“แม่เกด” เถื่อน! ขนแดงยึดเวที กสม.ชูป้ายด่า “ว.วชิรเมธี”-แจกฟัก “หมอนิรันดร์”
#51
Posted 18 December 2012 - 11:23
เกิดมาไม่เคยเห็นพระจริงๆ ใช้โทรศัพท์ระหว่างฉันอาหาร......
คนห่มผ้าสีเหลืองนี้คงอร่อยกับการกินข้าวไปโทรศัพท์ไป......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า
ปล.มีป้าย'ยิ่งลักษณ์'ไว้อวดโชว์ด้วย......ฮา
เคียงข้างลุงกำนัน ปฏิรูปการเมืองไทย กำจัดระบอบทักษิณ ขับไล่มวลหมู่ขี้ข้า วันที่ 26 พฤษภาคม 2557...
#52
Posted 18 December 2012 - 11:23
งานนี้ ต้องนี่...
ทั้งนี้ คลิปดังกล่าวได้บันทึกการสนทนาระหว่าง พิธีกรและท่าน ว.วชิรเมธี โดยพิธีกรได้ถามว่า"จริงหรือไม่ ถ้ามนุษย์นั่งสมาธิขั้นสูงแล้ว จะเหาะได้ ลอยได้" ทางท่าน ว.วชิรเมธี ตอบว่า เป็นเรื่องธรรมดาที่สุดในแวดวงศาสนา แต่เขาไม่พูดกันเพราะมันไม่มีราคา เมื่อสมัยก่อนมนุษย์ไม่ได้เดินเท้า หรือใช้เครื่องบิน แต่อย่างใด เขาใช้วิธีเหาะเหินเดินหาว เพราะจิตเขามีวิวัฒนาสูงสุด เขาไม่ได้มีวัตถุมารองรับกาย เพราะเป็นที่รู้ดีกันอยู่แล้วว่า จิตมีอำนาจมากขนาดนั้น
แม่น้องเกตเลยมาป่วนเวทีได้หรอครับ
ผมบอกว่า แม่น้องเกตเลยมาป่วนเวทีได้ เหรอครับ....
ผมเห็นบาง rep คุยกันเรื่อง.. ท่าน ว... เซน บ้าง ไม่้เซนบ้าง... ก็เลยมาแจม... เรื่อง ท่าน ว อย่างเดียว...
ก็ผมถามความเห็นของเฮนไตไงครับ ว่าแม่น้องเกตเค้ามาป่วนได้ป่าวประโยคคำถามง่ายๆอ่ะ
งานนี้ ต้องนี่...
ทั้งนี้ คลิปดังกล่าวได้บันทึกการสนทนาระหว่าง พิธีกรและท่าน ว.วชิรเมธี โดยพิธีกรได้ถามว่า"จริงหรือไม่ ถ้ามนุษย์นั่งสมาธิขั้นสูงแล้ว จะเหาะได้ ลอยได้" ทางท่าน ว.วชิรเมธี ตอบว่า เป็นเรื่องธรรมดาที่สุดในแวดวงศาสนา แต่เขาไม่พูดกันเพราะมันไม่มีราคา เมื่อสมัยก่อนมนุษย์ไม่ได้เดินเท้า หรือใช้เครื่องบิน แต่อย่างใด เขาใช้วิธีเหาะเหินเดินหาว เพราะจิตเขามีวิวัฒนาสูงสุด เขาไม่ได้มีวัตถุมารองรับกาย เพราะเป็นที่รู้ดีกันอยู่แล้วว่า จิตมีอำนาจมากขนาดนั้น
แม่น้องเกตเลยมาป่วนเวทีได้หรอครับ
ผมบอกว่า แม่น้องเกตเลยมาป่วนเวทีได้ เหรอครับ....
ผมเห็นบาง rep คุยกันเรื่อง.. ท่าน ว... เซน บ้าง ไม่้เซนบ้าง... ก็เลยมาแจม... เรื่อง ท่าน ว อย่างเดียว...
#53
Posted 18 December 2012 - 11:24
งานนี้ ต้องนี่...
ทั้งนี้ คลิปดังกล่าวได้บันทึกการสนทนาระหว่าง พิธีกรและท่าน ว.วชิรเมธี โดยพิธีกรได้ถามว่า"จริงหรือไม่ ถ้ามนุษย์นั่งสมาธิขั้นสูงแล้ว จะเหาะได้ ลอยได้" ทางท่าน ว.วชิรเมธี ตอบว่า เป็นเรื่องธรรมดาที่สุดในแวดวงศาสนา แต่เขาไม่พูดกันเพราะมันไม่มีราคา เมื่อสมัยก่อนมนุษย์ไม่ได้เดินเท้า หรือใช้เครื่องบิน แต่อย่างใด เขาใช้วิธีเหาะเหินเดินหาว เพราะจิตเขามีวิวัฒนาสูงสุด เขาไม่ได้มีวัตถุมารองรับกาย เพราะเป็นที่รู้ดีกันอยู่แล้วว่า จิตมีอำนาจมากขนาดนั้น
แม่น้องเกตเลยมาป่วนเวทีได้หรอครับ
ผมบอกว่า แม่น้องเกตเลยมาป่วนเวทีได้ เหรอครับ....
ผมเห็นบาง rep คุยกันเรื่อง.. ท่าน ว... เซน บ้าง ไม่้เซนบ้าง... ก็เลยมาแจม... เรื่อง ท่าน ว อย่างเดียว...
ขอถาม เหนไต ว่า ข้อความที่ท่าน ว วชิรเมธีได้ โพสไปนะ หมายความว่า ไง
ช่วยกรุณาแปลความหมายของท่านให้ผมได้เข้าใจที
อิอิ
ปล. ถามช้างตอบม้า ไหมหว่า
ถึงตรูจะเลวยังไง ตรูก้อไม่ได้ขายชาติ เหมือนเสื้อแดงว่ะ เข้าใจนะ
#54
Posted 18 December 2012 - 11:25
งานนี้ ต้องนี่...
ทั้งนี้ คลิปดังกล่าวได้บันทึกการสนทนาระหว่าง พิธีกรและท่าน ว.วชิรเมธี โดยพิธีกรได้ถามว่า"จริงหรือไม่ ถ้ามนุษย์นั่งสมาธิขั้นสูงแล้ว จะเหาะได้ ลอยได้" ทางท่าน ว.วชิรเมธี ตอบว่า เป็นเรื่องธรรมดาที่สุดในแวดวงศาสนา แต่เขาไม่พูดกันเพราะมันไม่มีราคา เมื่อสมัยก่อนมนุษย์ไม่ได้เดินเท้า หรือใช้เครื่องบิน แต่อย่างใด เขาใช้วิธีเหาะเหินเดินหาว เพราะจิตเขามีวิวัฒนาสูงสุด เขาไม่ได้มีวัตถุมารองรับกาย เพราะเป็นที่รู้ดีกันอยู่แล้วว่า จิตมีอำนาจมากขนาดนั้น
แม่น้องเกตเลยมาป่วนเวทีได้หรอครับ
ผมบอกว่า แม่น้องเกตเลยมาป่วนเวทีได้ เหรอครับ....
ผมเห็นบาง rep คุยกันเรื่อง.. ท่าน ว... เซน บ้าง ไม่้เซนบ้าง... ก็เลยมาแจม... เรื่อง ท่าน ว อย่างเดียว...
มันเรื่องอะไรของคนศาสนาอื่นๆ มายุ่งกับพระ ว.วชิรเมธี......?
- sanskrit_shower and HiddenMan like this
เคียงข้างลุงกำนัน ปฏิรูปการเมืองไทย กำจัดระบอบทักษิณ ขับไล่มวลหมู่ขี้ข้า วันที่ 26 พฤษภาคม 2557...
#55
Posted 18 December 2012 - 11:36
เฮนไตชอบใช้อักษรตัวใหญ่สุแดงเพื่อเน้นข้อความที่เค้าคิดว่าสำคัญ
งานนี้ ต้องนี่...
ทั้งนี้ คลิปดังกล่าวได้บันทึกการสนทนาระหว่าง พิธีกรและท่าน ว.วชิรเมธี โดยพิธีกรได้ถามว่า"จริงหรือไม่ ถ้ามนุษย์นั่งสมาธิขั้นสูงแล้ว จะเหาะได้ ลอยได้" ทางท่าน ว.วชิรเมธี ตอบว่า เป็นเรื่องธรรมดาที่สุดในแวดวงศาสนา แต่เขาไม่พูดกันเพราะมันไม่มีราคา เมื่อสมัยก่อนมนุษย์ไม่ได้เดินเท้า หรือใช้เครื่องบิน แต่อย่างใด เขาใช้วิธีเหาะเหินเดินหาว เพราะจิตเขามีวิวัฒนาสูงสุด เขาไม่ได้มีวัตถุมารองรับกาย เพราะเป็นที่รู้ดีกันอยู่แล้วว่า จิตมีอำนาจมากขนาดนั้น
แม่น้องเกตเลยมาป่วนเวทีได้หรอครับ
ผมบอกว่า แม่น้องเกตเลยมาป่วนเวทีได้ เหรอครับ....
ผมเห็นบาง rep คุยกันเรื่อง.. ท่าน ว... เซน บ้าง ไม่้เซนบ้าง... ก็เลยมาแจม... เรื่อง ท่าน ว อย่างเดียว...
ขอถาม เหนไต ว่า ข้อความที่ท่าน ว วชิรเมธีได้ โพสไปนะ หมายความว่า ไง
ช่วยกรุณาแปลความหมายของท่านให้ผมได้เข้าใจที
อิอิ
ปล. ถามช้างตอบม้า ไหมหว่า
แต่ประโยคนี้ของท่าน ว เฮนไตกลับไม่เน้น คือประโยคที่ว่า "เค้าไม่พูดกันเพราะมันไม่มีราคา"
#56
Posted 18 December 2012 - 11:42
เฮนไตชอบใช้อักษรตัวใหญ่สุแดงเพื่อเน้นข้อความที่เค้าคิดว่าสำคัญ
งานนี้ ต้องนี่...
ทั้งนี้ คลิปดังกล่าวได้บันทึกการสนทนาระหว่าง พิธีกรและท่าน ว.วชิรเมธี โดยพิธีกรได้ถามว่า"จริงหรือไม่ ถ้ามนุษย์นั่งสมาธิขั้นสูงแล้ว จะเหาะได้ ลอยได้" ทางท่าน ว.วชิรเมธี ตอบว่า เป็นเรื่องธรรมดาที่สุดในแวดวงศาสนา แต่เขาไม่พูดกันเพราะมันไม่มีราคา เมื่อสมัยก่อนมนุษย์ไม่ได้เดินเท้า หรือใช้เครื่องบิน แต่อย่างใด เขาใช้วิธีเหาะเหินเดินหาว เพราะจิตเขามีวิวัฒนาสูงสุด เขาไม่ได้มีวัตถุมารองรับกาย เพราะเป็นที่รู้ดีกันอยู่แล้วว่า จิตมีอำนาจมากขนาดนั้น
แม่น้องเกตเลยมาป่วนเวทีได้หรอครับ
ผมบอกว่า แม่น้องเกตเลยมาป่วนเวทีได้ เหรอครับ....
ผมเห็นบาง rep คุยกันเรื่อง.. ท่าน ว... เซน บ้าง ไม่้เซนบ้าง... ก็เลยมาแจม... เรื่อง ท่าน ว อย่างเดียว...
ขอถาม เหนไต ว่า ข้อความที่ท่าน ว วชิรเมธีได้ โพสไปนะ หมายความว่า ไง
ช่วยกรุณาแปลความหมายของท่านให้ผมได้เข้าใจที
อิอิ
ปล. ถามช้างตอบม้า ไหมหว่า
แต่ประโยคนี้ของท่าน ว เฮนไตกลับไม่เน้น คือประโยคที่ว่า "เค้าไม่พูดกันเพราะมันไม่มีราคา"
ถูกครับ... เพราะ ผมคิดว่า... ประโยคนั้น... ไม่มีราคา... ในประเด็นของผม
"คนโง่มักจะชอบว่าคนอื่นว่าโง่"
"ถ้าคนเราคิดเหมือนกันหมด ก็ไม่มีเลือกตั้งซิครับ"
"ผมไม่พูด เรื่อง 112 แล้ว นะครับ กรุณาอย่าถาม (17 พค 2012)"
#57
Posted 18 December 2012 - 11:44
ต้องแบบนี้ที่เสื้อแดงและแอ๊บแดงนับถือ
ชอบหมดใจ........
- paper punch, Kyubey, TIK Tik tik and 4 others like this
#58
Posted 18 December 2012 - 11:46
“Live as if you were to die tomorrow. Learn as if you were to live forever.” - Mahatma Gandhi
สนใจบ้านพักคนชราเสรีไทย (FB Secret Group) ติดต่อ (PM) เว็บบอร์ด
#59
Posted 18 December 2012 - 11:46
ว.วชิระเมธีพูดแบบนี้จริงหรือไม่? กล้าออกมายืนยันไหมละครับ ถ้าพูดจริง ขอถามว่าการที่ประชาชนลุกขึ้นมาปกป้องศาสนา ผิดด้วยหรือ?
แค่นี้มันผิดศีลข้อไหนของศาสนา คุณรู้หรือเปล่า และท่านก็ไม่ได้ แพลงกิ้งเขียนTwitterนิครับ
Edited by OPENUP, 18 December 2012 - 11:49.
#60
Posted 18 December 2012 - 11:51
ว.วชิระเมธีพูดแบบนี้จริงหรือไม่? กล้าออกมายืนยันไหมละครับ ถ้าพูดจริง ขอถามว่าการที่ประชาชนลุกขึ้นมาปกป้องศาสนา ผิดด้วยหรือ?
ก็เขาถกกันมาจนไม่รู้กี่กระทู้แล้วว่านี่คือเรื่องธรรมดาของ ปริศนาเซน
เข้าใจไหม?
ถ้าไม่เข้าใจ มันใช่ปัญหาของพระไหม? หรือว่าเป็นปัญหาของคนโง่ ไม่เข้าใจปริศนาเซน?
งานนี้ ต้องนี่...
ทั้งนี้ คลิปดังกล่าวได้บันทึกการสนทนาระหว่าง พิธีกรและท่าน ว.วชิรเมธี โดยพิธีกรได้ถามว่า"จริงหรือไม่ ถ้ามนุษย์นั่งสมาธิขั้นสูงแล้ว จะเหาะได้ ลอยได้" ทางท่าน ว.วชิรเมธี ตอบว่า เป็นเรื่องธรรมดาที่สุดในแวดวงศาสนา แต่เขาไม่พูดกันเพราะมันไม่มีราคา เมื่อสมัยก่อนมนุษย์ไม่ได้เดินเท้า หรือใช้เครื่องบิน แต่อย่างใด เขาใช้วิธีเหาะเหินเดินหาว เพราะจิตเขามีวิวัฒนาสูงสุด เขาไม่ได้มีวัตถุมารองรับกาย เพราะเป็นที่รู้ดีกันอยู่แล้วว่า จิตมีอำนาจมากขนาดนั้น
แล้วอีเห็นเคยเกิดสมัยนั้นหรือ ถึงกล้ายืนยันว่าการเดินอากาศนั้น...ไม่มี?
อีเห็นคงไม่เคยดูสารคดีบีบีซีที่พระธิเบตฝึกสมาธิจนลอยจากพื้นได้ แต่ทะลึ่งฟันธงว่าไม่มี
อีเห็นชอบอวดเก่งไม่มีใครสู้ อวดฉลาดไม่มีใครเกิน ทั้งที่จริงๆแล้วความรู้เท่าขี้เล็บ
น่าสมเพช
Edited by ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่, 18 December 2012 - 11:58.
#61
Posted 18 December 2012 - 11:51
ที่ว่า ควายหมายคำพูดของท่าน ว วชิรเมธี ให้ผมฟังที สิ
อยากรู้ว่า มันหมายความว่าไง
ถึงตรูจะเลวยังไง ตรูก้อไม่ได้ขายชาติ เหมือนเสื้อแดงว่ะ เข้าใจนะ
#62
Posted 18 December 2012 - 11:57
ผมบอกว่า แม่น้องเกตเลยมาป่วนเวทีได้ เหรอครับ....
ผมเห็นบาง rep คุยกันเรื่อง.. ท่าน ว... เซน บ้าง ไม่้เซนบ้าง... ก็เลยมาแจม... เรื่อง ท่าน ว อย่างเดียว...
ทีหลังไม่มีความรู้ก็หัดหุบปาก
ไม่ใช่เรื่องที่ตัวเองถนัดก็หัดเงียบไว้
อย่าจุ้น อย่าสะเหล่อ
ไม่ควรทำสะ-เออะแต่เรื่องงั่งๆ กร่างแต่เรื่องโง่ๆ
กาพรีช?
Edited by ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่, 18 December 2012 - 11:59.
#63
Posted 18 December 2012 - 12:03
¿เป็นอิสลามจำเป็นต้องด่าพระ?
นางพเยาว์ นี่เป็นอิสลามเหรอถึงกล้าด่าพระสงฆ์ ทำตัวน่าเกลียดขึ้นทุกวัน บ่อนทำความสงบในสังคม ฯลฯ สงสัยเงินคงใกล้จะหมดเลยต้องออกหากินอีกรอบ
หัดมองอิสลามในแง่ดีหน่อย อิสลามกับพุทธที่อยู่ร่วมกันได้แต่ก่อนเขาทำอย่างไรก็น่าจะศึกษาเสียบ้างอธิบายอรรถนี่ทีครับ "อยากมีศีล ให้ฆ่าพ่อตีแม่" ถ้าพวกเขาไม่เข้าใจก็ไม่ควรออกมาเต้นนะครับ
ว.วชิระเมธีพูดแบบนี้จริงหรือไม่? กล้าออกมายืนยันไหมละครับ ถ้าพูดจริง ขอถามว่าการที่ประชาชนลุกขึ้นมาปกป้องศาสนา ผิดด้วยหรือ?
ขออภัยหากพูดถึงอิสลามไม่ดี แต่ก็มีบางลัทธิที่ไม่ดีหรือไม่จริง แต่ถ้าสะกิดใจก็ขออภัยคุณ
ส่วนเรื่องฆ่าเวลาที่ท่าน ว.โพสต์ มาดิฉันคงไม่ถึงกับไปคิดฆ่าพ่อแม่ตัวเองหรอกค่ะ พวกคุณจะคิดไปยังไงดิฉันไม่รู้ แต่ที่รู้ นั่นคือธรรมะเตือนสติให้คิด ไม่ใช่เอามาคิดเป็นตุเป็นตะว่าเขาว่าตัวเอง
#64
Posted 18 December 2012 - 12:06
ถึงว่า ตอนแรกผมก็ยังไม่เชื่อ คห ที่54 เท่าไร ตอนนี้เชื่อแล้ว 555
เฮนไตชอบใช้อักษรตัวใหญ่สุแดงเพื่อเน้นข้อความที่เค้าคิดว่าสำคัญ
งานนี้ ต้องนี่...
ทั้งนี้ คลิปดังกล่าวได้บันทึกการสนทนาระหว่าง พิธีกรและท่าน ว.วชิรเมธี โดยพิธีกรได้ถามว่า"จริงหรือไม่ ถ้ามนุษย์นั่งสมาธิขั้นสูงแล้ว จะเหาะได้ ลอยได้" ทางท่าน ว.วชิรเมธี ตอบว่า เป็นเรื่องธรรมดาที่สุดในแวดวงศาสนา แต่เขาไม่พูดกันเพราะมันไม่มีราคา เมื่อสมัยก่อนมนุษย์ไม่ได้เดินเท้า หรือใช้เครื่องบิน แต่อย่างใด เขาใช้วิธีเหาะเหินเดินหาว เพราะจิตเขามีวิวัฒนาสูงสุด เขาไม่ได้มีวัตถุมารองรับกาย เพราะเป็นที่รู้ดีกันอยู่แล้วว่า จิตมีอำนาจมากขนาดนั้น
แม่น้องเกตเลยมาป่วนเวทีได้หรอครับ
ผมบอกว่า แม่น้องเกตเลยมาป่วนเวทีได้ เหรอครับ....
ผมเห็นบาง rep คุยกันเรื่อง.. ท่าน ว... เซน บ้าง ไม่้เซนบ้าง... ก็เลยมาแจม... เรื่อง ท่าน ว อย่างเดียว...
ขอถาม เหนไต ว่า ข้อความที่ท่าน ว วชิรเมธีได้ โพสไปนะ หมายความว่า ไง
ช่วยกรุณาแปลความหมายของท่านให้ผมได้เข้าใจที
อิอิ
ปล. ถามช้างตอบม้า ไหมหว่า
แต่ประโยคนี้ของท่าน ว เฮนไตกลับไม่เน้น คือประโยคที่ว่า "เค้าไม่พูดกันเพราะมันไม่มีราคา"
ถูกครับ... เพราะ ผมคิดว่า... ประโยคนั้น... ไม่มีราคา... ในประเด็นของผม
#65
Posted 18 December 2012 - 12:11
#66
Posted 18 December 2012 - 12:17
งานนี้ ต้องนี่...
ทั้งนี้ คลิปดังกล่าวได้บันทึกการสนทนาระหว่าง พิธีกรและท่าน ว.วชิรเมธี โดยพิธีกรได้ถามว่า"จริงหรือไม่ ถ้ามนุษย์นั่งสมาธิขั้นสูงแล้ว จะเหาะได้ ลอยได้" ทางท่าน ว.วชิรเมธี ตอบว่า เป็นเรื่องธรรมดาที่สุดในแวดวงศาสนา แต่เขาไม่พูดกันเพราะมันไม่มีราคา เมื่อสมัยก่อนมนุษย์ไม่ได้เดินเท้า หรือใช้เครื่องบิน แต่อย่างใด เขาใช้วิธีเหาะเหินเดินหาว เพราะจิตเขามีวิวัฒนาสูงสุด เขาไม่ได้มีวัตถุมารองรับกาย เพราะเป็นที่รู้ดีกันอยู่แล้วว่า จิตมีอำนาจมากขนาดนั้น
แล้วอีเห็นเคยเกิดสมัยนั้นหรือ ถึงกล้ายืนยันว่าการเดินอากาศนั้น...ไม่มี?
อีเห็นคงไม่เคยดูสารคดีบีบีซีที่พระธิเบตฝึกสมาธิจนลอยจากพื้นได้ แต่ทะลึ่งฟันธงว่าไม่มี
อีเห็นชอบอวดเก่งไม่มีใครสู้ อวดฉลาดไม่มีใครเกิน ทั้งที่จริงๆแล้วความรู้เท่าขี้เล็บ
น่าสมเพช
ตกลงว่า... ถ้าจะยืนยันว่าไม่มี ต้องเกิดในสมัยนั้น...
ดังนั้น ไม่มีใครเกิดในสมัยนั้น... เลย บอกว่าไ่ม่มีไม่ได้...
แต่ ท่าน ว... ก็ไม่ได้เิกิดในสมัยนั้น... บอกว่า มีได้... ไม่เป็นไร... ไม่สงสัย
เพราะ เป็น ท่าน ว... ถ้า เป็นพระเสื้อแดงนี่ โดนเล่นเละเทะไปแล้ว...
เอาละครับ... เป็น สุดยอด ของ ตรรกของ สาวกผู้ติดตาม จะคิดได้...
เออ ถ้ามีคนบอกว่า เมื่อ 500 ปีก่อน... มี Ultraman มา สู้ กับ หนุมาน .. อย่าไปว่าเค้านะครับ...
เพราะ ท่านก็ไม่ได้เกิดสมัยนั้น.... 55555
ว่าแต่ พระทิเบตลอยได้... หา link ให้ผมหน่อยซิครับ... อยากจะหาความรู้ใส่ตัว...
"คนโง่มักจะชอบว่าคนอื่นว่าโง่"
"ถ้าคนเราคิดเหมือนกันหมด ก็ไม่มีเลือกตั้งซิครับ"
"ผมไม่พูด เรื่อง 112 แล้ว นะครับ กรุณาอย่าถาม (17 พค 2012)"
#67
Posted 18 December 2012 - 12:17
#68
Posted 18 December 2012 - 12:20
- ประชาชนมาปกป้องศาสนา แต่ยอมให้ลัทธินอกรีตอ้างศาสนา(นะจ๊ะ)ล้างสมองคน ผมว่ามันไม่ใช่
Edited by อู๋ ฮานามิ, 18 December 2012 - 12:20.
ถึงผมจะเป็นคนหัวขบถ แต่ไม่คิดทรยศบุญคุณแผ่นดินเกิด
เสียงส่วนใหญ่ของประชาชน ไม่ใช่ใบอนุญาตทำร้ายประเทศชาติ
#69
Posted 18 December 2012 - 12:33
คนบางคนเรียกร้องขอหลักฐาน แต่มีความรู้มากพอจะรับความรู้นั้นได้หรือไม่ เช่นบอกว่าการเจริญสติปัฏฐาน ๔ จะทำให้เกิดผู้รู้ขึ้น เขาพิสูจน์ได้อย่างไรในเมื่อเขาไม่ได้ลองปฏิบัติดู เหมือนบอกว่าต้องบรรลุขั้นอนาคามีขึ้นไปก่อนจึงมีฤทธิ์ เหาะเหินเดินอากาศได้ เขาปฏิบัติให้ถึงขั้นนั้นได้ไหม ซึ่งขั้นนี้มีผู้ปฏิบัติได้ก่อนพระพุทธเจ้าพระองค์นี้จะทรงตรัสรู้เสียอีก แล้วมีพระอนาคามีกี่องค์ที่จะมาแสดงให้เขาเห็น ของแบบนี้ต้องทำเอง ลองง่ายๆ ว่าให้มีสติอยู่กับตัวอยู่ตลอด อาจใช้วิธีถามตัวเองอยู่เสมอว่ากำลังทำอะไรอยู่ ก็จะได้คำตอบที่ว่าหายใจเข้าหนอ หายใจออกหนอ ก็จะมีสติขึ้นมาได้ ต้องทำดูเอง แล้วจะรู้เอง บอกอย่างไรก็ไม่รู้ จะนับถือศาสนาใดก็ปฏิบัติได้ ช่วยให้มีสติรับรู้ปรัชญาของศาสนานั้นๆได้มากขึ้นด้วย
Tam-mic-ra ฟันธง! คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ ..... คิดครับคิด จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96 ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3
#71
Posted 18 December 2012 - 12:37
"อยากมีศีล ให้ฆ่าพ่อตีแม่" เป็นคำพูดสะกิดครับ บางคนได้ยินก็สะเทือนใจเพราะเข้าใจได้ว่า พ่อแม่ที่ตัวบูชาอยู่นั่นคือกิเลสตัณหา ไม่ใช่พ่อแม่บังเกิดเกล้าแต่อย่างใดขออภัยหากพูดถึงอิสลามไม่ดี แต่ก็มีบางลัทธิที่ไม่ดีหรือไม่จริง แต่ถ้าสะกิดใจก็ขออภัยคุณ
ส่วนเรื่องฆ่าเวลาที่ท่าน ว.โพสต์ มาดิฉันคงไม่ถึงกับไปคิดฆ่าพ่อแม่ตัวเองหรอกค่ะ พวกคุณจะคิดไปยังไงดิฉันไม่รู้ แต่ที่รู้ นั่นคือธรรมะเตือนสติให้คิด ไม่ใช่เอามาคิดเป็นตุเป็นตะว่าเขาว่าตัวเอง
#72
Posted 18 December 2012 - 12:41
อย่างน้อยเฮนไตก็มีปัญญาเล่นเน็ทตอน 6 โมงเย็นหลังเลิกงานแล้วนะ
ว่าแต่ พระทิเบตลอยได้... หา link ให้ผมหน่อยซิครับ... อยากจะหาความรู้ใส่ตัว...
มือเท้าพิการ? ที่บ้านจนยากไม่มีคอมพ์ใช้?
#73
Posted 18 December 2012 - 13:06
อย่างน้อยเฮนไตก็มีปัญญาเล่นเน็ทตอน 6 โมงเย็นหลังเลิกงานแล้วนะ
ว่าแต่ พระทิเบตลอยได้... หา link ให้ผมหน่อยซิครับ... อยากจะหาความรู้ใส่ตัว...
มือเท้าพิการ? ที่บ้านจนยากไม่มีคอมพ์ใช้?
แต่เสาร์อาทิตย์ยังหาย อ้างว่าพักผ่อน...
ท่านสันสกฤตมาช่วยยืนยันแล้วว่าเล่นเน็ตเป็น มือเท้าไม่พิการแต่ไม่ขวนขวาย เที่ยวได้ใช้ให้คนป้อน
นี่แปลว่าไม่ได้โง่อย่างเดียวนะ ยังขี้เกียจอีกด้วยนะครับ!
โง่แถมขี้เกียจ.............สันดอนถาวรของพวกไหนหว่า???
#74
Posted 18 December 2012 - 14:31
ว่าแต่ พระทิเบตลอยได้... หา link ให้ผมหน่อยซิครับ... อยากจะหาความรู้ใส่ตัว...
มือเท้าพิการ? ที่บ้านจนยากไม่มีคอมพ์ใช้?
งั้นผมถือว่า... ใครๆก็รู้ ละกัน...
- Mark Nazi likes this
"คนโง่มักจะชอบว่าคนอื่นว่าโง่"
"ถ้าคนเราคิดเหมือนกันหมด ก็ไม่มีเลือกตั้งซิครับ"
"ผมไม่พูด เรื่อง 112 แล้ว นะครับ กรุณาอย่าถาม (17 พค 2012)"
#75
Posted 18 December 2012 - 14:40
พ้นกับดัก"ธรรมกาย"43ปี
ในบรรดา 1 ใน 4 ปัญหาของวัดพระธรรมกาย ที่มีแนวทางผิดเพี้ยนจากศาสนา ซึ่งกรมการศาสนาสรุปออกมาแล้วได้แก่ คือ คำสั่ง สอนของวัด ไม่ว่าจะเป็นการสอนเพื่อเน้นการทำบุญอย่างเดียว การสอนว่านิพพาน เป็นสถานที่มีพระพุทธเจ้าไปนั่งอยู่ในนั้น
โดยสามารถเห็นได้จากการนั่งสมาธิแนวธรรมกาย ขนาดที่ในการเทศนาวันอาทิตย์ที่ 3 ม.ค. พระไชยบูลย์ ธัมมฺชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ยังยืนยันต่อหน้าลูกศิษย์ว่า แนวทางของธรรมกายนิพพานเป็นสถานที่ มีตัวตนคืออัตตา เป็นนิจจัง เที่ยง และเป็นสุข ซึ่งไม่สนใจหลักศาสนาที่ว่าทุกสิ่งเป็นอนิจจัง คือไม่เที่ยง ทุกขัง คือเป็นทุกข์ และอนัตตาคือไม่ใช่ตัวตน
อย่างไรก็ตาม ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาได้มีเอกสาร และหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่า วิชชาธรรมกายที่ก่อกำเนิดโดยหลวงพ่อสด จันฺทสโร หรือหลวงพ่อวัดปากน้ำนั้น เป็นแนวทางที่ทำให้เกิดการหลงงมงายได้ง่าย ๆ
ไม่ว่าจะเป็นหลักฐานจากคำสอนใน พระไตรปิฎกที่ พระธรรมปิฎก หรือเจ้าคุณปยุต ปยุตฺโต เรียบเรียงออกมาเป็นหนังสือชื่อ "นิพพาน อนัตตา" ที่ยืนยันนิพพานไม่ใช่สถานที่ และไม่มีตัวตนไปจนถึงหลักฐานการที่ เสฐียร พงษ์ วรรณปก ราชบัณฑิต ไปยื่นต่อคณะกรรมา ธิการการศาสนาฯ ว่า ในช่วงที่หลวงพ่อสดมีชีวิตได้เกิดติดขัดในการปฏิบัติภาวนา และต้องไปเรียนกับอาจารย์ใหญ่ ฝ่ายวิปัสสนากัมมัฏฐานวัด มหาธาตุ ให้แก้ให้ จึงสามารถผ่านต่อไปได้ โดยมีหลักฐานรูปถ่ายหลวงพ่อสดลงนามถวายไว้ มีข้อความว่า
"ให้สำนักวิปัสสนาวัดมหาธาตุไว้เป็นที่ระลึก ในโอกาสที่ฉันได้เข้าปฏิบัติวิปัสสนา ตามแบบที่วัดมหาธาตุสอนอยู่ในปัจจุบันนี้แล้ว ยืนยันได้ว่าการปฏิบัติแบบนี้ถูกต้องร่องรอยในมหาสติปัฎฐานสูตรทุกประการ" และลงชื่อโดยพระภาวนาโกศลเถร วัดปากน้ำ ธนบุรี
เล่ากันว่าหลวงพ่อวัดปากน้ำสำนึกที่เข้าใจผิดว่านิมิตเป็นการบรรลุธรรม แต่จะประกาศออกไปก็เกรงว่าศิษย์จะสับสน ด้วยว่ามีคนทำตามมากแล้ว และวิธีปฏิบัติธรรมกายเป็นสิ่งที่หลวงพ่อสดทิ้งแล้ว แต่ศิษย์ยังคงสืบต่อกันมา
นอกจากหลักฐานจากภาพถ่าย รวมถึงคำพูดของเสฐียรพงษ์แล้ว ยังมีหลักฐานชิ้นสำคัญที่สามารถอ้างถึงได้นั่นคือ เทปการสอนธรรมะของ พระธรรมธีรราชมหามุนี (โชดก ญาสิทฺธิ ป.9) หรือเจ้าคุณโชดกอาจารย์ใหญ่ ฝ่ายวิปัสสนา วัดมหาธาตุที่ยืนยันได้อีก เพราะ เจ้าคุณโชดกคือพระรูปที่หลวงพ่อสดไปพบ และแก้ไขเรื่องกัมมัฏฐานให้นั่นเอง
เทปดังกล่าวเคยออกอากาศเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2541 ในรายการธรรมร่วมสมัย รวมถึงมีการเผยแพร่อย่างกว้างขวางด้วย
แต่ก่อนที่จะเข้าไปในเนื้อหาของเทปนี้ ต้องเข้าใจพื้นฐานของศาสนาพุทธก่อนว่าจะเริ่มจากการให้ทาน ถือศีล และการภาวนา ซึ่ง การภาวนาจะถือว่าเป็นกุศล เป็นแนวทางสูงสุดของศาสนาพุทธ
ในแง่การภาวนายังแยกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ "สมาธิหรือสมถะ" ซึ่งเป็นการภาวนาขั้นต้น กับ "การวิปัสสนา" ที่เป็นการภาวนาขั้นสูงสุดของศาสนา ซึ่งมีลักษณะแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด
การทำสมาธิ คือ การเพ่ง หรือการทำจิตให้หยุดอยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง จนทำให้จิตมีพลังขึ้นมาได้ เช่น การเพ่งกำหนดไปที่ลมหายใจ จิตในขั้นนี้จะมีฤทธิ์ มีอำนาจ ตามหลักศาสนาจะใช้จิตประเภทนี้เข้ามาหนุน เนื่องสติปัญญา โดย เมื่อจิตมีพลังเต็มเปี่ยมก็ค่อยถอนจิตออกจากสมาธิเข้ามาสู่การวิปัสสนา คือ การใช้ปัญญาพิจารณาธรรมะ ตามลำดับชั้นโดยเฉพาะในแง่สติปัฏฐาน 4 อาทิ การพิจารณาให้เห็นกายในกาย เห็นเวทนาในเวทนา เห็นจิตในจิตและเห็นธรรมในธรรม ภาวะการบรรลุธรรมขั้นสูงจะเกิดได้ต่อเมื่อเป็นผลของการวิปัสสนาเท่านั้น
สำหรับสมาธิแนวทางวิชชาธรรมกายก็คือ การเพ่งให้เห็น "ลูกแก้ว" ในร่างกาย นั่นเอง แต่ปัญหาของสมาธิแนวทางนี้คือ ทำให้เกิดการหลงทางได้ง่าย ๆ โดยภาพที่เห็นเป็น "นิมิต" หรือการเพ่งจนปรากฏรูปขึ้นมาได้ด้วยอำนาจของพลังจิต แต่ถือว่ายังอยู่ในขั้นสมถะไม่สามารถก้าวขึ้นไปสู่การวิปัสสนาได้
จากเทปของเจ้าคุณโชดกได้กล่าวว่า การปฏิบัติสมาธิแต่อย่างเดียวเมื่อปฏิบัติมาก ๆ และจะก้าวเข้าสู่การวิปัสสนานั้นอาจทำให้เกิดการหลง หรือเกิดอุปกิเลสได้ถึง 10 ข้อ อาทิ การเกิดแสงสว่าง และเข้าไปยึดติดกับภาพนั้น
"บางอาจารย์ก็นึกเป็นธรรมกาย เป็นปฐมมรรค เป็นแสงสว่าง ไปดูนรก สวรรค์ อธิษฐาน สร้างภาพนรก สร้างสวรรค์ จิตนึกไปเรื่อย เป็นจิตนึกมาเอง แล้วไปยึดติด บางครั้งคิดว่ากิเลสหายไปหมดแล้ว และกลายเป็นพระอรหันต์แล้วทั้งที่ไม่ใช่" เจ้าคุณโชดก กล่าว
นอกจากนั้น เจ้าคุณโชดกยังกล่าวอีกว่า เจ้าคุณวัดปากน้ำหรือหลวงพ่อสด ที่ปฏิบัติด้านสมาธิหรือสมถะมา 43 ปีมาให้ช่วย โดยแนวทางที่หลวงพ่อสดปฏิบัติคือการเพ่งดวงแก้ว และภาวนาว่าสัมมาอรหัง เห็นธรรมกาย เห็นแสงสว่าง
"ท่าน (หลวงพ่อสด) เข้าใจว่าสิ่งที่เห็นเป็นธรรมกาย อันที่จริงธรรมกายในพระไตรปิฎกมีกล่าวไว้หมายถึง ชื่อพระพุทธเจ้าแต่ไม่ใช่วิชาของพระพุทธเจ้า"
ดังนั้นเจ้าคุณโชดกจึงให้หลวงพ่อสดปฏิบัติตามแนวสติปัฏฐาน โดยให้เดินจงกรม นั่งสมาธิ ระยะแรกหลวงพ่อสด ก็ยังยืนยันเห็นพระพุทธเจ้าในนิพพาน ซึ่งเข้าไปจับมือถือแขนก็ได้,เห็นพระเต็มศาลา ฯลฯ
เจ้าคุณโชดก จึงแนะนำให้กำหนดอารมณ์ใหม่ โดยเมื่อเห็นนิมิตหรือภาพติดตานั้น ซึ่งให้พิจารณาว่า "เห็นหนอ ๆ" เพื่อเป็นการยกเอาจิตหรือเอาสติออกมาจากสมาธิ เพื่อใช้ปัญญาพิจารณาตามหลักศาสนา ปรากฏว่าหลวงพ่อสดกำหนดสติตามแนวดังกล่าว ในที่สุดภาพพระที่เคยเห็นเต็มไปหมดก็หายวับไปกับตา และเข้าใจในหลักไตรลักษณ์ศาสนาคือทุกสิ่งเป็นอนิจจังไม่เที่ยง เป็นทุกขังหรือเป็นทุกข์ และเป็นอนัตตาคือไม่ใช่ตัวตน
หลวงพ่อสดถึงกับกล่าวว่า เราติดอยู่ในญาณหรืออำนาจที่เกิดจากสมาธิมาหลายสิบปี เพิ่งมาหลุดได้ในวันนี้ และเป็นที่มาของรูปถ่าย พร้อมกับลายมือที่หลวงพ่อสดให้ไว้เป็นประจักษ์พยาน
เจ้าคุณโชดกเองเคยกล่าวว่า ที่เล่าถึงเรื่องหลวงพ่อวัดปากน้ำไม่ใช่เอามาพูดเสีย ๆ หาย ๆ แต่เอาความดีของท่านมาเล่าให้ฟัง เพราะท่านเป็นพระที่มุ่งศึกษาในการปฏิบัติธรรม และต่อมาท่านก็ได้สู่แนวทางของการวิปัสสนาอย่างแท้จริง
ปัญหาของวิชชาธรรมกายนี้ เสฐียรพงษ์ได้สรุปว่า ธรรมกายของหลวงพ่อสดคือการปฏิบัติสมาธิโดยเข้าใจว่าเป็นมรรคผล แต่ในยุคหลวงพ่อสดก็เป็นแค่การสัมผัสได้เฉพาะตน ไม่ได้นำมาเผยแผ่จนใหญ่โต และสร้างศรัทธาอย่างวัดพระธรรมกายกระทำ เพื่อให้ลูกศิษย์มาทำบุญ
และปัจจุบันก็กลายเป็นการ จัดสรรนิมิต จนทำให้ผู้ปฏิบัติเห็นภาพ และก็มีการบอกว่าได้บรรลุธรรมเป็นขั้น ๆ โดยคนที่ไม่เคยเห็นก็ได้เห็น พอเห็นเข้าก็เกิดศรัทธา มีเท่าไหร่ก็ทุ่มเททำบุญไปหมด
นี่คือขบวนการสูบบุญที่แท้จริง !!!!
ขนาดเจ้าของมาบอกเอง พวกมิจฉาทิฏฐิ ยังไม่ยอมวาง
Tam-mic-ra ฟันธง! คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ ..... คิดครับคิด จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96 ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3
#76
Posted 18 December 2012 - 14:47
ไม่ใช่ออกไปทางเซนหรอกครับ เอาคำสอนเซนมาใช้เลยดีกว่ากระมังครับ แต่ก็ยังไม่ได้เป็นพระเซน
ดีนะที่ไม่ได้เจอพระเซน ไม่งั้นพวกนี้ยิ่งงงหนักเข้าไปอีก
ฆ่าคน บาปน้อยกว่าฆ่าเวลา???
ตกภาษาไทยหรือวะครับ??? คนละประโยคคนละความหมายเลย...
http://blogazine.in....tizen/post/3465
ผมว่ามีแต่พวกกินหญ้าเท่านั้นแหละครับที่ไม่เข้าใจความหมายนี้...
ผมว่าท่าน ว ก็ออกๆ ไปทางเซนนะครับ สำหรับคำสอนต่างๆ
- Kyubey likes this
[color=#ff0000;]สำหรับผมคงเลิกเล่นบอร์ดนี้ไว้เพียงเท่านี้ ถ้าไอดีนี้ยังมีบุคคลอื่นที่ใครบางคนคิดว่าเป็นตัวจริงอยู่จริง เขาก็เข้ามาใช้บอร์ดนี้ต่อเองแต่ไม่ใช่ผมแน่นอน[/color]
ลาก่อน สวัสดีครับ 17 มกราคม 2556
#77
Posted 18 December 2012 - 14:50
'หลวงปู่ ที่หลวงปู่เทศน์มาทั้งหมดเนี่ย ผมขอดูจิตอย่างเดียวได้มั้ย?' ที่ต้องถามเพราะมันไม่รู้เรื่อง ที่เทศน์มาเนี่ยไม่ได้รู้เรื่องเลย
หลวงปู่ก็เลยบอกว่า
'ธรรมะทั้งหลายเกิดที่จิต ธรรมะ 84,000 พระธรรมขันธ์นะเกิดที่จิต ถ้ารู้อยู่ที่จิตก็รู้ธรรมะได้'
ฟังแล้วค่อยสบายใจนะ อือ โห ทำไมท่านสอนธรรมมากมาย ท่านสอนให้ไว้ใช้ในอนาคตแต่สอนทีไรก็สอนอย่างนี้ สอนเวียน ไปอยู่ในเรื่องของจิตคือพุทธะ จนครั้งสุดท้าย ไปหาท่านครั้งสุดท้าย 36 วันก่อนท่านมรณภาพ ไปหาท่านตั้งแต่ตอนบ่ายๆ อยู่กับท่าน ท่านก็เทศน์ให้ฟังไปเรื่อยๆ นะ จนทุ่มหนึ่ง ท่านนะหอบแฮ่กๆ เลย ไม่ยอมหยุดสอน เราก็สงสารท่านมากเลย บอกหลวงปู่
'หลวงปู่เหนื่อยมากแล้ว ผมจะกลับแล้ว'
'จะกลับเหรอ ยังกลับไม่ได้นะ ต้องจำไว้ก่อน พบจิตให้ทำลายจิตนะ พบผู้รู้ให้ทำลายผู้รู้ จิตจึงจะถึงความบริสุทธิ์อย่างแท้จริง'
จริงๆ มีอีกประโยคหนึ่ง แต่ไม่ค่อยอยากเล่า ท่านว่าพบพระพุทธเจ้าให้ฆ่าซะ ฟังแล้วมันน่าตกใจนะ
'พบจิตให้ทำลายจิต พบผู้รู้ให้ทำลาย ผู้รู้ จึงจะถึงความบริสุทธิ์อย่างแท้จริง เข้าใจมั้ย?' บอกท่านว่าไม่เข้าใจแต่ผมจะจำไว้
'เออดี จำไว้นะ ไป ไปได้แล้ว ไป'
ลาท่านมา ลาแล้วหันไปมองหลายรอบนะ เฮ้อ รู้สึกอาลัยอาวรณ์ ไม่ได้เจออีกแล้ว รุ่งเช้าขึ้นรถไฟไปกราบหลวงพ่อพุธที่โคราช วัดท่านอยู่ใกล้สถานีรถไฟ ลงรถไฟแล้วก็เดินไปได้ ท่านเห็นหน้าท่านถามว่า
'นักปฏิบัติ หลวงปู่สอนอะไร รอบนี้หลวงปู่สอนอะไร'
ท่านรู้ว่าหลวงพ่อไปเรียนจากหลวงปู่ดูลย์ ทุกครั้งที่เรียนจะต้องแวะมาหาท่านนะ แล้วท่านก็จะถามว่าหลวงปู่สอนอะไรบ้าง กราบเรียนท่านว่า หลวงปู่บอกว่าพบผู้รู้ให้ทำลายผู้รู้ พบจิตให้ทำลายจิต ท่านก็บอกว่าเมื่ออาทิตย์ก่อน ท่านไปหาหลวงปู่ดูลย์มา หลวงปู่ก็บอกท่านเหมือนกันบอกว่า
'เจ้าคุณ การปฏิบัติจะยากอะไร พบผู้รู้ให้ทำลายผู้รู้ พบจิตให้ทำลายจิต'
เสร็จแล้วหลวงพ่อพุธก็บอกหลวงพ่อว่า
'คุณกับอาตมามาทำกติกาตกลงกัน ใครทำลายผู้รู้ได้ก่อนให้บอกกันนะ ว่าทำลายยังไง'
ตอนนั้นปี 26 เสร็จแล้วก็ไปเจอท่านเรื่อยๆ นะ ตอนหลังๆ ท่านหนีไปจากวัด ท่านทนโยมไม่ไหว หลวงพ่อตอนนี้ยังทนไหวนะ อีกหน่อยคงทนไม่ไหวคงหนีเหมือนกัน หาตัวท่านไม่เจอ เจอเวลาท่านเข้าไปเทศน์ในกรุงเทพฯ บ้าง อะไรบ้าง คนเยอะๆ คน หลายร้อย คนเป็นพันเลยเข้าไม่ถึง ไม่เจอท่านนาน หลายปีไม่เจอ จนก่อนหลวงพ่อพุธจะมรณภาพไม่นาน ท่านไปเทศน์ที่องค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย หลวงพ่อ ยังทำงานอยู่องค์การโทรศัพท์ ไปนั่งฟังเทศน์ คนก็เต็มห้องนะ 100 คนได้ ค่อยน้อยหน่อย ท่านเทศน์จบก็คลานเข้าไปกราบท่าน
'หลวงพ่อ ผมไม่เจอหลวงพ่อนานแล้ว' ท่านบอกว่า ท่านจำได้นักปฏิบัติมีไม่มากหรอก
บอก 'หลวงพ่อผมยังทำลายผู้รู้ไม่ได้เลย'
โห คราวนี้นะธรรมท่านเปลี่ยนฉับพลันเลย ที่เทศน์ๆ ธรรมดา เทศน์เสร็จแล้ว พอบอกว่าผมทำลายผู้รู้ไม่ได้เลย ท่านห้าวหาญเลยพูดขึ้นมา
'จิตผู้รู้เหมือนฟองไข่ เมื่อลูกไก่นั้นนะเติบโตเต็มที่แล้ว มันจะเจาะทำลายเปลือกออกมาเอง'
- ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่ likes this
Tam-mic-ra ฟันธง! คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ ..... คิดครับคิด จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96 ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3
#78
Posted 18 December 2012 - 14:59
#79
Posted 18 December 2012 - 15:05
หึหึ พระเทวทัตก็ยังเหาะได้ ไม่ได้เกี่ยวกับการรบรรลุธรรมของศาสนาพุทธหรอกครับ ถ้าเรื่องศาสนาไม่มีการเหาะได้และเป็นเรื่องโกหก มันไม่ได้กระทบแค่ศาสนาพุทธหรอกแต่ลามไปถึงศาสนาอื่นด้วยเพราะศาสนาอื่นมันก็มีเรื่องนี้
งานนี้ ต้องนี่...
ทั้งนี้ คลิปดังกล่าวได้บันทึกการสนทนาระหว่าง พิธีกรและท่าน ว.วชิรเมธี โดยพิธีกรได้ถามว่า"จริงหรือไม่ ถ้ามนุษย์นั่งสมาธิขั้นสูงแล้ว จะเหาะได้ ลอยได้" ทางท่าน ว.วชิรเมธี ตอบว่า เป็นเรื่องธรรมดาที่สุดในแวดวงศาสนา แต่เขาไม่พูดกันเพราะมันไม่มีราคา เมื่อสมัยก่อนมนุษย์ไม่ได้เดินเท้า หรือใช้เครื่องบิน แต่อย่างใด เขาใช้วิธีเหาะเหินเดินหาว เพราะจิตเขามีวิวัฒนาสูงสุด เขาไม่ได้มีวัตถุมารองรับกาย เพราะเป็นที่รู้ดีกันอยู่แล้วว่า จิตมีอำนาจมากขนาดนั้น
แล้วอีเห็นเคยเกิดสมัยนั้นหรือ ถึงกล้ายืนยันว่าการเดินอากาศนั้น...ไม่มี?
อีเห็นคงไม่เคยดูสารคดีบีบีซีที่พระธิเบตฝึกสมาธิจนลอยจากพื้นได้ แต่ทะลึ่งฟันธงว่าไม่มี
อีเห็นชอบอวดเก่งไม่มีใครสู้ อวดฉลาดไม่มีใครเกิน ทั้งที่จริงๆแล้วความรู้เท่าขี้เล็บ
น่าสมเพช
ตกลงว่า... ถ้าจะยืนยันว่าไม่มี ต้องเกิดในสมัยนั้น...
ดังนั้น ไม่มีใครเกิดในสมัยนั้น... เลย บอกว่าไ่ม่มีไม่ได้...
แต่ ท่าน ว... ก็ไม่ได้เิกิดในสมัยนั้น... บอกว่า มีได้... ไม่เป็นไร... ไม่สงสัย
เพราะ เป็น ท่าน ว... ถ้า เป็นพระเสื้อแดงนี่ โดนเล่นเละเทะไปแล้ว...
เอาละครับ... เป็น สุดยอด ของ ตรรกของ สาวกผู้ติดตาม จะคิดได้...
เออ ถ้ามีคนบอกว่า เมื่อ 500 ปีก่อน... มี Ultraman มา สู้ กับ หนุมาน .. อย่าไปว่าเค้านะครับ...
เพราะ ท่านก็ไม่ได้เกิดสมัยนั้น.... 55555
ว่าแต่ พระทิเบตลอยได้... หา link ให้ผมหน่อยซิครับ... อยากจะหาความรู้ใส่ตัว...
Edited by Solidus, 18 December 2012 - 15:06.
[color=#ff0000;]สำหรับผมคงเลิกเล่นบอร์ดนี้ไว้เพียงเท่านี้ ถ้าไอดีนี้ยังมีบุคคลอื่นที่ใครบางคนคิดว่าเป็นตัวจริงอยู่จริง เขาก็เข้ามาใช้บอร์ดนี้ต่อเองแต่ไม่ใช่ผมแน่นอน[/color]
ลาก่อน สวัสดีครับ 17 มกราคม 2556
#80
Posted 18 December 2012 - 17:28
แม้ครั้งที่สองผมก็จะเตือนคุณเกี่ยวกับเรื่องครูบาอาจารย์ อย่าลืมว่านิมิตรก็อยู่ในอนัตตา พิจารณานิมิตรไปเรื่อยจะไม่เห็นอนัตตาได้อย่างไร...
#81
Posted 18 December 2012 - 18:25
ลูกตายเข้าใจครับว่าเสียใจมาก
แต่ที่ทำอยู่เนี่ยมันทำให้คนก่นด่าคุณและลูกคุณมากขนาดไหนรู้บ้างไหม
ปล่อยเธอไปสงบเถอะ อย่าขุดเธอขึ้นมาขยี้โดยตัวเองเลย
ตอนแรกบอกเป็นพยาบาล พอโดนจับได้ก็บอกเป็นอาสา
ตอนแรกบอกใส่เสื้อกาชาด พอโดนจับได้บอกเอามาใส่ทีหลัง
แสดงความจงใจของคนที่นั่นเพื่อจะทำให้ศพนี้มีประเด็นมากกว่า
---------------------
ผมว่า มันดีใจนะ ไม่ได้เสียใจ
นอกจากรับ 7.5 ล้านแล้ว ผมว่าตอนนี้มันได้เป็นทีมงานกินเงินเดือนนักโทษด้วย
#82
Posted 18 December 2012 - 19:33
แม้ครั้งที่สองผมก็จะเตือนคุณเกี่ยวกับเรื่องครูบาอาจารย์ อย่าลืมว่านิมิตรก็อยู่ในอนัตตา พิจารณานิมิตรไปเรื่อยจะไม่เห็นอนัตตาได้อย่างไร
...
กาลามสูตร อย่าเชื่อเพราะเข้ากับความเห็นของตน ขอให้พิจารณาโทษของความโลภโกรธหลง และคุณของความไม่โลภไม่โกรธไม่หลงดู
คุณไก่เชลย
ผมว่าที่คุณ Stargate-1 เอาให้อ่านนั้นสมควรจะเผยเพร่ด้วยซ้ำ เพราะบทความนี้เขียนขึ้นเพื่อปกป้องหลวงพ่อสดจากการเอาไปหากินของธรรมกาย ซึ่งธรรมกายเอาเรื่องนี้ของหลวงพ่อสดไปหากิน ให้คนไทยที่ศรัทธาหลวงพ่อสดหลงเชื่อด้วย
การปฏิเสธวิชาของหลวงพ่อสดโดยที่ยังไม่มีโยนิโสมนสิการหรือมีญาณแจ้ง จัดอยู่ในความหลงซึ่งเป็นโทษ
ธรรมของพระพุทธเจ้าเป็นของจริง แล้วยังมีคนไม่ดีหากินกับธรรมของพระพุทธองค์อยู่ใช่หรือไม่ จะต้องถึงปฏิเสธธรรมของพระพุทธเจ้าหรือไม่ ผมไม่อาจบอกได้ว่าวิชาของหลวงพ่อสดเป็นอย่างไร แต่ก็ย่อมมีคนไม่ดีหากินกับวิชาของหลวงพ่อสดได้เช่นกัน จึงไม่ใช่เหตุที่ต้องไปปฏิเสธวิชาของหลวงพ่อสด เพราะเรายังไม่มีญาณถึงขั้นที่จะไปพิสูจน์
หลวงพ่อสดปฏิเสธแนวทางนิมิตรธรรมกาย ตั้งแต่ได้ทำวิปัสสนากับเจ้าคุณโชดกแล้ว
"เจ้าคุณโชดกจึงให้หลวงพ่อสดปฏิบัติตามแนวสติปัฏฐาน โดยให้เดินจงกรม นั่งสมาธิ ระยะแรกหลวงพ่อสด ก็ยังยืนยันเห็นพระพุทธเจ้าในนิพพาน ซึ่งเข้าไปจับมือถือแขนก็ได้,เห็นพระเต็มศาลา ฯลฯ
เจ้าคุณโชดก จึงแนะนำให้กำหนดอารมณ์ใหม่ โดยเมื่อเห็นนิมิตหรือภาพติดตานั้น ซึ่งให้พิจารณาว่า "เห็นหนอ ๆ" เพื่อเป็นการยกเอาจิตหรือเอาสติออกมาจากสมาธิ เพื่อใช้ปัญญาพิจารณาตามหลักศาสนา ปรากฏว่าหลวงพ่อสดกำหนดสติตามแนวดังกล่าว ในที่สุดภาพพระที่เคยเห็นเต็มไปหมดก็หายวับไปกับตา และเข้าใจในหลักไตรลักษณ์ศาสนาคือทุกสิ่งเป็นอนิจจังไม่เที่ยง เป็นทุกขังหรือเป็นทุกข์ และเป็นอนัตตาคือไม่ใช่ตัวตน
หลวงพ่อสดถึงกับกล่าวว่า เราติดอยู่ในญาณหรืออำนาจที่เกิดจากสมาธิมาหลายสิบปี เพิ่งมาหลุดได้ในวันนี้ และเป็นที่มาของรูปถ่าย พร้อมกับลายมือที่หลวงพ่อสดให้ไว้เป็นประจักษ์พยาน"
หลวงพ่อบอกว่าสายเกินไปแล้ว ไม่อาจบอกลูกศิษย์ได้ทั่วถึง จึงเขียนไว้ในรูปดังกล่าว แต่ก็ยังมีลูกศิษย์นำมาปฏิบัติมาจนถึงทุกวันนี้
http://rulesofkarma....อาตมาเรียนกรรม/
http://www.tairomdha...hp?topic=7388.0
Edited by Stargate-1, 18 December 2012 - 20:17.
Tam-mic-ra ฟันธง! คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ ..... คิดครับคิด จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96 ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3
#83
Posted 18 December 2012 - 19:56
“People shouldn't be afraid of their government. Governments should be afraid of their people.”
#84
Posted 18 December 2012 - 20:18
ถ้ามีอีกจะขายกินอีกหรือเปล่าหนอ
เพื่อคนเลวๆ หนึ่งคนถึงกลับทำให้ตามืดบอดได้ขนาดนี้
#86
Posted 18 December 2012 - 20:24
ถ้าความรุนแรงไม่ดีจริง เมื่อก่อนคงไม่มีภาพเสื้อแดงปรบมือไชโยโห่ร้องกับความรุนแรงต่างๆ
ผมจำได้ ท่าน ว วชิระเมธีนี่ละที่ช่วงเสื้อแดงออกมาอาละวาดข่มขู่คนนั้นคนนี้ ท่านบอกให้ให้ปัญญา ใช้สันติวิถี แต่เสื้อแดงไม่รับฟัง เสื้อแดงยังเคยโต้ตอบและเชียร์วิธีรุนแรงไล่ล่า ฝ่ายตรงข้ามด้วยซ้ำ แต่เวลาผ่านไป ฝ่ายสนับสนุนความรุนแรงโห่ร้องไชโยเชียร์ให้ไล่เข่นฆ่าอย่างเสื้อแดงกลับมาโจมตีเรื่องความรุนแรงซะได้ ช่างพูดกลับหัวกลับหางกับสิ่งที่เคยทำได้แบบไม่ตะขิดตะขวงใจ
(ทีแกนนำบอกว่า เผาแล้วบ้านเมืองจะเป็นประชาธิปไตย ไม่เห็นเป็นวิทยาศาสตร์ ใช้สมมติฐาน วิชาการอะไรวิเคราะห์อ้างอิงยังเชื่อกันได้ เป็นตุเป็นตะ)
Edited by สยาม, 18 December 2012 - 20:26.
- Thai4u likes this
#87
Posted 18 December 2012 - 20:29
อย่าบอกนะว่า ใครๆก็รู้
Edited by สยาม, 18 December 2012 - 20:31.
#88
Posted 18 December 2012 - 20:30
#89
Posted 18 December 2012 - 20:31
งั้นผมถือว่า... ใครๆก็รู้ ละกัน...
โง่และขี้เกียจ
เบื่อไอ้กลางกลวงจริงๆ ดูพฤติกรรมน่าสะอิดสะเอียน
หารู้ไม่ว่าสิ่่งที่ตัวเองพูดมันสะท้อนถึงวุฒิภาวะเช่นใด
คุณต้องลงมือ จึงจะเห็นการเปลี่ยนแปลง "คานธี"
กฏของเสียงข้างมาก จะใช้กับเรื่องของมโนธรรมไม่ได้ "คานธี"
#90
Posted 18 December 2012 - 20:35
เมืองนอกชุมนุมกันมันก็เผาทั้งนั้นแหละ 1.ผู้ชุมนุมเผา 2.รัฐบาลแอบไปเผาไส่ร้ายผู้ชุมนุม 3.มือที่3
เ ล ว
คุณต้องลงมือ จึงจะเห็นการเปลี่ยนแปลง "คานธี"
กฏของเสียงข้างมาก จะใช้กับเรื่องของมโนธรรมไม่ได้ "คานธี"
#91
Posted 18 December 2012 - 20:39
สอบถามจริตคุณนิดหนึ่ง คุณเชื่อว่านรกสวรรค์และฤทธิ์จากญาณมีจริงหรือไม่...
#92
Posted 18 December 2012 - 20:40
เมืองนอกชุมนุมกันมันก็เผาทั้งนั้นแหละ 1.ผู้ชุมนุมเผา 2.รัฐบาลแอบไปเผาไส่ร้ายผู้ชุมนุม 3.มือที่3
กำลังจะบอกอะไร จะบอกว่าการเผา ปล้น ลักขโมยร้านค้าบ้านเรือนคนอื่น
เป็นสิ่งที่ถูกต้อง ควรปฏิับัติ อย่างงั้นสิ
อยากรู้ใครสั่งใครสอนมาเนี่ย
Edited by เส้นใหญ่ไม่งอก, 18 December 2012 - 20:41.
#93
Posted 18 December 2012 - 20:40
+ here ด้่วย
เมืองนอกชุมนุมกันมันก็เผาทั้งนั้นแหละ 1.ผู้ชุมนุมเผา 2.รัฐบาลแอบไปเผาไส่ร้ายผู้ชุมนุม 3.มือที่3
เ ล ว
#94
Posted 18 December 2012 - 20:41
งั้นผมถือว่า... ใครๆก็รู้ ละกัน...
โง่และขี้เกียจ
เบื่อไอ้กลางกลวงจริงๆ ดูพฤติกรรมน่าสะอิดสะเอียน
หารู้ไม่ว่าสิ่่งที่ตัวเองพูดมันสะท้อนถึงวุฒิภาวะเช่นใด
จากที่อ่าน..สำบัดสำนวนมาตลอด ผมเชื่อโดยสุจริตว่า..ชีวิตนี้แกคงไม่มีเพื่อน ไม่ใคร่มีใครคบ
ทำงานก็คงหาความก้าวหน้ายาก
เพราะดูจากวิธีคิดและวิธีเขียน เป็นคนไม่มีระบบทางความคิด ขี้เถียง
ขี้ค้านแบบ ขอให้ได้ค้านเป็นพอ ถูกผิดไม่สน
ชอบอวดรู้ ชอบแส่ส่ายในเรื่องที่ไม่ใช่ธุระ กวนเพียงแค่ขอให้ได้กวน
ไม่อ่อนน้อม เข้ากับคนไม่ได้
ชอบทำตัวแตกต่างเพื่อให้ดูเหนือ ดูเท่
ลักษณะทั้งหมดที่กล่าวมา...ท่านว่าใช่คุณสมบัติที่ทำให้ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานหรือไม่
ใช่คุณสมบัติที่คนอยากคบหาเป็นมิตรหรือไม่
ผมก็ไม่ใช่อะไรกะแกหรอกนะ ไม่เคยโกรธหรือหมั่นไส้อะไรแกเลยด้วย
แค่รำคาญน่ะครับ
เหมือนรำคาญแมงหวี่ ตอมอยู่ได้ ส่งเสียงหวี่ๆๆๆ แต่กัดก็ไม่กัด สรุป ทำห่านอะไรเราไม่ได้เลย
นอกจากตอมหวี่ๆๆๆ
#95
Posted 18 December 2012 - 20:43
เมืองนอกชุมนุมกันมันก็เผาทั้งนั้นแหละ 1.ผู้ชุมนุมเผา 2.รัฐบาลแอบไปเผาไส่ร้ายผู้ชุมนุม 3.มือที่3
วลีใหม่จากแดง ใครๆก็เผากัน ใครๆก็รู้
“Live as if you were to die tomorrow. Learn as if you were to live forever.” - Mahatma Gandhi
สนใจบ้านพักคนชราเสรีไทย (FB Secret Group) ติดต่อ (PM) เว็บบอร์ด
#96
Posted 18 December 2012 - 21:01
แปลง่ายๆ คือ ฆ่าอะไรก็บาปทั้งนั้น
ยกเว้นฆ่ากิเลส
พวกศีลห้ายังขาดๆ เกิน ปัญญาแค่หัวแม่เท้า ดันไปวิพากษ์พระผู้มีศีล มีปัญญามากกว่า
Edited by Can Thai, 18 December 2012 - 21:05.
- สงสารสาวจันทร์ and Kyubey like this
#97
Posted 18 December 2012 - 21:26
นางเพยาว์ กับ พวก มีสิทธิ์อะไรไปป่วนงานเค้า
เวลาพวกมันชุมนุมบิดเบือนโกหกกันทั้งวัน ผมไม่เห็นมีใครไปป่วนงานพวกมัน
นี่ลากกันไปคุยเรื่องอื่นกันหมดแล้ว
“แม่เกด” เถื่อน! ขนแดงยึดเวที กสม.ชูป้ายด่า “ว.วชิรเมธี”-แจกฟัก “หมอนิรันดร์”
#98
Posted 18 December 2012 - 21:27
น่าจะเป็นเป้าหมายแรกๆของการจ้องทำลาย
ในขณะที่เรามีพระบ้าๆบอๆมากมาย
ในขณะที่เรามีพระดีน้อยเกินไป
ต้องช่วยกันรักษาปกป้องเยี่ยงที่ผู้ถือพุทธพึงกระทำ
พฤติกรรมตามข่าวถือได้ว่าอุกอาจ และอัปมงคล
เมือมีครั้งที่หนึ่ง
ก็จะมีครั้งที่สองตามมา
พฤติกรรมปฏิบัติของกลุ่มถ่อยสถุลที่มีปลอกคอคล้ายๆกัน
อยากทำอะไรก็ทำ ตำรวจไม่เห็น บ้านเมืองไม่สนใจ
แล้วอย่างนี้บ้านเมืองเราจะอยู่กันอย่างไร
จะปรองดองกับใคร
รัฐบาลตัวดีมึงรักษาตัวให้ดีเถิด
เมื่อคราวพลาดพลั้ง อย่าร้อง
ถ้ายังประพฤติให้ท้ายสมุนเช่นนี้
#99
Posted 18 December 2012 - 21:38
๑ ผู้ดำรงตำแหน่งนายกฯได้ประจักษ์แล้วว่า ผลของการทำชั่วนั้นผลเป็นอย่างไร?
ที่ทำให้ตนต้องมาระกำลำบากอยู่ในเวลานี้
ผู้กระทำชั่วก็ยังได้รับการต่อต้านอย่างต่อเนื่อง
ในไม่มีวันสร่างซา
๒ ผู้ดำรงตำแหน่งรองนายกฯฝ่ายความมั่นคง เคยไรบผลจากการกรำทำของตนแทบเอาชีวิตไม่รอด
ไม่เปลี่นพฤติกรรม ยังตอกย้ำความไม่เป็นมนุษย์อยู่เนืองๆ
ประพฤติตนนอกเหนือการประพฤติจากคนธรรมดา
อาศัยความสามหาวเป็นหลัก
๓ บรรดาขี้ข้าบริวารได้ใจ ทำตามนายเงิน ไม่คำนึงถึงกฎหมายบ้านเมือง
๔ โล้นห่มเหลืองในภาพข้างบน ได้รับการชำระโทษแล้วบ้างหรือไม่?
เรื่องนี้เรื่องใหญ่ มหาเถรฯทำอะไรบ้างแล้วยัง
จุดจบของสังคมไม่ยากนัก
ถ้าเรามองผิดเป็นถูก โดยลืมกฎหมายและวัฒนธรรมของตนเอง
โดยเฉพาะถ้าผู้นำขาดความคิด สำนึก
และประเทศชาติบ้านเมือง
#100
Posted 18 December 2012 - 21:39
จากในคลิบนี้นะครับ นี่คือตรรกะของว.วชิระเมธี เวลาผ่านแล้วผ่านเลย มีเงินทองมากเท่าไร ก็ไม่สามารถซื้อเวลาที่ผ่านไปแล้วกลับมาได้ วันนึงทุกคนมี 24 ชม.เท่ากัน ไม่มีใครสามารถแบ่งเวลาไปให้คนอื่นได้ หรือเอาเวลาคนอื่นมาเป็นของตัวเองได้ เพราะฉะนั้นทุกคนควรจะใช้เวลาของตัวเองให้มีคุณค่ามากที่สุด ใครก็ตามมานั่งฆ่าเวลาเลยบาปมากเลย ส่วนการฆ่าคนแม้จะเป็นเรื่องบาป คนฆ่าก็ยังมีโอกาสกลับตัวกลับใจเป็นคนดี เช่นองคุลิมาล ที่เคยฆ่าคนมาแล้วหลายร้อยคน ก็ยังสามารถกลับใจได้จนสามารถบวชบรรลุเป็นพระอรหันต์ได้ในที่สุด
แต่สิ่งที่ว.วชิระเมธี ลืมคิดไปที่เอาเรื่องฆ่าเวลากับฆ่าคนมาเทียบกัน คือ คนที่ถูกฆ่าไปแล้ว ก็ไม่สามารถฟื้นคืนชีวิตมาได้เช่นกัน ไม่ว่าเวลาที่เหลืออยู่ในชีวิตองคุลิมาลจะมีมากเท่าใด ก็ไม่สามารถทำให้คนที่เขาฆ่าตายแล้วฟื้นขึ้นมาได้ ส่วนการฆ่าเวลานั้น ไม่จำเป็นต้องเป็นบาป เพราะถ้าเวลาที่ผ่านไปหรือที่เราฆ่าไป เราไม่ได้ทำอะไรที่เป็นบาป มันก็ไม่บาป มันจึงเอามาเปรียบเทียบกันไม่ได้ครับ
0 user(s) are reading this topic
0 members, 0 guests, 0 anonymous users