ทนุศักดิ์ รมช.คลัง รับ-ไม่ได้มีการคิดผลกระทบนโยบายฯปรับลดภาษีต่างๆ ชิบหายประเทศ ไปเชิญ แอล โอรส มาเป็นก้อได้ น่าจะมีคนเกรงใจมากกว่า...@#$!!##@!@!
#1
Posted 26 December 2012 - 05:27
- ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่ and บังทอง like this
#2
Posted 26 December 2012 - 05:36
เขาเตือนก่อนที่จะประกาศใช้ก็ยังไม่ฟัง
Edited by Jörmungandr, 26 December 2012 - 05:36.
[color=#ff0000;]สำหรับผมคงเลิกเล่นบอร์ดนี้ไว้เพียงเท่านี้ ถ้าไอดีนี้ยังมีบุคคลอื่นที่ใครบางคนคิดว่าเป็นตัวจริงอยู่จริง เขาก็เข้ามาใช้บอร์ดนี้ต่อเองแต่ไม่ใช่ผมแน่นอน[/color]
ลาก่อน สวัสดีครับ 17 มกราคม 2556
#3
Posted 26 December 2012 - 05:40
ไม่เว้นแม้แต่อำมาตย์จากแดง ที่ไม่มีต่อมเม็ดสมองคิดวิเคราะห์ แยกแยะ
จึงทำตามคำสั่งอย่างเดียว ..ด้วยว่าใครเดือดร้อนก็ช่าง ขอให้ตัวเองเสวยสุข
ในอำนาจ-ลาภยศ และเงินทอง ก็จะทำ
ประโยชน์สูงสุดของประชาชน คือกฏหมายสูงสุดของประเทศ ...วิชา มหาคุณ
#4
Posted 26 December 2012 - 05:55
ไม่กระเทิอนคนเดียว แวดวงศ์ยันลูกหลาน
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว
สุภาษิต. คบคนพาลพาลพาไปหาผิด คบบัณฑิตบัณฑิตพาไปหาผล
ยังอมตนิรันต์กาล
#5
Posted 26 December 2012 - 05:59
ไม่คิดก่อนทำ เวรละสิ............
#7
Posted 26 December 2012 - 08:43
รมว ก็ไว้ลาย รมช ก็ไม่ได้คิด นี่มันรวมตัวห่วยชัดๆ
#8
Posted 26 December 2012 - 09:05
#10
Posted 26 December 2012 - 09:33
#12
Posted 26 December 2012 - 10:11
ขณะเดียวกันเมื่อหัวเป็นเช่นนี้ ข้าราชการประจำก็ไม่สามารถทำอะไรได้เลยหรือ คนเราอย่างน้อยก็ต้องรู้หน้าที่ตัวเอง ขนาดเราทำงานบริษัท เราได้ยินนโยบายที่คิดว่าจะทำ ฝ่ายต่าง ๆ ก็มีแผนงานมีตัวเลขอยู่ในใจแล้วว่าจะต้องเสียอะไรบ้าง ได้อะไรบ้าง ทุกคนจะรู้ข้อมูลของตนเองเป็นอย่างดี ก็จะรู้ข้อดี ข้อด้อย ได้เสียมีอะไรบ้าง โดยไม่น่าใช้เวลานาน
เราว่าการคิดลดภาษีถ้าคิดแล้วมีนโยบายอย่างไร เราว่าข้อมูลต่าง ๆ น่าจะมีอยู่แล้ว คิดงบประมาณ ข้อดี ข้อเสีย ไม่น่ายาก เพียงแต่วันนี้คนบริหารประเทศของเรา เหมือนเด็กที่พ่อแม่ตามใจ ไม่อยากเล่นขายของแล้ว แต่อยากเล่นเป็นนายกฯ พ่อแม่ก็ให้ชวนเพื่อน ๆ มาเล่นตั้งเป็นครม มันเลยทำให้ประเทศเราเป็นเช่นนี้ อยากจะพูดนโยบายอะไรก็พูด ทำได้ไม่ได้ยังไม่รู้ เอาเงินจากไหนมาทำก็ไม่รู้ แล้วจะกระทบใครบ้างก็ไปตายเอาดาบหน้า จะทำให้เศรษฐกิจประเทศกระทบ ตกตำ่อย่างไรก็ไม่ต้องรู้ เล่นอย่างเดียว แต่พอพ่อแม่ถามเอาใจก็สามารถบอกเป็นฉาก ๆ เอาเพื่อน ๆ มาช่วยกันเล่า จะสร้างเรื่องวิลิศมาหราอย่างไรก็ได้เล่าให้พ่อแม่ฟัง
เราเห็นการบริหารประเทศชาติเวลานี้ก็ห่วงลูกหลานของคนอื่น เพราะเราไม่มีลูกไม่หลานต้องห่วง เลยอยากรู้ว่าคน 15 ล้านคนที่เป็นเสียงข้างมากเลือกพทที่เป็นรัฐบาลนี้ ที่ทั้งเคยเผาบ้านเผาเมือง เคยโกงบ้านโกงเมือง ทำร้ายทำลายประเทศให้เห็นแล้ว และยังมีความเชื่อว่าเมื่อได้เสียงข้างมากแล้วถือเป็น "ประชาธิปไตย" จะทำอย่างไรกับประเทศก็ได้ เห็นผลการกระทำ 1ปี 5เดือนนี้ นโยบายจำนำข้าว - ส่งออกข้าวตกจากที่ 1 เป็นที่ 3 ข้าวพันธ์ที่ดีสุดเป็นของเขมร นโยบายปาล์มผิดพลาด สั่งซื้อปาล์มเข้ามา ส่งออกต้องถูกเก็บภาษี เลยเป็นเหตุให้ราคาปาล์มตกตำ่ในประเทศ ราคาพืชผลตกตำ่ ส่วนการบริโภคของผู้คนก็แพงทั้งแผ่นดิน ตอนนี้ผู้คนจะใช้วิธีภาวนาก็ไม่ได้ผลเลย เรายังต้องมาลุ้นอีกว่าใครจะเจ๊งบ้างหลังปีใหม่เมื่อนโยบาย 300 บาททั้งประเทศ
ถึงเวลาหรือยังที่ผู้คนจะใช้สมอง ตาสว่างดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับประเทศเรา แทนการภาวนาให้รัฐบาลหายโง่ ทำในสิ่งที่ควรทำ ถูกต้อง
#14
Posted 26 December 2012 - 10:33
#16
Posted 26 December 2012 - 13:27
เห็น สาธิต รังคสิริ อธิบดีกรมสรรพากรออกมาเคาะตัวเลขการสูญเสียรายได้ของรัฐใน 3 ปีจากนี้ อยู่ที่ประมาณ 1.8 แสนล้านบาท
ซึ่งผมก็มองว่า รัฐก็ไม่ได้สะทกสะท้านอะไรหรอก ถ้ามองจากตัวเลขการ "กู้เงิน" ในอนาคตของรัฐบาล
รัฐบาลนี้เขาจะมองว่า เพดานสูงสุดในการก่อหนี้สาธารณะได้เท่าไหร่จะถึงจุดวิกฤติ จากนั้นก็คำนวณออกมาเป็นตัวเงินที่จะกู้ได้
แล้วก็ "กู้เงิน" สร้างหนี้สินให้ประเทศกัน เพราะเงินเหล่านั้น ตระกูลต่างๆของนายกฯรัฐบมนตรี และบรรดารัฐมนตรี ไม่ต้องรับภาระใช้คืน
แต่เป็นภาระของไอ้ๆอีๆ และ ลูกหลานคนไทยในอนาคตที่ต้องรับภาระเหล่านี้ไป การคิดหาจุด Max ในการกู้เงินเลยเกิดขึ้นในรัฐบาลนี้
(ท่าน โต้ง ไวท์ไล เคยคำนวณไว้ว่า รัฐบาลสามารถกู้เงินได้อีก 7.2 ล้านล้านบาท เลยทีเดียวเชียวละเว้ยเฮ้ย)
เมื่อลูกลานนักการเมืองและคนในรัฐบาลไม่ต้องรับภาระใช้คืนหนี้สาธารณะของประเทศทั้งก้อน เขาเลยไม่แยแสเรื่องสร้างหนี้ให้ประเทศ
เงินที่ได้จากการสร้างหนี้ให้ประเทศ ก็นำไปแสวงหาประโยชน์เข้าตัวผ่านโครงการต่างๆของรัฐบาล ได้กิน ได้อิ่ม แถมไม่ต้องกังวลเรื่องใช้หนี้ด้วย.
..นี่มันสวรรค์ของพวกดีแต่กู้ชัดๆ
เรื่องภาษีที่สูญเสียไปจึงเป็นเรื่อง "จิ๊บๆ หยุ๋มๆหยิ๋มๆ"
เมื่อแลกมากับความั่นคงในอำนาจและการกู้เงินในอนาคต
Edited by MIRO, 26 December 2012 - 13:29.
- redfrog53 likes this
The most valuable things in life are not measured in monetary terms.
The really important things are not houses and lands, stocks and bonds, automobiles and real estate,
but friendships, trust, confidence, empathy, mercy, love and faith.
#17
Posted 26 December 2012 - 15:05
#18
Posted 26 December 2012 - 22:39
รูว่าอยู่ในกะทะทองแดงที่น้ำกรดกำลังเดือดนั้นเป็นอย่างไร
แต่ก็ยังอยู่
แล้วมาโอดโอย
อย่างนี้ไม่เรียกว่ารับผิดชอบบ้านเมือง
หรือตำแหน่งนี้มันหวานมาก
#19
Posted 27 December 2012 - 01:42
จุก...... พูดไม่ออกเลย
#20
Posted 27 December 2012 - 01:57
จำได้ว่าก่อนเลือกตั้งแม่เคยเถียงผมเรื่องนโยบายประชานิยมทั้งหลาย
ผมบอกว่า...ดูก็รู้แล้วว่าไม่ได้วางแผนมาอย่างดีไปจนถึงผลกระทบ
แม่ผมก็เถียงชนิด..ฟังแล้วผมจบ ไม่เถียงอีกเลยดีที่สุด คือแม่บอกว่า
"เค้าจะไม่คิดได้ยังไง คุณทักษิณน่ะเขาเก่งจะตาย นโยบายพวกนี้คุณทักษิณต้องคิดมาดีแล้วทั้งนั้น"
อยากเอากระทู้นี้ให้แม่อ่าน แต่แม่คงไม่อ่านหรอกนิ
เพราะเชื่อฝังใจไปแล้วว่าทักษิณเก่ง
- redfrog53 likes this
#21
Posted 27 December 2012 - 02:08
คงต้องรอให้เหมือนโซมาเลีย หรือ ฉนวนกาซ่า คนไทยถึงจะรู้ตัว
เอ่ยออกจากปากว่าบริหารงานพลาด ยังเป็นรัฐมนตรีต่อใด้
อย่ามาสอนใครให้รับผิดชอบ หรือ มีคุณธรรมเลยนะ เหม็นขี้ฟัน
#22
Posted 27 December 2012 - 06:07
ถึงป่านนี้ รัฐบาลก็ยังอยู่ดี กินดี
คงต้องรอให้เหมือนโซมาเลีย หรือ ฉนวนกาซ่า คนไทยถึงจะรู้ตัว
เอ่ยออกจากปากว่าบริหารงานพลาด ยังเป็นรัฐมนตรีต่อใด้
อย่ามาสอนใครให้รับผิดชอบ หรือ มีคุณธรรมเลยนะ เหม็นขี้ฟัน
ไม่หรอก เขาต้องการแบบอัฟกัน หรือซีเรีย มากกว่า
0 user(s) are reading this topic
0 members, 0 guests, 0 anonymous users