ขอกลับมาอีกครั้ง หลังจากออกตัวแรงคราวก่อน และได้กล่าวขออภัยหลายท่านไปแล้ว แต่ครั้งนี้ขอวิเคราะห์ความเป็นไปได้จากสถานการณ์ปัจจุบันอีกครั้ง
ตามความเห็นส่วนตัวของผม คนที่คิดคล้ายกับผมที่สุดคือ คุณสุภิญญา จาก กสทช ซึ่งมีความเห็นว่า ช่อง 3 เซ็นเซอร์ตัวเองเพราะเกรงอิทธิพลทางการเมือง ซึ่งเกี่ยวข้องกับเรื่องสัมปทานของช่อง 3 ที่เป็นประเด็นอยู่ที่ดีเอสไอ
ที่ว่าผมคิดคล้ายกับคุณสุกัญญา ก็เพราะจากที่ตามข่าวตั้งแต่ก่อนจะโดนแบนจริงๆ มาจนถึงตอนนี้ ผมเห็นว่าการแบนละครที่กำลังฉายอยู่จนใกล้จะจบแล้ว ชนิดที่เลิกฉายเอาดื้อๆ ไม่มีตอนจบอะไรทั้งสิ้น เป็นการกระทำที่ถ้าไม่โง่สุดๆล่ะก็ทำไม่ได้แน่ เพราะมันจะเป็นประเด็นร้อนแรงในสังคมที่ประชาชนย่อมกระหายอยากรู้ความจริงว่า ทำไมถึงแบน ถ้ามีคนสั่ง แล้วใครสั่ง
ผมไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้ที่ว่ามีนักการเมืองสั่ง เพราะเนื้อหาเกี่ยวกับการทุจริตของนักการเมือง และสัมปทานดาวเทียม ย่อมเสียดแทงใจนักการเมืองหลายต่อหลายคนเลยทีเดียว อีกทั้งละครเรื่องนี้ยังมีผู้จัดเป็นนักแสดงที่มีแนวคิดทางการเมืองตรงข้ามกับรัฐบาลชุดปัจจุบัน ก็ย่อมไม่น่าแปลกถ้ามีนักการเมืองฝั่งรัฐบาลหลายคนไม่พอใจละครเรื่องนี้
และในเมื่อผู้บริหารช่อง 3 มีสายสัมพันธ์กับนักการเมืองฝั่งรัฐบาลหลายคน ก็ไม่น่าแปลกเช่นกันถ้ามีนักการเมืองขอให้เอาสิ่งขวางหูขวางตาแทงใจดำออกจากจอทีวี แล้วช่อง 3 จะจัดให้ เพราะช่อง 3 ตอนนี้ก็มีประเด็นเรื่องสัมปทานอยู่แล้ว
แต่....อย่างที่ผมว่าไว้ข้างต้น การเลิกฉายละครที่ฉายไปกว่าครึ่งเรื่องแล้วกลางคัน มันดูโง่เกินไป แนบเนียนน้อยไป ชนิดที่ว่านักการเมืองที่ไม่ประสีประสาที่สุดอย่างนายกปูก็ไม่น่าโง่ได้ขนาดนี้ (ขอโทษเถอะคุณนาย แต่ขออ้างชื่อหน่อยเถอะ เห็นภาพชัดดี )
เทียบกับกรณีดูดเสียงบทพูดเกี่ยวกับชั้น 7 โฟร์ซีซั่นในแรงเงา แบบนั้นยังเนียนกว่า ถนอมน้ำใจคนดูมากกว่า และก่อกระแสน้อยกว่าครั้งนี้เยอะ
แต่ทำไมครั้งนี้ จึงเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น
ผมเลยวิเคราะห์ออกมาว่า อาจมีนักการเมืองสั่งให้แบนสิ่งไม่พึงประสงค์และทิ่มแทงใจมาจริง แต่อาจไม่ได้สั่งว่าต้องแบนแบบไหน ต้องตัดฉากไหน ต้องถอดละครออกเลยมั้ย
แต่ฝ่ายที่เลือกจะหยุดฉายไปเลยคือ ตัวช่อง 3 เอง
เพราะก่อนจะถึงวันศุกร์ที่มีประกาศขึ้นหน้าจอ ยังมีข่าวสับขาหลอกไปๆมาๆจากหลายฝ่ายว่า จะตัดจบภายในวันศุกร์บ้าง วันเสาร์บ้าง หรือจะฉายต่อให้จบโดยสมบูรณ์ในวันอาทิตย์บ้าง
แต่เอาเข้าจริง ข่าวสับขาหลอกที่ว่ามา ดันผิดทั้งหมด!!!
เหมือนกับมีการเปลี่ยนแผนกะทันหัน จากที่จะตัดบางฉากออกให้ละครสั้นลง กลายเป็นเลิกฉายไปเลย
แต่ถ้าถามว่า ทำไมช่อง 3 ถึงทำแบบนั้น
ก็คงได้แต่วิเคราะห์แบบกว้างๆว่า ช่อง 3 ถือโอกาสที่มีนักการเมืองขอมา จัดการอะไรบางอย่างในสถานีตัวเอง เสมือนเชือดไก่ให้ลิงดู และเอาใจนักการเมืองรายที่ว่าไปในตัว
เพราะถ้านักการเมืองไม่ขอ ช่อง 3 ก็อาจไม่มีโอกาสที่จะจัดการแบบนี้
แต่จะจัดการเรื่องอะไร ก็สุดจะคาดเดา เพราะการเมืองในช่อง 3 ก็แรงใช่ย่อยอยู่
กล่าวโดยสรุปก็คือ ละครเรื่องนี้เจอการเมืองรุมทั้งสองด้าน ทั้งการเมืองระดับประเทศ และระดับสถานี ผลเลยออกมาเป็นแบบนี้
แล้วคุณคิดอย่างไรกันบ้าง....
Edited by หนูข้าวกล้อง, 8 มกราคม พ.ศ. 2556 - 17:49.