เมื่อเวลา 09.45 น. วันที่ 9 ม.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล . น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการเคาะชื่อผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.ในนามพรรคเพื่อไทย ว่า ในส่วนของประธานโซนภาคกทม.ได้เคาะชื่อแล้ว แต่ขอให้นำชื่อส่งมอบให้คณะกรรมการบริหารพรรคที่จะมีการประชุมกันในวันที่ 13 ม.ค.นี้ก่อน เมื่อถามว่าสรุปเป็นชื่อ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ปฏิเสธที่จะตอบ โดยกล่าวว่า ต้องรอให้คณะกรรมการบริหารพรรคเปิดเผยชื่อดีกว่า ส่วนกระแสข่าวที่มีความขัดแย้งกันภายในพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะ ส.ส.กทม.ที่ไม่พอใจ จนถึงขั้นที่นายอุดมเดช รัตนเสถียร ลาออกจากประธานวิปรัฐบาลนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า การที่นายอุดมเดชลาออกจากประธานวิปรัฐบาล ไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้ ความจริงนายอุดมเดชรับหน้าที่เป็นประธานวิปมานานแล้ว ก็อยากจะขอปรับเปลี่ยนให้ผู้อื่นมาทำงานแทนบ้าง ยืนยันว่าไม่มีปัญหาขัดแย้งภายในพรรคแน่นอน แต่แน่นอนว่าแต่ละท่านย่อมมีความคิดเห็นที่จะเสนอชื่อใคร แต่สุดท้ายก็ต้องอยู่ที่คณะกรรมการบริหารพรรค
เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยบริหารประเทศมาได้ปีกว่าแล้ว คิดว่าจะสามารถครองใจคนกทม.ได้หรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า คงตอบไม่ได้ ต้องรอผลคะแนน และนโยบาย แต่สิ่งที่เราตอบได้อย่างเดียวคือพรรคเพื่อไทยในฐานะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล พร้อมที่จะทำงานร่วมกับ กทม. เพราะ กทม.ถือเป็นเมืองหลวงที่มีความสำคัญ ถ้าเราได้ทำงานขับเคลื่อนร่วมกันก็จะทำงานได้เร็ว และเป็นไปในทิศทางที่สอดคล้องกับประเทศมากขึ้น เมื่อถามว่ามีความมั่นใจถึงขั้นที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี บอกว่าส่งเสาไฟฟ้าก็ได้รับเลือกหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คงไม่ใช่อย่างนั้น ทุกอย่างต้องขึ้นอยู่กับประชาชนเป็นผู้ตัดสิน ประชาชนคงจะดูทั้งตัวผู้สมัคร นโยบาย และแนวทางการทำงานของพรรค ซึ่งหลังจากเปิดตัวผู้สมัครแล้ว ก็จะต้องมีการเปิดนโยบายต่อดังนั้นประชาชนก็จะนำจุดนี้ไปพิจารณาและใช้สิทธิ เลือกตั้งต่อไป
“เราจะทำอย่างเต็มที่ แต่ระบอบประชาธิปไตยก็เป็นสิทธิของประชาชนที่จะเป็นผู้ตัดสินว่าอยากจะให้ ใครเข้ามาทำงานรับใช้คน กทม. ซึ่งคงจะเป็นหน้าที่ของพรรคที่จะทำงานอย่างเต็มที่เพื่อให้เห็นว่าเรามี เจตนารมย์และความมุ่งมั่นที่อยากจะขอโอกาสในการทำงานรับใช้คนกทม.สักครั้ง หนึ่ง เพราะเป็นพื้นที่ที่สำคัญของประเทศและเศรษฐกิจด้วย” น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าว และว่าสำหรับคู่แข่งอย่าง ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร จากพรรคประชาธิปัตย์นั้น ก็ถือเป็นผู้ที่ทำงานกับกทม.และอยู่ในพื้นที่มานาน ขณะที่พรรคเพื่อไทยยังไม่เคยทำงานในส่วนนี้ แต่จากการที่เราอยู่ใกล้ชิดกับคนกทม. ก็อยากจะขอโอกาสได้เข้ามาทำงาน.
จากเดลินิวส์ http://www.dailynews...politics/177088
ถามคน กทม. ครับ...อยากได้เสาไฟฟ้าเพิ่มสักต้นมั้ย?