405 ความเห็นในกระทู้นี้

[ตำรวจบ้าน]

[ตำรวจบ้าน]

[HiddenMan]

ควายบ้านถึงกับทนไม่ไหวต้องดิ้นพล่านขนาดนี้...

[juemmy]

213961.jpg

เฮ้อ คุณตร.บ้าน นี่มันด่ารัฐบาลชัดๆ

ประกาศแล้วยกเลิก

กลับไปเลียน้ำลายตัวเองแผล่บๆ

[juemmy]

1371875755-o.jpg

เปลี่ยนเป็นหน้าไอแม้วกะอิปู ก็ใช้ได้เลยนะคะ

[Super@2]

213961.jpg

 

รัฐกลืนน้ำลายเปิดรับจำนำข้าว

7 ก.ค. 52 10.05 น.  | เปิดอ่าน 7 | ความคิดเห็น 0

เพิ่มขนาด fontลดขนาด fontพิมพ์หน้านี้

พิลึกกำหนดราคาต่ำกว่าตลาดกลัวเจ๊งพ่อค้าอัดยับฉุดถอยหลังพังทั้งระบบ รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เตร

พิลึกกำหนดราคาต่ำกว่าตลาดกลัวเจ๊งพ่อค้าอัดยับฉุดถอยหลังพังทั้งระบบ

 

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เตรียมเรียกประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ในเร็ว ๆ นี้ เพื่อพิจารณานโยบายการแทรกแซงราคาข้าวนาปี ประจำปีการผลิต 52/53 โดยนายกฯ ได้ตัดสินใจที่จะให้มีการรับจำนำข้าวนาปีเช่นเดิม แต่การรับจำนำครั้งนี้จะแตกต่างจากที่ผ่านมา โดยเฉพาะราคารับจำนำที่จะกำหนดไว้ต่ำกว่าราคาตลาด เพราะไม่ต้องการแบกรับภาระงบประมาณเหมือนในอดีต ขณะเดียวกันการรับจำนำไม่ได้ทำให้เกษตรกรที่ปลูกข้าวได้รับประโยชน์ อย่างทั่วถึง

 

นอกจากนี้นายกฯ ยังต้องการให้มีการแทรกแซงราคาด้วยระบบการรับประกัน เช่นเดียวกับที่ดำเนินการในสินค้ามันสำปะหลัง และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ที่นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาในรายละเอียดอีกครั้งภายในกลางเดือน ก.ค. นี้ โดยนายกฯได้ชี้แจงให้ที่ประชุม ครม.เศรษฐกิจ ได้รับทราบแล้วว่าผลของการรับจำนำสินค้าเกษตรโดยใช้เงินกว่า 1.26 แสนล้านบาท ไม่ได้มีผลทั้งด้านปริมาณและราคาที่ทำให้การส่งออกสินค้าเกษตรดีขึ้น ดังนั้นรัฐบาลต้องปรับเปลี่ยนการดูแลสินค้าเกษตรใหม่โดยใช้ระบบประกันสินค้าเกษตรเข้ามาแทน

 

 

ก่อนหน้านี้นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ ได้สั่งการให้องค์การคลังสินค้า (อคส.) ในฐานะคู่สัญญาซื้อขายข้าวกับเอกชน 17 ราย ที่ชนะการประมูลข้าวสต๊อกรัฐบาลจำนวน 1.9 ล้านตัน ให้คืนเงินวางค้ำประกัน 5% ของมูลค่าข้าวที่แต่ละรายวางเงินค้ำประกันไว้ทั้งหมด รวมถึงเงินค่าข้าวที่เอกชนได้ชำระบางส่วนจำนวน 9.6 หมื่นตันด้วย ส่วนข้าวที่เอกชนมีการขนย้ายออกจากโกดังไปแล้ว ให้ถือเป็นกรรมสิทธิ์ของเอกชน ไม่ต้องนำมาคืน เพราะมีการชำระเงินอย่างถูกต้อง

 

สำหรับการระบายสต๊อกข้าวรัฐบาลที่เหลือ จะต้องรอหลักเกณฑ์จากกรมการค้าต่างประเทศ จัดทำแผนยุทธศาสตร์สินค้าเกษตรก่อนว่า มีความเห็นอย่างไร และต้องผ่านความเห็น ชอบจาก กขช.ที่คาดว่าจะพิจารณาในเร็ว ๆ นี้

 

สำหรับการจำหน่ายข้าวสารในสต๊อกรัฐบาล ได้มีการเซ็นอนุมัติขายข้าวเมื่อวันที่ 12 พ.ค. โดย อคส.ได้เรียกผู้ชนะประมูลเข้ามาทำสัญญาระหว่างวันที่ 13-22 พ.ค. มีจำนวน 14 ราย รวมปริมาณข้าว 1.94 ล้านตัน มีการวางเงินค้ำประกัน 5% ขอมูลค่าสินค้า (แบงก์การันตี) วงเงิน 2.76 หมื่นล้านบาท และได้มีการชำระเงินค่าข้าวแล้วบางส่วน 6 ราย รวมเป็นปริมาณ 9.65 หมื่นตัน มูลค่า 1,223 ล้านบาท

 

รายงานข่าวจากวงการค้าข้าวแจ้งว่า รัฐบาลควรใช้วิธีเปิดรับจำนำสินค้าในเกษตรฤดูกาลปี 52 ไปก่อน แม้นายอภิสิทธิ์ ต้องการยกเครื่องระบบแทรกแซงราคาสินค้าใหม่ก็ตาม เพราะมองว่าขณะนี้รัฐบาลยังไม่มีความพร้อมด้านบุคลากร หรือหน่วยงานที่รับผิดชอบในการประกันราคา ขณะที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ยังไม่มีความชำนาญด้านนี้โดยตรง ดังนั้นหากรัฐบาลรีบร้อนใช้วิธีประกันราคาทันที อาจทำให้เกิดความเสียหายมากกว่าการรับจำนำ เพราะมีจุดอ่อนทั้งวิธีการจัดเก็บข้อมูล รวมถึงการตรวจสอบราคาซื้อขายที่แท้จริงระหว่างเกษตรกร กับพ่อค้าที่อาจเกิดการรั่วไหลงบประมาณได้ง่าย นอกจากนี้ตั้งข้อสังเกตว่าหากรัฐตั้งราคารับจำนำข้าวต่ำกว่าตลาดจริง จะเป็นการฉุดราคาตลาดให้ลดลงและเกษตรกรเสียประโยชน์.

......................................................................................................................................................................

 

‘ปู’ผ่าทาง ตันแก้ปัญหาจำนำข้าวกลืนน้ำลายลดราคา..แก้จริงหรือ?

วันจันทร์ที่ 24 มิถุนายน 2556 เวลา 00:00 น.

ในที่สุดรัฐบาลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็ต้องยอมกลืนน้ำลาย ยอมเสียหน้า ยอมปรับลดราคารับจำนำข้าวเปลือกทุกเมล็ดจากตันละ 15,000 บาท เหลือ 12,000 บาท แถมยังจำกัดเพดานวงเงินรับจำนำเหลือไม่เกินครัวเรือนละ 500,000 บาท โดยเริ่มกับข้าวเปลือกนาปรังในปี 56 นี้ก่อน ซึ่งจะมีผลผลิตออกมามากในเดือน ก.ค.นี้

ทั้งที่ก่อนหน้านี้รัฐบาลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยืนกรานเสียงแข็งว่าจะเดินหน้านโยบายตามที่หาเสียงไว้ แม้ว่าน้ำเสียงที่ยืนยันจะไม่ชัดเจนนักกับเรื่องของวงเงินรับจำนำเดิมที่ตันละ 15,000 บาท เพราะเห็นแล้วว่า สารพัดปัญหาที่เกิดขึ้นมีมากมาย โดยเฉพาะเมื่อถูกฝ่ายค้านหยิบจุดบอด...คือการขาดทุน มาเหยียบย่ำ มาตีแผ่  ขย่มเก้าอี้รัฐบาล จนทำให้ความเชื่อมั่นของรัฐบาลเริ่มลดลงมาเรื่อย ๆ

สุดท้าย “บุญทรง เตริยาภิรมย์” ก็ใช้อำนาจของคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ  (กขช.) เปิดหวอลดราคารับจำนำข้าวนาปรังลงมา เพื่อแก้หน้าตัวเอง แถมยืนยันชัดเจนว่า “คิดดี” แล้ว เพราะแม้ว่าจะลดราคาลงเหลือ 12,000 บาท แต่ชาวนายังได้กำไรอยู่ 37% จากต้นทุนที่ 8,000 บาท อีกทั้งเวลานี้เป็นช่วงปลายฤดูกาลเก็บเกี่ยว ชาวนาส่วนใหญ่นำข้าวเข้าโครงการ และใกล้เต็มกรอบที่ตั้งไว้ 7 ล้านตัน จึงเห็นว่า...การปรับเปลี่ยนช่วงเวลานี้ ไม่น่ากระทบกับชาวนารายเล็กรายย่อย แต่อาจกระทบชาวนารายใหญ่ที่มีผลผลิตบ้าง

ที่สำคัญการปรับลดวงเงินการรับจำนำครั้งนี้ จะช่วยรักษาวินัยทางการคลังของประเทศ ซึ่งเป็นผลให้ต่างประเทศมีความเชื่อมั่นในประเทศไทยมากขึ้น เพราะเวลานี้กระทรวงการคลัง ได้ยืนยันชัดเจนว่าสามารถหาเงินมาช่วยชดเชยการขาดทุนจากโครงการนี้ได้ปีละไม่เกิน 70,000-100,000 ล้านบาทเท่านั้น

ดังนั้น...รัฐบาลจำเป็นต้องลดราคาการรับจำนำลงและจำกัดวงเงินในการรับจำนำด้วย โดยประเดิมมาที่ข้าวเปลือกนาปรังปี 56 ในส่วนที่เหลืออีก 2 ล้านตันเศษ เพื่อเป็นการโยนหินถามทาง ก่อนจะนำไปใช้กับข้าวเปลือกนาปี ประจำปี 56/57 ที่กำลังจะออกมาในช่วงเดือน พ.ย.นี้  หากถูกคัดค้านมาก... เรื่องนี้อาจต้องทบทวนอีกรอบ หรือต้องวัดใจรัฐบาลอีกรอบว่าจะกล้าขัดแย้งกับคะแนนเสียงหรือฐานเสียงของตัวเองมากน้อยเพียงใด

แม้รัฐบาลจะระบุว่ากระทบชาวนาเป็นเพียงส่วนน้อย แต่หากฟังเสียงจากชาวนาส่วนใหญ่แล้ว...ยังยากที่จะรับได้ และขณะนี้ชาวนาหลายสมาคมกำลังยื่นหนังสือถึงน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้ทบทวนมติ ไม่เช่นนั้นอาจมีการยกระดับความรุนแรงถึงขั้นชุมนุมเพื่อแสดงการคัดค้าน

แต่หากถอดรหัสการปรับลดจำนำครั้งนี้แสดงให้เห็นว่า  “รัฐยอมถอยดีกว่ายอมล้ม” เนื่องจากโครงการจำนำข้าวเปลือกทำท่าจะเดินไปไม่ไหวจริง ๆ หลังจากประมาณการตัวเลขขาดทุนมีสูงถึง 1.36 แสนล้านบาท มากกว่าที่กระทรวงพาณิชย์ตั้งเป้าหมายไว้ไม่เกิน 70,000-80,000 ล้านบาท อีกทั้งคาดการณ์ต่าง ๆ ยังผิดแผนไปหมด และเริ่มส่งสัญญาณมาตั้งแต่ 2-3 เดือนก่อนแล้วว่า อาจลดราคาจำนำนาปรังลงตันละ 1,000-2,000 บาท 

สิ่งที่ผิดคาด คือรัฐบาลไม่สามารถระบายข้าวสารออกได้ตามแผน โดยขณะนี้เพิ่งขายข้าวได้แค่เพียง 120,000-130,000 ล้านบาท น้อยกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 180,000 ล้านบาท แถมออร์เดอร์ข้าวที่กำลังเข้ามาใหม่ยังน้อยกว่าที่คาดไว้ สวนทางกับรายจ่ายของรัฐบาลที่ใช้เงินทุนหมุนไปแล้วกว่า 600,000 ล้านบาท

ดังนั้นสิ่งที่ทำได้เร็วที่สุดในเวลานี้ คือ...การห้ามเลือดด้วยการลดราคาจำนำลงเพื่อประหยัดรายจ่าย เพราะไม่เช่นนั้นอาจมีปัญหาต่อการดำเนินโครงการจำนำนาปี 56/57 ที่กำลังจะมาถึง และกระทบต่อพี่น้องเกษตรกรจากภาคอีสาน ภาคเหนือ ซึ่งปลูกข้าวได้ปีละ 1 ครั้ง และเป็นฐานเสียงสำคัญของพรรคเพื่อไทยได้ ผิดกับการจำนำช่วงนาปรังที่ส่วนใหญ่เป็นชาวนาภาคกลางที่มีการปลูกข้าวได้หลายรอบ และมีฐานเสียงกระจัดกระจายอยู่หลายพรรค

นอกจากนี้รัฐบาลยังคาดหวังว่าการลดราคาจำนำข้าวครั้งนี้ จะส่งผลให้ราคาข้าวในตลาดถูกลงและทำให้รัฐขายง่ายขึ้น พร้อมกับเร่งระบายข้าวเพื่อหาเงินมาเสริมสภาพคล่องโดยด่วน โดยได้ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ จากเดิมที่เน้นการขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) และไม่เน้นพึ่งเอกชน มาเป็นการขายข้าวทุกวิธีผ่านเอกชน รวมถึงการขายผ่านตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าด้วย ซึ่งต่อไปมีโอกาสไม่น้อยที่จะเห็นรัฐบาลเทสต๊อกขายข้าวแบบ “ออนเซล” ลดราคาแหลกลาน

สิ่งที่รัฐบาลยอมเดิมพัน ด้วยการตัดนิ้วเพื่อรักษาชีวิตจะเป็นไปตามที่คิดหรือไม่... ยังน่าติดตาม เพราะบางส่วนมีการประเมินว่า การลดราคาครั้งนี้ไม่น่าจะได้ประโยชน์ แถมยังทำให้รัฐบาลเสียประโยชน์ในระยะยาวอีกด้วย เนื่องจากหากคำนวณตัวเลขการปรับลดราคาจำนำนาปรังรอบนี้ จะทำให้รัฐบาลประหยัดงบไปเพียง 7,500 ล้านบาท จากการลดจำนำไปตันละ 3,000 บาท จากข้าวที่เตรียมเข้ามาจำนำอีก 2.5 ล้านตัน
  
แต่หากเทียบกับผลกระทบที่มีต่อราคาข้าวในตลาด รวมถึงข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลอาจทำให้ความเสียหายมีมากกว่า เพราะตอนนี้รัฐบาลมีสต๊อกข้าวสาร 15 ล้านตัน สมมุติหากราคาข้าวขาวลดไปตันละ 1,000 บาท มูลค่าข้าวจะหายไปทันที 15,000 ล้านบาท และสุ่มเสี่ยงที่จะทำให้รัฐบาลขาดทุนหนักกว่าเดิมที่คาดการณ์ไว้ปีละ 136,000 ล้านบาทเสียอีก

นอกจากนี้แม้ข้าวไทยมีราคาลดลง แต่ไม่ได้การันตีว่าข้าวไทยจะกลับมาส่งออกได้ฉลุยเหมือนเดิมอีกครั้ง เพราะ ณ เวลานี้ ตลาดข้าวไทยทั้งแอฟริกา อาเซียน รวมถึงจีน และฮ่องกง ถูกอินเดียและเวียดนามแย่งตลาด

ไปเกือบหมดแล้ว เนื่องจากข้าวทั้ง 2 ประเทศ ถูกกว่าไทยถึงตันละ 100-170 ดอลลาร์สหรัฐ โดยตอนนี้ข้าวขาว 5% ไทยอยู่ที่ 520-530 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เวียดนามเพียง 370 ดอลลาร์สหรัฐ อินเดีย 450 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถือว่าเป็นสัดส่วนที่แตกต่างกันมากเกินไป เพราะปกติข้าวไทยจะห่างกันแค่ตันละ 40-70 ดอลลาร์

ขณะเดียวกันหากเปรียบเทียบดูสภาพตลาดโลก ในเวลานี้ยังไม่เอื้ออำนวย เพราะเศรษฐกิจตกต่ำลงทั่วโลกทำให้กำลังซื้อข้าวราคาแพงหายไป อีกทั้งข้าวและสินค้าเกษตรอื่น ๆ ยังอยู่ช่วงราคาขาลงอีกด้วย ทำให้ผู้นำเข้าหันไปซื้อข้าวราคาถูกแทน ดังนั้นต่อให้รัฐบาลลดราคารับจำนำลงมา  12,000 บาท แต่หากเทียบเป็นราคาข้าวส่งออกจะได้ตันละ 600 ดอลลาร์สหรัฐ จึงถือว่าราคาสูงอยู่ดีและแข่งขันไม่ได้ ถ้าจะแข่งได้ข้าวควรอยู่ที่ 470-490 ดอลลาร์สหรัฐ อีกทั้งยังมีความเสี่ยงว่า ลูกค้าไทยที่ทำสัญญาซื้อข้าวในราคาสูงก่อนหน้านี้ อาจทิ้งสัญญาเพื่อมารอซื้อข้าวราคาถูกในอนาคตอันใกล้แทน

นี่...ยังไม่นับปัญหาที่อาจตามมา ทั้งต่อความเชื่อมั่นต่อนโยบายของรัฐบาล โดยเฉพาะโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท ว่าจะเป็นการวางนโยบายที่ผิดพลาด เหมือนโครงการรับจำนำข้าว จนต้องมีการปรับแก้ไขกลางทางแบบนี้อีกหรือไม่ รวมถึงผลกระทบทางการเมืองที่จะตามมาทั้งจากกลุ่มชาวนา รายใหญ่ที่เสียประโยชน์จากการไม่ได้รับเงินจำนำ รวมถึงเสถียรภาพทางการเมืองของรัฐบาลที่สั่นคลอนตามไป

ที่สำคัญการลดราคาจำนำครั้งนี้ ยังไม่ได้ตอบโจทย์ว่า รัฐบาลได้แก้ไขการทุจริตที่พ่วงมากับการรับจำนำข้าวได้อย่างไร ทั้งการแก้ปัญหาข้าวสวมสิทธิเกษตรกร การนำข้าวสต๊อกรัฐมาเวียนเทียนขายในประเทศ การขายข้าวแบบจีทูจีเทียม รวมถึงคำถามที่ว่าเหตุใดราคาข้าวสารในประเทศถึงตกต่ำ ทั้งที่ราคาข้าวเปลือกในตลาดปรับตัวสูงขึ้น ทั้งหมดนี้มีความเคลือบแคลง ปมน่าสงสัยซุกซ่อนอยู่เต็มไปหมด

จากนี้ไปคงต้องจับตามองว่าการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลในครั้งนี้ถือว่าเดินมาถูกทางหรือไม่! เพราะปัญหาที่แท้จริงคือเรื่องของการทุจริตไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง สุดท้ายรัฐบาล “ยอมเจ็บ” แต่การเจ็บครั้งนี้สามารถการันตีได้อย่างไรว่าทุกอย่างจะจบ หรือยิ่งเจ็บยิ่งเจ๊ง...หนักกว่าเก่า...

ทีมเศรษฐกิจ
..............................................................................................................

ชาวนาเรียกร้องให้รับจำนำข้าว

“วิเชียร พวงลำเจียก” นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย บอกว่า โครงการรับจำนำข้าวเปลือกรัฐบาล ถือว่าเป็นโครงการที่ดี และต้องการให้รัฐบาลรับจำนำต่อไปอย่างน้อย 4-5 ปี เพื่อช่วยให้ชาวนากลับมาลืมตาอ้าปาก ปลดหนี้สินได้อีกครั้ง เพราะการรับจำนำทุกเมล็ดยังสร้างประโยชน์ให้เกษตรกรได้ถึง 93.7% โดยมีการโอนเงินผ่านบัญชีโดยตรงของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ไปถึงมือเกษตรกร ไม่ได้รั่วไหล

ส่วนการปรับลดราคารับจำนำเหลือตันละ 12,000 บาท ถือเป็นเรื่องที่รับไม่ได้ เพราะเหมือนรัฐบาลผิดคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับเกษตรกร ที่บอกจะรับจำนำทุกเมล็ด ที่ตันละ 15,000 บาท ที่สำคัญที่ผ่านมาแม้รัฐบาลจะรับจำนำ 15,000 บาท แต่เมื่อหักค่าความชื้นแล้วเกษตรกรได้รับเงินจริงเพียง 11,000-12,000 บาท สูงกว่าต้นทุน 9,000 บาทเพียงเล็กน้อย ดังนั้นถ้ารัฐลดราคาจำนำลง รายได้ก็ยิ่งลดลงอีก 
เรื่องนี้ชาวนาตัวจริงคงไม่สามารถอยู่เฉย ๆ ได้ คงต้องรวมตัวกับสมาคมส่งเสริมชาวนาและข้าวไทย และสภาเกษตรกร

เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีทบทวนนโยบายเรื่องนี้ใหม่ทั้งเรื่องของวงเงินรับจำนำและการกำหนดเพดานวงเงินไว้ที่ครัวเรือนละ 500,000 บาท โดยเรียกร้องขอให้กลับไปใช้เงื่อนไขเดิมที่รับจำนำ
ตันละ 15,000 บาท และรับจำนำทุกเมล็ด ซึ่งการที่รัฐบาลจะมาหักกลางปล้อง ยอมลดจำนำเพราะถูกกระแสสังคมกดดันไม่ได้ เนื่องจากนโยบายรับจำนำได้ทำให้เกษตรกรได้รับเงินเพิ่มขึ้น มีความเป็นอยู่ดีขึ้น หากเห็นว่าส่วนใดมีปัญหาก็ควรไปแก้ตรงจุดนั้น และถ้ารัฐบาลไม่ยอมทบทวนใน 1 สัปดาห์ ชาวนาทั่วประเทศจะใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญเพื่อคัดค้าน บางส่วนอาจนำรถไถ รถอีแต๋นเดินทางเข้ามากรุงเทพฯ เพื่อแสดงความไม่เห็นด้วย ส่วนจะรุนแรงเพียงใดคงไม่สามารถบอกได้ในเวลานี้ 

นอกจากนี้ยังต้องการให้รัฐบาลส่งตัวแทนมาชี้แจงเรื่องของการรับจำนำข้าวเปลือกนาปีฤดูกาล 56/57 ที่รัฐบาลจะปรับลดเพดานรับจำนำลงอีก เรื่องนี้ต้องการให้รัฐบาลส่งตัวแทนมาชี้แจง รวมถึงให้มีตัวแทนเกษตรกรเข้าไปร่วมที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ด้วย เพื่อพิจารณาความเหมาะสมของราคาร่วมกัน ไม่ใช่คิดเองทำเองเสียหมด เช่น หากมีการปรับลดจริงก็อยากให้รัฐบาลเข้ามาสนับสนุนการลดต้นทุนทั้งค่าปุ๋ยเคมี น้ำ เพื่อให้ชาวนาอยู่

.......................................................................................................................................

 

มาร์ค ว่า จำนำข้าวราคาสูงกว่าท้องตลาดไม่ดียังไง ไปหาอ่านแล้วค่อยมาเกรียน

มาร์ค ว่า ไม่ลดราคาจำนำข้าวเพราะอะไร แต่ให้ไปทำไรก่อน ไปหาอ่าน หาความรู้ใส่หัวก่อน ค่อยมาเกรียน

รัฐบาลปัญญาอ่อน ก่อนโครงการ เค้าเตือนกันทั่วบ้านทั่วเมือง ต่างชาติก็เตือน ยังตะแบงทำจนได้

พอทำโครงการ ตัวเลขก็เป็นความลับบอกไม่ได้ ลับๆล่อๆ ข้าวมีเท่าไร ขายใครบ้างบอกไม่ได้

โกงกันสะบั้นหั่นแหลก(ทำไมบอกไม่ได้ว่ะ)

หลังโครงการเจ๊งไม่เป็นท่า ยังมีหน้ามาโทษคนอื่นอีก(ทุเรศฉิ บหาย)ปกปิดตัวเลขขาดทุนหน้าด้านๆ

โดนแฉยังโกหกหน้าตาย(คิดว่าใครๆคงโง่เหมือนมัน)

ตร.บ้าน ถ้าไม่ปิดหูปิดตาตัวเองคงคิดได้ว่าใครหลอกใคร มีสติ คิดดีๆ ถ้ารักประเทศจริงคงเห็นได้ว่า รัฐบาลนี้มันทำร้ายประเทศไปเท่าไรแล้ว 

Edited by Super@2, 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 - 21:11.

[คนไทย916]

 

213961.jpg

เฮ้อ คุณตร.บ้าน นี่มันด่ารัฐบาลชัดๆ

ประกาศแล้วยกเลิก

กลับไปเลียน้ำลายตัวเองแผล่บๆ

 

         

[juemmy]

หลักแถสามัญ

 

[juemmy]

หวิดไปแล้วสินะ

[juemmy]

"คลิปเสียงตัดต่อแน่นอน เพราะเสียงไม่ชัด"

by หมอเหวง

[แอบดูที่รูเดิม]

อยากฮากะเค้ามั่ง แต่ดั๊นเจือกโพสเข้าตัว ฮ่าๆๆๆ

[juemmy]

 

จากเพจของห่วยตูน

 

ปล่อยมุกนี้ไปแล้ว
ถ้าจู่ๆเพจจะหายไปก็ไม่ต้องแปลกใจนะฮะ 555

ไม่ไปพัทลุงนะ จะไปพัทยา

[ก๊องส์ไข่กวน]

[juemmy]

 

ฮึ?

[juemmy]

 ห่วยตูน

[silance mobius]

 ห่วยตูน

 

ชอบไอ้ตรง "อาเร๊ะ" กะ "หน่านี๊" เนี่ยแหล่ะ 555+

[แอบดูที่รูเดิม]

หน่านี๊!!!

[juemmy]

 

พ่อผมอยากทำงานรับใช้ชาติ

 

[juemmy]

[Bot V Mask]

 

 

มันฮาตรงที่พอเลือกตั้งครั้งต่อไปเราก้จะวนลูปแบบนี้ไปเรื่อยๆ นี่ละ

[juemmy]

 

ห่วยตูน

 

เป็ดแมทริกซ์ พ่อเดอะวัน

[พอล คุง]

 

ห่วยตูน

 

เป็ดแมทริกซ์ พ่อเดอะวัน

 

 

ห้าาาาาาาาาาาาาาาา

 

มันจะกล้าไปปะเนีย

 

ปากกล้าขาสั่นซะ

 

ห้าาาาาาาาาาาาาาาา

[juemmy]

ขออีกอันเหอะ อดไม่ไหว 55

[juemmy]

[juemmy]

[juemmy]

[juemmy]

[juemmy]

ยังกะงานศพคนจีน

[juemmy]

[juemmy]

จากเพจของห่วยตูน

 

เชื่อไหมครับว่า ช่วง ปชป.เป็นรัฐบาล ม๊ากสั่งซื้อระเบิดฝนเทียมลูกละห้าล้านบาทจากจีน ยิงจากกองทัพไปถล่มพี่น้องเสื้อแดง

เชื่อไหมครับว่า พี่น้องเสื้อแดงบุกไปรุมช่วยนายนิพนธ์ ที่นั่งรถไปชนกำแพง โดยการเอาไม้ทิ่มๆไปงัดช่วยออกมา

เชื่อไหมครับว่า ตอนนั้นที่หุ้นขึ้นน่ะเพราะม๊ากจ้าง CIA แฮกข้อมูลตลาดหุ้น

มีเรื่องอีกมากมายที่พวกคุณยังไม่รู้นะครับ เพราะพวกคุณไม่ใช่วงใน ไม่มีสายข่าวลับที่เปิดเผยไม่ได้

มาฟังวิทยุชุมชนกันเถอะครับจะได้ตาสว่าง

5555555555555555555555555555555555555

 

[juemmy]

 

ห่วยตูน

 

ก็จะไปนิรโทษมันทำไมล่ะน้อ

 

[juemmy]

อิอิ

 

[juemmy]

 

ห่วยตูน

 

เพราะงี้นี่เอง

[juemmy]

 

ห่วยตูน

 

มุกจากตาเกี๋ยง

[juemmy]

 

ห่วยตูน

 

.... สงบนิ่ง 1 นาที

[juemmy]

 

ห่วยตูน ได้แชร์รูปภาพของ Kanok Ratwongsakul Fan Page

ตั่วไหร๊

 

หลัง ปอท. แถลงยืนยันเข้าคุม Line ผมไลน์ไปเตือน "คุณธีระ" อีกครั้งหนึ่งอย่างซีเรียส แต่คุณธีระตอบกลับมาชนิดที่..ผม

ประเมินไอ้คิ้วดกต่ำไปจริงๆ เขามั่นใจในปฏิบัติการสอด ไส้..ซ่อนลึก! ตัวสติ๊กเกอร์ "โคนี่ - บราวน์" พร้อมแอบอธิบายให้ผมเข้าใจอีก เช่น จากบนซ้าย - The show must go on เล่นกันกลางแจ้ง..ตามแผนที่รู้กัน อยากโชว์บ้างไรบ้าง ให้ตายใจ, บนขวา - อันนี้หนัก ธีระกระซิบว่า..ปรับมาจาก "ช้างอุ้มแตง" เป็นหมีอุ้มต่าย, ล่างซ้าย - ทุกสิ่งต้องเคลื่อนไหวไปตามเพลง มีควง..มีคว้าน..ใครเห็นท่านี้ ร้อยทั้งร้อยต้องเคลิ้ม..เยิ้มหยด, และ ล่างขวา - ล่าง..ขวา...! ล่างงง ตัวบ้าอะไรวะนั่น! ผมลืมถาม??

[ตำรวจบ้าน]

[ตำรวจบ้าน]

[คนไทย916]

557962_284056831734647_992024482_n.jpg

อาจะแก โกรนเมียอาระบาน

[juemmy]

 

ห่วยตูน

 

ตามเอเจนท์โคลสันมาที

วันนี้เพื่อนห่วยตูนปล่อยของไม่ยั้งเลย

ตามอัพแทบไม่ทัน

[juemmy]

 

มามะ มาเล่นน้ำกัน

[juemmy]

 

ห่วยตูน

 

แบบนี้คุ้มเว้ยเฮ้ย

(ปวดนิ้วไปถึงไหล่ แต่ตั้งใจจะเล่นมุกนี้ 555)

[juemmy]

ห่วยตูน

 

 

[juemmy]

 

ห่วยตูน

 

ยังไม่รุนแรงพอนะครับ อยากกลับก็จ่ายค่าเครื่องบินเอง

แต่ นร.ไทยเขากดเงินไม่ได้ แล้วจะเอาเงินที่ไหนจ่ายวะ

ไอ้กบาลตัมเปก!!

 

[juemmy]

 

ห่วยตูน

 

หลังวาระ 3 เดี๋ยวรู้เลยยยยย

 

[juemmy]

 

รีบเอาไปแลกกอริลล่าเลย

 

[juemmy]

 

ห่วยตูน

 

แย่จริงๆ เงินเดือนก็เยอะ

เนอะ

 

[juemmy]

[juemmy]

ช่วงนี้ตึงเครียด เอามุกเบาๆไปละกัน

[ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่]

 

 

ขี้ข้าแม้วเดี๋ยวนี้กล้าด่าพ่องแม้วเลยหรา?

 

1. เสียงปืนแตกนานแล้ว มันยังไม่กลับเลย

 

 

 

 

2. เรื่องข้าวอีก แม้วบอกสำเร็จแน่ บีบตลาดโลกได้ เจ๊งย่อยยับทั้งประเทศเพราะไอเดียมัน มันอยู่ไหนล่ะตอนนี้

 

เอาแค่นี้ก่อน เยอะจัด