Jump to content


Photo
- - - - -

^_^ ขออนุญาตพูดเกี่ยวกับเรื่องค่าแรง 300 ^_^ by คนกลาง


  • Please log in to reply
47 replies to this topic

#1 คนกลาง

คนกลาง

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 65 posts

Posted 4 January 2013 - 14:29

ก่อนอื่นต้องขอเกริ่นก่อนนะครับ ผมเองก็เป็นคนทำธุรกิจส่วนตัวเช่นกัน

ตอนแรกไม่ค่อยชอบเรื่องนี้สักเท่าไร เพราะค่าแรงขึ้นแบบกระชากมาก

แต่ในทุกวิกฤตย่อมมีโอกาสเสมอ สำหรับข้อเสียสำหรับหลายท่านที่เป็นเจ้าของกิจการ

ก็คงอาจจะพอรับรู้กันบ้าง ผมเลยขออนุญาตให้อีกมุมมองอีกมุมมองหนึ่ง

ซึ่งเป็นข้อดีที่ได้รับจากการขึ้นค่าแรง 300 บาทนะครับ ซึ่งผมคนกลางเอง

ได้สัมผัสเข้ากับตัวเอง

1. ทำให้เราเข้ามาตรวจสอบเรื่องต้นทุนอย่างจริงจังกันมากขึ้น ก่อนหน้านี้ผมยอมรับว่า
เราปล่อยปละละเลยเรื่องต้นทุนและค่าใช้จ่ายมาก ใครจะใช้อะไร จะซื้ออะไร
ไม่ค่อยรับใบเสร็จ ทำบัญชีก็ทำแบบหละหลวม ขอไปที ตอนนี้มันเหมือนบังคับให้เรา
ต้องทำงานอย่างเป็นระบบมากยิ่งขึ้น แน่นอนว่าเราอาจพบรอยโหว่บางจุดที่ใหญ่กว่า
เรื่องค่าแรง ก็ได้นะครับ

2. คนงานหรือพนักงานมีความภักดีกับบริษัทมากขึ้น
ก่อนหน้านี้ประมาณสัก 6 ถึง 8 เดือน หลายท่านที่เป็นผู้ประกอบการก็คงทราบดีครับว่า
พนักงานโดยเฉพาะระดับล่างนั้นหายากเพียงใด แต่ในปัจจุบันเมื่อใครได้งานแล้วมักไม่
ออกไปทำที่อื่นครับ เพราะถ้าออกไปก็แน่นอนว่ามีความเสี่ยงเรื่องการตกงานสูงมาก
ช่วง 6 ถึง 8 เืดือนที่ผ่านมาผมได้ลูกน้องประเภทเช้าชามเย็นชาม ทำงานไปเรื่อย ๆ
บอกให้ยกของหน่อยก็บ่น บอกให้ทำงานที่มีกลิ่นหน่อยก็บ่น แต่ปัจจุบันให้ทำอะไรเขา
ทำหมดครับ ขอเพียงอย่างเดียวอย่าให้เขาออก

3. มีความใกล้ชิดกับพนักงานมากขึ้น
เมื่อนายจ้างมีความจำเป็นจะต้องตรวจสอบพนักงานอย่างใกล้ชิดเพื่อให้ได้งานที่คุ้มค่ากับต้นทุนที่ต้องเสียไป
แน่นอนครับพอใกล้ชิด ความเป็นพี่เป็นน้อง ความเป็นเพื่อนกัน ความรู้สึุกในการเป็นคนในครอบครัวมัน
เพิ่มขึ้นมา จากเดิมที่นายจ้างอาจจะจ้างผู้จัดการแล้วให้ผู้จัดการคุม หรือหัวหน้างานคุม เราเข้ามาดูแล
อย่างใกล้ชิดมากขึ้น ไถ่ถามปัญหางานทำให้ทราบปัญหาของงานได้ดีขึ้น และสามารถแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด
ยิ่งขึ้น ดีกว่าจ้างแล้วก็ปล่อยให้พนักงานทำแบบตามมีตามเกิด ถ้าสมมติเราจ้างหัวหน้างานที่มีความเป็นผู้นำ
ก็ดีไป แต่ถ้าไปจ้างหัวหน้างานประเภทวางกล้าม หรือ เอาเปรียบลูกน้อง เอาผลงานตัวเองเป็นหลัก
แบบนั้นอาจเกิดปัญหาลาออกทั้งกะเบอะได้นะครับ

สรุปนะครับ : ทุกปัญหามีทางแก้ผมเองก็อาจจะนโยบายนี้เท่าไร แต่วันนี้สิ่งที่เกิดขึ้นมันมีทั้งดีทั้งเสียในตัวของมัน
สรุปคือคุณจะไม่รู้ว่าคุณได้อะไร เมื่อคุณไม่ยอมที่จะเสียสิ่งหนึ่งไป

ขอบคุณครับ

Edited by คนกลาง, 4 January 2013 - 14:31.


#2 ZipPa

ZipPa

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,291 posts

Posted 4 January 2013 - 15:02

คงเป็นมุมมองหนึุ่งของนายจ้างครับ  ที่ได้รับผลบวก

 

นโยบายทุกอย่างมีผลดี และผลเสียครับ

ดีใจด้วยที่คุณได้รับผลดี และมองในด้านบวก  แต่ก็คงยังสรุปไม่ได้ครับ(ย้ำว่ายังไม่สรุป)

จนกว่าจะผ่านช่วงไตรมาสแรกครับ  แต่ถ้าจะเอาประสบการณ์มาตอบก็คงเห็นด้วยกับเม้นและกระทู้ผ่านๆมา 

ว่า ข้อดี มันน้อยกว่า ข้อเสีย มากมายครับ 



#3 hentai

hentai

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,046 posts

Posted 4 January 2013 - 15:12

ผมเชื่อว่า นโยบายนี้... จะเปลี่ยนประเทศ อย่างเป็น รูปธรรม...   

ผมไม่เชื่อว่า จะมี พรรคไหน เอา นโยบายนี้ออก...     เหมือน 30 บาท....    โจมตีว่ามี ปัญหาสารพัด...   พอตอนนี้... เป็นเรื่องปกติไปแล้ว... 

 

ความเฉื่อยเป็นอุปสรรคต่อการเปลี่ยนแปลง...   :D


"คนโง่มักจะชอบว่าคนอื่นว่าโง่"

"ถ้าคนเราคิดเหมือนกันหมด ก็ไม่มีเลือกตั้งซิครับ"

"ผมไม่พูด เรื่อง 112 แล้ว นะครับ กรุณาอย่าถาม (17 พค 2012)"


#4 karasu

karasu

    Moderator

  • Moderators_S
  • 611 posts

Posted 4 January 2013 - 15:18

ยินดีด้วยครับ ^^

 

ถามนิดนึง นโยบาย 300 บาทนี่สร้างโอกาสทางธุรกิจให้คุณยังไงเหรอครับ?


หล่อกว่าผมก็มีแต่ ณเดช คูกิมิยะ เท่านั้นล่ะครับ[color=#ff0000;]รณรงค์งดตอบโต้ พูดคุย กับคนหน้าด้านไร้ยางอาย...[/color]


#5 หนูอ้อย

หนูอ้อย

    นักเขียนหน่อมแน้ม

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,215 posts

Posted 4 January 2013 - 15:20

ในวิกฤติครั้งนี้

คนได้มากที่สุดคือรัฐบาล ได้หน้าว่าเป็นต้นคิดให้คนระดับล่างได้เงินเพิ่ม

 

หากเพิ่มไม่ได้ ปิดโรงงาน คนตกงาน ก็ผลักภาระให้เป็นผิดบาปของนายจ้างว่าโหด

พวกมันปิดโรงงานหนี พวกมันไม่จ่ายชดเชย พวกมันลอยแพคนงาน ฯลฯ

 

นายจ้างที่เตรียมการดีไม่ได้ไม่เสีย เท่าทุน หากปรับองค์กรตั้งแต่ปีที่แล้ว องค์กรก็เดินหน้าต่อไปได้

องค์กรส่วนหนึ่งที่หมุนไม่ทันใน 1 ปีที่ผ่านมานั่นแหละที่จะต้องเจอสภาพสาหัสขนาดปิดตัวเองลง

สิ่งที่เจ้าของกระทู้พูดเช่นได้มีความรัดกุมขึ้น เป็นเรื่องก่อผลเล็กน้อยต่อองค์กร

เรียกว่าพูดเพื่อปลอบใจตัวเองเสียเป็นด้านหลัก

และองค์กรจำนวนมากก็มีระบบที่เคร่งครัดต่อความหมดเปลืองอยู่แล้ว

 

 

สถานะลูกจ้างเจอ "ปีแห่งการคิดบวก"  ของจริงค่ะ

 

 

ปรับค่าจ้าง..ทำได้ แต่ควรมีขั้นตอน เช่นขึ้นกี่ % ในกี่ปี ข้าวของก็ค่อยๆขยับ ไม่รบกวนสมดุลย์เช่นนี้

อย่างทีเจ้าของกระทู้เองก็ยังเรียกเลยว่ามันเป็น  " ค่าแรงที่ขึ้นแบบกระชากมาก "
 


 AMAZING  coup d'etat  , THAILAND ONLY ..  :ph34r:  


#6 คุณหนูจินนี่

คุณหนูจินนี่

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 888 posts

Posted 4 January 2013 - 15:26

 ค่าเเรง วันละ 300 บาท

 

จินนี่เชื่อว่า เจ้าของกิจการชาวเสื้อเเดงผู้รักเพื่อนร่วมชาติมากม๊ายย มากมายยย

 

พร้อมที่จะเสียสละได้ค่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:



#7 คุณหนูจินนี่

คุณหนูจินนี่

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 888 posts

Posted 4 January 2013 - 15:28

 ค่าเเรง 300

 

ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเท่าเทียมกันมากขึ้นในสังคม ^^


Edited by คุณหนูจินนี่, 4 January 2013 - 15:29.


#8 ทรงธรรม

ทรงธรรม

    ต่อให้ต้องเรียนจนแก่ ก็จะเรียนต่อไป คนเราพัฒนาได้ทุกคน

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,157 posts

Posted 4 January 2013 - 15:28

คือ เมื่อเรื่องมันมาถึงขั้นนี้แล้ว

 

ยังไงซะ การคิดบวก แบบปูนา อาจเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้

 

การคิดบวก อย่าง คุณ คนกลาง ถือว่าสร้างสรร (ไม่ได้พูดประชดนะครับ)

 

จริงครับ ผมเห็นด้วย ที่ กับพนักงาน นี่ รู้สึกจะเหินห่าง นายจ้าง แบบมีเส้นคั่น

 

ก็เป็นเรื่องดีครับ ผมเอง ก็ลูกจ้างเขา ไม่อยากเห็นคนตกงานหรอก ผมเคยต้องเสียน้ำตา อยู่ช่วงหนึ่ง เหมือนกัน

 

ที่ตอนนั้น เหมือนเจอ สภาพ ใกล้ตกงาน

 

คุณ คนกลาง ดูแล ลูกน้องได้ดี ก็เป็นบุญ ของลูกน้องครับ เป็นนายจ้าง ถ้าไหว ก็ควรสู้ อย่างน้อย ก็ทำเพื่อคนอีกตั้งเยอะ

 

ผมสนับสนุน คุณ คนกลางนะ

 

แต่ถ้าเลือกได้ ไม่อยากให้เป็นแบบนี้หรอก สำหรับผมนะ ที่ได้ขึ้นเงินเดือน แค่ 300 บาท พอเจอ นโยบาย 300 เข้าไป ก็ลากเลือดเอาการ

 

ตอนนี้ ก็หัดคิดบวกแล้วล่ะ เหมือนที่ คุณ asawinee บอก ต้องมีความสุขให้ได้ครับ แม้จะไม่ได้ใช้เงินเลยก็ตาม (หมดไปกับค่าใช้จ่ายที่บ้าน)

 

เพื่อนสมาชิก ก็สู้กันต่อไปครับ ใครไม่ไหวจริง ๆ ก็พักผ่อนครับ


ขอให้พวกเรา ชาวหลากสี และพันธมิตร จงมีชีวิตรอด จากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ฝีมือปูนา ไปตลอดรอดฝั่งด้วยครับ

 

PEMDAS ย่อมาจาก ลำดับการคำนวณ Parentheses , Exponentials , Multiply , Divide , Add , Subtract

 

FWGHSO ย่อมาจาก ลำดับการประเมินผลของ query  FROM, WHERE, GROUP BY, HAVING, SELECT, ORDER BY


#9 ครุฑดำ

ครุฑดำ

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,056 posts

Posted 4 January 2013 - 15:32

ก่อนอื่นต้องขอเกริ่นก่อนนะครับ ผมเองก็เป็นคนทำธุรกิจส่วนตัวเช่นกัน

ตอนแรกไม่ค่อยชอบเรื่องนี้สักเท่าไร เพราะค่าแรงขึ้นแบบกระชากมาก

แต่ในทุกวิกฤตย่อมมีโอกาสเสมอ สำหรับข้อเสียสำหรับหลายท่านที่เป็นเจ้าของกิจการ

ก็คงอาจจะพอรับรู้กันบ้าง ผมเลยขออนุญาตให้อีกมุมมองอีกมุมมองหนึ่ง

ซึ่งเป็นข้อดีที่ได้รับจากการขึ้นค่าแรง 300 บาทนะครับ ซึ่งผมคนกลางเอง

ได้สัมผัสเข้ากับตัวเอง

1. ทำให้เราเข้ามาตรวจสอบเรื่องต้นทุนอย่างจริงจังกันมากขึ้น ก่อนหน้านี้ผมยอมรับว่า
เราปล่อยปละละเลยเรื่องต้นทุนและค่าใช้จ่ายมาก ใครจะใช้อะไร จะซื้ออะไร
ไม่ค่อยรับใบเสร็จ ทำบัญชีก็ทำแบบหละหลวม ขอไปที ตอนนี้มันเหมือนบังคับให้เรา
ต้องทำงานอย่างเป็นระบบมากยิ่งขึ้น แน่นอนว่าเราอาจพบรอยโหว่บางจุดที่ใหญ่กว่า
เรื่องค่าแรง ก็ได้นะครับ

2. คนงานหรือพนักงานมีความภักดีกับบริษัทมากขึ้น
ก่อนหน้านี้ประมาณสัก 6 ถึง 8 เดือน หลายท่านที่เป็นผู้ประกอบการก็คงทราบดีครับว่า
พนักงานโดยเฉพาะระดับล่างนั้นหายากเพียงใด แต่ในปัจจุบันเมื่อใครได้งานแล้วมักไม่
ออกไปทำที่อื่นครับ เพราะถ้าออกไปก็แน่นอนว่ามีความเสี่ยงเรื่องการตกงานสูงมาก
ช่วง 6 ถึง 8 เืดือนที่ผ่านมาผมได้ลูกน้องประเภทเช้าชามเย็นชาม ทำงานไปเรื่อย ๆ
บอกให้ยกของหน่อยก็บ่น บอกให้ทำงานที่มีกลิ่นหน่อยก็บ่น แต่ปัจจุบันให้ทำอะไรเขา
ทำหมดครับ ขอเพียงอย่างเดียวอย่าให้เขาออก

3. มีความใกล้ชิดกับพนักงานมากขึ้น
เมื่อนายจ้างมีความจำเป็นจะต้องตรวจสอบพนักงานอย่างใกล้ชิดเพื่อให้ได้งานที่คุ้มค่ากับต้นทุนที่ต้องเสียไป
แน่นอนครับพอใกล้ชิด ความเป็นพี่เป็นน้อง ความเป็นเพื่อนกัน ความรู้สึุกในการเป็นคนในครอบครัวมัน
เพิ่มขึ้นมา จากเดิมที่นายจ้างอาจจะจ้างผู้จัดการแล้วให้ผู้จัดการคุม หรือหัวหน้างานคุม เราเข้ามาดูแล
อย่างใกล้ชิดมากขึ้น ไถ่ถามปัญหางานทำให้ทราบปัญหาของงานได้ดีขึ้น และสามารถแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด
ยิ่งขึ้น ดีกว่าจ้างแล้วก็ปล่อยให้พนักงานทำแบบตามมีตามเกิด ถ้าสมมติเราจ้างหัวหน้างานที่มีความเป็นผู้นำ
ก็ดีไป แต่ถ้าไปจ้างหัวหน้างานประเภทวางกล้าม หรือ เอาเปรียบลูกน้อง เอาผลงานตัวเองเป็นหลัก
แบบนั้นอาจเกิดปัญหาลาออกทั้งกะเบอะได้นะครับ

สรุปนะครับ : ทุกปัญหามีทางแก้ผมเองก็อาจจะนโยบายนี้เท่าไร แต่วันนี้สิ่งที่เกิดขึ้นมันมีทั้งดีทั้งเสียในตัวของมัน
สรุปคือคุณจะไม่รู้ว่าคุณได้อะไร เมื่อคุณไม่ยอมที่จะเสียสิ่งหนึ่งไป

ขอบคุณครับ

ถ้าท่านเป็นนายจ้างจริง ผมว่าข้อแรกท่านก็สอบไม่ผ่านแล้วครับ!! :lol: :lol:

 

ธุรกิจแบบตั้งรับ อยู่ได้จนถึงปัจจุบัน ถ้าไม่เฮงก็คงconnectionถึง

พูดมากกว่านี้ไม่ได้ครับ เพราะตอนนี้ผมพ้นสภาพกิจการมานานพอสมควรทีเดียว

ไม่บังอาจไปติเตียนเจ้าของกิจการอย่างท่านได้  -_- 


เอ็งขอเป็น"ขี้ข้าโจร" ข้าเลือกเป็น"ข้าธุลีพระบาท" เอ็งขอเป็น"ไพร่" ข้าเลือกเป็น"พสกนิกร"


#10 karasu

karasu

    Moderator

  • Moderators_S
  • 611 posts

Posted 4 January 2013 - 15:32

 ค่าเเรง 300

 

ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเท่าเทียมกันมากขึ้นในสังคม ^^

อะไรคือความเท่าเทียมครับ นายกทำงานมากกว่า กรรมกรแบกหาม หรือเปล่า?

 

นายกได้เงินเดือนเท่ากับกรรมกรหรือเปล่า

 

นายกกับกรรมกร ใครทำงานเหนื่อยกว่ากัน

 

อะไรคือความเท่าเทียมครับ?


หล่อกว่าผมก็มีแต่ ณเดช คูกิมิยะ เท่านั้นล่ะครับ[color=#ff0000;]รณรงค์งดตอบโต้ พูดคุย กับคนหน้าด้านไร้ยางอาย...[/color]


#11 Nabie

Nabie

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 155 posts

Posted 4 January 2013 - 15:36

เรื่องขึ้นค่าจ้างปกติ นายจ้างทุกคนมีแพลนที่จะเพิ่มให้ทุกๆปีอยู่แล้วครับ แต่จะขึ้นเป็น 10-20 % ตามผลงาน 

ถ้าเป็นลูกจ้างโรงงานก็ 10-30 บาทหรือเปลี่ยนเป็นเงินเดือน ปัญหาที่มีตอนนี้คือ บางจุด เพิ่มขึ้นทีหละ 80 บาท 100 บาท บางจุด 150 บาท 

ซึ่งถ้าบอกไปอาจจะนึกว่าน้อย สมมุติโรงงานกลางๆคนงาน 500 คน เพิ่ม 80 บาท ก็ ราวๆ 11 ล้านต่อปีที่ต้องจ่ายเพิ่มขึ้น หรือ อาจจะแรงงานไม่มีฝีมือที่จ่าย

250 บาท ต่อวัน เอาสัก 300 คน ก็  4 ล้านกว่าบาทต่อปี แล้วโรงงานขนาดกลางๆกำไรปีๆได้เท่าไรกันครับ ไม่แปลกเลยที่โรงงานจะเลิกกันไปบ้าง

แล้วประเด็นสำคัญอีกอย่างคือ ถ้าจ้างแรงงานที่ไม่มีฝีมืออะไร ที่เคยทำงานง่ายๆเช่น เอาของลงลัง แล้วแพ้ก อยู่ดีๆก็พรวดมาถึง 300

ที่ปกติอาจจะจ่าย 200-220 คุณก็ต้องขึ้นให้แรงงาน ที่มีฝีมืออีกครับ ซึ่งปัญหามาแน่ถ้า คนทำงาน 1 ปี ได้เงินเท่ากับคนทำงาน 1 วัน  เรื่องนี้อย่าคิดว่าเป็นเรื่องเล็กๆ เพราะจะมีการอิจฉาแน่นอน แบบ ทำไมคนนั้นทำเยอะ คนนี้ทำน้อย แต่ได้เงินเท่ากัน เหมือนกับพนักงานออฟฟิส ที่บางออฟฟิส เจ้าของจะเป็นคนทำเพโร เองไม่ให้บัญชีบริษัททำ แล้วคนที่รู้ก็จะกลายเป็นคนนอกอย่าง สำนักงานบัญชี ที่เอาไปไว้คำนวณค่าภาษีกับค่าประกันสังคมเป็นเดือนๆเท่านั้นเอง


Edited by Nabie, 4 January 2013 - 15:45.


#12 tonythebest

tonythebest

    สมาชิกขั้นสูง 178 เซนติเมตร

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 13,595 posts

Posted 4 January 2013 - 15:39

ผมเชื่อว่า นโยบายนี้... จะเปลี่ยนประเทศ อย่างเป็น รูปธรรม...   

ผมไม่เชื่อว่า จะมี พรรคไหน เอา นโยบายนี้ออก...     เหมือน 30 บาท....    โจมตีว่ามี ปัญหาสารพัด...   พอตอนนี้... เป็นเรื่องปกติไปแล้ว... 

 

ความเฉื่อยเป็นอุปสรรคต่อการเปลี่ยนแปลง...   :D

 

 

แน่นอนสิครับ

การกระทำที่ทำไปแล้ว จะแก้ไขคงเป็นไปได้ยาก

ไม่ว่าความสูญเสียจะเกิดขึ้นเพียงไร (ตามที่เสรีไทยเคยทำนายไว้)

ประชาธิปัตย์ (หาก) ได้เป็นรัฐบาลสมัยหน้า

ก็คงไม่สามารถปรับลดลงมาได้

 

เกมนี้ เป็นเกมที่คิดได้เฉพาะตัวเพื่อไทยเท่านั้น

ที่คิดแบบไม่คิดหาทางออกไว้ก่อน

ค่อยตามล้างตามเช้ดกับปัญหาไป

วันนึง หากพรรคอื่นได้เป็นรัฐบาลและมีปัญหากับเรื่องนี้

เพื่อไทยก็เอามาเล่นได้อีก

 

 

ผมเคยคิดเล่นๆ นะครับ

การเพิ่มรายได้

กับการกระชากค่าครองชีพลงมา

อะไรจะดีกว่ากัน

 

การเพิ่มรายได้ โดยพูดแต่ระดับพื้นฐาน

เช่นค่าแรงขั้นต่ำ และเงินเดือนขั้นต่ำ

คนที่ได้ 300 อยู่แล้ว 15000 อยู่แล้ว จะทำยังไงกับพวกเขา

นอกจากจะต้องปรับหนีพวกขั้นต่ำ

 

ในขณะที่ค่าครองชีพเพิ่มขึ้น

ค่าเงินบาทเท่าเดิม

ถามว่า ผู้ประกอบการจะเอารายได้ที่ไหนมาอุดตรงนี้ล่ะครับ

 

ถามพวกปลวก ก็คงจะบอกแต่นายจ้างแค่ขาดทุนกำไร

แต่ไม่คิดหรอกหรือครับ ว่ากำไรนั่น หมายถึงอะไรบ้าง นอกจากเงินในกระเป๋าของนายจ้าง

โบนัส เงินตอบแทน การจ้างงาน ขยายกิจการ

อะไรก็ได้ ที่ทำให้พื้นฐานหนักแน่น ไม่อยู่ในภาวะบีบรัด

 

ในขณะที่การกระชากค่าครองชีพลงมา

เช่นการพยายามควบคุมสินค้าพื้นฐาน วัสดุ อุปกรณ์

ให้ลดต่ำลง หรือคงที่ (ถ้าทำได้)

อย่างน้อย มันทำให้ค่าเงินของเรามีค่ามากกว่าตอน 300, 15000 เป็นไหนๆ

เมื่อค่าแรงเราไม่เพิ่มขึ้น ผู้ประกอบการก็ยังคงอยู่

การลงทุนจากต่างประเทศไม่หนีไปยังประเทศอื่น

ทุกอย่างไม่วินๆ กว่าหรือครับ

 

ปัญหาอยู่ที่ การกระชากค่าครองชีพ ต้องทำอย่างไรเท่านั้น


ข อ ใ ห้ โ ช ค ดี ต่ อ ค ว า ม เ ชื่ อ ค รั บ

 

 

 

เราอยู่ด้วยกัน ยืนข้างกัน เดินไปด้วยกัน ด้วยเพราะเรามีมุมมองและเป้าหมายไปในทิศทางเดียวกัน

จนกว่าจะถึงวันที่เราพบว่า เรามีจุดหมายปลายทางคนละตำแหน่งกัน


#13 tonythebest

tonythebest

    สมาชิกขั้นสูง 178 เซนติเมตร

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 13,595 posts

Posted 4 January 2013 - 15:43

ถ้าผมทำงานมาหลายปี ได้เงินเดือน 15000

ช่างฝีมือข้างบ้าน ทำมาหลายปี ได้ค่าแรง 300

 

นโยบายประกาศ

ผมซึ่งเป็นพนักงานเก่า ทำมาหลายปี

ควรได้เงินเดื่อนหนีพวกเด้กจบใหม่ไปที่ระดับสูงกว่า

ค่าจ้างช่างฝีมือ ควรได้มากกว่า 300

 

ความเท่าเทียมเกิดขึ้นตรงไหน

 

หากโชคร้าย นายจ้างของผมและคนข้างบ้าน

ไม่มีปัญญาจ่ายค่าแรงเท่านั้น

เกิดความเท่าเทียมขึ้นแน่นอนครับ

 

นายจ้างปิดกิจการ

ผมตกงาน

คนข้างบ้านตกงาน


ข อ ใ ห้ โ ช ค ดี ต่ อ ค ว า ม เ ชื่ อ ค รั บ

 

 

 

เราอยู่ด้วยกัน ยืนข้างกัน เดินไปด้วยกัน ด้วยเพราะเรามีมุมมองและเป้าหมายไปในทิศทางเดียวกัน

จนกว่าจะถึงวันที่เราพบว่า เรามีจุดหมายปลายทางคนละตำแหน่งกัน


#14 sigree

sigree

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,883 posts

Posted 4 January 2013 - 15:49

ผมเชื่อว่า นโยบายนี้... จะเปลี่ยนประเทศ อย่างเป็น รูปธรรม...   

ผมไม่เชื่อว่า จะมี พรรคไหน เอา นโยบายนี้ออก...     เหมือน 30 บาท....    โจมตีว่ามี ปัญหาสารพัด...   พอตอนนี้... เป็นเรื่องปกติไปแล้ว... 

 

ความเฉื่อยเป็นอุปสรรคต่อการเปลี่ยนแปลง...   :D

อย่าโง่

 

ขออภัย ไม่มีพรรคไหนปฎิเสธการขึ้นค่าแรง  ทุกพรรคประกาศหมด ภูมิใจไทยให้สูงสุด

 

แต่

 

เขาค้านการขึ้นแบบทันทีทันใดให้ตายหมู่



#15 เรื่อยๆเอื่อยๆ

เรื่อยๆเอื่อยๆ

    There is a face beneath this mask, but it isn't me.

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,223 posts

Posted 4 January 2013 - 15:53

ผมเชื่อว่า นโยบายนี้... จะเปลี่ยนประเทศ อย่างเป็น รูปธรรม...   
ผมไม่เชื่อว่า จะมี พรรคไหน เอา นโยบายนี้ออก...     เหมือน 30 บาท....    โจมตีว่ามี ปัญหาสารพัด...   พอตอนนี้... เป็นเรื่องปกติไปแล้ว... 
 
ความเฉื่อยเป็นอุปสรรคต่อการเปลี่ยนแปลง...   :D

30 บาทเป็นเรื่องของรัฐบาล ภาระและวิกฤตไม่ได้ถูกผลักมาให้ประชาชน 30 บาทไม่มีการไล่คนออก ไม่ทำให้ของขึ้นราคา คนละเรื่องกันเลย เลิกซะทีการเปรียบเทียบของสองอย่างที่ไม่เหมือนกัน

การเปลี่ยนแปลงที่ดีต้องทำอย่างมีหลักการ คำนึงถึงผลกระทบรอบด้านแล้วเลือกวิธีที่เสียน้อยที่สุด ถ้าคิดอย่างคุณ ตอบผมมาหน่อยว่าทำไมไม่ขึ้นเป็น 500 บาทไปเลย หรือถ้าขึ้นปีละ 15% แต่โรงงานปิดตัวน้อยลง คนตกงานน้อยลง รัฐอุดหนุนน้อยลง อย่างไหนมันดีกว่ากัน

#16 เคนอิจิ-นามิ

เคนอิจิ-นามิ

    สมาชิกขั้นสูง

  • Banned
  • PipPipPipPip
  • 4,447 posts

Posted 4 January 2013 - 16:22

ทุกนโยบายมีข้อดี และข้อเสีย

ทุกการแก้ไข ก็มีข้อเสีย และข้อดี 5555
ปรบมือให้คุณคนกลางครับ
^^

ปล. โรงงานแถวบ้านผม เขาได้ค่าแรง มากกว่า 300 ไปนานแล้วครับ
ทำงานโรงงาน คนเก่งๆ ขยันๆ มักได้รายของ
มันก็ทำ หลังขดหลังแข็งทำ
ใครอ่อนหัด ก็ต้องในส่วนที่ ไม่ใช่รายของ
มันก็จะมีแค่ส่วนเดียว ทำงานที่นับไม่ได้ ก็จะได้รายวัน
ซึ่งอย่าที่บอก ถ้าใครทำได้ไม่คุ้ม ก็จ้างคนอื่นที่ทำคุ้มกว่าครับ

ตอนนี้ คนงานเริ่มเอาจริงเอาจังบ้างเหมือนกัน
เพราะคนเห็นข่าวคนตกงาน และมีคนมาของานทำเยอะขึ้น

แต่เดี๋ยวอีกหน่อย คงเข้าอิหรอบเดิม

เป็นนายจ้าง บางทีก็เลือกลูกจ้างไม่ได้นะ :)

ตรรกของผมที่แตกต่างจากสมาชิกคนอื่นใน สรท นิ๊ดเดียว  :D http://webboard.seri...e-3#entry634878

รอแมงวันหน้าสันขวานดิ้นดุ๊กดิ้กมาขอขมาอยู่นะ http://webboard.seri...-แวร์/?p=609037

ความตอแหลขอไอ้แมงวัน  http://webboard.seri...-แวร์/?p=609177

 


#17 koong

koong

    ใช้ชีวิตกลางดงแดง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,147 posts

Posted 4 January 2013 - 16:38

เออ ถ้าเกิดนายจ้างขอดิว เงินเดือนของเดือนนี้ไปจ่ายเดือนหน้าได้ป่ะ
 

เอ  ชักแปลกๆ แฮะ ตอนนี้เป็นเจ้าของกิจการแล้วเหรอ



#18 Charlie

Charlie

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,449 posts

Posted 4 January 2013 - 16:44

หลักการของทุนนิยมมันก็ไม่มีอะไรเท่าเทียมกันอยู่แล้วครับ แรงงานก็วัดกันที่ระดับฝีมือและความสามารถแล้วครับ คนขีเกียจแต่อยากรวย ไม่มีทางได้เท่าคนที่ขยันกว่าหรอก แค่หลักวิธีคิดระหว่างคนที่เป็นนักลงทุนกับ คนจนที่ชอบโทษคนอื่นมาเอาเปรียบก็ไปคนละเรื่องแล้ว คิดแบบนี้ก็แค่พวกเห็นแก่ตัวที่อยากรวยทำอะไรไม่สำเร็จ ก็โทษได้ทุกอย่าง คนสองกลุ่มนี้ความเสี่ยงมันต่างกันมากนะครับอย่านึกว่ารวยกันได้ง่ายๆ


คนดีจริงไม่โกงที่วัด ไม่ยุแยงให้คนแตกแยก ไม่หลอกคนอื่นให้มารับเคราะห์ตายแทน


#19 ปูผิดหีบ

ปูผิดหีบ

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,730 posts

Posted 4 January 2013 - 17:00

มุมมองแคบไปนะครับ รอดูผลกระทบในอีกสามเดือนดีกว่า ตอนนี้อาจมองว่าดี แต่ต้องนึกถึงสินค้าอุปโภคบริโภคที่ปรับขึ้นไปรอนานแล้ว

และคนที่ไม่ได้เป็นลูกจ้างแต่ก็ไม่มีกิจการของตัวเอง พ่อแก่แม่เฒ่าที่อยู่บ้านนอกหารายได้จากการเก็บผักเก็บไม้กินสิครับ

วันไหนหาได้ไม่ถึง100บาทจะทำไงเงินหาได้น้อยลง แต่ค่าใช้จ่ายกลับสูงขึ้น หายนะไม่ใกล้ไม่ไกลแล้วล่ะ  -_-


โกงชาวนา ฆ่าเด็กตาย ขายแผ่นดิน โคตรชั่วตระกูลชิน...!


#20 koong

koong

    ใช้ชีวิตกลางดงแดง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,147 posts

Posted 4 January 2013 - 17:20

น้องที่ออฟฟิศมันบ่นว่ากินมาม่าบิ๊กแพ๊ค ไม่อิ่มอ่ะ :lol:  มันบ่นว่าน้อยลง

เฮ้ยยยยยยยยย คิดไปเอง -_-



#21 annykun

annykun

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,567 posts

Posted 5 January 2013 - 15:29

*
POPULAR

ผมขอคิดต่างกับคุณคนกลางนะครับ  เพราะจากการศึกษาของผม  ค่าแรง 300 ไม่ได้ทำให้  พนักงานจงรักภักดีต่อบริษัทหรือทำให้เกิดควาใกล้ชิดสนิทสนมกันเลยครับ  ไม่เกี่ยวเลย   การที่คุณรู้สึกแบบนั้นน่าจะเป็นผลมาจาก   เพราะความใจดีของคุณเองมากกว่า  หรือคุณอาจเป็นเจ้านายที่ดีลูกน้องรัก  หรือคุณอาจโชคดีที่ได้คนดีๆมาร่วมงานก็เป็นได้

 

กรณีการเพิ่มค่าจ้างแล้วทำให้พนักงานจงรักภักดีต่อบริษัทสนิทกับนายจ้างนั้น  มักเกิดจากการที่นายจ้างเพิ่มเงินให้เอง  เหมาะสมกับผลงานของลูกน้องครับ  ยิ่งถ้าลูกน้องไม่ได้ร้องขอจะยิ่งรักและภักดีต่อบริษัทมากขึ้น  และอาจทำงานดีขึ้นด้วยครับ  ตรงกันข้าม  หากเงินที่เพิ่มมาเกิดมาจากการต่อสู้เรียกร้อง  พนักงานจะไม่รู้สึกรักและจงรักภักดีต่อนายจ้างเลยแม้แต่น้อยครับ  เพราะเขามักคิดว่าเขาโดนเอาเปรียบ  การที่นายจ้างจ่ายเงินเพิ่มแค่เป็นสิ่งที่เขาควรได้อยู่แล้ว  ไม่ได้เป็นบุญคุณอะไร  และมักจะไม่คิดพัฒนาการทำงานให้ดีขึ้นเลย  ซ้ำร้ายบางคนยังพยายามเอาเปรียบนายจ้างมากขึ้นด้วยซ้ำไป

 

ตามประสบการณ์ของผม  เมื่อบริษัททดลองจ่ายเงินพิเศษเพิ่มให้พนักงานตามสมควร   พนักงานที่ไม่ได้เป็นสมาชิกสหภาพแรงงานมักจะทำงานดีขึ้น  จนน่าพอใจทีเดียว  แต่น่าแปลก   พอเราจ่ายเงินให้แก่พนักงานกลุ่มสหภาพที่ออกมาเรียกร้อง  เงินเพิ่ม  โบนัสเพิ่ม  คนเหล่านี้กลับไม่ได้ทำงานดีขึ้นเลยแม้แต่น้อย  ยังไงก็ยังงั้น  ดังนั้นตอนหลังๆ บริษัทผมนอกจากจะจ่ายเงินให้แก่พนักงานที่ทำผลงานดีแล้ว  ยังจ่ายพิเศษเล็กน้อยให้แก่พนักงานที่ทำตัวดีๆ  ไม่มีปัญหาอีกด้วย  ส่วนสหภาพหากมาเรียกร้องอะไรที่มันเกินไป  ...... หึหึ  เรียกร้องไปเถอะ  

 

กลับมาที่ค่าแรง 300  มันเป็นการเพิ่มเงินในลักษณะถูกบังคับ  แรงงานโดนเป่าหูให้อคติกับนายจ้าง  โดนเสี้ยมว่านายทุนเอาเปรียบกดค่าแรง  ดังนั้นเงินที่ได้เพิ่ม  เป็นผลมาจากรัฐบาลไม่ใช่นายจ้างเต็มใจขึ้นให้  ดังนั้นเค้าไม่รู้สึกรักนายจ้างรักบริษัทมากขึ้นหรอกครับ  ในบริษัทผมจากที่เคยถ้อยทีถ้อยอาศัยกันแบบพี่น้อง  ตอนนี้บรรยากาศเปลี่ยนไปเลยครับ  คนงานเล่นตัวมากขึ้นเรียกร้องมากขึ้น  บางคนทิ้งกันง่ายๆ เลยหากไม่ตอบสนองข้อเรียกร้อง  สหภาพเอาเปรียบเจ้านายก็ดูเหมือนมีเยอะขึ้นแปลกๆ ชอบกลด้วย  อีหรอบนี้ผมไม่เชื่อว่าคนงานพวกนี้จะทำงานดีขึ้นคุ้มกับค่าแรง 300  แน่ๆ

 

ปล. นายจ้างผมเขาอาจไม่ได้ใจดีเหมือนคุณคนกลาง  แต่ผมว่าเขาแฟร์และยุติธรรมพอควรนะ  เรื่องเอาเปรียบคนงานลืมไปได้เลย


คุณสมบัติที่สำคัญที่สุดของผู้ชนะสงคราม  คือ   ความแข็งแกร่ง และ อุดมการณ์ที่สอดคล้องกับความเป็นจริง

คุณธรรมที่พร้ำสอน  ล้วนเป็นสิ่งที่จำเป็นรองลงมา   ส่วน  ประชาธิปไตยน่ะรึ  เอาเข้าจริงๆ  สำคัญอันใด?? 

 


#22 ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

    หน้าตาดี มีอุดมการณ์

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 21,670 posts

Posted 6 January 2013 - 03:30

ก็ขอขอบคุณที่คุณจขกท.มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์กันนะครับ

 

ขอตอบตามเนื้อผ้าที่ให้มาเน้อ

 

 

1. ทำให้เราเข้ามาตรวจสอบเรื่องต้นทุนอย่างจริงจังกันมากขึ้น ก่อนหน้านี้ผมยอมรับว่า
เราปล่อยปละละเลยเรื่องต้นทุนและค่าใช้จ่ายมาก ใครจะใช้อะไร จะซื้ออะไร
ไม่ค่อยรับใบเสร็จ ทำบัญชีก็ทำแบบหละหลวม ขอไปที
ตอนนี้มันเหมือนบังคับให้เรา
ต้องทำงานอย่างเป็นระบบมากยิ่งขึ้น แน่นอนว่าเราอาจพบรอยโหว่บางจุดที่ใหญ่กว่า
เรื่องค่าแรง ก็ได้นะครับ

 

ไม่อยากเชื่อว่าคุณจขกท.จะเป็นเจ้าของกิจการนะครับ ถ้าเขียนแบบนี้ 

เพราะผมอยากถามว่าแล้ว "ใครจะใช้อะไร ซื้ออะไร ไม่ค่อยรับใบเสร็จ" คุณจะจ่ายเงินค่าของให้เขาได้ยังไงครับถ้าไม่มีใบเสร็จ?

บัญชีของคุณจะไม่ยอมจ่ายเงินออกเด็ดขาด เพราะสรรพากรไม่รับครับ

2. คนงานหรือพนักงานมีความภักดีกับบริษัทมากขึ้น
ก่อนหน้านี้ประมาณสัก 6 ถึง 8 เดือน หลายท่านที่เป็นผู้ประกอบการก็คงทราบดีครับว่า
พนักงานโดยเฉพาะระดับล่างนั้นหายากเพียงใด แต่ในปัจจุบันเมื่อใครได้งานแล้วมักไม่
ออกไปทำที่อื่นครับ เพราะถ้าออกไปก็แน่นอนว่ามีความเสี่ยงเรื่องการตกงานสูงมาก
ช่วง 6 ถึง 8 เืดือนที่ผ่านมาผมได้ลูกน้องประเภทเช้าชามเย็นชาม ทำงานไปเรื่อย ๆ
บอกให้ยกของหน่อยก็บ่น บอกให้ทำงานที่มีกลิ่นหน่อยก็บ่น แต่ปัจจุบันให้ทำอะไรเขา
ทำหมดครับ ขอเพียงอย่างเดียวอย่าให้เขาออก


เข้าใจผิดรึเปล่าครับ?

คุณเขียนบอกว่าที่เขาทำงานมาก ก็เพราะกลัวถูกออก แบบนี้ไม่ใช่จงรักภักดีนะครับคุณจขกท.

 

 

3. มีความใกล้ชิดกับพนักงานมากขึ้น
เมื่อนายจ้างมีความจำเป็นจะต้องตรวจสอบพนักงานอย่างใกล้ชิดเพื่อให้ได้งานที่คุ้มค่ากับต้นทุนที่ต้องเสียไป
แน่นอนครับพอใกล้ชิด ความเป็นพี่เป็นน้อง ความเป็นเพื่อนกัน ความรู้สึุกในการเป็นคนในครอบครัวมัน
เพิ่มขึ้นมา
จากเดิมที่นายจ้างอาจจะจ้างผู้จัดการแล้วให้ผู้จัดการคุม หรือหัวหน้างานคุม เราเข้ามาดูแล
อย่างใกล้ชิดมากขึ้น ไถ่ถามปัญหางานทำให้ทราบปัญหาของงานได้ดีขึ้น และสามารถแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด
ยิ่งขึ้น 

ค่าจ้างเพิ่งขึ้นมาได้ไม่ถึงสัปดาห์  แต่คุณจขกท.สรุปได้เลยว่าใกล้ชิดกันเป็นพี่เป็นน้องเลยหรือครับ?

โอว  เทพครับ  

เทพขิงๆ


gladiator 1.jpg

 

 

 

 

 

 


#23 mr.patton

mr.patton

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 579 posts

Posted 6 January 2013 - 03:39

 การขึ้นค่าเเรง ไม่ใชการช่วยประชาชนอย่างเเท้จริง การลดค่าครองชีพต่างหากคือการช่วยเหลือประชาชน ทำไมรัฐไม่ทำ ไม่ใช้เพราะรัฐทำไมได้เเต่ ที่ไม่ทำเพราะนายทุนผู้ผลิตของกินใช้ต่างๆเป็นผู้สนับสนุนรัฐบาล ค่าเเรง 300 บ. คือปัญหาที่รัฐบาลผลักภาระให้ภาคประชาชน เพราะภาครัฐเเกล้งทำเป็นไม่มีปัญญาลดค่าครองชีพ รัฐบาลวางเฉยต่อปัญหาของประชาชน โทษฟ้าโทษฝนโทษคนที่ไม่มีอำนาจบริหารประเทศ



#24 mr.patton

mr.patton

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 579 posts

Posted 6 January 2013 - 04:03

 การขึ้นค่าเเรง ไม่ใชการช่วยประชาชนอย่างเเท้จริง การลดค่าครองชีพต่างหากคือการช่วยเหลือประชาชน ทำไมรัฐไม่ทำ ไม่ใช้เพราะรัฐทำไมได้เเต่ ที่ไม่ทำเพราะนายทุนผู้ผลิตของกินใช้ต่างๆเป็นผู้สนับสนุนรัฐบาล ค่าเเรง 300 บ. คือปัญหาที่รัฐบาลผลักภาระให้ภาคประชาชน เพราะภาครัฐเเกล้งทำเป็นไม่มีปัญญาลดค่าครองชีพ รัฐบาลวางเฉยต่อปัญหาของประชาชน โทษฟ้าโทษฝนโทษคนที่ไม่มีอำนาจบริหารประเทศ

ทำไมสินค้าการเกษตรของเราถึงเเพง ทั้งๆที่ประเทศไทยเป็นผู้ผลิตสินค้าการเกษตรรายใหญ่ของโลก อย่างนำ้ตาลตอนราคาตกตำ่ ประเทศไทยที่เป็นประเทศผู้ผลิตนำ้ตาลเพื่อการบริโภคเป็นอันดับ1ของโลก เเต่คิดดูคนไทยกินใช้นำ้ตาล กก.ละ21.50-25 บาทต่อ กก.

10 ต.ค. 2012 ราคาน้ำตาลในตลาดโลกลดลงอยู่ที่ระดับ 20 เซนต์ต่อปอนด์ ...ประมาณ 2.2 ปอนด์ เท่ากับ 1 กิโลกรัม........... 100 เซ็น= 1ดอลล่าร์ซึ่ง เท่ากับ 30 บาท

ประเทศไทยที่เป็นประเทศผู้ผลิตสินค้าการเกษตรรายใหญ่ของโลก เเต่คนชาติไทย ในเมืองใหญ่ต้องไปรอเเย่งซื้อเศษเนื้อใกล้เน่าลดราคาตอนห้างปิด  อย่ามาบอกว่าเป็นเพราะนำ้มันนะคับ คุณไปซื้อเนื้อหมูจากจว.ที่ชาวบ้านเขาเลี้ยงหมูขายกันทั้งจว.คุณก็จะได้ราคาไม่เเตกต่างจากเมืองใหญ่นัก รัฐบาลไม่เคยมีนโยบายช่วยเหลือในการลดต้นทุนการผลิตหรือควบคุมสินค้าเลย ดังจะเห็นได้จากราคานำ้ตาล อะไรๆรัฐบาลก็ผลักภาระให้ภาคประชาชน ทำประชานิยมซื้อเสียงเเบบโง่ๆ คนที่เชียร์รัฐบาลก็หลับหูหลับตาเชียร์ ต้องให้คนรากหญ้าเขาทนไม่ไว้ออกมาจับคนในรัฐบาลพิพากษากันก่อนใช้ไหม เรื่องปากเรื่องท้องนี้ละที่ล้มทรราชมานักต่อนักเเล้ว  อยากเห็นสังคมไทยเป็นเเบบที่ต้องตัดสินกันด้วยความรุนเเรงใช้ไหม ที่ผ่านมาคนไทยยังเจ็บตายกันไม่พอกันใช้ไหม  



#25 IAMDA

IAMDA

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,073 posts

Posted 6 January 2013 - 08:40

ก็ขอขอบคุณที่คุณจขกท.มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์กันนะครับ

 

ขอตอบตามเนื้อผ้าที่ให้มาเน้อ

 

 

1. ทำให้เราเข้ามาตรวจสอบเรื่องต้นทุนอย่างจริงจังกันมากขึ้น ก่อนหน้านี้ผมยอมรับว่า
เราปล่อยปละละเลยเรื่องต้นทุนและค่าใช้จ่ายมาก ใครจะใช้อะไร จะซื้ออะไร
ไม่ค่อยรับใบเสร็จ ทำบัญชีก็ทำแบบหละหลวม ขอไปที
ตอนนี้มันเหมือนบังคับให้เรา
ต้องทำงานอย่างเป็นระบบมากยิ่งขึ้น แน่นอนว่าเราอาจพบรอยโหว่บางจุดที่ใหญ่กว่า
เรื่องค่าแรง ก็ได้นะครับ

 

ไม่อยากเชื่อว่าคุณจขกท.จะเป็นเจ้าของกิจการนะครับ ถ้าเขียนแบบนี้ 

เพราะผมอยากถามว่าแล้ว "ใครจะใช้อะไร ซื้ออะไร ไม่ค่อยรับใบเสร็จ" คุณจะจ่ายเงินค่าของให้เขาได้ยังไงครับถ้าไม่มีใบเสร็จ?

บัญชีของคุณจะไม่ยอมจ่ายเงินออกเด็ดขาด เพราะสรรพากรไม่รับครับ

2. คนงานหรือพนักงานมีความภักดีกับบริษัทมากขึ้น
ก่อนหน้านี้ประมาณสัก 6 ถึง 8 เดือน หลายท่านที่เป็นผู้ประกอบการก็คงทราบดีครับว่า
พนักงานโดยเฉพาะระดับล่างนั้นหายากเพียงใด แต่ในปัจจุบันเมื่อใครได้งานแล้วมักไม่
ออกไปทำที่อื่นครับ เพราะถ้าออกไปก็แน่นอนว่ามีความเสี่ยงเรื่องการตกงานสูงมาก
ช่วง 6 ถึง 8 เืดือนที่ผ่านมาผมได้ลูกน้องประเภทเช้าชามเย็นชาม ทำงานไปเรื่อย ๆ
บอกให้ยกของหน่อยก็บ่น บอกให้ทำงานที่มีกลิ่นหน่อยก็บ่น แต่ปัจจุบันให้ทำอะไรเขา
ทำหมดครับ ขอเพียงอย่างเดียวอย่าให้เขาออก


เข้าใจผิดรึเปล่าครับ?

คุณเขียนบอกว่าที่เขาทำงานมาก ก็เพราะกลัวถูกออก แบบนี้ไม่ใช่จงรักภักดีนะครับคุณจขกท.

 

 

3. มีความใกล้ชิดกับพนักงานมากขึ้น
เมื่อนายจ้างมีความจำเป็นจะต้องตรวจสอบพนักงานอย่างใกล้ชิดเพื่อให้ได้งานที่คุ้มค่ากับต้นทุนที่ต้องเสียไป
แน่นอนครับพอใกล้ชิด ความเป็นพี่เป็นน้อง ความเป็นเพื่อนกัน ความรู้สึุกในการเป็นคนในครอบครัวมัน
เพิ่มขึ้นมา
จากเดิมที่นายจ้างอาจจะจ้างผู้จัดการแล้วให้ผู้จัดการคุม หรือหัวหน้างานคุม เราเข้ามาดูแล
อย่างใกล้ชิดมากขึ้น ไถ่ถามปัญหางานทำให้ทราบปัญหาของงานได้ดีขึ้น และสามารถแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด
ยิ่งขึ้น 

ค่าจ้างเพิ่งขึ้นมาได้ไม่ถึงสัปดาห์  แต่คุณจขกท.สรุปได้เลยว่าใกล้ชิดกันเป็นพี่เป็นน้องเลยหรือครับ?

โอว  เทพครับ  

เทพขิงๆ

ขอเสริมคุณผึ้งน้อยสักหน่อย  ด้วยความคันมือ ผมไม่ใช่เจ้าของกิจการ แต่เป็นคนกลางระหว่างเจ้าของกิจการกับลูกจ้าง 

การขึ้นค่าแรง 300 ที่ผ่านมาตั้งแต่เดือน เมษายน สำหรับ  7 จังหวัดนำร่อง ส่งผลกระทบให้กับทางบริษัทที่ผมดูอยู่ เพราะงานส่วนใหญ่ต้องใช้แรงงาน  เรารับ order จากลูกค้าต่างประเทศซึ่งส่วนใหญ่จะต้องการซื้อของในราคาถูกเหมาะกับ Budget ที่เขามี  ค่าแรงเป็นต้นทุนส่วนหนึงเวลาคิดราคาขายสินค้า  จากเดิม 2 ร้อยกว่าบาท ขึ้นมาเป็น 300 หรือประมาณ 2 USD ทำให้ราคาขายที่เราเสนอลูกค้าต้องสูงขึ้นอย่างมาก ตอนนี้คำสั่งซื้อลดลง โรงงานต้องปรับตัวโดยการลดค่าใช้จ่ายทุกอย่าง เริ่มจาก ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอุปกรณ์เครื่องเขียน  ลด OT พนักงาน

ลูกจ้างส่วนใหญ่อยู่ได้เพราะ OT จากเดิมได้ค่าแรง + OT รวมแล้วอยู่ที่ 350 บาทต่อวัน + ค่าฝีมือ แล้วแต่แผนก + ค่าอาหาร 

แต่พอค่าแรง 300 บาท บริษัทตัดสวัสดิการ ที้งหมด เหลือแค่  300   บาท ถ้วนๆ  ถ้างานด่วน จำเป็นต้องมี OT ก็จะเลือกเฉพาะส่วนที่จำเป็นไว้ 

หลังเดือนเมษาเราเอาพนักงานออกไปแล้วรอบนึง  เพราะจำนวนคนเยอะกว่างาน เจ้าของไม่อยากแบกรับค่าใช้จ่าย เกินความจำเป็น 

เด็กบางคนถามว่าบริษัทจะปิดไหม   ผมได้แต่บอกไปว่า ปิดคงไม่ปิดหรอก แต่เราจะต้องช่วยเจ้านายประหยัดเพื่อให้โรงงานอยู่รอด 

แต่เด็กบางคนก็จะชอบบอกว่าเค้าไม่ขาดทุนหรอก เห็นเพิ่งออกรถใหม่ป้ายแดงราคาเป็นล้าน  

ผมต้องรีบชี้แจงทันทีว่า เจ้ายนายไม่ได้ทำโรงงานนี้โรงงานเดียว เขามีธุรกิจหลายอย่าง ในทางบัญชีบริษัทในเครือแต่ล่ะบริษัทจะแยกค่าใช้จ่ายกันชัดเจน แล้วรถที่เจ้าของกิจการซื้อส่วนใหญ่ก็ใช้เงินบริษัทซื้อ เพราะถือเป็นค่าใช้จ่ายทางบัญชี เอาไว้ไปหักเป็นค่าใช้จ่ายตอนสรุปผลประกอบการณ์ และที่สำคัญ เขาประกอบธุรกิจเขาต้องหวังผลกำไร และความคุ้มค่าในการลงทุน เขาไม่ได้เปิดโรงทาน นะจะได้ไม่มองเรื่องกำไรขาดทุน

 

ยากฝากข้อเตือนใจให้พวกลูกจ้าง   บริษัทนะไม่ใช่โรงทาน  ถ้าขาดทุนหรือกำไรน้อย  เขาจำทำไปทำไม สู้นอนเฉยๆ หรือนั่งเล่นหุ้นสบายกว่านี้อีก 

ส่วนรัฐบาล   เตรียมตัวรับกรรมที่ทำไว้ อีกไม่นานหรอก เดี๋ยวพวกแรงงานคงวิ่งไปหา  ส่วนตัวผมจากที่เคยเสียภาษีมากพอควร เพราะมีลดหย่อนค่าดอกเบี้ยบ้าน ปีนี้ ผมก็ทำทุกทางเพื่อจะดึงภาษีตัวเองกลับมาให้ได้มากที่สุด  ทนไม่ไหวที่ให้ใครก็ไม่รู้เอาเงินภาษีเราไปทำเรื่องโง่ๆ



#26 Thai4u

Thai4u

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,398 posts

Posted 6 January 2013 - 10:48

อยากทราบจังว่ากิจการของคนกลางมีพนักงานกี่คน เป็นกิจการระดับไหน สายป่านยาวแค่ไหน

ถึงบอกว่าให้มองถึงผลดี โดยที่ยอมเสียสละได้ขนาดนี้

 

สำหรับกิจการบริษัทใหญ่โต คงมีผลกระทบน้อยเพราะค่าแรงส่วนใหญ่เกินวันละ 300 บาทไปแล้ว

แต่ที่จะตายคือระดับเล็ก ถึงระดับกลางเพราะค่าแรงมันขึ้นแบบไม่เป็นไปตามกลไกการตลาด

อย่างที่ สรท บางท่านได้พูดไว้แล้ว อันนั้นคือรูปธรรมที่เป็นจริงต่างหาก  

 

ก็ขอให้คนที่เชียร์ๆ ค่าแรง 300 บาทว่าจะเป็นผลดีกับลูกจ้างและผู้ใช้แรงงานนะ เอาใจช่วยขอให้กินดีอยู่ดีมีความสุข

ให้ประเทศมีเสถียรภาพ อย่าให้ประเทศเสียโอกาสในการพัฒนา และระบบต่างๆอย่าให้โดนทำลายนะฮะ


คุณต้องลงมือ จึงจะเห็นการเปลี่ยนแปลง "คานธี"

 

กฏของเสียงข้างมาก จะใช้กับเรื่องของมโนธรรมไม่ได้ "คานธี"

 


#27 คุณนายนอกบ้าน

คุณนายนอกบ้าน

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,281 posts

Posted 6 January 2013 - 10:57

 ค่าเเรง 300

 

ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเท่าเทียมกันมากขึ้นในสังคม ^^

 

เพิ่งรู้นะเนี่ย เรามีความเท่าเทียมกันมากขึ้นแล้ว 55555

 

ปีใหม่ไปกินบุฟเฟ่ต์ 1500++ (ราคากลาง ๆ แบบคนมีเงินเดือนก็กินได้ ถ้าเศรษฐี หัวละหลายหมื่่น  มหาเศรษฐีหัวละหลายแสน)

 

ป้าจินต้องรับจ้าง post กระทู้ตั้ง 5 วันเชียวนะ แต่รากหญ้าของป้าแบกปูน 5 วันเลย



#28 plunk

plunk

    สลิปงินเดือนอยู่ไหนอ่ะ ไอ้คางครูด?

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,862 posts

Posted 6 January 2013 - 11:01

ผมว่าก้ดีนะ ค่าแรง 300 บาท เพราะทำให้ พนักงานขี้เกียจ และ ห่วย โดนไล่ออกก่อนแน่นอน จึงทำให้พนักงานกันเอง เกิดแรงกระตุ้นในการแข่งขันในการทำงาน


Edited by plunk, 6 January 2013 - 11:02.

ทำได้ทันที ไม่ต้องกู้ พรรคไหนเห่าไว้ตอนหาเสียงวะ?และกระทู้ในตำนานของ คนขี้โกหก http://webboard.seri...้สลิปเงินเดือน/

#29 สายน้ำเชี่ยว

สายน้ำเชี่ยว

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 378 posts

Posted 6 January 2013 - 12:00

ก่อนอื่นต้องขอเกริ่นก่อนนะครับ ผมเองก็เป็นคนทำธุรกิจส่วนตัวเช่นกัน

ตอนแรกไม่ค่อยชอบเรื่องนี้สักเท่าไร เพราะค่าแรงขึ้นแบบกระชากมาก

แต่ในทุกวิกฤตย่อมมีโอกาสเสมอ สำหรับข้อเสียสำหรับหลายท่านที่เป็นเจ้าของกิจการ

ก็คงอาจจะพอรับรู้กันบ้าง ผมเลยขออนุญาตให้อีกมุมมองอีกมุมมองหนึ่ง

ซึ่งเป็นข้อดีที่ได้รับจากการขึ้นค่าแรง 300 บาทนะครับ ซึ่งผมคนกลางเอง

ได้สัมผัสเข้ากับตัวเอง

1. ทำให้เราเข้ามาตรวจสอบเรื่องต้นทุนอย่างจริงจังกันมากขึ้น ก่อนหน้านี้ผมยอมรับว่า
เราปล่อยปละละเลยเรื่องต้นทุนและค่าใช้จ่ายมาก ใครจะใช้อะไร จะซื้ออะไร
ไม่ค่อยรับใบเสร็จ ทำบัญชีก็ทำแบบหละหลวม ขอไปที ตอนนี้มันเหมือนบังคับให้เรา
ต้องทำงานอย่างเป็นระบบมากยิ่งขึ้น แน่นอนว่าเราอาจพบรอยโหว่บางจุดที่ใหญ่กว่า
เรื่องค่าแรง ก็ได้นะครับ

2. คนงานหรือพนักงานมีความภักดีกับบริษัทมากขึ้น
ก่อนหน้านี้ประมาณสัก 6 ถึง 8 เดือน หลายท่านที่เป็นผู้ประกอบการก็คงทราบดีครับว่า
พนักงานโดยเฉพาะระดับล่างนั้นหายากเพียงใด แต่ในปัจจุบันเมื่อใครได้งานแล้วมักไม่
ออกไปทำที่อื่นครับ เพราะถ้าออกไปก็แน่นอนว่ามีความเสี่ยงเรื่องการตกงานสูงมาก
ช่วง 6 ถึง 8 เืดือนที่ผ่านมาผมได้ลูกน้องประเภทเช้าชามเย็นชาม ทำงานไปเรื่อย ๆ
บอกให้ยกของหน่อยก็บ่น บอกให้ทำงานที่มีกลิ่นหน่อยก็บ่น แต่ปัจจุบันให้ทำอะไรเขา
ทำหมดครับ ขอเพียงอย่างเดียวอย่าให้เขาออก

3. มีความใกล้ชิดกับพนักงานมากขึ้น
เมื่อนายจ้างมีความจำเป็นจะต้องตรวจสอบพนักงานอย่างใกล้ชิดเพื่อให้ได้งานที่คุ้มค่ากับต้นทุนที่ต้องเสียไป
แน่นอนครับพอใกล้ชิด ความเป็นพี่เป็นน้อง ความเป็นเพื่อนกัน ความรู้สึุกในการเป็นคนในครอบครัวมัน
เพิ่มขึ้นมา จากเดิมที่นายจ้างอาจจะจ้างผู้จัดการแล้วให้ผู้จัดการคุม หรือหัวหน้างานคุม เราเข้ามาดูแล
อย่างใกล้ชิดมากขึ้น ไถ่ถามปัญหางานทำให้ทราบปัญหาของงานได้ดีขึ้น และสามารถแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด
ยิ่งขึ้น ดีกว่าจ้างแล้วก็ปล่อยให้พนักงานทำแบบตามมีตามเกิด ถ้าสมมติเราจ้างหัวหน้างานที่มีความเป็นผู้นำ
ก็ดีไป แต่ถ้าไปจ้างหัวหน้างานประเภทวางกล้าม หรือ เอาเปรียบลูกน้อง เอาผลงานตัวเองเป็นหลัก
แบบนั้นอาจเกิดปัญหาลาออกทั้งกะเบอะได้นะครับ

สรุปนะครับ : ทุกปัญหามีทางแก้ผมเองก็อาจจะนโยบายนี้เท่าไร แต่วันนี้สิ่งที่เกิดขึ้นมันมีทั้งดีทั้งเสียในตัวของมัน
สรุปคือคุณจะไม่รู้ว่าคุณได้อะไร เมื่อคุณไม่ยอมที่จะเสียสิ่งหนึ่งไป

ขอบคุณครับ

 

 

อืม... ที่พูดมาผมก็ว่าไม่ผิดนะ เพียงแต่ต้องดูว่าข้อดีจะได้คุ้มข้อเสียด้วยหรือไม่

 

เพราะถ้าผมบอกว่างั้นขึ้นค่าแรงเป็น 400 ล่ะ หรือ 500 ล่ะ ข้อดีที่คุณคนกลางยกมา มันก็ยังใช้ได้อยู่ใช่มั๊ย

 

ถ้าคุณบอกว่า โอ้ยไม่ไหว 400, 500 มันเกินไป แล้วคุณเอาอะไรมาบอกว่า 300 ไม่เกินไป แล้วตัวเลขที่ควรจะเป็นมันอยู่ที่ตรงไหน ทำไมอยู่ดีๆตั้งขึ้นมา 300 มีการวิจัยมาแล้วหรืออย่างไร ว่า 300 เจ้าของกิจการส่วนใหญ่อยู่ได้แน่นอน หรืออย่างไร

 

แล้วทำไมถึงเป็น 300 เท่ากันทั้งประเทศ โอเค เข้า big c  โลตัส ของราคาเดียวกันทั้งประเทศ แต่ของในตลาดสด ไม่เท่ากัน ค่าเดินทางก็ไม่เท่ากัน ค่าเ่ช่าบ้านไม่เท่ากัน และ ต้นทุนของผู้ประกอบการไม่เท่ากัน บางจังหวัดอยู่ใกล้ท่าเรือ ค่าขนส่งก็น้อย ที่อยู่ไกลค่าขนส่งก็มาก ถ้าค่าแรงเท่ากัน เค้าก็เลือกทำเลที่ต้นทุนด้านอื่นๆถูกกว่าซิ



#30 Lucy Van Pelt

Lucy Van Pelt

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 525 posts

Posted 7 January 2013 - 01:21

ผมยังไม่เชื่อจนกว่าจะเห็นตัวเลขทางบัญชี

เพราะตั้งแต่ทำงานมา ยังไม่เคยพบว่ามันจะง่ายขนาดนั้น คือฟังแล้วดูดีนะครับ แต่ในที่สุด ก็ต้องมานั่งวางแผนระยะยาว 3 เดือน 6 เดือน หรือ 1 ปี

 

ถ้าคุณเป็นเจ้าของกิจการจริงๆ ลองบอกตัวเลขให้ฟังคร่าวๆก็ได้ครับ ถ้าเป็นไปได้



#31 เมาอยู่

เมาอยู่

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,182 posts

Posted 7 January 2013 - 01:37

ถ้าคิดบวกมันก็จะได้แบบนั้น มันทำไงได้

ไฟไหม้ป่ายังมีข้อดีเลย คือทำให้พืชพรรณน้อยใหญ่ ได้มีโอกาสรับแสง กำจัดวัชพืช ศัตรูพืช

แต่ถึงอย่างงั้น มันก็ไม่ใครอุตริ ไปเผาป่าด้วยเหตุผลนั้น

 

การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ เขาก็มีคณะกรรมการ มีกระบวนการในการขึ้นอยู่แล้ว

จะบอกว่ามีข้อเสียเยอะ ขยับพุ่งพรวดแบบนี้สิดีกว่า งั้นก็พิสูจน์เลย

ยุบไปเลยคณะกรรมการเหล่านั้น แล้วหลังจากนี้ ก็ใช้วิธีขยับพรวดๆ กันแบบนี้แหล่ะ

 

แต่ถ้ารัฐบาลมีวิธีคิดอะไรที่มันสวนทางกะความเจริญแบบนี้

ผมว่าประเทศนี้วังเวง...



#32 Lucy Van Pelt

Lucy Van Pelt

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 525 posts

Posted 7 January 2013 - 01:42

ลืมถามว่าตกลงคุณเฮ็นไตจะไม่แย้มให้เพื่อนๆรู้หน่อยเหรอครับว่าทำงานอะไร? เห็นคุณผึ้งฯถามไว้หลายวันแล้ว เผื่อจะได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านอื่นที่ไม่ใช่การเมืองบ้าง



#33 serialnu

serialnu

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 772 posts

Posted 7 January 2013 - 01:48

ถ้าคิดในแง่บวกแบบคุณ โรงงานแถวบ้านผมคงไม่ลอยแพพนักงานเกือบ 200 ชีวิตหลอกครับทั้งๆที่สระบุรีเองค่าครองชีพก็สูงติดอันดับ 1 ใน 10ของประเทศ ปรับ 300 เจอลอยแพเลย    แล้วพวกจังหวัดที่ค่าครองชีพกลางๆต่ำๆละ

 

คนกลางครับ ผมขอให้กลางจริงๆพอ  ผมไม่ชอบพวกมองคนอื่นโง่นะครับ  ขอโทษที่ผมพูดตรงๆ  แต่ผมเห็นในบอร์ดเรา  พยายามหลอกตัวเอง พวกนี้น่ากลัวนะครับ เพราะถ้าเป็นคน จะมีความคิดๆได้ว่าอะไรเป็นภัยต่อตัวเอง  แต่คนพวกนี้จะตายห่านยังมาหลอกตัวเองว่าไม่ตายๆ   ผมถือว่ามันไม่ใช่คนฮ่ะ



#34 เมาอยู่

เมาอยู่

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,182 posts

Posted 7 January 2013 - 01:56

ผมเชื่อว่า นโยบายนี้... จะเปลี่ยนประเทศ อย่างเป็น รูปธรรม...   

ผมไม่เชื่อว่า จะมี พรรคไหน เอา นโยบายนี้ออก...     เหมือน 30 บาท....    โจมตีว่ามี ปัญหาสารพัด...   พอตอนนี้... เป็นเรื่องปกติไปแล้ว... 

 

ความเฉื่อยเป็นอุปสรรคต่อการเปลี่ยนแปลง...   :D

และความเร็ว เป็นต้นตอของอุบัติเหตุ ที่นำไปสู่ความเปลี่ยนแปลง ได้เช่นกัน



#35 idolation

idolation

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,996 posts

Posted 7 January 2013 - 09:25

ผมเชื่อว่า นโยบายนี้... จะเปลี่ยนประเทศ อย่างเป็น รูปธรรม...   
ผมไม่เชื่อว่า จะมี พรรคไหน เอา นโยบายนี้ออก...     เหมือน 30 บาท....    โจมตีว่ามี ปัญหาสารพัด...   พอตอนนี้... เป็นเรื่องปกติไปแล้ว... 
 
ความเฉื่อยเป็นอุปสรรคต่อการเปลี่ยนแปลง...   :D

นึกว่าเห็นตายเสียชีวิตแล้วซะอีก ไม่เห็นกลับไปตอบกระทู้ค่าแรงอันเก่าเลย

มาตอบอันใหม่ซะแล้ว
รักในหลวง ห่วงลูกหลาน ร่วมกันต้าน ตระกูลชินวัตร

#36 ปังตอ

ปังตอ

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,229 posts

Posted 7 January 2013 - 11:15

^_^ ...รปภ.ที่หอหายไปเกือบครึ่ง...(หอเยอะ) ลานจอดรถ จอดจักรยานยนต์  รปภ..ก้อหายไปเกือบครึ่ง

 

เห็นติดประกาศบอกบุคลากรที่เช่าหอไว้ว่า...จากการขึ้นเงินค่าแรง จำต้องลดพนักงานลง....แหะๆ

 

ไม่รู้เป็นเพราะผลกระทบหรือเปล่า...แต่โรงงานเซรามิกแถวบ้านก้อประกาศติดไว้ว่า...ไม่สามารถขึ้นเงินค่าแรงให้ได้

 

ใครที่ไม่ยอมรับก้อลาออกได้...แต่ไม่มีใครลาออกสักคน ยังรับค่าแรงเดิมอยู่.... -_-


ลูกหลานที่รัก จงจำปฏิปทานี้ไว้ “ถ้ามีความจำเป็นเราต้องเสียสละเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และปวงชนชาวไทย แม้แต่ชีวิตก็ต้องยอม”

 


#37 nunoi

nunoi

    เด็กข้างถนน

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,745 posts

Posted 7 January 2013 - 11:30

 ค่าเเรง 300

 

ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเท่าเทียมกันมากขึ้นในสังคม ^^

 

 

อย่างไรครับ  


กฎหมายมันก็แค่สิงที่สร้างมาอย่างมีเป้าหมาย แต่หาก เอาแต่บอกว่ากฎหมายเป็นแบบนี้ แบบนั้น โดยไม่สนใจว่าเป้าหมายจริงๆ นันคืออะไร ก็คงไม่ใช่ 

 

 


#38 serialnu

serialnu

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 772 posts

Posted 7 January 2013 - 11:37

มันจะลดความเหลื่อมล้ำได้งัยฮ่ะ เพราะตกงานกันเยอะเหลอ  หรือเพราะคนไม่มีงานทำไปเป็นโจรโขมยรถ  ปล้นตามมุมตึกเหลอ  ปรับแบบขั้นบันไดก็ดีอยู่แล้ว นี่อยากกระโดดข้ามบันได มันก็มีแต่หัวฟาดน๊อคพื้นเท่านั้น



#39 MMMP

MMMP

    ราชาโพย

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,874 posts

Posted 7 January 2013 - 12:02

ข้อแรก ก็น่าจะพากิจการเจ๊งไปนานจนไม่น่าจะอยู่มาได้จนปรับ 300 ละครับ
ข้อสอง ความภักดี นั้นผมบอกตรงๆ บ้างครั้งเงินไม่ใช่ปัจจัยหลักในการทำงานครับ
ที่คนลาออก มาจากหลายๆเหตุผลรวมกัน เงินก้คือหนึ่งในนั้นก็จริง
แต่ถ้ามองกันในแง่รวม การเดือนทาง การย้ายที่อยู่ การได้งานที่ดีกว่า มีความก้าวหน้ามากกว่า
ถ้ามีงานสองที่ ที่แรกให้เงินน้อยกว่า แต่เดินไปทำงานได้ กับอีกทีเงินเยอะกว่า แต่เสียเวลาเดินทาง
จะเลือกทำที่ไหนครับ ยิ่งถ้าที่ใกล้มันมาเปิดรับคนที่หลัง พอมันเปิดไปสมัครแล้วเค้าดันรับ จะออกจากที่เก่าไหมครับ
ส่วนข้อสาม การทำงานแบบระบบครอบครัวที่กล่าวมานั้น พาล่มจ่มครับ

ผมยืนยัน เพราะคำว่ากันเอง ถ้ามีในระบบการทำงานระหว่างเจ้านายลูกน้องเมื่อไร ความลำเอียง จะตามมา
คนที่เป็นหัวหน้าที่ดี คือรับผิดชอบตามคำสั่งได้ แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ สร้างความกลมเกลียวในหมู่พนักงานได้
แต่ไม่ใช่ลงไป อยู่ในกลุ่มนั้นด้วย คำว่าอยู่แบบพี่น้อง ที่ผมรู้จักมา คือการอยู่แบบเคารพกันและกันครับ ไม่ใช่ กันเอง
อีกอย่างนึง ถ้าคุณจ้างคนวางกล้ามมา เอาผลงานเอาหน้า โดยที่คุณไม่รู้ ก็แปลว่าคุณปล่อยปละละเลยกิจการของคุณอยู่แล้ว
ก็บอกได้คำเดี่ยว ยังมองไม่เห้นข้อดี ของการปรับ แบบฮวบๆ ครั้งนี้
ถ้าอยากให้ ลูกจ้างได้เงินเยอะขึ้น จากความขยันจริงๆ ไม่ใช่ได้เยอะขึ้นจากการ ทำงานเท่าเดิม
ทำไม ไม่ปรับ ot แทน แบบนี้บริษัทไม่ล้มด้วย 


นักการเมืองยื่นปลา พระราชายื่นเบ็ด นักการเมืองแจกแท็บเบล็ต กษัตริย์แนะเคล็ดวิชานักการเมืองห่วงอำนาจ มหาราชห่วงประชา นักการเมืองสร้างสัญญา องค์เจ้าฟ้าสร้างสรรค์ธรรมนักการเมืองหาเรื่องกิน องค์ภูมินทร์หาเรื่องทำ นักการเมืองยุให้รำฯ ในหลวงย้ำให้ทำดี

#40 คนกลาง

คนกลาง

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 65 posts

Posted 7 January 2013 - 12:55

ถ้าสมัยหน้ารัฐบาล ปชป เกทับ 350 ถึง 400 แต่ละท่านจะว่าไงกันบ้างครับเนี่ย :rolleyes:



#41 MMMP

MMMP

    ราชาโพย

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,874 posts

Posted 7 January 2013 - 13:12

ถ้าสมัยหน้ารัฐบาล ปชป เกทับ 350 ถึง 400 แต่ละท่านจะว่าไงกันบ้างครับเนี่ย :rolleyes:

 

ผมเชื่อว่า นโยบายนี้ มีแน่ครับ
แต่ทำภายใน ระยะยาว
ไม่ใช่ทำทันที แต่รอปีหน้า
และ 350 400 ที่ว่า ก้คงไม่มีเครื่องหมายดอกจัน
และ ไม่ใช่วิธี ทำงานเท่าเดิม ได้เงินเพิ่มขึ้น
เพื่อส่งเสริมให้คนไทยขี้เกียจหรอกครับ


นักการเมืองยื่นปลา พระราชายื่นเบ็ด นักการเมืองแจกแท็บเบล็ต กษัตริย์แนะเคล็ดวิชานักการเมืองห่วงอำนาจ มหาราชห่วงประชา นักการเมืองสร้างสัญญา องค์เจ้าฟ้าสร้างสรรค์ธรรมนักการเมืองหาเรื่องกิน องค์ภูมินทร์หาเรื่องทำ นักการเมืองยุให้รำฯ ในหลวงย้ำให้ทำดี

#42 korkang

korkang

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,879 posts

Posted 7 January 2013 - 13:35

 ค่าเเรง 300

 

ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเท่าเทียมกันมากขึ้นในสังคม ^^

 

 

อย่างไรครับ  

หล่อนคงคิดว่า ต่างจังหวัดควรจะได้ ค่าแรงเท่ากับกรุงเทพน่ะ ถึงจะเท่าเทียมกัน



#43 annykun

annykun

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,567 posts

Posted 7 January 2013 - 13:51

ถ้าสมัยหน้ารัฐบาล ปชป เกทับ 350 ถึง 400 แต่ละท่านจะว่าไงกันบ้างครับเนี่ย :rolleyes:

 

หากนโยบายมันไม่เข้าท่า  ผมก็ด่าหมดล่ะครับ  หากเศรษฐกิจเฟื่องฟู  แล้วผมไม่ได้เดือดร้อนอะไร  ค่าแรง 500  บาท  ก็เอาไปเถอะ

แต่ตอนนี้มันไม่ใช่  คนงานสบายแต่นายจ้างเดือดร้อนแสนสาหัส  ปชป.  เกทับแบบนั้นอีก  คงได้ NO vote กันจริงๆล่ะ  


คุณสมบัติที่สำคัญที่สุดของผู้ชนะสงคราม  คือ   ความแข็งแกร่ง และ อุดมการณ์ที่สอดคล้องกับความเป็นจริง

คุณธรรมที่พร้ำสอน  ล้วนเป็นสิ่งที่จำเป็นรองลงมา   ส่วน  ประชาธิปไตยน่ะรึ  เอาเข้าจริงๆ  สำคัญอันใด?? 

 


#44 Lucy Van Pelt

Lucy Van Pelt

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 525 posts

Posted 8 January 2013 - 00:24

ถ้าออกมาเกทับเป็น 400 บาทคงเจอด่าเละเหมือนกันครับ จริงๆประชาธิปัตย์เคยทำอะไรไม่เข้าท่าแบบนี้ในการเลือกตั้งที่ตอนนั้นบัญญัติได้เห็นหัวหน้าพรรค เพราะลอกไทยรักไทยมาแบบไม่เข้่าท่า ป้ายหาเสียงก็ทำออกมาไม่ได้เรื่อง ทำให้พรรคแพ้แบบหลุดลุ่ย อภิสิทธิ์ถึงได้เป็นหัวหน้าพรรคแทน

 

แล้วคุณคนกลางสรุปได้หรือยังครับว่าแผนการรับมือของกิจการของคุณในปีนี้จะทำอะไรกันบ้าง? เผื่อมีไอเดียดีๆจะขอยืมไปใช้หน่อย



#45 novem

novem

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 125 posts

Posted 8 January 2013 - 00:50

มันอยู่กับว่า จะผ่านปัญหาที่ติดตามมาอื่นๆได้กันอย่างไร และพอผ่านมันไปได้ค่อยมาดูกันอีกทีว่าที่ได้มันคุ้มเสียไหม

#46 ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

    หน้าตาดี มีอุดมการณ์

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 21,670 posts

Posted 8 January 2013 - 12:45

ถ้าคิดในแง่บวกแบบคุณ โรงงานแถวบ้านผมคงไม่ลอยแพพนักงานเกือบ 200 ชีวิตหลอกครับทั้งๆที่สระบุรีเองค่าครองชีพก็สูงติดอันดับ 1 ใน 10ของประเทศ ปรับ 300 เจอลอยแพเลย    แล้วพวกจังหวัดที่ค่าครองชีพกลางๆต่ำๆละ

 

คนกลางครับ ผมขอให้กลางจริงๆพอ  ผมไม่ชอบพวกมองคนอื่นโง่นะครับ  ขอโทษที่ผมพูดตรงๆ  แต่ผมเห็นในบอร์ดเรา  พยายามหลอกตัวเอง พวกนี้น่ากลัวนะครับ เพราะถ้าเป็นคน จะมีความคิดๆได้ว่าอะไรเป็นภัยต่อตัวเอง  แต่คนพวกนี้จะตายห่านยังมาหลอกตัวเองว่าไม่ตายๆ   ผมถือว่ามันไม่ใช่คนฮ่ะ

like ไง้ไง้ไง้.jpg
 
 
มาทำตัวโตๆให้นะครับ  จะได้เห็นกันชัดทั้งบอร์ด

 

 

ลืมถามว่า

ตกลงคุณเฮ็นไตจะไม่แย้มให้เพื่อนๆรู้หน่อยเหรอครับว่าทำงานอะไร?

เห็นคุณผึ้งฯถามไว้หลายวันแล้ว

เผื่อจะได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านอื่นที่ไม่ใช่การเมืองบ้าง

 


gladiator 1.jpg

 

 

 

 

 

 


#47 sanskrit_shower

sanskrit_shower

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,741 posts

Posted 8 January 2013 - 13:21

ถ้าคิดในแง่บวกแบบคุณ โรงงานแถวบ้านผมคงไม่ลอยแพพนักงานเกือบ 200 ชีวิตหลอกครับทั้งๆที่สระบุรีเองค่าครองชีพก็สูงติดอันดับ 1 ใน 10ของประเทศ ปรับ 300 เจอลอยแพเลย    แล้วพวกจังหวัดที่ค่าครองชีพกลางๆต่ำๆละ

 

คนกลางครับ ผมขอให้กลางจริงๆพอ  ผมไม่ชอบพวกมองคนอื่นโง่นะครับ  ขอโทษที่ผมพูดตรงๆ  แต่ผมเห็นในบอร์ดเรา  พยายามหลอกตัวเอง พวกนี้น่ากลัวนะครับ เพราะถ้าเป็นคน จะมีความคิดๆได้ว่าอะไรเป็นภัยต่อตัวเอง  แต่คนพวกนี้จะตายห่านยังมาหลอกตัวเองว่าไม่ตายๆ   ผมถือว่ามันไม่ใช่คนฮ่ะ

 
 
 
มาทำตัวโตๆให้นะครับ  จะได้เห็นกันชัดทั้งบอร์ด

 

 

ลืมถามว่า

ตกลงคุณเฮ็นไตจะไม่แย้มให้เพื่อนๆรู้หน่อยเหรอครับว่าทำงานอะไร?

เห็นคุณผึ้งฯถามไว้หลายวันแล้ว

เผื่อจะได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านอื่นที่ไม่ใช่การเมืองบ้าง

 

 

 

เฮนไตเคยถามว่า   บอกไปจะเชื่อเค้าหรือ



#48 ryukendo

ryukendo

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,383 posts

Posted 8 January 2013 - 16:21

 ค่าเเรง วันละ 300 บาท

 

จินนี่เชื่อว่า เจ้าของกิจการชาวเสื้อเเดงผู้รักเพื่อนร่วมชาติมากม๊ายย มากมายยย

 

พร้อมที่จะเสียสละได้ค่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:

 

ดูจากนายใหญ่ก็รู้แล้วครับว่าพวกเค้ามาเพื่อเสียสละกันจริงๆ .............เสียสละชาติเพื่อชีพ :lol: :lol: :lol:


บ้านเมืองไม่ใช่ของเล่นที่จะทำพังแล้วร้องไห้ขออันใหม่




0 user(s) are reading this topic

0 members, 0 guests, 0 anonymous users