คิม จอง-อุน บุคคลแห่งปีของโลก
คิม จอง-อุน (คิม จอง-อึน) ผู้นำคนปัจจุบัน วัย 28 ปีของเกาหลีเหนือ ใช้เวลาเพียง 1 ปี ทำให้ตัวเองและประเทศเกาหลีเหนือเป็นข่าวไปทั่วโลกอย่างต่อเนื่องตลอดปี 2012 ไม่ว่าจะเป็นแง่บวกหรือลบ นับตั้งแต่ได้สืบทอดอำนาจทางสายโลหิตจาก “คิม จอง-อิล” ที่ประกาศอย่างเป็นทางการให้เป็นทายาทโดยชอบธรรมในการสืบทอดตำแหน่งผู้นำ ประเทศเมื่อเดือนมกราคม 2009 หลังจากคิม จอง-นัม พี่ชายคนโตต่างมารดา ประพฤติตัวไม่เหมาะสม
คิม จอง-อุน จึงไม่อาจปฏิเสธว่าตำแหน่งผู้นำที่ได้รับนั้นเป็น “ส้มหล่น” จึงทำให้คนทั่วไปมองอย่างท้าทายว่าเป็นผู้นำที่มีอำนาจจริงหรือไม่ แม้จะเข้าสู่เส้นทางอำนาจตั้งแต่ปี 2006 แต่ก็ไม่มีอะไรโดดเด่นและถูกพูดถึง
คิม จอง-อุน จึงใช้เวลาทำใจและปรับตัวกับบทบาทใหม่ที่ใหญ่หลวง เมื่อคิม จอง-อิล มีปัญหาสุขภาพที่ย่ำแย่จนถึงแก่อสัญกรรมอย่างคาดไม่ถึงเมื่อเดือนธันวาคม 2011
โลกทึ่งปีกกล้าขาแข็ง
แม้คิม จอง-อุน จะไม่มีพื้นฐานทางการเมืองและการทหารมาก่อน แต่ก็ถูกบ่มเพาะและอนุบาลโดยเหล่าขุนพลผู้ภักดีต่อคิม จอง-อิล อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะนายพลจาง ซอง-แต็ก อาเขย และอาหญิง คิม เคียง-ฮุย
เพราะเป็น คนหัวสมัยใหม่ ผ่านการศึกษาจาก สถาบันในยุโรปตะวันตกอย่างสวิตเซอร์แลนด์ จึงมีรายงานข่าวระบุว่า คิม จอง-อุน ชื่นชอบด้านคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ไฮเทคต่างๆอย่างมาก โดยแหล่งข่าวเปิดเผยว่าคิม จอง-อุน เคยสั่งซื้อ iPad มาใช้ส่วนตัวด้วย
ไม่มีใครเชื่อว่าคิม จอง-อุน จะแสดงบทบาทผู้นำเผด็จการแห่งเกาหลีเหนือได้ “เนียน” เป็นธรรมชาติ ชนิดยิ่งเล่นยิ่งมั่นใจ จนโลกทึ่งที่เขาปีกกล้าขาแข็งเร็วกว่าปรกติ
ที่ สำคัญหลังจากคิม จอง-อุน บริหารประเทศเพียง 1 ปี บรรดานักการทูต นักวิชาการ และกลุ่มที่เข้าไปให้ความช่วยเหลือต่างพูดสอดคล้องกันว่า กำลังเกิดสิ่งแปลกใหม่ในสังคมเกาหลีเหนือ!
แข็งนอกอ่อนใน
การ ขึ้นเป็นผู้นำของคิม จอง-อุน ทั่วโลกต่างจับตามองว่านโยบายพัฒนานิวเคลียร์ที่ถือว่ามีความสำคัญต่อความ อยู่รอดของประเทศ และเป็นปัญหาที่ทำให้องค์การระดับนานาชาติประณามและบอยคอตเกาหลีเหนือนั้น เขาจะสานต่ออย่างไร
ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา คิม จอง-อุน ยังคงดำเนินนโยบายนิวเคลียร์อย่างแข็งกร้าว แต่ไม่ได้ปิดประตูการ รับฟังและเจรจาจากนานาชาติ โดยใช้นโยบายประนี ประนอมและการเจรจาให้ยุติโครงการพัฒนาอาวุธนิว เคลียร์เพื่อแลกกับการขอความช่วยเหลือด้านอาหาร
แต่ไม่นานหลังจากการ เจรจา เกาหลีเหนือกลับทดลองยิงจรวด Unha-3 นำดาวเทียมชื่อ Kwang myong-song 3 ขึ้นสู่วงโคจรของโลก โดยอ้างว่าเป็นการส่งดาวเทียมเพื่อทำการสำรวจ แต่ทั่วโลกเชื่อกันว่าเป็นแผนบังหน้าในการทดสอบขีปนาวุธพิสัยไกล ซึ่งเป็นการละเมิดสนธิสัญญาตามมติของสหประชาชาติ
ล่าสุดเมื่อกลาง เดือนธันวาคมที่ผ่านมา คิม จอง-อุน และเกาหลีเหนือได้เฉลิมฉลองความสำเร็จในการยิงจรวดส่งดาวเทียมขึ้นสู่ห้วง อวกาศอีกครั้ง ภายใต้ความหวาดระแวงของทั่วโลกว่าเป็นหนึ่งในพัฒนาการด้านอาวุธนิวเคลียร์ โดยเฉพาะเกาหลีใต้และญี่ปุ่นที่ออกมาประณามต่างๆนานา ทั้งยังเตือนสหรัฐว่าขีปนาวุธของเกาหลีเหนือสามารถยิงได้ไกลถึง 10,000 ไมล์
ภาพลักษณ์ใหม่ผู้นำ
อย่างไร ก็ตาม ภาพลักษณ์ผู้นำของคิม จอง-อุน ก็แตกต่างจากผู้นำก่อนหน้านี้อย่างชัดเจน ไม่เพียงพยายามเข้าถึงประชาชนให้มากขึ้นเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการปรากฏตัวบ่อยครั้งและออกงานเคียงคู่กับภรรยาคือ รี ซอล-จู ซึ่งการปรากฏตัวครั้งแรกต่อสาธารณชนต่างก็เดากันไปต่างๆนานา เพราะไม่มีใครรู้เลยว่าหญิงสาววัย 20 ปีเศษหน้าตาสดใสนั้นเป็นใคร
รี ซอล-จู เป็นอดีตนักร้องที่คิม จอง-อุน พบในการแสดงคอนเสิร์ตครั้งหนึ่งเมื่อหลายปีก่อน ซึ่งเธอเคยไปเยือนและพบปะกับบุคคลสำคัญของเกาหลีใต้มาแล้วหลายครั้ง โดยคิม จอง-อิล เป็นผู้สนับสนุนให้เธอเป็นคู่ครองของคิม จอง-อุน และหลังแต่งงาน รี ซอล-จู ได้เข้าคอร์สอบรมหน้าที่ภรรยาผู้นำประเทศที่มหาวิทยาลัยคิม อิล-ซุง นานถึง 6 เดือน
ที่สำคัญการนำสุภาพสตรีหมายเลข 1 ออกงานพิธีสำคัญต่างๆ และการพบปะกับประชาชน ทำให้ภาพลักษณ์ของคิม จอง-อุน มีความอ่อนหวาน และถูกมองว่าให้สำคัญกับความเท่าเทียมทางเพศ ซึ่งไม่เคยมีผู้นำเกาหลีเหนือเคยทำมาก่อน
ปลดภาพมาร์กซ์-เลนิน
นอก จากนี้คิม จอง-อุน ยังใช้สื่อสารมวลชน รวมทั้งสื่อสังคมออนไลน์ในการประชาสัมพันธ์ตัวเองและผลงานรัฐบาลอีกด้วย พร้อมทั้งปฏิวัติธรรมเนียมปฏิบัติเดิมด้วยการออกมายอมรับความล้มเหลวในการ ทดลองยิงขีปนาวุธเมื่อเดือนเมษายน
คิม จอง-อุน ประกาศนโยบายปฏิรูปเศรษฐกิจเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของประชาชน แต่บรรดานักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ไม่เชื่อว่าทำได้หรือทำอย่างจริงจัง
แต่ ที่ทำให้ทั่วโลกต้องแปลกใจคือ มีรายงานข่าวว่าเขาสั่งปลดภาพ “เลนิน” และ “คาร์ล มาร์กซ์” ออกจากจัตุรัสคิม อิล-ซุง ทั้งที่ถือเป็นสัญลักษณ์ตามอุดมการณ์คอมมิวนิสต์ตั้งแต่สมัยอดีต ประธานาธิบดีตลอดกาล คิม อิล-ซุง
แม้จะไม่มีใครรู้ว่าทำไม แต่บรรดานักวิเคราะห์ต่างพากันให้ความเห็นในเชิงบวกว่าอาจเป็นนิมิตหมายที่ แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงบางอย่างในเกาหลีเหนือ
ขวัญใจมหาชนทั่วโลก
เพียง 1 ปี ภาพลักษณ์ของคิม จอง-อุน ที่มีบุคลิกภาพโดดเด่นเป็นผู้ใหญ่เกินตัว แนวคิดหัวก้าวหน้าที่พร้อมทำสิ่งใหม่ๆ รวมทั้งการเปิดตัวต่อสาธารณชนมากขึ้น เหมือนกำลังเตรียมตัวปูทางเพื่อเปิดประเทศ ทำให้เขาได้รับเสียงโหวตมากที่สุดกว่า 5.6 ล้านเสียง ให้เป็น “บุคคลขวัญใจมหาชนแห่งปี 2012” จากการจัดโหวตของนิตยสารไทม์ (Time)
แม้ไทม์จะไม่เลือกคิม จอง-อุน ขึ้นปกในฐานะบุคคลแห่งปี แต่เสียงโหวตที่เขาได้รับไม่ว่าจากใคร หรือถูกค่อนแคะว่าเป็นเสียงโหวตจัดตั้งก็ตาม ก็ทำให้คิม จอง-อุน มีรัศมีโดดเด่นไม่น้อยหน้านายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐ ที่ไทม์ยกย่องให้เป็น “บุคคลแห่งปี 2012” เช่นกัน
โดดเด่นขนาดนี้ (แต่ไม่มีใครกล้ายกย่อง) นิตยสาร “โลกวันนี้วันสุข” จึงประกาศคัดเลือกให้ “คิม จอง-อุน” เป็น “บุคคลแห่งปีของโลกปี 2555” ในฐานะ “ผู้นำเขย่าโลก” เพราะเชื่อว่าเขาจะทำให้เกาหลีเหนือเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในเร็วๆนี้ อย่างแน่นอน..
ส่วนว่าจะเปลี่ยนแปลงในทาง ที่ “ดีขึ้น” หรือ “เลวลง” ไม่ใช่เฉพาะคนเกาหลีเหนือเท่า นั้นที่ต้องลุ้น..คนทั้งโลกก็ต้องพลอยลุ้นตามไปด้วยอย่าง หลีกเลี่ยงไม่ได้!!