหนี้เสีย สามสิบเปอร์เซ็นต์ของเก้าแสนคัน ก้ตีว่าประมาณสามแสนคัน ตีอย่างถูกสุดๆคันละสามแสนบาท ตกเป็นเงินราวๆหนึ่งแสนล้านบาทที่เป้นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ในระบบ เมื่อมาปะทะเข้ากับภาวะเศรษฐกิจซบเซาอันเนื่องมาจากกำลังซื้อในระบบเศรษฐกิจ ที่หายไปอยู่ที่รถอีกหกแสนคัน ถึงตอนนั้นบรรดาสถาบันการเงินที่เป้นบริษัทแม่ของเหล่าไฟแนนซ์ก็จะเริ่ม ระมัดระวังในการปล่อยกู้มากขึ้น ส่งผลให้เกิดผลกระทบต่อสภาพคล่องของบรรดาห้างร้านกิจการที่ขอโอดีใว้
เมื่อ บรรดากิจการห้างร้านเริ่มขาดสภาพคล่อง ทีนี้ก้จะเกิดผลกระทบกับการจ้างงาน และแน่นอนเราไม่รู้ว่าบรรดาลูกจ้างที่จะถูกเลย์ออฟจากกิจการห้างร้านต่างๆ เหล่านี้มีจำนวนเท่าไหร่ที่ไปเข้าโครงการรถคันแรกมา แต่เชื่อว่ามีจำนวนไม่น้อย เมื่อตกงานก็ต้องยอมปล่อยให้รถคันแรกที่ไปเป้นหนี้มาถูกยึดตามไ/ปด้วย ทีนี้หายนะมันก้จะเริ่มเป้นงูกินหางวนกลับไปเพิ่มหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดราย ได้ให้กับระบบธนาคาร
หายนะครั้งนี้จะหนักหนาสาหัสกว่า วิกฤติปี 40 มากนัก เนื่องจากวิกฤติปี 40 นั้นจุดเริ่มต้นมันมากจากฟองสบู่ภาคอสังหาริมทรัพย์ แต่ยังไงๆบ้านและที่ดินมันก้ถือว่าเป้นทรัพยืสินชั้นดีที่มูลค่ามีแต่จะ เพิ่มขึ้นตลอด เมื่อเศรษฐกิจกลับมาดีอีกครั้ง สินทรัพยืที่เป้นอสังหาริมทรัพย์ก้ยังเป้นที่ต้องการ และกลับมามีราคาดีเหมือนหรือดีกว่าเดิม
แต่วิกฤติที่ จะเกิดต่อไปนี้มันเป้นฟองสบู่มาจากภาคยานยนต์ อย่าลืมว่าแต่ละปีที่ผ่านไปรถยนต์มันแต่มูลค่าที่ลดลงไปทุกวัน การเอาทรัพย์สินของไฟแนนซ์ที่จะล้มระเนนระนาดมามัดรวมกันแล้วขายทอดตลาด มันจะไม่ได้มูลค่าที่ดีเหมือนภาคอสังหาริททรัพย์
เอาเข้าจริงภายใต้สภาวะวิกฤติเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นนี้ มูลค่าทรัพย์สินที่ขายทอดตลาดอาจจะเหลือไม่ถึงสิบเปอร์เซ้นต์ของมูลค่าประเมิน แต่ไอ้ที่ร้ายกว่านั้นก็คือผลกระทบมันจะเกิดกระจายไปทั่วทุกภาคธุรกิจ เนื่องจากภาคการเงินการธนาคารที่เป็นหัีวใจของระบบเศรษฐกิจมันพังทะลายไปแล้ว
อันนี้เป็นการประเมินคร่าวๆ ไม่ได้ขู่ แต่โปรดเตรียมตัวเตรียมใจรับแรงกระแทกกันให้ทั่วหน้า
Edited by เช neverdie, 17 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 19:01.
- puggi, poco and A DESIGN FOR LIFE like this
มันผู้ได สนับสนุนการนิรโทษกรรม ไม่ลากคอไอ้ฆาตกรชั่วใจสัตว์ โหดอำมหิต ผู้บงการฆ่าพี่น้องเสื้อแดงของกู 91 ศพ และพี่น้อง กปปส.ของกูอีก 20 ศพ มาลงโทษลงทัณฑ์ตามกบิลเมือง กูขอสาปแช่งให้มันและทุกๆคนที่มันรัก จงประสพกับความวิบัติฉิบหายในชาตินี้ และต่อๆไปทุกภพทุกชาติ จนกว่าจะสิ้นกาล
#38
ตอบ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 18:59
#39
ตอบ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 19:51
และออฟชั่นต่อไปที่จะต้องเจอโดยถ้วนหน้ากัน ก็ขอให้เตรียมผ้าซับน้ำตาไว้ คือ โลงศพใบแรก เพราะปัญหาการเงินในประเทศเข้าขั้นรุนแรงเหมือนบางประเทศในยุโรป
ถึงผมจะเป็นคนหัวขบถ แต่ไม่คิดทรยศบุญคุณแผ่นดินเกิด
เสียงส่วนใหญ่ของประชาชน ไม่ใช่ใบอนุญาตทำร้ายประเทศชาติ
#40
ตอบ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 20:05
อย่าลืม ในรอบ 1 ปีต้องมีค่า ประกัน แถมต้องเป็้้นชั้น1 ด้วย ถ้ายังผ่อนอยู่ประมาณ 13000-15000 ไหนจะค่า ต่อทะเบียนอีก 3000-4000 บาทรถ 1 คัน ขั้นต่ำ ต้องเสียเงินอย่างประมาณ 8 พันบาท
รวมกับค่าน้ำมัน ค่าประกัน ค่าซ่อมบำรุงต่างๆ เกือบ 5 พันบาท
ทำให้รายจ่ายต่อคนเพิ่มขึ้นมา 13000 บาท
เงินส่วนนี้ถูกดึงไปอยู่ใน ผู้ผลิตรถยนต์ ต่างๆ ซึ่งเงินเหล่านี้จะส่งกลับเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ
ผ่านทางผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ กับแรงงานที่เกี่ยวข้องกับการผลิตรถยนต์และชิ้นส่วนได้ OT มากขึ้น
แต่เงินมันไม่ได้กลับเข้าระบบทันที่ และไม่กระจายตัว ทำให้ระบบเศรษฐกิจช่วงนี้ไม่ขับเคลื่อนตัว
ผมคาดว่าจะมีสภาพเป็นอย่างนี้ต่อไป อีกเป็นปี เพราะรถยังมีค้างจองอีกเป็นจำนวนมาก
การที่รายจ่ายต่อเดือนมากขึ้น ทำให้เกิดการประหยัดการใช้จ่าย ทำให้เงินที่จะใช้หมุนเวียนในระบบมีเกิดสภาพคล่องเท่าที่ควร
รวมค่า ผ่อน อีก 8000 ค่าน้ำมันเบาะๆๆ 3000 แล้วกัน
รวมเดือนนั้น ที่จ่ายหนักสุด ประมาณ 25000 ขึ้น หนาวเลยพี่น้อง
สรุปมีประกันได้ประโยชน์รถ คันแรกด้วยครับ
Edited by คนไทย916, 17 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 20:20.
เราตระกูลชินจัง ขอยก ฐานะ เสื้อแดง จาก ไพร่ เป็น ควายแดง ณ.บัดนี้
ถึงแม้ พ่อแม่ เองจะให้ฐานะความเป็น คน มาแต่กำเนิดก็ตาม
#41
ตอบ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 20:20
แต่ผมมองเห็นเค้าลางหายนะครั้งใหญ่ที่สุดของประเทศกำลังจะตามมาภายในอีกไม่ช้าไม่นานไม่เกินสองปีนี้แบบรู้สึกได้ครับ
เอาแบบคร่าวๆจุดเริ่มต้นของหายนะก้คือ ถ้าปริมาณรถยนตามโครงการนี้ไม่ต้องมากไม่ต้องถึงห้าสิบเปอร์เซ็นต์ เอาแค่สามสิบเปอร์เซ็นต์ที่ผ่อนต่อไม่ใหวเนื่องจากมีการปล่อยกู้กันง่ายๆ หายนะที่จะตามมาก็คือบรรดาไฟแนนซ์ที่ปล่อยกู้ต้องแทงบัญชีเป้นหนี้เสีย สามสิบเปอร์เซ็นต์ของเก้าแสนคัน ก้ตีว่าประมาณสามแสนคัน ตีอย่างถูกสุดๆคันละสามแสนบาท ตกเป็นเงินราวๆหนึ่งแสนล้านบาทที่เป้นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ในระบบ เมื่อมาปะทะเข้ากับภาวะเศรษฐกิจซบเซาอันเนื่องมาจากกำลังซื้อในระบบเศรษฐกิจ ที่หายไปอยู่ที่รถอีกหกแสนคัน ถึงตอนนั้นบรรดาสถาบันการเงินที่เป้นบริษัทแม่ของเหล่าไฟแนนซ์ก็จะเริ่ม ระมัดระวังในการปล่อยกู้มากขึ้น ส่งผลให้เกิดผลกระทบต่อสภาพคล่องของบรรดาห้างร้านกิจการที่ขอโอดีใว้
เมื่อ บรรดากิจการห้างร้านเริ่มขาดสภาพคล่อง ทีนี้ก้จะเกิดผลกระทบกับการจ้างงาน และแน่นอนเราไม่รู้ว่าบรรดาลูกจ้างที่จะถูกเลย์ออฟจากกิจการห้างร้านต่างๆ เหล่านี้มีจำนวนเท่าไหร่ที่ไปเข้าโครงการรถคันแรกมา แต่เชื่อว่ามีจำนวนไม่น้อย เมื่อตกงานก็ต้องยอมปล่อยให้รถคันแรกที่ไปเป้นหนี้มาถูกยึดตามไ/ปด้วย ทีนี้หายนะมันก้จะเริ่มเป้นงูกินหางวนกลับไปเพิ่มหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดราย ได้ให้กับระบบธนาคาร
หายนะครั้งนี้จะหนักหนาสาหัสกว่า วิกฤติปี 40 มากนัก เนื่องจากวิกฤติปี 40 นั้นจุดเริ่มต้นมันมากจากฟองสบู่ภาคอสังหาริมทรัพย์ แต่ยังไงๆบ้านและที่ดินมันก้ถือว่าเป้นทรัพยืสินชั้นดีที่มูลค่ามีแต่จะ เพิ่มขึ้นตลอด เมื่อเศรษฐกิจกลับมาดีอีกครั้ง สินทรัพยืที่เป้นอสังหาริมทรัพย์ก้ยังเป้นที่ต้องการ และกลับมามีราคาดีเหมือนหรือดีกว่าเดิม
แต่วิกฤติที่ จะเกิดต่อไปนี้มันเป้นฟองสบู่มาจากภาคยานยนต์ อย่าลืมว่าแต่ละปีที่ผ่านไปรถยนต์มันแต่มูลค่าที่ลดลงไปทุกวัน การเอาทรัพย์สินของไฟแนนซ์ที่จะล้มระเนนระนาดมามัดรวมกันแล้วขายทอดตลาด มันจะไม่ได้มูลค่าที่ดีเหมือนภาคอสังหาริททรัพย์
เอาเข้าจริงภายใต้สภาวะวิกฤติเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นนี้ มูลค่าทรัพย์สินที่ขายทอดตลาดอาจจะเหลือไม่ถึงสิบเปอร์เซ้นต์ของมูลค่าประเมิน แต่ไอ้ที่ร้ายกว่านั้นก็คือผลกระทบมันจะเกิดกระจายไปทั่วทุกภาคธุรกิจ เนื่องจากภาคการเงินการธนาคารที่เป็นหัีวใจของระบบเศรษฐกิจมันพังทะลายไปแล้ว
อันนี้เป็นการประเมินคร่าวๆ ไม่ได้ขู่ แต่โปรดเตรียมตัวเตรียมใจรับแรงกระแทกกันให้ทั่วหน้า
ผมเห็นเหมือนน้าเช ครับ จริงๆ ในธนาคาร TCAP TISCO KK เริ่มมีปัญหาเบี้ยวหนี้แล้วครับ
จากเพื่่อนที่ทำงานในธนาคารพวกนี้อยู่บอกมา ปีหน้าน่าจะเผาจริง
ภาคการเงินแค่หนี้เสียนิดเดียวนี่ทำให้ล้มได้เลยนะครับ ต่อให้ เงินใน TIER 1 ,2 จะมีสัดส่วนระดับสูงอยู่
แต่ปีหน้า จะมีมาตรการ บาเซิล ที่เข้มขึ้น การกันสำรองธนาคารน่าจะมีปัญหาได้
#42
ตอบ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 20:22
ถึงผมจะเป็นคนหัวขบถ แต่ไม่คิดทรยศบุญคุณแผ่นดินเกิด
เสียงส่วนใหญ่ของประชาชน ไม่ใช่ใบอนุญาตทำร้ายประเทศชาติ
#43
ตอบ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 20:26
#45
ตอบ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 21:33
ทั้งนี้ข้อมูลผู้ใช้สิทธิ์คืนภาษีรถคันแรกณ 30 พ.ย. 2555 จำนวน 632,153 คัน คิดเป็นมูลค่า 46,700 ล้านบาท
ถ้าให้คนที่ต้องผ่อนรถ 1 คน โดยผ่อนทุกคัน
ไม่มีคนใช้เงินสดซื้อ จะมีคนต้องมีภาระประมาณ 0.63 ล้านคน
แล้วมีคนเพียงแค่ 2.3 ล้านคน ที่เสียภาษีรายได้
เท่ากับคนที่มีรายได้ หายไปจากระบบประมาณ 27%
คนที่ซื้ออาจจะไม่ได้เสียภาษีรายได้ แต่ผมคิดแบบคร่าวๆ
พอให้เห็นภาพ ก็รู้สึกว่า น่ากลัวเหมือนกันนะ ที่คนที่สามารถใช้จ่ายได้
หายไปจากระบบ 27% แต่ไม่คิดว่าจะทำให้เศษรฐกิจฝืดเคืองได้
ต้องมีอะไรอย่างอื่นอีก ที่ดูดเงินไปจากระบบ ทำให้เงินไม่หมุนเวียน
ผมคิดว่าน่าจะเป็นพวกโกงกินทั้งหลาย ที่ดูดเงินไปจากระบบ
ได้ไปกับกลุ่มคนเล็กๆ กลุ่มเดียว แล้ัวเงินก็ไปกองอยู่ตรงนั้น
ที่สำคัญ ผมเห็นด้วยว่าทรัพย์สินมีค่าน้อยมากๆๆ ยึดมากว่าดำเนินคดี
ราคาก็หายไป แถมจอดทิ้งไว้เฉยๆ นู้นนี่นั้นก็เสียอีก เผลอๆ จะได้
ตีราคาเป็นซากเศษเหล็กเสียด้วยซ้ำ
#46
ตอบ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 22:03
ที่สำคัญ ผมเห็นด้วยว่าทรัพย์สินมีค่าน้อยมากๆๆ ยึดมากว่าดำเนินคดี
ราคาก็หายไป แถมจอดทิ้งไว้เฉยๆ นู้นนี่นั้นก็เสียอีก เผลอๆ จะได้
ตีราคาเป็นซากเศษเหล็กเสียด้วยซ้ำ
ถ้าผ่อนไม่ใหวจนต้องยึดรถมาดำเนินคดี ไปจนถึงที่สุดแล้วยังสามารถตีราคาทรัพยืสินพวกนี้เป็นซากเศษเหล็กได้ ก็ยังนับว่าโชคดีครับ
เพราะเอาเข้าจริงๆ ส่วนประกอบเกินสามสิบเปอร์เซ็นต์ของตัวรถพวกนี้ เดี๋ยวนี้มันเป้นพลาสติกกับไฟเบอร์กล้าสไปหมดแล้ว โดยเฉพาะส่วนที่เป้นไฟเบอร์กล้าสเอาไปขายเป็นเศษไฟเบอร์กล้าสไม่มีคนรับซื้อนะครับ เอาไปเผาทำลายก็เป้นมลพิษทางอากาศอีก
มันผู้ได สนับสนุนการนิรโทษกรรม ไม่ลากคอไอ้ฆาตกรชั่วใจสัตว์ โหดอำมหิต ผู้บงการฆ่าพี่น้องเสื้อแดงของกู 91 ศพ และพี่น้อง กปปส.ของกูอีก 20 ศพ มาลงโทษลงทัณฑ์ตามกบิลเมือง กูขอสาปแช่งให้มันและทุกๆคนที่มันรัก จงประสพกับความวิบัติฉิบหายในชาตินี้ และต่อๆไปทุกภพทุกชาติ จนกว่าจะสิ้นกาล
#47
ตอบ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 22:10
คนผ่อนไม่ไว้ไม่โดน 2 ต่อด้วย ต้องหาเงินคืน แสนหนึงด้วย แถมรถก็ไม่ได้ขับ
ที่สำคัญ ผมเห็นด้วยว่าทรัพย์สินมีค่าน้อยมากๆๆ ยึดมากว่าดำเนินคดี
ราคาก็หายไป แถมจอดทิ้งไว้เฉยๆ นู้นนี่นั้นก็เสียอีก เผลอๆ จะได้
ตีราคาเป็นซากเศษเหล็กเสียด้วยซ้ำ
ถ้าผ่อนไม่ใหวจนต้องยึดรถมาดำเนินคดี ไปจนถึงที่สุดแล้วยังสามารถตีราคาทรัพยืสินพวกนี้เป็นซากเศษเหล็กได้ ก็ยังนับว่าโชคดีครับ
เพราะเอาเข้าจริงๆ ส่วนประกอบเกินสามสิบเปอร์เซ็นต์ของตัวรถพวกนี้ เดี๋ยวนี้มันเป้นพลาสติกกับไฟเบอร์กล้าสไปหมดแล้ว โดยเฉพาะส่วนที่เป้นไฟเบอร์กล้าสเอาไปขายเป็นเศษไฟเบอร์กล้าสไม่มีคนรับซื้อนะครับ เอาไปเผาทำลายก็เป้นมลพิษทางอากาศอีก
เราตระกูลชินจัง ขอยก ฐานะ เสื้อแดง จาก ไพร่ เป็น ควายแดง ณ.บัดนี้
ถึงแม้ พ่อแม่ เองจะให้ฐานะความเป็น คน มาแต่กำเนิดก็ตาม
#48
ตอบ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 22:16
เขาเดินทางแต่รถไฟฟ้า รถเมล์ร้อน 7-8 บาทอยู่เลยครับ
เพื่อนผมในกลุ่มก็เช่นกัน ไม่มีใครใช้รถกันจนพวกเขาลืมวิธีขับรถกันหมดแล้ว 555
/人^ ‿‿ ^人\
╱/(っ◕ ‿‿◕)っ Hello, I'm a Kyubey /人◕ ‿‿ ◕人\
╱/(っ◕ ‿‿◕)っ Please Make a contract with me and become a Magical girl! /人◕ ‿‿ <人\
ข้าพเจ้าขอสนับสนุนท่านผู้นำที่น่ารักที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ!!! Heil Lertih Adolf!! Heil Lertih Adolf!! Heil Lertih Adolf!!
#49
ตอบ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 12:38
http://www.manager.c...D=9550000153136
“ทนุศักดิ์” คาดยอดขอคืนภาษีรถคันแรกทะลุ 1 ล้านคัน ยันไม่ใช่สาเหตุรถติด
รมช.คลัง คาดยอดขอคืนภาษีรถคันแรกทะลุ 1 ล้านคัน คิดเป็นเงินภาษีที่ต้องคืนประมาณ 70,000 ล้านบาท ยันคงไม่ใช่สาเหตุหลักที่ทําให้รถติดในปัจจุบัน เพราะจํานวนรถจากโครงการยังออกมาไม่มาก และจากข้อมูลเป็นรถในกรุงเทพมหานคร มีเพียงร้อยละ 30 เท่านั้น
นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังตรวจเยี่ยมการยื่นขอรับสิทธิคืนเงินภาษีในโครงการรถยนต์คันแรกว่า ปัจจุบัน มียอดผู้มาขอใช้สิทธิแล้วทั้งสิ้น 910,000 คัน คิดเป็นเงินภาษีที่ต้องคืนทั้งสิ้น 63,000 ล้านบาท ซึ่งประชาชนมายื่นเฉลี่ยวันละ 35,000 คน หากยอดเฉลี่ยยังเท่าเดิมที่เหลืออีก 10 วัน ก็จะเพิ่มอีก 350,000 คัน ทำให้ยอดรวมทั้งสิ้นเมื่อปิดโครงการวันที่ 31 ธันวาคม 2555 น่าจะทะลุ 1 ล้านคัน คิดเป็นเงินภาษีที่ต้องคืนประมาณ 70,000 ล้านบาท
นายทนุศักดิ์กล่าวว่า ยอดขอคืนเงินภาษีน่าจะหนาแน่นในช่วงนี้ ก่อนที่จะเป็นช่วงวันหยุดท้ายปี คือ วันที่ 29-31 ธันวาคม 2555 แต่กรมสรรพสามิตจะทํางานแบบไม่มีวันหยุดจนถึงเที่ยงคืนวันที่ 31 ธันวาคม เพื่อให้ประชาชนได้รับสิทธิเต็มที่ สำหรับโครงการดังกล่าวนั้นไม่ถือเป็นการใช้เงินงบประมาณ แต่เป็นการจ่ายคืนเงินภาษีที่ประชาชนจ่ายให้รัฐคืนกลับไป เหมือนอัฐยายซื้อขนมยาย ทําให้ประชาชนมีโอกาสเข้าร่วมโครงการ แต่จํากัดว่าต้องเป็นรถที่ผลิตในประเทศ ขนาดไม่เกิน 1500 ซีซี หรือรถยนต์ประหยัดพลังงาน (อีโคคาร์) ขณะที่รัฐบาลก็จะได้ประโยชน์ 2 ส่วน จากภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีเงินได้นิติบุคคล นอกจากนี้ ยังทําให้ยอดขายรถยนต์ประเภทอื่นๆ ที่ไม่ใช่เงื่อนไขรถคันแรกเพิ่มตามด้วย
อย่างไรก็ตาม ได้สั่งให้กรมสรรพสามิตคํานวณหลังวันที่ 31 ธันวาคม 2555 เพื่อดูว่า นอกจากภาษีที่ต้องคืน 70,000 ล้านบาทแล้ว จะได้ภาษีคืนกลับมาเป็นจํานวนเท่าใด แล้วจะได้รู้ว่าโครงการดังกล่าวก่อให้เกิดประโยชน์มากพอควร และคงไม่ใช่สาเหตุหลักที่ทําให้รถติดในปัจจุบัน เพราะจํานวนรถจากโครงการยังออกมาไม่มาก และจากข้อมูลเป็นรถในกรุงเทพมหานครเพียงร้อยละ 30 เท่านั้น
ส่วนการคืนเงินภาษีนั้น นายทนุศักดิ์เชื่อว่า จะไม่มีปัญหาแต่อย่างใด เพราะเป็นการทยอยคืนเดือนละครั้งทุกวันที่ 5 ของเดือน โดยที่ผ่านมา ได้จ่ายไปแล้ว 35,000 ราย คิดเป็นเงิน 2,300 ล้านบาท หากไม่พอตามที่ตั้งในงบประมาณไว้ก็สามารถยื่นเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติให้ใช้งบกลางเป็นครั้งๆ ไปได้ ซึ่งปลายปีน่าจะทราบตัวเลขที่ชัดเจนว่า ต้องใช้เงินแต่ละปีงบประมาณเท่าใด เพราะขณะนี้ ยังไม่ได้แยกจํานวนว่าที่รับแล้วกับที่รอส่งมอบมีจํานวนเท่าใด
“ธรรมชาติของคน เมื่อมีภาระเพิ่มขึ้น ความขยัน และมุ่งมั่นในการทํางานก็จะเป็นอีกแบบหนึ่ง ดังนั้น คิดว่าจํานวนรถที่เข้าโครงการ 1 ล้านคัน จะทําให้คนอีก 1 ล้านคน ขยันขันแข็งทํางานได้มากขึ้นแค่ไหน อย่าไปคิดว่าจะเกิดภาระหนี้เพิ่มขึ้น หรือหนี้เสียเพิ่มเพียงอย่างเดียว แต่มองว่าเศรษฐกิจจะได้ประโยชน์จากโครงการแค่ไหน” นายทนุศักดิ์กล่าว
อย่าไปคิดว่าเป็นหนี้เพิ่ม คิดว่าเป็นยาขยันแล้วกัน... แล้วรถเพิ่มแค่ 300,000 กว่าคันเองมันจะทำให้รถติดเพิ่มขึ้นได้ยังไง
Edited by HiddenMan, 18 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 12:39.
“Live as if you were to die tomorrow. Learn as if you were to live forever.” - Mahatma Gandhi
สนใจบ้านพักคนชราเสรีไทย (FB Secret Group) ติดต่อ (PM) เว็บบอร์ด
#50
ตอบ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2555 - 12:46
.... ราคาน่าจะได้ถูกกว่า ที่รัฐบาลคืนให้ 1แสน อีก
.... ผู้ใตอยากซื้อรถ มีงบจำกัด รอ 6 เดือน ครับ ได้แน่ๆๆ ของดี ราคาถูก ...
ผู้ใช้ 2 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้
สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 2 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน