Jump to content


Photo
- - - - -

"ของขวัญปีใหม่จากพ่อ"


  • Please log in to reply
20 replies to this topic

#1 โจโฉ นายกตลอดกาล

โจโฉ นายกตลอดกาล

    น้องใหม่

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,795 posts

Posted 19 December 2012 - 00:57

*
POPULAR

Posted Image


ของขวัญจากในหลวง --มีเรื่องราวดีๆ ที่จะทำให้พวกเรามีความสุขกันอีกครั้ง อ่านเรื่องนี้แล้วจะทำให้ทุกคนรู้ว่า พวกเราแสนโชคดีที่ได้เกิดมาเป็นคนไทยภายใต้พระบรมโพธิสม...
ภาร

"แม่จ๋า...ในหลวงมาช่วยเราแล้ว แม่จะหายแล้วนะ แม่จะหายแล้ว...."

นับเป็นของขวัญชิ้นสุดแสนพิเศษ ต้อนรับปี 2552 ของครอบครัว ด.ญ.วรรณชลี พิลึก หรือนา วัย 14 ปี หลังจากที่เด็กหญิงเขียนจดหมายถึง "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" ขอพระเมตตาจากพระองค์ ทรงช่วยเหลือแม่ที่กำลังนอนป่วยเป็นโรคกระดูกทับเส้นประสาทนานถึง 5 ปี จากจดหมายที่จ่าหน้าซองถึง "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" และเขียนที่อยู่เพียงคำว่า "สำนักพระราชวัง" ไม่มีแม้แต่รหัสไปรษณีย์ และไม่ติดแสตมป์

ในที่สุด...จดหมายฉบับดังกล่าว ได้ถูกส่งกลับมา พร้อมกับถ้อยคำตอบรับจาก "สำนักราชเลขาธิการ พระบรมมหาราชวัง" และได้ดำเนินการให้แม่ของเธอเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ กรุงเทพฯ เป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ที่เด็กหญิงไม่คิดว่า ตนผู้เปรียบดั่งละอองดิน จะได้ รับพระเมตตาจาก "ฟ้า" ที่พระราชทาน "น้ำฝน" ลงมาชโลมความทุกข์ยามยากลำบาก

ย้อนกลับไปเมื่อ 8 ปีที่แล้ว แม่ของวรรณชลี นางสาวชนะ เทพแสง อายุ 47 ปี มีอาการปวดขารุนแรง แพทย์วินิจฉัยให้ผ่าตัดทันทีเพราะกระดูกทับเส้นประสาท หนึ่งอาทิตย์ให้หลัง แพทย์อนุญาตให้กลับไปรักษาตัวที่บ้าน "พอกลับมาถึงบ้าน แทนที่จะหาย แม่กลับเป็นมากขึ้น เพราะปวดขามากจนเดินไม่ได้ต้องนอนอย่างเดียว" นาเล่าถึงความหลังครั้งอายุ 9 ขวบ

ดั่งโชคชะตากลั่นแกล้ง เมื่อกลับไปโรงพยาบาลเดิม แพทย์กลับวินิจฉัยว่า ไม่เป็นอะไรมาก เพียงแค่จ่ายยาให้กลับไปรับประทานที่บ้าน และนัดให้มาตรวจอีกครั้งในเดือนถัดไป แต่จนแล้วจนรอด แม่ชนะก็ไม่ได้ไปพบแพทย์ตามนัด เนื่องจากไม่มีเงินค่ารักษาพยาบาล จากครอบครัวที่มี 2 คนสามีภรรยาช่วยกันทำมาหากิน เมื่อคนหนึ่งล้ม ภาระทั้งหมดก็ตกอยู่กับผู้เป็นหัวหน้าครอบครัวแต่เพียงผู้เดียว "พ่อต้องรับภาระค่าใช้จ่ายทั้งหมดคนเดียว ค่าเช่าบ้าน ค่าใช้จ่ายต่างๆ ส่งหนูเรียน เงินเดือนช่างซ่อมรถยนต์เดือนละสี่พันกว่าบาทไม่พอพาแม่ไปหาหมอ ทำได้เพียงซื้อยาแก้ปวดให้แม่กินไปวันๆ แต่ยาก็ช่วยได้แค่บรรเทา พอยาหมดฤทธิ์ แม่ก็กลับมาปวดขาอีก"

ตั้งแต่นั้นมา.... ชีวิตเด็กหญิงตัวเล็กๆ ก็ต้องตื่นตั้งแต่ตี 5 มาหุงข้าวทำกับข้าว ส่วนหนึ่งห่อให้พ่อไปกินที่ทำงาน อีกส่วนหนึ่งจัดสำรับให้แม่รับประทานเป็นอาหารเช้า จากนั้นอุ้มแม่ไปอาบน้ำที่ห้องน้ำแล้วอุ้มกลับมาวางไว้ที่เตียงเพื่อแต่งตัว ระหว่างที่แม่กินข้าว วรรณชลีจะปลีกตัวไปอาบน้ำแต่งตัว เสร็จแล้วก็ออกมาจัดสำรับอาหารกลางวันให้แม่ก่อนไปโรงเรียน พอเข็มนาฬิกาบอกเวลาเลิกเรียน วรรณชลีจะรีบกลับบ้านมาดูแลแม่ทันที อาบน้ำ ทำกับข้าว บีบนวดให้แม่ จนส่งแม่เข้านอน เด็กหญิงจึงได้มีเวลาสำหรับตัวเอง ทำการบ้าน อ่านหนังสือ

ดำเนินชีวิตแบบนี้ทุกวันกระทั่งเรียนชั้น ป.5 พ่อก็ได้งานซ่อมรถที่ได้เงินเดือนดีกว่าที่ทำงานเก่า จึงย้ายครอบครัวจากเขตประเวศ กรุงเทพฯ มาอยู่ที่ อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี ด้วยหวังว่าชีวิตจะดีขึ้น หาก...ก็ไม่ได้ดีไปกว่าเดิมสักเท่าไหร่ "บ้านที่เราอยู่เป็นห้องแถวเล็กๆ มีหน้าต่างระบายอากาศบานเดียว เพื่อนบ้านมีแต่ผู้ชาย เวลาหนูไปโรงเรียนต้องล็อคกุญแจบ้านขังแม่ไว้ เพราะกลัวจะเป็นอันตราย" ความเป็นห่วงจะเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ ถ้าวันไหน "ฝนตก" เพราะหลังคาบ้านรั่ว "เรียนหนังสือไม่เป็นสุขเลยค่ะ อยากให้เลิกเรียนเร็วๆ มีอยู่วันหนึ่งลูกเห็บตก ลมพัดแรง พอกลับบ้านไป แม่เปียกไปทั้งตัวเลย สงสารแม่มาก" เหนื่อยกาย วรรณชลี "ทนได้" แต่ "ทรมานใจ" ที่ต้องเห็นแม่นอนร้องโอดโอยเพราะความเจ็บปวดทุกวันทุกคืน หัวใจลูกมันเหลือจะทานทนไหว "แม่ปวดจนช็อค ปวดจนบิดจนต้องกัดผ้า หนูนอนร้องไห้ทุกวัน สงสารแม่มาก" น้ำเสียงสั่นเครือ น้ำตารื้อออกมา

ชีวิตดำเนินไปอย่างไร้ความหวัง..... กระทั่งวันหนึ่ง เด็กหญิงดูรายการโทรทัศน์ "ฝนจากฟ้า" นำเสนอเรื่องราวของเด็กโดนแก๊สระเบิดเขียนจดหมายขอความช่วยเหลือจากในหลวง หลังจากจบรายการ วรรณชลีไม่รีรอที่จะเขียนจดหมายถึง "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" พระผู้ทรงเป็นที่พึ่งพิงสุดท้ายในยามสิ้นหวัง ถ้อยคำในจดหมาย บรรยายถึงอาการป่วยของแม่ และขอพระเมตตาจากพระองค์ ช่วยแม่ของเธอด้วย "แม่จะตายหลายครั้งแล้ว เพราะปวดขาจนช็อค หนูไม่รู้จะช่วยยังไง จะไปหาหมอก็ไม่มีเงิน หนูกลัวแม่จะไม่อยู่กับหนู เลยตัดสินใจเขียนจดหมายถึงในหลวง เขียนทั้งๆ ที่รู้ว่าความหวังริบหรี่ แต่หนูก็ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร ขนาดคนข้างบ้านยังพึ่งไม่ได้เลย" น้ำเสียงสะอึกสะอื้น

หลังจากนั้นเพียง 1 เดือนเศษๆ "วรรณชลี วรรณชลี" เสียงเรียกดังมาจากหน้าประตูบ้าน เด็กหญิงลุกขึ้นเดินมาเปิดด้วยอาการสะลึมสะลือเพราะพิษไข้ เมื่อเปิดประตูออกไปก็พบอาจารย์ที่ปรึกษาประจำชั้น ม.1 ยืนอยู่ พร้อมกับยื่นซองจดหมายสีขาวให้ "มีจดหมายจากสำนักราชเลขาธิการ พระบรมมหาราช วัง ส่งมาถึงเธอ" วรรณชลียกมือขึ้นรับซองด้วยอาการสั่นเทา แล้วรีบเปิดอ่านทันที "ถึงเด็กหญิงวรรณชลี พิลึก ตามที่ท่านทูลเกล้าฯ ถวายฎีกา ความว่า ติดต่อที่ โรงเรียนบัวแก้วเกษร เลขที่ .... จังหวัดปทุมธานี ขอพระราชทาน พระบรมราชานุเคราะห์ ความแจ้งอยู่แล้ว นั้น สำนักราชเลขาธิการได้รับเรื่องแล้ว จึงแจ้งมาเพื่อทราบชั้นหนึ่งก่อน สำนักราชเลขาธิการ 3 กันยายน 2551"

น้ำตาใสๆ ของเด็กหญิงวัย 14 ปีไหลอาบแก้ม รีบเดินไปกอดแม่ที่นอนหลับอยู่ในบ้าน "แม่จ๋า...ในหลวงมาช่วยเราแล้ว แม่จะหายแล้วนะ แม่จะหายแล้ว...." เมื่อถามว่า "ความสุข" ของวรรณชลีคืออะไร เด็กหญิงนิ่ง ส่ายหน้าบอกว่า "ไม่รู้" แต่พอถามว่า สิ่งที่ทำให้ยิ้มได้คืออะไร วรรณชลีรีบบอกว่า "แม่ไม่ปวดขา" เมื่อก่อน...เด็กหญิงจะไปเรียนหนังสือด้วยใบหน้าเรียบเฉย ไม่ยิ้ม ไม่เล่น ไม่คุยกับเพื่อน แต่วันนี้ หลังจากที่สำนักราชเลขาธิการส่งจดหมายฉบับที่ 2 มาบอกให้แม่ของวรรณชลีไปรักษาที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์เมื่อวันที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมา และนัดให้ไปตรวจอีกครั้งในวันที่ 17 ธันวาคม ในฐานะ "คนไข้ราชสำนัก" วรรณชลีเริ่ม "ยิ้ม" ได้แล้ว....แม้จะรู้ความจริงอันแสนเจ็บปวดว่า อาการป่วยของแม่จะไม่มีวันหายก็ตาม!! "แม่อาการดีขึ้นนิดหน่อยค่ะ หมอให้ยามากิน แม่ปวดขาน้อยลง ไม่ทรมานอย่างเก่าแล้ว"

ไม่เพียงพระมหากรุณาธิคุณที่ครอบครัววรรณชลีได้รับจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว... หลังจากที่ได้มาเห็นสภาพครอบครัวของวรรณชลี คณะครู-อาจารย์โรงเรียนบัวแก้วเกษรก็เข้ามาช่วยเหลือเต็มที่ ด้วยการนำจดหมายจากสำนักราชเลขาธิการไปเป็นหลักฐานเพื่อยื่นขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานราชการต่างๆ ไม่นาน...แม่ของวรรณชลีก็ได้รับบริจาครถเข็น ได้รับการส่งตัวเข้ารักษาในโรงพยาบาลลาดหลุมแก้ว จากนั้นไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลปทุมธานี ได้รับความช่วยเหลือเรื่องที่อยู่อาศัย ย้ายบ้านจากห้องแถวสภาพโทรมๆ มาอยู่บ้านเช่าหลังเล็กๆ โดย อบต.คูบางหลวง ช่วยออกเงินค่าเช่าบ้านให้ครึ่งหนึ่ง นอกจากนี้วรรณชลียังได้รับทุนการศึกษาอีก 3,000 บาทด้วย "จดหมายของพระองค์ฉบับนั้นเปิดทางให้คนอื่นมองเห็น แล้วยื่นมือเข้าช่วยเหลือ ถ้าไม่ได้พระบารมีจากพระองค์ก็ไม่รู้ว่าครอบครัวหนูจะเป็นอย่างไร" วรรณชลีบอกด้วยน้ำเสียงตื้นตัน

อย่างไรก็ตาม "น้ำใจ" ที่หลั่งไหลเข้าช่วยเหลือครอบครัวพิลึก ก็ไม่ทำให้เด็กหญิงยอดกตัญญูคนนี้ "ลืมตัว" เธอยังคงเป็นวรรณชลีคนเดิม ที่ตื่นตี 5 มาหุงหาอาหารและดูแลแม่เช่นเดิม รวมทั้งยังคงช่วยครอบครัวประหยัดด้วยการไม่ "กินข้าวกลางวัน" เช่นเคย "ชินแล้วค่ะ ทำมาตั้งนานแล้ว" บอกด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แล้วบอกต่อว่า ได้เงินค่าขนมวันละ 40 บาท จ่ายค่ารถไป-กลับ 20 บาท ถ้าวันไหนหิวมากก็จะซื้อแซนด์วิชอันละ 10 บาทรับประทาน แต่ถ้าวันไหนหิวน้อยจะซื้อน้ำผลไม้ปั่นแก้วละ 6 บาทดื่ม และถ้าวันไหนไม่หิวก็จะไม่กินอะไรเลย จะเหลือเงินกลับบ้านประมาณ 20-30 บาททุกวัน ซึ่งเงินจากวันนี้ก็จะนำไปใช้ในวันถัดไป "หนูไม่ต้องการอะไรหรอกค่ะ ยังเหมือนเดิม ที่ต้องการที่สุด อยากให้แม่ดีขึ้นกว่านี้ ช่วยเหลือตัวเองได้ ถ้าเดินไม่ได้ ไม่เป็นไร ไม่อยากให้แม่ปวด อยากให้แม่อยู่กับหนูนานๆ และหนูก็เชื่อว่า ต่อไปนี้แม่จะดีขึ้นตามลำดับ เพราะในหลวงมาช่วยแม่แล้ว อย่างน้อยกำลังใจแม่ก็ดีขึ้นมาก พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าแผ่นดินที่ไม่เคยทอดทิ้งประชาชนของพระองค์เลย"

นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ และเป็นการเริ่มต้นปีใหม่ ด้วยท้องฟ้าสดใส ผูกริบบิ้นด้วยรุ้งงาม ของครอบครัวเด็กหญิงยอดกตัญญู "วรรณชลี"

ที่มา www.rbac.ac.th และ เพจ "บอกต่อความจริง" ในเฟซบุ๊ค


ถึงเรื่องราวจะผ่านมาหลายปีแล้ว อ่านแล้วยังประทับใจไม่ลืม

ขอแบ่งปันเรื่องราวดีๆ ต้อนรับปีใหม่ 2556 และ

สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของ "พ่อ" ผู้เป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทย

โจโฉ นายกตลอดกาล
เชื่อเถอะ อีกไม่ช้า นายเวร จะเสียฉายา "ร้อยล๊อกอิน" ไปในไม่กีอึดใจนี้

#2 ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

    หน้าตาดี มีอุดมการณ์

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 21,670 posts

Posted 19 December 2012 - 03:44

น้ำตาซึมเลยครับ

King-ทรงนั่งก้มฟังชาวบ้านพูด.jpg
gladiator 1.jpg

 

 

 

 

 

 


#3 Familie

Familie

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,202 posts

Posted 19 December 2012 - 04:44

เช่นกันครับ
อ่านไปนำ้ตาซึมไป
ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
และขอเป็นกำลังใจให้น้องผู้กตัญญูด้วยครับ
อ่านแล้วสะเทียนใจมากครับ
ขอวิงวอนท่านที่มีกำลังทรัพย์
ช่วยยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือน้องเขาหน่อยครับ
ความกตัญญูเป็นสิ่งที่ประเสริฐจริงๆครับ
จะแน่วแน่แก้ไขในสิ่งผิด จะรักชาติจนชีวิตเป็นผุยผง
จะยอมตายหมายให้เกียรติดำรง จะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา

#4 ตะนิ่นตาญี

ตะนิ่นตาญี

    La vie en rose

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,174 posts

Posted 19 December 2012 - 05:45

*
POPULAR

หัตถ์ทิพย์แห่งท่านไท้ กำจัดไข้กำจัดเข็ญ

ถอนทุกข์ขุกลำเค็ญ เย็นทั่วหน้ามาทุกฉนำ

แผ่นดินที่ทรงครอง แผ่นดินทองแผ่นดินธรรม

คราวเข็ญเข้าครอบงำ ทรงดับเข็ญทุกคราวครัน


เหน็ดเหนื่อยนั้นหนักนัก ทรงงานหนักอเนกอนันต์

วันพักเพียงสักวัน ก็แสนน้อยดูนานเกิน

วังทิพย์คือท้องทุ่ง ม่านงานรุ้งคือเขาเขิน

ร้อนหนาวในราวเนิน มาโลมไล้ต่างรสสุคนธ์


ย่างพระบาทที่ยาตรา ยาวรอบหล้าฟ้าสากล

พระเสโทที่ถั่งท้น ถ้าไหลรวมคงท่วมไทย

คัดลอกมาจากส่วนหนึ่งของ กาพย์เห่เรือ ฉลองศิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี

ประพันธ์โดย นาวาเอกทองย้อย แสงสินชัย

เพื่อนเพื่อน ครับ เมืองไทย เรานั้น
"เย็นศิระเพราะพระบริบาล" โดยแท้ครับ

ตะนิ่นตาญี

วันพุธที่ ๑๙ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๕

เวลา ๕.๔๕ นาฬิกา




หมายเหตุ แก้ไข วัน จาก วันอังคารที่ เป็น วันพุธที่....

Edited by ตะนิ่นตาญี, 19 December 2012 - 06:21.

"จะยอมตายหมายให้เกียรติดำรง จะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา"

#5 เดือนเอก

เดือนเอก

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 542 posts

Posted 19 December 2012 - 07:16

ขอนำไปแชร์ต่อนะครับ

#6 ตุ๊ ต่องแต่ง

ตุ๊ ต่องแต่ง

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 731 posts

Posted 19 December 2012 - 07:57

ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

#7 จอมโจรคิด

จอมโจรคิด

    อธรรมผู้น่ารัก

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,299 posts

Posted 19 December 2012 - 08:48

พ่อไม่เคยทอดทิ้งเรา ขอพระองค์ทรงพระเจริญ

เจตนารมณ์ส่วนตัว
- ไม่ใช้ถ้อยคำที่คำหยาบคาย
- ไม่ต่อล้อต่อเถียงอย่างไม่มีเหตุผล


#8 สิงห์สนามซ้อม

สิงห์สนามซ้อม

    คนดีไม่กลัวการตรวจสอบ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,757 posts

Posted 19 December 2012 - 08:54

ต้องแบ่งอ่านเป็น 4 ตอน เพราะ น้ำตาจะไหล

ทรงพระเจริญ !!

" ประกาศบอยคอต ช่อง 3 ไม่ว่าจะข่าว ละคร หรือการ์ตูนลูก  กรูไม่ดู !!! "


#9 JUR1ST

JUR1ST

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,803 posts

Posted 19 December 2012 - 08:59

ทรงพระเจริญ

#10 สุกี้น้อย

สุกี้น้อย

    หล่อสุดในเสรีไทย 55

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,636 posts

Posted 19 December 2012 - 09:17

ทรงพระเจริญ






ขอบคุณลุงโจโฉมากๆครับ......ที่นำเรื่องราวดีๆมาแบ่งปัน อ่านแล้วน้ำตาซึมทุกที

#11 asawinee

asawinee

    ปฏิรูป ก่อน เลือกตั้ง

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 9,003 posts

Posted 19 December 2012 - 09:17

ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

ในโอกาสนี้ ขอนำเรืื่อง เจลลี่พระราชทานมาเผยแพร่ เพื่อให้ทราบถึงน้ำพระทัยของในหลวง ที่มีต่อผู้ป่วยซึ่งไม่สามารถรับประทานอาหารได้สะดวก


Posted Image

มูลนิธิทันตนวัตกรรม ในพระราชูปถัมภ์ หน่วยทันตกรรมพระราชทานในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ร่วมกันพัฒนาเยลลี่โภชนาการ เพื่อผู้ป่วยมะเร็งช่องปาก ซึ่งจะช่วยให้ผู้ป่วยมีภาวะโภชนาการและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมีลักษณะเป็นเจลกึ่งแข็งกึ่งเหลว มีเนื้อสัมผัสที่พอดีไม่อ่อนหรือแข็งเกินไป ง่ายต่อการเคี้ยวและการกลืน ผลิตจากนมที่ผ่านกรรมวิธีย่อยแลคโต๊สซึ่งเป็นสาเหตุของการดื่มนมแล้วไม่สบาย ท้อง ท้องเสียแล้ว ทำให้ผู้ที่มีปัญหาเรื่องดื่มนมแล้วไม่สบายท้อง สามารถกินได้โดยไม่มีปัญหา และเมื่อนำไปทดลองใช้กับผู้ป่วยมะเร็งช่องปาก พบว่าผู้ป่วยไม่ต้องให้อาหารทางสายยาง ผู้ป่วยสามารถกินได้เอง และผู้ป่วยที่กินเยลลี่โภชนาการมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น

เจลลี่ พระราชทาน เป็นเงินส่วนพระองค์ของในหลวงทำออกมาแจกให้กับผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งในช่อง ปาก และผู้ป่วยที่เป็นอัมพฤก อัมพาต ผู้ป่วยที่ไม่สามารถกินอาหารได้ต้องให้อาหารทางสายยาง ผู้ป่วยที่มีปัญหาเกี่ยวกับการบดเคี้ยวลิ้นแข็ง เบื่ออาหาร ทำให้ร่างกายผู้ป่วยผอม ได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ ลองไปขอรับเจลลี่ พระราชทาน มารับประทานดู มันจะเหมือนเต้าหู้นิ่มก้อนสี่เหลี่ยม มีรสชานม กับรสมะม่วงกินแทนข้าวมันจะอิ่ม หรือจะกินข้าว แล้วกินเจลลี่ พระราชทานคู่กันไปด้วยก็ได้ แต่ถ้ากินข้าวได้ก็ให้กินข้าว แต่ถ้ากินข้าวไม่ได้ก็ให้กินเจลลี่ พระราชทาน 1 มื้อ ต่อ 1 กล่อง
ผลิตภัณฑ์ “นวัตกรรมอาหารสำหรับผู้ป่วยมะเร็งช่องปาก” เป็นอาหารสำเร็จรูปรับประทานได้ทันที มีลักษณะกายภาพกึ่งแข็งกึ่งเหลว ทำให้เคี้ยวและกลืนได้ง่าย แม้จะไม่มีฟันหรือเจ็บปากเจ็บคอ มีองค์ประกอบเป็นสารอาหารที่ให้พลังงาน ได้แก่ คาร์โบไฮเดรตประมาณ 50% โปรตีนประมาณ 20% และไขมันประมาณ 30% จึงถือว่ามีคุณค่าทางโภชนาการสูง

เจลลี่โภชนา 1 กล่อง มีปริมาตร 250 มิลลิลิตร ให้พลังงาน 230-260 กิโลแคลอรี จึงเหมาะสำหรับรับประทานเสริมเพื่อให้ได้รับพลังงานจากอาหารเพียงพอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผู้ป่วยที่มีปัญหาการบดเคี้ยวและการกลืน เช่น ผู้ป่วยมะเร็งช่องปากและคอหอย ซึ่งมีคุณภาพชีวิตไม่ดี เนื่องจากขาดสารอาหารและน้ำหนักลด ดังนั้น การรับประทานเจลลี่โภชนาจึงจะช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นได้ ปัจจุบันเจลลี่โภชนาที่ผลิตสำเร็จแล้วมี 2 รสชาติ ได้แก่ รสชานมและรสมะม่วง

หากต้องการเจลลี่โภชนาพระราชทานต้องทำอย่างไร?
เจลลี่โภชนาพระราชทาน เป็นอาหารพระราชทาน ห้ามจำหน่าย จึงยังไม่สามารถหาซื้อได้ ณ ปัจจุบัน อย่างไรก็ตามมูลนิธิได้จัดทำโครงการอาหารพระราชทานสำหรับผู้ป่วยมะเร็งช่อง ปาก ซึ่งจะแจกจ่ายให้แก่ผู้ป่วยมะเร็งช่องปาก หรือ อื่นๆ ที่มีปัญหาการเคี้ยว การกลืน ตามสถานพยาบาล 10 แห่ง คือ
• คลินิกศูนย์แพทย์พัฒนา กรุงเทพฯ 02-3087600 กด 9, 088-0223049
• โรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา 044-235582, 081-955-9002
• สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรุงเทพฯ 02-3547025-35
• ศูนย์มหาวชิราลงกรณ ธัญบุรี จ.ปทุมธานี 02-5461960-6
• ศูนย์มะเร็งชลบุรี 038-784001-5
• ศูนย์มะเร็งลพบุรี 036-621800
• ศูนย์มะเร็งลำปาง 054-335262-8
• ศูนย์มะเร็งอุดรธานี 042-207375-80
• ศูนย์มะเร็งอุบลราชธานี 045-285610-5, 045-285637-40
• ศูนย์มะเร็งสุราษฎร์ธานี 077-211625-8 ต่อ 1006
ท่านสามารถติดต่อสอบถามได้ที่สถานพยาบาล ดังกล่าว หรือ ติดต่อสอบถามมูลนิธิทันตนวัตกรรม ได้ที่
คุณบัวขาว หงษาชุม โทรศัพท์ 089-664-4634, 02-218-9027

หากต้องการมารับเจลลี่โภชนาพระราชทานที่มูลนิธิต้องทำอย่างไร?
• ติดต่อสอบถามเจ้าหน้าที่มูลนิธิ คุณบัวขาว หงษาชุม โทรศัพท์ 089-664-4634, 02-218-9027 เพื่อนัดหมาย
• นำสำเนาบัตรประชาชนของผู้ป่วยมารับด้วย
• นำรูปถ่ายผู้ป่วยมาด้วย (ถ้ามี)

วิธีรับประทานต้องทำอย่างไร?
• ใช้กรรไกรตัดปากกล่อง แล้วใช้ช้อนตักรับประทาน หรือ เทออกใส่จานเพื่อรับประทาน
• หลังจากเปิดกล่องแล้ว ควรรับประทานให้หมด หรือเก็บในตู้เย็นไม่เกิน 7 วัน
• แช่เย็น เพื่อความอร่อย
• สามารถรับประทานได้ทั้งผู้บริโภคทั่วไป และผู้มีปัญหาเรื่องการบดเคี้ยวและการกลืน
• ผู้ที่มีปัญหาแพ้นม สามารถรับประทานได้

*เจลลี่โภชนาพระราชทาน ผ่านการทำปราศจากเชื้อด้วยระบบ UHT จึงเก็บได้ 1 ปี โดยไม่ต้องแช่เย็น
http://www.fortuner-...p?topic=53797.0
http://www.inmu.mahi...h//news/116.php

#12 patcha

patcha

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 319 posts

Posted 19 December 2012 - 09:36

อ่านเรื่องแบบนี้ทีไรน้ำตามันซึมออกมาทุกที ทั้งๆที่เราก็ได้รับรู้รับฟังเรื่องทำนองนี้อยู่เรื่อย แต่ก็อดดีใจและปลาบปลื้มไปกับผู้ได้รับพระมหากรุณาธิคุณไม่ได้เลยสักครั้ง
ความเป็นคนดีสำคัญที่สุด ถ้าคนไม่ดี จะระบบหรือระบอบใดก็ไม่ดีทั้งสิ้น

#13 สีนวล...สีนิล

สีนวล...สีนิล

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 387 posts

Posted 19 December 2012 - 09:37

ไม่รู้ว่าจะเขียนอะไรได้อีก คงได้แต่เขียนสั้นว่า

"ทรงพระเจริญ"



#14 ขะยิ่นดง

ขะยิ่นดง

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 667 posts

Posted 19 December 2012 - 09:38

มีเด็กนักศึกษาฝึกงานมาจากเชียงใหม่ มาอยู่ที่บริษัทผม 3 เดือน ได้คุยๆดูแล้วผมกะว่าแดงแน่ๆ แต่ปรากฏว่่าปู่เป็นชาวดอย ที่รักในหลวง ผมเลยเลียบๆเคียงๆถามถึงเรื่องการเมืองด้วยความอยากรู้ ว่าคนมีการศึกษาระดับนี้จะมีแนวคิดอย่างไร.....มีประโยคนึงที่เขาพูดมาทำเอาผมยิ้มได้ เขาว่า "ทุกดอยแถวบ้านผมมีรอยเท้าในหลวง เกือบหมดทุกดอย แต่ไอ้................มันเป็นคนเหนือแท้ๆ เงาหัวมันยังไม่เคย มาผ่านแม้นกระทั่งตีนดอยเลยครับพี่"........


......ของพระองค์ทรงพระเจริญ......

#15 ปังตอ

ปังตอ

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,229 posts

Posted 19 December 2012 - 10:51

:( ...โดนน้องข้างๆถามเลยว่าพี่เป็นอะไร...น้ำตามันไหลโดยไม่รู้ตัวเลย...เฮ้ออ


แล้วแบบนี้ประชาชนคนไทย (ย้ำว่าคนไทย) จะไม่รักพระองค์ท่านได้อย่างไรหนอ

ลูกหลานที่รัก จงจำปฏิปทานี้ไว้ “ถ้ามีความจำเป็นเราต้องเสียสละเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และปวงชนชาวไทย แม้แต่ชีวิตก็ต้องยอม”

 


#16 โจโฉ นายกตลอดกาล

โจโฉ นายกตลอดกาล

    น้องใหม่

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,795 posts

Posted 19 December 2012 - 10:56

ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

ในโอกาสนี้ ขอนำเรืื่อง เจลลี่พระราชทานมาเผยแพร่ เพื่อให้ทราบถึงน้ำพระทัยของในหลวง ที่มีต่อผู้ป่วยซึ่งไม่สามารถรับประทานอาหารได้สะดวก


Posted Image

มูลนิธิทันตนวัตกรรม ในพระราชูปถัมภ์ หน่วยทันตกรรมพระราชทานในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ร่วมกันพัฒนาเยลลี่โภชนาการ เพื่อผู้ป่วยมะเร็งช่องปาก ซึ่งจะช่วยให้ผู้ป่วยมีภาวะโภชนาการและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมีลักษณะเป็นเจลกึ่งแข็งกึ่งเหลว มีเนื้อสัมผัสที่พอดีไม่อ่อนหรือแข็งเกินไป ง่ายต่อการเคี้ยวและการกลืน ผลิตจากนมที่ผ่านกรรมวิธีย่อยแลคโต๊สซึ่งเป็นสาเหตุของการดื่มนมแล้วไม่สบาย ท้อง ท้องเสียแล้ว ทำให้ผู้ที่มีปัญหาเรื่องดื่มนมแล้วไม่สบายท้อง สามารถกินได้โดยไม่มีปัญหา และเมื่อนำไปทดลองใช้กับผู้ป่วยมะเร็งช่องปาก พบว่าผู้ป่วยไม่ต้องให้อาหารทางสายยาง ผู้ป่วยสามารถกินได้เอง และผู้ป่วยที่กินเยลลี่โภชนาการมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น

เจลลี่ พระราชทาน เป็นเงินส่วนพระองค์ของในหลวงทำออกมาแจกให้กับผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งในช่อง ปาก และผู้ป่วยที่เป็นอัมพฤก อัมพาต ผู้ป่วยที่ไม่สามารถกินอาหารได้ต้องให้อาหารทางสายยาง ผู้ป่วยที่มีปัญหาเกี่ยวกับการบดเคี้ยวลิ้นแข็ง เบื่ออาหาร ทำให้ร่างกายผู้ป่วยผอม ได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ ลองไปขอรับเจลลี่ พระราชทาน มารับประทานดู มันจะเหมือนเต้าหู้นิ่มก้อนสี่เหลี่ยม มีรสชานม กับรสมะม่วงกินแทนข้าวมันจะอิ่ม หรือจะกินข้าว แล้วกินเจลลี่ พระราชทานคู่กันไปด้วยก็ได้ แต่ถ้ากินข้าวได้ก็ให้กินข้าว แต่ถ้ากินข้าวไม่ได้ก็ให้กินเจลลี่ พระราชทาน 1 มื้อ ต่อ 1 กล่อง
ผลิตภัณฑ์ “นวัตกรรมอาหารสำหรับผู้ป่วยมะเร็งช่องปาก” เป็นอาหารสำเร็จรูปรับประทานได้ทันที มีลักษณะกายภาพกึ่งแข็งกึ่งเหลว ทำให้เคี้ยวและกลืนได้ง่าย แม้จะไม่มีฟันหรือเจ็บปากเจ็บคอ มีองค์ประกอบเป็นสารอาหารที่ให้พลังงาน ได้แก่ คาร์โบไฮเดรตประมาณ 50% โปรตีนประมาณ 20% และไขมันประมาณ 30% จึงถือว่ามีคุณค่าทางโภชนาการสูง

เจลลี่โภชนา 1 กล่อง มีปริมาตร 250 มิลลิลิตร ให้พลังงาน 230-260 กิโลแคลอรี จึงเหมาะสำหรับรับประทานเสริมเพื่อให้ได้รับพลังงานจากอาหารเพียงพอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผู้ป่วยที่มีปัญหาการบดเคี้ยวและการกลืน เช่น ผู้ป่วยมะเร็งช่องปากและคอหอย ซึ่งมีคุณภาพชีวิตไม่ดี เนื่องจากขาดสารอาหารและน้ำหนักลด ดังนั้น การรับประทานเจลลี่โภชนาจึงจะช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นได้ ปัจจุบันเจลลี่โภชนาที่ผลิตสำเร็จแล้วมี 2 รสชาติ ได้แก่ รสชานมและรสมะม่วง

หากต้องการเจลลี่โภชนาพระราชทานต้องทำอย่างไร?
เจลลี่โภชนาพระราชทาน เป็นอาหารพระราชทาน ห้ามจำหน่าย จึงยังไม่สามารถหาซื้อได้ ณ ปัจจุบัน อย่างไรก็ตามมูลนิธิได้จัดทำโครงการอาหารพระราชทานสำหรับผู้ป่วยมะเร็งช่อง ปาก ซึ่งจะแจกจ่ายให้แก่ผู้ป่วยมะเร็งช่องปาก หรือ อื่นๆ ที่มีปัญหาการเคี้ยว การกลืน ตามสถานพยาบาล 10 แห่ง คือ
• คลินิกศูนย์แพทย์พัฒนา กรุงเทพฯ 02-3087600 กด 9, 088-0223049
• โรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา 044-235582, 081-955-9002
• สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรุงเทพฯ 02-3547025-35
• ศูนย์มหาวชิราลงกรณ ธัญบุรี จ.ปทุมธานี 02-5461960-6
• ศูนย์มะเร็งชลบุรี 038-784001-5
• ศูนย์มะเร็งลพบุรี 036-621800
• ศูนย์มะเร็งลำปาง 054-335262-8
• ศูนย์มะเร็งอุดรธานี 042-207375-80
• ศูนย์มะเร็งอุบลราชธานี 045-285610-5, 045-285637-40
• ศูนย์มะเร็งสุราษฎร์ธานี 077-211625-8 ต่อ 1006
ท่านสามารถติดต่อสอบถามได้ที่สถานพยาบาล ดังกล่าว หรือ ติดต่อสอบถามมูลนิธิทันตนวัตกรรม ได้ที่
คุณบัวขาว หงษาชุม โทรศัพท์ 089-664-4634, 02-218-9027

หากต้องการมารับเจลลี่โภชนาพระราชทานที่มูลนิธิต้องทำอย่างไร?
• ติดต่อสอบถามเจ้าหน้าที่มูลนิธิ คุณบัวขาว หงษาชุม โทรศัพท์ 089-664-4634, 02-218-9027 เพื่อนัดหมาย
• นำสำเนาบัตรประชาชนของผู้ป่วยมารับด้วย
• นำรูปถ่ายผู้ป่วยมาด้วย (ถ้ามี)

วิธีรับประทานต้องทำอย่างไร?
• ใช้กรรไกรตัดปากกล่อง แล้วใช้ช้อนตักรับประทาน หรือ เทออกใส่จานเพื่อรับประทาน
• หลังจากเปิดกล่องแล้ว ควรรับประทานให้หมด หรือเก็บในตู้เย็นไม่เกิน 7 วัน
• แช่เย็น เพื่อความอร่อย
• สามารถรับประทานได้ทั้งผู้บริโภคทั่วไป และผู้มีปัญหาเรื่องการบดเคี้ยวและการกลืน
• ผู้ที่มีปัญหาแพ้นม สามารถรับประทานได้

*เจลลี่โภชนาพระราชทาน ผ่านการทำปราศจากเชื้อด้วยระบบ UHT จึงเก็บได้ 1 ปี โดยไม่ต้องแช่เย็น
http://www.fortuner-...p?topic=53797.0
http://www.inmu.mahi...h//news/116.php


มีเรื่องเจลลี่โภชนาพระราชทานก็ดีแล้วครับ ผมขอแจ้งเพิ่มเติมว่าตอนนี้

ของหมดแล้วครับ ต้องรออีกทีหลังปีใหม่ครับ

Edited by โจโฉ นายกตลอดกาล, 19 December 2012 - 10:57.

เชื่อเถอะ อีกไม่ช้า นายเวร จะเสียฉายา "ร้อยล๊อกอิน" ไปในไม่กีอึดใจนี้

#17 lionidas

lionidas

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,612 posts

Posted 19 December 2012 - 11:09

ขอบคุณครับ ท่านอำมาตย์ใหญ่...
ด้วยสัตย์จริง ผมไม่กล้าอ่าน กลัวใจตัวเอง
กลัวบ่อน้ำตาแตก อายน้องๆ มัน.....

ทรงพระเจริญฯ...มิบังอาจสงสัยในพระเมตตา ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด

แก้ไขคำ

Edited by lionidas, 19 December 2012 - 11:10.

พี่เหนาะ คนตาบอดมันกลัวเสือเหรอ ถ้าเราไม่พูดแบบนี้เราจะได้เสียงเหรอ ...

#18 noswords

noswords

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 543 posts

Posted 19 December 2012 - 11:42

อ่านเรื่องนี้แล้วชวนให้นึกถึงภาพยนต์โฆษณาชุดเฉลิมพระเกียรติเมื่อปี พ.ศ.2549 เรื่อง "พ่อมองเห็นเราเสมอ"
ขออนุญาตท่านโจโฉฯ ร่วมแจมในกระทู้นี้ด้วยนะครับ
http://youtu.be/y172KLw3FMQ


เครดิต youtube ของคุณ Pict4allBluesky

Edited by noswords, 19 December 2012 - 11:43.

What is a rebel? - A man who says NO!Albert Camus


#19 Enzo

Enzo

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 295 posts

Posted 19 December 2012 - 12:04

ทรงพระเจริญ


วันที่ 5 ที่ผ่านมา หน.ถามว่า ที่น้ำตาไหลนี่น่ะมันซาบซึ๋งมากเลยหรือ
เขาไม่เข้าใจว่าเป็นไรกัน
เลยตอบเขาว่าคนที่ไม่เคยคิดถึงคนอื่น
ไม่เคยเสียสละอะไรให้ใคร
ไม่รู้จักความรู้สึกแบบนี้หรอก

#20 พอล คุง

พอล คุง

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 11,014 posts

Posted 19 December 2012 - 15:21

ทรงพระเจริญ

ถึงตรูจะเลวยังไง ตรูก้อไม่ได้ขายชาติ เหมือนเสื้อแดงว่ะ เข้าใจนะ

 


#21 คุณหนูจีน่า

คุณหนูจีน่า

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 364 posts

Posted 19 December 2012 - 19:38

อ่านเรื่องนี้แล้วชวนให้นึกถึงภาพยนต์โฆษณาชุดเฉลิมพระเกียรติเมื่อปี พ.ศ.2549 เรื่อง "พ่อมองเห็นเราเสมอ"
ขออนุญาตท่านโจโฉฯ ร่วมแจมในกระทู้นี้ด้วยนะครับ
http://youtu.be/y172KLw3FMQ


เครดิต youtube ของคุณ Pict4allBluesky


ดูแล้วน้ำตาไหลเลยค่ะ
จำได้ว่าปีนั้นมีโฆษณาเฉลิมพระเกียรติอีกเรื่องนึง มีเด็กผู้หญิงเป็นตัวแสดง
และมีคำพูดประทับใจว่า "ทรงมองเห็นประชาชนของพระองค์"
ซาบซึ้งและประทับใจสุดบรรยาย


อ่านกาพย์เห่เรือในเมนท์ของคุณตะนิ่นตาญีแล้ว
มีอีกวรรคนึงที่เพราะมาก ท่องจนจำได้เลย ดังนี้ค่ะ

คือแสงทิพย์ที่ส่องไทย คือสายใยแห่งทวยสยาม
ยิ่งยาววันยิ่งวาววาม ยิ่งยาวยามยิ่งร่มเย็น


ขอให้พระองค์ท่านจงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน




ในส่วนของประเทศไทย เราไม่ขออะไรมากไปกว่า "แผ่นดินของเรา" - ท่านทูตวีรชัย พลาศรัย / คำแถลงปิดคดีปราสาทพระวิหาร




1 user(s) are reading this topic

0 members, 1 guests, 0 anonymous users