114 replies to this topic

[Stargate-1]

...

สอบถามจริตคุณนิดหนึ่ง คุณเชื่อว่านรกสวรรค์และฤทธิ์จากญาณมีจริงหรือไม่

ถ้ายังนับถือศาสนาพุทธอยู่ต้องมีศรัทธาเช่นนั้น ตามโอวาทปาฏิโมกข์ ในวันมาฆบูชา

http://webboard.seri...ที/page__st__50



http://rulesofkarma....อาตมาเรียนกรรม/

อาตมาได้ฟังเทศน์ลำดับญาณโดยอาจารย์พม่ามาเทศน์ และมีทูตมาแปลเป็นภาษาไทยฟังพร้อมกับหลวงพ่อสดวัดปากน้ำ เดิมทีอาตมาไม่ทราบว่าท่านมานั่งกรรมฐานที่วัดมหาธาตุฯ พอดีท่านเจ้าคุณอาจารย์ไปสอบอารมณ์ อาตมาก็ตามไปฟัง หลวงพ่อสดบอกอาตมาว่า เราเป็นขี้ข้าเขามาหลายสิบปี มีแต่นิมิตเครื่องหมายมากมาย และติดนิมิต พอกำหนด เห็นหนอ ๆ นิมิตธรรมกายหายไป ปัญญาเกิด และเข้าผลสมาบัติได้ถึง ๘๔ ชั่วโมง หลังจากนั้นก็เข้านิโรธสมาบัติได้ด้วย อันนี้ขอเปิดเผยเพราะท่านมรณภาพไปแล้ว และท่านยังบอกอาตมาอีกว่า ถ้าเราอยู่เราจะสอนอย่างนี้ต่อไป แต่ถ้าเราจะหมดอายุเราก็ขอแค่ตัวเราพ้นทุกข์

Edited by Stargate-1, 18 December 2012 - 22:08.

[Stargate-1]

จากในคลิบนี้นะครับ นี่คือตรรกะของว.วชิระเมธี เวลาผ่านแล้วผ่านเลย มีเงินทองมากเท่าไร ก็ไม่สามารถซื้อเวลาที่ผ่านไปแล้วกลับมาได้ วันนึงทุกคนมี 24 ชม.เท่ากัน ไม่มีใครสามารถแบ่งเวลาไปให้คนอื่นได้ หรือเอาเวลาคนอื่นมาเป็นของตัวเองได้ เพราะฉะนั้นทุกคนควรจะใช้เวลาของตัวเองให้มีคุณค่ามากที่สุด ใครก็ตามมานั่งฆ่าเวลาเลยบาปมากเลย ส่วนการฆ่าคนแม้จะเป็นเรื่องบาป คนฆ่าก็ยังมีโอกาสกลับตัวกลับใจเป็นคนดี เช่นองคุลิมาล ที่เคยฆ่าคนมาแล้วหลายร้อยคน ก็ยังสามารถกลับใจได้จนสามารถบวชบรรลุเป็นพระอรหันต์ได้ในที่สุด

แต่สิ่งที่ว.วชิระเมธี ลืมคิดไปที่เอาเรื่องฆ่าเวลากับฆ่าคนมาเทียบกัน คือ คนที่ถูกฆ่าไปแล้ว ก็ไม่สามารถฟื้นคืนชีวิตมาได้เช่นกัน ไม่ว่าเวลาที่เหลืออยู่ในชีวิตองคุลิมาลจะมีมากเท่าใด ก็ไม่สามารถทำให้คนที่เขาฆ่าตายแล้วฟื้นขึ้นมาได้ ส่วนการฆ่าเวลานั้น ไม่จำเป็นต้องเป็นบาป เพราะถ้าเวลาที่ผ่านไปหรือที่เราฆ่าไป เราไม่ได้ทำอะไรที่เป็นบาป มันก็ไม่บาป มันจึงเอามาเปรียบเทียบกันไม่ได้ครับ

ถ้ามัวมาฆ่าเวลาอยู่ในสมาธิอย่างเดียวเท่ากับเป็นการฆ่าตัวตายไปวันๆ
ให้ถอนจิตออกจากสมาธิเข้ามาสู่การวิปัสสนา คือ การใช้ปัญญาพิจารณาธรรมะ จึงรอด

จะพูดอย่างท่านว.ก็ได้ แล้วแต่จะคิด

[nunoi]

เมืองนอกชุมนุมกันมันก็เผาทั้งนั้นแหละ 1.ผู้ชุมนุมเผา 2.รัฐบาลแอบไปเผาไส่ร้ายผู้ชุมนุม 3.มือที่3

สรุปว่า การชุมนุม = เผา แต่เท่าที่เห็นก็ยังมีแค่เหตุการณ์เดียวที่เผา นะ

บางที่เรื่องชั่วๆ ในสมองบางคนก็ไม่ต้องเอามาออกมาโชว์ก็ได้ครับ

ปล แล้ว เรื่อง ม รังสิตไปถึงไหนแล้วครับ อยากทราบข่าว

[nunoi]

จากในคลิบนี้นะครับ นี่คือตรรกะของว.วชิระเมธี เวลาผ่านแล้วผ่านเลย มีเงินทองมากเท่าไร ก็ไม่สามารถซื้อเวลาที่ผ่านไปแล้วกลับมาได้ วันนึงทุกคนมี 24 ชม.เท่ากัน ไม่มีใครสามารถแบ่งเวลาไปให้คนอื่นได้ หรือเอาเวลาคนอื่นมาเป็นของตัวเองได้ เพราะฉะนั้นทุกคนควรจะใช้เวลาของตัวเองให้มีคุณค่ามากที่สุด ใครก็ตามมานั่งฆ่าเวลาเลยบาปมากเลย ส่วนการฆ่าคนแม้จะเป็นเรื่องบาป คนฆ่าก็ยังมีโอกาสกลับตัวกลับใจเป็นคนดี เช่นองคุลิมาล ที่เคยฆ่าคนมาแล้วหลายร้อยคน ก็ยังสามารถกลับใจได้จนสามารถบวชบรรลุเป็นพระอรหันต์ได้ในที่สุด

แต่สิ่งที่ว.วชิระเมธี ลืมคิดไปที่เอาเรื่องฆ่าเวลากับฆ่าคนมาเทียบกัน คือ คนที่ถูกฆ่าไปแล้ว ก็ไม่สามารถฟื้นคืนชีวิตมาได้เช่นกัน ไม่ว่าเวลาที่เหลืออยู่ในชีวิตองคุลิมาลจะมีมากเท่าใด ก็ไม่สามารถทำให้คนที่เขาฆ่าตายแล้วฟื้นขึ้นมาได้ ส่วนการฆ่าเวลานั้น ไม่จำเป็นต้องเป็นบาป เพราะถ้าเวลาที่ผ่านไปหรือที่เราฆ่าไป เราไม่ได้ทำอะไรที่เป็นบาป มันก็ไม่บาป มันจึงเอามาเปรียบเทียบกันไม่ได้ครับ

สรุปว่า การตีความทางธรรม ต้องตีความตาม อักษรที่ออกมา หรือตีความตาม ธรรมะ ที่ปรากฎ

นี่เราเอาเรื่องทางธรรม มาพิจารณา และใช้เหตุผล แบบคนเดินดินหรือ

[ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่]

แต่สิ่งที่ว.วชิระเมธี ลืมคิดไปที่เอาเรื่องฆ่าเวลากับฆ่าคนมาเทียบกัน คือ คนที่ถูกฆ่าไปแล้ว ก็ไม่สามารถฟื้นคืนชีวิตมาได้เช่นกัน ไม่ว่าเวลาที่เหลืออยู่ในชีวิตองคุลิมาลจะมีมากเท่าใด ก็ไม่สามารถทำให้คนที่เขาฆ่าตายแล้วฟื้นขึ้นมาได้ ส่วนการฆ่าเวลานั้น ไม่จำเป็นต้องเป็นบาป เพราะถ้าเวลาที่ผ่านไปหรือที่เราฆ่าไป เราไม่ได้ทำอะไรที่เป็นบาป มันก็ไม่บาป มันจึงเอามาเปรียบเทียบกันไม่ได้ครับ

ตัวสีน้ำตาลที่ผมทำข้อความไว้
แสดงให้เห็นชัดแจ้งว่า โปกไม่ได้เข้าใจอะไรเรื่อง "พุทธจิต" เลย
หยุดเถอะ ยิ่งเขียนยิ่งเลอะ

[Mark Nazi]

...

ขอถามว่า บริกรรมหนอ... แล้วหนออยู่กับเราตลอดหรือไม่
ขอถามว่า การเพ่งเพื่อไปถือยึด กับการเพ่งเพื่อดูความเป็นจริง ต่างกันกันหรือไม่
ขอถามว่า จะพิสูจน์ได้อย่างไรว่าการเพ่งแบบธรรมกายของหลวงพ่อสด ไม่มีขั้นเพ่งเพื่อดูความเป็นจริง หรือไม่มีอุบายให้จิตคลายความยึดติด

[Jagger]

ว.วชิระเมธีเอาเรื่องเวลากับการฆ่าคนมาเปรียบเทียบแบบนี้มันมีช่องโหว่เยอะอะครับ และมันก็ขัดแย้งกันเองด้วย เช่นว.วชิระเมธีอ้างว่า เวลาผ่านแล้วผ่านเลย เรียกกลับมาไม่ได้ ฆ่าเวลาเลยบาปมหันต์ ไม่เหมือนกับการฆ่าคนที่คนที่ฆ่าคนอื่นก็ยังสามารถกลับใจได้ แล้วมายกตัวอย่างองคุลีมาลว่าถึงจะฆ่าคนเป็นร้อยคนก็ยังกลับใจได้เลย แต่ว.วชิระเมธี ลืมคิดไปว่า องคุลีมาลเองก็ฆ่าเวลาเหมือนกัน ที่เอาเวลาที่มีค่าไปทำบาปทำกรรมด้วยการฆ่าคนเป็นร้อยๆคน องคุลีมาลจึงทั้งฆ่าคนและฆ่าเวลาไปด้วยพร้อมๆกัน แต่ในที่สุดองคุลีมาลก็สามารถมากลับตัวกลับใจทีหลังเช่นกัน เพราะฉะนั้นถ้ามองในมุมนี้ การฆ่าเวลาก็สามารถกลับตัวกลับใจเป็นคนดีได้เช่นกัน เห็นไหมครับว่ามันแย้งกันเองแบบนี้ มันเอามาเปรียบกันไม่ได้หรอก ความจริงพระอะ น่าจะศึกษาอะไรให้มันละเอียดลึกซึ้งกว่านี้ ดีกว่าจะมาเทียบอะไรแบบไม่ระวังแบบนี้ รู้ว่าเวลาเป็นเรื่องสำคัญมากก็จริง ต้องใช้อย่างมีสติตลอดเวลา แต่เวลาที่จะสอนหรือจะเอามาเปรียบเทียบกับอะไร ต้องคิดดูให้ดี เหมือนสมัยก่อนผมเคยฟังพระเปรียบเทียบแบบฮาๆ ว่ากินเหล้าไม่ดี เพราะขนาดเอาเหล้ากับขี้ไปให้หมามันกิน หมามันยังเลือกกินขี้เลย อะไรทำนองนี้ ผมละสังเวชกับการสอนคนลักษณะแบบนี้จริงๆ เพราะรับตรรกะไม่ค่อยได้ครับ

[Stargate-1]

...

ขอถามว่า บริกรรมหนอ... แล้วหนออยู่กับเราตลอดหรือไม่
ขอถามว่า การเพ่งเพื่อไปถือยึด กับการเพ่งเพื่อดูความเป็นจริง ต่างกันกันหรือไม่
ขอถามว่า จะพิสูจน์ได้อย่างไรว่าการเพ่งแบบธรรมกายของหลวงพ่อสด ไม่มีขั้นเพ่งเพื่อดูความเป็นจริง หรือไม่มีอุบายให้จิตคลายความยึดติด

ไม่ทราบ คุณปฏิบัติอย่างไร ก็ทำไปอย่างนั้น สุดท้ายก็ไม่พ้นต้องเอาสติออกจากสมาธิเพื่อใช้ปัญญาพิจารณาไตรลักษณ์
ส่วนของหลวงพ่อสดก็มีแต่หลักฐานให้ดู ตามลิงค์ข้างบน http://webboard.seri...100#entry543956 จะดูก็ได้ไม่ดูก็ได้ เป็นแค่หลักฐาน

"ท่าน (หลวงพ่อสด) เข้าใจว่าสิ่งที่เห็นเป็นธรรมกาย อันที่จริงธรรมกายในพระไตรปิฎกมีกล่าวไว้หมายถึง ชื่อพระพุทธเจ้าแต่ไม่ใช่วิชาของพระพุทธเจ้า"

ดังนั้นเจ้าคุณโชดกจึงให้หลวงพ่อสดปฏิบัติตามแนวสติปัฏฐาน โดยให้เดินจงกรม นั่งสมาธิ ระยะแรกหลวงพ่อสด ก็ยังยืนยันเห็นพระพุทธเจ้าในนิพพาน ซึ่งเข้าไปจับมือถือแขนก็ได้,เห็นพระเต็มศาลา ฯลฯ

เจ้าคุณโชดก จึงแนะนำให้กำหนดอารมณ์ใหม่ โดยเมื่อเห็นนิมิตหรือภาพติดตานั้น ซึ่งให้พิจารณาว่า "เห็นหนอ ๆ" เพื่อเป็นการยกเอาจิตหรือเอาสติออกมาจากสมาธิ เพื่อใช้ปัญญาพิจารณาตามหลักศาสนา ปรากฏว่าหลวงพ่อสดกำหนดสติตามแนวดังกล่าว ในที่สุดภาพพระที่เคยเห็นเต็มไปหมดก็หายวับไปกับตา และเข้าใจในหลักไตรลักษณ์ศาสนาคือทุกสิ่งเป็นอนิจจังไม่เที่ยง เป็นทุกขังหรือเป็นทุกข์ และเป็นอนัตตาคือไม่ใช่ตัวตน

หลวงพ่อสดถึงกับกล่าวว่า เราติดอยู่ในญาณหรืออำนาจที่เกิดจากสมาธิมาหลายสิบปี เพิ่งมาหลุดได้ในวันนี้ และเป็นที่มาของรูปถ่าย พร้อมกับลายมือที่หลวงพ่อสดให้ไว้เป็นประจักษ์พยาน

[Stargate-1]

ว.วชิระเมธีเอาเรื่องเวลากับการฆ่าคนมาเปรียบเทียบแบบนี้มันมีช่องโหว่เยอะอะครับ และมันก็ขัดแย้งกันเองด้วย เช่นว.วชิระเมธีอ้างว่า เวลาผ่านแล้วผ่านเลย เรียกกลับมาไม่ได้ ฆ่าเวลาเลยบาปมหันต์ ไม่เหมือนกับการฆ่าคนที่คนที่ฆ่าคนอื่นก็ยังสามารถกลับใจได้ แล้วมายกตัวอย่างองคุลีมาลว่าถึงจะฆ่าคนเป็นร้อยคนก็ยังกลับใจได้เลย แต่ว.วชิระเมธี ลืมคิดไปว่า องคุลีมาลเองก็ฆ่าเวลาเหมือนกัน ที่เอาเวลาที่มีค่าไปทำบาปทำกรรมด้วยการฆ่าคนเป็นร้อยๆคน องคุลีมาลจึงทั้งฆ่าคนและฆ่าเวลาไปด้วยพร้อมๆกัน แต่ในที่สุดองคุลีมาลก็สามารถมากลับตัวกลับใจทีหลังเช่นกัน เพราะฉะนั้นถ้ามองในมุมนี้ การฆ่าเวลาก็สามารถกลับตัวกลับใจเป็นคนดีได้เช่นกัน เห็นไหมครับว่ามันแย้งกันเองแบบนี้ มันเอามาเปรียบกันไม่ได้หรอก ความจริงพระอะ น่าจะศึกษาอะไรให้มันละเอียดลึกซึ้งกว่านี้ ดีกว่าจะมาเทียบอะไรแบบไม่ระวังแบบนี้ รู้ว่าเวลาเป็นเรื่องสำคัญมากก็จริง ต้องใช้อย่างมีสติตลอดเวลา แต่เวลาที่จะสอนหรือจะเอามาเปรียบเทียบกับอะไร ต้องคิดดูให้ดี เหมือนสมัยก่อนผมเคยฟังพระเปรียบเทียบแบบฮาๆ ว่ากินเหล้าไม่ดี เพราะขนาดเอาเหล้ากับขี้ไปให้หมามันกิน หมามันยังเลือกกินขี้เลย อะไรทำนองนี้ ผมละสังเวชกับการสอนคนลักษณะแบบนี้จริงๆ เพราะรับตรรกะไม่ค่อยได้ครับ

บางคนอยู่ในสมถะเป็นสิบๆปี ไม่เหมือนการฆ่าตัวตายหรือ

[สยาม]

ผมสงสัยครับ ทำไมแกนนำสั่งให้ทำชั่วทำเลวเห็นๆ ทั้งให้ปล้น ให้ฆ่า ให้เผา ตรงๆ เน้นๆทั้งประโยคและคำพูด ถึงยังคงเชียร์และชื่นชมกันได้ เป็นสิ่งที่ขัดแย้งกันมาก

[Mark Nazi]

ว.วชิระเมธีเอาเรื่องเวลากับการฆ่าคนมาเปรียบเทียบแบบนี้มันมีช่องโหว่เยอะอะครับ และมันก็ขัดแย้งกันเองด้วย เช่นว.วชิระเมธีอ้างว่า เวลาผ่านแล้วผ่านเลย เรียกกลับมาไม่ได้ ฆ่าเวลาเลยบาปมหันต์ ไม่เหมือนกับการฆ่าคนที่คนที่ฆ่าคนอื่นก็ยังสามารถกลับใจได้ แล้วมายกตัวอย่างองคุลีมาลว่าถึงจะฆ่าคนเป็นร้อยคนก็ยังกลับใจได้เลย แต่ว.วชิระเมธี ลืมคิดไปว่า องคุลีมาลเองก็ฆ่าเวลาเหมือนกัน ที่เอาเวลาที่มีค่าไปทำบาปทำกรรมด้วยการฆ่าคนเป็นร้อยๆคน องคุลีมาลจึงทั้งฆ่าคนและฆ่าเวลาไปด้วยพร้อมๆกัน แต่ในที่สุดองคุลีมาลก็สามารถมากลับตัวกลับใจทีหลังเช่นกัน เพราะฉะนั้นถ้ามองในมุมนี้ การฆ่าเวลาก็สามารถกลับตัวกลับใจเป็นคนดีได้เช่นกัน เห็นไหมครับว่ามันแย้งกันเองแบบนี้ มันเอามาเปรียบกันไม่ได้หรอก ความจริงพระอะ น่าจะศึกษาอะไรให้มันละเอียดลึกซึ้งกว่านี้ ดีกว่าจะมาเทียบอะไรแบบไม่ระวังแบบนี้ รู้ว่าเวลาเป็นเรื่องสำคัญมากก็จริง ต้องใช้อย่างมีสติตลอดเวลา แต่เวลาที่จะสอนหรือจะเอามาเปรียบเทียบกับอะไร ต้องคิดดูให้ดี เหมือนสมัยก่อนผมเคยฟังพระเปรียบเทียบแบบฮาๆ ว่ากินเหล้าไม่ดี เพราะขนาดเอาเหล้ากับขี้ไปให้หมามันกิน หมามันยังเลือกกินขี้เลย อะไรทำนองนี้ ผมละสังเวชกับการสอนคนลักษณะแบบนี้จริงๆ เพราะรับตรรกะไม่ค่อยได้ครับ

เคยได้ยินคำว่าปุถุชนฉลาดได้ไม่เกินนรกไหมครับ

...

เอาจิตของจากสมาธิ แล้วจิตจะมีกำลังหรือครับ

[Stargate-1]

...

เอาจิตของจากสมาธิ แล้วจิตจะมีกำลังหรือครับ

"ท่าน (หลวงพ่อสด) เข้าใจว่าสิ่งที่เห็นเป็นธรรมกาย อันที่จริงธรรมกายในพระไตรปิฎกมีกล่าวไว้หมายถึง ชื่อพระพุทธเจ้าแต่ไม่ใช่วิชาของพระพุทธเจ้า"

ดังนั้นเจ้าคุณโชดกจึงให้หลวงพ่อสดปฏิบัติตามแนวสติปัฏฐาน โดยให้เดินจงกรม นั่งสมาธิ ระยะแรกหลวงพ่อสด ก็ยังยืนยันเห็นพระพุทธเจ้าในนิพพาน ซึ่งเข้าไปจับมือถือแขนก็ได้,เห็นพระเต็มศาลา ฯลฯ

เจ้าคุณโชดก จึงแนะนำให้กำหนดอารมณ์ใหม่ โดยเมื่อเห็นนิมิตหรือภาพติดตานั้น ซึ่งให้พิจารณาว่า "เห็นหนอ ๆ" เพื่อเป็นการยกเอาจิตหรือเอาสติออกมาจากสมาธิ เพื่อใช้ปัญญาพิจารณาตามหลักศาสนา ปรากฏว่าหลวงพ่อสดกำหนดสติตามแนวดังกล่าว ในที่สุดภาพพระที่เคยเห็นเต็มไปหมดก็หายวับไปกับตา และเข้าใจในหลักไตรลักษณ์ศาสนาคือทุกสิ่งเป็นอนิจจังไม่เที่ยง เป็นทุกขังหรือเป็นทุกข์ และเป็นอนัตตาคือไม่ใช่ตัวตน

หลวงพ่อสดถึงกับกล่าวว่า เราติดอยู่ในญาณหรืออำนาจที่เกิดจากสมาธิมาหลายสิบปี เพิ่งมาหลุดได้ในวันนี้ และเป็นที่มาของรูปถ่าย พร้อมกับลายมือที่หลวงพ่อสดให้ไว้เป็นประจักษ์พยาน

[Mark Nazi]

...

อย่ากลัวฌานครับ ได้แล้วค่อยมาว่ากันต่อ ว่าติดสุขในฌานกับการทำฌานมันต่างกันอย่างไร

[Stargate-1]

...

อย่ากลัวฌานครับ ได้แล้วค่อยมาว่ากันต่อ ว่าติดสุขในฌานกับการทำฌานมันต่างกันอย่างไร

เคยมีก็ต้องมี ไม่เคยมีจะไปเอามาจากไหนง่ายๆกันในภพเดียว
'จิตผู้รู้เหมือนฟองไข่ เมื่อลูกไก่นั้นนะเติบโตเต็มที่แล้ว มันจะเจาะทำลายเปลือกออกมาเอง'

Edited by Stargate-1, 18 December 2012 - 23:10.

[arch_freeman]

มันเป็นกรรมของผู้หญิงคนนี้

ชีวิตเธอจะไม่มีความสุข ทั้งภพนี้ และ ภพหน้า