Jump to content


Photo
- - - - -

ขอสีซอเป็นอุทาหรณ์กรณีฟังไม่ได้ศัพท์ จับไปกระเดียดของเหล่าใต้ตม...


  • Please log in to reply
107 replies to this topic

#51 wat

wat

    เนตังมะมะ เนโสหะมัสมิ นะเมโสอัตตา.

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,542 posts

Posted 18 December 2012 - 13:29

1) ท่านว่า พระไตรปิฎก มีกี่ฉบับครับ... สังคายนากันมากี่ที... ของไทยลาวเขมรทิเบตจีน เหมือนกันหรือป่าวครับ...ถ้าสิ่งในพระไตรปิฎกเป็นหลักฐาน...ไบเบิลก็ด้วยใช่ไหมครับ...
เออ ชาดก.. เรื่องเล่า... เรื่อง บ้าเรื่องบอ ที่มีคนเขียน... เป็นหลักฐานกันหมดเลย... เอาละครับ... หนุนหนาน...

2)ที่ท่านว่า มีใน พุทธวัจนะ แล้วเชื่อได้...ท่านเชื่อว่า เต่าพูดได้ หรือป่าว... จาก เรื่อง...เต่าติดชนัก จากขุมทรัพย์จากพระโอษฐ์ หมวดที่ ๓ ว่าด้วย เกียรติและลาภสักการะ


ผมไม่เอาเรื่อง ***พูดได้ที่เป็นตำนาน เพราะ อันนั้น มันชาดก... พระพุทธเจ้าไม่ได้พูดเอง..


1. พระไตรปิฎกมีกี่ฉบับ...เอาเป็นว่ารู้มั้ยรู้วิธีตรวจสอบมั้ย ส่วนใดเป็นคำพระพุทธองค์... แล้วถ้าไม่ใช่หลักฐาน แล้วทฤษฎีสัมพันธภาพ หรือกฎแรงโน้มถ่วงของสสารก็คงไม่ใช่หลักฐานในแง่ความจริงเหมือนกันมั้ง...

2. เต่าพูดได้หรือไม่สมัยนั้น ไม่ทราบ... แต่ถ้าจำไม่ผิดเป็นเหมือนนิทาน หรือคำเปรียบเปรยยกตัวอย่างของพระพุทธองค์ที่ใช้ในหลายๆเรื่อง...

<_< ก่อนอื่นเอา 1. ก่อนเหอะ แยกเป็นหรือเปล่าที่ยกมาอ้างน่ะ ของจริงหรือของแต่งเติม...
:) Sometime...Sun shine through the rain...

#52 คนทุกที่

คนทุกที่

    ชนชั้นกลาง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,480 posts

Posted 18 December 2012 - 13:30

คือที่ท่านโพสหนแรก ท่านยังคิดว่าเสื้อแดงจะฉลาดพอจะเข้าใจค่ะ แต่พอเห็นว่ามันโง่ได้โล่ ตีความไม่แตกแถมเอาไปพูดมั่วๆ ท่านเลยโพสใหม่ให้เข้าใจง่ายกว่าเดิม แต่ก็ไม่วาย

ผึ้งคิดว่านะ

#53 eAT

eAT

    ผมเป็นเสื้อแดงฮับ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,589 posts

Posted 18 December 2012 - 13:33

มารอดูผู้เชียวชาญ "พุทธศาสนา" ด่าพระดูครับ
ว่ามีภูมิความรู้แค่ไหน หรือได้แค่เสียดสีผิดๆ ถูกๆ
ไม่กล้าฟันประเด็นตรงๆ มีแต่ตั้งคำถามอย่างเดียว


ตอนนี้โผล่มา 2 ตัวแล้ว อย่าหลบอย่าเลี่ยงนะครับ
รออ่านอยู่

#54 wat

wat

    เนตังมะมะ เนโสหะมัสมิ นะเมโสอัตตา.

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,542 posts

Posted 18 December 2012 - 13:35

มารอดูผู้เชียวชาญ "พุทธศาสนา" ด่าพระดูครับ
ว่ามีภูมิความรู้แค่ไหน หรือได้แค่เสียดสีผิดๆ ถูกๆ
ไม่กล้าฟันประเด็นตรงๆ มีแต่ตั้งคำถามอย่างเดียว


ตอนนี้โผล่มา 2 ตัวแล้ว อย่าหลบอย่าเลี่ยงนะครับ
รออ่านอยู่


-_- ตัวแรกพอว่าขอรับ แต่ตัวสอง อัปเปหิขอรับ...ไม่ขอยุ่งเกี่ยว

<_< ขี้เกียจเปิดกุ๊กเกิ้ง ไปก๊อปมาแปะแข่งกับมัน... ไม่เห็นประโยชน์ และสร้างความเจริญอันใดกับกระพ๊มขอรับ... อัปเปหิๆๆ
:) Sometime...Sun shine through the rain...

#55 สิงห์สนามหลวง

สิงห์สนามหลวง

    ขาประจำ

  • Banned
  • PipPipPip
  • 1,923 posts

Posted 18 December 2012 - 13:36

เข้ามาช่วยสีซอ และตอกย้ำอีกครั้งหนึ่ง




...กลายไปเป็น "การฆ่าเวลาบาปกว่าการฆ่าคน" หรือแปลว่า "ฆ่าคนบาปน้อยกว่าฆ่าเวลา" ได้อย่างไร...



<_< ก่อนเห่าหอนใดๆ กรุณาแหกตาดูโลโก้สื่อที่มันนำเสนอเสียก่อนนะขอรับ...มันคอนเฟิร์มมาเองว่าของแท้...

-_- พลิกสำนวนนิดเดียว ไม่ใช้ปัญญาใคร่ครวญ, ไม่ตรวจสอบสัจธรรมด้วยปัญญา ใช้แต่มิจฉาทิฐฐิ... นั่นนำไปสู่อบายทุคติวินิตบาตนะขอรับ ...นรกน่ะ รู้จักมั้ย...



17 ม.ค. 2010 (2553)
Posted Image

?
Posted Image

9 เม.ย. 2010
Posted Image

...
Posted Image

?
Posted Image

...
Posted Image


ผมว่าผมตอบตรงตัวโจทย์นะครับ
รักคนเสื้อแดง

#56 ปังตอ

ปังตอ

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,229 posts

Posted 18 December 2012 - 13:37

ผมว่าไม่ต้องถึงกับสมาธิขั้นสูงหรอกมั้ง...ขั้นปีติ ก้อเหาะ...ลอยตัวได้แล้วนี่น่า

ส่วนอันนี้...เหอๆ ถ้า วิจารณ์ ไม่ได้.. จะมีบาปติดตัว... สงสัยบ้านเรามีปัญหาในการสอนศาสนา...

อันนี้ก็ ปริศนาธรรม นะครับ... ตีความกันดี...
วิกิจกิจฉา...ท่านบอกว่าอย่าสงสัยในคำสอน ให้พิสูจน์เอา อย่ามัวแต่นั่งเดาเอา มันไม่รู้จริงหรอก


เรื่องธรรมะ มันต้องดูต่างเวลาต่างสถานที่ต่างบุคคลกัน เป็นไปตามวิสัยของแต่ล่ะคนด้วย
ฉะนั้นถ้าจะมีใครเข้าใจในธรรมะ ข้อไหน วรรคไหน ก้ออย่าไปดูถูก หรือปรามาส..หมิ่นเลยครับ

แม้แต่ในสมัยพุทธกาล พระพุทธองค์ยังมีสอนแย้งกันอยู่เลย..... -_-

ลูกหลานที่รัก จงจำปฏิปทานี้ไว้ “ถ้ามีความจำเป็นเราต้องเสียสละเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และปวงชนชาวไทย แม้แต่ชีวิตก็ต้องยอม”

 


#57 ปังตอ

ปังตอ

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,229 posts

Posted 18 December 2012 - 13:43

แต่ถ้าจะปรามาสพระที่ท่านทรงฌาน...(ขั้นไหนก้อตามแต่) ผมว่าถอยเถอะครับ เรื่องพระเรื่องเจ้าเนี่ย
ไม่มีผลดีต่อตัวเองหรอก อย่าเอาอคติที่มีอยู่มาตัดสินในสิ่งที่คุณหรือใครยังไม่รู้เลย
มันจะเป็นบาปติดตัวกันเปล่าๆ....


มีครั้งนึง (ไม่มีหลักฐานน่ะครับ) เคยได้คุยกับครูบาอาจารย์ ได้พูดถึงท่าน ว.
ท่านบอกว่า...องค์นี้สำคัญ อย่าได้คิดปรามาสเชียว ท่านให้ไว้แค่นี้

เลว-ชั่ว-ดี ยังไง อย่าไปเพ่งเล็งคนอื่นเลยครับ ดูตัวเราเองดีกว่า ว่าเป็นยังไง :)

ลูกหลานที่รัก จงจำปฏิปทานี้ไว้ “ถ้ามีความจำเป็นเราต้องเสียสละเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และปวงชนชาวไทย แม้แต่ชีวิตก็ต้องยอม”

 


#58 eAT

eAT

    ผมเป็นเสื้อแดงฮับ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,589 posts

Posted 18 December 2012 - 13:46

สิงห์จอมก๊อปปี้ ก็ไม่กล้า ได้แต่ตัดปะอีก
ผิดตรงไหแจงออกมาเลย


แล้วรู้หรือเปล่า พระพุทธเจ้ายังบอกให้ฆ่าคนเสียก็มี
(ปริศนาธรรม)

#59 isa

isa

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 447 posts

Posted 18 December 2012 - 13:46

มู้นี้ตรงกว่า... มู้ก่อนขออภัย... :D

งานนี้ ต้องนี่...



ทั้งนี้ คลิปดังกล่าวได้บันทึกการสนทนาระหว่าง พิธีกรและท่าน ว.วชิรเมธี โดยพิธีกรได้ถามว่า"จริงหรือไม่ ถ้ามนุษย์นั่งสมาธิขั้นสูงแล้ว จะเหาะได้ ลอยได้" ทางท่าน ว.วชิรเมธี ตอบว่า เป็นเรื่องธรรมดาที่สุดในแวดวงศาสนา แต่เขาไม่พูดกันเพราะมันไม่มีราคา เมื่อสมัยก่อนมนุษย์ไม่ได้เดินเท้า หรือใช้เครื่องบิน แต่อย่างใด เขาใช้วิธีเหาะเหินเดินหาว เพราะจิตเขามีวิวัฒนาสูงสุด เขาไม่ได้มีวัตถุมารองรับกาย เพราะเป็นที่รู้ดีกันอยู่แล้วว่า จิตมีอำนาจมากขนาดนั้น


:D


...เรื่องบรรลุพลังจิตขั้นสูงแล้วเหาะได้หรือไม่ เรื่องนั้นเป็นอีกเรื่อง...
ลองมาดูคลิปนี้กัน



คลิปนี้ไม่ใช่การเหาะนะครับ แต่เป็นการวิ่งที่เรียกว่า Free Running เป็นเหมือนสตั๊นต์กลายๆ
แต่ที่ให้ดูก็คือ นี่เป็นอีกแนวคิดหนึ่งของการวิ่ง ที่ไม่ใช่เป็นการใช้กล้ามเนื้อล้วนๆอย่างการจ๊อกกิ้ง
หรือการสปรินท์ หรือวิ่งมาราธอนที่เราคุ้นเคยกัน แต่เป็นการวิ่งโดยอาศัยการ Flow ของพลังงานจลน์
การฝึกกล้ามเนื้อนั้น เน้นไปที่การควบคุมกล้ามเนื้อให้เลื่ือนไหลตามการเคลื่อนไหวได้โดยไม่เกิดการขัดขวาง
ซึง่จะทำให้เกิดการบาดเจ็บ ฉีกขาด เรียกว่าใช้พลังกล้ามเนื้อน้อยมาก จะเห็นว่าพวกนี้กระโดดข้ามตึก
หรือกระโจนลงมาจากความสูงระดับตึกสามชั้นได้โดยไม่เป็นอันตรายเลย

นอกจากสนใจเรื่องพุทธ ผมก็สนใจเรื่องชี่กง หรือกังฟูจีนอยู่บ้าง ในแง่ของสุขภาพ และเคยข้องใจเรื่องของวิชาตัวเบา
ว่ามีจริงหรือ แต่พอเห็นฟรีรันนิ่งเข้า ผมก็ถึงบางอ้อว่าที่แท้วิชาตัวเบามันก็น่าจะเป็นแบบนี้นี่เอง

ขณะที่ในเชิงวิทยาศาสตร์ ระบุว่าการเคลื่อนไหวเกิดขึ้นที่สมองสั่งไปที่ประสาท และประสาทสั่งต่อไปที่กล้ามเนื้อ
แต่วิชากังฟูจีนสอนว่า การเคลื่อนไหวเริ่มที่เจตจำนง (อี้) ที่จะไปควบคุมชี่ (ผมคิดว่าในเชิงตะวันออกชี่ก็คือสิ่งที่เรียกว่าธาตุลม)
และเมื่อธาตุลมหรือชี่เคลื่อน ร่างกายจึงเคลื่อนตาม นักกังฟูหรือคนที่ฝึกกายกรรม หรือพวกนักเต้นรำที่ฝึกฝนไปถึงขั้นหนึ่ง
จะสัมผัสได้ถึงสิ่งนี้ และสามารถเคลื่อนไหวกายได้อย่างที่คนธรรมดาไม่อาจทำได้

มอริเฮย์ อุยาชิบะ ปรมาจารย์ไอกิโด ในวัยเก้าสิบกว่า ต้องหามไปโรงฝึก แต่พอถึงโรงฝึก แกก็ลุกขึ้น จับลูกศิษย์ทุ่มเป็นว่าเล่น
แล้วขากลับก็ให้ลูกศิษย์หามกลับ นี่ก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจ



ผมเอง ฝึกชี่กงเล่นๆ ในแง่ของรักษาสุขภาพมากกว่า แต่ก็ทำอะไรเล่นๆได้นิดหน่อย เช่นสมัยทำเสิร์ฟอยู่ญี่ปุ่นก็แบกถังขยะร้านสุกี้
หนักร่วมร้อยกว่าโลวิ่งขึ้นบันไดให้เด็กญี่ปุ่นเหวอเล่นบ่อยๆ

ก็เลยเข้าใจโลกในแง่ที่ว่า โลกนี้อยู่ที่มุมมองของคุณ ถ้าคุณมองมันแง่หนึ่ง คุณก็จะจำกัดตัวเองอยู่ในแง่นั้น และด้วยข้อบังคับนั้นๆ
แต่ถ้าคุณมองมันในแง่อื่น ในทฤษฎีอื่น โลกก็อาจจะตอบสนองในแง่มุมที่ต่างออกไปที่อาจทำให้คนอื่นๆตาค้าง ทั้งๆที่มันก็คือ
กฎธรรมชาติอีกกฎหนึ่งเท่านั้นเอง ไม่ได้ฝืนธรรมชาติตรงไหน

ถ้าคนที่อาศัยเจตจำนงระดับหนึ่ง ควบคุมการโฟลวของพลังงานจลน์ได้ระดับหนึ่งทำได้แค่นี้ ผมก็อยากรู้อยู่เหมือนกันว่าถ้าคนที่มีสมาธิในระดับฌาณ
ที่ควบคุมธาตุลมแล้วเล่นกับมันได้อย่างใจคิด จะทำอะไรแปลกๆที่มนุษย์ธรรมดาทำไม่ได้ ได้แค่ไหน :)

...โลกนี้ไม่ได้มีแค่ที่ตาคุณเห็นหรอกครับ.... :)

Edited by isa, 18 December 2012 - 13:50.


#60 Somebody

Somebody

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,938 posts

Posted 18 December 2012 - 13:49

ต้องพระแบบนี้ครับ เสื้อแดงถึงจะศรัทธา :D

Posted Image

Posted Image

Posted Image

Posted Image

Posted Image

Posted Image


Posted Image

Posted Image

Edited by Somebody, 18 December 2012 - 13:50.


#61 hentai

hentai

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,046 posts

Posted 18 December 2012 - 13:52


1) ท่านว่า พระไตรปิฎก มีกี่ฉบับครับ... สังคายนากันมากี่ที... ของไทยลาวเขมรทิเบตจีน เหมือนกันหรือป่าวครับ...ถ้าสิ่งในพระไตรปิฎกเป็นหลักฐาน...ไบเบิลก็ด้วยใช่ไหมครับ...
เออ ชาดก.. เรื่องเล่า... เรื่อง บ้าเรื่องบอ ที่มีคนเขียน... เป็นหลักฐานกันหมดเลย... เอาละครับ... หนุนหนาน...

2)ที่ท่านว่า มีใน พุทธวัจนะ แล้วเชื่อได้...ท่านเชื่อว่า เต่าพูดได้ หรือป่าว... จาก เรื่อง...เต่าติดชนัก จากขุมทรัพย์จากพระโอษฐ์ หมวดที่ ๓ ว่าด้วย เกียรติและลาภสักการะ

ผมไม่เอาเรื่อง ***พูดได้ที่เป็นตำนาน เพราะ อันนั้น มันชาดก... พระพุทธเจ้าไม่ได้พูดเอง..


1. พระไตรปิฎกมีกี่ฉบับ...เอาเป็นว่ารู้มั้ยรู้วิธีตรวจสอบมั้ย ส่วนใดเป็นคำพระพุทธองค์... แล้วถ้าไม่ใช่หลักฐาน แล้วทฤษฎีสัมพันธภาพ หรือกฎแรงโน้มถ่วงของสสารก็คงไม่ใช่หลักฐานในแง่ความจริงเหมือนกันมั้ง...

2. เต่าพูดได้หรือไม่สมัยนั้น ไม่ทราบ... แต่ถ้าจำไม่ผิดเป็นเหมือนนิทาน หรือคำเปรียบเปรยยกตัวอย่างของพระพุทธองค์ที่ใช้ในหลายๆเรื่อง...

<_< ก่อนอื่นเอา 1. ก่อนเหอะ แยกเป็นหรือเปล่าที่ยกมาอ้างน่ะ ของจริงหรือของแต่งเติม...


เออ ดีเนอะ... เต่าพูดได้ เป็น การเปรียบเปรย...
คนเหาะได้... เป็นของจริง...

ท่านว่า ... " แยกเป็นหรือเปล่าที่ยกมาอ้างน่ะ ของจริงหรือของแต่งเติม."

นั้นสิครับ... ผมถึงถามท่านไง.. ก็ ในเมื่อเชื่อคำภีร์แล้วจะเชื่อเล่มไหน ฉบับไหน... ศาสนาไหน... หรือ
เชื่อเฉพาะ..ที่อยากเชื่อ... :D

"คนโง่มักจะชอบว่าคนอื่นว่าโง่"

"ถ้าคนเราคิดเหมือนกันหมด ก็ไม่มีเลือกตั้งซิครับ"

"ผมไม่พูด เรื่อง 112 แล้ว นะครับ กรุณาอย่าถาม (17 พค 2012)"


#62 คนทุกที่

คนทุกที่

    ชนชั้นกลาง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,480 posts

Posted 18 December 2012 - 13:55

คุณเองก็เลือกที่จะไม่เชื่อเพราะท่าน ว. ไม่เชียร์ทักษิณเหมือนกันไม่ใช่เหรอ แบบห้องหว้ากอที่เคยโจมตีจีที 200 ซะเละ แต่พอรัฐบาลนี้เอากลับมาใช้ใหม่ดันเงียบไง

#63 hentai

hentai

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,046 posts

Posted 18 December 2012 - 13:58

แต่ถ้าจะปรามาสพระที่ท่านทรงฌาน...(ขั้นไหนก้อตามแต่) ผมว่าถอยเถอะครับ เรื่องพระเรื่องเจ้าเนี่ย
ไม่มีผลดีต่อตัวเองหรอก อย่าเอาอคติที่มีอยู่มาตัดสินในสิ่งที่คุณหรือใครยังไม่รู้เลย
มันจะเป็นบาปติดตัวกันเปล่าๆ....


มีครั้งนึง (ไม่มีหลักฐานน่ะครับ) เคยได้คุยกับครูบาอาจารย์ ได้พูดถึงท่าน ว.
ท่านบอกว่า...องค์นี้สำคัญ อย่าได้คิดปรามาสเชียว ท่านให้ไว้แค่นี้

เลว-ชั่ว-ดี ยังไง อย่าไปเพ่งเล็งคนอื่นเลยครับ ดูตัวเราเองดีกว่า ว่าเป็นยังไง :)


การที่ผมไม่เห็นด้วย และ วิจารณ์ท่าน ว เรื่อง เหาะได้ไม่ได้แปลว่า ผมไม่เชื่อความเห็นท่านในเรื่องอื่นๆ...

ย้ำคำเดิม...
ถ้า วิจารณ์ ไม่ได้.. จะมีบาปติดตัว... สงสัยบ้านเรามีปัญหาในการสอนศาสนา... :D

"คนโง่มักจะชอบว่าคนอื่นว่าโง่"

"ถ้าคนเราคิดเหมือนกันหมด ก็ไม่มีเลือกตั้งซิครับ"

"ผมไม่พูด เรื่อง 112 แล้ว นะครับ กรุณาอย่าถาม (17 พค 2012)"


#64 สิงห์สนามหลวง

สิงห์สนามหลวง

    ขาประจำ

  • Banned
  • PipPipPip
  • 1,923 posts

Posted 18 December 2012 - 13:58

คุณ eAT ตีโจทย์ไม่แตกหรือ?
ให้คุณ eAT สังเกตตัวแดงๆ นะครับ

ปล. ส่วนจะถกธรรม ถกอะไรก็เชิญตามสบาย สิงห์ฯขอบาย

สิงห์จอมก๊อปปี้ ก็ไม่กล้า ได้แต่ตัดปะอีก
ผิดตรงไหแจงออกมาเลย


แล้วรู้หรือเปล่า พระพุทธเจ้ายังบอกให้ฆ่าคนเสียก็มี
(ปริศนาธรรม)




...กลายไปเป็น "การฆ่าเวลาบาปกว่าการฆ่าคน" หรือแปลว่า "ฆ่าคนบาปน้อยกว่าฆ่าเวลา" ได้อย่างไร...



<_< ก่อนเห่าหอนใดๆ กรุณาแหกตาดูโลโก้สื่อที่มันนำเสนอเสียก่อนนะขอรับ...มันคอนเฟิร์มมาเองว่าของแท้...

-_- พลิก สำนวนนิดเดียว ไม่ใช้ปัญญาใคร่ครวญ, ไม่ตรวจสอบสัจธรรมด้วยปัญญา ใช้แต่มิจฉาทิฐฐิ... นั่นนำไปสู่อบายทุคติวินิตบาตนะขอรับ ...นรกน่ะ รู้จักมั้ย...


รักคนเสื้อแดง

#65 wat

wat

    เนตังมะมะ เนโสหะมัสมิ นะเมโสอัตตา.

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,542 posts

Posted 18 December 2012 - 14:02

-_- เอาไม่เถียง... ทุกท่านผู้มีวิจารณญาณลองอ่านดูว่าพระพุทธองค์ตรัสถึงเรื่องนี้ว่าอะไร... เต่าพูดกับคนรู้เรื่อง? อย่างลามกว่า หรือเล่าเรื่องในอดีตถึงเต่ากับเต่า...

เต่าติดชนัก๑
ภิกษุ ท. ! ลาภสักการะและเสียงเยินยอ เป็นอันตรายที่ทารุณแสบเผ็ด หยาบคาย ต่อการบรรลุพระนิพพาน อันเป็นธรรมเกษมจากโยคะ ไม่มีธรรมอื่นยิ่งกว่า.ภิกษุ ท. ! เรื่องเคยมีมาแล้วแต่หนหลัง : มีเต่าพันธุ์เดียวกันจำนวนมาก ฝูงหนึ่ง อาศัยอยู่นมนานในห้วงน้ำลึกแห่งหนึ่ง. ครั้งนั้นเต่าตัวหนึ่งได้เข้าไปหาเต่าอีกตัวหนึ่งถึงที่อยู่ แล้วพูดว่า “พ่อเต่าเอ๋ย ! เจ้าอย่าได้ไปเที่ยวหากินทางถิ่นโน้นเลย”. ภิกษุ ท. ! เต่า (ตัวที่สอง) ก็ยังขืนไปทางถิ่นนั้น.ชาวประมงได้แทงเต่าตัวนั้นด้วยชนัก. กาลต่อมา เต่า (ตัวที่สอง) ได้เข้าไปหาเต่า (ตัวที่หนึ่ง) ถึงที่อยู่. เต่า (ตัวที่หนึ่ง) ได้เห็น เต่า (ตัวที่สอง) มาแต่ไกล,ครั้นเห็นจึงกล่าวทักว่า “พ่อเต่า ! เจ้าไม่ได้ไปเที่ยวหากินทางถิ่นโน้นไม่ใช่หรือ ? ”“พ่อเต่า ! เราได้ไปมาเสียแล้ว”.“อย่างไร พ่อเต่า ! ก็เจ้าถูกแทงถูกตีมาบ้างไหม ?”...“พ่อเต่าเอ๋ย ! เราถูกแทงถูกตีเสียแล้ว นี่ เชือกสายชนัก ยังมีติดหลังเรามาด้วย”.“พ่อเต่าเอ๋ย ! สมน้ำหน้าที่ถูกแทง สมน้ำหน้าแล้วที่ถูกตี. พ่อเต่าเอ๋ย !พ่อของเจ้า ปู่ของเจ้า ได้รับทุกข์ถึงความพินาศด้วยเชือกเส้นนี้เหมือนกัน.เจ้าจงไปเสียเดี๋ยวนี้เถิด. บัดนี้เจ้าไม่ใช่พวกของเราแล้ว”.

ภิกษุ ท. ! คำว่า “ชาวประมง” เป็นคำชื่อแทนคำว่า “มารผู้มีบาป”. คำว่า “ชนัก” เป็นคำชื่อแทนคำว่า “ลาภสักการะและเสียงเยินยอ”. คำว่า “เชือกด้าย” เป็นคำชื่อแทนคำว่า “นันทิราคะ(ความกำหนัดยินดีเพราะเพลิน)”. ภิกษุ ท. ! ก็ภิกษุรูปใดรูปหนึ่งยังรู้สึกอร่อยติดใจในลาภสักการะและเสียงเยินยอที่เกิดขึ้น หรือดิ้นรนใคร่ที่จะได้อยู่ ; ภิกษุนี้ เราเรียกว่า ภิกษุผู้ได้รับทุกข์ ถึงความพินาศด้วยชนัก แล้วแต่มารผู้มีบาป ใคร่จะทำประการใด.ภิกษุ ท. ! ลาภสักการะและเสียงเยินยอ เป็นอันตรายที่ทารุณแสบเผ็ดหยาบคาย ต่อการบรรลุพระนิพพาน อันเป็นธรรมเกษมจากโยคะ ไม่มีธรรมอื่นยิ่งกว่า ด้วยอาการอย่างนี้. เพราะฉะนั้น ในเรื่องนี้ พวกเธอทั้งหลายพึงสำเหนียกใจไว้ดังนี้ว่า “เราทั้งหลาย จักไม่เยื่อใยในลาภสักการะและเสียงเยินยอที่เกิดขึ้น. อนึ่ง ลาภสักการะและเสียงเยินยอที่เกิดขึ้นแล้ว ต้องไม่มาห่อหุ้มอยู่ที่จิตของเรา”. ภิกษุ ท. ! พวกเธอทั้งหลาย พึงสำเหนียกใจไว้อย่างนี้แล.

บาลี พระพุทธภาษิต นิทาน. สํ. ๑๖/๒๖๗/๕๔๒-๕๔๔.
หมวดที่ ๓ ว่าด้วยเกียรติและลาภสักการะ

Edited by wat, 18 December 2012 - 14:03.

:) Sometime...Sun shine through the rain...

#66 HiddenMan

HiddenMan

    Long Live The King

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 12,023 posts

Posted 18 December 2012 - 14:02





ท่านจะสอนลูกๆให้เชื่อใคร... เชื่อในสิ่งบอกเล่าจากนักบวชที่ยังไม่มีหลักฐาน

หรือ เชื่อ คนที่พูดจากหลักฐานและความรู้เท่าที่มีในตอนนั้น...




ม๊าก ตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร
ม๊าก 2 สัญชาติ

มีแต่ผู้เชี่ยวชาญบอกทั้งนั้น


ที่ท่านว่ามา.. มีทั้งม้าก บอกเอง...
และ พรรคร่วม ที่ ไม่มีเค้าไม่มีเราบอก...
ไม่รู้ว่า ทั้ง สองอย่าง นับเป็น... ผู้เชี่ยวชาญ ได้หรือป่าว... :D


ม๊าก บอกเลยรอหรอครับ ว่าผม นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จัดตั้งรัฐบาลขึ้นภายในค่ายทหาร... ถ้าอันนี้ผมตกข่าว ก็ต้อขออภัย... :D อยากดูข่าวนั้นบ้าง

พรรคร่วมฯ เป็นผู้เชี่ยวชาญมั๊ย จากหลักฐานและความรู้เท่าที่ มีในตอนนั้น... :D

คงไม่ล่ะครับ เพราะตอนโหวตเลือก มาร์ค ก็เห็นนั่งหน้าสลอน กันเต็มสภา รวมทั้งคู่แข่ง อย่าง ป่าช้า ด้วย

ไม่รู้นัดตั้งรัฐบาลในค่ายทหารกันยังไง ทำไม ป่าช้า ถึงไปสภา ไม่ไปค่ายทหาร ป่าช้า ไปผิดที่แบบ ลุงหมักแน่เลย

เรื่องผู้เชี่ยวชาญ คงต้องรอข่าว มาร์ค แต่เรื่อง หลักฐาน ยังไม่เห็นจริง


อ่านดีๆ... ก็จะรู้ว่า ผมหมายถึงอภิสิทธิ บอกเองว่า ถือสองสัญชาติ ไม่ใช่ ตั้ง รบ ในค่ายทหาร... เฮ้อ.....

มาติววิชาอ่านจับใจความกัน...

“ผมเกิดที่อังกฤษ ถือสัญชาติไทย ตั้งใจทำงานเพื่อประเทศไทย ไม่คิดถือสัญชาติอื่นแล้วไปหาผลประโยชน์ในประเทศอื่น ไม่คิดขอลี้ภัย แล้วไปขอสัญชาติประเทศเขา เพื่อไปหาผลประโยชน์จากประเทศอื่น จะแลกกันไหม ถ้าไม่มีผลประโยชน์ใดๆ ผมไม่มีปัญหาอยู่ในใจอยู่ในหัวในตัว ผมสละได้ และได้ไปถามนักวิชาการ และ กกต.(คณะกรรมการการเลือกตั้ง) เขาบอกว่าไม่มีปัญหา ถ้าจะไล่ให้ถือสัญชาติเดียวก็ยินดี ถ้าจะให้ผมสละสัญชาติอังกฤษ ผมก็สละได้ แต่คนของท่านที่ถือพาสปอร์ตหลายประเทศ ก็ต้องสละด้วย จะยอมหรือไม่”


1) ผมไม่มีปัญหาอยู่ในใจอยู่ในหัวในตัว ผมสละได้ และได้ไปถามนักวิชาการ และ กกต.(คณะกรรมการการเลือกตั้ง) เขาบอกว่าไม่มีปัญหา
ถามว่า... ผู้พูด บอกว่า สละอะไรได้...
ก สัญชาติไทย
ข สัญชาติ อังกฤษ
ค สัญชาติ เขมร
ง เรื่อง สมมติ หนูไม่รู้...

2) "ถ้าจะไล่ให้ถือสัญชาติเดียวก็ยินดี ถ้าจะให้ผมสละสัญชาติอังกฤษ ผมก็สละได้"
ถามว่า ผู้พูดคิดว่าตัวเองมีกี่สัญชาติ..
ก มีสัญชาติเดียว
ข สองสัญชาิต
ค สามสัญชาติ
ง เรื่อง สมมติ หนูไม่รู้...

ไม่เกี่ยวกับ คุณม้ากนะครับ... โจทย์ปัญหาอ่านจับใจความธรรมดา...
:D



:D ตรงไหนที่ hentai บอกว่าอันนี้ตอบข้อไหน ยกมา 2 ข้อ ตอบข้อเดียวก็ไม่ใช่ เพราะมีพรรคร่วมฯ
ตอบ 2 ข้อหรอ ก็ไม่เรียงลำดับอีก จะรู้หรือเปล่าว่าอันไหน ตอบข้อไหน
ก็ไปได้เรื่อยๆ

“ผมเกิดที่อังกฤษ ถือสัญชาติไทย ตั้งใจทำงานเพื่อประเทศไทย ไม่คิดถือสัญชาติอื่นแล้วไปหาผลประโยชน์ในประเทศอื่น ไม่คิดขอลี้ภัย แล้วไปขอสัญชาติประเทศเขา เพื่อไปหาผลประโยชน์จากประเทศอื่น จะแลกกันไหม ถ้าไม่มีผลประโยชน์ใดๆ ผมไม่มีปัญหาอยู่ในใจอยู่ในหัวในตัว ผมสละได้ และได้ไปถามนักวิชาการ และ กกต.(คณะกรรมการการเลือกตั้ง) เขาบอกว่าไม่มีปัญหา ถ้าจะไล่ให้ถือสัญชาติเดียวก็ยินดี ถ้าจะให้ผมสละสัญชาติอังกฤษ ผมก็สละได้ แต่คนของท่านที่ถือพาสปอร์ตหลายประเทศ ก็ต้องสละด้วย จะยอมหรือไม่”


จงใจจะอ่านจับใจความเฉพาะที่ตรงจริตซิ่นะ ต้นประโยคว่าไง หนูไม่รู้

2 ประโยคที่ยกมา ผมอ่าน จับใจความ ที่อาจไม่ตรงจริต คนถามได้ว่า

1 . ม๊ากกำลังถือ 2 สัญชาติแบบนั้นจริงๆ แบบที่ hentai ว่า
หรือ
2. ม๊ากกำลังถือสัญชาติเดียว แต่ (ยกตัวอย่าง) ถ้าจะให้ผมสละสัญชาติอังกฤษ ผมก็สละได้ แต่คนของท่านที่ถือพาสปอร์ตหลายประเทศ ก็ต้องสละด้วย จะยอมหรือไม่


ส่วนประโยคที่ว่า ผมไม่มีปัญหาอยู่ในใจอยู่ในหัวในตัว ผมสละได้ และได้ไปถามนักวิชาการ และ กกต.(คณะกรรมการการเลือกตั้ง) เขาบอกว่าไม่มีปัญหา นี่พูดถึงว่าเรื่อง สัญชาติ การขอสัญชาติ การลี้ภัย เพื่อไปหาผลประโยชน์ อันไหนกัน :D อะไรเป็นประธาน หรือทั้งหมดเลย


ส่วนประโยคแรกไม่ตรงจริต ไม่ยกมา...


ผมเกิดที่อังกฤษ ถือสัญชาติไทย ตั้งใจทำงานเพื่อประเทศไทย ไม่คิดถือสัญชาติอื่นแล้วไปหาผลประโยชน์ในประเทศอื่น ไม่คิดขอลี้ภัย แล้วไปขอสัญชาติประเทศเขา


มี 2 สัญชาตแล้วทำไมต้องไปขอ?

ก ม๊ากโกหก
ข ม๊ากชั่งไข่
ค ม๊ากหนีทหาร
ง เรื่อง สมมติ หนูไม่รู้...

มีผู้เชี่ยวชาญแล้ว ขาดก็ หลักฐาน ว่าม๊ากถือ 2 สัญชาติ อายุ 40 กว่าปี เล่นการเมืองมา 20 กว่าปี
พรรคตรงข้าม เป็นรัฐบาลก็มากกว่า ทำไมมันถึงได้หายากหาเย็นขนาดนี้กันนะ

ขนาด รมว. ต่างประเทศคนนี้ เก่งเรื่อง พาสปอร์ต แล้วนะ ยังหาไม่เจอ
เอ... หรือว่า ม๊าก แค่มีสิทธิ์ถือ 2 สัญชาติ แต่ไม่ได้ใช้สิทธิ์นั้นกันะ

ต้องหา หลักฐาน ซะแล้ว ส่วนเรื่อง ม๊ากตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร ถ้าจะตอบก็บอกด้วยนะว่าตอบเรื่องไหน :D

http://www.matichon....pid=03&catid=00


ทางด้านนางพันธุ์ทิพย์ กาญจนจิตรา สายสุนทร อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งเชี่ยวชาญงานด้านสถานะบุคคล กล่าวว่า การที่นายอภิสิทธิ์ถูกกล่าวอ้างว่าเป็นคนสัญชาติอังกฤษ เพราะเกิดที่อังกฤษ และมีสิทธิในสัญชาติอังกฤษ แต่นายกฯบอกว่า ไม่เคยใช้สิทธินี้ จึงไม่มีสถานะคนสัญชาติอังกฤษนั้น การยืนยันหลักกฎหมาย ความสามารถที่จะมีสิทธิและความสามารถที่จะใช้สิทธิ เป็นคนละเรื่องกัน

แต่สิทธิในสถานะบุคคลตามกฎหมายสัญชาตินั้น ต้องมาจากทั้ง 2 เรื่อง คือนายอภิสิทธิ์จะมีสถานะเป็นคนสัญชาติอังกฤษ ก็ต่อเมื่อมีสิทธิในสัญชาตินี้ และใช้สิทธิในสัญชาตินี้ ข้อเท็จจริงที่ต้องทราบก็คือ นายอภิสิทธิ์มีชื่อในทะเบียนราษฎรอังกฤษหรือไม่ ถือเอกสารพิสูจน์ตนที่ออกโดยรัฐอังกฤษหรือไม่ เพราะลำพังแค่มีจุดเกาะเกี่ยวตามที่กฎหมายสัญชาติอังกฤษกำหนด ไม่ทำให้มีสถานะเป็นคนสัญชาติอังกฤษ

"การไปแจ้งเกิดเพื่อให้ได้มาซึ่งสูติบัตร ก็ไม่ทำให้มีสถานะคนสัญชาติอังกฤษ แต่สถานะจะเกิดเมื่อมีการเพิ่มชื่อเข้าไปใน ทะเบียนราษฎรอังกฤษ การที่คุณอภิสิทธิ์เกิดในอังกฤษ ย่อมมีสิทธิในสัญชาติอังกฤษ แต่ถ้าไม่ใช้สิทธิก็ไม่อาจมีสถานะเป็นคนสัญชาติอังกฤษ ถือว่าเป็นสิทธิในการเลือก" นางพันธุ์ทิพย์กล่าว

“Live as if you were to die tomorrow. Learn as if you were to live forever.”  - Mahatma Gandhi

 

สนใจบ้านพักคนชราเสรีไทย (FB Secret Group) ติดต่อ (PM) เว็บบอร์ด

https://www.facebook...denman.serithai


#67 eAT

eAT

    ผมเป็นเสื้อแดงฮับ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,589 posts

Posted 18 December 2012 - 14:03

คุณ eAT ตีโจทย์ไม่แตกหรือ?
ให้คุณ eAT สังเกตตัวแดงๆ นะครับ

ปล. ส่วนจะถกธรรม ถกอะไรก็เชิญตามสบาย สิงห์ฯขอบาย


สิงห์จอมก๊อปปี้ ก็ไม่กล้า ได้แต่ตัดปะอีก
ผิดตรงไหแจงออกมาเลย


แล้วรู้หรือเปล่า พระพุทธเจ้ายังบอกให้ฆ่าคนเสียก็มี
(ปริศนาธรรม)


Posted Image

...กลายไปเป็น "การฆ่าเวลาบาปกว่าการฆ่าคน" หรือแปลว่า "ฆ่าคนบาปน้อยกว่าฆ่าเวลา" ได้อย่างไร...


อธิบายสิ เปลี่ยนไปได้ยังไงกัน?
"การฆ่าเวลาบาปไม่น้อยไปกว่าการฆ่าคน"

#68 อิไซกูนิ

อิไซกูนิ

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,631 posts

Posted 18 December 2012 - 14:04

อืมม์...ไปพ่นเรื่องเหาะได้ในกระทู้หนึ่งแล้ว...คงยังไม่ฟิน
เลยก๊อปแปะคห.ตัวเองมาลงกระทู้นี้อีกที
แล้วก็พล่าม พล่าม พล่าม แสดงถึงเลเวลสติปัญญาว่า..อนิจจา...กร๊วกนี่ช่างไม่รู้อะไรเลย

สรุป...hentai...


:lol: :lol:

Posted Image Posted Image Posted Image Posted Image Posted Image

เป็นเห็บเกาะไข่ระบบรัฐประหาร


#69 wat

wat

    เนตังมะมะ เนโสหะมัสมิ นะเมโสอัตตา.

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,542 posts

Posted 18 December 2012 - 14:05

คุณ eAT ตีโจทย์ไม่แตกหรือ?
ให้คุณ eAT สังเกตตัวแดงๆ นะครับ

ปล. ส่วนจะถกธรรม ถกอะไรก็เชิญตามสบาย สิงห์ฯขอบาย


สิงห์จอมก๊อปปี้ ก็ไม่กล้า ได้แต่ตัดปะอีก
ผิดตรงไหแจงออกมาเลย


แล้วรู้หรือเปล่า พระพุทธเจ้ายังบอกให้ฆ่าคนเสียก็มี
(ปริศนาธรรม)


...กลายไปเป็น "การฆ่าเวลาบาปกว่าการฆ่าคน" หรือแปลว่า "ฆ่าคนบาปน้อยกว่าฆ่าเวลา" ได้อย่างไร...


-_- ว่าจะไม่ยุ่งแล้วนะ ใครกันแน่จับประเด็นให้เป็นความตามที่ว่า... "ฟังไม่ได้ศัพท์ จับไปกระเดียด"...
:) Sometime...Sun shine through the rain...

#70 eAT

eAT

    ผมเป็นเสื้อแดงฮับ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,589 posts

Posted 18 December 2012 - 14:09

ทำไมเสื้อแดงต้องแปลงสาส์น??

Posted Image


เพราะเสื้อแดงมันไม่รู้จัก "พุทธศาสนา"
แต่ดันมาเล่นประเด็นศาสนา เลยไม่รู้จักว่า "ปริศนาธรรม" คืออะไร

Posted Image

Edited by eAT, 18 December 2012 - 14:10.


#71 wat

wat

    เนตังมะมะ เนโสหะมัสมิ นะเมโสอัตตา.

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,542 posts

Posted 18 December 2012 - 14:10



1) ท่านว่า พระไตรปิฎก มีกี่ฉบับครับ... สังคายนากันมากี่ที... ของไทยลาวเขมรทิเบตจีน เหมือนกันหรือป่าวครับ...ถ้าสิ่งในพระไตรปิฎกเป็นหลักฐาน...ไบเบิลก็ด้วยใช่ไหมครับ...
เออ ชาดก.. เรื่องเล่า... เรื่อง บ้าเรื่องบอ ที่มีคนเขียน... เป็นหลักฐานกันหมดเลย... เอาละครับ... หนุนหนาน...

2)ที่ท่านว่า มีใน พุทธวัจนะ แล้วเชื่อได้...ท่านเชื่อว่า เต่าพูดได้ หรือป่าว... จาก เรื่อง...เต่าติดชนัก จากขุมทรัพย์จากพระโอษฐ์ หมวดที่ ๓ ว่าด้วย เกียรติและลาภสักการะ

ผมไม่เอาเรื่อง ***พูดได้ที่เป็นตำนาน เพราะ อันนั้น มันชาดก... พระพุทธเจ้าไม่ได้พูดเอง..


1. พระไตรปิฎกมีกี่ฉบับ...เอาเป็นว่ารู้มั้ยรู้วิธีตรวจสอบมั้ย ส่วนใดเป็นคำพระพุทธองค์... แล้วถ้าไม่ใช่หลักฐาน แล้วทฤษฎีสัมพันธภาพ หรือกฎแรงโน้มถ่วงของสสารก็คงไม่ใช่หลักฐานในแง่ความจริงเหมือนกันมั้ง...

2. เต่าพูดได้หรือไม่สมัยนั้น ไม่ทราบ... แต่ถ้าจำไม่ผิดเป็นเหมือนนิทาน หรือคำเปรียบเปรยยกตัวอย่างของพระพุทธองค์ที่ใช้ในหลายๆเรื่อง...

<_< ก่อนอื่นเอา 1. ก่อนเหอะ แยกเป็นหรือเปล่าที่ยกมาอ้างน่ะ ของจริงหรือของแต่งเติม...


เออ ดีเนอะ... เต่าพูดได้ เป็น การเปรียบเปรย...
คนเหาะได้... เป็นของจริง...

ท่านว่า ... " แยกเป็นหรือเปล่าที่ยกมาอ้างน่ะ ของจริงหรือของแต่งเติม."

นั้นสิครับ... ผมถึงถามท่านไง.. ก็ ในเมื่อเชื่อคำภีร์แล้วจะเชื่อเล่มไหน ฉบับไหน... ศาสนาไหน... หรือ
เชื่อเฉพาะ..ที่อยากเชื่อ... :D


-_- เอาไม่เถียง... ทุกท่านผู้มีวิจารณญาณลองอ่านดูว่าพระพุทธองค์ตรัสถึงเรื่องนี้ว่าอะไร... เต่าพูดกับคนรู้เรื่อง? อย่างลามกว่า หรือเล่าเรื่องในอดีตถึงเต่ากับเต่า...

เต่าติดชนัก๑
ภิกษุ ท. ! ลาภสักการะและเสียงเยินยอ เป็นอันตรายที่ทารุณแสบเผ็ด หยาบคาย ต่อการบรรลุพระนิพพาน อันเป็นธรรมเกษมจากโยคะ ไม่มีธรรมอื่นยิ่งกว่า.ภิกษุ ท. ! เรื่องเคยมีมาแล้วแต่หนหลัง : มีเต่าพันธุ์เดียวกันจำนวนมาก ฝูงหนึ่ง อาศัยอยู่นมนานในห้วงน้ำลึกแห่งหนึ่ง. ครั้งนั้นเต่าตัวหนึ่งได้เข้าไปหาเต่าอีกตัวหนึ่งถึงที่อยู่ แล้วพูดว่า “พ่อเต่าเอ๋ย ! เจ้าอย่าได้ไปเที่ยวหากินทางถิ่นโน้นเลย”. ภิกษุ ท. ! เต่า (ตัวที่สอง) ก็ยังขืนไปทางถิ่นนั้น.ชาวประมงได้แทงเต่าตัวนั้นด้วยชนัก. กาลต่อมา เต่า (ตัวที่สอง) ได้เข้าไปหาเต่า (ตัวที่หนึ่ง) ถึงที่อยู่. เต่า (ตัวที่หนึ่ง) ได้เห็น เต่า (ตัวที่สอง) มาแต่ไกล,ครั้นเห็นจึงกล่าวทักว่า “พ่อเต่า ! เจ้าไม่ได้ไปเที่ยวหากินทางถิ่นโน้นไม่ใช่หรือ ? ”“พ่อเต่า ! เราได้ไปมาเสียแล้ว”.“อย่างไร พ่อเต่า ! ก็เจ้าถูกแทงถูกตีมาบ้างไหม ?”...“พ่อเต่าเอ๋ย ! เราถูกแทงถูกตีเสียแล้ว นี่ เชือกสายชนัก ยังมีติดหลังเรามาด้วย”.“พ่อเต่าเอ๋ย ! สมน้ำหน้าที่ถูกแทง สมน้ำหน้าแล้วที่ถูกตี. พ่อเต่าเอ๋ย !พ่อของเจ้า ปู่ของเจ้า ได้รับทุกข์ถึงความพินาศด้วยเชือกเส้นนี้เหมือนกัน.เจ้าจงไปเสียเดี๋ยวนี้เถิด. บัดนี้เจ้าไม่ใช่พวกของเราแล้ว”.

ภิกษุ ท. ! คำว่า “ชาวประมง” เป็นคำชื่อแทนคำว่า “มารผู้มีบาป”. คำว่า “ชนัก” เป็นคำชื่อแทนคำว่า “ลาภสักการะและเสียงเยินยอ”. คำว่า “เชือกด้าย” เป็นคำชื่อแทนคำว่า “นันทิราคะ(ความกำหนัดยินดีเพราะเพลิน)”. ภิกษุ ท. ! ก็ภิกษุรูปใดรูปหนึ่งยังรู้สึกอร่อยติดใจในลาภสักการะและเสียงเยินยอที่เกิดขึ้น หรือดิ้นรนใคร่ที่จะได้อยู่ ; ภิกษุนี้ เราเรียกว่า ภิกษุผู้ได้รับทุกข์ ถึงความพินาศด้วยชนัก แล้วแต่มารผู้มีบาป ใคร่จะทำประการใด.ภิกษุ ท. ! ลาภสักการะและเสียงเยินยอ เป็นอันตรายที่ทารุณแสบเผ็ดหยาบคาย ต่อการบรรลุพระนิพพาน อันเป็นธรรมเกษมจากโยคะ ไม่มีธรรมอื่นยิ่งกว่า ด้วยอาการอย่างนี้. เพราะฉะนั้น ในเรื่องนี้ พวกเธอทั้งหลายพึงสำเหนียกใจไว้ดังนี้ว่า “เราทั้งหลาย จักไม่เยื่อใยในลาภสักการะและเสียงเยินยอที่เกิดขึ้น. อนึ่ง ลาภสักการะและเสียงเยินยอที่เกิดขึ้นแล้ว ต้องไม่มาห่อหุ้มอยู่ที่จิตของเรา”. ภิกษุ ท. ! พวกเธอทั้งหลาย พึงสำเหนียกใจไว้อย่างนี้แล.

บาลี พระพุทธภาษิต นิทาน. สํ. ๑๖/๒๖๗/๕๔๒-๕๔๔.
หมวดที่ ๓ ว่าด้วยเกียรติและลาภสักการะ


-_- เดี๋ยวจะไม่เห็นกัน...
:) Sometime...Sun shine through the rain...

#72 สิงห์สนามหลวง

สิงห์สนามหลวง

    ขาประจำ

  • Banned
  • PipPipPip
  • 1,923 posts

Posted 18 December 2012 - 14:15

ที่โพสต์ข้อเท็จจริงที่มาที่ไปนี่
ไม่ได้อ่านกันเลยหรือ?
อย่าเลือกหยิบเอาแต่ที่มันตรงจริตมาใช้สิ
จะเล่นประเด็นอะไรก็หัดค้นหาข้อมูลให้มันครบๆ
จะได้ไม่ปล่อยไก่ แล้วแถไปประเด็นอื่น

17 ม.ค. 2010 (2553)
Posted Image

?
Posted Image

9 เม.ย. 2010
Posted Image

...
Posted Image

?
Posted Image

...
Posted Image


รักคนเสื้อแดง

#73 สิงห์สนามหลวง

สิงห์สนามหลวง

    ขาประจำ

  • Banned
  • PipPipPip
  • 1,923 posts

Posted 18 December 2012 - 14:18

นี่ก็ตัวอย่างปล่อยไก่

Posted Image
รักคนเสื้อแดง

#74 Stargate-1

Stargate-1

    SG-1

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,578 posts

Posted 18 December 2012 - 14:20

ที่สุดแห่งธรรม"หลวงพ่อสด"
พ้นกับดัก"ธรรมกาย"43ปี
ในบรรดา 1 ใน 4 ปัญหาของวัดพระธรรมกาย ที่มีแนวทางผิดเพี้ยนจากศาสนา ซึ่งกรมการศาสนาสรุปออกมาแล้วได้แก่ คือ คำสั่ง สอนของวัด ไม่ว่าจะเป็นการสอนเพื่อเน้นการทำบุญอย่างเดียว การสอนว่านิพพาน เป็นสถานที่มีพระพุทธเจ้าไปนั่งอยู่ในนั้น

โดยสามารถเห็นได้จากการนั่งสมาธิแนวธรรมกาย ขนาดที่ในการเทศนาวันอาทิตย์ที่ 3 ม.ค. พระไชยบูลย์ ธัมมฺชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ยังยืนยันต่อหน้าลูกศิษย์ว่า แนวทางของธรรมกายนิพพานเป็นสถานที่ มีตัวตนคืออัตตา เป็นนิจจัง เที่ยง และเป็นสุข ซึ่งไม่สนใจหลักศาสนาที่ว่าทุกสิ่งเป็นอนิจจัง คือไม่เที่ยง ทุกขัง คือเป็นทุกข์ และอนัตตาคือไม่ใช่ตัวตน

อย่างไรก็ตาม ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาได้มีเอกสาร และหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่า วิชชาธรรมกายที่ก่อกำเนิดโดยหลวงพ่อสด จันฺทสโร หรือหลวงพ่อวัดปากน้ำนั้น เป็นแนวทางที่ทำให้เกิดการหลงงมงายได้ง่าย ๆ

ไม่ว่าจะเป็นหลักฐานจากคำสอนใน พระไตรปิฎกที่ พระธรรมปิฎก หรือเจ้าคุณปยุต ปยุตฺโต เรียบเรียงออกมาเป็นหนังสือชื่อ "นิพพาน อนัตตา" ที่ยืนยันนิพพานไม่ใช่สถานที่ และไม่มีตัวตนไปจนถึงหลักฐานการที่ เสฐียร พงษ์ วรรณปก ราชบัณฑิต ไปยื่นต่อคณะกรรมา ธิการการศาสนาฯ ว่า ในช่วงที่หลวงพ่อสดมีชีวิตได้เกิดติดขัดในการปฏิบัติภาวนา และต้องไปเรียนกับอาจารย์ใหญ่ ฝ่ายวิปัสสนากัมมัฏฐานวัด มหาธาตุ ให้แก้ให้ จึงสามารถผ่านต่อไปได้ โดยมีหลักฐานรูปถ่ายหลวงพ่อสดลงนามถวายไว้ มีข้อความว่า
"ให้สำนักวิปัสสนาวัดมหาธาตุไว้เป็นที่ระลึก ในโอกาสที่ฉันได้เข้าปฏิบัติวิปัสสนา ตามแบบที่วัดมหาธาตุสอนอยู่ในปัจจุบันนี้แล้ว ยืนยันได้ว่าการปฏิบัติแบบนี้ถูกต้องร่องรอยในมหาสติปัฎฐานสูตรทุกประการ" และลงชื่อโดยพระภาวนาโกศลเถร วัดปากน้ำ ธนบุรี

เล่ากันว่าหลวงพ่อวัดปากน้ำสำนึกที่เข้าใจผิดว่านิมิตเป็นการบรรลุธรรม แต่จะประกาศออกไปก็เกรงว่าศิษย์จะสับสน ด้วยว่ามีคนทำตามมากแล้ว และวิธีปฏิบัติธรรมกายเป็นสิ่งที่หลวงพ่อสดทิ้งแล้ว แต่ศิษย์ยังคงสืบต่อกันมา
นอกจากหลักฐานจากภาพถ่าย รวมถึงคำพูดของเสฐียรพงษ์แล้ว ยังมีหลักฐานชิ้นสำคัญที่สามารถอ้างถึงได้นั่นคือ เทปการสอนธรรมะของ พระธรรมธีรราชมหามุนี (โชดก ญาสิทฺธิ ป.9) หรือเจ้าคุณโชดกอาจารย์ใหญ่ ฝ่ายวิปัสสนา วัดมหาธาตุที่ยืนยันได้อีก เพราะ เจ้าคุณโชดกคือพระรูปที่หลวงพ่อสดไปพบ และแก้ไขเรื่องกัมมัฏฐานให้นั่นเอง

เทปดังกล่าวเคยออกอากาศเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2541 ในรายการธรรมร่วมสมัย รวมถึงมีการเผยแพร่อย่างกว้างขวางด้วย
แต่ก่อนที่จะเข้าไปในเนื้อหาของเทปนี้ ต้องเข้าใจพื้นฐานของศาสนาพุทธก่อนว่าจะเริ่มจากการให้ทาน ถือศีล และการภาวนา ซึ่ง การภาวนาจะถือว่าเป็นกุศล เป็นแนวทางสูงสุดของศาสนาพุทธ

ในแง่การภาวนายังแยกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ "สมาธิหรือสมถะ" ซึ่งเป็นการภาวนาขั้นต้น กับ "การวิปัสสนา" ที่เป็นการภาวนาขั้นสูงสุดของศาสนา ซึ่งมีลักษณะแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด

การทำสมาธิ คือ การเพ่ง หรือการทำจิตให้หยุดอยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง จนทำให้จิตมีพลังขึ้นมาได้ เช่น การเพ่งกำหนดไปที่ลมหายใจ จิตในขั้นนี้จะมีฤทธิ์ มีอำนาจ ตามหลักศาสนาจะใช้จิตประเภทนี้เข้ามาหนุน เนื่องสติปัญญา โดย เมื่อจิตมีพลังเต็มเปี่ยมก็ค่อยถอนจิตออกจากสมาธิเข้ามาสู่การวิปัสสนา คือ การใช้ปัญญาพิจารณาธรรมะ ตามลำดับชั้นโดยเฉพาะในแง่สติปัฏฐาน 4 อาทิ การพิจารณาให้เห็นกายในกาย เห็นเวทนาในเวทนา เห็นจิตในจิตและเห็นธรรมในธรรม ภาวะการบรรลุธรรมขั้นสูงจะเกิดได้ต่อเมื่อเป็นผลของการวิปัสสนาเท่านั้น
สำหรับสมาธิแนวทางวิชชาธรรมกายก็คือ การเพ่งให้เห็น "ลูกแก้ว" ในร่างกาย นั่นเอง แต่ปัญหาของสมาธิแนวทางนี้คือ ทำให้เกิดการหลงทางได้ง่าย ๆ โดยภาพที่เห็นเป็น "นิมิต" หรือการเพ่งจนปรากฏรูปขึ้นมาได้ด้วยอำนาจของพลังจิต แต่ถือว่ายังอยู่ในขั้นสมถะไม่สามารถก้าวขึ้นไปสู่การวิปัสสนาได้

จากเทปของเจ้าคุณโชดกได้กล่าวว่า การปฏิบัติสมาธิแต่อย่างเดียวเมื่อปฏิบัติมาก ๆ และจะก้าวเข้าสู่การวิปัสสนานั้นอาจทำให้เกิดการหลง หรือเกิดอุปกิเลสได้ถึง 10 ข้อ อาทิ การเกิดแสงสว่าง และเข้าไปยึดติดกับภาพนั้น

"บางอาจารย์ก็นึกเป็นธรรมกาย เป็นปฐมมรรค เป็นแสงสว่าง ไปดูนรก สวรรค์ อธิษฐาน สร้างภาพนรก สร้างสวรรค์ จิตนึกไปเรื่อย เป็นจิตนึกมาเอง แล้วไปยึดติด บางครั้งคิดว่ากิเลสหายไปหมดแล้ว และกลายเป็นพระอรหันต์แล้วทั้งที่ไม่ใช่" เจ้าคุณโชดก กล่าว

นอกจากนั้น เจ้าคุณโชดกยังกล่าวอีกว่า เจ้าคุณวัดปากน้ำหรือหลวงพ่อสด ที่ปฏิบัติด้านสมาธิหรือสมถะมา 43 ปีมาให้ช่วย โดยแนวทางที่หลวงพ่อสดปฏิบัติคือการเพ่งดวงแก้ว และภาวนาว่าสัมมาอรหัง เห็นธรรมกาย เห็นแสงสว่าง
"ท่าน (หลวงพ่อสด) เข้าใจว่าสิ่งที่เห็นเป็นธรรมกาย อันที่จริงธรรมกายในพระไตรปิฎกมีกล่าวไว้หมายถึง ชื่อพระพุทธเจ้าแต่ไม่ใช่วิชาของพระพุทธเจ้า"

ดังนั้นเจ้าคุณโชดกจึงให้หลวงพ่อสดปฏิบัติตามแนวสติปัฏฐาน โดยให้เดินจงกรม นั่งสมาธิ ระยะแรกหลวงพ่อสด ก็ยังยืนยันเห็นพระพุทธเจ้าในนิพพาน ซึ่งเข้าไปจับมือถือแขนก็ได้,เห็นพระเต็มศาลา ฯลฯ

เจ้าคุณโชดก จึงแนะนำให้กำหนดอารมณ์ใหม่ โดยเมื่อเห็นนิมิตหรือภาพติดตานั้น ซึ่งให้พิจารณาว่า "เห็นหนอ ๆ" เพื่อเป็นการยกเอาจิตหรือเอาสติออกมาจากสมาธิ เพื่อใช้ปัญญาพิจารณาตามหลักศาสนา ปรากฏว่าหลวงพ่อสดกำหนดสติตามแนวดังกล่าว ในที่สุดภาพพระที่เคยเห็นเต็มไปหมดก็หายวับไปกับตา และเข้าใจในหลักไตรลักษณ์ศาสนาคือทุกสิ่งเป็นอนิจจังไม่เที่ยง เป็นทุกขังหรือเป็นทุกข์ และเป็นอนัตตาคือไม่ใช่ตัวตน

หลวงพ่อสดถึงกับกล่าวว่า เราติดอยู่ในญาณหรืออำนาจที่เกิดจากสมาธิมาหลายสิบปี เพิ่งมาหลุดได้ในวันนี้ และเป็นที่มาของรูปถ่าย พร้อมกับลายมือที่หลวงพ่อสดให้ไว้เป็นประจักษ์พยาน

เจ้าคุณโชดกเองเคยกล่าวว่า ที่เล่าถึงเรื่องหลวงพ่อวัดปากน้ำไม่ใช่เอามาพูดเสีย ๆ หาย ๆ แต่เอาความดีของท่านมาเล่าให้ฟัง เพราะท่านเป็นพระที่มุ่งศึกษาในการปฏิบัติธรรม และต่อมาท่านก็ได้สู่แนวทางของการวิปัสสนาอย่างแท้จริง
ปัญหาของวิชชาธรรมกายนี้ เสฐียรพงษ์ได้สรุปว่า ธรรมกายของหลวงพ่อสดคือการปฏิบัติสมาธิโดยเข้าใจว่าเป็นมรรคผล แต่ในยุคหลวงพ่อสดก็เป็นแค่การสัมผัสได้เฉพาะตน ไม่ได้นำมาเผยแผ่จนใหญ่โต และสร้างศรัทธาอย่างวัดพระธรรมกายกระทำ เพื่อให้ลูกศิษย์มาทำบุญ

และปัจจุบันก็กลายเป็นการ จัดสรรนิมิต จนทำให้ผู้ปฏิบัติเห็นภาพ และก็มีการบอกว่าได้บรรลุธรรมเป็นขั้น ๆ โดยคนที่ไม่เคยเห็นก็ได้เห็น พอเห็นเข้าก็เกิดศรัทธา มีเท่าไหร่ก็ทุ่มเททำบุญไปหมด

นี่คือขบวนการสูบบุญที่แท้จริง !!!!


ขนาดเจ้าของมาบอกเอง พวกมิจฉาทิฏฐิ ยังไม่ยอมวาง

Edited by Stargate-1, 18 December 2012 - 14:24.

Tam-mic-ra ฟันธง!  คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ .....  คิดครับคิด  :lol:   จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96  ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง   แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3


#75 hentai

hentai

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,046 posts

Posted 18 December 2012 - 14:21




1) ท่านว่า พระไตรปิฎก มีกี่ฉบับครับ... สังคายนากันมากี่ที... ของไทยลาวเขมรทิเบตจีน เหมือนกันหรือป่าวครับ...ถ้าสิ่งในพระไตรปิฎกเป็นหลักฐาน...ไบเบิลก็ด้วยใช่ไหมครับ...
เออ ชาดก.. เรื่องเล่า... เรื่อง บ้าเรื่องบอ ที่มีคนเขียน... เป็นหลักฐานกันหมดเลย... เอาละครับ... หนุนหนาน...

2)ที่ท่านว่า มีใน พุทธวัจนะ แล้วเชื่อได้...ท่านเชื่อว่า เต่าพูดได้ หรือป่าว... จาก เรื่อง...เต่าติดชนัก จากขุมทรัพย์จากพระโอษฐ์ หมวดที่ ๓ ว่าด้วย เกียรติและลาภสักการะ

ผมไม่เอาเรื่อง ***พูดได้ที่เป็นตำนาน เพราะ อันนั้น มันชาดก... พระพุทธเจ้าไม่ได้พูดเอง..


1. พระไตรปิฎกมีกี่ฉบับ...เอาเป็นว่ารู้มั้ยรู้วิธีตรวจสอบมั้ย ส่วนใดเป็นคำพระพุทธองค์... แล้วถ้าไม่ใช่หลักฐาน แล้วทฤษฎีสัมพันธภาพ หรือกฎแรงโน้มถ่วงของสสารก็คงไม่ใช่หลักฐานในแง่ความจริงเหมือนกันมั้ง...

2. เต่าพูดได้หรือไม่สมัยนั้น ไม่ทราบ... แต่ถ้าจำไม่ผิดเป็นเหมือนนิทาน หรือคำเปรียบเปรยยกตัวอย่างของพระพุทธองค์ที่ใช้ในหลายๆเรื่อง...

<_< ก่อนอื่นเอา 1. ก่อนเหอะ แยกเป็นหรือเปล่าที่ยกมาอ้างน่ะ ของจริงหรือของแต่งเติม...


เออ ดีเนอะ... เต่าพูดได้ เป็น การเปรียบเปรย...
คนเหาะได้... เป็นของจริง...

ท่านว่า ... " แยกเป็นหรือเปล่าที่ยกมาอ้างน่ะ ของจริงหรือของแต่งเติม."

นั้นสิครับ... ผมถึงถามท่านไง.. ก็ ในเมื่อเชื่อคำภีร์แล้วจะเชื่อเล่มไหน ฉบับไหน... ศาสนาไหน... หรือ
เชื่อเฉพาะ..ที่อยากเชื่อ... :D


-_- เอาไม่เถียง... ทุกท่านผู้มีวิจารณญาณลองอ่านดูว่าพระพุทธองค์ตรัสถึงเรื่องนี้ว่าอะไร... เต่าพูดกับคนรู้เรื่อง? อย่างลามกว่า หรือเล่าเรื่องในอดีตถึงเต่ากับเต่า...

เต่าติดชนัก๑
ภิกษุ ท. ! ลาภสักการะและเสียงเยินยอ เป็นอันตรายที่ทารุณแสบเผ็ด หยาบคาย ต่อการบรรลุพระนิพพาน อันเป็นธรรมเกษมจากโยคะ ไม่มีธรรมอื่นยิ่งกว่า.ภิกษุ ท. ! เรื่องเคยมีมาแล้วแต่หนหลัง : มีเต่าพันธุ์เดียวกันจำนวนมาก ฝูงหนึ่ง อาศัยอยู่นมนานในห้วงน้ำลึกแห่งหนึ่ง. ครั้งนั้นเต่าตัวหนึ่งได้เข้าไปหาเต่าอีกตัวหนึ่งถึงที่อยู่ แล้วพูดว่า “พ่อเต่าเอ๋ย ! เจ้าอย่าได้ไปเที่ยวหากินทางถิ่นโน้นเลย”. ภิกษุ ท. ! เต่า (ตัวที่สอง) ก็ยังขืนไปทางถิ่นนั้น.ชาวประมงได้แทงเต่าตัวนั้นด้วยชนัก. กาลต่อมา เต่า (ตัวที่สอง) ได้เข้าไปหาเต่า (ตัวที่หนึ่ง) ถึงที่อยู่. เต่า (ตัวที่หนึ่ง) ได้เห็น เต่า (ตัวที่สอง) มาแต่ไกล,ครั้นเห็นจึงกล่าวทักว่า “พ่อเต่า ! เจ้าไม่ได้ไปเที่ยวหากินทางถิ่นโน้นไม่ใช่หรือ ? ”“พ่อเต่า ! เราได้ไปมาเสียแล้ว”.“อย่างไร พ่อเต่า ! ก็เจ้าถูกแทงถูกตีมาบ้างไหม ?”...“พ่อเต่าเอ๋ย ! เราถูกแทงถูกตีเสียแล้ว นี่ เชือกสายชนัก ยังมีติดหลังเรามาด้วย”.“พ่อเต่าเอ๋ย ! สมน้ำหน้าที่ถูกแทง สมน้ำหน้าแล้วที่ถูกตี. พ่อเต่าเอ๋ย !พ่อของเจ้า ปู่ของเจ้า ได้รับทุกข์ถึงความพินาศด้วยเชือกเส้นนี้เหมือนกัน.เจ้าจงไปเสียเดี๋ยวนี้เถิด. บัดนี้เจ้าไม่ใช่พวกของเราแล้ว”.

ภิกษุ ท. ! คำว่า “ชาวประมง” เป็นคำชื่อแทนคำว่า “มารผู้มีบาป”. คำว่า “ชนัก” เป็นคำชื่อแทนคำว่า “ลาภสักการะและเสียงเยินยอ”. คำว่า “เชือกด้าย” เป็นคำชื่อแทนคำว่า “นันทิราคะ(ความกำหนัดยินดีเพราะเพลิน)”. ภิกษุ ท. ! ก็ภิกษุรูปใดรูปหนึ่งยังรู้สึกอร่อยติดใจในลาภสักการะและเสียงเยินยอที่เกิดขึ้น หรือดิ้นรนใคร่ที่จะได้อยู่ ; ภิกษุนี้ เราเรียกว่า ภิกษุผู้ได้รับทุกข์ ถึงความพินาศด้วยชนัก แล้วแต่มารผู้มีบาป ใคร่จะทำประการใด.ภิกษุ ท. ! ลาภสักการะและเสียงเยินยอ เป็นอันตรายที่ทารุณแสบเผ็ดหยาบคาย ต่อการบรรลุพระนิพพาน อันเป็นธรรมเกษมจากโยคะ ไม่มีธรรมอื่นยิ่งกว่า ด้วยอาการอย่างนี้. เพราะฉะนั้น ในเรื่องนี้ พวกเธอทั้งหลายพึงสำเหนียกใจไว้ดังนี้ว่า “เราทั้งหลาย จักไม่เยื่อใยในลาภสักการะและเสียงเยินยอที่เกิดขึ้น. อนึ่ง ลาภสักการะและเสียงเยินยอที่เกิดขึ้นแล้ว ต้องไม่มาห่อหุ้มอยู่ที่จิตของเรา”. ภิกษุ ท. ! พวกเธอทั้งหลาย พึงสำเหนียกใจไว้อย่างนี้แล.

บาลี พระพุทธภาษิต นิทาน. สํ. ๑๖/๒๖๗/๕๔๒-๕๔๔.
หมวดที่ ๓ ว่าด้วยเกียรติและลาภสักการะ


-_- เดี๋ยวจะไม่เห็นกัน...


ตกลง พระพุทธองค์ เล่าหรือป่าวครับ... :D

"คนโง่มักจะชอบว่าคนอื่นว่าโง่"

"ถ้าคนเราคิดเหมือนกันหมด ก็ไม่มีเลือกตั้งซิครับ"

"ผมไม่พูด เรื่อง 112 แล้ว นะครับ กรุณาอย่าถาม (17 พค 2012)"


#76 eAT

eAT

    ผมเป็นเสื้อแดงฮับ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,589 posts

Posted 18 December 2012 - 14:21

ที่โพสต์ข้อเท็จจริงที่มาที่ไปนี่
ไม่ได้อ่านกันเลยหรือ?
อย่าเลือกหยิบเอาแต่ที่มันตรงจริตมาใช้สิ
จะเล่นประเด็นอะไรก็หัดค้นหาข้อมูลให้มันครบๆ
จะได้ไม่ปล่อยไก่ แล้วแถไปประเด็นอื่น


ปล่อยอะไรก็ตาม อย่าแปะ อธิบายมา
หรือไม่มีปัญญา แค่เอาโพยมาปะ แล้วถือว่าชนะแล้ว???

#77 คนทุกที่

คนทุกที่

    ชนชั้นกลาง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,480 posts

Posted 18 December 2012 - 14:34

เขาเคยอธิบายอะไรด้วยเหรอคะ เห็นเป็นตาแปะ ตัดแปะตลอด

#78 hentai

hentai

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,046 posts

Posted 18 December 2012 - 14:35


ที่โพสต์ข้อเท็จจริงที่มาที่ไปนี่
ไม่ได้อ่านกันเลยหรือ?
อย่าเลือกหยิบเอาแต่ที่มันตรงจริตมาใช้สิ
จะเล่นประเด็นอะไรก็หัดค้นหาข้อมูลให้มันครบๆ
จะได้ไม่ปล่อยไก่ แล้วแถไปประเด็นอื่น


ปล่อยอะไรก็ตาม อย่าแปะ อธิบายมา
หรือไม่มีปัญญา แค่เอาโพยมาปะ แล้วถือว่าชนะแล้ว???

Posted Image

"คนโง่มักจะชอบว่าคนอื่นว่าโง่"

"ถ้าคนเราคิดเหมือนกันหมด ก็ไม่มีเลือกตั้งซิครับ"

"ผมไม่พูด เรื่อง 112 แล้ว นะครับ กรุณาอย่าถาม (17 พค 2012)"


#79 VOOTH

VOOTH

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 207 posts

Posted 18 December 2012 - 14:39

เรื่องขี้หมูขี้หมามากครับ เถียงกันไม่หยุด มันหาข้อสรุปไม่ได้หรอกครับ

แต่ถ้าเอาวิธีคิดไปปฏิบัติแล้วดีจริงครับ แนวคิดนี้ท่าน ว. ไม่ได้ส่งเสริมให้ไปฆ่าใคร (หรือมีคินคิดแบบนี้ก็ไม่รู้)

เวลาเป็นสิ่งมีคุณค่า ก็ต่อเมื่อเวลาที่คุณใช้ไปแต่ละวัน เป็นเวลาแห่งการทำสิ่งดีๆ มีประโยชน์

#80 Stargate-1

Stargate-1

    SG-1

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,578 posts

Posted 18 December 2012 - 14:46

ถ้ามัวมาฆ่าเวลาอยู่ในสมาธิอย่างเดียวเท่ากับเป็นการฆ่าตัวตายไปวันๆ
ให้ถอนจิตออกจากสมาธิเข้ามาสู่การวิปัสสนา คือ การใช้ปัญญาพิจารณาธรรมะ จึงรอด

จะพูดอย่างท่านว.ก็ได้ แล้วแต่จะคิด

Tam-mic-ra ฟันธง!  คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ .....  คิดครับคิด  :lol:   จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96  ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง   แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3


#81 isa

isa

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 447 posts

Posted 18 December 2012 - 14:46

ถ้าในสายลัดสั้นอย่างเซ็น เขายังมีคำสอนที่แรงกว่านี้อีกครับ อย่าง...

"พบพุทธะ ให้ฆ่าพุทธะ"

ถ้าคนไม่ได้ศึกษามาก่อน หรือคนที่มาสายเถรวาท อ่านแล้วก็สะดุ้ง แต่ความหมายแท้จริงก็คือ
ในการปฏิบัติธรรม ไม่ให้หลงนิมิต ไม่ให้ยึดติดใดๆทั้งสิ้น บรรลุแล้วต้องทิ้งให้หมด

ในคำสอน 48,000 บท หรือพระธรรมขันธ์นั้น พระพุทธเจ้าสอนคนต่างๆหลากหลาย บางคนก็มีปัญญาระดับตื้น
บางคนก็ปัญญาระดับลึก บ้างเป็นการสอนชาวบ้านธรรมดา บ้างสอนนักปราชญ์ บ้างสอนกษัตริย์
บ้างก็สอนนักบวชต่างลัทธิ คำสอนบางอย่างเป็นแค่การแนะนำหลักครองชีพ บางอย่างเป็นระดับปานกลาง
บางอย่างเป็นระดับลึก ท่านถึงเปรียบคำสอนของพระพุทธเจ้าเหมือนท้องทะเล ที่ค่อยๆลาดจากตื้นไปหาลึก
ในแต่ละระดับก็มีสิ่งพึงอัศจรรย์ให้ชมต่างๆกัน

ปราชญ์ที่มีปัญญาเมื่อพบคำสอนแต่ละระดับก็รู้ได้ว่าคำสอนนั้นเหมาะกับคนระดับใด เหมาะกับตนหรือไม่
และควรจะรับคำสอนนั้นไปปฏิบัติเช่นไร ...นี่เรียกว่ามีโยนิโสมนสิการ

...คำพูดนี้ของท่านว. ถ้าเป็นคนที่ศึกษามาถึงระดับลึก เข้าใจเรื่องสังสารวัฎ ก็จะเข้าใจทันทีว่ามันหมายความว่าอย่างไร
คำสอนในระดับลึกของพุทธ เตือนไว้ว่าสังสารวัฎเป็นสิ่งที่น่ากลัว เพราะเป็นสิ่งที่ไม่รู้จบ และเหนือการควบคุม
ต่อให้รู้หลักในการปรุงจิตดวงสุดท้ายก่อนตายให้แสวงภูมิเกิดใหม่ที่ดีได้ แต่ใช่ว่าจะจำหลักได้ตลอดไปในชาติต่อๆไป ประมาทนิดเดียวเป็นพลาดทันที
เหมือนเดินอยู่บนเส้นด้ายบนปากเหว ถ้าเป็นไปได้ก็ให้ขวนขวายหาทางออกไปเสีย ขณะที่ยังมีโอกาส

การฆ่าคนอาจส่งผลแค่ถูกประหาร ตกอบาย แต่หลังจากนั้นก็มีโอกาสไปเกิดใหม่ที่ดีกว่าเก่าถ้ามีบุญเก่าช่วย แต่ก็ยังวนเวียนอยู่ในสังสารวัฎ
ยังมีขึ้นมีลงไม่สิ้นสุด แต่สำหรับนักปฏิบัติการฆ่าเวลาที่ใช้ปฏิบัติธรรม บางครั้งเป็นการทิ้งโอกาสที่จะได้หลุดพ้นไปได้ และไม่รู้ว่าจะมีโอกาส
ได้มาพบเจอกับคำสอนนี้อีกเมื่อไหร่...นั่นคือความหมายจริงๆของคำพูดนี้...นักปฏิบัติเคร่งๆเขาจะเข้าใจดีครับ

เหมือนอย่างเรื่องพระเทวทัต เราก็เคยสงสัยกันว่าถ้าพระพุทธองค์ทราบล่วงหน้าว่าเทวทัตจะประกอบกรรมหนักถึงขั้นตกอเวจี
แล้วท่านบวชให้ทำไม ...แต่ถ้าเข้าใจเรื่องสังสารวัฎ ก็จะรู้ว่าพระเทวทัตนั้น ท่านก็บุญบารมีถึงระดับหนึ่ง แต่ติดด่านเดียวที่เคลียร์ไม่ผ่าน
ก็คือการแข่งดี จองล้างพระพุทธองค์ แต่เมื่อผ่านตรงนี้ไปได้ หลังจากพ้นจากนรก ท่านก็จะบรรลุเป็นพระปัจเจกโพธิ์ในอนาคต
...อธิบายง่ายๆก็เหมือนกับการจับเด็กที่สอบตกให้เรียนซ้ำชั้น เพื่อให้ประสบความสำเร็จในอนาคตในภาพรวม

...แต่คำเตือนที่มีค่าแบบนี้ เมื่อมาแสดงกับบุคคลผิด ก็เลยเอาไปโยงกับการปราบเสื้อแดง ประกอบกับความไม่ชอบหน้าพระอยู่แล้ว
ก็เลยลามปามใหญ่ เท่านั้นเอง -_-

#82 Stargate-1

Stargate-1

    SG-1

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,578 posts

Posted 18 December 2012 - 14:51

หลวงพ่อไปกราบหลวงปู่ดูลย์ครั้งแรกแล้วนำคำสอนของท่านมาปฏิบัติ พออีก 3 เดือนไปส่งการบ้าน ท่านอธิบายให้ฟังว่าที่ปฏิบัติอยู่ไม่ถูกหรอก เสร็จแล้วท่านสอนจิต คือพุทธะให้ฟัง จิตคือพุทธะ เทศน์ๆๆ อยู่ 45 นาที ก็เทศน์กลับไปกลับมาเรื่อย รอบหนึ่ง 45 นาที เราฟังจนเหนื่อยเต็มประดานะ จึงถามหลวงปู่ว่า

'หลวงปู่ ที่หลวงปู่เทศน์มาทั้งหมดเนี่ย ผมขอดูจิตอย่างเดียวได้มั้ย?' ที่ต้องถามเพราะมันไม่รู้เรื่อง ที่เทศน์มาเนี่ยไม่ได้รู้เรื่องเลย

หลวงปู่ก็เลยบอกว่า

'ธรรมะทั้งหลายเกิดที่จิต ธรรมะ 84,000 พระธรรมขันธ์นะเกิดที่จิต ถ้ารู้อยู่ที่จิตก็รู้ธรรมะได้'

ฟังแล้วค่อยสบายใจนะ อือ โห ทำไมท่านสอนธรรมมากมาย ท่านสอนให้ไว้ใช้ในอนาคตแต่สอนทีไรก็สอนอย่างนี้ สอนเวียน ไปอยู่ในเรื่องของจิตคือพุทธะ จนครั้งสุดท้าย ไปหาท่านครั้งสุดท้าย 36 วันก่อนท่านมรณภาพ ไปหาท่านตั้งแต่ตอนบ่ายๆ อยู่กับท่าน ท่านก็เทศน์ให้ฟังไปเรื่อยๆ นะ จนทุ่มหนึ่ง ท่านนะหอบแฮ่กๆ เลย ไม่ยอมหยุดสอน เราก็สงสารท่านมากเลย บอกหลวงปู่

'หลวงปู่เหนื่อยมากแล้ว ผมจะกลับแล้ว'

'จะกลับเหรอ ยังกลับไม่ได้นะ ต้องจำไว้ก่อน พบจิตให้ทำลายจิตนะ พบผู้รู้ให้ทำลายผู้รู้ จิตจึงจะถึงความบริสุทธิ์อย่างแท้จริง'

จริงๆ มีอีกประโยคหนึ่ง แต่ไม่ค่อยอยากเล่า ท่านว่าพบพระพุทธเจ้าให้ฆ่าซะ ฟังแล้วมันน่าตกใจนะ

'พบจิตให้ทำลายจิต พบผู้รู้ให้ทำลาย ผู้รู้ จึงจะถึงความบริสุทธิ์อย่างแท้จริง เข้าใจมั้ย?' บอกท่านว่าไม่เข้าใจแต่ผมจะจำไว้

'เออดี จำไว้นะ ไป ไปได้แล้ว ไป'

ลาท่านมา ลาแล้วหันไปมองหลายรอบนะ เฮ้อ รู้สึกอาลัยอาวรณ์ ไม่ได้เจออีกแล้ว รุ่งเช้าขึ้นรถไฟไปกราบหลวงพ่อพุธที่โคราช วัดท่านอยู่ใกล้สถานีรถไฟ ลงรถไฟแล้วก็เดินไปได้ ท่านเห็นหน้าท่านถามว่า

'นักปฏิบัติ หลวงปู่สอนอะไร รอบนี้หลวงปู่สอนอะไร'

ท่านรู้ว่าหลวงพ่อไปเรียนจากหลวงปู่ดูลย์ ทุกครั้งที่เรียนจะต้องแวะมาหาท่านนะ แล้วท่านก็จะถามว่าหลวงปู่สอนอะไรบ้าง กราบเรียนท่านว่า หลวงปู่บอกว่าพบผู้รู้ให้ทำลายผู้รู้ พบจิตให้ทำลายจิต ท่านก็บอกว่าเมื่ออาทิตย์ก่อน ท่านไปหาหลวงปู่ดูลย์มา หลวงปู่ก็บอกท่านเหมือนกันบอกว่า

'เจ้าคุณ การปฏิบัติจะยากอะไร พบผู้รู้ให้ทำลายผู้รู้ พบจิตให้ทำลายจิต'

เสร็จแล้วหลวงพ่อพุธก็บอกหลวงพ่อว่า

'คุณกับอาตมามาทำกติกาตกลงกัน ใครทำลายผู้รู้ได้ก่อนให้บอกกันนะ ว่าทำลายยังไง'

ตอนนั้นปี 26 เสร็จแล้วก็ไปเจอท่านเรื่อยๆ นะ ตอนหลังๆ ท่านหนีไปจากวัด ท่านทนโยมไม่ไหว หลวงพ่อตอนนี้ยังทนไหวนะ อีกหน่อยคงทนไม่ไหวคงหนีเหมือนกัน หาตัวท่านไม่เจอ เจอเวลาท่านเข้าไปเทศน์ในกรุงเทพฯ บ้าง อะไรบ้าง คนเยอะๆ คน หลายร้อย คนเป็นพันเลยเข้าไม่ถึง ไม่เจอท่านนาน หลายปีไม่เจอ จนก่อนหลวงพ่อพุธจะมรณภาพไม่นาน ท่านไปเทศน์ที่องค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย หลวงพ่อ ยังทำงานอยู่องค์การโทรศัพท์ ไปนั่งฟังเทศน์ คนก็เต็มห้องนะ 100 คนได้ ค่อยน้อยหน่อย ท่านเทศน์จบก็คลานเข้าไปกราบท่าน

'หลวงพ่อ ผมไม่เจอหลวงพ่อนานแล้ว' ท่านบอกว่า ท่านจำได้นักปฏิบัติมีไม่มากหรอก

บอก 'หลวงพ่อผมยังทำลายผู้รู้ไม่ได้เลย'

โห คราวนี้นะธรรมท่านเปลี่ยนฉับพลันเลย ที่เทศน์ๆ ธรรมดา เทศน์เสร็จแล้ว พอบอกว่าผมทำลายผู้รู้ไม่ได้เลย ท่านห้าวหาญเลยพูดขึ้นมา

'จิตผู้รู้เหมือนฟองไข่ เมื่อลูกไก่นั้นนะเติบโตเต็มที่แล้ว มันจะเจาะทำลายเปลือกออกมาเอง'

Tam-mic-ra ฟันธง!  คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ .....  คิดครับคิด  :lol:   จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96  ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง   แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3


#83 eAT

eAT

    ผมเป็นเสื้อแดงฮับ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,589 posts

Posted 18 December 2012 - 14:53



ที่โพสต์ข้อเท็จจริงที่มาที่ไปนี่
ไม่ได้อ่านกันเลยหรือ?
อย่าเลือกหยิบเอาแต่ที่มันตรงจริตมาใช้สิ
จะเล่นประเด็นอะไรก็หัดค้นหาข้อมูลให้มันครบๆ
จะได้ไม่ปล่อยไก่ แล้วแถไปประเด็นอื่น


ปล่อยอะไรก็ตาม อย่าแปะ อธิบายมา
หรือไม่มีปัญญา แค่เอาโพยมาปะ แล้วถือว่าชนะแล้ว???

Posted Image


หรืออีเห็นลูกอีขายฮีอยากอธิบายแทน :lol:

#84 isa

isa

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 447 posts

Posted 18 December 2012 - 14:57

...ของหลวงพ่อปราโมทย์ใช่มั้ยครับ :)

ผมเองมาแนวหลวงพ่อเทียนมากกว่า เพราะเหมาะกับคนทำงานดี ไม่ติดสมถะมาก
แต่ก็ได้อะไรดีๆจากคำสอนแนวหลวงพ่อปราโมทมาเยอะเหมือนกัน โดยเฉพาะเรื่องจิต

...แปลกใจเหมือนกันที่ในยุควัตถุนิยมแรงๆแบบนี้ ยังมีโอกาสได้เจอครูบาอาจารย์ดีๆ
คำสอนดีๆให้เป็นหลักยึดบ้าง

#85 hentai

hentai

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,046 posts

Posted 18 December 2012 - 14:57




ที่โพสต์ข้อเท็จจริงที่มาที่ไปนี่
ไม่ได้อ่านกันเลยหรือ?
อย่าเลือกหยิบเอาแต่ที่มันตรงจริตมาใช้สิ
จะเล่นประเด็นอะไรก็หัดค้นหาข้อมูลให้มันครบๆ
จะได้ไม่ปล่อยไก่ แล้วแถไปประเด็นอื่น


ปล่อยอะไรก็ตาม อย่าแปะ อธิบายมา
หรือไม่มีปัญญา แค่เอาโพยมาปะ แล้วถือว่าชนะแล้ว???

Posted Image


หรืออีเห็นลูกอีขายฮีอยากอธิบายแทน :lol:


ได้เห็นท่าน เริ่่มจริตแตก หยาบคาย ด่าพ่อล่อแม่ แล้ว... ผมยอมแพ้ครับ :D

"คนโง่มักจะชอบว่าคนอื่นว่าโง่"

"ถ้าคนเราคิดเหมือนกันหมด ก็ไม่มีเลือกตั้งซิครับ"

"ผมไม่พูด เรื่อง 112 แล้ว นะครับ กรุณาอย่าถาม (17 พค 2012)"


#86 eAT

eAT

    ผมเป็นเสื้อแดงฮับ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,589 posts

Posted 18 December 2012 - 14:59





ที่โพสต์ข้อเท็จจริงที่มาที่ไปนี่
ไม่ได้อ่านกันเลยหรือ?
อย่าเลือกหยิบเอาแต่ที่มันตรงจริตมาใช้สิ
จะเล่นประเด็นอะไรก็หัดค้นหาข้อมูลให้มันครบๆ
จะได้ไม่ปล่อยไก่ แล้วแถไปประเด็นอื่น


ปล่อยอะไรก็ตาม อย่าแปะ อธิบายมา
หรือไม่มีปัญญา แค่เอาโพยมาปะ แล้วถือว่าชนะแล้ว???

Posted Image


หรืออีเห็นลูกอีขายฮีอยากอธิบายแทน :lol:


ได้เห็นท่าน เริ่่มจริตแตก หยาบคาย ด่าพ่อล่อแม่ แล้ว... ผมยอมแพ้ครับ :D


เห็นว่า ชอบขาย "ฮี" นี่
ไหงยอมแพ้แล้ว ทำไมทำดัดจริตไม่ชอบขึ้นมาอีกล่ะ
อีกกระทู้ยังชอบอยู่เลย

#87 อาตี๋

อาตี๋

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,267 posts

Posted 18 December 2012 - 15:01



มู้นี้ตรงกว่า... มู้ก่อนขออภัย... :D

งานนี้ ต้องนี่...



ทั้งนี้ คลิปดังกล่าวได้บันทึกการสนทนาระหว่าง พิธีกรและท่าน ว.วชิรเมธี โดยพิธีกรได้ถามว่า"จริงหรือไม่ ถ้ามนุษย์นั่งสมาธิขั้นสูงแล้ว จะเหาะได้ ลอยได้" ทางท่าน ว.วชิรเมธี ตอบว่า เป็นเรื่องธรรมดาที่สุดในแวดวงศาสนา แต่เขาไม่พูดกันเพราะมันไม่มีราคา เมื่อสมัยก่อนมนุษย์ไม่ได้เดินเท้า หรือใช้เครื่องบิน แต่อย่างใด เขาใช้วิธีเหาะเหินเดินหาว เพราะจิตเขามีวิวัฒนาสูงสุด เขาไม่ได้มีวัตถุมารองรับกาย เพราะเป็นที่รู้ดีกันอยู่แล้วว่า จิตมีอำนาจมากขนาดนั้น


:D


ตัดมาแค่นี้ก็จบสิ ท่านว. พูดต่อว่า "อะไรที่พิสูจน์ทางวิทมยาศาตร์ไม่ได้ คุณเชื่อแล้วหรอว่าสิ่งนั้นไม่มีทางเป็นจริง"


สมมติพีระมิดที่อียิปต์ (และสิ่่งก่อสร้างมหัศจรรย์อีกหลายแห่ง) ซึ่งทุกวันนี้วิทยาศาตร์ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าสร้างได้อย่างไร ถ้าไม่มีซากที่สมบูรณ์หลงเหลือว่าใหญ่โตขนาดไหน แล้วเห็นไตจะเชื่อมั้ยว่ามีจริง

นั่นแหละคือคำสอนที่ไม่ให้งมงายในวิทยาศาสตร์ เพราะวิทยาศาตร์คือองค์ความรู้ที่สั่งสมขึ้นเรื่อยๆ วันนี้พิสูจน์ไม่ได้ อนาคตอาจพิสูจน์ได้

วิทยาศาตร์ยังขัดแย้งในตัวเอง วิทยาศาตร์ยังมีการเปลี่ยนแปลง และถ้าคนงมงายเชื่อแต่ในสิ่งที่วิทยาศาตร์อธิบายได้ มนุษย์อาจจะไม่มีเครื่องบินใช้ก็ได้

พวกนี้ยังไงชอบตัดตอน เอาแต่แค่ประโยคที่ตัวเองจะเอามาโจมตีได้ โดยขาดการพิจารณาและฟังอย่างรอบคอบ


"อะไรที่พิสูจน์ทางวิทมยาศาตร์ไม่ได้ คุณเชื่อแล้วหรอว่าสิ่งนั้นไม่มีทางเป็นจริง"

ถูกครับ .. ถ้า ไม่มีซากปิรามิด แถวนั้น มีแต่ ทะเลทราย แล้ว มีคนบอกว่า เมื่อก่อนมี ปิระมิด... ผมก็ บอกอย่างไม่อายว่า ไม่มีทางที่คนโบราณจะสร้างของแบบนั้นได้...
ถามตัวเองครับ...

ระหว่าง นักวิทย์ ทั่วโลก ที่ บอกว่า ไม่มีทางที่คนโบราณจะสร้างของแบบนั้นได้ เพราะ เหตุผล 100 อย่าง
กับ
นักบวช แถวนั้น ที่บอกว่า เมื่อก่อนเคยมี ตามตำรา ตอนนี้ หายไป หมดแล้ว...

ท่านจะสอนลูกๆให้เชื่อใคร... เชื่อในสิ่งบอกเล่าจากนักบวชที่ยังไม่มีหลักฐาน

หรือ เชื่อ คนที่พูดจากหลักฐานและความรู้เท่าที่มีในตอนนั้น...

แม้สุดท้าย อีก สองปี มีหลักฐานว่า เคยมีจริงๆ... นักวิทย์ ผิด นักบวชถูก..
ผมไม่เสียใจครับที่ตอนนั้น บอกลูกๆไปว่า... จากความรู้ที่เรารู้ทั้งหมดตอนนี้... ไม่น่าเป็นไปได้...
เพราะ วิทย์ศาสตร์สอนให้ยอมรับ ในสิ่งใหม่เสมอ...
ผิดถูกอยู่ที่หลักฐาน ไม่ใช่ ... ความเชื่อ... หรือ ตำนาน..

เชื่อหลักฐานแล้วผิด... ดีกว่า งมงายแล้วถูก.... :D


ผมเขียนใหม่เพิ่มเติมไปแล้วแต่ไท่เห็นว่าอ้างถึงไปแล้ว ให้ลองไปอ่านใหม่

และขอเพิ่มเติม
ต้องเข้าใจคำว่า "งมงาย" ก่อน คำว่า "งมงาย" คือการเชื่อโดยขาดการพิจารณา เป็นการเชื่อโดยไร้ข้อกังขา และยังเป็นการยึดมั่นถือมั่นกับความเชื่อด้วย

ซึ่งวิทยาศาตร์บางครั้งในปัจจุบันยังอธิบายอะไรบ้างอย่างไม่ได้(บางอย่างอาจจะเป็นไปได้ หรือบางอย่างมันมีจริง แต่เพราะองค์ความรู้ที่ยังไม่ถึง หรือยังไม่รู้จึงบอกว่าไม่จริง) และวิทยาศาตร์ก็ไม่สามารถอธิบายได้ทุกอย่างโดยเฉพาะสิ่งที่เป็นนามธรรม คำนี้จึงเสมือนคำย้อนแย้ง กับพวกที่งมงายในวิทยาศาตร์ที่มักจะบอกว่า "ผมไม่เชื่อ เพราะพิสูจน์ด้วยวิทยาศาตร์ไม่ได้" แต่คนที่เชื่อในวิทยาศาตร์ แต่ไม่งมงาย จะพูดว่า "ผมยังไม่เชื่อ เพราะยังพิสูจน์ด้วยวิทยาศาตร์ไม่ได้" ("ยัง" คำนี้คำเดียวเปลี่ยนความหมายได้นะ)

ปล.ผมว่าที่คนเชื่อในวิทยาศาตร์บ้านเราส่วนใหญ่เชื่อว่าสิ่งที่เชื่อำด้ คือสิ่งที่อธิบายด้วยวิทยาศาตร์เท่านั้น นักวิทย์ไทยจึงขาดการพัฒนาองค์ความรู้ การทดลองสิ่งใหม่ๆ ไม่เหมือนนักวิทย์ฝรั่งที่บางคนเชื่อว่าทุกความเชื่อต้องอธิบายได้ด้วยวิทยาศาสตร์ บางครั้งถึงไม่แปลกที่นักวิทย์ฝรั่งวิจัยอะไรบ้าๆบอๆ บางคนก็พยายามทำอธิบายให้ตำนาน ความเชื่อเป็นไปได้ด้วยซ้ำ (ผมเคยดูสารคดีที่นักวิทยาศาตร์สมมติว่าถ้ามีมังกรจริงจะเป็นไปได้อย่างไร ถ้ามีสิ่งมีชีวิตนอกโลกในสภาพต่างๆพวกมันจะมีความเป็นไปได้ที่จะมีลักษณะอย่างไร ซึ่งคนคนที่มาแสดงความคิดเห็นก็นักวิทยาศาตร์ในแขนงต่างๆทั้งนั้น)

สิทธิตามระบอบประชาติปไตยมีไว้สำหรับให้เสื้อแดงผู้เรียกร้องประชาติปไตยเท่านั้น


ผู้อื่นห้ามใช้มิเช่นนั้นจะโดนประชาติปไตยลงโทษ


#88 Stargate-1

Stargate-1

    SG-1

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,578 posts

Posted 18 December 2012 - 15:07

...ของหลวงพ่อปราโมทย์ใช่มั้ยครับ :)

ผมเองมาแนวหลวงพ่อเทียนมากกว่า เพราะเหมาะกับคนทำงานดี ไม่ติดสมถะมาก
แต่ก็ได้อะไรดีๆจากคำสอนแนวหลวงพ่อปราโมทมาเยอะเหมือนกัน โดยเฉพาะเรื่องจิต

...แปลกใจเหมือนกันที่ในยุควัตถุนิยมแรงๆแบบนี้ ยังมีโอกาสได้เจอครูบาอาจารย์ดีๆ
คำสอนดีๆให้เป็นหลักยึดบ้าง


สุดท้ายก็เหมือนกัน ถามตัวเองอยุ่เสมอว่าทำอะไรอยู่ คำตอบก็คือกำลังหายใจเข้า กำลังหายใจออก กำลังขยับมืออยุ่ กำลัง..อยู ล้วนแต่เป็นการเจริญสติอยู่ทั้งสิ้น ต้องถอนจิตออกจากสมาธิเข้ามาสู่การวิปัสสนา คือ การใช้ปัญญาพิจารณาธรรมะ พิจารณาไตรลักษณ์ จึงรอด
  • isa likes this

Tam-mic-ra ฟันธง!  คำว่า "โดนพริกไทยมั๊ง" น่ะ แค่นี่เอามาเป็นหลักฐาน ได้ยังไงครับ .....  คิดครับคิด  :lol:   จากกระทู้แก้ข่าวหน้า 2 qoute #96  ใครยิงวสันต์-ภู่ทอง   แอลพีจีทำมาจากซี2ซี3


#89 Solidus

Solidus

    เลิกเล่น

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 14,367 posts

Posted 18 December 2012 - 15:19


เคยอ่านเสื้อแดงในพันทิปบอกว่าท่าน ว.แก้เฟซครับท่าน
จากอันเดิมมาเป็น "ฆ่าเวลาบาปน้อยกว่าฆ่าคน"

แต่จะประโยคไหนก็เถิด มันเป็นปริศนาธรรมของเซน แต่ไอ้พวกนี้มันดิบเถื่อน และ "ขโมยทุกอย่างยกเว้นหนังสือ"
ก็เลยไม่รู้จักปริศนาธรรมแบบเซน

"ฆ่าคนบาปน้อยกว่าฆ่าเวลา"
ผมว่าถึงจะเป็นข้อความนี้ก็ไม่มีอะไรหรอก อยู่ที่การตีความทางศาสนามากว่า เท่าที่เห็น ธรรมของท่าน ว ออกไปทางเชน มากกว่า พอดีเกิดถูกจริต เสื้อแดง เอาไปตีความเองเอ่อเองในทางโลก ผลที่ออกมาก็แนวๆๆ ในภาพนั้นล่ะ เอาเข้าจริงๆ ประโยคในทวีตมันก็แค่เล็กน้อย ปริศนาธรรมต่างๆ คงไม่ได้ใช้แค่ตามอง แล้วก็ตีความออกมาโต้งๆๆ มั่งผมว่า


-_- ท่านก็สอนแบบพุทธวจนะเสียก็สิ้นเรื่อง ไม่ต้องตีความ พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ชัดเจนทุกถ้อยธรรมอยู่แล้วขอรับ เฮ้ออออออ

<_< ไงล่ะ เจอ สัตว์จะทำเลย...

จะสอนแบบเซนหรือสอนด้วยพุทธวจนะก็เกิดปัญหาอยู่ดีแหละครับถ้าสอนโดยไม่เลือกคำสอนที่เหมาะกับคนถูกสอน
  • wat likes this

[color=#ff0000;]สำหรับผมคงเลิกเล่นบอร์ดนี้ไว้เพียงเท่านี้ ถ้าไอดีนี้ยังมีบุคคลอื่นที่ใครบางคนคิดว่าเป็นตัวจริงอยู่จริง เขาก็เข้ามาใช้บอร์ดนี้ต่อเองแต่ไม่ใช่ผมแน่นอน[/color]

ลาก่อน สวัสดีครับ 17 มกราคม 2556


#90 hentai

hentai

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,046 posts

Posted 18 December 2012 - 15:25






ที่โพสต์ข้อเท็จจริงที่มาที่ไปนี่
ไม่ได้อ่านกันเลยหรือ?
อย่าเลือกหยิบเอาแต่ที่มันตรงจริตมาใช้สิ
จะเล่นประเด็นอะไรก็หัดค้นหาข้อมูลให้มันครบๆ
จะได้ไม่ปล่อยไก่ แล้วแถไปประเด็นอื่น


ปล่อยอะไรก็ตาม อย่าแปะ อธิบายมา
หรือไม่มีปัญญา แค่เอาโพยมาปะ แล้วถือว่าชนะแล้ว???

Posted Image


หรืออีเห็นลูกอีขายฮีอยากอธิบายแทน :lol:


ได้เห็นท่าน เริ่่มจริตแตก หยาบคาย ด่าพ่อล่อแม่ แล้ว... ผมยอมแพ้ครับ :D


เห็นว่า ชอบขาย "ฮี" นี่
ไหงยอมแพ้แล้ว ทำไมทำดัดจริตไม่ชอบขึ้นมาอีกล่ะ
อีกกระทู้ยังชอบอยู่เลย


ฮี นี่ไม่เกี่ยงครับตรงจริต... แต่ ด่าพ่อล่อแม่ นี่ไม่ไหว..ไม่ตรงจริต
ถ้ามันตรงกับท่าน ... ทำต่อไปนะครับ. :D

"คนโง่มักจะชอบว่าคนอื่นว่าโง่"

"ถ้าคนเราคิดเหมือนกันหมด ก็ไม่มีเลือกตั้งซิครับ"

"ผมไม่พูด เรื่อง 112 แล้ว นะครับ กรุณาอย่าถาม (17 พค 2012)"


#91 มาหยารัศมี

มาหยารัศมี

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,502 posts

Posted 18 December 2012 - 16:03

ด่าได้แม้กระทั่งพระ.....ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ..........


เตรียมลงนรกกันทั้งคณะเถอะ.............ไอ้พวกควายแดง

ด่าได้แม้กระทั่งพระ.....ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ..........


เตรียมลงนรกกันทั้งคณะเถอะ.............ไอ้พวกควายแดง


เห็นด้วย

#92 Aiakos

Aiakos

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 389 posts

Posted 18 December 2012 - 16:04

นิทานอีสป สัตว์พูดได้ด้วย

แล้วจะเอาไปสอนลูกยังไงหว่า ก็สัตว์มันพูดไม่ได้นิ

สนใจแต่เปลือกจนไม่ดูแก่น ความรู้ท่วมหัวแต่...
"I'm gonna make him an offer he can't refuse." Don Corleone to Johnny Fontane about Woltz

#93 wat

wat

    เนตังมะมะ เนโสหะมัสมิ นะเมโสอัตตา.

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,542 posts

Posted 18 December 2012 - 16:08





1) ท่านว่า พระไตรปิฎก มีกี่ฉบับครับ... สังคายนากันมากี่ที... ของไทยลาวเขมรทิเบตจีน เหมือนกันหรือป่าวครับ...ถ้าสิ่งในพระไตรปิฎกเป็นหลักฐาน...ไบเบิลก็ด้วยใช่ไหมครับ...
เออ ชาดก.. เรื่องเล่า... เรื่อง บ้าเรื่องบอ ที่มีคนเขียน... เป็นหลักฐานกันหมดเลย... เอาละครับ... หนุนหนาน...

2)ที่ท่านว่า มีใน พุทธวัจนะ แล้วเชื่อได้...ท่านเชื่อว่า เต่าพูดได้ หรือป่าว... จาก เรื่อง...เต่าติดชนัก จากขุมทรัพย์จากพระโอษฐ์ หมวดที่ ๓ ว่าด้วย เกียรติและลาภสักการะ

ผมไม่เอาเรื่อง ***พูดได้ที่เป็นตำนาน เพราะ อันนั้น มันชาดก... พระพุทธเจ้าไม่ได้พูดเอง..


1. พระไตรปิฎกมีกี่ฉบับ...เอาเป็นว่ารู้มั้ยรู้วิธีตรวจสอบมั้ย ส่วนใดเป็นคำพระพุทธองค์... แล้วถ้าไม่ใช่หลักฐาน แล้วทฤษฎีสัมพันธภาพ หรือกฎแรงโน้มถ่วงของสสารก็คงไม่ใช่หลักฐานในแง่ความจริงเหมือนกันมั้ง...

2. เต่าพูดได้หรือไม่สมัยนั้น ไม่ทราบ... แต่ถ้าจำไม่ผิดเป็นเหมือนนิทาน หรือคำเปรียบเปรยยกตัวอย่างของพระพุทธองค์ที่ใช้ในหลายๆเรื่อง...

<_< ก่อนอื่นเอา 1. ก่อนเหอะ แยกเป็นหรือเปล่าที่ยกมาอ้างน่ะ ของจริงหรือของแต่งเติม...


เออ ดีเนอะ... เต่าพูดได้ เป็น การเปรียบเปรย...
คนเหาะได้... เป็นของจริง...

ท่านว่า ... " แยกเป็นหรือเปล่าที่ยกมาอ้างน่ะ ของจริงหรือของแต่งเติม."

นั้นสิครับ... ผมถึงถามท่านไง.. ก็ ในเมื่อเชื่อคำภีร์แล้วจะเชื่อเล่มไหน ฉบับไหน... ศาสนาไหน... หรือ
เชื่อเฉพาะ..ที่อยากเชื่อ... :D


-_- เอาไม่เถียง... ทุกท่านผู้มีวิจารณญาณลองอ่านดูว่าพระพุทธองค์ตรัสถึงเรื่องนี้ว่าอะไร... เต่าพูดกับคนรู้เรื่อง? อย่างลามกว่า หรือเล่าเรื่องในอดีตถึงเต่ากับเต่า...

เต่าติดชนัก๑
ภิกษุ ท. ! ลาภสักการะและเสียงเยินยอ เป็นอันตรายที่ทารุณแสบเผ็ด หยาบคาย ต่อการบรรลุพระนิพพาน อันเป็นธรรมเกษมจากโยคะ ไม่มีธรรมอื่นยิ่งกว่า.ภิกษุ ท. ! เรื่องเคยมีมาแล้วแต่หนหลัง : มีเต่าพันธุ์เดียวกันจำนวนมาก ฝูงหนึ่ง อาศัยอยู่นมนานในห้วงน้ำลึกแห่งหนึ่ง. ครั้งนั้นเต่าตัวหนึ่งได้เข้าไปหาเต่าอีกตัวหนึ่งถึงที่อยู่ แล้วพูดว่า “พ่อเต่าเอ๋ย ! เจ้าอย่าได้ไปเที่ยวหากินทางถิ่นโน้นเลย”. ภิกษุ ท. ! เต่า (ตัวที่สอง) ก็ยังขืนไปทางถิ่นนั้น.ชาวประมงได้แทงเต่าตัวนั้นด้วยชนัก. กาลต่อมา เต่า (ตัวที่สอง) ได้เข้าไปหาเต่า (ตัวที่หนึ่ง) ถึงที่อยู่. เต่า (ตัวที่หนึ่ง) ได้เห็น เต่า (ตัวที่สอง) มาแต่ไกล,ครั้นเห็นจึงกล่าวทักว่า “พ่อเต่า ! เจ้าไม่ได้ไปเที่ยวหากินทางถิ่นโน้นไม่ใช่หรือ ? ”“พ่อเต่า ! เราได้ไปมาเสียแล้ว”.“อย่างไร พ่อเต่า ! ก็เจ้าถูกแทงถูกตีมาบ้างไหม ?”...“พ่อเต่าเอ๋ย ! เราถูกแทงถูกตีเสียแล้ว นี่ เชือกสายชนัก ยังมีติดหลังเรามาด้วย”.“พ่อเต่าเอ๋ย ! สมน้ำหน้าที่ถูกแทง สมน้ำหน้าแล้วที่ถูกตี. พ่อเต่าเอ๋ย !พ่อของเจ้า ปู่ของเจ้า ได้รับทุกข์ถึงความพินาศด้วยเชือกเส้นนี้เหมือนกัน.เจ้าจงไปเสียเดี๋ยวนี้เถิด. บัดนี้เจ้าไม่ใช่พวกของเราแล้ว”.

ภิกษุ ท. ! คำว่า “ชาวประมง” เป็นคำชื่อแทนคำว่า “มารผู้มีบาป”. คำว่า “ชนัก” เป็นคำชื่อแทนคำว่า “ลาภสักการะและเสียงเยินยอ”. คำว่า “เชือกด้าย” เป็นคำชื่อแทนคำว่า “นันทิราคะ(ความกำหนัดยินดีเพราะเพลิน)”. ภิกษุ ท. ! ก็ภิกษุรูปใดรูปหนึ่งยังรู้สึกอร่อยติดใจในลาภสักการะและเสียงเยินยอที่เกิดขึ้น หรือดิ้นรนใคร่ที่จะได้อยู่ ; ภิกษุนี้ เราเรียกว่า ภิกษุผู้ได้รับทุกข์ ถึงความพินาศด้วยชนัก แล้วแต่มารผู้มีบาป ใคร่จะทำประการใด.ภิกษุ ท. ! ลาภสักการะและเสียงเยินยอ เป็นอันตรายที่ทารุณแสบเผ็ดหยาบคาย ต่อการบรรลุพระนิพพาน อันเป็นธรรมเกษมจากโยคะ ไม่มีธรรมอื่นยิ่งกว่า ด้วยอาการอย่างนี้. เพราะฉะนั้น ในเรื่องนี้ พวกเธอทั้งหลายพึงสำเหนียกใจไว้ดังนี้ว่า “เราทั้งหลาย จักไม่เยื่อใยในลาภสักการะและเสียงเยินยอที่เกิดขึ้น. อนึ่ง ลาภสักการะและเสียงเยินยอที่เกิดขึ้นแล้ว ต้องไม่มาห่อหุ้มอยู่ที่จิตของเรา”. ภิกษุ ท. ! พวกเธอทั้งหลาย พึงสำเหนียกใจไว้อย่างนี้แล.

บาลี พระพุทธภาษิต นิทาน. สํ. ๑๖/๒๖๗/๕๔๒-๕๔๔.
หมวดที่ ๓ ว่าด้วยเกียรติและลาภสักการะ


-_- เดี๋ยวจะไม่เห็นกัน...


ตกลง พระพุทธองค์ เล่าหรือป่าวครับ... :D


<_< แล้วที่อ้างเรื่องนี้ เปรียบกับเรื่องคนเหาะได้ มันเกี่ยวอะไรกัน???

-_- แถมา ชักเบื่อแล้ววุ๊ย... "เรื่องเคยมีมาแต่หนหลัง" พระพุทธองค์บอกตรงไหนว่าเต่าพูดได้ เหมือนกับที่ตรัสยืนยันเรื่องอานิสงค์การทำกายคตาสติ... ในวรรคต่อมาท่านอธิบายถึง "การเปรียบเปรย" ว่ายังไง แปลออกมั้ยว่าเป็นเรื่อง "เต่าพูดได้" หรือ ท่านบอกเล่าแล้ว "เกริ่นนำ" เหมือนในสมัยนี้ที่ว่า "กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว"....
:) Sometime...Sun shine through the rain...

#94 pop2518

pop2518

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 941 posts

Posted 18 December 2012 - 16:55

อืม ประเด็นนี้กลายเป็นเรื่อง ศาสนา ไปตั้งแต่ตอนไหน?????

แล้วผมก็ไม่เข้าใจว่า แล้วสิ่งที่ท่าน ว วชิระเมธี กล่าวไว้ มันเป็นสาเหตุอันสมควร ที่ต้องไปแสดงพฤติกรรมอย่างนั้น เหรอ?????

ผู้ได้รับรางวัล ย่อมได้รับการวิพากษ์ วิจารณ์ เป็นธรรมดาอยู่แล้ว ทั้งที่ เห็นด้วย และ ไม่เห็นด้วย แต่ไอ้การแสดงพฤติกรรมอย่างนั้น คุณที่เห็นด้วย คิดว่า มันดีแล้ว สมควรแล้ว งั้นเหรอคับ ถามจริง ?????????????

#95 ชามู

ชามู

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,296 posts

Posted 18 December 2012 - 16:57

น้องวิตถารการ์ตูน พี่แนะนำคนหนึ่งให้เอาไหม
เขากำลังขายของที่ตรงจริตของนัองอยู่น่ะ
เผอิญไปเห็นในทู้เพื่อนๆมาแปะไว้

เผลอๆ น้องอาจบรรลุได้
ถ้าได้ไปซื้อของๆเธอคนนั้น

Edited by ชามู, 18 December 2012 - 17:06.

ชามู ปลาวาฬตัวใหญ่ ใจดี

#96 พระฤๅษี

พระฤๅษี

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,127 posts

Posted 18 December 2012 - 17:07

Wat .. สีซอ..ขอสีร่วมด้วยนะ.....

...๑...สีซอ เสียงสดใส..........กระไรใจ ไม่ยลยิน
.....ดุ่มดุ่ม เดินดูดิน...............ทรพี อันธพาล

...๒...หญ้ายัง บ่ยากหญ้า..........มิโหยหา ผลาหาร
.....บอดใบ้ ใจพิการ.................เอาเกียรติกอง ไว้นอกกาย.....
  • wat likes this

#97 sanskrit_shower

sanskrit_shower

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,741 posts

Posted 18 December 2012 - 17:07

อืม ประเด็นนี้กลายเป็นเรื่อง ศาสนา ไปตั้งแต่ตอนไหน?????

แล้วผมก็ไม่เข้าใจว่า แล้วสิ่งที่ท่าน ว วชิระเมธี กล่าวไว้ มันเป็นสาเหตุอันสมควร ที่ต้องไปแสดงพฤติกรรมอย่างนั้น เหรอ?????

ผู้ได้รับรางวัล ย่อมได้รับการวิพากษ์ วิจารณ์ เป็นธรรมดาอยู่แล้ว ทั้งที่ เห็นด้วย และ ไม่เห็นด้วย แต่ไอ้การแสดงพฤติกรรมอย่างนั้น คุณที่เห็นด้วย คิดว่า มันดีแล้ว สมควรแล้ว งั้นเหรอคับ ถามจริง ?????????????

ก็แค่อ้างข้อความทึ่พอจะดิสเครดิทท่าน ว มาให้หลงประเด็นว่า
การที่แม่น้องเกตมาป่วนเวทีนั้น เหมาะสมหรือไม่ เท่านั้นเอง

#98 susu

susu

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,066 posts

Posted 18 December 2012 - 17:07

มู้นี้ตรงกว่า... มู้ก่อนขออภัย... :D

งานนี้ ต้องนี่...



ทั้งนี้ คลิปดังกล่าวได้บันทึกการสนทนาระหว่าง พิธีกรและท่าน ว.วชิรเมธี โดยพิธีกรได้ถามว่า"จริงหรือไม่ ถ้ามนุษย์นั่งสมาธิขั้นสูงแล้ว จะเหาะได้ ลอยได้" ทางท่าน ว.วชิรเมธี ตอบว่า เป็นเรื่องธรรมดาที่สุดในแวดวงศาสนา แต่เขาไม่พูดกันเพราะมันไม่มีราคา เมื่อสมัยก่อนมนุษย์ไม่ได้เดินเท้า หรือใช้เครื่องบิน แต่อย่างใด เขาใช้วิธีเหาะเหินเดินหาว เพราะจิตเขามีวิวัฒนาสูงสุด เขาไม่ได้มีวัตถุมารองรับกาย เพราะเป็นที่รู้ดีกันอยู่แล้วว่า จิตมีอำนาจมากขนาดนั้น


:D

17 ม.ค. 2010 (2553)
Posted Image

?
Posted Image

9 เม.ย. 2010
Posted Image

...
Posted Image

?
Posted Image

...
Posted Image

" วินิจฉัย .."ฆ่าเวลา" บาปกว่า.."ฆ่าคน" มีวินิจฉัย ดังนี้.......?????? "
ฆ่าคน....มีทั้งเป็นบาป..และไม่เป็นบาป..ขึ้นอยู่กับเจตนา ...บาปจากการฆ่าคนโดยเจตนาส่งผลให้ไปตกทุกข์ในอบายภูมิ ..แต่ผู้ที่กลับสำนึกผิด...ดำเนินชีวิตด้วยสติ..(แม้ต้องอยู่ในคกุก็ตาม..) ไม่ฆ่าเวลาให้ผ่านไปเปล่าด้วยโมหะ กลืนกินเวลาด้วยการเจริญสติปัฏฐาน ๔..ด้วยศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ และปัญญา บรรลุมรรคผลได้ภายในชาตินี้ ก็สามารถปิดประตูอบายได้..ชาติต่อไป ไปเกิดในสวรรค์อย่างแน่นอน ไม่ต้องตกนรกอีกเลย และจะบรรลุอรหันได้ ภายใน ๗ ชาติ
ส่วน
....การฆ่าเวลา....เป็นการปล่อยให้เวลากลืนกินชีวิต..
...การฆ่าเวลา...เป็นการดำเนิชีวิตด้วยสติ ..หรือโมหะ.. ? (ช่วยตอบหน่อย)
...คนฆ่าเวลา ปล่อยจิตใจให้โมหะครอบงำ...ขณะจิตดับ..ตายแล้วจะไปเกิดที่ไหน..??
พระพุทธเจ้าตรัสว่า "จิตฺเต สงฺกิฏฺเฐ ทุคฺคติ ปาฏิกังขา"
....ขณะจิตสุดท้ายเป็นเช่นไร.....ปฏิสนธิจิตก็จะเกิดเป็นเช่นนั้น..
...จิตโมหะ ..มีแต่ความหลงงงงวย....ชอบหลับ..ก็จะไปเกิดในภพที่ ชอบหลับ คือ..............................................???

....วินิจฉัยโดย พระมหาประเสริฐ มนฺตเสวี

อืมม์...ไปพ่นเรื่องเหาะได้ในกระทู้หนึ่งแล้ว...คงยังไม่ฟิน
เลยก๊อปแปะคห.ตัวเองมาลงกระทู้นี้อีกที
แล้วก็พล่าม พล่าม พล่าม แสดงถึงเลเวลสติปัญญาว่า..อนิจจา...กร๊วกนี่ช่างไม่รู้อะไรเลย

สรุป...hentai...

ทุกเรื่อง เบี่ยงประเด็นตลอด เขาถามว่า ฆ่าเวลา บาปไม่ น้อยกว่าฆ่าคน กลายไปเป็น "การฆ่าเวลาบาปกว่าการฆ่าคน" ได้อย่างไร
ดูเจตนาสิครับ "เล็งเห็นผล"มั่ง หัดฟังทั้งหมดบ้าง

#99 sanskrit_shower

sanskrit_shower

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,741 posts

Posted 18 December 2012 - 17:10







ที่โพสต์ข้อเท็จจริงที่มาที่ไปนี่
ไม่ได้อ่านกันเลยหรือ?
อย่าเลือกหยิบเอาแต่ที่มันตรงจริตมาใช้สิ
จะเล่นประเด็นอะไรก็หัดค้นหาข้อมูลให้มันครบๆ
จะได้ไม่ปล่อยไก่ แล้วแถไปประเด็นอื่น


ปล่อยอะไรก็ตาม อย่าแปะ อธิบายมา
หรือไม่มีปัญญา แค่เอาโพยมาปะ แล้วถือว่าชนะแล้ว???

Posted Image


หรืออีเห็นลูกอีขายฮีอยากอธิบายแทน :lol:


ได้เห็นท่าน เริ่่มจริตแตก หยาบคาย ด่าพ่อล่อแม่ แล้ว... ผมยอมแพ้ครับ :D


เห็นว่า ชอบขาย "ฮี" นี่
ไหงยอมแพ้แล้ว ทำไมทำดัดจริตไม่ชอบขึ้นมาอีกล่ะ
อีกกระทู้ยังชอบอยู่เลย


ฮี นี่ไม่เกี่ยงครับตรงจริต... แต่ ด่าพ่อล่อแม่ นี่ไม่ไหว..ไม่ตรงจริต
ถ้ามันตรงกับท่าน ... ทำต่อไปนะครับ. :D

ในเมื่อฮี มันตรงจริตท่าน แล้วทำไมการยกตัวอย่างท่านเป็นลูกคนขายฮี มันถึงกลายเป็นไม่ตรงจริตซะแล้วล่ะครับ

#100 wat

wat

    เนตังมะมะ เนโสหะมัสมิ นะเมโสอัตตา.

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,542 posts

Posted 18 December 2012 - 17:29

Wat .. สีซอ..ขอสีร่วมด้วยนะ.....

...๑...สีซอ เสียงสดใส..........กระไรใจ ไม่ยลยิน
.....ดุ่มดุ่ม เดินดูดิน...............ทรพี อันธพาล

...๒...หญ้ายัง บ่ยากหญ้า..........มิโหยหา ผลาหาร
.....บอดใบ้ ใจพิการ.................เอาเกียรติกอง ไว้นอกกาย.....


^_^ คารวะด้วยใจเลยลุง ไพเราะ, กินลึกมากขอรับ....
:) Sometime...Sun shine through the rain...




1 user(s) are reading this topic

0 members, 1 guests, 0 anonymous users