กู้มาหลายแสนล้านใช้ไปหลักพันล้าน แล้วดอกเบี้ยล่ะ ?
#1
Posted 3 January 2013 - 11:37
ฝ่ายค้านตรวจสอบก็ไม่ได้ ศาลก็ปล่อยผ่านว่าไม่ผิดกฏหมาย
เพราะรัฐบาลบอกเอาเงินมาช่วยชาวบ้านน้ำท่วม แต่ก็ใช้ไปแค่สองพันล้าน
แล้วเงินที่กู้มาเนี่ย ดอกเบี้ยมันเป็นเม็ดเงินเท่าไรแล้ว
คนทั้งประเทศต้องรับภาระหาเงินมาจ่ายดอกเบี้ยที่ไม่เกิดประโยชน์พวกนี้ด้วยหรือ ?
เนื่องจากผมไม่ถนัดเรื่องตัวเลขพวกนี้ ไม่ทราบมีสมาชิกท่านใดมีข้อมูล
ที่จะนำเสนอตัวเลขยอดหนี้กับดอกเบี้ยให้ผมทราบได้หรือเปล่าครับ
หรือว่าเงินกูหลายแสนล้านนี้ไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ยผมเข้าใจผิดไปเอง
รบกวนด้วยนะครับ อยากเอามาเป็นฐานข้อมูลวาดการ์ตูนครับผม
- overtherainbow, ใจหมาอำมหิต`, HardmaN and 6 others like this
#2
Posted 3 January 2013 - 11:40
แล้วเข้ากระเป๋าใครบางคนเป็นไปได้หรือไม่
#3
Posted 3 January 2013 - 11:40
เขาว่าเหมือนบัตรเครดิต ให้วงเงินมาเท่าไหร่ แต่คิดดอกเบี้ยเฉพาะที่ใช้ไป
#4
Posted 3 January 2013 - 11:43
เขาว่าเหมือนบัตรเครดิต ให้วงเงินมาเท่าไหร่ แต่คิดดอกเบี้ยเฉพาะที่ใช้ไป
จริงหรือครับเนี่ย กู้มาไม่ใช้ก็ไม่ต้องเสียดอกเบี้ย
หมายถึงตัวเลขนั้นคือวงเงินเฉยๆ ยังไม่ได้เอาเงินออกมาหรือครับ
#5
Posted 3 January 2013 - 12:08
ว้า มีคนเฉลยไปแล้ว... กะจะให้ งับให้เต็มคำซะหน่อย....
นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา ได้อภิปรายซักถามประเด็นที่รัฐบาลขออนุมัติจากรัฐสภา ให้ออก พ.ร.ก.กู้เงิน จำนวน 3.5 แสนล้านบาท แต่ผลการเบิกจ่ายและการกู้เงิน ไม่ใกล้เคียงกับความจริงที่ระบุว่า เป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วน ซึ่งใน พ.ร.ก.กู้เงินมาตรา 3 วรรคสอง ระบุว่าการกู้เงินจำนวน 3.5 แสนล้านบาท ต้องกู้ไม่เกิน 30 มิ.ย. 56 และขณะนี้ เหลือเวลาอีก 6 เดือน ก่อนที่ พ.ร.ก.กู้เงิน จะหมดอายุ ซึ่งเงินที่เหลือ และยังไม่มีการกู้อีก 3.4 แสนล้านบาท มีแผนในทางปฏิบัติอย่างไร และการกู้เงินของรัฐบาลมาเก็บไว้เฉยๆ โดยยังไม่มีแผนเบิกจ่ายถูกต้องหรือไม่ เพราะต้องเสียดอกเบี้ยเฉลี่ยประมาณ 3% ดอกเบี้ยเงินต้นที่เพิ่มขึ้นนั้น บุคคลใดจะเป็นผู้รับผิดชอบ
ด้านนายทวี ไอศูรย์พิศาลศิริ รองผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) กระทรวงการคลัง ชี้แจงว่า ในปีงบประมาณ 2555 ได้กู้เงินจำนวน 10,000 ล้านบาทนั้น เมื่อส่วนราชการต้องการใช้เงินต้องเสนอโครงการ ขอไปยังคณะกรรมการบริหารน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ (กบอ.) เมื่อโครงการอนุมัติแล้ว จึงเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี ซึ่งแม้ว่าขณะนี้จะมีเบิกจ่ายสะสมมาถึงเดือน ธ.ค.2556 จำนวน 4,800 ล้านบาท แต่การเบิกเงินกู้จากธนาคาร ใช้วิธีทยอยเบิกตามความก้าวหน้าของงาน จึงไม่เสียดอกเบี้ย
- SPDZ likes this
"คนโง่มักจะชอบว่าคนอื่นว่าโง่"
"ถ้าคนเราคิดเหมือนกันหมด ก็ไม่มีเลือกตั้งซิครับ"
"ผมไม่พูด เรื่อง 112 แล้ว นะครับ กรุณาอย่าถาม (17 พค 2012)"
#6
Posted 3 January 2013 - 12:16
ว้า มีคนเฉลยไปแล้ว... กะจะให้ งับให้เต็มคำซะหน่อย....
นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา ได้อภิปรายซักถามประเด็นที่รัฐบาลขออนุมัติจากรัฐสภา ให้ออก พ.ร.ก.กู้เงิน จำนวน 3.5 แสนล้านบาท แต่ผลการเบิกจ่ายและการกู้เงิน ไม่ใกล้เคียงกับความจริงที่ระบุว่า เป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วน ซึ่งใน พ.ร.ก.กู้เงินมาตรา 3 วรรคสอง ระบุว่าการกู้เงินจำนวน 3.5 แสนล้านบาท ต้องกู้ไม่เกิน 30 มิ.ย. 56 และขณะนี้ เหลือเวลาอีก 6 เดือน ก่อนที่ พ.ร.ก.กู้เงิน จะหมดอายุ ซึ่งเงินที่เหลือ และยังไม่มีการกู้อีก 3.4 แสนล้านบาท มีแผนในทางปฏิบัติอย่างไร และการกู้เงินของรัฐบาลมาเก็บไว้เฉยๆ โดยยังไม่มีแผนเบิกจ่ายถูกต้องหรือไม่ เพราะต้องเสียดอกเบี้ยเฉลี่ยประมาณ 3% ดอกเบี้ยเงินต้นที่เพิ่มขึ้นนั้น บุคคลใดจะเป็นผู้รับผิดชอบ
ด้านนายทวี ไอศูรย์พิศาลศิริ รองผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) กระทรวงการคลัง ชี้แจงว่า ในปีงบประมาณ 2555 ได้กู้เงินจำนวน 10,000 ล้านบาทนั้น เมื่อส่วนราชการต้องการใช้เงินต้องเสนอโครงการ ขอไปยังคณะกรรมการบริหารน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ (กบอ.) เมื่อโครงการอนุมัติแล้ว จึงเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี ซึ่งแม้ว่าขณะนี้จะมีเบิกจ่ายสะสมมาถึงเดือน ธ.ค.2556 จำนวน 4,800 ล้านบาท แต่การเบิกเงินกู้จากธนาคาร ใช้วิธีทยอยเบิกตามความก้าวหน้าของงาน จึงไม่เสียดอกเบี้ย
http://www.thairath....tent/pol/315619
ขอบคุณสำหรับข่าวนะครับ
#7
Posted 3 January 2013 - 12:34
อ่านข่าวของพี่เฮนไต
แล้วกู้มาหมื่นล้าน เบิกมาแล้วสี่พันกว่าล้าน
ไอ่สี่พันกว่าล้านนั่นมันก็มีดอกเบี้ยแล้ว แล้วทำไมไม่พูดถึงดอกเบี้ยตรงส่วนที่เบิกมาแล้วมั่งล่ะฮะ
ทำไมไม่บอกเลยฮะว่า คนไทยตาดำๆที่นั่งกันหน้าสลอนพวกนี้แหละที่เป็นคนจะต้องรับผิดชอบดอกเบี้ย
#8
Posted 3 January 2013 - 12:41
อ่านข่าวของพี่เฮนไต
แล้วกู้มาหมื่นล้าน เบิกมาแล้วสี่พันกว่าล้าน
ไอ่สี่พันกว่าล้านนั่นมันก็มีดอกเบี้ยแล้ว แล้วทำไมไม่พูดถึงดอกเบี้ยตรงส่วนที่เบิกมาแล้วมั่งล่ะฮะ
ทำไมไม่บอกเลยฮะว่า คนไทยตาดำๆที่นั่งกันหน้าสลอนพวกนี้แหละที่เป็นคนจะต้องรับผิดชอบดอกเบี้ย
แบบนี้ต้อง ถามขุนคลังโลก ครับ... ว่า กู้อย่างไรจะไม่เสียดอกเบี้ยส่วนที่เอาตังเค้ามาใช้.....
ถ้ารู้วิธีบอกผมด้วย... ผมจะกู้บ้าง...
- bluetoffee likes this
"คนโง่มักจะชอบว่าคนอื่นว่าโง่"
"ถ้าคนเราคิดเหมือนกันหมด ก็ไม่มีเลือกตั้งซิครับ"
"ผมไม่พูด เรื่อง 112 แล้ว นะครับ กรุณาอย่าถาม (17 พค 2012)"
#9
Posted 3 January 2013 - 12:48
อ่านข่าวของพี่เฮนไต
แล้วกู้มาหมื่นล้าน เบิกมาแล้วสี่พันกว่าล้าน
ไอ่สี่พันกว่าล้านนั่นมันก็มีดอกเบี้ยแล้ว แล้วทำไมไม่พูดถึงดอกเบี้ยตรงส่วนที่เบิกมาแล้วมั่งล่ะฮะ
ทำไมไม่บอกเลยฮะว่า คนไทยตาดำๆที่นั่งกันหน้าสลอนพวกนี้แหละที่เป็นคนจะต้องรับผิดชอบดอกเบี้ย
แบบนี้ต้อง ถามขุนคลังโลก ครับ... ว่า กู้อย่างไรจะไม่เสียดอกเบี้ยส่วนที่เอาตังเค้ามาใช้.....
ถ้ารู้วิธีบอกผมด้วย... ผมจะกู้บ้าง...
พี่อย่าฉลาดแต่คำพูดเลยพี่ ทำพฤติกรรมให้ฉลาดมั่ง
แกล้งโง่ในเรื่องเลวๆของพวกพ้องตลอดอย่างนี้ไม่ไหวนะพี่นะ
ตกลงพี่เฮนนี่ โง่จริง โง่บัดซบ โง่ไร้เดียงสา หรือแกล้งโง่ ฮะ
- ทัชชี่, mOOgrOb'pm', Somebody and 3 others like this
#10
Posted 3 January 2013 - 12:53
มันชอบไงครับ อวดฉลาด แต่จริง ๆ แล้ว ใคร ๆ ก็รู้
อ่านข่าวของพี่เฮนไต
แล้วกู้มาหมื่นล้าน เบิกมาแล้วสี่พันกว่าล้าน
ไอ่สี่พันกว่าล้านนั่นมันก็มีดอกเบี้ยแล้ว แล้วทำไมไม่พูดถึงดอกเบี้ยตรงส่วนที่เบิกมาแล้วมั่งล่ะฮะ
ทำไมไม่บอกเลยฮะว่า คนไทยตาดำๆที่นั่งกันหน้าสลอนพวกนี้แหละที่เป็นคนจะต้องรับผิดชอบดอกเบี้ย
แบบนี้ต้อง ถามขุนคลังโลก ครับ... ว่า กู้อย่างไรจะไม่เสียดอกเบี้ยส่วนที่เอาตังเค้ามาใช้.....
ถ้ารู้วิธีบอกผมด้วย... ผมจะกู้บ้าง...
พี่อย่าฉลาดแต่คำพูดเลยพี่ ทำพฤติกรรมให้ฉลาดมั่ง
แกล้งโง่ในเรื่องเลวๆของพวกพ้องตลอดอย่างนี้ไม่ไหวนะพี่นะ
ตกลงพี่เฮนนี่ โง่จริง โง่บัดซบ โง่ไร้เดียงสา หรือแกล้งโง่ ฮะ
Edited by Ballbk, 3 January 2013 - 12:54.
"ความดี กับ ความเลว
ความจริง กับ คำโกหก
ความถูกต้อง กับ การทำผิดกฎหมาย"
ถ้าเกิดเป็น คน ไม่ได้เกิดเป็น ควาย มันไม่ต้องให้ทายหรอก ว่าจะเลือกอย่างไหน
#11
Posted 3 January 2013 - 12:55
เห็นตาย........มันรู้ทุกเรื่อง.........ยกเว้นเรื่องดีๆ
- Raja22, อาวุโสโอเค, ทัชชี่ and 4 others like this
#12
Posted 3 January 2013 - 13:03
ว้า มีคนเฉลยไปแล้ว... กะจะให้ งับให้เต็มคำซะหน่อย....
นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา ได้อภิปรายซักถามประเด็นที่รัฐบาลขออนุมัติจากรัฐสภา ให้ออก พ.ร.ก.กู้เงิน จำนวน 3.5 แสนล้านบาท แต่ผลการเบิกจ่ายและการกู้เงิน ไม่ใกล้เคียงกับความจริงที่ระบุว่า เป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วน ซึ่งใน พ.ร.ก.กู้เงินมาตรา 3 วรรคสอง ระบุว่าการกู้เงินจำนวน 3.5 แสนล้านบาท ต้องกู้ไม่เกิน 30 มิ.ย. 56 และขณะนี้ เหลือเวลาอีก 6 เดือน ก่อนที่ พ.ร.ก.กู้เงิน จะหมดอายุ ซึ่งเงินที่เหลือ และยังไม่มีการกู้อีก 3.4 แสนล้านบาท มีแผนในทางปฏิบัติอย่างไร และการกู้เงินของรัฐบาลมาเก็บไว้เฉยๆ โดยยังไม่มีแผนเบิกจ่ายถูกต้องหรือไม่ เพราะต้องเสียดอกเบี้ยเฉลี่ยประมาณ 3% ดอกเบี้ยเงินต้นที่เพิ่มขึ้นนั้น บุคคลใดจะเป็นผู้รับผิดชอบ
ด้านนายทวี ไอศูรย์พิศาลศิริ รองผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) กระทรวงการคลัง ชี้แจงว่า ในปีงบประมาณ 2555 ได้กู้เงินจำนวน 10,000 ล้านบาทนั้น เมื่อส่วนราชการต้องการใช้เงินต้องเสนอโครงการ ขอไปยังคณะกรรมการบริหารน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ (กบอ.) เมื่อโครงการอนุมัติแล้ว จึงเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี ซึ่งแม้ว่าขณะนี้จะมีเบิกจ่ายสะสมมาถึงเดือน ธ.ค.2556 จำนวน 4,800 ล้านบาท แต่การเบิกเงินกู้จากธนาคาร ใช้วิธีทยอยเบิกตามความก้าวหน้าของงาน จึงไม่เสียดอกเบี้ย
ถ้ามองในอีกแง่มุม คือ การประิเมินสถานการณ์ และการประมาณ งบประมาณ ที่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงอย่างมาก
ซึ่งในระดับ รัฐบาลแล้ว ควรจะต้องใกล้เคียง กว่าที่เป็นในข่าว
เพราะ หน่วยงานรัฐ เมื่อมีงบเหลือ มักจะใช้จนหมด (ดูตัวอย่าง ทัวร์ รัฐสภา)
ซึ่งหาก เมื่อใกล้หมดอายุ พรก อาจมีการอนุมัติวงเงินส่วนที่เหลือ กันอย่างเต็มที่ ก็ได้
Edited by mongdoodee, 3 January 2013 - 13:04.
#13
Posted 3 January 2013 - 14:15
อ่านข่าวของพี่เฮนไต
แล้วกู้มาหมื่นล้าน เบิกมาแล้วสี่พันกว่าล้าน
ไอ่สี่พันกว่าล้านนั่นมันก็มีดอกเบี้ยแล้ว แล้วทำไมไม่พูดถึงดอกเบี้ยตรงส่วนที่เบิกมาแล้วมั่งล่ะฮะ
ทำไมไม่บอกเลยฮะว่า คนไทยตาดำๆที่นั่งกันหน้าสลอนพวกนี้แหละที่เป็นคนจะต้องรับผิดชอบดอกเบี้ย
แบบนี้ต้อง ถามขุนคลังโลก ครับ... ว่า กู้อย่างไรจะไม่เสียดอกเบี้ยส่วนที่เอาตังเค้ามาใช้.....
ถ้ารู้วิธีบอกผมด้วย... ผมจะกู้บ้าง...
พี่อย่าฉลาดแต่คำพูดเลยพี่ ทำพฤติกรรมให้ฉลาดมั่ง
แกล้งโง่ในเรื่องเลวๆของพวกพ้องตลอดอย่างนี้ไม่ไหวนะพี่นะ
ตกลงพี่เฮนนี่ โง่จริง โง่บัดซบ โง่ไร้เดียงสา หรือแกล้งโง่ ฮะ
แล้วแต่ท่านคิดครับ...
ผมรู้แต่ว่า... รัฐบาลนี้กู้... รัฐบาลที่แล้วก็กู้ ... ผมไม่เคยสงสัยเรื่อง ดอกเบี้ยที่คนไทยตาดำๆ ต้องแบกทั้งสอง กรณี...
แต่ มันมี บางพวก ที่ ดัดจริต... เกิดมา สงสัยเฉพาะตอนนี้ ขึ้นมาทันใด...
ตอนที่แล้ว.. เงียบกริบ.... เพราะ... หล่อสั่งกู้...
"คนโง่มักจะชอบว่าคนอื่นว่าโง่"
"ถ้าคนเราคิดเหมือนกันหมด ก็ไม่มีเลือกตั้งซิครับ"
"ผมไม่พูด เรื่อง 112 แล้ว นะครับ กรุณาอย่าถาม (17 พค 2012)"
#14
Posted 3 January 2013 - 14:23
อยากรู้ว่า มีท่านใดเคยคำนวณไว้หรือไม่ว่า คนไทยต้องแบกภาระเงินกู้ไว้คนละเท่าไหร่
และรัฐบาลต้องเสียดอกเบี้ยเงินกู้นี้ปีละเท่าไหร่ เฉลี่ยเป็นรายวันๆละเท่าไหร่
#15
Posted 3 January 2013 - 14:25
รัฐกู้บริหารน้ำ 3.5 แสนล.ไม่สนโครงการไม่พร้อม
รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า รัฐบาลสั่งให้กระทรวงการคลังทำสัญญาเงินกู้เงินกับสถาบันการเงิน 340,000 ล้านบาท ภายในเดือน มิ.ย.56 ตามที่ พ.ร.ก. กำหนดไว้ แม้ว่ายังไม่มีโครงการจะมาใช้เงินกู้ก็ตาม เพราะหากรอให้โครงการมีความชัดเจนทั้งหมดจะเลยเวลากู้เงินที่กำหนดไว้ในกฎหมาย อย่างไรก็ดี การกู้เงินตาม พ.ร.ก.บริหารจัดการน้ำ 350,000 ล้านบาท ขณะนี้ได้กู้เงินไป 10,000 ล้านบาท และเบิกจ่ายได้เพียง 2,000 ล้านบาทเนื่องจากโครงการไม่มีความพร้อมที่จะดำเนินการ ซึ่งรัฐบาลทราบปัญหาดังกล่าวดี และได้พยายามผลักดันโครงการที่จะใช้เงินออกมาให้เร็วที่สุด
จากเดลินิวส์ครับ
8000 ล้านนั้นคงคิดดอกเบี้ยแล้วนะครับ
#16
Posted 3 January 2013 - 14:31
ว้า มีคนเฉลยไปแล้ว... กะจะให้ งับให้เต็มคำซะหน่อย....
นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา ได้อภิปรายซักถามประเด็นที่รัฐบาลขออนุมัติจากรัฐสภา ให้ออก พ.ร.ก.กู้เงิน จำนวน 3.5 แสนล้านบาท แต่ผลการเบิกจ่ายและการกู้เงิน ไม่ใกล้เคียงกับความจริงที่ระบุว่า เป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วน ซึ่งใน พ.ร.ก.กู้เงินมาตรา 3 วรรคสอง ระบุว่าการกู้เงินจำนวน 3.5 แสนล้านบาท ต้องกู้ไม่เกิน 30 มิ.ย. 56 และขณะนี้ เหลือเวลาอีก 6 เดือน ก่อนที่ พ.ร.ก.กู้เงิน จะหมดอายุ ซึ่งเงินที่เหลือ และยังไม่มีการกู้อีก 3.4 แสนล้านบาท มีแผนในทางปฏิบัติอย่างไร และการกู้เงินของรัฐบาลมาเก็บไว้เฉยๆ โดยยังไม่มีแผนเบิกจ่ายถูกต้องหรือไม่ เพราะต้องเสียดอกเบี้ยเฉลี่ยประมาณ 3% ดอกเบี้ยเงินต้นที่เพิ่มขึ้นนั้น บุคคลใดจะเป็นผู้รับผิดชอบ
ด้านนายทวี ไอศูรย์พิศาลศิริ รองผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) กระทรวงการคลัง ชี้แจงว่า ในปีงบประมาณ 2555 ได้กู้เงินจำนวน 10,000 ล้านบาทนั้น เมื่อส่วนราชการต้องการใช้เงินต้องเสนอโครงการ ขอไปยังคณะกรรมการบริหารน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ (กบอ.) เมื่อโครงการอนุมัติแล้ว จึงเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี ซึ่งแม้ว่าขณะนี้จะมีเบิกจ่ายสะสมมาถึงเดือน ธ.ค.2556 จำนวน 4,800 ล้านบาท แต่การเบิกเงินกู้จากธนาคาร ใช้วิธีทยอยเบิกตามความก้าวหน้าของงาน จึงไม่เสียดอกเบี้ย
ถ้ามองในอีกแง่มุม คือ การประิเมินสถานการณ์ และการประมาณ งบประมาณ ที่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงอย่างมาก
ซึ่งในระดับ รัฐบาลแล้ว ควรจะต้องใกล้เคียง กว่าที่เป็นในข่าว
เพราะ หน่วยงานรัฐ เมื่อมีงบเหลือ มักจะใช้จนหมด (ดูตัวอย่าง ทัวร์ รัฐสภา)
ซึ่งหาก เมื่อใกล้หมดอายุ พรก อาจมีการอนุมัติวงเงินส่วนที่เหลือ กันอย่างเต็มที่ ก็ได้
สาระที่แท้จริงของข่าวนี้คือ
รัฐบวมออก พรบ.กู้ฉุกเฉินมาแก้ไขน้ำท่วม 3.5แสนล้าน
แต่เอาเข้าจริง คิดกันไม่ออกว่าจะทำอะไรกันดีในการแก้น้ำท่วม
เดชะบุญที่เทวดาเป็นใจ ไม่เทฝนลงมาจนท่วมท้น
- ม่านน้ำ likes this
#17
Posted 3 January 2013 - 14:32
รัฐกู้บริหารน้ำ 3.5 แสนล.ไม่สนโครงการไม่พร้อม
รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า รัฐบาลสั่งให้กระทรวงการคลังทำสัญญาเงินกู้เงินกับสถาบันการเงิน 340,000 ล้านบาท ภายในเดือน มิ.ย.56 ตามที่ พ.ร.ก. กำหนดไว้ แม้ว่ายังไม่มีโครงการจะมาใช้เงินกู้ก็ตาม เพราะหากรอให้โครงการมีความชัดเจนทั้งหมดจะเลยเวลากู้เงินที่กำหนดไว้ในกฎหมาย อย่างไรก็ดี การกู้เงินตาม พ.ร.ก.บริหารจัดการน้ำ 350,000 ล้านบาท ขณะนี้ได้กู้เงินไป 10,000 ล้านบาท และเบิกจ่ายได้เพียง 2,000 ล้านบาทเนื่องจากโครงการไม่มีความพร้อมที่จะดำเนินการ ซึ่งรัฐบาลทราบปัญหาดังกล่าวดี และได้พยายามผลักดันโครงการที่จะใช้เงินออกมาให้เร็วที่สุด
จากเดลินิวส์ครับ
8000 ล้านนั้นคงคิดดอกเบี้ยแล้วนะครับ
ดอกเบี้ยโง่ๆ ที่เอาเงินมากองโดยไม่รู้จะทำอะไรดี
#18
Posted 3 January 2013 - 14:40
รัฐบาลที่แล้วกู้มา มีระบบรายจ่ายรายรับ มีทุนสำรอง รัฐบาลนี่มีไหมครับ ชี้แจงบ้างไหมครับ ว่าทำไปเท่าไร เหลือเท่าไร เอาไปทำไรต่อ หรือว่าค่อยว่ากัน
http://www.democrat....ent-of-Abhisit/ ถึงจะเป็น link ของ ปชป แต่เค้าก็ยังชี้แจงต่อสาธารณะชนนะครับ คุณท่าน
- วันศุกร์ likes this
#19
Posted 3 January 2013 - 14:49
อ่านข่าวของพี่เฮนไต
แล้วกู้มาหมื่นล้าน เบิกมาแล้วสี่พันกว่าล้าน
ไอ่สี่พันกว่าล้านนั่นมันก็มีดอกเบี้ยแล้ว แล้วทำไมไม่พูดถึงดอกเบี้ยตรงส่วนที่เบิกมาแล้วมั่งล่ะฮะ
ทำไมไม่บอกเลยฮะว่า คนไทยตาดำๆที่นั่งกันหน้าสลอนพวกนี้แหละที่เป็นคนจะต้องรับผิดชอบดอกเบี้ย
แบบนี้ต้อง ถามขุนคลังโลก ครับ... ว่า กู้อย่างไรจะไม่เสียดอกเบี้ยส่วนที่เอาตังเค้ามาใช้.....
ถ้ารู้วิธีบอกผมด้วย... ผมจะกู้บ้าง...
พี่อย่าฉลาดแต่คำพูดเลยพี่ ทำพฤติกรรมให้ฉลาดมั่ง
แกล้งโง่ในเรื่องเลวๆของพวกพ้องตลอดอย่างนี้ไม่ไหวนะพี่นะ
ตกลงพี่เฮนนี่ โง่จริง โง่บัดซบ โง่ไร้เดียงสา หรือแกล้งโง่ ฮะ
แล้วแต่ท่านคิดครับ...
ผมรู้แต่ว่า... รัฐบาลนี้กู้... รัฐบาลที่แล้วก็กู้ ... ผมไม่เคยสงสัยเรื่อง ดอกเบี้ยที่คนไทยตาดำๆ ต้องแบกทั้งสอง กรณี...
แต่ มันมี บางพวก ที่ ดัดจริต... เกิดมา สงสัยเฉพาะตอนนี้ ขึ้นมาทันใด...
ตอนที่แล้ว.. เงียบกริบ.... เพราะ... หล่อสั่งกู้...
ไม่อยากดัดจริตสงสัยหรอกพี่ ถ้ารัฐบาลที่พี่เชียร์มันเป็นคนมีจิตสำนึกดีไม่ใช่เดนมนุษย์แบบนี้
ที่เห็นๆข้าวไปแล้วแสนล้านเนื้อๆ พี่เฮนไตนิ่งสนิท เงียบยิ่งกว่าเสี่ยงฉี่ในส้วม
แต่ถ้าพี่อยากดัดจริต เป็นคนโง่ หูหนวกตาบอด ก็ตามสบายเหอะพี่เฮน
ถ้าพี่อยากดัดจริตตั้งหน้าตั้งตาเชียร์รัฐบาลนี้ก็ตามแต่ศรัทธาพี่ล่ะกัน
หวังว่า ขุนคลังโลกรวมไปถึงขุนคลังจักรวาล จะปล่อยกู้ให้รัฐบาลนี้อีกเยอะๆ
คนไทยตาดำๆจะได้เงยหน้าอ้าปากซักทีนะพี่นะ
มาไวๆเว้ย เงินกู้ มาอีก กู้อีก กู้อีกเยอะๆ คนไทยตาดำๆจะรอดแล้วเว้ย
#20
Posted 3 January 2013 - 14:59
เห็นตาย........มันรู้ทุกเรื่อง.........ยกเว้นเรื่องดีๆ
ขอขัดจังหวะนอกเรื่องดอกเบี้ยการกู้นะครับจขกท เพราะผมเห็นด้วยอย่างยิ่งกับคหนี้จริงๆ
เอ็งขอเป็น"ขี้ข้าโจร" ข้าเลือกเป็น"ข้าธุลีพระบาท" เอ็งขอเป็น"ไพร่" ข้าเลือกเป็น"พสกนิกร"
#21
Posted 3 January 2013 - 15:05
---------------------------------------
#22
Posted 3 January 2013 - 15:54
ก็เล่นไปด่าเค้าว่า "ดีแต่กู้ๆ"
แล้วตัวเองกู้เพื่อ???
#23
Posted 3 January 2013 - 16:00
แล้วแต่ท่านคิดครับ...ผมรู้แต่ว่า... รัฐบาลนี้กู้... รัฐบาลที่แล้วก็กู้ ... ผมไม่เคยสงสัยเรื่อง ดอกเบี้ยที่คนไทยตาดำๆ ต้องแบกทั้งสอง กรณี...
แต่ มันมี บางพวก ที่ ดัดจริต... เกิดมา สงสัยเฉพาะตอนนี้ ขึ้นมาทันใด...
ตอนที่แล้ว.. เงียบกริบ.... เพราะ... หล่อสั่งกู้...
รัฐบาลที่แล้วจัดทำแผนการกู้อย่างละเอียด หลังจากได้เงินก็จัดทำข้อมูลให้ตรวจสอบว่าเงินกู้มาเท่าไหร่ กู้แล้วไปไหน โครงการที่เกิดจากเงินกู้นั้นมีอะไรบ้าง คืนเงินแล้วเท่าไหร่
รัฐบาลนี้ รู้ว่ากู้มาเท่าไหร่? แต่กู้แล้วไปไหน?..ไม่รู้
ผลงานจากการกู้มีอะไรบ้าง?..ไม่บอก
คืนแล้วจำนวนเท่าไหร่?..ไม่แจ้ง
แต่ก็มีคนกลางกลวงดัดจริตเข้าข้างกันแบบไม่ลืมหูลืมตา
อ้อลืมไป
รายได้จากการปั่นกระทู้ตามบอร์ดของมันคงไม่เคยเสียภาษีนี่หว่า...มันจะมารู้สึกอะไร
Edited by ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่, 3 January 2013 - 18:12.
#24
Posted 3 January 2013 - 17:11
#26
Posted 4 January 2013 - 08:00
#27
Posted 4 January 2013 - 08:30
อ่านข่าวของพี่เฮนไต
แล้วกู้มาหมื่นล้าน เบิกมาแล้วสี่พันกว่าล้าน
ไอ่สี่พันกว่าล้านนั่นมันก็มีดอกเบี้ยแล้ว แล้วทำไมไม่พูดถึงดอกเบี้ยตรงส่วนที่เบิกมาแล้วมั่งล่ะฮะ
ทำไมไม่บอกเลยฮะว่า คนไทยตาดำๆที่นั่งกันหน้าสลอนพวกนี้แหละที่เป็นคนจะต้องรับผิดชอบดอกเบี้ย
แบบนี้ต้อง ถามขุนคลังโลก ครับ... ว่า กู้อย่างไรจะไม่เสียดอกเบี้ยส่วนที่เอาตังเค้ามาใช้.....
ถ้ารู้วิธีบอกผมด้วย... ผมจะกู้บ้าง...
ถ้าผมเป็นผู้ให้กู้รับรองว่าไม่ happy แน่ๆ กับการขอวงเงินกู้เยอะๆ แต่ของจริงกับกู้น้อยกว่าวงเงินมาก
1. การต้องเตรียมวงเงินเยอะๆ เพื่อสำรองให้ผู้กู้ ในส่วนนี้ผู้ให้กู้ต้องคิดต้นทุน กำไรไปแล้ว วงเงินส่วนนี้ที่เขาสำรองมา เขาสามารถไปหากำไรได้ ทำให้แบงค์เสียโอกาสในการทำกำไร
2. การบอกวงเงินไว้เยอะๆ ย่อมจะทำให้ได้ดอกเบี้ยถูกลง คราวหน้าถ้ากู้ เขาจะยอมหรือ
รัฐบาลนี้คุยนักคุยหนาว่าเป็นรัฐบาลนักบริหาร เรื่องแค่นี้เป็นเรื่อง basic มากๆ
#28
Posted 4 January 2013 - 08:53
อ่านข่าวของพี่เฮนไต
แล้วกู้มาหมื่นล้าน เบิกมาแล้วสี่พันกว่าล้าน
ไอ่สี่พันกว่าล้านนั่นมันก็มีดอกเบี้ยแล้ว แล้วทำไมไม่พูดถึงดอกเบี้ยตรงส่วนที่เบิกมาแล้วมั่งล่ะฮะ
ทำไมไม่บอกเลยฮะว่า คนไทยตาดำๆที่นั่งกันหน้าสลอนพวกนี้แหละที่เป็นคนจะต้องรับผิดชอบดอกเบี้ย
แบบนี้ต้อง ถามขุนคลังโลก ครับ... ว่า กู้อย่างไรจะไม่เสียดอกเบี้ยส่วนที่เอาตังเค้ามาใช้.....
ถ้ารู้วิธีบอกผมด้วย... ผมจะกู้บ้าง...
พี่อย่าฉลาดแต่คำพูดเลยพี่ ทำพฤติกรรมให้ฉลาดมั่ง
แกล้งโง่ในเรื่องเลวๆของพวกพ้องตลอดอย่างนี้ไม่ไหวนะพี่นะ
ตกลงพี่เฮนนี่ โง่จริง โง่บัดซบ โง่ไร้เดียงสา หรือแกล้งโง่ ฮะ
แล้วแต่ท่านคิดครับ...
ผมรู้แต่ว่า... รัฐบาลนี้กู้... รัฐบาลที่แล้วก็กู้ ... ผมไม่เคยสงสัยเรื่อง ดอกเบี้ยที่คนไทยตาดำๆ ต้องแบกทั้งสอง กรณี...
แต่ มันมี บางพวก ที่ ดัดจริต... เกิดมา สงสัยเฉพาะตอนนี้ ขึ้นมาทันใด...
ตอนที่แล้ว.. เงียบกริบ.... เพราะ... หล่อสั่งกู้...
เห็นไต๋ ใช้คำผิดนะ มันต้อง
รัฐบาลนี้ทำได้ทันทีไม่ต้องกู้... รัฐบาลที่แล้วดีแต่กู้
" ประกาศบอยคอต ช่อง 3 ไม่ว่าจะข่าว ละคร หรือการ์ตูนลูก กรูไม่ดู !!! "
#29
Posted 4 January 2013 - 08:54
ที่ว่าไม่เสียดอกเบี้ยเต็มจำนวนนั่นมันจากวงเงินกู้ธนาคารที่ทำไว้ 10,000 ล้านบาทนี่ครับ
แต่ถ้าเป็นพันธบัตรรัฐบาลต้องจ่ายเต็มๆ หรือถ้าเป็นเงินกู้ต่างประเทศก็ต้องจ่ายเขาเต็มๆ
เราต้องเอาความจริงมาพูดกันครับ ถามช้างตอบม้าหรือถามเรื่องเงินกู้ที่เพิ่มขึ้นมาในรัฐบาลนี้ร่วมห้าแสนล้านบาท
แต่เอาวงเงินโอดีแค่ 10,000 ล้านมาตอบ ผมว่ามันไม่ไหว
(เฉพาะเงินกู้ 350,000 ล้านดอกงวดแรกก็หมื่นกว่าล้านแล้ว)
หนี้สาธารณะตอนรัฐบาลยิ่งลักษณ์เข้ามาบริหารประเทศเดือน ส.ค.ปี 54 คือ 3,010,317.680 บาท
เอาเฉพาะส่วนของรัฐบาลที่กู้โดยตรง 1,877,913.520 บาท
เป็นเงินกู้ต่างประเทศ 41,490.080 บาท ในประเทศ 1,836,423.440 บาท
ยิ่งลักษณ์บริหารประเทศมาถึงเดือน ก.ย.ปี 55 หนี้สาธารณะเพิ่มเป็น 3,515,010.950 บาท
(ตอนนี้มากกว่านี้อีกครับ แต่เอาเท่าที่สำนักงานบริหารหนี้ Update)
เฉพาะส่วนของรัฐบาลที่กู้โดยตรง 2,381,879.100 บาท
เป็นเงินกู้ต่างประเทศ 52,647.680 บาท ในประเทศ 2,329,231.420 บาท
ยอดหนี้เหล่านี้เสียดอกเบี้ยทุกบาททุกสตางค์ครับ เป็นภาระของผู้เสียภาษีทั้งประเทศ
Edited by คลำปม, 4 January 2013 - 09:01.
วิธีการยุติระบอบทักษิณ
ก็แค่เพียงทำให้คนไทยส่วนใหญ่ "ฉลาด"
#30
Posted 4 January 2013 - 09:21
รัฐบาลที่แล้วกู้มา มีระบบรายจ่ายรายรับ มีทุนสำรอง รัฐบาลนี่มีไหมครับ ชี้แจงบ้างไหมครับ ว่าทำไปเท่าไร เหลือเท่าไร เอาไปทำไรต่อ หรือว่าค่อยว่ากันhttp://www.democrat....ent-of-Abhisit/ ถึงจะเป็น link ของ ปชป แต่เค้าก็ยังชี้แจงต่อสาธารณะชนนะครับ คุณท่าน
จะให้ชี้แจงอะไรครับ ผลงาน 1 ปีของรัดทะบาน ยังไม่รู้จะเอาอะไรมาพูดเลย ผ่านมาตั้งหลายเดือนแล้ว ทำเฉยซะ
#31
Posted 4 January 2013 - 09:33
ผมเป็นคนไทย เกิดที่เมืองไทย เสียภาษีไม่เคยขาด
เงินภาษีของผม ผมจะสงสัยตอนไหนผมมีสิทธิ์มั้ย ?
เฮ็นไตแปะข่าวผมก็ขอบคุณแล้วนะ มาว่าดัจริตเนี่ยถามตัวเองก่อนมั้ย
ผมไม่ได้สู่รู้ อวดรู้ไปทุกเรื่องแบบเฮ็นไต เรื่องนี้ไม่รู้ก็มาขอความรู้
เหตุผลก็บอกในหัวกระทู้ไปหมดแล้ว เฮ็นไตเป็นอะไรมากมั้ย
ญาติผู้ใหญ่ทางบ้านให้มาไม่ครบหรืิอครับ มีปมด้อยหรืออย่างไร ?
#32
Posted 4 January 2013 - 09:36
จะสงสัยตอนไหนเนี่ยมันไปหนักญาติผู้ใหญ่ทางบ้านของเฮ็นไตด้วยหรือครับ
ผมเป็นคนไทย เกิดที่เมืองไทย เสียภาษีไม่เคยขาด
เงินภาษีของผม ผมจะสงสัยตอนไหนผมมีสิทธิ์มั้ย ?
เฮ็นไตแปะข่าวผมก็ขอบคุณแล้วนะ มาว่าดัจริตเนี่ยถามตัวเองก่อนมั้ย
ผมไม่ได้สู่รู้ อวดรู้ไปทุกเรื่องแบบเฮ็นไต เรื่องนี้ไม่รู้ก็มาขอความรู้
เหตุผลก็บอกในหัวกระทู้ไปหมดแล้ว เฮ็นไตเป็นอะไรมากมั้ย
ญาติผู้ใหญ่ทางบ้านให้มาไม่ครบหรืิอครับ มีปมด้อยหรืออย่างไร ?
ไม่ได้ด่าพ่อล่อแม่ หรือ ญาติทางบ้านของสมาชิก...
ไม่ใช่ SPDZ ตัวจริง....
"คนโง่มักจะชอบว่าคนอื่นว่าโง่"
"ถ้าคนเราคิดเหมือนกันหมด ก็ไม่มีเลือกตั้งซิครับ"
"ผมไม่พูด เรื่อง 112 แล้ว นะครับ กรุณาอย่าถาม (17 พค 2012)"
#33
Posted 4 January 2013 - 09:39
อ่านข่าวของพี่เฮนไต
แล้วกู้มาหมื่นล้าน เบิกมาแล้วสี่พันกว่าล้าน
ไอ่สี่พันกว่าล้านนั่นมันก็มีดอกเบี้ยแล้ว แล้วทำไมไม่พูดถึงดอกเบี้ยตรงส่วนที่เบิกมาแล้วมั่งล่ะฮะ
ทำไมไม่บอกเลยฮะว่า คนไทยตาดำๆที่นั่งกันหน้าสลอนพวกนี้แหละที่เป็นคนจะต้องรับผิดชอบดอกเบี้ย
แบบนี้ต้อง ถามขุนคลังโลก ครับ... ว่า กู้อย่างไรจะไม่เสียดอกเบี้ยส่วนที่เอาตังเค้ามาใช้.....
ถ้ารู้วิธีบอกผมด้วย... ผมจะกู้บ้าง...
พี่อย่าฉลาดแต่คำพูดเลยพี่ ทำพฤติกรรมให้ฉลาดมั่ง
แกล้งโง่ในเรื่องเลวๆของพวกพ้องตลอดอย่างนี้ไม่ไหวนะพี่นะ
ตกลงพี่เฮนนี่ โง่จริง โง่บัดซบ โง่ไร้เดียงสา หรือแกล้งโง่ ฮะ
แล้วแต่ท่านคิดครับ...
ผมรู้แต่ว่า... รัฐบาลนี้กู้... รัฐบาลที่แล้วก็กู้ ... ผมไม่เคยสงสัยเรื่อง ดอกเบี้ยที่คนไทยตาดำๆ ต้องแบกทั้งสอง กรณี...
แต่ มันมี บางพวก ที่ ดัดจริต... เกิดมา สงสัยเฉพาะตอนนี้ ขึ้นมาทันใด...
ตอนที่แล้ว.. เงียบกริบ.... เพราะ... หล่อสั่งกู้...
ไม่อยากดัดจริตสงสัยหรอกพี่ ถ้ารัฐบาลที่พี่เชียร์มันเป็นคนมีจิตสำนึกดีไม่ใช่เดนมนุษย์แบบนี้
ที่เห็นๆข้าวไปแล้วแสนล้านเนื้อๆ พี่เฮนไตนิ่งสนิท เงียบยิ่งกว่าเสี่ยงฉี่ในส้วม
แต่ถ้าพี่อยากดัดจริต เป็นคนโง่ หูหนวกตาบอด ก็ตามสบายเหอะพี่เฮน
ถ้าพี่อยากดัดจริตตั้งหน้าตั้งตาเชียร์รัฐบาลนี้ก็ตามแต่ศรัทธาพี่ล่ะกัน
หวังว่า ขุนคลังโลกรวมไปถึงขุนคลังจักรวาล จะปล่อยกู้ให้รัฐบาลนี้อีกเยอะๆ
คนไทยตาดำๆจะได้เงยหน้าอ้าปากซักทีนะพี่นะ
มาไวๆเว้ย เงินกู้ มาอีก กู้อีก กู้อีกเยอะๆ คนไทยตาดำๆจะรอดแล้วเว้ย
คุยเรื่องดอกเบี้ยไปไม่ได้.... วนกลับมาเรื่อง...
กู้ซะงั้น.... หนี้สาธารณะซะงั้น....
ผมว่า ตั้งกระทู้ใหม่ได้นะครับ...
"คนโง่มักจะชอบว่าคนอื่นว่าโง่"
"ถ้าคนเราคิดเหมือนกันหมด ก็ไม่มีเลือกตั้งซิครับ"
"ผมไม่พูด เรื่อง 112 แล้ว นะครับ กรุณาอย่าถาม (17 พค 2012)"
#34
Posted 4 January 2013 - 09:41
จะสงสัยตอนไหนเนี่ยมันไปหนักญาติผู้ใหญ่ทางบ้านของเฮ็นไตด้วยหรือครับ
ผมเป็นคนไทย เกิดที่เมืองไทย เสียภาษีไม่เคยขาด
เงินภาษีของผม ผมจะสงสัยตอนไหนผมมีสิทธิ์มั้ย ?
เฮ็นไตแปะข่าวผมก็ขอบคุณแล้วนะ มาว่าดัจริตเนี่ยถามตัวเองก่อนมั้ย
ผมไม่ได้สู่รู้ อวดรู้ไปทุกเรื่องแบบเฮ็นไต เรื่องนี้ไม่รู้ก็มาขอความรู้
เหตุผลก็บอกในหัวกระทู้ไปหมดแล้ว เฮ็นไตเป็นอะไรมากมั้ย
ญาติผู้ใหญ่ทางบ้านให้มาไม่ครบหรืิอครับ มีปมด้อยหรืออย่างไร ?
ไม่ได้ด่าพ่อล่อแม่ หรือ ญาติทางบ้านของสมาชิก...
ไม่ใช่ SPDZ ตัวจริง....
อ๋อ..จะบอกว่าถ้าเป็น "คนส่งแก๊ส" ถึงจะถูกต้องใช่มั้ยครับ ? gVHow9
#35
Posted 4 January 2013 - 09:44
แล้วแต่ท่านคิดครับ...ผมรู้แต่ว่า... รัฐบาลนี้กู้... รัฐบาลที่แล้วก็กู้ ... ผมไม่เคยสงสัยเรื่อง ดอกเบี้ยที่คนไทยตาดำๆ ต้องแบกทั้งสอง กรณี...
แต่ มันมี บางพวก ที่ ดัดจริต... เกิดมา สงสัยเฉพาะตอนนี้ ขึ้นมาทันใด...
ตอนที่แล้ว.. เงียบกริบ.... เพราะ... หล่อสั่งกู้...
รัฐบาลที่แล้วจัดทำแผนการกู้อย่างละเอียด หลังจากได้เงินก็จัดทำข้อมูลให้ตรวจสอบว่าเงินกู้มาเท่าไหร่ กู้แล้วไปไหน โครงการที่เกิดจากเงินกู้นั้นมีอะไรบ้าง คืนเงินแล้วเท่าไหร่
รัฐบาลนี้ รู้ว่ากู้มาเท่าไหร่? แต่กู้แล้วไปไหน?..ไม่รู้
ผลงานจากการกู้มีอะไรบ้าง?..ไม่บอก
คืนแล้วจำนวนเท่าไหร่?..ไม่แจ้ง
แต่ก็มีคนกลางกลวงดัดจริตเข้าข้างกันแบบไม่ลืมหูลืมตา
อ้อลืมไป
รายได้จากการปั่นกระทู้ตามบอร์ดของมันคงไม่เคยเสียภาษีนี่หว่า...มันจะมารู้สึกอะไร
ถามว่ากู้มาเท่าไร ใช้ไปเท่าไร...ท่านไม่รู้หรือ...
กู้มาทำอะไร... ไม่รู้หรือ... แล้วไอ้ที่ สส แมงสาปเอามาเห่าหอน อภิปรายในสภา... ว่า ทุจริตอย่างโน้นอย่างนี้...
จินตนาการเอาหรือ...
ข้างนึงทำอะไรมันก็ดีมันก็ถูก...
อีกข้างนึงทำอะไรมันก็โกง มันก็ชั่ว...
จริตคิดได้แค่นี้ ก็มองได้แค่นี้....
"คนโง่มักจะชอบว่าคนอื่นว่าโง่"
"ถ้าคนเราคิดเหมือนกันหมด ก็ไม่มีเลือกตั้งซิครับ"
"ผมไม่พูด เรื่อง 112 แล้ว นะครับ กรุณาอย่าถาม (17 พค 2012)"
#36
Posted 4 January 2013 - 09:45
อ่านข่าวของพี่เฮนไต
แล้วกู้มาหมื่นล้าน เบิกมาแล้วสี่พันกว่าล้าน
ไอ่สี่พันกว่าล้านนั่นมันก็มีดอกเบี้ยแล้ว แล้วทำไมไม่พูดถึงดอกเบี้ยตรงส่วนที่เบิกมาแล้วมั่งล่ะฮะ
ทำไมไม่บอกเลยฮะว่า คนไทยตาดำๆที่นั่งกันหน้าสลอนพวกนี้แหละที่เป็นคนจะต้องรับผิดชอบดอกเบี้ย
แบบนี้ต้อง ถามขุนคลังโลก ครับ... ว่า กู้อย่างไรจะไม่เสียดอกเบี้ยส่วนที่เอาตังเค้ามาใช้.....
ถ้ารู้วิธีบอกผมด้วย... ผมจะกู้บ้าง...
พี่อย่าฉลาดแต่คำพูดเลยพี่ ทำพฤติกรรมให้ฉลาดมั่ง
แกล้งโง่ในเรื่องเลวๆของพวกพ้องตลอดอย่างนี้ไม่ไหวนะพี่นะ
ตกลงพี่เฮนนี่ โง่จริง โง่บัดซบ โง่ไร้เดียงสา หรือแกล้งโง่ ฮะ
แล้วแต่ท่านคิดครับ...
ผมรู้แต่ว่า... รัฐบาลนี้กู้... รัฐบาลที่แล้วก็กู้ ... ผมไม่เคยสงสัยเรื่อง ดอกเบี้ยที่คนไทยตาดำๆ ต้องแบกทั้งสอง กรณี...
แต่ มันมี บางพวก ที่ ดัดจริต... เกิดมา สงสัยเฉพาะตอนนี้ ขึ้นมาทันใด...
ตอนที่แล้ว.. เงียบกริบ.... เพราะ... หล่อสั่งกู้...
ไม่อยากดัดจริตสงสัยหรอกพี่ ถ้ารัฐบาลที่พี่เชียร์มันเป็นคนมีจิตสำนึกดีไม่ใช่เดนมนุษย์แบบนี้
ที่เห็นๆข้าวไปแล้วแสนล้านเนื้อๆ พี่เฮนไตนิ่งสนิท เงียบยิ่งกว่าเสี่ยงฉี่ในส้วม
แต่ถ้าพี่อยากดัดจริต เป็นคนโง่ หูหนวกตาบอด ก็ตามสบายเหอะพี่เฮน
ถ้าพี่อยากดัดจริตตั้งหน้าตั้งตาเชียร์รัฐบาลนี้ก็ตามแต่ศรัทธาพี่ล่ะกัน
หวังว่า ขุนคลังโลกรวมไปถึงขุนคลังจักรวาล จะปล่อยกู้ให้รัฐบาลนี้อีกเยอะๆ
คนไทยตาดำๆจะได้เงยหน้าอ้าปากซักทีนะพี่นะ
มาไวๆเว้ย เงินกู้ มาอีก กู้อีก กู้อีกเยอะๆ คนไทยตาดำๆจะรอดแล้วเว้ย
คุยเรื่องดอกเบี้ยไปไม่ได้.... วนกลับมาเรื่อง...
กู้ซะงั้น.... หนี้สาธารณะซะงั้น....
ผมว่า ตั้งกระทู้ใหม่ได้นะครับ...
อ่า ถ้าไม่กู้มาแล้วดอกเบี้ยมันจะงอกมาจากอะไรละครับ น้าเห็นหะหมี
แล้วไอ้ที่กู้กู้มามันไม่เพิ่มหนี้สาธารระเหรอครับ น้ามั่วหรือผมมึนครับเนี่ย?
#37
Posted 4 January 2013 - 10:20
อีกนิดนะครับกลัวมองไม่เห็นกัน
รัฐบาลตั้งงบปี 56 จ่ายดอกเบี้ยเงินกู้ 350,000 ล้านบาทเป็นจำนวนเงิน 11,600 ล้านบาทนะครับ
ใครคิดว่าไม่เสียดอกเบี้ยอยากจ่ายแทนก็เชิญครับ
วิธีการยุติระบอบทักษิณ
ก็แค่เพียงทำให้คนไทยส่วนใหญ่ "ฉลาด"
#38
Posted 4 January 2013 - 11:10
ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2554 หนี้สาธารณะคงค้างมีจำนวนทั้งสิ้น 4,269.02 พันล้านบาท หรือร้อยละ
40.22 ของ GDP
ณ วันที่ 30 กันยายน 2555 หนี้สาธารณะคงค้างมีจานวนทั้งสิ้น 4,937,239.62 ล้านบาท หรือ
ร้อยละ 43.91 ของ GDP
4,937,239.62
4,269,020.00 -
668,219.62 ล้านบาท
หกแสนกว่าล้านที่เพิ่มขึ้นมาเสียดอกอยู่แล้ว รวมถึงหนี้ค้างเก่าตั้งแต่สมัยพระเจ้าเหา
แต่ที่ผมเขียนไว้ใน rep แรกไม่ได้แปลว่าไม่เสียนะครับ
รัฐบาลต้องออกกฏหมายออกมาก่อนว่าจะกู้เท่าไหร่
เมื่อได้ตัวเลขแล้ว ถึงจะให้กระทรวงการคลังไปหาแหล่งเงินกู้ เช่น ภายใน ภานนอกประเทศ หรือกู้รัฐบาลต่างประเทศ
คราวนี้เวลาจะกู้เขาไม่กู้มาก้อนใหญ่ทีเดียว อาจจะกู้มาเป็นงวดๆ เช่นจะกู้แสนล้าน
ขอกู้เดือนละหมื่นล้าน 10 งวด ก็จะได้แสนล้านเป็นต้น
ฉะนั้นเดือนแรกจึงมีเงินต้นแค่หมื่นล้าน แต่ถ้ากู้มาทีเดียวก็โดนดอกเบี้ยเต็มๆ
#39
Posted 4 January 2013 - 11:16
เอาข่าวเก่ามาฝาก
ความเคลื่อนไหว ภาคประชาชน คัดค้าน พรบ.กู้เงิน 'ฉุกเฉิน' สี่แสนล้าน
#40
Posted 4 January 2013 - 11:44
อ่านแล้วเหนื่อยใจกะคุณ เ็ห็นไต จริงๆครับ ถ้าคุณเอาคำว่า สุจริต มาเป็นที่ตั้ง คุณจะตอบคำถามของเพื่อนๆ เค้าได้นะ อย่าหูตามืดมัวอยู่เลยครับ ประเทศจะบรรลัย อยู่แล้วครับ พวกเราก็ทำได้แค่เพียง กดคีย์บอร์ด ตรวจสอบ ตั้งอยู่ในความเป็นจริงเถอะครับ คุณ เฮนไต
#42
Posted 4 January 2013 - 11:48
แล้วไอ้ที่กู้กู้มามันไม่เพิ่มหนี้สาธารระเหรอครับ น้ามั่วหรือผมมึนครับเนี่ย?
เฮนไตมันมั่วสุดๆทุกเรื่องที่มันพูดครับ
ต่อให้คนแก้ให้ถูกอิเห็นก็จะแย้งให้ดูเหมือนผิด ด้วยวิธีการ "พูดบิดเบือนให้ดูเหมือนguru-กูรู้" ครับ
ผมจับทางได้เลย วิธีตอบของอีเห็นนี่มัน 1 ในวิธี propaganda ชัดๆ
#43
Posted 4 January 2013 - 23:37
แต่ก็ขอบคุณกับข่าวที่เอามาแปะให้อ่านนะครับ
0 user(s) are reading this topic
0 members, 0 guests, 0 anonymous users