300 บาทพ่นพิษ! รง.โคราชเจ๊งแล้ว 6 แห่ง เลิกจ้าง 800-จับตากิจการเสี่ยง 8,000 แห่ง/ “เซรามิกลำปาง” อ่วมเจอ 2 เด้ง ค่าแรง 300 บาท-แอลพีจีราคาพุ่ง
#51
Posted 6 January 2013 - 15:31
http://www.thairath....t/region/317686
300 บาทออกฤทธิ์ โรงงานสระแก้วปิดไปแล้ว 1 เลิกจ้างบางส่วนอีก 1 ร่อแร่อีก 1 แรงงานตกงานแล้ว 691 คน จังหวัดประสานกองทัพหาทางออก จัดระเบียบใหม่ หวั่นแรงงานต่างด้าวทะลัก...
นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยว่า ขณะนี้สถานประกอบการบางแห่งเริ่มได้รับผลกระทบจากค่าจ้าง 300 บาทแล้ว ซึ่งบางแห่งได้หาทางออกอื่นๆ แทน เช่น ดูแลสวัสดิการครอบครัว เลี้ยงอาหารในเวลาปฏิบัติงาน แต่ถ้าแจ้งมาก็อาจต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปพูดคุยกันก่อนว่าพอที่จะหา ทางออกอย่างไรได้บ้าง เพื่อเป็นข้อมูลนำเสนอให้รัฐบาล เท่าที่ทราบมาพบว่าโรงงานบางแห่งก็เปลี่ยนรูปแบบการทำงานในโรงงานไปเป็นการ จ้างแรงงานตามบ้านทำ ซึ่งตรงนี้ทำให้รัฐบาลเสียประโยชน์ไม่ได้ภาษีจากโรงงาน ในส่วนแรงงานต่างด้าวที่จะทะลักเข้ามานั้น จังหวัดได้ประสานไปยังกองทัพเพื่อหาทางออกร่วมกัน โดยขอให้แยกแรงงานออกเป็น 2 ส่วน คือ แรงงานถูกกฏหมายกับแรงงานชั่วคราวแรงวัน เช้าไป-เย็นกลับ หรือ 2-3 วันกลับ เพื่อผู้ประกอบการจะได้ไม่ขาดแรงงาน แล้วจะได้จัดระเบียบแรงงานต่างด้าวได้อย่างถูกต้อง
นายกรุณา แก้วน้อย สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยว่า จากสภาพเศรษฐกิจที่ไม่ค่อยดีประกอบกับนโยบายรัฐบาลขึ้นค่าจ้าง 300 บาทต่อวัน ได้ส่งผลกระทบต่อสถานประกอบการระดับเล็กและระดับกลางในจังหวัดสระแก้วบาง ส่วนแล้ว ข้อมูลเมื่อ 3 ม.ค.พบว่ามีสถานประกอบการขนาดกลางที่ประกอบธุรกิจตัดเย็บเสื้อผ้าสำเร็จรูป เพื่อส่งออก อยู่ อ.เมืองสระแก้ว ได้ปิดกิจการลง ส่งผลให้เลิกจ้างแรงงาน 471 คน จ่ายเงินค่าชดเชยไปกว่า 10 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีโรงงานระดับเล็ก ประกอบธุรกิจประกอบชิ้นส่วนสายไฟรถยนต์ อยู่ อ.วัฒนานคร เลิกจ้างแรงงานบางส่วน จำนวน 207 คน จ่ายเงินค่าชดเชยไปกว่า 3.5 ล้านบาท แล้วยังมีสถานประกอบการขนาดเล็กมีแนวโน้มจะเลิกจ้างแรงงานอีก 1 แห่ง ตั้งอยู่ อ.วัฒนานคร สรุปแล้วขณะนี้เลิกจ้างแรงงานไปแล้ว 691 คน
ทั้ง นี้ เนื่องจากสถานประกอบการในจังหวัดสระแก้ว ส่วนใหญ่เป็นขนาดเล็กและขนาดกลาง ซึ่งอาจมีแนวโน้มเลิกจ้างแรงงานสูง ในส่วนของสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดได้ติดตามสถานการณ์จากการตรวจ แรงงานและคำร้องที่พนักงานมาร้องเรียน ก่อนที่จะลงไปให้คำปรึกษาและช่วยเหลือต่อไป ซึ่งที่ผ่านมามีเจ้าของสถานประกอบการบางแห่งมาปรึกษาหาทางออกเพื่อให้สถาน ประกอบการอยู่ได้ แรงงานมีงานทำ โดยจะลดเวลาในการทำงานลง จาก 6 วันต่อสัปดาห์เหลือ 5 วัน โดยใช้แรงงานสัมพันธ์คุยกันแบบเปิดใจระหว่างเจ้าของกับลูกจ้าง ถ้าตกลงกันได้ก็ไม่มีปัญหา ในส่วนมาตรการของกระทรวงแรงงาน ได้จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือแรงงานที่ได้รับผลกระทบจากการเลิกจ้างงาน (ผลกระทบจาก 300 บาท) โดยจัดหางานจังหวัดจะได้ให้คำปรึกษาในการหางานทำให้ใหม่ ประกันสังคมก็จะจ่ายเบี้ยว่างงานให้ ในส่วนของศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานก็จะให้ความช่วยเหลือผู้ที่ต้องการเปลี่ยน งานใหม่.
- SPDZ likes this
#52
Posted 6 January 2013 - 15:33
ปิดโรงงานชุดชั้นในเซ่นรัฐ วุ่นเเรงานพม่าเเห่ขุดทอง
http://www.banmuang....อยเเพ200ฉันทนา/
ค่าแรงวันละ 300 บาท พ่นพิษ บริษัทผลิตชุดชั้นในสระบุรี ลอยแพสาวฉันทนา 200 คน พร้อมปิดโรงงานหนี หลังแบกภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้นไม่ไหว ขณะที่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเรียกร้องรัฐเร่งช่วยเหลือเยียวยาด่วน พาณิชย์คุมเข้มห้ามสินค้าจำเป็นแอบปรับราคา ด้าน “เผดิมชัย” ยันผู้ประกอบการต้องปฏิบัติตามคำสั่ง ขู่ฝ่าผืนมีโทษตามกฎหมาย ล่าสุดแรงงานต่างด้าว 4 พันคนทะลักข้ามแดนเข้าไทย หวังเข้ามาขุดทอง รับค่าแรงวันละ 300 บาท คาดมีอีกนับล้านจะตามมาภายในปีนี้
หลังจากนโยบายปรับขึ้นราคาค่าแรงขั้นต่ำวันละ 300 บาททั่วประเทศ เริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2556 จนทำให้หลายฝ่ายเป็นห่วง ว่าจะมีผู้ประกอบการระดับกลางและเล็ก ไม่สามารถรับภาระค่าใช้จ่ายและส่งผลให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น รวมถึงส่งผลกระทบไปถึงราคาค่าครองชีพที่จะสูงขึ้นตามไปด้วยนั้น เกี่ยวกับเรื่องนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่าขณะนี้เกิดผลกระทบประเดิมเป็นรายแรกของปี 2556 แล้ว โดยเมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 2 ม.ค. กลุ่มพนักงานสตรีของบริษัท วีณาการ์เมนต์ จำกัด ซึ่งผลิตชุดชั้นใน ตั้งอยู่เขตอำเภอวิหารแดง จังหวัดสระบุรี กว่า 200 คน ได้เดินทางมาชุมนุมกันที่หน้าศาลากลางจังหวัดสระบุรี เพื่อประท้วงบริษัท วีณาการ์เมนต์ จำกัด โดยมีนายบุญสม ทาวิจิตร ประธานกลุ่มผู้ใช้แรงงานสระบุรี เป็นแกนนำ เพื่อยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่อนายถาวร พรหมมีชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี
ลอยแพฉันทนา 200 คน
นายบุญสม ทาวิจิตร ประธานกลุ่มผู้ใช้แรงงานสระบุรี เปิดเผยว่า กลุ่มผู้ชุมนุมทั้งหมดส่วนใหญ่ทำงานกับบริษัท วีณาการ์เมนต์ จำกัด ผลิตชุดชั้นในมานานกว่า 10 ปี ทุกคนต่างได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากทางบริษัทฯ ได้ปิดประกาศปิดโรงงาน เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2555 โดยที่ไม่แจ้งให้พนักงานทราบล่วงหน้าว่าจะมีการปิดโรงงาน ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2555 ทางบริษัทได้เคยเรียกตัวแทนพนักงานเข้าประชุมเพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับค่าจ้างแรงงาน 300 บาท ที่พนักงานควรจะได้รับแล้ว แต่ทางบริษัทบอกว่าไม่สามารถจ่ายได้ เนื่องจากต้นทุนและวัตถุในการผลิตสูง
การประชุมในวันดังกล่าวทั้งทางตัวแทนพนักงาน และทางบริษัทยังหาข้อตกลงกันไม่ได้ ทางบริษัทจึงขอเลื่อนการนัดเจรจากับตัวแทนพนักงานออกไปก่อน แต่หลังจากวันที่ 25 ธันวาคม 2555 ทางบริษัทก็ไม่ได้ติดต่อกับตัวแทนพนักงานที่รับปากว่าจะนัดเจรจากันอีกเลย จนกระทั่งพนักงานมาพบในวันนี้ ทางบริษัทได้ประกาศปิดโรงงานไปแล้วเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2555 โดยที่ทางบริษัทเองก็ไม่ได้แจ้งให้พนักงานทราบล่วงหน้า ทำให้กลุ่มพนักงานทั้งหมดได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เพราะแต่ละคนต้องอาศัยเงินเดือนในการเลี้ยงครอบครัวทั้งสิ้น
ต่อมานายชโลธร ผาโคตร รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี ได้ออกมารับหนังสือร้องเรียนจากตัวแทนกลุ่มผู้ชุมนุม จากนั้นผู้ชุมนุมได้แยกย้ายกันกลับ ส่วนทางด้านนายสมาน พงษ์พันธ์เดชา เจ้าของโรงงาน บริเษัท วีณาการ์เมนต์ จำกัด ได้เดินทางเข้ากรุงเทพฯ ไม่สามารถที่จะติดต่อขอทราบรายละเอียดได้ ทั้งนี้ ค่าแรงขั้นต่ำตามประกาศคณะกรรมการค่าจ้างก่อนที่จะเปลี่ยนเป็น 300 บาท ที่บรรดาแรงงานในจังหวัดสระบุรีจะอยู่ที่อัตรา 269 บาท
ต่างด้าวนับพันทะลักไทย
มีรายงานแจ้งว่าจากนโยบายการปรับขึ้นค่าแรงครั้งนี้ ส่งผลให้แรงงานต่างชาติหลั่งไหลเข้าไทยมากขึ้น โดยนายสมบัติ จึงตระกูล อุปนายกสมาคมผู้ประกอบการค้าชายแดนและการท่องเที่ยวไทย กัมพูชา จังหวัดจันทบุรี เปิดเผยว่า ตั้งแต่เวลา 07.00 น.ที่ผ่านมา มีชาวกัมพูชาจำนวนมากทะลักเดินทางผ่านจุดผ่านแดนแล้วกว่า 4,000 คน มีจำนวนมากสุดอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ส่วนใหญ่จะมุ่งหน้าสู่ อ.กบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี, อยุธยา, ฉะเชิงเทรา, ชลบุรี และอีกหลายจังหวัดที่มีนิคมอุตสาหกรรม เพื่อเริ่มต้นทำงานในโรงงานต่างๆ ด้วยค่าแรงวันละ 300 บาท
คาดเข้ามาอีกเป็นล้านปีนี้
ขณะที่ผู้ประกอบการขนาดเล็กและขนาดกลางในจังหวัดจันทบุรีจำนวนมาก ได้หันมาใช้วิธีจ้างแรงงานต่างด้าว เฉพาะผู้มีหนังสือผ่านแดนอยู่ในไทยในระยะสั้น และปรับขึ้นค่าแรงจากวันละ 150 บาท เป็น 200 บาทเท่านั้น เพราะแรงงานที่อยู่ได้ระยะยาวที่ต้องจ่ายค่าแรงวันละ 300 บาท สูงเกินกว่าจะจ้างไหว ขณะที่ผู้ประกอบการที่จ้างแรงงานต่างด้าวในจังหวัดระนองจำนวนมากเริ่มทยอยปรับค่าแรงขั้นต่ำเป็น 300 บาทแล้ว
ส่วนหอการค้าจังหวัดระนองคาดการณ์ว่า ในปีนี้จะมีแรงงานพม่าจะไหลทะลักเข้าไทยอีกนับล้านคน เนื่องจากปัจจุบันค่าจ้างแรงงานในพม่าตกเพียงวันละ 30 บาท หรือเดือนละ 900 บาท เท่านั้น ซึ่งต่างกับค่าแรงขั้นต่ำของไทยถึง 10 เท่าตัวจากการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำของไทย
- SPDZ likes this
#54
Posted 6 January 2013 - 15:58
ผมว่าเรากำลังร่วมกันช่วย "บันทึกหน้าประวัติศาสตร์" เลยนะครับ
คือประวัติศาสตร์ยุคที่อันธพาลสุด อัปรีย์สุด ชั่วสุด ทมิฬสุด สกปรกโสโครกสุด ทรยศชาติสุด เนรคุณในหลวงที่สุด
- paper punch, desert, SPDZ and 1 other like this
#55
Posted 6 January 2013 - 16:07
ทำไม กลุ่มแรงงานถึงชอบอ้างนายจ้างมีรถ มีบ้าน แต่ไม่ยอมดูหนี้ของนายจ้างเลย ถ้าเป็นเจ้าของกิจการแล้ว ยังจนเหมือนลูกจ้าง ผมว่าใครอยากเป็นนายจ้างหว่า แถมถ้ากิจการเจ๊ง หนี้ธนาคารบานยิ่งกว่าลูกจ้างอีก ลูกจ้างยังได้เงินชดเชยจากบริษัท แต่เจ้าของกิจการไม่เหลืออะไรเลยนะลูกจ้างเป็นอาชีพใช้แรง รับประกันว่าไม่มีความเสี่ยงในเรื่องขาดทุน เพราะอาศัยขายแรง
และมีโอกาสได้รับเพิ่มกรณี เก่ง+ขยัน+ทำโอที
มองบวกได้ค่าแรงเพิ่มแต่เจ้่ของกิจการไปไม่ไหวก็ ปลด ตัดสวัสดิการ งดโอที
เจ้าของกิจการมีโอกาสรวยกว่าแต่มองอีกแง่ในความเสี่ยงคือมีโอกาสเจ๊งเช่นกันถ้ากิจการไปไม่ไหว
ถ้าเจ้าของอยู่ได้ก็ช่วยกันไป
แต่อยู่ไม่ไหวใครจะมาช่วยแรงงาน
ผมเชื่อว่า กิจการที่ผลกำไรดี กิจการใหญ่ๆ ก็จ้างแรงงานแพงอยู่แล้ว แต่กิจการขนาดเล็ก ขนาดกลาง ผลกำไรน้อย ถ้าต้องเพิ่มค่าแรงเกือบ 40% ถ้าผลกำไรนิดเดียว จะอยู่ไหวหรือ
#56
Posted 6 January 2013 - 17:01
ไม่รู้เกี่ยวกับ 300 บาทหรือเปล่านะครับ
วันนี้ไปซื้อชาเย็นเจ้าประจำ แก้ว 15 บาท ปีใหม่มาปรับเป็น 20 บาท ขึ้นไปทีเดียว 33.33%
ขึ้นพรวดพราดเลยวุ้ย
#57
Posted 6 January 2013 - 20:25
#58
Posted 6 January 2013 - 20:46
บ้านที่จะซื้อ ขึ้นแล้ว 2 แสน เวรกำ
2 user(s) are reading this topic
0 members, 2 guests, 0 anonymous users