อ้อ.. ลืมไป อย่าไปเรียกเค้าว่า "เขมร" นะ เค้าไม่ชอบ..
Edited by ดอกปีบ, 25 มกราคม พ.ศ. 2556 - 22:01.
ตอบ 24 มกราคม พ.ศ. 2556 - 23:24
อ้อ.. ลืมไป อย่าไปเรียกเค้าว่า "เขมร" นะ เค้าไม่ชอบ..
Edited by ดอกปีบ, 25 มกราคม พ.ศ. 2556 - 22:01.
ดอกไม้งามมีหนามแหลม ใช่บานแย้มให้คนชม บานไว้เพื่อสะสม ความอุดมแห่งผืนดิน...
ตอบ 24 มกราคม พ.ศ. 2556 - 23:26
ถึงว่า ทำไมหัวมันลื่น ๆ ชอบกล
ตอบ 24 มกราคม พ.ศ. 2556 - 23:32
ตำแหน่ง "ขี้ข้าทักษิณ" หายไปอีก 1 ตำแหน่ง ครับคุณดอกปีบ...
ขอเทิดทูนศักดิ์ศรียิ่งสิ่งใด
...แม้แต่ลมหายใจก็ยอมพลี
โลกยังไม่สิ้นหวัง ถ้ายังมั่นในความดี
...ศรัทธาไม่เคยหน่ายหนี คนดีไม่มีวันตาย
ตอบ 25 มกราคม พ.ศ. 2556 - 01:27
ทำงานดีเข้าตาผม มีอยู่ตำแหน่งเดียว
ลองทายกันเล่นๆจิ ว่าตำแหน่งอะไร
ขี้ข้าไม่ใช่ตำแหน่ง ใจอาสาสมัคร ยอมเป็นเอง
ตอบ 25 มกราคม พ.ศ. 2556 - 02:14
ชอบการ์ตูนล้ออ่ะ
ตอบ 25 มกราคม พ.ศ. 2556 - 05:04
เนรคุณแผ่นดินเกิด หน้าตาเป็นแบบนี้แหละ
ตอบ 25 มกราคม พ.ศ. 2556 - 05:59
Edited by ม่านน้ำ, 25 มกราคม พ.ศ. 2556 - 05:59.
ตอบ 25 มกราคม พ.ศ. 2556 - 06:59
ตระกูลมืงคงภูมิใจตายล่ะ ไอ้ล้านปึ้ง
"ความดี กับ ความเลว
ความจริง กับ คำโกหก
ความถูกต้อง กับ การทำผิดกฎหมาย"
ถ้าเกิดเป็น คน ไม่ได้เกิดเป็น ควาย มันไม่ต้องให้ทายหรอก ว่าจะเลือกอย่างไหน
ตอบ 25 มกราคม พ.ศ. 2556 - 07:15
เสื้อแดงคงภูมิใจ รมต คนนี้น่าดู
ตอบ 25 มกราคม พ.ศ. 2556 - 07:15
อืมๆ นั้นสิ ตอนนี้ถ้าต่างประเทศ มีอะไรทำให้ไทยเสียหาย
รัฐบาลไทย ควรรับ และแก้ต่างให้แก่ รัฐของคนอื่นแทนไป ส่วนภาพของรัฐของไทย
ก็ปล่อยไว้ งง ดีแหะ
กฎหมายมันก็แค่สิงที่สร้างมาอย่างมีเป้าหมาย แต่หาก เอาแต่บอกว่ากฎหมายเป็นแบบนี้ แบบนั้น โดยไม่สนใจว่าเป้าหมายจริงๆ นันคืออะไร ก็คงไม่ใช่
ตอบ 25 มกราคม พ.ศ. 2556 - 07:56
ตอบ 25 มกราคม พ.ศ. 2556 - 08:34
ไม่ทราบว่าไอ้เวรนี้.............มันกินเงินเดือน ที่มาจากภาษีประชาชน
ของประเทศไทย..............หรือเขมรกันแน่.............
ตกลงบ้านเรา.............กลายเป็นเบี้ยของเขมร........ประเทศขอทานแบบนี้แล้วเหรอ..........
ทั้งที่ความเจริญของบ้านเรา.............ห่างไกลกับมัน.........หลายเท่าตัว
ขอทานที่บ้านมันยังไม่พอกิน............ยังแอบเข้ามาขอทานเต็มบ้านเราไปหมด.............
นักการเมืองที่ไปรับใช้เขมร.........ก็ควรไล่ให้มันไปอยู่เขมรให้หมด
เหมือนไอ้เชี้ยแม้ว..........ที่เคยเป็นที่ปรึกษาให้ประเทศขอทานนี้..........มาก่อน..........
ตอบ 25 มกราคม พ.ศ. 2556 - 11:34
อันนี้ไม่ใช่มหาเดโช แต่เป็น หมาของเดโช
It's us against the world
ตอบ 25 มกราคม พ.ศ. 2556 - 22:02
ดอกไม้งามมีหนามแหลม ใช่บานแย้มให้คนชม บานไว้เพื่อสะสม ความอุดมแห่งผืนดิน...
ตอบ 25 มกราคม พ.ศ. 2556 - 22:04
อาจเป็นความภูมิใจในวงษ์ตระกูลของเขานะ
ตอบ 25 มกราคม พ.ศ. 2556 - 23:51
ไอ้หัวนกตะกรุม ไอ้ขี้ข้าเขมร
ใครอยู่เบื้องหลังการอุ้มฆ่าเอกยุทธ์ อัญชัญบุตร
ตอบ 27 มกราคม พ.ศ. 2556 - 16:32
ผมสงสัยว่าไอ้นกตะกรุมตัวนี้ เป็นเมียเก็บฮุนเซนหรือเปล่า
ตอบ 28 มกราคม พ.ศ. 2556 - 19:38
จะมีโอกาศได้เห็นตัวแบบนี้ โดนเช็กบิลในอานาคตอันใกล้ไหมครับ?
ปล.ไม่รู้จะเรียกว่าอะไร Unknow Species (มีลักษณะคล้ายพวก ****** Group จก.)
Edited by Manners, 28 มกราคม พ.ศ. 2556 - 20:09.
ตอบ 29 มกราคม พ.ศ. 2556 - 00:12
ผมเคยบอก "ยิ่งลักษณ์" ไปครั้งหนึ่งว่า ถ้าต้องการเป็นนายกฯ หญิงรักสนุกไปนานๆ ละก็ เรื่องหนี่งที่ต้องทำ คือ ยอม "ขัดใจพี่ชาย" ซักครั้ง "ปลด-ย้าย" นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล พ้นจาก รมว.ต่างประเทศเดี๋ยวนี้ ไม่ใช่เพราะผมมีอคติ แต่ในฐานะนายกฯ ควรทราบ ทุกรัฐบาลในโลก เวลาจะสื่อให้ "สังคมโลก" ได้รู้ถึงเป้าหมายของรัฐบาลตัวเองต่อปัญหานั้นๆ เขาจะส่งสัญญาณผ่านปูม "ประวัติ-ท่าที" รัฐมนตรีต่างประเทศ
ดังนั้น ยิ่งลักษณ์ก็ต้องเข้าใจปฏิกิริยาตอบสนอง "สังคมไทย-สังคมเทศ" ด้วยว่า ถ้ายังให้นายสุรพงษ์เป็นรัฐมนตรีต่างประเทศอยู่ นั่นเท่ากับ "รัฐบาลไทย" ส่งสัญญาณผ่านปูมประวัติ-ท่าทีนายสุรพงษ์ว่า
กรณี "พื้นที่รอบปราสาทพระวิหาร" รัฐบาลยิ่งลักษณ์คือ "รัฐบาลทักษิณบริหาร" ถ้าไม่สมประโยชน์กับเขมร ก็กำลังจะยกประโยชน์ให้เขมร!?
ถามว่า ทักษิณก็ดี นายสุรพงษ์ "รัฐมนตรีต่างประเทศเพื่อทักษิณ" ก็ดี มีบทบาท-พฤติกรรมจูงใจใด ให้เชื่อว่า "มีความน่าจะเป็น" เช่นนั้น?
คำตอบ คือ สำหรับทักษิณ ด้วยพฤตินัยสัมพันธ์ ก็ชัดแจ้ง-เปิดเผย เป็นที่ประจักษ์อยู่ตั้งแต่อดีต ยันปัจจุบัน และด้วยนิติสัมพันธ์เป็นทางการ เมื่อเดือน พ.ย.๕๒
"พระเจ้าสีหมุนี" กษัตริย์แห่งกัมพูชา โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ทักษิณเป็น "ที่ปรึกษารัฐบาลกัมพูชาด้านเศรษฐกิจ" และอีกทั้งสมเด็จฮุน เซน นายกฯ กัมพูชา ก็ได้แต่งตั้งทักษิณเป็น "ที่ปรึกษาส่วนตัว" อีกตำแหน่งหนึ่งด้วย
สำหรับนายสุรพงษ์ ในวาระเดียวกันนั้น ขณะเป็น ส.ส.พรรคเพื่อไทย ได้โดดประชุมรัฐสภา นำ ส.ส.เพื่อไทยกว่า ๕๐ คน เดินทางข้ามแดนเข้าไปพบทักษิณในกัมพูชา พร้อมนำ "พระสยามเทวาธิราช" องค์จำลอง ๒ องค์ไปด้วย องค์หนึ่งมอบให้ทักษิณ
และอีกองค์...นายสุรพงษ์มอบให้กับสมเด็จฮุน เซน!
การไปครั้งนั้น สร้างความเสื่อมเสียให้กับภาพรวมประเทศไทยเรามาก ไม่ต้องพูดถึงการ "ยืมมือเขมร" ช่วยทักษิณ-ช่วย นปช.ทั้งการฝึกเป็นกองกำลัง ทั้งการให้ที่หลบซ่อน เพื่อปฏิบัติการช่วงชิงอำนาจประเทศ โดยไม่จำกัดรูปแบบและวิธีการ
ที่สร้างความอัปยศ-อดสูประเทศ ติดตรึงเป็นประวัติศาสตร์ ก็คือ ส.ส.ตัวไทย-ใจทาสเหล่านั้น เมื่อมอบพระสยามฯ ให้กับผู้มีจิตไม่สุจริตต่อประเทศไทยเราแล้ว ยังเรียงแถวพินอบหมอบกราบ "แทบตีน" ฮุน เซน ผู้ซึ่งแสดงตนเป็นปฏิปักษ์กับไทย ด้วยฉวยจังหวะ ๒ ต่อ
คือทั้งเพื่อสร้างเงื่อนไขเรื่องพื้นที่รอบตัวปราสาทพระวิหาร กรณีขึ้นตีทะเบียนฝ่ายเดียว ขณะเดียวกัน ก็ทำบุญคุณให้เพื่อนทักษิณได้ซึ้ง ผ่านการสนับสนุน นปช.อันเป็นกองกำลังของทักษิณ ที่ยอมทำลายชาติบ้านเมืองตัวเอง ซึ่ง นปช.นั้นประกอบด้วย "พวกหลงยุค" หลากหลายเจตนาที่ซุกซ่อน
รวมถึงพวกนักวิชาการอยากโก้ แต่ไม่ได้รับการยอมรับจากสังคม จึงซุกสถาบันการศึกษาเป็นกระดองร่วมกันตะแบงสังคม และสุดท้าย ทั้งพวกดีกว่าอยู่กะบ้านเปล่าๆ ก็มาเข้าโครงการ "เผาบ้าน-เผาเมือง" แล้วรวย
กระบวนการภายใต้ระบอบทักษิณวันนี้ จึงมีทั้งนอกชาติและนอกคอก "ต่างเจตนา-ต่างเป้าหมาย" รวมกันในความหมาย อยากจะโก้-ทันสมัย ก็ต้องชูสิทธิเสรีภาพ "ด่าสถาบัน-ล้มสถาบัน" แล้วชูประชาธิปไตย..โกงเอาแบ่งปัน "ตามด้วยนิรโทษกรรมทักษิณ"
ซึ่งนั่น...เป็นการชูเฉพาะกิจ เพราะในเป้าหมายใคร-เป้าหมายมันนั้น ล้วน "ซ่อนเล่ห์" สู่อนาคต แต่เฉพาะหน้า หวังพึ่งพาน้ำลี้ยง และที่ไหนมันจะหาง่ายเท่าที่ "ทุนระบอบทักษิณ" ล่ะ!
ทุนระบอบทักษิณคือ "ควักก่อน" แล้วไปถอนกำไรคืนจาก "ประชานิยม" รัฐบาลระบอบทักษิณ!
มันเป็นเช่นนี้แหละ และเมษานี้ก็จะถึงวาระต้องขึ้นศาลโลก เป็นการให้ปากคำ "ปิดคดี" ที่เขมรฟ้องไทย ผมจึงบอกว่า เรื่องนี้มี "ประเทศเป็นเดิมพัน" ดังนั้น รัฐบาลอาจมั่นใจ แต่ประชาชน ในฐานะ "เจ้าของประเทศ" โดยตรง "ไม่มั่นใจ"
ไม่ใช่ "ไม่มั่นใจ" ในทีมทนายที่ไปต่อสู้คดีที่กรุงเฮก!
แต่ไม่มั่นใจ "ในความจริงใจ" ของรัฐบาลระบอบทักษิณ ผ่านท่าที "รัฐมนตรีต่างประเทศ" คือนายสุรพงษ์ ซึ่งโดยตำแหน่งคล้ายแม่ทัพใหญ่นำทัพออกศึก ในศึกที่ "ต้องไม่พลาด"
แล้วจะวางใจได้อย่างไร ผมวางใจข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศ แต่กับนายสุรพงษ์ที่มีปูมประวัติสัมพันธ์เป็นคุณกับเขมร เป็นโทษกับไทย ในเมื่อคู่ศึกที่จะต้อง "เฉือนคมกฎหมาย" นัดชี้เป็น-ชี้ตายที่ศาลโลก เราจะวางใจให้กับคนที่ "ยากจะไว้ใจ" ให้นำทัพได้อย่างไร?
ยิ่งลักษณ์...ลองลำดับความดู พลุนำร่องลูกแรก นายสุรพงษ์เปิดประเด็นต้นปีด้วยการออกมาบอกให้ "คนไทยทำใจ" ในเรื่องคดี...มีแต่แพ้กับเสมอตัว
แถมประกาศชัดเจนทันทีด้วยว่า "จะไม่ไปร่วมกับทีมทนายที่ศาลโลก" ในเดือนเมษา แต่คงถูกจิกหัวด่าในที่ประชุมรัฐบาลเอง วันต่อมาจึงจำใจประกาศใหม่ว่า...จะไป!
ยิ่งน่ากลัวใหญ่ แม่ทัพที่คล้ายประกาศยอมแพ้แต่แรก ถูกเคี่ยวเข็ญให้ออกศึก แล้วจะมีกะจิต-กะใจ และความจริงใจที่จะต่อสู้เพื่อเอาชนะได้อย่างไร ผมจึงบอก....ถ้ารักจะเป็นนายกฯ หญิงนานๆ ต้องส่งสัญญาณสู้ให้สังคมไทย-สังคมโลกรับรู้ด้วยการ
"เปลี่ยนตัว" รัฐมนตรีต่างประเทศด่วน!
ทำไมต้องด่วน เพราะพฤติกรรม "ไม่จริงใจ" แถมคล้าย "ปันใจให้ศัตรู" จากนายสุรพงษ์เห็นชัดขึ้นเรื่อยๆ ถ้าเป็นคนที่วุฒิภาวะพร้อม ต้องแยกเรื่องส่วนรวม-ส่วนตัวได้ แยกแล้วสามารถจัดลำดับความสำคัญของเรื่องที่จะต้องทำได้
แต่นี่...นายสุรพงษ์แยกเรื่อง "ประโยชน์ทักษิณ-ประโยชน์ชาติ" ออกจากกันไม่ได้ เห็นจากที่ฮุน เซน "เปิดประเด็น" เกี่ยวกับเจรจาลับประชาธิปัตย์มาให้ นายสุรพงษ์ก็รับมาฟัดเหมือนหมาไล่ฟัดหางตัวเอง หาได้ตรึก-ได้พิเคราะห์ความไม่ว่า
จะจริง-จะไม่จริง นั่นมัน "เรื่องอดีต" ไม่มีประโยชน์กับปัจจุบัน ที่จะไปขึ้นศาลโลกในเดือนเมษานี้เลย!
ตรงกันข้าม มีแต่ "เสียกับเสีย" แค่ตดฮุน เซน ยังทำให้รัฐมนตรีต่างประเทศไทยไล่ฟัดกันเองภายในชนิดเอาเป็น-เอาตาย ทั้งที่อยากจะฟัดกันจริงๆ ละก็ ยังมีเวลาวันข้างหน้าเหลือเฟือให้ฟัดกัน
มันจำเป็นอะไรที่ต้องมาฟัดในบรรยากาศที่ประเทศไทย-คนไทย ต้องการความสมัครสมานสามัคคี เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในการทำศึกที่ศาลโลกเดือนเมษา
มันบ้ามั้ย...นายสุรพงษ์ มีรัฐมนตรีต่างประเทศคนไหนในโลกเขาทำกันบ้าง คู่ศึกแถลงการณ์อัดประเทศเรา ดันทำเป็นตัวแทนประเทศเขา เอามาอ่านเป็นทางการ "กล่าวหาประเทศเรา" อีก น่าอับอาย-อดสูในความไร้เดียงสา กระทั่งศีรษะไม่มีเส้นขนแล้ว ยังไม่รู้จักแยกแยะ "แค้นส่วนตัว-ประโยชน์ส่วนรวม"
"เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ ยังได้รายงานให้ฟังด้วยว่า สมเด็จฮุน เซน และนายฮอร์ นัมฮง รองนายกฯ และรัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชา ชี้แจงว่าการที่กัมพูชาไปฟ้องศาลโลก เกิดจากการกระทำของรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ กัมพูชาไม่มีทางเลือกอื่น และการไปแถลงต่อศาลโลกในเดือนเมษายนนี้ ก็จะเป็นการพาดพิงประเทศไทยเฉพาะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ไม่ใช่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์"
อ่านคำแถลงของนายสุรพงษ์แล้วช่วยตรองทีเถิดว่า นี่คือท่าทีแห่งเกียรติศักดิ์ประเทศไทย หรือท่าทีอหังการเขมร โดยขี้ข้าที่แฝงอยู่ในรัฐบาลไทยแอคชั่นแทน?
ถ้ายังแยกเรื่องคดี จากแค้นระหว่าง "ทักษิณ-อภิสิทธิ์, ประชาธิปัตย์-เพื่อไทย" ออกจากสถานการณ์รวมของประเทศไม่ได้ แล้วจะให้เป็นรัฐมนตรีต่างประเทศ คอยส่งสัญญาณรัฐบาลผิดๆ ไปสู่ประชาชน สู่สังคมโลกอยู่อย่างนี้ได้อย่างไร ยิ่งลักษณ์?
คนไทยมี "หวังเดียว" ที่เชื่อมั่นในคดีนี้ ก็ที่ ดร.วีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเฮก ซึ่งเป็นตัวแทนประเทศทำหน้าที่ที่ศาลโลก พร้อมด้วยที่ปรึกษากฎหมายอันเป็นคนต่างชาติอีก ๓ คน คือ
-ศาสตราจารย์อลัง เปลเลต์
-ศาสตราจารย์เจมส์ ครอว์ฟอร์ด
-ศาสตราจารย์โดนัลด์ เอ็ม แมคเรย์
นายสุรพงษ์ กระทั่งนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา ที่รัฐบาลระบอบทักษิณมอบให้ไปร่วมทีมที่ศาลโลก นอกจากไม่เป็นที่หวังใดๆ ของคนไทยแล้ว ซ้ำร้าย...ยังเป็นตัวไปสร้าง "ฝันร้าย" ให้ด้วยซ้ำ
แสดงบทบาทตามหน้าที่อันควรทำอะไรให้ไทยบ้างล่ะ แต่ให้เขมร...นั่นไม่แน่ ไม่แน่ด้วยเหตุผลใด ก็ลองทบทวนคำแถลง "นายณัฏฐวุฒิ โพธิสาโร" รองปลัดกระทรวงต่างประเทศ ที่ทำเนียบรัฐบาลเมื่อ ๒๕ ม.ค.๕๖ ดูก็ได้
"........กรณีมาตรา ๖๐ ของธรรมนูญศาลโลก ให้สิทธิ์คู่กรณียื่นขอตีความหากมีความเห็นไม่ตรงกับคำพิพากษา โดยไม่ได้กำหนดระยะเวลา ซึ่งครั้งนี้ทางฝ่ายกัมพูชาก็เห็นว่า เรามีความเห็นแย้งในคำตัดสินเมื่อปี ๒๕๐๕ จึงให้ศาลโลกตัดสินว่า พื้นที่รอบปราสาทพระวิหารมีขอบเขตแค่ไหน
ซึ่งฝ่ายไทยก็ได้นำประเด็นที่ศาลโลกไม่เคยตัดสินในกรณีเส้นเขตแดนขึ้นมาต่อสู้ โดยเมื่อปี ๒๕๐๕ ศาลได้ตัดสิน ๓ ประเด็น คือ ๑.ปราสาทพระวิหารอยู่ภายใต้อธิปไตยของกัมพูชา ๒.ขอให้ฝ่ายไทยถอนกองกำลังออกจากปราสาทและพื้นที่โดยรอบ และ ๓.ให้ฝ่ายไทยคืนวัตถุโบราณที่ครอบครองตั้งแต่เมื่อปี ๒๔๙๗ ให้กับทางกัมพูชา
ศาลตัดสินไว้แค่ ๓ ข้อ โดยไม่ได้ชี้เรื่องเขตแดน ตรงนี้คือแนวต่อสู้ของเรา และเราจะชี้ให้ศาลเห็นว่า ไม่สามารถที่จะตีความนอกเหนือคำพิพากษาเดิมได้ เราก็มีความมั่นใจ ส่วนที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับศาล”
นี่คือคำแถลงเป็นทางการของรองปลัดฯ ส่วนต่อจากนี้ "เป็นรายงานข่าว" ที่นายสุรพงษ์ ในฐานะรัฐมนตรีต่างประเทศ "ควรทำ" แต่ไม่ได้ทำ
"ในการประชุม ทางกองบัญชาการกองทัพไทยชี้แจงข้อมูลเกี่ยวกับสภาพพื้นที่พิพาท ๔.๖ ตร.กม. ซึ่งปัจจุบันเจ้าหน้าที่ทั้งไทยและกัมพูชาได้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลร่วมกัน ไม่มีปัญหากระทบกระทั่ง แต่ก็พบว่าทางกัมพูชาฝ่าฝืน MOU ๔๓ โดยมีการสร้างสิ่งปลูกสร้าง คือกระต๊อบข้างวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ ๒ หลัง ทางกองกำลังสุรนารีได้ทำหนังสือประท้วงถึง ๒ ครั้ง แต่กัมพูชาก็ไม่รื้อถอน
กองทัพได้นำข้อมูลนี้ให้กระทรวงการต่างประเทศทราบ โดยเฉพาะการละเมิด MOU ๔๓ หลังจากที่ศาลโลกมีมาตรการคุ้มครองชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษา ซึ่งในข้อที่ ๑ ระบุว่า ห้ามทั้งสองฝ่ายดำเนินการใดๆ ที่จะเป็นเงื่อนไขในการสร้างความขัดแย้งเกิดขึ้นในพื้นที่ดังกล่าว"
ทีบท "โฆษกฮุน เซน" ละก็..ทันที แต่ทีฝ่ายทหารเขาแจ้งให้ทราบอย่างนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศอมสาก ยิ่งลักษณ์ก็เถอะ ไหนล่ะ...กลไกรัฐบาล กลไก Woman's Touch กลไกน้องแม้วบ่อนชาติ ที่คุยว่าจะไปพูดจาตกลงกันเพื่อลดเงื่อนไขเผชิญหน้าน่ะ
เดี๋ยวก็ต้องไปทั้งปึ้ง-ทั้งปูจนได้!
ที่มา http://www.thaipost....ws/280113/68728
ดอกไม้งามมีหนามแหลม ใช่บานแย้มให้คนชม บานไว้เพื่อสะสม ความอุดมแห่งผืนดิน...
สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 2 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน