จากหัวข้อข้างต้น
http://www.prachacha...pid=02&catid=19
พิษ ค่าแรง 300 ลามผู้ผลิตรายใหญ่ "สหพัฒน์" ปิดโรงงานรองเท้า รับต้นทุนสูงสู้ ตปท.ไม่ได้-ลูกค้าหนี วัตถุดิบ "น้ำมันปาล์ม-แป้งสาลี" พุ่ง "มาม่า" จ่อปรับราคา "ยูนิลีเวอร์-พีแอนด์จี" พลิกเกม เพิ่มโฟกัสสินค้าคุณภาพดี-ราคาสูง หวั่นซัพพลายเออร์แบก "ค่าแรง-ค่าไฟ-น้ำมัน" ไม่ไหว ไตรมาส 2 ขึ้นราคายกแผง
ผลกระทบ จากการขึ้นค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำ 300 บาทที่มีผลบังคับใช้ทั่วประเทศ นอกจากจะส่งผลกระทบกับผู้ประกอบการ โดยเฉพาะกลุ่มเอสเอ็มอีหรือรายย่อย ในแง่ของต้นทุนที่เพิ่มขึ้นและมีจำนวนไม่น้อยที่ต้องปิดกิจการไป วันนี้ผลกระทบจากนโยบายดังกล่าวยังส่งผลกระทบกับผู้ผลิตรายใหญ่ด้วยอย่างเลี่ยงไม่ได้
นาย บุญชัย โชควัฒนา ประธานกรรมการบริหาร สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทที่ปรับเพิ่มขึ้นทั่วประเทศ ด้านหนึ่งแม้ว่าจะส่งผลให้ผู้บริโภคมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น แต่อีกด้านหนึ่งก็ทำให้ผู้ผลิตที่เป็นโรงงานต้องปิดตัว หรือคนงานต้องตกงาน หลายโรงงานป่วยกระเสาะกระแสะอยู่แล้ว เมื่อเจอต้นทุนจากค่าแรงที่เพิ่มขึ้นก็ไม่ไหว หรือโรงงานที่แข็งแรงก็กัดฟันสู้ต่อไป
สำหรับโรงงานเครือสหพัฒน์ นายบุญชัยกล่าวว่า ส่วนใหญ่ประคองตัวได้ ทุกบริษัทยังสามารถทำกำไรได้ดี มีเพียงอุตสาหกรรมรองเท้าที่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากต้นทุนสู้หลาย ๆ ประเทศไม่ได้ เมื่อเจอค่าแรง 300 บาท ที่ปรับขึ้นใน 7 จังหวัดเมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้ว และจังหวัดชลบุรีซึ่งเป็นที่ตั้งของนิคมอุตสาหกรรมศรีราชาของเครือสหพัฒน์ สำหรับเฟส 2 ก็ได้รับผลกระทบไปด้วย สิ่งที่บริษัททำคือปิดโรงงานรองเท้าให้เหลือน้อยที่สุดเพื่อควบคุมต้นทุน
"เรา ปิดโรงงานรองเท้าในเครือมาตั้งแต่ปีที่แล้วที่ขึ้นค่าแรง และปีนี้เมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาก็เพิ่งปิดโรงงานรองเท้าเพิ่มอีก ขณะนี้บางโรงงานก็ผลิตออร์เดอร์สุดท้ายแล้ว ส่วนใหญ่เราผลิตเพื่อส่งออก เมื่อต้นทุนสูง เราก็สู้ต่างประเทศไม่ได้ ยิ่งพอมี 300 บาท ก็ทำให้ลูกค้าหนีหายไปหมด"
นายบุญชัยกล่าวว่า อีกปัจจัยที่จะมีผลกระทบชัดเจนต่อกำลังซื้อผู้บริโภค คือ สถานการณ์ของแพง ซึ่งจากค่าแรง 300 บาท ก็อาจทำให้ข้าวของแพงขึ้น ราคาอาหารต่าง ๆ ปรับเพิ่มขึ้น ขณะนี้ สิ่งที่กังวล คือ ราคาวัตถุดิบที่คาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้นหลายตัว โดยเฉพาะน้ำมันปาล์มและแป้งสาลี ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาม่า
"เรื่อง ขึ้นราคาสินค้า เครือสหพัฒน์ไม่มีปัญหา ตอนนี้ที่กังวลคือ มาม่า หากปีนี้น้ำมันปาล์มและแป้งสาลีแพงขึ้น และเราไม่สามารถแบกรับภาระต้นทุนที่เกิดขึ้นได้ ถ้าวัตถุดิบขึ้นเยอะ ๆ แล้วเรารักษาสภาพต้นทุนไว้ไม่ได้ ก็คงต้องขึ้นราคา แต่หากวัตถุดิบ 2 ตัวนี้ขึ้นแต่น้อย แต่เราสามารถรับภาระได้ ก็คงไม่ต้องขึ้น"
ด้าน นายบาวเค่อ ราวเออร์ส ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัทยูนิลีเวอร์ ในประเทศไทย กล่าวว่า บริษัทไม่ได้มีปัญหาเรื่องต้นทุนจากค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท และสิ่งที่ผู้ประกอบการต้องเร่งทำคือพัฒนาทักษะแรงงานของไทยให้สูงขึ้น เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของไทยกับประเทศอื่น ๆ ขณะเดียวกันก็มองว่าสังคมไทยจะพัฒนาไปสู่สังคมชนชั้นกลางมากขึ้นในอนาคต เนื่องจากคนมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น สังเกตจากยุทธศาสตร์ของบริษัทที่ผ่านมาก็จะเน้นผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพ สูงขึ้น ในราคาที่สูงขึ้นตามไปด้วย เพื่อเจาะกลุ่มคนในเมือง
เช่นเดียวกับพีแอนด์จี นายวรศิษย์
ตุรงค์ สมบูรณ์ ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ ประจำประเทศไทย บริษัท พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า กำลังซื้อเป็นไปในทิศทางที่ดี โดยแนวทางการทำตลาดของบริษัทนำเสนอกลยุทธ์ คุณภาพสินค้าในราคาที่เข้าถึงได้ ปัจจุบันพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เห็นได้ชัดคือ ยินดีจ่ายแพงขึ้นเพื่อได้ผลิตภัณฑ์คุณภาพที่ดีขึ้น ส่งผลให้ตลาดอุปโภคบริโภคปัจจุบันจึงปรับไปสู่ตลาดพรีเมี่ยมมากขึ้น ดังนั้น ตนมองว่าราคาจึงไม่ใช่ปัจจัยหลักของผู้บริโภคในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์มากนักในยุคนี้
ขณะ ที่นายวรวุฒิ อุ่นใจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออฟฟิศเมท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตอนนี้สินค้าในกลุ่มอุปกรณ์สำนักงานและสเตชันนารี่ ยังไม่มีความเคลื่อนไหว แต่ถ้าผู้ผลิตที่ไม่สามารถแบกรับต้นทุนค่าแรง ค่าน้ำมัน รวมถึงค่าไฟฟ้าได้ คาดว่าจะได้เห็นภาพของการปรับราคาขึ้นในไตรมาส 2 ซึ่งปกติการจะขอปรับขึ้นราคาสินค้าผู้ผลิตจะต้องส่งหนังสือแจ้งร้านค้าล่วง หน้าประมาณ 1-2 เดือน เพื่อให้เตรียมตัว
ขณะที่ น.พ.ทศพร เสรีรักษ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 15 มกราคมว่า ที่ประชุมรับทราบรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ (พณ.) เรื่องการกำกับดูแลราคาสินค้าจากการดำเนินนโยบายการปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาททั่วประเทศ โดยจะมีการตรึงหรือชะลอการปรับราคาสินค้า เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและป้องกันไม่ให้มีการฉวยโอกาส ทั้งการดูแลราคาสินค้า ณ โรงงาน และประกาศราคาแนะนำ ใน 4 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มสินค้าที่ต้องใช้วัตถุดิบนำเข้า กลุ่มสินค้าที่ใช้วัตถุดิบในประเทศ กลุ่มสินค้าที่ใช้วัตถุดิบทั้งในประเทศและนำเข้า และกลุ่มอาหารสด และหากจำเป็นจะต้องปรับราคาจะพิจารณาภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้นในหมวดอาหารสด ก่อน เนื่องจากราคาขึ้นลงตามฤดูกาล
นอกจากนี้ คณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการได้กำหนดให้มีคณะอนุกรรมการ พิจารณาราคาจำหน่ายสินค้าที่เหมาะสม ในกรณีผู้ประกอบการแจ้งขอปรับราคา แบ่งเป็น 9 คณะ ได้แก่ 1.สินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไป 2.น้ำมันพืช 3.ปุ๋ยเคมี 4.อาหารสัตว์ 5.นม 6.เหล็กเส้นและเหล็กโครงสร้างรูปพรรณ 7.อาหารปรุงสำเร็จ 8.ยารักษาโรค 9.กลั่นกรองการกำหนดสินค้าและบริการควบคุมและมาตรการกำกับดูแล
แล้วทีนี้ ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ เลี้ยงครอบครัว รวมค่าส่งเสียพ่อแม่อีกจะทำยังไงดีครับ
หรือ นายกจะเรียกพี่ชายมาช่วยแก้ปัญหาให้ตรงจุด
โดยการแก้รัฐธรรมนูญ