Jump to content


Photo
- - - - -

แตกกระทู้ คุณ Wat ฝากให้ เฮนไต และสิงห์สนามหลวง


  • Please log in to reply
12 replies to this topic

#1 susu

susu

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,066 posts

Posted 21 December 2012 - 17:51

ความเดิม

photo-thumb-9465.jpg?_r=0

  • Members
  • bullet_black.pngbullet_black.pngbullet_black.pngbullet_black.png
  • 3,991 posts

 

นี้ตรงกว่า... มู้ก่อนขออภัย... :D

งานนี้ ต้องนี่...

 



ทั้งนี้ คลิปดังกล่าวได้บันทึกการสนทนาระหว่าง พิธีกรและท่าน ว.วชิรเมธี โดยพิธีกรได้ถามว่า"จริงหรือไม่ ถ้ามนุษย์นั่งสมาธิขั้นสูงแล้ว จะเหาะได้ ลอยได้" ทางท่าน ว.วชิรเมธี ตอบว่า เป็นเรื่องธรรมดาที่สุดในแวดวงศาสนา แต่เขาไม่พูดกันเพราะมันไม่มีราคา เมื่อสมัยก่อนมนุษย์ไม่ได้เดินเท้า หรือใช้เครื่องบิน แต่อย่างใด เขาใช้วิธีเหาะเหินเดินหาว เพราะจิตเขามีวิวัฒนาสูงสุด เขาไม่ได้มีวัตถุมารองรับกาย เพราะเป็นที่รู้ดีกันอยู่แล้วว่า จิตมีอำนาจมากขนาดนั้น

 

..................................................................................................................................................................................................................

 

คำตอบที่น่าเอาไปฟัง ยาวไปหน่อย ตั้งใจอ่านก่อนนะครับ

 

http://www.pantip.co.../X13067739.html

 

จากคุณ : จิตผู้รู้ smilex.gif เขียนเมื่อ : 17 ธ.ค. 55 01:33:41

 



 

สมมติว่าคุณเป็นนักวิทยาศาสตร์ โดนสาปให้ย้อนเวลา ถอยไปอยู่สัก 300 ปีก่อน ประมาณกลางยุค พระนเรศวร

คุณเห็นคนตายเป็นพันๆกันทั้งเมืองเพราะโรคอหิวาต์

คนโบราณก็รักษากันแบบผิดๆ เชิญหมอผีมาไล่ผี หรือต้มยาหม้อกิน รวมๆกันอยู่อย่างไม่ถูกสุขลักษณะ

คุณช่วยคน ด้วยการให้ความรู้ จัดระเบียบสุขลักษณะ ปรุงยาด้วยเกลือและน้ำตาล
ลดภาวะขาดน้ำ หวังให้ร่างกายแข็งแรง สู้กับโรคเอง นาทีนั้นคุณไม่มีเครื่องมือและวัตถุดิบทำยาปฏิชีวนะ

คุณรักษาบางคนหาย บางคนไม่หาย บางคนเชื่อคุณ บางคนไม่เชื่อ

มี 100 คน ขอฝากตัวเป็นลูกศิษย์ เพราะความรู้อันก้าวหน้าเกินยุคของคุณ

อีก 5,000 คน มีภูมิรู้ อัตตาสูงส่ง ตามความรู้อันจำกัดในยุคนั้นๆ ก็ยิงคำถามให้คุณตอบเป็นชุดๆ
ในเรื่องวิทยาการแขนงต่างๆ
กรองเอาเฉพาะคำถามที่ไม่ซ้ำกัน ก็คนละ 10 คำถาม 5,000 คน ก็ 50,000 คำถาม

และถ้าคุณตอบ 10 คำถาม ของแต่ละคนได้หมด ก็จะยิ่งมีอีก 100 คำถามต่อคน ตามมา

เช่น

คุณบอกว่า อหิวาต์ เกิดจาก เชื้อแบคทีเรีย  Vibrio cholerae

ปราชญ์ทั้งหลายก็ถามต่อว่า

แบคทีเรียคืออะไร
เล็กอย่างนี้ จับมาดูได้ยังไง เห็นได้ยังไง พิสูจน์หน่อย
กล้องจุลทรรศน์คืออะไร ผลิตให้ดูหน่อย พิสูจน์

เล็กอย่างนี้ ทำร้ายเราได้ยังไง ข้ากินมดแมลงตั้งหายตัว ข้าไม่เห็นเป็นไร
มันคลอดลูก ออกลูก ทางไหน มันจีบกันยังไง
แบ่งตัวได้ยังไง
พันล้านนี่มันมากแค่ไหน
เม็ดเลือดขาวคืออะไร
เซลล์คืออะไร

สมมติคุณมาคอยตอบคำถามเหล่านี้ ขณะที่โรคระบาดก็ยังดำเนินต่อไป
ตอบเป็นหนังสือจนเต็มห้องสมุด ห้องสมุดนี้อาจไม่มีคนอ่าน เพราะทั้งเมืองได้ตายเพราะอหิวาต์ไปหมดแล้ว

หรือคุณอาจแสดงฤทธิ์ง่ายๆ ด้วยการประดิษฐ์ เข็มทิศ ดินปืน C4 TNT หลอดไส้ ขดลวด มอเตอร์
คนก็จะยิ่งมาสนใจสิ่งประดิษฐ์ของคุณ แคว้นต่างๆ แย่งชิงตัวคุณเพื่อประโยชน์ด้านสงคราม หรือความมั่งคั่ง
แต่คนยังตายมากมาย เพราะอหิวาห์ กาฬโรค ไข้ทรพิษต่อไป

แต่ถ้าคุณควรเลือกที่จะไม่ตอบคำถามเหล่านี้ แต่ไปสนใจลูกศิษย์ 100 คน ของคุณ
สอนเค้าว่า ให้บอกต่อๆ ถึงวิธีการคัดแยกผู้ป่วย รักษาสุขอนามัย และกินน้ำต้มสุกผสมเกลือแร่และน้ำตาล

ปล่อยให้ผลงานเป็นที่ประจักษ์
ที่เชื่อคุณ ก็รอด และสอนต่อๆกันไป
ที่ไม่เชื่อคุณ หรือรอให้คุณตอบคำถามให้สิ้นสงสัยก่อนถึงจะเชื่อ
คุณก็ปล่อยเค้าสงสัยต่อไป เพราะคุณมีงานต้องทำอีกมาก
ยังไงคุณก็ไม่สามารถทำให้คนในยุคนั้นทั้งโลกเชื่อคุณได้ ไม่สามารถรักษาคนป่วยทุกคนให้รอดได้


เช่นกัน พระพุทธเจ้า ท่านเลือกวิธีไม่ตอบคำถามที่ไม่เป็นไปเพื่อการดับทุกข์
กิจวัตรประจำวันของพระพุทธเจ้าคือ ทุกเช้าท่านจะเข้าฌาณใช้ฤทธิ์เสาะหาผู้มีธุลีในดวงตาน้อย เพื่อไปโปรดให้ได้ผลเลิศที่สุด ในระดับอรหันต์หรืออย่างน้อยก็โสดาบัน

ผู้มีธุลีในดวงตาน้อย ล้วนแล้วแต่เป็นผู้บำเพ็ญตนมาเป็นกัปๆ เป็นหมื่นเป็นแสนชาติ
อย่างองคุลีมาร ชาติก่อนๆ เป็นคนดีมาก ค้นหาสัจจธรรมจนตัวตายมาโดยตลอด
การฆ่าคน 999 คน ในชาตินี้ เป็นเหมือนโยนเกลือ 1 คันรถ ลงในทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่
ไม่สามารถทำให้ทั้งทะเลสาบเค็มได้

ที่จริงองคุลีมาร ท่านพลาดมาฆ่าคน เพราะหลงเชื่ออาจารย์เลวในยุคนั้น
ทั้งๆที่ก่อนหน้านั้น ท่านเรียนได้ที่ 1 ทุกสาขาใน Harvard ของยุคนั้นมาโดยตลอด-(สมมติ)

แต่ชาติสุดท้าย ชีวิตกำลังจะพลาดพลั้งหักเห จะฆ่าแม่ตัวเอง ทำอนันตริยกรรม ต้องหลงทางดำดิ่งไปอีกนาน
พระองค์จึงต้องไปโปรด อัตราความสำเร็จพระองค์ท่านคงเห็นแล้วว่าสำเร็จแน่
เพราะผู้ฝึกฌาณสมาบัติ บำเพ็ญบารมีแก่กล้าเพียงนั้น แสดงฤทธิ์ และกระตุ้นให้ถูกมุม
ท่านก็บรรลุได้เองแล้ว

มรรคผลเป็นของรู้โดยตนเองได้ยาก ไม่สามารถทำเป็น mass broadcasting ได้
เพราะคนจะแค่ฟังและอ่านอย่างผิวเผิน ไม่มีใครได้มรรคผล คำสอนแท้ๆลึกๆ ก็จะสูญสิ้นไป

ไม่มีเวลาพอที่จะมานั่งอธิบายเรื่องใบไม้ทั้งป่า
focus เฉพาะใบไม้ในมือดีกว่า ยังมีคนสนใจเรื่องใบไม้ในมืออีกมาก

ใครที่ยังมีธุลีในดวงตามาก ก็สอนเท่าที่จะพอบอกได้
แล้วหวังให้เขาสะสมบารมี รอพระพุทธเจ้าองค์ต่อไปก็แล้วกัน

เหมือนดังคนรอรถเมล์ ที่ป้ายรถเมล์ ช้าอยู่รอชมนกชมไม้
รถจอดป้ายก็ไม่ขึ้นซะที คนขับก็ปิดประตูออกรถไปเลย เพราะยังต้องไปรับคนส่วนใหญ่อีกมาก
ส่วนคนที่ตกรถ ก็รอรถเที่ยวหน้าก็แล้วกัน

แต่ความเป็นวิทยาศาสตร์ และความน่าทึ่งล้ำยุคของพุทธศาสนามีมากมาย
แต่จะกระตุ้นศรัทธา ของปัจเจนชน ยุคนี้ได้หรือไม่
คงต้องอยู่ที่ กรรมเก่า กัลยาณมิตร และโยนิโสมนสิการของแต่ละคนแล้ว

หากยังไม่เห็นทุกข์ ยังไม่รู้ตัวว่าลูกศรปักอกอยู่ หรือยังไม่ได้ทดลองปฏิบัติด้วยตนเอง
การจัดลำดับความสำคัญของปัญหา ย่อมไม่เหมาะสมเป็นเรื่องธรรมดา

ตัวใครตัวมันครับ อย่างไรเสียในปัจจุบันขณะก็สุขสบายกันดีเป็นส่วนใหญ่

แต่หากวาสนาดีได้รับผลการปฏิบัติเล็กๆน้อยๆ ก็เข้าใจลึกซึ้งเลยว่าข้อความข้างล่างนี้เป็นอย่างไร

"หลักธรรมคำสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพัมพุทธเจ้านั้นมีความลาดลุ่มลึกเป็นอัศจรรย์ดุจห้วงมหาสมุทร
เหมาะสมแก่สติปัญญาของคนทุกระดับ ยิ่งผู้ที่มีพื้นความรู้และจิตใจสูงส่ง
ยิ่งสามารถเข้าใจพระพระพุทธศาสนาได้มากเป็นอัศจรรย์"


 

อิทธิปาฏิหาริย์ มีจริงหรือไม่ ? ควรทำตนอย่างไร ?

 

เอาไปอ่านนะ

http://thammapedia.c...payutto/110.pdf

 

ผมชอบนะเวลาเขาเบี่ยงประเด็นในเรื่องหลายเรื่อง ให้กลายเป็นประเด็นคำถามกลับ แล้วประเด็นหลักนั้น ก็ถูกมองข้ามไปโดยปริยาย

หลายเรื่อง เลย กลายเป็นความผิดปกติ..ในจริต แบบชื่อที่เขาตั้งนั่นแหละครับ

 

กรุณา อ่านให้จบก่อน แล้วตอบนะครับ

 

แถม

 

 

 

 

 

Attached Images

  • e.jpg


#2 ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

    หน้าตาดี มีอุดมการณ์

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 21,670 posts

Posted 21 December 2012 - 17:55

อุตส่าห์อ่านความลึกซึ้งมาเสียดีเลย

 

ลากมาเจอรูป..........

ตกใจ!


gladiator 1.jpg

 

 

 

 

 

 


#3 susu

susu

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,066 posts

Posted 21 December 2012 - 19:03

คงมาดูวันจัทร์ เค้าหยุดเสาร์อาทิตย์ พวกเล่นเครื่องหลวง 55



#4 wat

wat

    เนตังมะมะ เนโสหะมัสมิ นะเมโสอัตตา.

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,542 posts

Posted 21 December 2012 - 19:14

^_^  เอหิปัสสิโก (เป็นสิ่งที่ควรกล่าวกับผู้อื่นว่า ท่านจงมาดูเถิด)  โอปะนะยิโก (เป็นสิ่งที่ควรน้อมเข้ามาใส่ตัว)  ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหีติ (เป็นสิ่งที่ผู้รู้ก็รู้ได้เฉพาะตน ดังนี้) ...

 

:)  มันก็เป็นเช่นนั้นแลขอรับ...


:) Sometime...Sun shine through the rain...

#5 susu

susu

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,066 posts

Posted 21 December 2012 - 21:47

แต่อาจห้ามไม่ได้ อคติ

Attached Images

  • 530977_363777043712613_1677292660_n.jpg


#6 เมาอยู่

เมาอยู่

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,182 posts

Posted 22 December 2012 - 00:02

ผมเห็นเรื่องพวกนี้มันก็มีในบ้านเรามานานแล้ว ทำไมครับ พอท่าน ว.พูด มาทำเป็นดัดจริตรับไม่ได้

 

ท่าน ว. ต้องห้ามผิดหรือไงกัน มารศาสนารูปอื่นมีเยอะแยะ ไม่เห็นไปใส่ใจ

 

หรือพวกที่เชื่อเรื่องธรรมชาติอื่นๆ พวกขูดเลขขอหวย รายการคนอวดผีอะไรนั่น

 

แน่จริงก็ต้องไปด่าพวกนั้นด้วย ถึงจะกลางจริง

 

หน้าไม่มียาง สมอ้างว่าเป็นคนกลาง แต่พฤติกรรมตรงกันข้าม

 

หรือที่แท้มันรังเกียจที่จะยอมรับว่ามันเป็นเสื้อแดงกันแน่

 

ทุเรศพอกะไอ้ใจดีเลย...



#7 nunoi

nunoi

    เด็กข้างถนน

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,745 posts

Posted 22 December 2012 - 01:38

ผมไปถูกใจกับความเห็นนี้นะ

 

 

 

ส่วนตัวผมนะ เท่าที่ได้อ่านมา เรื่องมันอาจจะเป็นตอนที่พระพุทธเจ้าทรงไปโปรดห้ามองคุลีมาลเพราะเหตุที่มารดาขององคุลีมาลไปขอร้อง เนื่องจากรุ่งเช้าจะมีกองทัพถูกยกไปปราบองคุลีมาลคนเดียว  พระพุทธเจ้าจึงทรงเสด็จไปอย่างรีบเร่งเพื่อโปรดองคุลีมาล เมื่อได้พบกัน องคุลีมาลจิงเข้าไปทำร้ายต่อสู้กับพระพุทธเจ้า แต่ทว่า องคุลีมาลสู้พระพุทธเจ้าไม่ได้เลย และอาจถูกสวนกลับจน ขอให้พระพุทธเจ้าหยุดทำร้าย จึงพูดว่า "ท่านจงหยุดเถิด" พระพุทธเจ้าจึงตรัสว่า "เราหยุดแล้ว แต่ท่านยังไม่หยุด"

เหตุผลสนับสนุน
         เมื่อสมัยพระพุทธเจ้าทรงยังเป็ยเจ้าชายสิทธัตถะอยู่นั้น พระบิดาต้องการให้เป็นกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ ทรงให้เจ้าชายทรงเรียนรู้ศิลปะการต่อสู้ทุกรูปแบบโดย อาจารย์ผู้มีความสามารถหลายคน มวย ฟันดาบ ยิงธนู และอีกหลายๆอย่างที่ต้องเรียนให้เชี่ยวชาญ  ต่างจากองคุลีมาล เมื่อเกิดมา ในฤกษ์โจร บิดามารดาไม่ต้องการให้เป็นโจร จึงไม่ได้เรียนการต่อสู้ใดๆเลย  ไม่ได้ทำงานออกแรงมากอะไร และไม่ได้เรียนอะไรเลย แต่มีความเพียรอยากเรียนมาก จนถูกหลอกว่าถ้าเอานิ้วคนมาแล้วจะได้เรียน  
         ความต่างกันมากเหมือนพระพุทธเจ้าอยู่ใน Lv.99 แล้วองคุลีมาลที่อยู่ในLv.20 ต้นๆไปทำร้าย ยังไงซะก็สู้ไม่ได้อยู่ดี ภายหลังอาจเพราะเห็นว่าไม่งามนักที่พระมีเรื่องต่อสู้จึงย่นย่อให้เป็นอภินิหาร
         ความเป็นไปย่อมมีที่มาหากเราเอาเนื้อหามาสรุป เราจะได้ผลอย่างหนึ่ง แต่ถ้าเราเอาเนื้อหามาวิเคราะห์ เราก็จะได้ผลอีกรูปแบบหนึ่งก็ได้

 

 

เป็นมุมมองอีกมุมมองเลย


กฎหมายมันก็แค่สิงที่สร้างมาอย่างมีเป้าหมาย แต่หาก เอาแต่บอกว่ากฎหมายเป็นแบบนี้ แบบนั้น โดยไม่สนใจว่าเป้าหมายจริงๆ นันคืออะไร ก็คงไม่ใช่ 

 

 


#8 susu

susu

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,066 posts

Posted 22 December 2012 - 07:44

ผมไปถูกใจกับความเห็นนี้นะ

 

 

 

ส่วนตัวผมนะ เท่าที่ได้อ่านมา เรื่องมันอาจจะเป็นตอนที่พระพุทธเจ้าทรงไปโปรดห้ามองคุลีมาลเพราะเหตุที่มารดาขององคุลีมาลไปขอร้อง เนื่องจากรุ่งเช้าจะมีกองทัพถูกยกไปปราบองคุลีมาลคนเดียว  พระพุทธเจ้าจึงทรงเสด็จไปอย่างรีบเร่งเพื่อโปรดองคุลีมาล เมื่อได้พบกัน องคุลีมาลจิงเข้าไปทำร้ายต่อสู้กับพระพุทธเจ้า แต่ทว่า องคุลีมาลสู้พระพุทธเจ้าไม่ได้เลย และอาจถูกสวนกลับจน ขอให้พระพุทธเจ้าหยุดทำร้าย จึงพูดว่า "ท่านจงหยุดเถิด" พระพุทธเจ้าจึงตรัสว่า "เราหยุดแล้ว แต่ท่านยังไม่หยุด"

เหตุผลสนับสนุน
         เมื่อสมัยพระพุทธเจ้าทรงยังเป็ยเจ้าชายสิทธัตถะอยู่นั้น พระบิดาต้องการให้เป็นกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ ทรงให้เจ้าชายทรงเรียนรู้ศิลปะการต่อสู้ทุกรูปแบบโดย อาจารย์ผู้มีความสามารถหลายคน มวย ฟันดาบ ยิงธนู และอีกหลายๆอย่างที่ต้องเรียนให้เชี่ยวชาญ  ต่างจากองคุลีมาล เมื่อเกิดมา ในฤกษ์โจร บิดามารดาไม่ต้องการให้เป็นโจร จึงไม่ได้เรียนการต่อสู้ใดๆเลย  ไม่ได้ทำงานออกแรงมากอะไร และไม่ได้เรียนอะไรเลย แต่มีความเพียรอยากเรียนมาก จนถูกหลอกว่าถ้าเอานิ้วคนมาแล้วจะได้เรียน  
         ความต่างกันมากเหมือนพระพุทธเจ้าอยู่ใน Lv.99 แล้วองคุลีมาลที่อยู่ในLv.20 ต้นๆไปทำร้าย ยังไงซะก็สู้ไม่ได้อยู่ดี ภายหลังอาจเพราะเห็นว่าไม่งามนักที่พระมีเรื่องต่อสู้จึงย่นย่อให้เป็นอภินิหาร
         ความเป็นไปย่อมมีที่มาหากเราเอาเนื้อหามาสรุป เราจะได้ผลอย่างหนึ่ง แต่ถ้าเราเอาเนื้อหามาวิเคราะห์ เราก็จะได้ผลอีกรูปแบบหนึ่งก็ได้

 

 

เป็นมุมมองอีกมุมมองเลย

หลายความคิดเห็นนำคำถามไปคิด แล้วตอบ ไม่เบี่ยงประเด็น โดยจริต ตน น่าอ่านน่าเป็นตัวอย่าง



#9 susu

susu

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,066 posts

Posted 22 December 2012 - 07:55

เพราะจิตเขามีวิวัฒนาสูงสุด เขาไม่ได้มีวัตถุมารองรับกาย เพราะเป็นที่รู้ดีกันอยู่แล้วว่า จิตมีอำนาจมากขนาดนั้น

 

คือติดต่อกันด้วยจิต ถ้าญานถึง แต่พุทธศาสนาบอก ไม่ต้องไปใส่ใจ ถ้าเราไม่เข้าใจ ให้ปฎิบัติ สิ่งที่พุทธต้องการให้คนปฏิบัติได้คือ ความสุขทุกอย่างก้าว สุขแท้จริง

จะเหาะไม่เหาะได้ ไม่ใช่สาระ ..สอนว่าอย่าเชื่อให้พิสูจน์ แต่บางคนเห็นช้า เพราะมีแต่คำถาม จาก 1 เป็น 10 ทำให้ไม่มีเวลาคิดถึงหลัก จริงๆที่สำคัญ



#10 conservative

conservative

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 762 posts

Posted 22 December 2012 - 14:11

ช่วงนี้ กระแสทำลายความน่าเชื่อถือท่าน ว. มีมากเหลือเกิน

ไม่คิดว่า คนกลาง ในเวปเราก็เป็นไปกับเขาด้วย

#11 raffy

raffy

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,517 posts

Posted 22 December 2012 - 14:24

แค่เห็นต่างต้องแตกหัก นี่คือนิยามของพวกที่แหกปากเรียกร้องประชาธิปไตย

#12 จีรนุช

จีรนุช

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,934 posts

Posted 22 December 2012 - 14:26

เด็กบางคนบ้าตรรกะ ขอให้เถียงชนะตามเวบบอร์ดไปกระทู้ต่อกระทู้ก็พอ ไม่เอาเวลาไปศึกษาหาความรู้น่าหนักใจ  ไม่รู้จักกาละเทศะ กาลสมัย  เงือ่นไขของเเต่ละระบบ เงื่อนไขของเเต่ละเวลาไม่เหมือนกัน ยังจะมาเดาซุ่มสีซุ่มห้าบ้าตรรกะไปวันๆ ถ้าเรื่องเเบบนี้ยังตรรกะได้ขนาดนี้ ทำไมเรื่องธรรมกายถึงได้เงียบฉี่  มันก็วนไปที่เจตนาของคน ว่ามันเริ่มจาก  นบ้าตรรกะ ขอให้เถียงชนะตามเวบบอร์ดไปกระทู้ต่อกระทู้ก็พอ ไม่เอาเวลาไปศึกษาหาความรู้น่าหนักใจ  เอาเวลาไปอ่านเรื่องพิ้นๆอย่าง หลักการของความเชื่อ 10 อย่างที่ท่านว่าไว้ ว่า อย่าเชื่อเพราะว่า บลาๆ  สิบข้อ  สมัยนี้ต้องเพิ่มอีกข้อ  อย่าเอาการเมืองไปยุ่งกับธรรมะ


รำคาญสลิ่มเที่ยมที่เข้ามาปล่อยสารพิษเรียกร้องความรุนเเรงเสดงออกถึงความคลั่งสงครามกลางเมืองยุเเยงสร้างภาพชั่วๆ

เอียนวะ   เห็นคนเเถวนี้ไอคิวต่ำกว่า 90 หรือไง


#13 susu

susu

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,066 posts

Posted 22 December 2012 - 15:27

หากอยากรู้ พุทธศาสนา ให้ดีขึ้น อ่านที่นี่ครับ

มิลินทปัญหา

http://www.dhammatha...lin/milin01.php

 

ปัญหาที่ ๖ ถามเรื่องปฏิสนธิ (เกิด)

http://www.dhammatha...lin/milin04.php

ถามความรู้สึกของผู้ไม่เกิดอีก ถามเรื่องปรินิพพาน

http://www.dhammatha...lin/milin06.php

ถามเรื่องผู้ถึงเวทย์

http://www.dhammatha...lin/milin08.php

ถามถึงการอุปสมบท ไม่อุปสมบท

http://www.dhammatha...lin/milin10.php

ถามเรื่องความมีและความไม่มีแห่งพระพุทธเจ้า

http://www.dhammatha...lin/milin09.php

 


 






0 user(s) are reading this topic

0 members, 0 guests, 0 anonymous users