ลงพื้นที่ศูนย์เด็กเล็กธรรมานุรักษ์ และศูนย์เด็กเล็กชุมชนลำสาลีฯ
ลงพื้นที่หาเสียงเขตสวนหลวงและเยี่ยมเยียนศูนย์เด็กเล็กในพื้นที่
การศึกษาถือเป็นรากฐานของการพัฒนาเมืองให้เป็นมหานครที่น่าอยู่มีความเจริญก้าวหน้า ในระดับประถมและมัธยมของโรงเรียนกทม. ในช่วงสมัยที่ผ่านมาได้มีหลักสูตร "โตไปไม่โกง" นักเรียนได้เรียนคอมพิวเตอร์1คนต่อ1เครื่อง และเด็กทุกคนได้ทานอาหารเช้าฟรี ซึ่งก็เป็นการเริ่มในการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้เด็กและเยาวชน
แต่เด็กจะดีและเก่งต้องเริ่มก่อนหน้านั้นคือตั้งแต่วัยก่อนอนุบาลดังนั้นจะผลักดันนโยบายในการดูแลเด็กวัยก่อนอนุบาลเพิ่มเติมด้วย
"ในวัยก่อนอนุบาลนี้เป็นช่วงเวลาสำคัญเพราะเป็นช่วงเริ่มต้นของการเรียนรู้ เด็กจะมีโลกแห่งจินตนาการ การดูแลที่ถูกต้องตามหลักมีความสำคัญเป็นอย่างมาก ครูและพี่เลี้ยงต้องมีความรู้ความเข้าใจในวิธีการดูแลและพัฒนาทักษะของเด็กเฉพาะวัย มากไปกว่านั้นศูนย์เด็กเล็กยังเปรียบเสมือนเป็นบ้านที่สองของเด็ก การปรับปรุงสถานที่ให้น่าอยู่ จัดสื่อการสอนที่น่าสนใจจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ตนจะเข้ามาดูแลต่อยอดจากที่ทำอยู่เดิม"
สำหรับแนวทางการพัฒนาศักยภาพศูนย์เด็กเล็กนั้น จะเน้นที่อาสาสมัครผู้ดูแลเด็กที่มีอยู่ถึง 2 พันกว่าคน จาก311ศูนย์ ดูแลเด็ก 27,000คน โดยจะจัดให้มีการอบรมหลักสูตรการป้องอันตรายจากสารตะกั่ว หลักสูตรการเสริมทักษะการอ่านให้กับเด็กเล็ก และการศึกษาดูงานเพื่อพัฒนาศูนย์ฯเข้าสู่เกณฑ์มาตรฐานสากล
และเพื่อเพิ่มขวัญและกำลังใจของอาสาสมัครผู้ดูแลเด็ก ตนจะปรับตำแหน่งอาสาสมัครให้เป็นลูกจ้างชั่วคราว ได้รับเงินเดือนเพิ่ม เช่น วุฒิปริญญาตรีจากเดือนละ 6,000กว่าบาท เป็น15,000 บาท งบประมาณสำหรับการพัฒนาศักยภาพศูนย์เด็กเล็กทั้งกายภาพและบุคคลากรรวมแล้วประมาณ 300 ล้านบาท ซึ่งถือว่าคุ้มค่าหากเราจะทำให้เด็กจำนวนสองหมื่นกว่าคนเป็นเด็กที่มีความพร้อมที่จะก้าวเข้าสู่โลกของการเรียนรู้ต่อไป
ศุกร์ที่ 25 ม.ค.นี้ ขอเชิญฟังปราศรัยใหญ่พรรคประชาธิปัตย์ เวลา 5 โมงเย็น ณ ลานคนเมือง ศาลาว่าการกทม. "กรุงเทพฯเดินหน้าทันที" #vote16
