Jump to content


Photo
- - - - -

นักประวัติศาสตร์ยกย่องกรุงศรีอยุธยาเมืองสุดยอดลำดับที่ 13 ของโลกเหนือกว่าเมืองสำคัญๆ ในโลก


  • Please log in to reply
19 ความเห็นในกระทู้นี้

#1 raffy

raffy

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,517 posts

ตอบ 24 มกราคม พ.ศ. 2556 - 10:00

ผมภูมิใจและชื่นชอบในข่าวนี้เลยนำมาฝากครับ

และก็หวังว่าเพื่อนๆ จะร่วมภูมิใจด้วยกันครับ

เอามาจาก Manager 

1136225250.jpg

 

ในช่วงหนึ่งแห่งประวัติศาสตร์โลก กรุงศรีอยุธยาเคยเป็นนครใหญ่อันดับหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่างไม่มีแห่งอื่นใดสามารถเปรียบเทียบได้ ที่นี่เป็นแหล่งแห่งความเจริญรุ่งเรืองสุดขีด เป็นแหล่งค้าขายระหว่างประเทศ เป็นแหล่งวิวัฒนาการทางสังคมและวัฒนธรรมอันหลากหลาย เป็นอู่อารยธรรมอีกแห่งหนึ่งในซีกโลกตะวันออก

ลิงค์แบบละเอียดยิบครับ

http://www.manager.c...D=9560000008955

 

ดีใจและภูมิใจที่เกิดเป็นคนไทย

มีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมครับ

อ่านไปก็นึกเสียดายกรุงศรีอยุธยาของเราไป

ก็เพราะคนไทยเรา "ไม่รักสามัคคีกัน"

เห็นคนอื่นมันดีกว่าคนบ้านเดียวกัน

โดยเฉพาะไอ้ล้านปึ้งในขณะนี้

466541.jpg 



#2 Jagger

Jagger

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 962 posts

ตอบ 24 มกราคม พ.ศ. 2556 - 10:06

แล้วการที่กรุงเทพไม่ได้ติดอันดับเป็นเมืองประวัติศาสตร์ของมวลมนุษย์เป็นเพราะใครครับ? :(


I've got the moves like Jagger~~~

#3 คนบูรพา

คนบูรพา

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,290 posts

ตอบ 24 มกราคม พ.ศ. 2556 - 10:09

แล้วการที่กรุงเทพไม่ได้ติดอันดับเป็นเมืองประวัติศาสตร์ของมวลมนุษย์เป็นเพราะใครครับ? :(

 

มันก็ยังเอามาผูกกันได้...........เชื่อแล้ว............ว่ามันเป็น "ขยะเปียก" ตัวจริง


ถ้าไม่คิดจะตอบแทนแผ่นดิน ก็จงอย่าทำลาย

#4 wat

wat

    เนตังมะมะ เนโสหะมัสมิ นะเมโสอัตตา.

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,542 posts

ตอบ 24 มกราคม พ.ศ. 2556 - 10:10

*
POPULAR

แล้วการที่กรุงเทพไม่ได้ติดอันดับเป็นเมืองประวัติศาสตร์ของมวลมนุษย์เป็นเพราะใครครับ? :(

 

d1.jpg

 

^_^   เพราะไอ้พวก เ ห ี ้ ย ... นี่แหละขอรับ...


:) Sometime...Sun shine through the rain...

#5 raffy

raffy

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,517 posts

ตอบ 24 มกราคม พ.ศ. 2556 - 10:17

แล้วการที่กรุงเทพไม่ได้ติดอันดับเป็นเมืองประวัติศาสตร์ของมวลมนุษย์เป็นเพราะใครครับ? :(

 

กรุงเทพฯ ยังเป็นเมืองปัจจุบันอยู่นี่ครับ

หรือคุณ และพวกพ้องคุณต้องการที่จะทำให้เป็นเมืองประวัติศาสตร์หรือไง

ช่วยชี้แจงหน่อยดิ เอาให้ชัดๆ



#6 Charlie

Charlie

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,449 posts

ตอบ 24 มกราคม พ.ศ. 2556 - 10:21

แล้วการที่กรุงเทพไม่ได้ติดอันดับเป็นเมืองประวัติศาสตร์ของมวลมนุษย์เป็นเพราะใครครับ? :(

กรุงเทพฯ Hot! อันดับ 3 เมืองน่าเที่ยวที่สุดในโลก 2012

p17fvmj9dh1k306or18ot1tbr8o33.jpg

บริษัท MasterCard ร่วมกับนิตยสาร Forbes เผยผลสำรวจเมืองน่าเที่ยวที่สุดของโลก โดยรวบรวมข้อมูลจากสายการบิน 87 แห่ง สหประชาชาติ คณะกรรมการการท่องเที่ยวแห่งชาติของประเทศต่างๆ และตัวแทนที่มีสาขาอยู่ทั่วโลก อันดับหนึ่งตกเป็นของกรุงลอนดอน อังกฤษ ตามมาด้วยที่สองกรุงปารีส ฝรั่งเศษ และอันดับสามเป็นกรุงเทพฯ เมืองฟ้าอมรของไทยนั่นเอง

p17fvmlfid1hfvu8v16541e2r23.jpg

ไม่อยากจะด่า มันเกินเยียวยาแล้วว่ะ วันๆ มัวแต่หาโพลเขียรรัฐบาลมาแปะ


Edited by Charlie, 24 มกราคม พ.ศ. 2556 - 11:52.

คนดีจริงไม่โกงที่วัด ไม่ยุแยงให้คนแตกแยก ไม่หลอกคนอื่นให้มารับเคราะห์ตายแทน


#7 Jagger

Jagger

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 962 posts

ตอบ 24 มกราคม พ.ศ. 2556 - 10:22

16 เมืองใหญ่ในประวัติศาสตร์มวลมนุษย์


       
       1. เจริโค (Jericho) ใหญ่ที่สุดของโลกในยุค 7,000 ปีก่อนคริสตกาล พลเมือง 2,000 คน ตั้งอยู่ระหว่างทะเลแดงกับภูเขานีโบ (Mt Nebo) เป็นโอเอซิสใหญ่ที่สุด ใช้น้ำจากแม่น้ำจอร์แดน ในคัมภีร์ไบเบิลเก่าบันทึกเอาไว้ว่า เจริโคเป็น “เมืองแห่งต้นปาล์ม” อยู่กันต่อมาอีกหลายยุค และเสื่อมไปกับกาลเวลา
       
       2. อูรุค (Uruk) ใหญ่ที่สุดในยุค 3,500 ปีก่อนคริสตกาล พลเมือง 4,000 คนเป็นเมืองหลวงของแคว้นกิลกาเมช (Gilgamesh) ในมหากาพย์ และเชื่อกันว่าคือเมืองเอเร็ค (Erech) ทีสร้างโดยกษัตริย์นิมรอด (King Nimrod) ในคัมภีร์ไบเบิล อยู่ใกล้แม่น้ำยูเฟรติส (Euphrates River) ศูนย์กลางการเกษตรและการค้า สงครามในภูมิภาคที่เริ่มขึ้นเมื่อประมาณ 2000 BC ยืดเยื้อข้ามศตวรรษ ต่อมา เมืองอูรุคถูกทิ้งให้ร้างไปในยุคก่อนที่ฝ่ายอิสลามเข้าครอบครอง
       
       3. มาริ (Mari) เมืองหลวงแคว้นเมโสโปเตเมีย (Mesopotamia) ในยุค 2000 BC ประชากร 50,000 ในยุคของกษัตริย์สุเมเรียน (Sumarite) หลายพระองค์ ก่อนเข้าสูยุคอาโมเรียน (Amorite) มีการสร้างพระราชวังขนาด 300 ห้อง ล่มสลายลงใน 1759 BC ถูกยึดรองโดยกษัตริย์ฮัมมูราบี (Hammurabi) แห่งบาบีลอน ในทศวรรษที่ 1930 นักโบราณคดีฝรั่งเศสค้นพบจารึกภาษาสุเมเรียน 25,000 ชิ้น ส่วนใหญ่เป็นบันทึกเรื่องราวเกี่ยวกับตัวเมือง และเศรษฐกิจ จารึกนี้ทำให้คนรุ่นปัจจุบันรู้จักสภาพการณ์ในยุคนั้น
       
       4. อูร์ (Ur) เป็นเมืองท่าสำคัญในอ่าวเปอร์เซียในยุค 2100 ก่อนคริสตกาล ประชากร 100,000 คน ค้าขายกับทั่วโลก ราว 500 BC ถูกทิ้งเป็นเมืองร้างเพราะภัยแล้งที่เกิดจากแม่น้ำที่เปลี่ยนทิศทางไหล แต่ยังเป็นแหล่งศักดิ์สิทธิ์ ต่อมา การขุดค้นในทศวรรษ 1850 พบซากมนุษย์จำนวนมาก เป็น “เมืองแห่งคนตาย” (City of the Dead) หรือนีโครโพลิส (Necropolis)
       
       5. หยินซู (Yinxu) รุ่งเรืองในช่วง 1300 BC ประชากร 120,000 คน เติบโตจากหมู่บ้านเล็กๆ ในอาณาจักรจีนโบราณ เป็นแหล่งที่ค้นพบจารึกบนกระดูกสัตว์ที่เรียกว่า ออราเคิลโบน (Oracle Bone) จำนวนมาก เขียนด้วยอักษรจีนโบราณ เมืองทรุดโทรมลง และถูกทอดทิ้งในสมัยราชวงศ์โจว (Zhou Dynasty)
       
       6. บาบีลอน (Babylon) รุ่งเรืองสุดขีดในช่วง 700 BC พลเมือง 100,000 เป็นศูนย์กลางความร่ำรวยแห่งยุคสมัย กษัตริย์ทรงอำนาจ และอิทธิพล เป็นแหล่งของสวนลอยบาบีลอน กับหอคอยแห่งบาเบล (Tower of Babel) คัมภีร์ไบเบิลกล่าวเอาไว้ว่า ชาวบาบีลอนเชื่อมั่นในพระเจ้า และพยายามปีนป่ายไปสู่สวรรค์ ราว 538 BC กษัตริย์ไซรัส (Cyrus) แห่เปอร์เซียยาตราทัพทวนแม่น้ำยูเฟรติสเข้าตี ปล้นสะดมบาบีลอนจนแหลกคามือ
       
       7. คาร์เถจ (Carthage) รุ่งเรืองโดดเด่นในปี 300 BC พลเมือง 100,000 ได้ชื่อเป็นเมืองยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก ก่อนที่จะถูกกองทัพโรมันที่เหนือกว่าเข้าโจมตี และเผาจนวายวอด และทำลายทุกสิ่งทุกอย่างเมื่อ 146 ปีก่อนคริสตกาล
       
       8. โรม (Rome) ยิ่งใหญ่ที่สุดในปี ค.ศ.200 ประชากร 1,200,000 คน เลี้ยงดูชาวเมืองด้วยอาหารจากยุโรป และรอบๆ ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนในรูปภาษี ชีวิตอันสุขสบายของชาวโรมันสะท้อนได้ดีมากในภาพยนตร์ เช่น แกลดิเอเตอร์ (Gladiator) ที่นำแสดงโดย รัสเซล โครว์ (Russell Crowe) กับวาวควีน ฟีนิกซ์ (Joaquin Phoenix) แต่ปี ค.ศ.273 โรมเหลือประชากรอยู่ราว 500,000 เริ่มเข้าสู่ยุคมืด (Dark Age)
       
       9. คอนสแตนนิโนเปิล (Constantinople) เจริญสุดขีดในปี ค.ศ.600 ประชากร 600,000 คน เป็นศูนย์กลางการค้าขาย อาณาจักรกว้างใหญ่ไพศาลในยุคของจักรพรรดิฟลาวีอุส เฮราคลีอุส ออกัสตัส (Flavius Heraclius Augustus) สงครามเปอร์เซียปี 618 ทำให้การส่งอาหาร และพืชผลการเกษตรจากอียิปต์หยุดชะงัก พลเมืองเริ่มอดอยาก และเหลือเพียงประมาณ 1 ใน 10 ของจำนวนเมื่อ 18 ปีก่อนหน้านั้น
       
       10. แบกแดด (Bagdad) ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกในปี ค.ศ.900 ประชากร 900,000 คน ได้ชื่อเป็นศูนย์กลางของยุคทองแห่งศาสนาอิสลาม เป็นศูนย์กลางของศิลปะ และวิทยาการหลายแขนงที่โลกอิสลามใช้มาจนถึงยุคปัจจุบัน แบกแดดเฟื่องฟูอยู่ 300 ปีเศษ ก่อนจะถูกกองทัพมองโกลรุกราน และถูกตีย่อยยับลงในปี 1250
       
       11. ไคเฟิง (Kaifeng) เป็นเมืองใหญ่มากใน ค.ศ.1200 ประชากร 1,000,000 คน ตัวเมืองป้องกันแน่นหนาด้วยกำแพงถึง 3 ชั้น แต่ก็ไม่พ้นเงื้อมมือของมองโกลในการศึกที่ยืดเยื้อ 30 ปีเศษ และปี 1234 ไคเฟิงก็แตกพ่าย ราษฎรหลบหนีไปคนละทิศละทาง ที่นี่ยังมีชุมชนชาวยิวโบราณใหญ่โตที่สุดในจีนอีกด้วย
       
       12. ปักกิ่ง โดดเด่นมาตั้งแต่ ค.ศ. 1500 ประชากร 1,00,000 คน ใหญ่โตที่สุดในยุค แต่แพ้ภัยตัวเองเพราะไม่สามารถเลี้ยงดูประชากรที่มากมายได้ ราษฎรบุกถางป่าตัดไม้ทำบ้านเรือนที่อาศัย และเผาถ่านเป็นเชื้อเพลิงจนโล่งเตียน ส่งผลกระทบด้านสภาพแวดล้อมสะท้านสะเทือนไปทั่วภูมิภาค
       
       13. กรุงศรีอยุธยา เป็นเมืองหลวงอาณาจักรสยามโบราณอยู่กว่า 400 ปี แต่ขึ้นนำหน้าทุกเมืองในโลกในปี ค.ศ.1700 (พ.ศ.2243) ประชากร 1,000,0000 คน เป็นศูนย์กลางการค้าขายแลกเปลี่ยนสินค้าจากสารพัดทิศ รวมทั้งชาวยุโรปด้วย แต่อยุธยาก็สิ้นสุดลงเป็นเถ้าถ่านด้วยน้ำมือของกองทัพพม่า
       
       14. ลอนดอน ใหญ่โตที่สุดในต้นศตวรรษที่ 19 หรือปี ค.ศ.1825 ประชากร 1,335,000 คน ที่อยู่กันแออัดจนเกือบจะทุกย่านของเมืองหลวงมีสภาพเป็นสลัม อาชญากรรมลามเมือง ในปี 1829 รัฐบาลได้ตั้งกองกำลังตำรวจขึ้นอย่างเป็นทางการ ตั้งชื่อตามชื่อของนายกรัฐมนตรีโรเบิร์ต พีล (Robert Peel) ชาวอังกฤษเรียกตำรวจว่า “บ๊อบบี้ส์” (Bobbies) จนถึงทุกวันนี้
       
       15. นิวยอร์ก ในปี 1925 หรือต้นศตวรรษที่แล้วมีประชากรถึง 7,774,000 คน เป็นมหานครที่มองสู่อนาคตอย่างแท้จริง เป็นแห่งแรกของโลกที่สร้างตึกระฟ้า ถึงแม้ว่าจะเจอสภาพเศรษฐกิจตกต่ำในปี 1929 แต่การก่อสร้างอาคารสูง เช่น ไครสเลอร์ เอ็มไพร์สเตท ลินคอล์น และอาคารวันวอลสตรีท ฯลฯ ก็ยังดำเนินต่อไป
       
       16. โตเกียว ใน 1968 (พ.ศ.2511) เมืองหลวงของญี่ปุ่นมีประชากรถึง 20,500,000 คน ไม่เคยมีที่ไหนประวัติศาสตร์โลก แต่เศรษฐกิจของประเทศรุ่งเรืองสุดขีด ระหว่างปี 1953-1990 เป็นช่วงที่เศรษฐกิจยุคหลังสงครามโชติช่วงมากที่สุด ญี่ปุ่นสร้างสิ่งประดิษฐ์สมัยใหม่ออกสู่ตลาดโลกมากมายหลายชนิด.

 

 

ลอนดอน โตเกียว นิวยอร์ก  ปักกิ่ง แบกแดด โรม..... ต่างก็เป็นเมืองในยุคปัจจุบันเช่นกันครับ ยังติดอันดับเลย แต่กรุงเทพไม่ติด  :( 


I've got the moves like Jagger~~~

#8 คนบูรพา

คนบูรพา

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,290 posts

ตอบ 24 มกราคม พ.ศ. 2556 - 10:25

"ขยะเปียก"..........กำลังจะบอกว่า............ถ้าเพลิงสะพัด.......ได้เป็นผู้ว่าฯ......

 

กทม.  จะติดอันดับว่างั้นเถอะ..................

 

แต่คิดว่า........คงติดอันดับเมืองหลวง......ที่มี "ขโมย" เยอะที่สุดมากกว่า.......555+


ถ้าไม่คิดจะตอบแทนแผ่นดิน ก็จงอย่าทำลาย

#9 raffy

raffy

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,517 posts

ตอบ 24 มกราคม พ.ศ. 2556 - 10:33

Jagger เมืองเหล่านั้นยังอยู่ก็เพราะอะไรเหรอ

ก็เขาคงไม่มีคนคิดชั่วกับบ้านเมืองไง

เผา...เผา...แล้วก็เผาให้บ้านเมืองมันย่อยยับ

ครั้งก่อนก็เกือบไปเพราะพวกใครเล่า



#10 G.Maniac

G.Maniac

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,440 posts

ตอบ 24 มกราคม พ.ศ. 2556 - 10:38

16 เมืองใหญ่ในประวัติศาสตร์มวลมนุษย์


       
       1. เจริโค (Jericho) ใหญ่ที่สุดของโลกในยุค 7,000 ปีก่อนคริสตกาล พลเมือง 2,000 คน ตั้งอยู่ระหว่างทะเลแดงกับภูเขานีโบ (Mt Nebo) เป็นโอเอซิสใหญ่ที่สุด ใช้น้ำจากแม่น้ำจอร์แดน ในคัมภีร์ไบเบิลเก่าบันทึกเอาไว้ว่า เจริโคเป็น “เมืองแห่งต้นปาล์ม” อยู่กันต่อมาอีกหลายยุค และเสื่อมไปกับกาลเวลา
       
       2. อูรุค (Uruk) ใหญ่ที่สุดในยุค 3,500 ปีก่อนคริสตกาล พลเมือง 4,000 คนเป็นเมืองหลวงของแคว้นกิลกาเมช (Gilgamesh) ในมหากาพย์ และเชื่อกันว่าคือเมืองเอเร็ค (Erech) ทีสร้างโดยกษัตริย์นิมรอด (King Nimrod) ในคัมภีร์ไบเบิล อยู่ใกล้แม่น้ำยูเฟรติส (Euphrates River) ศูนย์กลางการเกษตรและการค้า สงครามในภูมิภาคที่เริ่มขึ้นเมื่อประมาณ 2000 BC ยืดเยื้อข้ามศตวรรษ ต่อมา เมืองอูรุคถูกทิ้งให้ร้างไปในยุคก่อนที่ฝ่ายอิสลามเข้าครอบครอง
       
       3. มาริ (Mari) เมืองหลวงแคว้นเมโสโปเตเมีย (Mesopotamia) ในยุค 2000 BC ประชากร 50,000 ในยุคของกษัตริย์สุเมเรียน (Sumarite) หลายพระองค์ ก่อนเข้าสูยุคอาโมเรียน (Amorite) มีการสร้างพระราชวังขนาด 300 ห้อง ล่มสลายลงใน 1759 BC ถูกยึดรองโดยกษัตริย์ฮัมมูราบี (Hammurabi) แห่งบาบีลอน ในทศวรรษที่ 1930 นักโบราณคดีฝรั่งเศสค้นพบจารึกภาษาสุเมเรียน 25,000 ชิ้น ส่วนใหญ่เป็นบันทึกเรื่องราวเกี่ยวกับตัวเมือง และเศรษฐกิจ จารึกนี้ทำให้คนรุ่นปัจจุบันรู้จักสภาพการณ์ในยุคนั้น
       
       4. อูร์ (Ur) เป็นเมืองท่าสำคัญในอ่าวเปอร์เซียในยุค 2100 ก่อนคริสตกาล ประชากร 100,000 คน ค้าขายกับทั่วโลก ราว 500 BC ถูกทิ้งเป็นเมืองร้างเพราะภัยแล้งที่เกิดจากแม่น้ำที่เปลี่ยนทิศทางไหล แต่ยังเป็นแหล่งศักดิ์สิทธิ์ ต่อมา การขุดค้นในทศวรรษ 1850 พบซากมนุษย์จำนวนมาก เป็น “เมืองแห่งคนตาย” (City of the Dead) หรือนีโครโพลิส (Necropolis)
       
       5. หยินซู (Yinxu) รุ่งเรืองในช่วง 1300 BC ประชากร 120,000 คน เติบโตจากหมู่บ้านเล็กๆ ในอาณาจักรจีนโบราณ เป็นแหล่งที่ค้นพบจารึกบนกระดูกสัตว์ที่เรียกว่า ออราเคิลโบน (Oracle Bone) จำนวนมาก เขียนด้วยอักษรจีนโบราณ เมืองทรุดโทรมลง และถูกทอดทิ้งในสมัยราชวงศ์โจว (Zhou Dynasty)
       
       6. บาบีลอน (Babylon) รุ่งเรืองสุดขีดในช่วง 700 BC พลเมือง 100,000 เป็นศูนย์กลางความร่ำรวยแห่งยุคสมัย กษัตริย์ทรงอำนาจ และอิทธิพล เป็นแหล่งของสวนลอยบาบีลอน กับหอคอยแห่งบาเบล (Tower of Babel) คัมภีร์ไบเบิลกล่าวเอาไว้ว่า ชาวบาบีลอนเชื่อมั่นในพระเจ้า และพยายามปีนป่ายไปสู่สวรรค์ ราว 538 BC กษัตริย์ไซรัส (Cyrus) แห่เปอร์เซียยาตราทัพทวนแม่น้ำยูเฟรติสเข้าตี ปล้นสะดมบาบีลอนจนแหลกคามือ
       
       7. คาร์เถจ (Carthage) รุ่งเรืองโดดเด่นในปี 300 BC พลเมือง 100,000 ได้ชื่อเป็นเมืองยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก ก่อนที่จะถูกกองทัพโรมันที่เหนือกว่าเข้าโจมตี และเผาจนวายวอด และทำลายทุกสิ่งทุกอย่างเมื่อ 146 ปีก่อนคริสตกาล
       
       8. โรม (Rome) ยิ่งใหญ่ที่สุดในปี ค.ศ.200 ประชากร 1,200,000 คน เลี้ยงดูชาวเมืองด้วยอาหารจากยุโรป และรอบๆ ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนในรูปภาษี ชีวิตอันสุขสบายของชาวโรมันสะท้อนได้ดีมากในภาพยนตร์ เช่น แกลดิเอเตอร์ (Gladiator) ที่นำแสดงโดย รัสเซล โครว์ (Russell Crowe) กับวาวควีน ฟีนิกซ์ (Joaquin Phoenix) แต่ปี ค.ศ.273 โรมเหลือประชากรอยู่ราว 500,000 เริ่มเข้าสู่ยุคมืด (Dark Age)
       
       9. คอนสแตนนิโนเปิล (Constantinople) เจริญสุดขีดในปี ค.ศ.600 ประชากร 600,000 คน เป็นศูนย์กลางการค้าขาย อาณาจักรกว้างใหญ่ไพศาลในยุคของจักรพรรดิฟลาวีอุส เฮราคลีอุส ออกัสตัส (Flavius Heraclius Augustus) สงครามเปอร์เซียปี 618 ทำให้การส่งอาหาร และพืชผลการเกษตรจากอียิปต์หยุดชะงัก พลเมืองเริ่มอดอยาก และเหลือเพียงประมาณ 1 ใน 10 ของจำนวนเมื่อ 18 ปีก่อนหน้านั้น
       
       10. แบกแดด (Bagdad) ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกในปี ค.ศ.900 ประชากร 900,000 คน ได้ชื่อเป็นศูนย์กลางของยุคทองแห่งศาสนาอิสลาม เป็นศูนย์กลางของศิลปะ และวิทยาการหลายแขนงที่โลกอิสลามใช้มาจนถึงยุคปัจจุบัน แบกแดดเฟื่องฟูอยู่ 300 ปีเศษ ก่อนจะถูกกองทัพมองโกลรุกราน และถูกตีย่อยยับลงในปี 1250
       
       11. ไคเฟิง (Kaifeng) เป็นเมืองใหญ่มากใน ค.ศ.1200 ประชากร 1,000,000 คน ตัวเมืองป้องกันแน่นหนาด้วยกำแพงถึง 3 ชั้น แต่ก็ไม่พ้นเงื้อมมือของมองโกลในการศึกที่ยืดเยื้อ 30 ปีเศษ และปี 1234 ไคเฟิงก็แตกพ่าย ราษฎรหลบหนีไปคนละทิศละทาง ที่นี่ยังมีชุมชนชาวยิวโบราณใหญ่โตที่สุดในจีนอีกด้วย
       
       12. ปักกิ่ง โดดเด่นมาตั้งแต่ ค.ศ. 1500 ประชากร 1,00,000 คน ใหญ่โตที่สุดในยุค แต่แพ้ภัยตัวเองเพราะไม่สามารถเลี้ยงดูประชากรที่มากมายได้ ราษฎรบุกถางป่าตัดไม้ทำบ้านเรือนที่อาศัย และเผาถ่านเป็นเชื้อเพลิงจนโล่งเตียน ส่งผลกระทบด้านสภาพแวดล้อมสะท้านสะเทือนไปทั่วภูมิภาค
       
       13. กรุงศรีอยุธยา เป็นเมืองหลวงอาณาจักรสยามโบราณอยู่กว่า 400 ปี แต่ขึ้นนำหน้าทุกเมืองในโลกในปี ค.ศ.1700 (พ.ศ.2243) ประชากร 1,000,0000 คน เป็นศูนย์กลางการค้าขายแลกเปลี่ยนสินค้าจากสารพัดทิศ รวมทั้งชาวยุโรปด้วย แต่อยุธยาก็สิ้นสุดลงเป็นเถ้าถ่านด้วยน้ำมือของกองทัพพม่า
       
       14. ลอนดอน ใหญ่โตที่สุดในต้นศตวรรษที่ 19 หรือปี ค.ศ.1825 ประชากร 1,335,000 คน ที่อยู่กันแออัดจนเกือบจะทุกย่านของเมืองหลวงมีสภาพเป็นสลัม อาชญากรรมลามเมือง ในปี 1829 รัฐบาลได้ตั้งกองกำลังตำรวจขึ้นอย่างเป็นทางการ ตั้งชื่อตามชื่อของนายกรัฐมนตรีโรเบิร์ต พีล (Robert Peel) ชาวอังกฤษเรียกตำรวจว่า “บ๊อบบี้ส์” (Bobbies) จนถึงทุกวันนี้
       
       15. นิวยอร์ก ในปี 1925 หรือต้นศตวรรษที่แล้วมีประชากรถึง 7,774,000 คน เป็นมหานครที่มองสู่อนาคตอย่างแท้จริง เป็นแห่งแรกของโลกที่สร้างตึกระฟ้า ถึงแม้ว่าจะเจอสภาพเศรษฐกิจตกต่ำในปี 1929 แต่การก่อสร้างอาคารสูง เช่น ไครสเลอร์ เอ็มไพร์สเตท ลินคอล์น และอาคารวันวอลสตรีท ฯลฯ ก็ยังดำเนินต่อไป
       
       16. โตเกียว ใน 1968 (พ.ศ.2511) เมืองหลวงของญี่ปุ่นมีประชากรถึง 20,500,000 คน ไม่เคยมีที่ไหนประวัติศาสตร์โลก แต่เศรษฐกิจของประเทศรุ่งเรืองสุดขีด ระหว่างปี 1953-1990 เป็นช่วงที่เศรษฐกิจยุคหลังสงครามโชติช่วงมากที่สุด ญี่ปุ่นสร้างสิ่งประดิษฐ์สมัยใหม่ออกสู่ตลาดโลกมากมายหลายชนิด.

 

 

ลอนดอน โตเกียว นิวยอร์ก  ปักกิ่ง แบกแดด โรม..... ต่างก็เป็นเมืองในยุคปัจจุบันเช่นกันครับ ยังติดอันดับเลย แต่กรุงเทพไม่ติด  :(

 

กรุงเทพฯตั้งเมื่อ ค.ศ. 1782

 

แบกแดด (Bagdad) ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกในปี ค.ศ.900  (เค้าพูดถึงปัจจุบัน????)

 

ปักกิ่ง โดดเด่นมาตั้งแต่ ค.ศ. 1500 (เค้าพูดถึงปัจจุบัน????)

 

ลอนดอน ใหญ่โตที่สุดในต้นศตวรรษที่ 19 (เค้าพูดถึงปัจจุบัน????)

 

นิวยอร์ก เป็นแห่งแรกของโลกที่สร้างตึกระฟ้า

 

โตเกียว ใน 1968 (พ.ศ.2511) เมืองหลวงของญี่ปุ่นมีประชากรถึง 20,500,000 คน ไม่เคยมีที่ไหนประวัติศาสตร์โลก

แต่เศรษฐกิจของประเทศรุ่งเรืองสุดขีด ระหว่างปี 1953-1990 เป็นช่วงที่เศรษฐกิจยุคหลังสงครามโชติช่วงมากที่สุด

ญี่ปุ่นสร้างสิ่งประดิษฐ์สมัยใหม่ออกสู่ตลาดโลกมากมายหลายชนิด.

 

 

ข้อมูลเหล่านี้เป็นเหตุเป็นผลอยู่แล้ว จริงๆไม่น่าจะเหลือบ่ากว่าแรง พวกโง่อวดฉลาด หรือ สู่รู้ อย่าง จขกท. จะคิดออกนะ

 

เพียงแค่หาทางกระทบกระเทียบฝ่ายตรงข้าม ตามประสาคนหย่อนสำนึกผิดชอบช่วดี หย่อนการรู้จักอับจักอาย แค่นั้น


Edited by GermanManiac, 24 มกราคม พ.ศ. 2556 - 10:41.


#11 Octavarium

Octavarium

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,095 posts

ตอบ 24 มกราคม พ.ศ. 2556 - 10:44

ลอนดอน โตเกียว นิวยอร์ก  ปักกิ่ง แบกแดด โรม....เมืองที่ว่ามันมีมากี่ร้อยปีล่ะครับ

 

เมืองในประวัติศาสตร์ กรุงเทพฯ ของเรายังไม่เก่าขนาดนั้น เทียบกับอยุธยาแล้วก็ยังใหม่อยู่มาก

 

ประเด็นของ Jagger คืออะไร


Edited by Junk Life, 24 มกราคม พ.ศ. 2556 - 10:44.

       Invoke ExitWindowsEx, EWX_SHUTDOWN | EWX_POWEROFF | EWX_FORCEIFHUNG, SHTDN_REASON_MAJOR_SYSTEM


#12 ยืนงงกลางดงแดง

ยืนงงกลางดงแดง

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 99 posts

ตอบ 24 มกราคม พ.ศ. 2556 - 11:32

แล้วการที่กรุงเทพไม่ได้ติดอันดับเป็นเมืองประวัติศาสตร์ของมวลมนุษย์เป็นเพราะใครครับ? :(

 

attachicon.gifd1.jpg

 

^_^   เพราะไอ้พวก เ ห ี ้ ย ... นี่แหละขอรับ...

ชัดเจนเลยท่าน



#13 sigree

sigree

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,883 posts

ตอบ 24 มกราคม พ.ศ. 2556 - 11:34

แล้วการที่กรุงเทพไม่ได้ติดอันดับเป็นเมืองประวัติศาสตร์ของมวลมนุษย์เป็นเพราะใครครับ? :(

 

ติดแล้ว

 

ติดเพราะเป็นเมืองแรกในประวัติศาสตร์โลกที่ถูกสีแดงเผา



#14 10Mz

10Mz

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 570 posts

ตอบ 24 มกราคม พ.ศ. 2556 - 11:49

ไอ้โปกสันดานขี้ข้่า มันจับมาโยงกันได้มั่วไปหมด
งั้นผมขอมั้งนะ แล้วเมืองของเจ้ามูลแม้วล่ะ ไม่เห็นติดเลย
เมืองที่มันไปอยู่ก็ไม่ติด อย่างว่าแหล่ะ ตัวอัปปีย์ประจำโลกใบนี้เลย

#15 plunk

plunk

    สลิปงินเดือนอยู่ไหนอ่ะ ไอ้คางครูด?

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,862 posts

ตอบ 24 มกราคม พ.ศ. 2556 - 11:57

แล้วการที่กรุงเทพไม่ได้ติดอันดับเป็นเมืองประวัติศาสตร์ของมวลมนุษย์เป็นเพราะใครครับ? :(



ตอนเด็กๆได้เรียนหนังสือ มารึเปล่า? อยุธยา มีอายุ 417 ปี ส่วน กรุงเทพ พึ่งจะ 210 ปี เองนะ ไอ้ โง่ โง่ตามนายจริงๆ
ทำได้ทันที ไม่ต้องกู้ พรรคไหนเห่าไว้ตอนหาเสียงวะ?และกระทู้ในตำนานของ คนขี้โกหก http://webboard.seri...้สลิปเงินเดือน/

#16 หนูอ้อย

หนูอ้อย

    นักเขียนหน่อมแน้ม

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,215 posts

ตอบ 24 มกราคม พ.ศ. 2556 - 12:03

ที่อยุธยาได้รางวัลก็เพราะอยุธยารับน้ำแทนกรุงเทพฯค่ะ :lol:


 AMAZING  coup d'etat  , THAILAND ONLY ..  :ph34r:  


#17 ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

    หน้าตาดี มีอุดมการณ์

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 21,670 posts

ตอบ 24 มกราคม พ.ศ. 2556 - 19:51

แล้วการที่กรุงเทพไม่ได้ติดอันดับเป็นเมืองประวัติศาสตร์ของมวลมนุษย์เป็นเพราะใครครับ? :(

 

ไม่ไหวแล้ว...

ขอซักทีเถอะ.jpg

gladiator 1.jpg

 

 

 

 

 

 


#18 ปุถุชน

ปุถุชน

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 27,531 posts

ตอบ 24 มกราคม พ.ศ. 2556 - 20:21

"ขยะเปียก"..........กำลังจะบอกว่า............ถ้าเพลิงสะพัด.......ได้เป็นผู้ว่าฯ......

 

กทม.  จะติดอันดับว่างั้นเถอะ..................

 

แต่คิดว่า........คงติดอันดับเมืองหลวง......ที่มี "ขโมย" เยอะที่สุดมากกว่า.......555+

 

 

 

ถ้าปี 2553 กรุงเทพมหานครไม่ถูกเผา.....

ภายใต้รัฐบาลนายกฯอภิสิทธิ์ กรุงเทพมหานครอาจจะเป็นเมืองติดอันดับได้........ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

 

 

 


เคียงข้างลุงกำนัน ปฏิรูปการเมืองไทย กำจัดระบอบทักษิณ ขับไล่มวลหมู่ขี้ข้า วันที่ 26 พฤษภาคม 2557...


#19 koong

koong

    ใช้ชีวิตกลางดงแดง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,147 posts

ตอบ 24 มกราคม พ.ศ. 2556 - 20:44

ขำควายแดง :lol:



#20 MOD X

MOD X

    Moderator

  • Moderators
  • 4,393 posts

ตอบ 24 มกราคม พ.ศ. 2556 - 20:49

ลอนดอน โตเกียว นิวยอร์ก  ปักกิ่ง แบกแดด โรม....เมืองที่ว่ามันมีมากี่ร้อยปีล่ะครับ

 

เมืองในประวัติศาสตร์ กรุงเทพฯ ของเรายังไม่เก่าขนาดนั้น เทียบกับอยุธยาแล้วก็ยังใหม่อยู่มาก

 

ประเด็นของ Jagger คืออะไร

 

คือขอแค่ด่า ปชป ครับ ประเด็นเค้ามีแค่นี้ครับ


---------------------------------------





ผู้ใช้ 1 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้

สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 1 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน