พิษค่าแรง300บาทชัยภูมิประเดิมปิดรง.ทิ้งแล้ว1แห่งจ่อลอยแพ600คนงานระทม
ลามการจับจ่ายร้านค้าใกล้โรงงานโอดโดนผลกระทบต้องปิดร้านทิ้งร้างตามไปด้วยอีกจำนวนมาก
ด้านอีกกว่า40โรงงานในพื้นที่เตรียมย้ายฐานหนีลงทุนเพื่อนบ้านจ่อตกงานตามอีกกว่าครึ่งแสนคน
(ติดตามภาพเสียงได้ที่77ช่องจังหวัดเนชั่นภาคอีสานเลือกช่องชัยภูมิ)
( 8 ม.ค.56) ขณะที่จ.ชัยภูมิ ผลจาการประกาศปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ300บาททั่วประเทศของรัฐบาล มาตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2556 ที่ผ่านมา เพียง 1 สัปดาห์ ซึ่งในพื้นที่จ.ชัยภูมิ ถือเป็นเขตได้รับการสนับสนุนส่งเสริมภาคการลงทุนพิเศษ การพัฒนาอุตสาหกรรมชนบท (สอช.) กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ร่วมกับพันธมิตรอุตสาหกรรมสิ่งทอชัยภูมิ ประเภทอุตสาหกรรมตัดเย็บเสื้อผ้าสำเร็จรูป เพื่อส่งออกอันดับ1ของประเทศ ให้กับภาคโรงงานอุตสาหกรรมสิ่งทอไทย มาตั้งแต่ปี 2545 เพื่อเชิญชวนให้นักลงทุนมาลงทุนในพื้นที่และจะได้รับการลดหย่อนภาษีภาคลงทุน ในระยะเวลายาวถึง 10 ปี และมีโรงงานขนาดใหญ่เข้ามาตั้งในพื้นที่จนปัจจุบันกว่า 43 แห่ง มีการจัดจ้างแรงงานในระบบหลายหมื่นคน รวมทั้งในส่วนภาคอุตสาหกรรม SME ที่มีการจ้างแรงงานในระบบอีกมากกว่า 50,000 คน
ล่าสุดหนึ่งในกลุ่มโรงงาน 5 เสือสิ่งทอไทย บริษัทโอเรียนตอล การ์เม้นท์ จำกัด ที่มีการมาตั้งโรงงานในพื้นที่ 2 สาขา ที่ต.บ้านเล่า อ.เมืองชัยภูมิ และที่อ.หนองบัวแดง จ.ชัยภูมิ ซึ่งมีการมาจัดงานแรงงานในพื้นที่เดิมเข้าระบบโรงงานมากกว่า 1,500 คน ได้ประกาศปิดโรงงานยุบสาขา ที่ต.บ้านเล่า อ.เมือง ชัยภูมิ ไปแล้ว 1 แห่ง ซึ่งในจุดนี้มีแรงงานกว่า 600 คน พร้อมติดป้ายประกาศหน้าโรงงานให้เช่าพื้นที่พร้อมตัวอาคารโรงงานเดิมว่าง 2 อาคาร ที่มีเนื้อที่ภายในโรงงานทั้งหมดกว้างกว่า 8 ไร่ หรือประมาณ 8,000 ตารางเมตร ซึ่งมีการขนย้ายเครื่องจักรอุปกรณ์ภายในโรงงานปล่อยทิ้งให้เป็นโรงงานร้าง ทั้งหมดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โดยนายสุพิน ศรวิเศษ ในฐานะอดีตนายก อบต.นาฝาย อ.เมืองชัยภูมิ ซึ่งเป็นพื้นที่ตำบลติดกันกับที่ตั้งโรงงานดังกล่าวที่พึ่งประกาศปิดตัวลง เปิดเผยว่า ในส่วนของโรงงานที่ปิดตัวไปถือว่าเป็นโรงงานภาคอุตสาหกรรมสิ่งทอเสื้อผ้า สำเร็จรูปเพื่อส่งออกที่สำคัญอีกแห่งในจังหวัด ที่มีการจัดจ้างแรงงานในพื้นที่ใกล้เคียง 4 ตำบลในต.บ้านเล่า,นาฝาย,นาเสียว และต.ห้วยต้อน อ.เมืองชัยภูมิ มากกว่า 1,500 คน
ซึ่งในส่วนตัวโรงงานสาขาที่ปิดไป มีแรงงานในพื้นที่กว่า 600 คน ที่ต้องได้รับผลกระทบ ซึ่งถือเป็นวิธีบีบให้คนงานออกงานทางอ้อมของโรงงาน ที่สู้ค่าแรงงาน 300 บาทไม่ไหว ในส่วนของแรงงานที่มีในสาขาต.บ้านเล่า กว่า 600 คน ถ้าอยากทำงานต่อก็ต้องย้ายไปทำที่อ.หนองบัวแดง ที่ถือว่าอยู่ห่างไกลการเดินทางไปกลับก็ลำบากมาก ทำให้คนงานที่นี่ที่ไม่มีความพร้อมที่จะย้ายไปทำที่สาขาอ.หนองบัวแดงได้ ก็จำต้องออกจากงานโดยปริยาย
และเริ่มมีการการตกงานในพื้นที่ไปแล้วกว่า 500-600 คน ตามมาแล้ว ซึ่งเรื่องการขึ้นค่าแรง 300 บาทเป็นเรื่องดี แต่รัฐบาลต้องมีมาตรการรองรับในเรื่องต้นทุนที่สูงขึ้นของผู้ประกอบการแต่ละ ราย ที่ดีกว่านี้ ไม่ใช่ค่าแรงเพิ่มกลับทำให้คนถูกเลิกจ้างตกงานเพิ่มมากขึ้นขนาดนี้ โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมสิ่งทอที่จ.ชัยภูมิ มีโรงงานอีกกว่า 43 แห่ง มีแรงงานในระบบอีกกว่าไม่น้อยกว่า 50,000 คน ที่จากนี้ไปผลกระทบส่วนนี้ที่จะไม่มีงานทำกว่าครึ่งแสนคน จะทำอย่างไรต่อไปได้
และในส่วนผู้ประกอบการรายใหญ่ กลุ่ม 5 เสือสิ่งทอไทยก็มุ่งเตรียมย้ายฐานไปอยู่ที่ประเทศเพื่อนบ้าน อย่างเวียดนาม เกือบทั้งหมดแล้ว ซึ่งคาดว่าไม่เกินอีก 3-6 เดือน คนชัยภูมิ หลายหมื่นคนจะเกิดการตกงานจำนวนมาก อย่างเลี่ยงไม่ได้แล้วทางรัฐบาลจะทำอย่างไรในเรื่องผลกระทบที่เกิดจากนโยบาย นี้
รวมทั้งไม่เฉพาะแต่โรงงาน คนงานทุกต้องตกงานตามมา แต่ร้านค้าชุมชน ที่เคยค้าขายคึกคักให้กับแรงงานที่เคยมีจำนวนมากในพื้นที่ วันนี้ก็ตั้งปิดกิจการ ค้าขายไม่ออก ก็ต้องได้รับผลกระทบไปด้วยอีกจำนวนมากไม่ใช่เฉพาะแค่แรงงานในพื้นที่ ด้วย////
สุทธิพงศ์ คนลานเมือง สำนักข่าวเนชั่น รายงาน...