ที่สำนักงานอัยการสูงสุด เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม นายประยุทธ ป.สัตยารักษ์ อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 10 เปิดเผยว่า คดีที่อัยการเป็นโจทก์ฟ้องนายปรีชา ตรีจรูญ แนวร่วมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เป็นจำเลยต่อศาลอาญา ในความผิดฐานพยายามฆ่าเจ้าพนักงานที่กระทำการตามหน้าที่ มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คน ใช้กำลังประทุษร้ายและกระทำให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง กรณีขับรถกระบะมิตซูบิชิไล่ชนตำรวจ 191 ที่เดินแถวเข้าประจำจุดทางด้านหลังและข้างรัฐสภา เหตุเกิดเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 ซึ่งคดีนี้ศาลอาญาพิพากษาลงโทษจำคุก 3 ปี แต่หลังเกิดเหตุจำเลยต้องพิการตาบอด จึงสมควรให้กลับตัวเป็นคนดี จึงให้รอลงอาญาไว้ 2 ปี และให้คุมประพฤติไว้นั้น
อัยการจึงได้ยื่นอุทธรณ์ไม่เห็นด้วยกับคำพิพากษา และขอให้ศาลเพิ่มโทษ ซึ่งต่อมาวันที่ 11 ธันวาคมที่ผ่านมา ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษากลับศาลชั้นต้น โดยศาลอุทธรณ์เห็นว่า พฤติการณ์จำเลยเป็นการพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน ซึ่งได้กระทำการตามหน้าที่ จึงพิพากษาให้ลงโทษจำคุกตลอดชีวิต ฐานมั่วสุมลงโทษจำคุก 1 ปี ทางนำสืบเป็นประโยชน์คงลดโทษ 1 ใน 3 คงรับโทษจำคุก 34 ปี
อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 10 กล่าวว่า คดีนี้จึงเป็นอุทาหรณ์ว่า พฤติการณ์การกระทำผิดต้องเหมาะสมกับโทษที่ได้รับ และขอวิงวอนว่าในอนาคตถ้ามีการชุมนุมทางการเมืองอีก ผู้ชุมนุมควรปฏิบัติตามกฎหมาย คือชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ อย่าใช้ความรุนแรง อย่างการทำร้ายขว้างปาเจ้าหน้าที่ เพราะหากถูกดำเนินคดีตัวเองและครอบครัวจะเดือดร้อนแสนสาหัส ผู้รักษากฎหมายไม่รู้จะทำอย่างไร นอกจากปฏิบัติตามหน้าที่และเศร้าหดหู่ใจที่ต้องดำเนินคดีกับประชาชน ซึ่งบางคนทำไปเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์
http://www.matichon....atid=&subcatid=