Jump to content


Photo
- - - - -

กรณีแมคฯ, สตาร์บัง, จราจรไทยๆ, เยาวชนตีกัน ฯลฯ มองสะท้อนความเป็นไปของสังคมไทยกันอย่างไรบ้างขอรับ...


  • Please log in to reply
52 ความเห็นในกระทู้นี้

#1 wat

wat

    เนตังมะมะ เนโสหะมัสมิ นะเมโสอัตตา.

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,542 posts

ตอบ 18 มกราคม พ.ศ. 2556 - 12:28

13556685791355668599l.jpg

 

image406.png

 

gjeikc8gddgac9beie6ad.jpg

 

43959.jpg

 

65kdbaiihd9ab8cgcdaib.jpg

 

:mellow:  สำหรับกระพ๊ม...

 

1. เราไม่รู้จัก ปชต. ไปในทิศทางเดียวกัน อย่างที่เคยเปรียบในโพสเก่าๆ บ้านเมืองที่สังคมเรายกย่อง, ชื่นชมว่าเค้าเจริญแล้ว มี ปชต. เต็มใบนั้น สังเกตุคนในบ้านเมืองเค้าจะมองและใช้ชีวิตตามระบอบ ปชต. ของเค้าไปในแนวทางเดียวกัน... อย่างน้อยถ้าสังคมเค้าบอก "ปชต. ของไอก็คือแอปเปิ้ลสีแดงสดลูกหนึ่ง" คนในบ้านเมืองเค้าก็จะมองเห็น และบริโภค ปชต. ไปในแนวนั้น... ถ้าบ้านเราบอก "ปชต. ของพวกกูก็คือทุเรียนก้านยาว" คนในบ้านเมืองเราก็ควรจะเห็นและบริโภค ปชต. อย่างน้อยก็เป็นทุเรียน ไม่ใช่เห็นเป็นมะม่วงมั่ง, มะเขือมั่ง บางกลุ่มบอกโน่นเลยถั่วฝักยาวเป็นต้น ทำให้เราไม่รู้, ไม่เข้าใจสิทธิ, หน้าที่และสำนึกไปในทางเดียวกัน แถมบางกรณีขึ้นกับเป็น "พวกใคร" พวกเมิงทำได้ไม่ผิด แต่ถ้าไม่ใช่พวกกู...เมิงผิด...

 

2. เราขาด "สำนึกสาธารณะ" กันอย่างรุนแรง ทุกคนอยากไปข้างหน้าก็คิดอย่างเดียวไปทางไหนลัดและเร็วที่สุด โดยไม่ต้องคำนึงถึงสิ่งรอบตัวหรือ ผลกระทบใดๆที่จะเกิดขึ้นกับใครก็แล้วแต่ แล้วส่วนใหญ่ก็เกิดขึ้นจนกลายเป็นความเคยชินในสังคมไปด้วยวลี "ใครๆเค้าก็ทำกันทั้งนั้น", "นี่คือวิถีของ ปชต.แบบทุนนิยม" คนทำตามกฏเกณฑ์กลายเป็นผู้เชื่องช้าโง่เขลาให้คนที่หน้าด้าน, ฉลาด, กล้าบ้าบิ่นกว่าฉกฉวยเอาสิทธิของตนไปซึ่งๆหน้า... แล้วหากเกิดเหตุการณ์ผิดพลาดใดๆขึ้นมา เช่นขี่มอ'ไซค์วิ่งสวนเลนแล้วไปชนกับรถชาวบ้านที่เค้าวิ่งมาตามทางดีๆ ก็จะเกิดปรากฏการณ์อันธพาลบ้าง, หมาหมู่บ้าง หรือที่พบเห็นได้บ่อยๆคือ "เห็นแก่มนุษยธรรมกับคนจนๆบ้าง" หรือหากเป็นกรณีของเยาวชนที่เห็นข่าวได้บ่อยๆ เมื่ออยากได้เร็ว, ได้ก่อน, แสวงหาแต่ทางลัด เมื่อไม่ได้อย่างใจนึกก็อย่างน้อยๆก็โจร, อันธพาลทำร้ายคนอื่น หรือโง่ที่สุดก็ผูกคอตาย... จนเป็นเรื่องธรรมดาในสังคมไป...

 

3. มันเป็นวิวัฒนาการแบบถดถอย, กลับตาลปัตร และบิดเบี้ยว จากสังคมไทยที่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่, ถ้อยทีถ้อยอาศัย, ครอบครัวอบอุ่น, ศีลธรรมเข้มแข็ง ฯลฯ... เด็กยุคใหม่กลายร่างเป็นเดรัจฉานไปทุกวันๆ ข่าวตีกัน, รุมโทรม, มอมยา, ท้องไม่มีพ่อ, ฆ่าพ่อฆ่าแม่ ฯลฯ เกิดขึ้นแทบจะเป็นข่าวประจำวัน, สื่อคำนึงแต่ "ผลประโยชน์" ที่กูต้องได้มากกว่า "ความเป็นจริง" ที่สังคมจะต้องรู้, ผู้คนวิ่งไล่ไขว่คว้ากันแค่การสนองตอบกิเลสตัณหาโดยไม่ต้องคำนึงถึงสิ่งใด ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี่กลายเป็นสิ่งของต้องใช้แบบหลงไหลไปตามวัตถุเสียเป็นส่วนใหญ่ ยกตัวอย่างง่ายๆแค่โทรศัพท์... เป็นค่านิยมใหม่แพงแค่ไหนก็ต้องซื้อ พ่อแม่จะตายโหงตายห่าช่างเมิง แต่กูต้องมี...ก็เยอะ... มีแล้วก็ใช้ไม่พ้นชีวิตประจำวันเดรัจฉาน... กิน ขี้ *** นอน... โพสเตตัส... ( <_<  เหลือแต่ขี้นี่ล่ะมั้งขอรับที่ยังไม่เห็นใครโพสเป็นเตตัสตัวเอง แต่ไปแอบถ่ายชาวบ้านมาลงนี่...ก็เยอะ) ขนาดจะเดิน, ขับรถ, โดยเฉพาะมอ'ไซค์เจอประจำ ขี่แม่มมือเดียวบ้าง หนีบคอบ้าง จะเลี้ยวจะตรงกูก็จะไปไม่สน ใครบีบแตรใส่ยังเจื่อกหันมามองหน้าตาขวางเค้าอีก... ไอ้พวกเดินเล่นก็เดินกดแม่มไม่สนจะชนใคร, เหยียบเท้าใคร ชนเสร็จ เหยียบเค้าเสร็จเจื่อกเงยมาทำหน้าซ่งติงๆเหมือนเมิงเดินยังไงไม่หลบกูวะอีกต่างหาก...

 

-_-  ฯลฯ อื่นๆอีกมากมายขอรับ ท่านอื่นๆมองเห็นกันอย่างไรอีกบ้างขอรับ มาแชร์ความรู้สึกกันดูขอรับ บ่นกันดังๆ, เยอะๆอาจจะไปสะกิดต่อมสันดานผู้มีอำนาจให้เหลียวมามองมั่งก็ได้นะขอรับ...


Edited by wat, 18 มกราคม พ.ศ. 2556 - 12:30.

:) Sometime...Sun shine through the rain...

#2 nameless

nameless

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 143 posts

ตอบ 18 มกราคม พ.ศ. 2556 - 12:40

ผมคิดอย่างนี้อะ

 

ไอ้พวกอาศัยแอร์มาสอนพิเศษนั่นก็ไม่ยอมลงทุนหาสถานที่ กะรับทรัพย์อย่างเดียวไม่หักภาษี

 

กาแฟสตาร์บังผมกินแล้วก็งั้นๆอาศัยคล้ายแบรนด์ดังมาหากิน จริงๆวิวัฒนาการมันต้องเริ่มจากสร้างกาแฟอร่อยให้คนมาติดแบรนด์แต่นี่อาศัยแบรนด์คนอื่นแถมกาแฟไม่อร่อย

 

พวกที่จอดรถที่คนพิการผมว่าสังคมเขาประนามอยู่แล้ว

 

เมืองนอกเขาก็มีตีกันนะ แต่ถ้าจะให้เปรียบเทียบกันแล้ว ที่เป็นข่าวฝรั่งเขาจะบุกเดี่ยวเอาปื่นกลไปยิงใส่เด็กๆ ส่วนของเราต้องรวมเป็นฝูงเอ๊ย หมู่ ถึงจะมีความกล้า สรุปยังไงก็เลวทั้งก๊กเพราะตีกันฆ่ากันไม่มีสาเหตุเลย



#3 พระฤๅษี

พระฤๅษี

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,127 posts

ตอบ 18 มกราคม พ.ศ. 2556 - 12:53

สังคมไทย...คุณวัตรโบสถ์...ปลูกข้าวโพดสาลี. มันเป็นสังคมที่

เละเทะ มานานแล้ว.แถวยิ่งนับวัน ยิ่งเละมากขึ้น จะเป็นโจ๊ก ไร้

หมู-ไร้ไข่.อยู่แล้ว.ฟอนเฟะ จับฉ่าย.ไร้ยาง.อ้างสิบห้าล้าน.ผลาญ-

งบ. จบล่ะมั๊ง...เมืองไทย....ไชโย....!!!!!



#4 พ่อไอ้ร้อยล็อคอิน

พ่อไอ้ร้อยล็อคอิน

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,450 posts

ตอบ 18 มกราคม พ.ศ. 2556 - 12:54

เคยเจอกับตัว โลตัสลาดพร้าว รถกระบะรำตวจทะเบียนรำตวจ จำไม่ได้ว่าของท้องที่ไหน แต่ไม่ใช่ของท้องที่ลาดพร้าว ... จอดรถที่คนพิการ !!! เลยแซวกับ รปภ. ปัจจุบันคนพิการเป็นรำตวจได้แล้วเหรอ ^_^
อยากรู้ว่าประชาธิปไตยไทยเป็นแบบไหน ให้ดูการใช้รถใช้ถนนรู้จักกันแต่สิทธิ แต่ไม่เคยรู้จักหน้าที่ ในการปฏิบัติตามกฎระเบียบที่วางไว้

#5 annsomby

annsomby

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 75 posts

ตอบ 18 มกราคม พ.ศ. 2556 - 13:04

ประชาชนคนไทยเริ่มขาดคุณธรรม จริยธรรม และไร้ซึ่งจิตสำนึก อีกไม่นานสังคมจะยิ่งเน่าฟอนเฟะกว่าที่เป็นอยู่แน่ๆ



#6 plunk

plunk

    สลิปงินเดือนอยู่ไหนอ่ะ ไอ้คางครูด?

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,862 posts

ตอบ 18 มกราคม พ.ศ. 2556 - 13:06

คนไทยไม่มีระเบียบครับ อยากทำอะไรก็ทำ กฏหมายไม่ศักดิ์สิทธิ มันถึงเป็นแบบนี้
ทำได้ทันที ไม่ต้องกู้ พรรคไหนเห่าไว้ตอนหาเสียงวะ?และกระทู้ในตำนานของ คนขี้โกหก http://webboard.seri...้สลิปเงินเดือน/

#7 wat

wat

    เนตังมะมะ เนโสหะมัสมิ นะเมโสอัตตา.

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,542 posts

ตอบ 18 มกราคม พ.ศ. 2556 - 13:08

สังคมไทย...คุณวัตรโบสถ์...ปลูกข้าวโพดสาลี. มันเป็นสังคมที่

เละเทะ มานานแล้ว.แถวยิ่งนับวัน ยิ่งเละมากขึ้น จะเป็นโจ๊ก ไร้

หมู-ไร้ไข่.อยู่แล้ว.ฟอนเฟะ จับฉ่าย.ไร้ยาง.อ้างสิบห้าล้าน.ผลาญ-

งบ. จบล่ะมั๊ง...เมืองไทย....ไชโย....!!!!!

 

 

:wacko:   ตาเถรเรียกเหมือนย่ากระพ๊ม ตอนเด็กๆเลยขอรับ...

 

:(   เฮ้อออออ คิดถุงแกงผักบุ้งเทโพของย่าจัง ที่ไหนในปฐพีก็ไม่มีเหมือน แกไปแกงให้เทวดา นางฟ้ากินกันกี่หม้อแล้วหนอ...


:) Sometime...Sun shine through the rain...

#8 wat

wat

    เนตังมะมะ เนโสหะมัสมิ นะเมโสอัตตา.

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,542 posts

ตอบ 18 มกราคม พ.ศ. 2556 - 13:11

เคยเจอกับตัว โลตัสลาดพร้าว รถกระบะรำตวจทะเบียนรำตวจ จำไม่ได้ว่าของท้องที่ไหน แต่ไม่ใช่ของท้องที่ลาดพร้าว ... จอดรถที่คนพิการ !!! เลยแซวกับ รปภ. ปัจจุบันคนพิการเป็นรำตวจได้แล้วเหรอ ^_^

 

:rolleyes: ขับรถตรวจยังไม่ค่อยจะเห็นหัว ให้รำตรวจนี่สงสัยเผาเก็บกระดูกไปแล้วมั้งขอรับถึงจะโผล่มา...


:) Sometime...Sun shine through the rain...

#9 นายตัวเกร็ง

นายตัวเกร็ง

    Monkey Godfather Lv.3

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,901 posts

ตอบ 18 มกราคม พ.ศ. 2556 - 13:11

ทุกอย่างที่พูดมามันมาจากคำว่า
"ขาดวินัย"

และที่ฟอนเฟะ มิใช่สังคมแต่เป็นคนไทยนั่นแหละที่ฟอนเฟะ


เขียนเรื่องการเมือง : ดราม่า ,เขียนเรื่องสังคม : ดราม่า เขียนเรื่องบันเทิง : ดราม่า
แต่พอโพสเรื่องหื่น : มีความเห็นเป็นไปทางเดียวกันเสมอ >3<


#10 พระฤๅษี

พระฤๅษี

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,127 posts

ตอบ 18 มกราคม พ.ศ. 2556 - 14:04

  แหม...!!!จริง ๆ  อย่างคุณวัตรพูด  คนแต่เก่า ( ไม่ใช่ผ๊ม )

แกง ผงชูรสไม่มีใส่ด้วย  แต่เขาทำอร่อยมาก.  แกงเทโพ.

แกงส้มมะรุม.อากาศเย็นแบบนี้ก็ แกงส้มดอกแคกุ้งสด.

แกงใบมะขามอ่อนกับปลาแขยงไข่.ต้มส้มปลาทูสดใส่มะขาม

อ่อน. หั่นหอมแดงใส่ด้วยนะ  โอ...ซดโล่งจมูกดีแท้..พูดแล้ว

ก็คิดถึงแม่  สมัยจอมพลแปลก......ป่านนี้คงไปนั่งแกงเลี้ยง

( เทพยดา สัคคสถาน พิมานทิพย์ )  ไม่น่าปล่อยให้ลูกหลาน

อดโซอยู่เลย..... ไม่มีอะไรจะพูดกันแล้วนะ ?เอาญาติผู้ใหญ่- :P

มานินทากันเล่น.  โทษนะแม่ ตาวัตรแกชวน...!!!   :P     :o



#11 Shariff

Shariff

    สมาชิกหน้าตาดี

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,802 posts

ตอบ 18 มกราคม พ.ศ. 2556 - 14:09

ทุกอย่างที่พูดมามันมาจากคำว่า
"ขาดวินัย"

และที่ฟอนเฟะ มิใช่สังคมแต่เป็นคนไทยนั่นแหละที่ฟอนเฟะ

 

 

แสดงว่าที่เราบังคับให้เด็กตัดผมเกรียนมาตลอด

 

 

ไม่ไ่ด้ช่วยอะไรเลย เรื่องระเบียบวินัย

 

 

ขอแขวะเรื่องผมเกรียนหน่อยนะครับ

 

เพราะผมเป็นพวกไม่เห็นด้วยกับการบังคับตัดหัวเกรียน 

 

เรื่องนี้ขอเชียร์รัฐบาลที่ผมไม่รักหน่อย  :D


"การปลดปล่อยตัวเองออกจากความเป็นทาสทางความคิดมิใช่ใครอื่น, มีแต่เราเท่านั้นที่จะต้องกระทำ "จากเพลง Redemption song.

#12 นายตัวเกร็ง

นายตัวเกร็ง

    Monkey Godfather Lv.3

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,901 posts

ตอบ 18 มกราคม พ.ศ. 2556 - 14:14

ทุกอย่างที่พูดมามันมาจากคำว่า
"ขาดวินัย"

และที่ฟอนเฟะ มิใช่สังคมแต่เป็นคนไทยนั่นแหละที่ฟอนเฟะ

 

 

แสดงว่าที่เราบังคับให้เด็กตัดผมเกรียนมาตลอด

 

 

ไม่ไ่ด้ช่วยอะไรเลย เรื่องระเบียบวินัย

 

 

ขอแขวะเรื่องผมเกรียนหน่อยนะครับ

 

เพราะผมเป็นพวกไม่เห็นด้วยกับการบังคับตัดหัวเกรียน 

 

เรื่องนี้ขอเชียร์รัฐบาลที่ผมไม่รักหน่อย  :D

 

ก็ขนาดบังคับยังไม่อยากจะทำ....
ก็คิดดูเอาครับว่าต่อจะทำอะไรได้อีก
ขออนุญาตมองอีกมุม...


เขียนเรื่องการเมือง : ดราม่า ,เขียนเรื่องสังคม : ดราม่า เขียนเรื่องบันเทิง : ดราม่า
แต่พอโพสเรื่องหื่น : มีความเห็นเป็นไปทางเดียวกันเสมอ >3<


#13 wat

wat

    เนตังมะมะ เนโสหะมัสมิ นะเมโสอัตตา.

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,542 posts

ตอบ 18 มกราคม พ.ศ. 2556 - 14:18

  แหม...!!!จริง ๆ  อย่างคุณวัตรพูด  คนแต่เก่า ( ไม่ใช่ผ๊ม )

แกง ผงชูรสไม่มีใส่ด้วย  แต่เขาทำอร่อยมาก.  แกงเทโพ.

แกงส้มมะรุม.อากาศเย็นแบบนี้ก็ แกงส้มดอกแคกุ้งสด.

แกงใบมะขามอ่อนกับปลาแขยงไข่.ต้มส้มปลาทูสดใส่มะขาม

อ่อน. หั่นหอมแดงใส่ด้วยนะ  โอ...ซดโล่งจมูกดีแท้..พูดแล้ว

ก็คิดถึงแม่  สมัยจอมพลแปลก......ป่านนี้คงไปนั่งแกงเลี้ยง

( เทพยดา สัคคสถาน พิมานทิพย์ )  ไม่น่าปล่อยให้ลูกหลาน

อดโซอยู่เลย..... ไม่มีอะไรจะพูดกันแล้วนะ ?เอาญาติผู้ใหญ่- :P

มานินทากันเล่น.  โทษนะแม่ ตาวัตรแกชวน...!!!   :P     :o

 

:wacko:   น๊านนนน มาพาดพุงกระพ๊มอี๊ก...

 

:D


:) Sometime...Sun shine through the rain...

#14 wat

wat

    เนตังมะมะ เนโสหะมัสมิ นะเมโสอัตตา.

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,542 posts

ตอบ 18 มกราคม พ.ศ. 2556 - 14:20

ทุกอย่างที่พูดมามันมาจากคำว่า
"ขาดวินัย"

และที่ฟอนเฟะ มิใช่สังคมแต่เป็นคนไทยนั่นแหละที่ฟอนเฟะ

 

 

แสดงว่าที่เราบังคับให้เด็กตัดผมเกรียนมาตลอด

 

 

ไม่ไ่ด้ช่วยอะไรเลย เรื่องระเบียบวินัย

 

 

ขอแขวะเรื่องผมเกรียนหน่อยนะครับ

 

เพราะผมเป็นพวกไม่เห็นด้วยกับการบังคับตัดหัวเกรียน 

 

เรื่องนี้ขอเชียร์รัฐบาลที่ผมไม่รักหน่อย  :D

 

^_^  ยืนยันอีกคนขอรับ การตัดผมเกรียนมีผลเรื่องวินัยกับกระพ๊มมาจวบจนปัจจุบันขอรับ...

 

<_<  แต่จะโทษ "วินัย" จากโรงเรียนอย่างเดียวคงไม่ถูก มันน่าจะอยู่ที่ "***" จากทางบ้านด้วยนะขอรับ...


:) Sometime...Sun shine through the rain...

#15 Shariff

Shariff

    สมาชิกหน้าตาดี

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,802 posts

ตอบ 18 มกราคม พ.ศ. 2556 - 14:34

ทุกอย่างที่พูดมามันมาจากคำว่า
"ขาดวินัย"

และที่ฟอนเฟะ มิใช่สังคมแต่เป็นคนไทยนั่นแหละที่ฟอนเฟะ

 

 

แสดงว่าที่เราบังคับให้เด็กตัดผมเกรียนมาตลอด

 

 

ไม่ไ่ด้ช่วยอะไรเลย เรื่องระเบียบวินัย

 

 

ขอแขวะเรื่องผมเกรียนหน่อยนะครับ

 

เพราะผมเป็นพวกไม่เห็นด้วยกับการบังคับตัดหัวเกรียน 

 

เรื่องนี้ขอเชียร์รัฐบาลที่ผมไม่รักหน่อย  :D

 

^_^  ยืนยันอีกคนขอรับ การตัดผมเกรียนมีผลเรื่องวินัยกับกระพ๊มมาจวบจนปัจจุบันขอรับ...

 

<_<  แต่จะโทษ "วินัย" จากโรงเรียนอย่างเดียวคงไม่ถูก มันน่าจะอยู่ที่ "***" จากทางบ้านด้วยนะขอรับ...

 

แต่มันทำให้ผมเกลียดโรงเรียนครับ

 

ทั้งที่ผมเป็นรักการเรียนรู้มาก


"การปลดปล่อยตัวเองออกจากความเป็นทาสทางความคิดมิใช่ใครอื่น, มีแต่เราเท่านั้นที่จะต้องกระทำ "จากเพลง Redemption song.

#16 พระฤๅษี

พระฤๅษี

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,127 posts

ตอบ 18 มกราคม พ.ศ. 2556 - 14:36

ขอยืมหน้าบ้าน.ประชาสัมพันธ์หน่อย.นะ

เห็นคุณ( ตะนิ่นตาญี ) แว๊บบ ๆ  ขอฝาก

( ขวัญข้าว ด้วยนะ  ชื่อใน เสรีไทย ก็เดียว-

กัน  """ Kwan  Kao """ เขาไม่กล้าไปกด

ที่เฟซฯนะ ครับ.  เลยอาสาจะช่วยบอกให้

---------------------------------------------------

 

ขวัญ เอ้ยยยย   ฝันมา  บอกให้แล้วนะ....



#17 wat

wat

    เนตังมะมะ เนโสหะมัสมิ นะเมโสอัตตา.

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,542 posts

ตอบ 18 มกราคม พ.ศ. 2556 - 14:39

ขอยืมหน้าบ้าน.ประชาสัมพันธ์หน่อย.นะ

เห็นคุณ( ตะนิ่นตาญี ) แว๊บบ ๆ  ขอฝาก

( ขวัญข้าว ด้วยนะ  ชื่อใน เสรีไทย ก็เดียว-

กัน  """ Kwan  Kao """ เขาไม่กล้าไปกด

ที่เฟซฯนะ ครับ.  เลยอาสาจะช่วยบอกให้

---------------------------------------------------

 

ขวัญ เอ้ยยยย   ฝันมา  บอกให้แล้วนะ....

 

:huh:  อย่าบอกนะขอรับว่าลุงเป็นเรียม...

 

:blink: 


:) Sometime...Sun shine through the rain...

#18 MuuSang

MuuSang

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,604 posts

ตอบ 18 มกราคม พ.ศ. 2556 - 14:46


ทุกอย่างที่พูดมามันมาจากคำว่า
"ขาดวินัย"
และที่ฟอนเฟะ มิใช่สังคมแต่เป็นคนไทยนั่นแหละที่ฟอนเฟะ

 
 
แสดงว่าที่เราบังคับให้เด็กตัดผมเกรียนมาตลอด
 
 


ไม่ไ่ด้ช่วยอะไรเลย เรื่องระเบียบวินัย
 
 
ขอแขวะเรื่องผมเกรียนหน่อยนะครับ
 
เพราะผมเป็นพวกไม่เห็นด้วยกับการบังคับตัดหัวเกรียน 
 
เรื่องนี้ขอเชียร์รัฐบาลที่ผมไม่รักหน่อย  :D
 




มันหมดปัญญาแก้ปัญหาสมองเด็ก เลยแก้ที่ทรงผม
ชาติจะก้าวหน้าหรือไม่ อยู่ที่หัวเด็กก็จริง แต่อยู่ในสมอง หาใช้ที่ทรงผม

ไปเน้นสมอไม่ดีกว่าเรอะ คุณทรวงสึกสา
แม้นใครรัก รักมั่ง ชัง ชังตอบ

#19 พระฤๅษี

พระฤๅษี

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,127 posts

ตอบ 18 มกราคม พ.ศ. 2556 - 14:47

แหม..คุณวัตร  เขาอยากรู้จัก แต่เขาบอก

ไม่กล้ากด กลัวกดในเฟซฯ ไม่เป็นเลยเขา

บอกให้ช่วย.  ปกติ พอเย็นก็ออกจากเสรีไทย

เขาก็มักจะไปนั่งฟังเพลง ที่บ้านผม เพจผม

เพลงไพเราะนะ  ไปฟังซิเชิญนะ...สาวเย๊อะ

กดมาฟังเพลงคุยกัน  สนุก  นะ จะว่าไม่บอก



#20 wat

wat

    เนตังมะมะ เนโสหะมัสมิ นะเมโสอัตตา.

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,542 posts

ตอบ 18 มกราคม พ.ศ. 2556 - 14:52

แหม..คุณวัตร  เขาอยากรู้จัก แต่เขาบอก

ไม่กล้ากด กลัวกดในเฟซฯ ไม่เป็นเลยเขา

บอกให้ช่วย.  ปกติ พอเย็นก็ออกจากเสรีไทย

เขาก็มักจะไปนั่งฟังเพลง ที่บ้านผม เพจผม

เพลงไพเราะนะ  ไปฟังซิเชิญนะ...สาวเย๊อะ

กดมาฟังเพลงคุยกัน  สนุก  นะ จะว่าไม่บอก

 

:rolleyes:  ฮี่ๆๆ หูผึ่งๆๆ ที่ไหนง่ะขอรับลุง ขอแผนที่มั่งสิขอรับ...


:) Sometime...Sun shine through the rain...

#21 Moo3storey

Moo3storey

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,284 posts

ตอบ 18 มกราคม พ.ศ. 2556 - 15:23

สั้นๆนะครับ

 

คนสมัยนี้เห็นแก่ตัวครับ

(เอาแต่ได้ ชอบเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาล ทำอะไรไม่เอาใจเขามาใส่ใจเรา)

 

สมัยก่อนคนไทยเคยเป็นคนมีน้ำใจ แต่ยุคสมัยนี้น้ำใจกลายเป็นสิ่งที่หายาก



#22 ชามู

ชามู

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,296 posts

ตอบ 18 มกราคม พ.ศ. 2556 - 15:35

คนไทย เรียกร้องหาแต่สิทธ์

แต่ไม่รู้จักคำว่า หน้าที่
ชามู ปลาวาฬตัวใหญ่ ใจดี

#23 ตะนิ่นตาญี

ตะนิ่นตาญี

    La vie en rose

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,174 posts

ตอบ 18 มกราคม พ.ศ. 2556 - 15:44

ขอยืมหน้าบ้าน.ประชาสัมพันธ์หน่อย.นะ

เห็นคุณ( ตะนิ่นตาญี ) แว๊บบ ๆ  ขอฝาก

( ขวัญข้าว ด้วยนะ  ชื่อใน เสรีไทย ก็เดียว-

กัน  """ Kwan  Kao """ เขาไม่กล้าไปกด

ที่เฟซฯนะ ครับ.  เลยอาสาจะช่วยบอกให้

---------------------------------------------------

 

ขวัญ เอ้ยยยย   ฝันมา  บอกให้แล้วนะ....

 

 

ขอบพระคุณ คุณพี่ฯ มากครับ

 

เสร็จเรียบร้อยแล้วครับ...แหม ตะนิ่นตาญี เขียนอย่างนี้ อ่านแล้ว มันดู กำกวม ดีพิลึก

 

เอาเป็นว่า ตะนิ่นตาญี ยื่น คำร้อง ขอเป็นเพือน กับ คุณขวัญฯ เธอ แล้วครับ

 

ขอบพระคุณ คุณพี่ฯ มากครับ 

 

พูดถึง แกงเทโพ ของ คุณ wat สักนิดเถอะครับ

 

แกงหมูเทโพ หรือ ปลาเทโพ ครับ...สมัยก่อนเขาใช้ ปลาเทโพ หรือ ตะพาบ แล้วแต่จะมีอย่างใดให้เลือก

 

มาช่วงหลังหลังเริ่มมีใช้ หมูสามชั้น ก็อร่อยดีเหมือนกัน ฝานเอา มะอึก ใส่ไปด้วยให้มี รสฝาด นิดนิด และมี สีสรร 

 

เคยถาม คุณยาย ว่า ทำไมต้องใส่ ผักบุ้ง ไป เยอะเยอะ คุณยาย ของ ตะนิ่นตาญี ท่านบอกว่า

 

ปลาเทโพ มันจะได้มีที่ซ่อนไม่ให้ คนมาช้อนไปกิน จนหมดเร็ว   :D

 

ตะนิ่นตาญี

 

วันศุกร์ที่ ๑๘ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๖

 

เวลา ๑๕.๔๔ นาฬิกา


"จะยอมตายหมายให้เกียรติดำรง จะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา"

#24 wat

wat

    เนตังมะมะ เนโสหะมัสมิ นะเมโสอัตตา.

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,542 posts

ตอบ 18 มกราคม พ.ศ. 2556 - 15:52

ขอยืมหน้าบ้าน.ประชาสัมพันธ์หน่อย.นะ

เห็นคุณ( ตะนิ่นตาญี ) แว๊บบ ๆ  ขอฝาก

( ขวัญข้าว ด้วยนะ  ชื่อใน เสรีไทย ก็เดียว-

กัน  """ Kwan  Kao """ เขาไม่กล้าไปกด

ที่เฟซฯนะ ครับ.  เลยอาสาจะช่วยบอกให้

---------------------------------------------------

 

ขวัญ เอ้ยยยย   ฝันมา  บอกให้แล้วนะ....

 

 

ขอบพระคุณ คุณพี่ฯ มากครับ

 

เสร็จเรียบร้อยแล้วครับ...แหม ตะนิ่นตาญี เขียนอย่างนี้ อ่านแล้ว มันดู กำกวม ดีพิลึก

 

เอาเป็นว่า ตะนิ่นตาญี ยื่น คำร้อง ขอเป็นเพือน กับ คุณขวัญฯ เธอ แล้วครับ

 

ขอบพระคุณ คุณพี่ฯ มากครับ 

 

พูดถึง แกงเทโพ ของ คุณ wat สักนิดเถอะครับ

 

แกงหมูเทโพ หรือ ปลาเทโพ ครับ...สมัยก่อนเขาใช้ ปลาเทโพ หรือ ตะพาบ แล้วแต่จะมีอย่างใดให้เลือก

 

มาช่วงหลังหลังเริ่มมีใช้ หมูสามชั้น ก็อร่อยดีเหมือนกัน ฝานเอา มะอึก ใส่ไปด้วยให้มี รสฝาด นิดนิด และมี สีสรร 

 

เคยถาม คุณยาย ว่า ทำไมต้องใส่ ผักบุ้ง ไป เยอะเยอะ คุณยาย ของ ตะนิ่นตาญี ท่านบอกว่า

 

ปลาเทโพ มันจะได้มีที่ซ่อนไม่ให้ คนมาช้อนไปกิน จนหมดเร็ว   :D

 

ตะนิ่นตาญี

 

วันศุกร์ที่ ๑๘ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๖

 

เวลา ๑๕.๔๔ นาฬิกา

 

^_^  ทั้งสองแบบขอรับ แบบใช้ปลาเทโพ, ปลาสวาย ย่าท่านก็จะใส่อะไรเพิ่มไม่รู้ขอรับ เพราะรู้ว่าหลานไม่ชอบคาวปลาพวกนี้ มันแกงจะย่องแดงสวยเชียว ย่ากระพ๊มท่านใช้มันหมูเจียวเป็นน้ำมันเก็บไว้ให้พร้อมกากหมูเก็บใส้หม้อไว้ด้วย กลับจากโรงเรียนมาหิวซ่กๆ เอาน้ำมัน+กากหมูลงกะทะตั้งไฟให้ควันโขมงนิดๆ ตีใข่เจียวใส่ ตักข้าวร้อนๆเอาแกงราดๆๆ ตักใข่เจียวกากหมูโปะเข้าให้... ซู๊ดดดดย๊อดดดดด ในปฐพีแล้วขอรับ...

 

:(  แต่ตอนนี้ไม่มีอีกแล้ว เฮ้อออออออ  คิดถึงจัง...


:) Sometime...Sun shine through the rain...

#25 ตะนิ่นตาญี

ตะนิ่นตาญี

    La vie en rose

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,174 posts

ตอบ 18 มกราคม พ.ศ. 2556 - 15:54

ขอยืมหน้าบ้าน.ประชาสัมพันธ์หน่อย.นะ

เห็นคุณ( ตะนิ่นตาญี ) แว๊บบ ๆ  ขอฝาก

( ขวัญข้าว ด้วยนะ  ชื่อใน เสรีไทย ก็เดียว-

กัน  """ Kwan  Kao """ เขาไม่กล้าไปกด

ที่เฟซฯนะ ครับ.  เลยอาสาจะช่วยบอกให้

---------------------------------------------------

 

ขวัญ เอ้ยยยย   ฝันมา  บอกให้แล้วนะ....

 

 

ขอบพระคุณ คุณพี่ฯ มากครับ

 

เสร็จเรียบร้อยแล้วครับ...แหม ตะนิ่นตาญี เขียนอย่างนี้ อ่านแล้ว มันดู กำกวม ดีพิลึก

 

เอาเป็นว่า ตะนิ่นตาญี ยื่น คำร้อง ขอเป็นเพือน กับ คุณขวัญฯ เธอ แล้วครับ

 

ขอบพระคุณ คุณพี่ฯ มากครับ 

 

พูดถึง แกงเทโพ ของ คุณ wat สักนิดเถอะครับ

 

แกงหมูเทโพ หรือ ปลาเทโพ ครับ...สมัยก่อนเขาใช้ ปลาเทโพ หรือ ตะพาบ แล้วแต่จะมีอย่างใดให้เลือก

 

มาช่วงหลังหลังเริ่มมีใช้ หมูสามชั้น ก็อร่อยดีเหมือนกัน ฝานเอา มะอึก ใส่ไปด้วยให้มี รสฝาด นิดนิด และมี สีสรร 

 

เคยถาม คุณยาย ว่า ทำไมต้องใส่ ผักบุ้ง ไป เยอะเยอะ คุณยาย ของ ตะนิ่นตาญี ท่านบอกว่า

 

ปลาเทโพ มันจะได้มีที่ซ่อนไม่ให้ คนมาช้อนไปกิน จนหมดเร็ว   :D

 

ตะนิ่นตาญี

 

วันศุกร์ที่ ๑๘ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๖

 

เวลา ๑๕.๔๔ นาฬิกา

 

^_^  ทั้งสองแบบขอรับ แบบใช้ปลาเทโพ, ปลาสวาย ย่าท่านก็จะใส่อะไรเพิ่มไม่รู้ขอรับ เพราะรู้ว่าหลานไม่ชอบคาวปลาพวกนี้ มันแกงจะย่องแดงสวยเชียว ย่ากระพ๊มท่านใช้มันหมูเจียวเป็นน้ำมันเก็บไว้ให้พร้อมกากหมูเก็บใส้หม้อไว้ด้วย กลับจากโรงเรียนมาหิวซ่กๆ เอาน้ำมัน+กากหมูลงกะทะตั้งไฟให้ควันโขมงนิดๆ ตีใข่เจียวใส่ ตักข้าวร้อนๆเอาแกงราดๆๆ ตักใข่เจียวกากหมูโปะเข้าให้... ซู๊ดดดดย๊อดดดดด ในปฐพีแล้วขอรับ...

 

:(  แต่ตอนนี้ไม่มีอีกแล้ว เฮ้อออออออ  คิดถึงจัง...

 

 

อยากบอกว่า ชอบ ครับ แต่ like หมด

 

ขออนุญาตบอกด้วยปากเปล่าแทนครับ 

 

ตะนิ่นตาญี


"จะยอมตายหมายให้เกียรติดำรง จะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา"

#26 กากจริงไรจริง

กากจริงไรจริง

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,172 posts

ตอบ 18 มกราคม พ.ศ. 2556 - 16:07

คนไทย เรียกร้องหาแต่สิทธ์

แต่ไม่รู้จักคำว่า หน้าที่

ถูกต้องที่สุด

สิทธิ์ของคนสมัยนี้ชอบต่อด้วยเสรีภาพ ทั้งที่ควรจะเป็นสิทธิ์และหน้าที่

Welcome to MONKEY generation!



#27 ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

    หน้าตาดี มีอุดมการณ์

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 21,670 posts

ตอบ 18 มกราคม พ.ศ. 2556 - 16:47

ตอบทีละข้อนะครับท่าน

-เรื่องแมคฯ  ร้านทำถูกแล้ว  คนเราเห็นแก่ตัว

ทางแก้  

หากทุกร้านพร้อมใจกันวางกฎแบบนี้ คนเห็นแก่ตัวจะยอมตามเอง

 

-เรื่องเยาวชนตีกัน  มีมานานแล้วไม่ใช่เพิ่งมี  แก้ไม่ได้ด้วย เพราะมันกะมาตีกันโดยเฉพาะ

ทางแก้

ที่ผมเคยทำแล้วได้ผลมาก (เพราะผมเคยทำคอนเสิร์ตร็อคมาก่อน) คือต้องคุมเข้ม แถวต่อแถว  

และจับตาดูกลุ่มเสี่ยงเป็นพิเศษ  มันก็จะนัดออกไปตีกันข้างนอก ไม่มาตีกันในคอนเสิร์ตผมครับ

 

-เรื่องที่จอดรถ  เป็นการไม่ได้รับการอบรมสั่งสอนจากครอบครัว เลยมักง่าย เห็นแก่ตัว

ทางแก้

หน่วยครอบครัวต้องเป็นหน่วยแรกที่สั่งสอนเรื่องจิตสาธารณะ  การเคารพผู้อื่น

ตามมาด้วยรร.ต้องสั่งสอนเด็กตั้งแต่เล็กๆ  แล้วเด็กรุ่นนี้โตขึ้นจะไม่เป็นแบบนี้ครับ

 

 

เราจึงเห็นได้ว่า ทางแก้นั้นมีครับ มันไม่ใช่ปัญหาถาวรที่แก้ไม่ได้

แต่ต้องเริ่มที่ผู้ใหญ่ก่อนเลย คือ

1. ผู้ใหญ่ต้องเริ่มที่การวางกติกาให้ชัด ป้องกันการกระทำแบบนี้

2. ผู้ใหญ่ต้องอบรมเด็กๆ ทำให้ดูเป็นแบบอย่างครับ


gladiator 1.jpg

 

 

 

 

 

 


#28 MIRO

MIRO

    Praise the Sun

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,883 posts

ตอบ 18 มกราคม พ.ศ. 2556 - 17:52

นิสัยคนเรามักง่ายเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว

ผมเองก็มักง่าย แต่ก็ไม่ถึงกับไปเกะกะระรานใครขนาดนั้น

 

ผมไม่เชื่อว่าใครจะไม่เคยมักง่ายนะ..ทุกคนน่าจะมีเรื่องมักง่ายกันมาหมดแล้ว

เช่น เข้าเว็บโหลดบิทเพลง หนัง อันนี้ก็ใช่...ใช้ซอฟแวร์ละเมิดลิขสิทธิ์ก็ใช่

สนับสนุนของเทียมก็ใช่อีก...ทิ้งขยะไม่ลงถัง อันนั้นก็ใช่ สูบบุหรี่แล้วดีดลงท่อ แบบน่าตบเกรียน..

เมาแล้วขับ เมาแล้วอ้วกข้างทาง..หรือเรื่องเบสิคเลย คือ ลอกการบ้านเพื่อน

 

ทั้งหมดคือความมักง่าย

มีอยู่ในทุกสังคมนั่นแหละ

ประเทศไทยก็ไม่ได้ด้อยไปกว่า อเมริกา ญี่ปุ่น ในเรื่องนี้..ทุกๆที่มีความมักง่าย

 

ผมมองว่ามันเป็นสัญชาตญาณของสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า คน

เรามักจะฉกฉวยอะไรก็ตามที่คิดว่าสะดวก สบาย และต้นทุนต่ำๆ ซึ่งอย่างหลังคือตัวกำหนดทางเลือก

 

การเดินลัดสนามหญ้า..มันไม่เหนื่อยหรือเหนื่อยน้อยกว่าเดิมอ้อมสนาม หากถูกจับได้อย่างมากก็แค่โดนบ่น

ต้นทุนของการเดินลัดสนามมันจึงต่ำเมื่อเทียบกับประโยชน์ที่ได้รับ คือ ไม่เหนื่อยและประหยัดเวลา

..จึงเลือกเดินลัดสนาม

 

โจ๋ตีกัน มันก็เรื่องมักง่าย..ไม่มีโจ๋บ้าพลังคนไหนคิดว่ามาตีกันแล้วตัวเองจะตาย ต้นทุนเรื่องกลัวตายจึงต่ำ ถูกตำรวจรวบก็แค่บันทึกประวัติแล้วให้พ่อแม่มารับกลับไปโอ๋..ต้นทุนส่วนนี้ก็ต่ำ..แลกกับการได้แสดงแสนยานุภาพของกลุ่ม ของสถาบันกลางงานคอนเสิร์ต อะดีนลีนคนวัยเปรี้ยวมันแผ่ซ่านท่ามกลางฝูงเพื่อน..สร้างชื่อเสียงให้กับสติปัญญาพิการๆของมัน บางคนถือโอกาสได้ลองของกันไป..มันจึงกล้าที่จะเลือกประลองพลัง

 

วิธีแก้ไขง่ายนิดเดียวครับ เพิ่มต้นทุนความกลัวให้กับสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าคน  เช่น บทลงโทษ ความเข้มงวด ที่ทำได้จริงๆ

มันก็จะช่วยลดปัญหาเหล่านี้ลงได้..เพียงแต่ที่ผ่านมาเราไม่จริงจังหรืออาจไม่อยากจริงจัง..

 

อย่างธุรกิจผิดกฎหมายมีอยู่ทั่วประเทศ ก็เพราะคนมีหน้าที่ดูแล "ไม่อยากจริงจัง"

ต้นทุนของพวกธุรกิจผิดกฎหมายจึงต่่ำ โกยทรัพย์กันมหาศาล แบ่งสรรปันส่วนได้กันทั่วหน้า

ดังนั้นวิธีแก้ที่ควรจะแก้ไขมันให้ได้ก่อนก็คือความจริงจัง

 

 

ทุกๆที่บนโลกมีความมักง่าย..แต่แตกต่างกันตรงที่ "ความจริงจัง" ในการเพิ่มต้นทุนให้กับความมักง่ายเหล่านั้นครับ


Edited by MIRO, 18 มกราคม พ.ศ. 2556 - 17:56.

The most valuable things in life are not measured in monetary terms.

The really important things are not houses and lands, stocks and bonds, automobiles and real estate,

but friendships, trust, confidence, empathy, mercy, love and faith.


#29 wat

wat

    เนตังมะมะ เนโสหะมัสมิ นะเมโสอัตตา.

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,542 posts

ตอบ 18 มกราคม พ.ศ. 2556 - 22:09

ตอบทีละข้อนะครับท่าน

-เรื่องแมคฯ  ร้านทำถูกแล้ว  คนเราเห็นแก่ตัว

ทางแก้  

หากทุกร้านพร้อมใจกันวางกฎแบบนี้ คนเห็นแก่ตัวจะยอมตามเอง

 

-เรื่องเยาวชนตีกัน  มีมานานแล้วไม่ใช่เพิ่งมี  แก้ไม่ได้ด้วย เพราะมันกะมาตีกันโดยเฉพาะ

ทางแก้

ที่ผมเคยทำแล้วได้ผลมาก (เพราะผมเคยทำคอนเสิร์ตร็อคมาก่อน) คือต้องคุมเข้ม แถวต่อแถว  

และจับตาดูกลุ่มเสี่ยงเป็นพิเศษ  มันก็จะนัดออกไปตีกันข้างนอก ไม่มาตีกันในคอนเสิร์ตผมครับ

 

-เรื่องที่จอดรถ  เป็นการไม่ได้รับการอบรมสั่งสอนจากครอบครัว เลยมักง่าย เห็นแก่ตัว

ทางแก้

หน่วยครอบครัวต้องเป็นหน่วยแรกที่สั่งสอนเรื่องจิตสาธารณะ  การเคารพผู้อื่น

ตามมาด้วยรร.ต้องสั่งสอนเด็กตั้งแต่เล็กๆ  แล้วเด็กรุ่นนี้โตขึ้นจะไม่เป็นแบบนี้ครับ

 

 

เราจึงเห็นได้ว่า ทางแก้นั้นมีครับ มันไม่ใช่ปัญหาถาวรที่แก้ไม่ได้

แต่ต้องเริ่มที่ผู้ใหญ่ก่อนเลย คือ

1. ผู้ใหญ่ต้องเริ่มที่การวางกติกาให้ชัด ป้องกันการกระทำแบบนี้

2. ผู้ใหญ่ต้องอบรมเด็กๆ ทำให้ดูเป็นแบบอย่างครับ

 

 

นิสัยคนเรามักง่ายเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว

ผมเองก็มักง่าย แต่ก็ไม่ถึงกับไปเกะกะระรานใครขนาดนั้น

 

ผมไม่เชื่อว่าใครจะไม่เคยมักง่ายนะ..ทุกคนน่าจะมีเรื่องมักง่ายกันมาหมดแล้ว

เช่น เข้าเว็บโหลดบิทเพลง หนัง อันนี้ก็ใช่...ใช้ซอฟแวร์ละเมิดลิขสิทธิ์ก็ใช่

สนับสนุนของเทียมก็ใช่อีก...ทิ้งขยะไม่ลงถัง อันนั้นก็ใช่ สูบบุหรี่แล้วดีดลงท่อ แบบน่าตบเกรียน..

เมาแล้วขับ เมาแล้วอ้วกข้างทาง..หรือเรื่องเบสิคเลย คือ ลอกการบ้านเพื่อน

 

ทั้งหมดคือความมักง่าย

มีอยู่ในทุกสังคมนั่นแหละ

ประเทศไทยก็ไม่ได้ด้อยไปกว่า อเมริกา ญี่ปุ่น ในเรื่องนี้..ทุกๆที่มีความมักง่าย

 

ผมมองว่ามันเป็นสัญชาตญาณของสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า คน

เรามักจะฉกฉวยอะไรก็ตามที่คิดว่าสะดวก สบาย และต้นทุนต่ำๆ ซึ่งอย่างหลังคือตัวกำหนดทางเลือก

 

การเดินลัดสนามหญ้า..มันไม่เหนื่อยหรือเหนื่อยน้อยกว่าเดิมอ้อมสนาม หากถูกจับได้อย่างมากก็แค่โดนบ่น

ต้นทุนของการเดินลัดสนามมันจึงต่ำเมื่อเทียบกับประโยชน์ที่ได้รับ คือ ไม่เหนื่อยและประหยัดเวลา

..จึงเลือกเดินลัดสนาม

 

โจ๋ตีกัน มันก็เรื่องมักง่าย..ไม่มีโจ๋บ้าพลังคนไหนคิดว่ามาตีกันแล้วตัวเองจะตาย ต้นทุนเรื่องกลัวตายจึงต่ำ ถูกตำรวจรวบก็แค่บันทึกประวัติแล้วให้พ่อแม่มารับกลับไปโอ๋..ต้นทุนส่วนนี้ก็ต่ำ..แลกกับการได้แสดงแสนยานุภาพของกลุ่ม ของสถาบันกลางงานคอนเสิร์ต อะดีนลีนคนวัยเปรี้ยวมันแผ่ซ่านท่ามกลางฝูงเพื่อน..สร้างชื่อเสียงให้กับสติปัญญาพิการๆของมัน บางคนถือโอกาสได้ลองของกันไป..มันจึงกล้าที่จะเลือกประลองพลัง

 

วิธีแก้ไขง่ายนิดเดียวครับ เพิ่มต้นทุนความกลัวให้กับสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าคน  เช่น บทลงโทษ ความเข้มงวด ที่ทำได้จริงๆ

มันก็จะช่วยลดปัญหาเหล่านี้ลงได้..เพียงแต่ที่ผ่านมาเราไม่จริงจังหรืออาจไม่อยากจริงจัง..

 

อย่างธุรกิจผิดกฎหมายมีอยู่ทั่วประเทศ ก็เพราะคนมีหน้าที่ดูแล "ไม่อยากจริงจัง"

ต้นทุนของพวกธุรกิจผิดกฎหมายจึงต่่ำ โกยทรัพย์กันมหาศาล แบ่งสรรปันส่วนได้กันทั่วหน้า

ดังนั้นวิธีแก้ที่ควรจะแก้ไขมันให้ได้ก่อนก็คือความจริงจัง

 

 

ทุกๆที่บนโลกมีความมักง่าย..แต่แตกต่างกันตรงที่ "ความจริงจัง" ในการเพิ่มต้นทุนให้กับความมักง่ายเหล่านั้นครับ

 

:)  กระพ๊มเชื่อว่ามันเริ่มจาก "ครอบครัว" ทุกๆคำตอบนั่นแหละขอรับ สังคมในอดีตที่กระพ๊มยังมีโอกาสได้สัมผัสในหลายๆมิติ ด้วยความที่ชีวิตต้องร่อนเร่เพนจรแต่เด็กๆ ทำให้ได้เห็น และเก็บเกี่ยวภูมิบางอย่างของแต่ละที่, แต่ละคนที่มีโอกาสได้ไปอยู่ร่วมกับท่านเหล่านั้น แล้วท่านเหล่านั้นก็ได้สอนสั่ง, ให้แง่คิด, ให้ตัวอย่างชีวิตมาบ้างขอรับ...

 

...หากแต่ในยุคที่ทรัพยากรลดลงอย่างฮวบฮาบ เพราะไปกองรวมอยู่กับคนแค่บางกลุ่ม ไม่ใช่เพราะการใช้งานของคนทุกกลุ่มในสังคมอย่างเท่าเทียม ความยุติธรรมของคนในสังคมเสื่อมสลาย วัตถุต่างๆเข้ามาแทนที่ศีลธรรม กลายเป็น "วัตถุ" คือรูปธรรมที่ยุติธรรมเพราะจับต้องได้ "ศีลธรรม" มันก็แค่นามธรรมที่กินไม่อิ่ม จนกระทั่งวลีที่ว่า "ทำดีได้ดีมีที่ไหน ทำชั่วได้ดีมีถมไป" กลายเป็นดั่ง "สัจธรรม" ของคนในแผ่นดินนี้อย่างทุกวันนี้ขอรับ...

 

..."มักง่าย" เพราะอยากได้อยากมีง่ายๆก็ด้านหนึ่งสำหรับกระพ๊ม แต่อย่างที่เรียนท่านๆข้างต้น จากชีวิตที่สัมผัส, เรียนรู้เป็นประสบการณ์มา... เอาตัวรอดและยืนหยัดมาถึงวันนี้ได้ ส่วนหนึ่งก็คือ "วินัย" ที่ได้รับการสั่งสม, สั่งสอนมาจากครอบครัว, โรงเรียน, โลกกว้าง (เหมือนกับที่ว่า "หัวเกรียน" มาก่อนนั่นแหละขอรับ) แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคงจะแปลความหมายต่างๆของแต่ละบทเรียนจากแต่ละที่ไม่ได้... หากไม่ได้การเริ่มต้นที่ "ครอบครัว" ขอรับ และคนที่จะนำครอบครัว หากต้องดิ้นรน กระเสือกกระสน ฟันฝ่ากองกิเลสของสังคมเพื่อก้าวไปสู่ความเป็นส่วนหนึ่งของสังคมแบบ "นิยมวัตถุ" เด็กมันจะเป็นเยี่ยงไรได้ล่ะขอรับ...

 

...มันต้องเริ่มที่ "ผู้ใหญ่" กระพ๊มเห็นด้วยขอรับ... หากแต่ไม่เริ่มแต่ "ตอนนี้" รอให้รุ่นที่โตมาด้วยดวงกับวัตถุเป็นผู้ใหญ่... แล้วจะสอนอะไรกันล่ะหนอ ในเมื่อพ่อ, แม่เป็นพ่อปู, แม่ปู... จะไปบอกให้ลูกเดินตรงๆ ในกระด้งให้ได้ไปก่อน พอเดินตรงได้แข็งแรงแล้ว ค่อยกระโดดออกจากกระด้งไปก็ไม่เป็นไร...

 

^_^  นี่แหละขอรับ มุมมองกระพ๊มที่มองสังคมนี้, แผ่นดินนี้มันจะไปอย่างไร มันจะเจริญเป็นอริยะกันได้อย่างไร หากแต่คนผู้ส่วนใหญ่ หรือผู้นำทาง ไม่เดินไปตาม "ธรรม" ...


Edited by wat, 18 มกราคม พ.ศ. 2556 - 22:10.

:) Sometime...Sun shine through the rain...

#30 ONETHAI

ONETHAI

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 962 posts

ตอบ 18 มกราคม พ.ศ. 2556 - 22:11

ทุกอย่างที่พูดมามันมาจากคำว่า
"ขาดวินัย"

และที่ฟอนเฟะ มิใช่สังคมแต่เป็นคนไทยนั่นแหละที่ฟอนเฟะ

 

 

แสดงว่าที่เราบังคับให้เด็กตัดผมเกรียนมาตลอด

 

 

ไม่ไ่ด้ช่วยอะไรเลย เรื่องระเบียบวินัย

 

 

ขอแขวะเรื่องผมเกรียนหน่อยนะครับ

 

เพราะผมเป็นพวกไม่เห็นด้วยกับการบังคับตัดหัวเกรียน 

 

เรื่องนี้ขอเชียร์รัฐบาลที่ผมไม่รักหน่อย  :D

 

^_^  ยืนยันอีกคนขอรับ การตัดผมเกรียนมีผลเรื่องวินัยกับกระพ๊มมาจวบจนปัจจุบันขอรับ...

 

<_<  แต่จะโทษ "วินัย" จากโรงเรียนอย่างเดียวคงไม่ถูก มันน่าจะอยู่ที่ "***" จากทางบ้านด้วยนะขอรับ...

ผมเห็นพ่อขับรถสวนเลนไปส่งลูกทุกเช้า มันอาจเป็นเรื่องเล็กๆ

แต่มันก็จะเป็นปัญหาใหญ่ในกี่ไม่กี่ปีข้างหน้าแน่นอน



#31 เส้นใหญ่ไม่งอก

เส้นใหญ่ไม่งอก

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,033 posts

ตอบ 18 มกราคม พ.ศ. 2556 - 22:29

ไม่มีวันแก้ปัญหาสังคมเหล่านี้ได้ครับ.........ฟันธง

 

เพราะคนไทยส่วนใหญ่ไม่ได้ถูกฝึกให้มีสำนึกสาธารณะ



#32 อู๋ ฮานามิ

อู๋ ฮานามิ

    สมาชิกหน้าเก่า

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 12,018 posts

ตอบ 18 มกราคม พ.ศ. 2556 - 22:41

เป็นอีกกระทู้หนึ่งที่น่าคิด จริงๆ 

 

คนไทยบางคน ได้ทำลายบรรยากาศของ "สังคมอารยะ จากประชาชนที่มีคุณภาพ" ไปเยอะ 

เพราะความเห็นแก่ตัว เช่น อาศัยน้ำใจของคนไปหลอกลวงคนอื่น ทำให้อยู่กันหวาดระแวง รู้หน้าไม่รู้ใจ

ฝ่าฝืนกฎระเบียบ(ที่เหมาะสม) เพียงเพราะมักง่าย หรือคิดต่างแบบโง่ๆ ไม่ว่าจะเป็นกฎจราจร หรือกฎเกณฑ์ที่สถานที่ต่างๆ ระบุไว้

ปกป้องสิทธิส่วนบุคคลเฉพาะตัวของกูเอง แต่ไม่แคร์สิทธิส่วนบุคคลของคนอื่น

 

ผมเห็นด้วยนะครับ ที่ผู้ใหญ่ก็ต้องเป็นตัวอย่างให้เด็กเห็น 

เอาเคสเก่าๆ ที่เคยเจอกับตัวเลย เมื่อสมัยผมเรียนอยู่ประถม เพื่อนผมคนหนึ่งเอาขนมมากินในห้องเรียน

ผมก็พูดห้าม แล้วชวนไปกินที่โรงอาหาร เพื่อนก็ย้อนกลับไปว่า "ทีครูยังเอาอะไรมากินในห้องธุรการได้เลย ไม่เห็นกินที่โรงอาหาร" 

เออ...เอากับเขาสิครับ

 

ไม่ต้องถามนะครับว่าวินัยเอาอะไรมาชี้วัด เอาเกณฑ์อะไรมาตัดสิน

เพียงแค่รู้ ใจเขาใจเรา ก็น่าจะเข้าใจแล้วนะครับ 

 

ทำอะไรต้องรับผิดชอบ รับทั้งผิดทั้งชอบ

ไม่ใช่ชอบแต่ รับชอบ อย่างเดียว


Edited by อู๋ ฮานามิ, 18 มกราคม พ.ศ. 2556 - 22:42.

ถึงผมจะเป็นคนหัวขบถ แต่ไม่คิดทรยศบุญคุณแผ่นดินเกิด

 

เสียงส่วนใหญ่ของประชาชน ไม่ใช่ใบอนุญาตทำร้ายประเทศชาติ


#33 พระฤๅษี

พระฤๅษี

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,127 posts

ตอบ 19 มกราคม พ.ศ. 2556 - 10:15

เห็นด้วย ๆ สำหรับผมคิดว่า  ถ้าคนส่วนใหญ่ ศึกษาเรียนรู้

รัฐธรรมนูญ...รู้สิทธิ-หน้าที่..ผมเชื่อเลยว่า..จะได้นักการ-

เมืองที่มีคุณภาพมากกว่านี้แน่นอน.  หลายประเทศ ประชาชน

ของเขา..ควบคุม..นักการเมือง แม้แต่ ญี่ปุ่น ผู้นำของเขาแค่

นั่งหลับนิดเดียว ถูกสื่อตำหนิ  เขาลาออกทันที..แต่ก็มีอีกหลาย

ประเทศที่พอเข้าไปนั่งในสภาแล้ว..ก็..ควบคุม..ประชาชน ทำทุก-

อย่างเพื่อตนและพวกพ้อง...มันจะแก้ไขอย่างไร ? ถ้านักการเมือง

ยังมีสำนึกแบบนี้.( ส่วนใหญ่จะเข้าไปทำธุรกิจการเมือง ) ยาก ๆ .

จริง ๆ ต้องแก้ที่นักการเมือง..( ปัญหาเกิดที่นักการเมือง ) . 



#34 คุณนายนอกบ้าน

คุณนายนอกบ้าน

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,281 posts

ตอบ 19 มกราคม พ.ศ. 2556 - 10:22

วิชาหน้าที่พลเมืองหานไปจากหลักสูตรประถมศึกษานานแล้วค่ะ
ส่วนตัวจะสอนลูกเสมอ
เรื่องสำนึกสถารณะ
การเคารพกฏหมาย
เคารพสิทธิ์ของผู้อื่น
ไม่เบียดเบียนใครแต่ไม่ยอมให้ใคีมาเอาเปรียบ

ประมาณนี้ค่ะ

#35 คุณนายนอกบ้าน

คุณนายนอกบ้าน

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,281 posts

ตอบ 19 มกราคม พ.ศ. 2556 - 10:26

เห็นด้วย ๆ สำหรับผมคิดว่า  ถ้าคนส่วนใหญ่ ศึกษาเรียนรู้
รัฐธรรมนูญ...รู้สิทธิ-หน้าที่..ผมเชื่อเลยว่า..จะได้นักการ-
เมืองที่มีคุณภาพมากกว่านี้แน่นอน.  หลายประเทศ ประชาชน
ของเขา..ควบคุม..นักการเมือง แม้แต่ ญี่ปุ่น ผู้นำของเขาแค่
นั่งหลับนิดเดียว ถูกสื่อตำหนิ  เขาลาออกทันที..แต่ก็มีอีกหลาย
ประเทศที่พอเข้าไปนั่งในสภาแล้ว..ก็..ควบคุม..ประชาชน ทำทุก-
อย่างเพื่อตนและพวกพ้อง...มันจะแก้ไขอย่างไร ? ถ้านักการเมือง
ยังมีสำนึกแบบนี้.( ส่วนใหญ่จะเข้าไปทำธุรกิจการเมือง ) ยาก ๆ .
จริง ๆ ต้องแก้ที่นักการเมือง..( ปัญหาเกิดที่นักการเมือง ) . 

เมื่อก่อนเบื่อนักการเมืองรุ่นเก่า อยากได้คนรุ่นใหม่ที่เป็นน้ำดี

ลองดูรัฐมนตรีปัจจุบัน ดีกรี PhD. เน่ากว่านักการเมืองรุ่นเติ้ง รุ่นชาละวัน อีก

#36 พระฤๅษี

พระฤๅษี

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,127 posts

ตอบ 19 มกราคม พ.ศ. 2556 - 11:25

เคยดีใจนะครับ คุณนายฯ  ครั้งหนึ่ง ( เคยยืนกอดอก ) แหงนหน้า

ดูมันฟังมัน โน่น ยืนแหกปากอยู่หลังรถ ( ๑๔ ตุลา ) ต่อมาไม่นาน

เด็กกลุ่มนี้ ก็เข้า..พลังธรรม..เออ..ดีใจนะ.ตอนนั้น เพราะสนับสนุน

คุณจำลองมาตั้งแต่ลงผู้ว่า กทม . ต่อมา พลังธรรมล่ม คนกลุ่มนี้ก็

เข้า ..ไทยรักไทย.. ก็ยังไม่รู้ พฤติกรรม.ของไอ้แม้ว  แต่เมื่อเกิดเหตุ

...ซุกหุ้น...  ( คนกลุ่มนี้น่าจะโดดออก) เพราะไม่ถูกต้องแล้ว  แต่ก็

เห็นคนกลุ่มนี่เงียบ. และยังยึดติด..ลาภยศ..ศรัทธากับคนกลุ่มนี้ก็

หายหมด..ตอนนี้ยิ่งแย่ลงทุกที  (  คนรุ่นใหม่ ) ที่เข้าสู่การเมือง กลาย

เป็น...เด็กของคนนั้น.คนนี้. มีนักการเมือง.มีนายทุน. คอยหนุนหลัง

แล้วมันจะเหลืออะไรล่ะ ...คุณนายฯ ....คงต้องรอดูความบรรลัย......

ที่ใกล้จะเกิดขึ้น..คิดว่าคงไม่ช้านัก...... 



#37 Shariff

Shariff

    สมาชิกหน้าตาดี

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,802 posts

ตอบ 19 มกราคม พ.ศ. 2556 - 13:53

.........

 

 

ทุกๆที่บนโลกมีความมักง่าย..แต่แตกต่างกันตรงที่ "ความจริงจัง" ในการเพิ่มต้นทุนให้กับความมักง่ายเหล่านั้นครับ

 

ชัดเจนครับ

 

 

บ้านเรากำหนดต้นทุนของการมักง่ายต่ำมาก

 

เปรียบเทียบง่ายๆ เรื่องเมาแล้วขับ

 

นิชคุณเมาแล้วขับที่เกาหลี โดนยึดใบขับขี่และโดนแบนงานแสดงทั้งหมด

 

แต่กลับมาเป็นพรีเซนเตอร์รถยนต์ในประเทศไทยได้สบาย

 

 

 

 

 

แล้วต้นทุนของการเมาแล้วขับของน้องหนูเกอลี่เบอร์รี่

 

มีเพียงการบำเพ็ญประโยชน์ที่บ้านเด็กกำพร้า

 

 

 

 

 

คนเมาแล้วขับบ้านเราจึงไม่มีทางหมดไป

 

นี่คือตัวอย่างเล็กๆของการกำหนดบทลงโทษของบ้านเรา


"การปลดปล่อยตัวเองออกจากความเป็นทาสทางความคิดมิใช่ใครอื่น, มีแต่เราเท่านั้นที่จะต้องกระทำ "จากเพลง Redemption song.

#38 annykun

annykun

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,567 posts

ตอบ 19 มกราคม พ.ศ. 2556 - 16:41

ทุกอย่างที่พูดมามันมาจากคำว่า
"ขาดวินัย"

และที่ฟอนเฟะ มิใช่สังคมแต่เป็นคนไทยนั่นแหละที่ฟอนเฟะ

 

 

แสดงว่าที่เราบังคับให้เด็กตัดผมเกรียนมาตลอด

 

 

ไม่ไ่ด้ช่วยอะไรเลย เรื่องระเบียบวินัย

 

 

ขอแขวะเรื่องผมเกรียนหน่อยนะครับ

 

เพราะผมเป็นพวกไม่เห็นด้วยกับการบังคับตัดหัวเกรียน 

 

เรื่องนี้ขอเชียร์รัฐบาลที่ผมไม่รักหน่อย  :D

 

^_^  ยืนยันอีกคนขอรับ การตัดผมเกรียนมีผลเรื่องวินัยกับกระพ๊มมาจวบจนปัจจุบันขอรับ...

 

<_<  แต่จะโทษ "วินัย" จากโรงเรียนอย่างเดียวคงไม่ถูก มันน่าจะอยู่ที่ "***" จากทางบ้านด้วยนะขอรับ...

 

แต่มันทำให้ผมเกลียดโรงเรียนครับ

 

ทั้งที่ผมเป็นรักการเรียนรู้มาก

 

ผมว่าบ้านเมืองเรามันเละเทะ  ก็เพราะ..... ยังไงดีล่ะ  มันลักลั่นย้อนแย้ง  มันแปลกพิลึกๆ  

เรื่องบางเรื่องเราอะลุ่มอะอล่วยได้  เรากลับบอกไม่  หัวเด็ดตีนขาดก็ไม่ยอม

ในขณะที่เรื่องบางเรื่องเราไม่ควรอะลุ่มอะล่วย  ไม่ควรละเว้น  เรากลับปล่อยปละ  ให้มันเกิดขึ้นมาได้ในสังคม

รู้ว่าผิดแต่ไม่มีใครทำอะไรได้  ปล่อยให้คนทำผิดกันได้มากขึ้น  มากขึ้น

 

กลับมาที่เรื่องทรงผม  ผมว่ามันเป็นเรื่องเล็กน้อยที่ปล่อยได้  แต่สังคมเรากลับต่อต้านอย่างรุนแรง

แต่ในขณะเดียวกัน  กฎจราจร  ละเมิดลิขสิทธิ์  นักเรียนตีกัน  หนังสือโป๊เกลื่อนแผงให้  เด็กมันหาเสพได้ง่ายซะงั้น  

เรากลับปล่อยปละ  ให้เกิดขึ้น  ทำอะไรไม่ได้  การบังคับใช้กฎหมายทำไม่ได้  มันจึงเกิดสภาพลักลั่นย้อนแย้ง

กดดันสังคม  ที่บ้ากันหมดประเทศตอนนี้ก็มีเหตุส่วนนึงมาจากสิ่งเหล่านี้

 

สรุป  ประเด็นของผม   ปล่อยในสื่งที่ควรปล่อย   เข้มในสิ่งที่ควรเข้มงวด   ควบคุมไว้ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม  ประมาณนั้น


คุณสมบัติที่สำคัญที่สุดของผู้ชนะสงคราม  คือ   ความแข็งแกร่ง และ อุดมการณ์ที่สอดคล้องกับความเป็นจริง

คุณธรรมที่พร้ำสอน  ล้วนเป็นสิ่งที่จำเป็นรองลงมา   ส่วน  ประชาธิปไตยน่ะรึ  เอาเข้าจริงๆ  สำคัญอันใด?? 

 


#39 tu249cm

tu249cm

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,495 posts

ตอบ 19 มกราคม พ.ศ. 2556 - 17:55

  แหม...!!!จริง ๆ  อย่างคุณวัตรพูด  คนแต่เก่า ( ไม่ใช่ผ๊ม )

แกง ผงชูรสไม่มีใส่ด้วย  แต่เขาทำอร่อยมาก.  แกงเทโพ.

แกงส้มมะรุม.อากาศเย็นแบบนี้ก็ แกงส้มดอกแคกุ้งสด.

แกงใบมะขามอ่อนกับปลาแขยงไข่.ต้มส้มปลาทูสดใส่มะขาม

อ่อน. หั่นหอมแดงใส่ด้วยนะ  โอ...ซดโล่งจมูกดีแท้..พูดแล้ว

ก็คิดถึงแม่  สมัยจอมพลแปลก......ป่านนี้คงไปนั่งแกงเลี้ยง

( เทพยดา สัคคสถาน พิมานทิพย์ )  ไม่น่าปล่อยให้ลูกหลาน

อดโซอยู่เลย..... ไม่มีอะไรจะพูดกันแล้วนะ ?เอาญาติผู้ใหญ่- :P

มานินทากันเล่น.  โทษนะแม่ ตาวัตรแกชวน...!!!   :P     :o
 

 

 

อ่านที่พระฤาษีโพสแบบนี้ทำเอาเกิดอาการหิวขึ้นมาทันที
ชอบมาก แกงส้มดอกแค กับต้มส้มปลาทูสด นี่  
ทำแบบโบราณแท้ๆอร่อยมาก คิดถึงฝีมือแม่มากเลย

แม่เราทำอร่อยโฮก

 


สำหรับเรื่องประกาศของแมคกับสตาร์บังเนี่ย เราโดนกับตัวเองบ่อย จะเข้าไปกินกับลูกแต่ไม่มีที่นั่งเหลือ
หันไปก็เห็นมีสองโต๊ะกำลังสอนพิเศษโต๊ะหนึ่ง อีกโต๊ะกำลังประชุมลูกทีมขายตรง เราเลย ไม่รอ ไปกินอย่างอื่นดีกว่า


Edited by tu249cm, 19 มกราคม พ.ศ. 2556 - 17:58.

“People shouldn't be afraid of their government. Governments should be afraid of their people.”


#40 กากจริงไรจริง

กากจริงไรจริง

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,172 posts

ตอบ 19 มกราคม พ.ศ. 2556 - 19:04

.........

 

 

ทุกๆที่บนโลกมีความมักง่าย..แต่แตกต่างกันตรงที่ "ความจริงจัง" ในการเพิ่มต้นทุนให้กับความมักง่ายเหล่านั้นครับ

 

ชัดเจนครับ

 

 

บ้านเรากำหนดต้นทุนของการมักง่ายต่ำมาก

 

เปรียบเทียบง่ายๆ เรื่องเมาแล้วขับ

 

นิชคุณเมาแล้วขับที่เกาหลี โดนยึดใบขับขี่และโดนแบนงานแสดงทั้งหมด

 

แต่กลับมาเป็นพรีเซนเตอร์รถยนต์ในประเทศไทยได้สบาย

 

 

 

 

 

แล้วต้นทุนของการเมาแล้วขับของน้องหนูเกอลี่เบอร์รี่

 

มีเพียงการบำเพ็ญประโยชน์ที่บ้านเด็กกำพร้า

 

 

 

 

 

คนเมาแล้วขับบ้านเราจึงไม่มีทางหมดไป

 

นี่คือตัวอย่างเล็กๆของการกำหนดบทลงโทษของบ้านเรา

ดาราเมาแล้วขับยิ่งกว่านี้ยังสบายเลยครับ

จำโดมได้หรือเปล่า นั่นเมาแท้ๆฝ่าไฟแดงไปบวกกะแทกซี่่ ฝั่งนู้นตาย

เคยเห็นโดมโดนแบน ติดคุก หรือลงโทษทางสังคมอะไรมั้ย

บ้านเรามันสองสามมาตรฐาน

เมาแล้วขับมีไว้ให้ตำรวจตบทรัพย์อย่างถูกกฎหมาย ไม่ใช้ให้บ้านเรามีระเบียบเรียบร้อยขึ้น



#41 พระฤๅษี

พระฤๅษี

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,127 posts

ตอบ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 - 10:44

จริง ๆ คุณ  tu 249 cm  สมัยก่อนมันไม่มีผงชูรสบ้าบออะไรนี่หรอก

แต่ แม่เขาทำอย่างไรไม่รู้  อร่อยจริง ๆ เดี๋ยวนี้ขอกระซิบ คุณ 249

มีที่อร่อยอยู่ รสเก่าจริงๆ  (โรงอาหาร.ใน ธ. ออมสิน ) สำนักงานใหญ่

สะพานควาย ราคายังถูก  แหม ไม่รู้บอกชื่อร้านได้เปล่า? อีกที่หนึ่ง

อยู่ใน.กรมทหาร.มีเฉพาะ  วันเสาร์กับวันพุธ ตอนเย็น .แกงส้มดอกแค

แกงส้มมะรุม. ปลาทูต้มมะขามสด. ( เอ๊ะ เจ้าของกระทู้ด่าเปล่าเนี้ยย ?)

 เดี๋ยวจะหาว่า (ไอ้เฒ่าพวกนี้เห็นแก่กิน...โทษนะ )  :P



#42 wat

wat

    เนตังมะมะ เนโสหะมัสมิ นะเมโสอัตตา.

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,542 posts

ตอบ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 - 11:02

จริง ๆ คุณ  tu 249 cm  สมัยก่อนมันไม่มีผงชูรสบ้าบออะไรนี่หรอก

แต่ แม่เขาทำอย่างไรไม่รู้  อร่อยจริง ๆ เดี๋ยวนี้ขอกระซิบ คุณ 249

มีที่อร่อยอยู่ รสเก่าจริงๆ  (โรงอาหาร.ใน ธ. ออมสิน ) สำนักงานใหญ่

สะพานควาย ราคายังถูก  แหม ไม่รู้บอกชื่อร้านได้เปล่า? อีกที่หนึ่ง

อยู่ใน.กรมทหาร.มีเฉพาะ  วันเสาร์กับวันพุธ ตอนเย็น .แกงส้มดอกแค

แกงส้มมะรุม. ปลาทูต้มมะขามสด. ( เอ๊ะ เจ้าของกระทู้ด่าเปล่าเนี้ยย ?)

 เดี๋ยวจะหาว่า (ไอ้เฒ่าพวกนี้เห็นแก่กิน...โทษนะ )  :P

 

:angry: กระพ๊มขอแผนที่สาวๆ เอ๊ยฟังเพลงตาม คห. # 20 แต่ลุงดันมาบอกแผนที่ร้านอาหารให้กระพ๊มต้องเหนื่อยเร่ร่อนอี๊ก ทีแผนที่สาวๆ เอ๊ยที่ฟังเพลงทำเงียบ ดั่งหลอกให้หมาหูตั้ง กระดิกหางจนจะหางจะหลุดอยู่แล้วเนี่ย...

 

  :huh:  พลี๊สสสสสสสส... ดุ๊กดิ๊กๆๆๆๆ


:) Sometime...Sun shine through the rain...

#43 พระฤๅษี

พระฤๅษี

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,127 posts

ตอบ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 - 11:15

โถ..โอด....แง... นึกว่าจะต่อว่าอะไร..แหม..เช้าวันหยุด ก็ฟังเพลง

เดินเที่ยว  จัก-จัก..เพราะบ้านอยู่ใกล้  สวนจัก-จัก.. (อ้าว ชักแม่น้ำ-

ทั้ง ๕ อีกแล้ว  เดี๋ยวตาเฒ่าวัตร  เกิดโทษะ ( ความดันขึ้น ) แย่เลย

(ชอบฟังเพลงอะไร. รุ่นไหน.ไปที่ ..เฟซฯ ..พระฤๅษี..) กดเข้าไป-

เถอะ  ในบ้านเพลงเต็มไปหมด. (เพลงวัยรุ่น) ทั้งนั้น แถมมี สาว-

( เหลือน้อย) เม้าท์กัน คลายเครียด.สนุก  เชิญเลย.. 



#44 อู๋ ฮานามิ

อู๋ ฮานามิ

    สมาชิกหน้าเก่า

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 12,018 posts

ตอบ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 - 11:48

ผมเห็นว่าบทความเรื่องนี้เข้ากับกระทู้ เลยแปะมาฝากครับ

 

http://www.suthichai....php?NewsID=626

 

 

 

 

ทำไมไทยเราไปไม่ถึงไหน?

ผู้หวังดีท่านหนึ่งส่งข้อความมาให้อ่านว่าด้วยเรื่องการ "ปฏิรูป" ประเทศอย่างเป็นเรื่องเป็นราว

ไม่ใช่แค่คุยโม้โอ้อวดหรือใช้เพียงวาทกรรมให้ฟังดูดี

 

ผมอ่านแล้วก็เห็นด้วยอย่างยิ่ง และเชื่อว่าคนไทยไม่น้อยก็ต้องการจะหาทางออกให้บ้านเมือง ในยามที่ใครต่อใครดูเหมือนจะเห็นว่าเรามาถึงทางตันที่ไม่มีใครยอมใคร

 

ทุกคนฟังแต่สิ่งที่ตนเองอยากได้ยิน ไม่มีใครฟังเสียงใคร ไม่มีใครอยากฟังความเห็นอีกด้านหนึ่ง และใครพูดในสิ่งที่ตนไม่เห็นด้วย ก็จะพาลหาเรื่องว่าเป็นศัตรูกันเสียอีก

 

ผมจึงดีใจมากที่ได้อ่านข้อความที่เพื่อนคนนี้ส่งมาให้อ่านว่า ความแตกต่างระหว่างประเทศที่พัฒนาแล้ว กับ ประเทศด้อยพัฒนานั้น มันอยู่ตรงไหนกันแน่ ไม่ได้อยู่ที่ว่าเราเคยเสียเอกราชให้ใครในอดีตหรือเปล่า

 

เขายกตัวอย่างประเทศญี่ปุ่นและเยอรมนี ที่แม้จะแพ้สงครามโลก แต่ก็กลับมายิ่งใหญ่ในเศรษฐกิจโลก ไม่ได้อยู่ที่ว่าเราเก่าแก่ด้วยอารยธรรมหรือไม่ ตัวอย่างเช่น อินเดีย กับ อียิปต์ ซึ่งมีอารยธรรมยาวนานกว่า 3,000 ปี แต่คนส่วนใหญ่ก็ยังยากจน ไร้ความหวังอยู่

 

เขายกตัวอย่าง สิงคโปร์ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ว่าเป็นประเทศเล็กๆ ที่เมื่อแค่ 100 ปีก่อนนี้ไม่มีศักยภาพอะไรเลยล้าหลังกว่าไทยแน่นอน

 

แต่วันนี้เขากลับพัฒนาเป็นประเทศร่ำรวย ก้าวหน้าและมีความมั่นคง

 

หรือจะอ้างว่าความแตกต่างระหว่างประเทศที่พัฒนาแล้ว กับ ประเทศด้อยพัฒนานั้น อยู่ที่ทรัพยากรของประเทศนั้นๆ หรือเปล่า?ก็เปล่าอีก

 

ญี่ปุ่น มีพื้นที่เกษตรกรรมน้อยมาก กว่า 80% ของพื้นที่เป็นภูเขา ไม่เหมาะกับการทำการเกษตรเลย แต่เขากลับสร้างตนเองเป็นประเทศส่งออกอาหารและสินค้าเกษตรอันดับต้นๆ ของโลก

 

ยกตัวอย่าง สวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งมีอากาศหนาวจัด ปีหนึ่งทำการเกษตรได้เพียง 4 เดือน และไม่มีการทำไร่โกโก้เลยแม้แต่น้อย แต่กลับทำช็อกโกแลตส่งออกรายใหญ่ของโลก

 

อีกทั้งยังนำเอาความซื่อสัตย์ ตรงต่อเวลา และมีระเบียบของคนในสังคมมาใช้ให้เป็นประโยชน์ จนเป็นที่ยอมรับว่าเขามีธนาคารที่มีมาตรฐานอาชีพที่สูงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

 

หรือความแตกต่างเกิดจากสีผิวและเผ่าพันธุ์...ก็ไม่ใช่อีกนั่นแหละ

 

แรงงานที่เคยเกียจคร้านในประเทศของตนเอง พอย้ายไปหากินประเทศที่เจริญแล้ว ก็กลับกลายเป็นแรงงานที่ขยันขันแข็งและมีคุณภาพขึ้นมาทันที เช่นกัน

 

เพราะว่าบรรยากาศในประเทศที่พัฒนาแล้ว จะไม่อนุญาตให้ใครขี้เกียจหรือเกาะคนอื่นกินเป็นอันขาด

 

เขาถึงถามว่า แล้วอะไรคือสิ่งที่ทำให้เกิดความแตกต่างระหว่างประเทศที่พัฒนากับประเทศที่ยังล้าหลัง? คำตอบ ไม่ได้อยู่ที่ประวัติศาสตร์หรือทรัพยากรของประเทศนั้นๆ

 

ผมเห็นด้วยอย่างยิ่ง ที่เขาบอกว่าที่ทำให้เกิดความแตกต่างนั้น คือ "ทัศนคติ"

 

ทัศนคติที่เกิดจากการหยั่งรากลึกนานปีของระบบการศึกษา และการอบรมปลูกฝังที่กลายเป็น "ค่านิยม" ของคนในสังคมส่วนใหญ่ ที่ต้องยึดมั่นเพื่อสร้างสรรค์สังคมให้แข็งแกร่งบนพื้นฐานแห่งจริยธรรม เขาวิเคราะห์พฤติกรรมของคนในประเทศที่พัฒนาแล้ว ก็สรุปได้ว่าคนส่วนใหญ่ดำเนินชีวิตบนหลักปรัชญา เช่น

 

1. ใช้จริยธรรมนำชีวิต 2. ความซื่อสัตย์3. ความรักในงาน 4. ความรับผิดชอบต่อหน้าที่ 5. จิตใจมุ่งมั่น สู่ความเป็นที่หนึ่ง 6. เคารพต่อกฎระเบียบ 7. เคารพสิทธิของผู้อื่น 8. ตรงต่อเวลา 9. อดออมและสนใจในการลงทุนอย่างมีเหตุมีผล

 

คนไทยเราขาดทัศนคติที่ถูกต้องและเอาจริงเอาจังกับชีวิตอย่างนี้ จึงเหมือนรถไฟสมัยโบราณที่ "ถึงก็ช่าง ไม่ถึงก็ช่าง"

 

มิหนำซ้ำ ยังมีค่านิยมทางเลวร้ายเกิดขึ้นมา เพราะวัฒนธรรม "บริโภคนิยม" และ "ความมักง่าย"

 

อะไรที่ได้มายากเย็นหรือต้องทำงานหนัก ก็จะกลายเป็นเรื่องไม่พึงปรารถนา ไม่มีใครอยากทำ

 

ด้วยความมักง่ายที่เพิ่มขึ้นอย่างไม่หยุดนิ่งนี่เอง เราก็เริ่มจะได้ยินว่าเด็กไทยสมัยนี้เห็นความซื่อสัตย์และเสียสละ เป็นคุณสมบัติที่ไม่มีความหมาย และไร้ความสำคัญ

 

ถึงขั้นที่การสำรวจวิจัยหลายสำนักยืนยันตรงกันอย่างน่าตกใจ ว่า คนรุ่นใหม่เห็นว่านักการเมืองหรือข้าราชการหรือนักธุรกิจนั้น สามารถฉ้อราษฎร์บังหลวง และกระทำการเข้าข่ายคอร์รัปชันได้ ตราบใดที่ทำแล้วมีคนเห็นว่าเก่ง หรือสามารถจะสนองตอบเป้าหมายทางวัตถุได้

 

นี่คือ สัญญาณอันตรายอย่างยิ่งของสังคมไทย ที่ "เห็นกงจักรเป็นดอกบัว" เห็นการทำสิ่งที่ผิดศีลธรรม ผิดหลักจริยธรรมเป็นเรื่องธรรมดา ที่ "ใครๆ เขาก็ทำกันทั้งนั้น"ดังนั้น หากวันนี้มีใครบ่นให้คุณฟังว่าบ้านเมืองเราทำไมจึงล้าหลัง ทำไมไม่สามารถเอาตัวเองออกจากความขัดแย้ง ทำไมยังมีความยากจนอย่างกว้างขวาง ทำไมความเหลื่อมล้ำในสังคมยังมีให้เห็นกันมากมาย

 

ก็ต้องตอบกันตรงๆ ว่า เพราะเราหลงเข้าใจผิดว่าเราไม่เคยเป็นเมืองขึ้นของใคร เรามีทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ เรามีความโอบอ้อมอารี เรา (คิดว่าเรา) เป็นพุทธศาสนิกชน ดังนั้นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายก็จะต้องช่วยให้เราพัฒนาโดยอัตโนมัติ

 

เผลอๆ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ (ถ้าเราเชื่อว่ามีจริง) ก็อาจจะย้อนถามเราได้ว่า "คุณเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า?"อาจจะเพราะสิ่งต่างๆ เหล่านี้ ที่เราอ้างว่าเรามีนั่นแหละ ที่เป็นสาเหตุแห่งความด้อยพัฒนาของเรา

 

จึงต้องไม่ลืมที่ "ขงจื๊อ" เคยกล่าวไว้ว่า"หากเจ้าวางแผนไว้ 1 ปี...จงปลูกข้าวหากวางแผน 10 ปี...จงปลูกต้นไม้หากวางแผน 100 ปี...จงให้ความรู้แก่บุตรหลาน"

ทุกวันนี้คนไทยไม่น้อยที่คิดว่าทำงานแค่ 1 ปี แต่จะขอให้มีผลงานยืนยาวถึง 100 ปีฝันไปหรือเปล่า


Edited by อู๋ ฮานามิ, 20 มกราคม พ.ศ. 2556 - 11:50.

ถึงผมจะเป็นคนหัวขบถ แต่ไม่คิดทรยศบุญคุณแผ่นดินเกิด

 

เสียงส่วนใหญ่ของประชาชน ไม่ใช่ใบอนุญาตทำร้ายประเทศชาติ


#45 กรกช

กรกช

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,930 posts

ตอบ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 - 12:54

จิตสำนึกสาธารณะและศีลธรรมของผู้คนในสังคมหายไป เป็นเพราะสภาพสังคมที่เสื่อม

 

สังคมเสื่อมเพราะตำรวจไม่ปฎิบัติหน้าที่ตรงไปตรงมา

ไปมีผลประโยชน์กับอบายมุข สิ่งผิดกฎหมายทั้งหลายที่ทำลายสังคม

 

ผู้ที่มีอำนาจกำหนดนโยบาย หรือสั่งการให้ตำรวจทำหน้าที่ตรงไปตรงมา คือนักการเมือง

แต่นักการเมืองกับตำรวจก็สานผลประโยชน์ร่วมกันเสียเอง

ยิ่งซื้อขายตำแหน่งกันราคาสูงๆ ตำรวจก็ต้องมาขูดรีด ต้องมาเก็บเพิ่มเอากับสิ่งผิดกฎหมายที่ทำลายสังคม

 

ก็ยิ่งทำให้สังคมเสื่อมหนักขึ้นไปอีก

 



#46 SPDZ

SPDZ

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,672 posts

ตอบ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 - 13:18

734181_543486839003698_1021875454_n.jpg
ธนาคารกรุงเทพฯ สาขาถนนสุขาภิบาล 3 บึงกุ่ม
เจอมากับตัว อย่างเซ็งเลย ที่จอดรถจักรยานยนต์ป้ายก็เห็นชัดๆ
แม่มจอดขวางทั้งแถบเลย นิสัยมันคงไม่ต้องสืบ

Edited by SPDZ, 20 มกราคม พ.ศ. 2556 - 13:21.

มนุษย์เงินเดือนจนๆที่ไม่พอใจรัฐบาลเสื้อแดงที่แสนชั่วจะทำอะไรได้มากกว่าวาดการ์ตูนระบายความคับแค้นใจhttp://webboard.seri...ยเว็บบอร์ดการ์/ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ดการ์ตูน

#47 จีรนุช

จีรนุช

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,934 posts

ตอบ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 - 15:18

ปํญหาธรรมดาที่ประเทศที่เจริญเเล้วเคยเป็นมาเเล้วทุกประเทศ  หากผ่านจุดนี้ไปได้ประเทศไทยจะเป็นมหาอำนาจเหนืออเมริกาเเละญี่ปุ่นจีน ทุกปีๆก็มีเเนวโน้มที่ดีขึ้นเรื่อยๆ


รำคาญสลิ่มเที่ยมที่เข้ามาปล่อยสารพิษเรียกร้องความรุนเเรงเสดงออกถึงความคลั่งสงครามกลางเมืองยุเเยงสร้างภาพชั่วๆ

เอียนวะ   เห็นคนเเถวนี้ไอคิวต่ำกว่า 90 หรือไง


#48 wat

wat

    เนตังมะมะ เนโสหะมัสมิ นะเมโสอัตตา.

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,542 posts

ตอบ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 - 15:21

ปํญหาธรรมดาที่ประเทศที่เจริญเเล้วเคยเป็นมาเเล้วทุกประเทศ  หากผ่านจุดนี้ไปได้ประเทศไทยจะเป็นมหาอำนาจเหนืออเมริกาเเละญี่ปุ่นจีน ทุกปีๆก็มีเเนวโน้มที่ดีขึ้นเรื่อยๆ

 

:blink: ..."ทุกปีๆก็มีเเนวโน้มที่ดีขึ้นเรื่อยๆ" ... เอ่อ... วัดที่ตรงไหนขอรับ... มาตรวัดมันเสียเปล่าขอรับ... เห็นมีแต่เสื่อมลงๆไปทุกวันๆนะขอรับ...


:) Sometime...Sun shine through the rain...

#49 Moo3storey

Moo3storey

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,284 posts

ตอบ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 - 17:13

ผมเห็นว่าบทความเรื่องนี้เข้ากับกระทู้ เลยแปะมาฝากครับ

 

http://www.suthichai....php?NewsID=626

 

 

 

 

ทำไมไทยเราไปไม่ถึงไหน?

ผู้หวังดีท่านหนึ่งส่งข้อความมาให้อ่านว่าด้วยเรื่องการ "ปฏิรูป" ประเทศอย่างเป็นเรื่องเป็นราว

ไม่ใช่แค่คุยโม้โอ้อวดหรือใช้เพียงวาทกรรมให้ฟังดูดี

 

ผมอ่านแล้วก็เห็นด้วยอย่างยิ่ง และเชื่อว่าคนไทยไม่น้อยก็ต้องการจะหาทางออกให้บ้านเมือง ในยามที่ใครต่อใครดูเหมือนจะเห็นว่าเรามาถึงทางตันที่ไม่มีใครยอมใคร

 

ทุกคนฟังแต่สิ่งที่ตนเองอยากได้ยิน ไม่มีใครฟังเสียงใคร ไม่มีใครอยากฟังความเห็นอีกด้านหนึ่ง และใครพูดในสิ่งที่ตนไม่เห็นด้วย ก็จะพาลหาเรื่องว่าเป็นศัตรูกันเสียอีก

 

ผมจึงดีใจมากที่ได้อ่านข้อความที่เพื่อนคนนี้ส่งมาให้อ่านว่า ความแตกต่างระหว่างประเทศที่พัฒนาแล้ว กับ ประเทศด้อยพัฒนานั้น มันอยู่ตรงไหนกันแน่ ไม่ได้อยู่ที่ว่าเราเคยเสียเอกราชให้ใครในอดีตหรือเปล่า

 

เขายกตัวอย่างประเทศญี่ปุ่นและเยอรมนี ที่แม้จะแพ้สงครามโลก แต่ก็กลับมายิ่งใหญ่ในเศรษฐกิจโลก ไม่ได้อยู่ที่ว่าเราเก่าแก่ด้วยอารยธรรมหรือไม่ ตัวอย่างเช่น อินเดีย กับ อียิปต์ ซึ่งมีอารยธรรมยาวนานกว่า 3,000 ปี แต่คนส่วนใหญ่ก็ยังยากจน ไร้ความหวังอยู่

 

เขายกตัวอย่าง สิงคโปร์ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ว่าเป็นประเทศเล็กๆ ที่เมื่อแค่ 100 ปีก่อนนี้ไม่มีศักยภาพอะไรเลยล้าหลังกว่าไทยแน่นอน

 

แต่วันนี้เขากลับพัฒนาเป็นประเทศร่ำรวย ก้าวหน้าและมีความมั่นคง

 

หรือจะอ้างว่าความแตกต่างระหว่างประเทศที่พัฒนาแล้ว กับ ประเทศด้อยพัฒนานั้น อยู่ที่ทรัพยากรของประเทศนั้นๆ หรือเปล่า?ก็เปล่าอีก

 

ญี่ปุ่น มีพื้นที่เกษตรกรรมน้อยมาก กว่า 80% ของพื้นที่เป็นภูเขา ไม่เหมาะกับการทำการเกษตรเลย แต่เขากลับสร้างตนเองเป็นประเทศส่งออกอาหารและสินค้าเกษตรอันดับต้นๆ ของโลก

 

ยกตัวอย่าง สวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งมีอากาศหนาวจัด ปีหนึ่งทำการเกษตรได้เพียง 4 เดือน และไม่มีการทำไร่โกโก้เลยแม้แต่น้อย แต่กลับทำช็อกโกแลตส่งออกรายใหญ่ของโลก

 

อีกทั้งยังนำเอาความซื่อสัตย์ ตรงต่อเวลา และมีระเบียบของคนในสังคมมาใช้ให้เป็นประโยชน์ จนเป็นที่ยอมรับว่าเขามีธนาคารที่มีมาตรฐานอาชีพที่สูงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

 

หรือความแตกต่างเกิดจากสีผิวและเผ่าพันธุ์...ก็ไม่ใช่อีกนั่นแหละ

 

แรงงานที่เคยเกียจคร้านในประเทศของตนเอง พอย้ายไปหากินประเทศที่เจริญแล้ว ก็กลับกลายเป็นแรงงานที่ขยันขันแข็งและมีคุณภาพขึ้นมาทันที เช่นกัน

 

เพราะว่าบรรยากาศในประเทศที่พัฒนาแล้ว จะไม่อนุญาตให้ใครขี้เกียจหรือเกาะคนอื่นกินเป็นอันขาด

 

เขาถึงถามว่า แล้วอะไรคือสิ่งที่ทำให้เกิดความแตกต่างระหว่างประเทศที่พัฒนากับประเทศที่ยังล้าหลัง? คำตอบ ไม่ได้อยู่ที่ประวัติศาสตร์หรือทรัพยากรของประเทศนั้นๆ

 

ผมเห็นด้วยอย่างยิ่ง ที่เขาบอกว่าที่ทำให้เกิดความแตกต่างนั้น คือ "ทัศนคติ"

 

ทัศนคติที่เกิดจากการหยั่งรากลึกนานปีของระบบการศึกษา และการอบรมปลูกฝังที่กลายเป็น "ค่านิยม" ของคนในสังคมส่วนใหญ่ ที่ต้องยึดมั่นเพื่อสร้างสรรค์สังคมให้แข็งแกร่งบนพื้นฐานแห่งจริยธรรม เขาวิเคราะห์พฤติกรรมของคนในประเทศที่พัฒนาแล้ว ก็สรุปได้ว่าคนส่วนใหญ่ดำเนินชีวิตบนหลักปรัชญา เช่น

 

1. ใช้จริยธรรมนำชีวิต 2. ความซื่อสัตย์3. ความรักในงาน 4. ความรับผิดชอบต่อหน้าที่ 5. จิตใจมุ่งมั่น สู่ความเป็นที่หนึ่ง 6. เคารพต่อกฎระเบียบ 7. เคารพสิทธิของผู้อื่น 8. ตรงต่อเวลา 9. อดออมและสนใจในการลงทุนอย่างมีเหตุมีผล

 

คนไทยเราขาดทัศนคติที่ถูกต้องและเอาจริงเอาจังกับชีวิตอย่างนี้ จึงเหมือนรถไฟสมัยโบราณที่ "ถึงก็ช่าง ไม่ถึงก็ช่าง"

 

มิหนำซ้ำ ยังมีค่านิยมทางเลวร้ายเกิดขึ้นมา เพราะวัฒนธรรม "บริโภคนิยม" และ "ความมักง่าย"

 

อะไรที่ได้มายากเย็นหรือต้องทำงานหนัก ก็จะกลายเป็นเรื่องไม่พึงปรารถนา ไม่มีใครอยากทำ

 

ด้วยความมักง่ายที่เพิ่มขึ้นอย่างไม่หยุดนิ่งนี่เอง เราก็เริ่มจะได้ยินว่าเด็กไทยสมัยนี้เห็นความซื่อสัตย์และเสียสละ เป็นคุณสมบัติที่ไม่มีความหมาย และไร้ความสำคัญ

 

ถึงขั้นที่การสำรวจวิจัยหลายสำนักยืนยันตรงกันอย่างน่าตกใจ ว่า คนรุ่นใหม่เห็นว่านักการเมืองหรือข้าราชการหรือนักธุรกิจนั้น สามารถฉ้อราษฎร์บังหลวง และกระทำการเข้าข่ายคอร์รัปชันได้ ตราบใดที่ทำแล้วมีคนเห็นว่าเก่ง หรือสามารถจะสนองตอบเป้าหมายทางวัตถุได้

 

นี่คือ สัญญาณอันตรายอย่างยิ่งของสังคมไทย ที่ "เห็นกงจักรเป็นดอกบัว" เห็นการทำสิ่งที่ผิดศีลธรรม ผิดหลักจริยธรรมเป็นเรื่องธรรมดา ที่ "ใครๆ เขาก็ทำกันทั้งนั้น"ดังนั้น หากวันนี้มีใครบ่นให้คุณฟังว่าบ้านเมืองเราทำไมจึงล้าหลัง ทำไมไม่สามารถเอาตัวเองออกจากความขัดแย้ง ทำไมยังมีความยากจนอย่างกว้างขวาง ทำไมความเหลื่อมล้ำในสังคมยังมีให้เห็นกันมากมาย

 

ก็ต้องตอบกันตรงๆ ว่า เพราะเราหลงเข้าใจผิดว่าเราไม่เคยเป็นเมืองขึ้นของใคร เรามีทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ เรามีความโอบอ้อมอารี เรา (คิดว่าเรา) เป็นพุทธศาสนิกชน ดังนั้นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายก็จะต้องช่วยให้เราพัฒนาโดยอัตโนมัติ

 

เผลอๆ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ (ถ้าเราเชื่อว่ามีจริง) ก็อาจจะย้อนถามเราได้ว่า "คุณเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า?"อาจจะเพราะสิ่งต่างๆ เหล่านี้ ที่เราอ้างว่าเรามีนั่นแหละ ที่เป็นสาเหตุแห่งความด้อยพัฒนาของเรา

 

จึงต้องไม่ลืมที่ "ขงจื๊อ" เคยกล่าวไว้ว่า"หากเจ้าวางแผนไว้ 1 ปี...จงปลูกข้าวหากวางแผน 10 ปี...จงปลูกต้นไม้หากวางแผน 100 ปี...จงให้ความรู้แก่บุตรหลาน"

ทุกวันนี้คนไทยไม่น้อยที่คิดว่าทำงานแค่ 1 ปี แต่จะขอให้มีผลงานยืนยาวถึง 100 ปีฝันไปหรือเปล่า

ถึงขั้นที่การสำรวจวิจัยหลายสำนักยืนยันตรงกันอย่างน่าตกใจ ว่า คนรุ่นใหม่เห็นว่านักการเมืองหรือข้าราชการหรือนักธุรกิจนั้น สามารถฉ้อราษฎร์บังหลวง และกระทำการเข้าข่ายคอร์รัปชันได้ ตราบใดที่ทำแล้วมีคนเห็นว่าเก่ง หรือสามารถจะสนองตอบเป้าหมายทางวัตถุได้

 

^

^

ก็เพราะคิดกันแบบนี้แหละครับ คือ ทำเรื่องผิดได้ขอแค่ให้ตัวเองได้ประโยชน์

 

มันก็กรณีเดียวกับขับรถปาดหน้า, เบียดคันอื่นเปลี่ยนเลน, ไฟแดงแล้วยังไปต่อ, สอนหนังสือในร้านแมค เพราะตัวเองได้ประโยชน์เลยทำ แต่ไม่คิดว่าทำไปแล้วคนอื่นจะได้รับผลกระทบยังไง



#50 V for Macaw

V for Macaw

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 641 posts

ตอบ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 - 17:22

เรื่อง แมค ผมก็เข้าใจทางแม๊คนะ เพราะบางที เวลาจะกินแม๊ค ไม่มีที่นั่ง เห็นพวก นั่งติว นั่งแช่เต็มไปหมด เลยต้องซื้อแบบกลับบ้าน
ส่วนเรื่องสตาบังก็อ่ะนะ ก็น่าเห็นใจ น่าจะแบบตักเตือนอะไรบ้าง ไม่ใช่เก่งกับคนหาเช้ากินค่ำ
ส่วนเรื่องการจารจร ก็ ....... อ่ะนะ รถคันแรก เยอะเหลือเกิน อยากให้สนับสนุนรถประจำทางมากกว่า แต่ทำไงได้ เพื่อคะแนนเสียงของนังโง่
ส่วนเรื่อง เยาวชนตีกัน อันนี้คงแก้ยากจริงๆ ครับ 5555+

ฉันมาที่บอร์ดแห่งนี้ เพื่อหยุดระบอบทักษิณ





ผู้ใช้ 2 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้

สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 2 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน