สัก5ปีมาแล้ว เมียผมต้องเข้ารพ.รามา ด้วยอาการปวดท้องรุนแรง และเป็นมาเรื่อย จนอีก2ปีถัดมา ถึงขนาดเป็นลมบ่อยๆ ทั้งที่บนรถเมล์ และป้ายรถเมล์
ในใจเธอกังวล ว่าเธอจะป็นโรคเดียวกับที่คร่าชีวิตพ่อเธอ มะเร็ง
เมื่อลูกเรียนจบ (ลูกรู้เพียงว่าแม่ไม่สบายแค่นั้น ไม่รู้อะไรลึกๆ ผมกับเมียไม่บอก) เข้าทำงานได้ปีกว่า วันหนึ่งหลังจากที่เธอไปหาหมอมา เธอโทรรำพันเรื่องคุยหมอโดยโยงเรื่องเกี่ยวกับโรคร้าย ตอนนั้นผมทำงานกลางไร่ ผมร้องไห้โฮ เกือบชม. “ถ้าเธอไม่สู้ พ่อกับลูกก็ช่วยเธอไม่ได้” ..หลังจากวันนั้น ผมก็หมดกำลังใจที่จะทำอะไร ให้คืบหน้าอีก เพราะไม่รู้จะทำไปทำไม ทำเพื่อใคร ...น้องชายคุยกับคนอื่นแถวนี้ ว่าผมคงถอยแล้วเรื่องทำไร่
ผมบอกเมียว่า หมดห่วงเรื่องลูกแล้ว มันทำงานแล้ว มาอยู่กับผมเถอะ เธอตอบว่า “อยากอยู่กับลูกนานๆ”
สุดท้ายเมียผมก็กลับมาอยู่กับผม หลังจากลูกให้เหตุผลว่า “...เป็นห่วงพ่อ เพราะพ่ออยู่คนเดียว เป็นห่วงแม่ตอนแม่ออกไปทำงาน ถ้าแม่มาอยู่กับพ่อ ผมก็จะลดห่วงทั้งพ่อ กับแม่”
เมื่อเมียมาอยู่ด้วย อาการที่เป็นคือ
1.ปวดท้องอย่างรุนแรง ผมต้องเอาเตารีดมาเปิด แล้วห่อด้วยผ้า เธอจะเอาไปไว้ที่ท้องนอนกอดตัวงอเป็นกุ้ง มักเป็นสักค่อนชม. จนช่วงสักปีกว่ามานี้เป็นน้อยลงหลังจากลูกซื้อถุงน้ำร้อนมาให้ แล้วใช้แค่ครั้ง2ครั้ง ผมบอกว่าหายไปด้วยยาวิเศษ ความกตัญญูของลูก เธอยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ....เดี๋ยวนี้เมื่อผมเข้านอน ถ้าได้กลิ่นยาหม่อง ยาลม แสดงว่าเป็นอีก ...แต่น้อยกว่าเดิม
ไกล้ช่วงที่เธอมาอยู่กับผม หรือมาอยู่กับผมใหม่ๆ เวลามอ-ไซค์ ตกหลุมเบาๆ(เพราะผมก็ระมัดระวังอยู่) เธอจะกอดผมแน่น ตัวงอเป็นกุ้ง แม้นั่งรถยนต์ก็จะมีเหมือนกัน ด้วยกระเทือนไปถึงท้อง ...ตอนนี้ซิ่งได้มากกว่าเดิม ไม่ค่อยมีอาการอย่างว่า
2.ไม่อึ 4-5 วันจะอึสักครั้ง เบ่งเกือบ10-15นาที จะออกมาขนาดเม็ดขนุน ปัญหาคือมีเลือดออกมามาก แดงเต็มน้ำในคอห่าน แต่ตอนนี้ไม่ค่อยเป็นแล้ว
3.อ้วกบ่อย ด้วยอาจว่าแพ้อาหารบางอย่างที่กินเข้าไป เพียงแต่ไม่รู้ว่าแพ้อะไรแน่ ตอนมาใหม่ๆที่แน่ๆห้าม น้ำดำ กาแฟ ปัจจุบันน้ำดำกินได้ถึงระดับหายอยากได้ กาแฟผมห้าม เธอมักขอชิมตอนชงให้ผม
4.เป็นลม หน้ามืดบ่อย ยังเป็นถึงปัจจุบัน
มีคนบอกอะไรกับเธอ
1. ที่รพ. นั่งรอหมออยู่ มีคนเข้ามาถาม เป็นโรคในช่องท้องใช่ไหม ....ค่ะปวดท้องมาก ....มันเป็นกรรมเก่านะ และจะตายด้วยโรคนี้แหละ
2.เรื่องไปทำบุญเธอไปทุกวัด ยกเว้นวัดเกตุม (ถ้าจำไม่ผิด) เพราะคนทรงบอกมา2ราย ผลคือ
2.1 คนแรกบอก ที่เป็นนี่เพราะชาติที่แล้ว ไปให้สัญญากับเขาไว้ แล้วเราไม่ทำตามสัญญา เขามาทวง
2.2 คนที่2บอก ชาติที่แล้วเกิดแถววัดเกตุม แล้วไปให้สัญญากับเขาไว้ แล้วเราไม่ทำตามสัญญา ปัจจุบันเขายังรอที่เดิม(วัดเกตุม)
เธอมาทำอะไรที่นี่
เมื่อมาอยู่ใหม่ๆผมหางานให้เธอไม่ให้ว่าง รับปากช่วยสอนเด็กตอนเย็นวันธรรมดา, เสาร์-อาทิตย์ และวันหยุด ทำอาหารเลี้ยงด้วย (มีคนใจบุญออกคชจ.ให้) เธอมีความสุขดีครับ ทำอยู่สักปี ก็ซาไปเพราะอาการของเธอเริ่มเกิดอีกช่วงหนึ่ง ...แล้วก็เลิกไปในที่สุด
มาอยู่สักครึ่งปีเธอก็ไปสวดมนต์ตอนเย็นที่วัด เธอไปเกือบทุกวัน โดยเฉพาะเมื่อมีศิษย์วัดคนหนึ่ง(หญิง) ตายไปแล้ว ฟื้นขึ้นมา เล่าเรื่องที่ไปเจออะไรเมื่อวิญญาณออกจากร่าง และเน้นกับเมียผมให้เร่งทำบุญไว้ ปัจจุบันหลวงพ่อให้มาอยู่เสียในวัดเลย อีกคน(ชาย) หมอตรวจพบว่าเป็นมะเร็ง เขาได้มาสวดมนต์ภาวนา นอนที่วัดเลย อยู่วัดเกือบปีมั๊ง ตอนนี้ฟังว่าหายนะ จึงออกไปอยู่บ้านแล้ว ...ผมเจอทั้ง2คนเกือบทุกวัน ที่ไปสวดมนต์ ...เวลาวัด/ศิษย์วัด มีกิจกรรมอะไร ไปทอดผ้าป่า-กฐิน แม้จะเป็นการไปช่วยศิษย์วัดด้วยกัน ไปตั้งเต้นท์บริจากอาหารก็ไป /เมียผมเป็นส่วนร่วมด้วยเสมอ เมื่อกลับมาจะปลาบปลื้มมาก กลับมาถึงจะบอก “พ่อ เอาบุญมาฝาก สาธุซะ สาธุ” รวมทั้งกิจกรรมของอบต. ...ผมว่าชิวิตเธอมีความสุขครับ ตอนเช้าก็ไปตักบาตรได้เจอคนเยอะ ตอนกลางคืนไปสวดมนต์
เรื่องสวดมนต์ ลูก-เมีย พยายามให้ผมไปสวดด้วย ผมก็รับปาก ว่าจะไปตอนวันพระละกัน จนสุดท้ายก็ไม่ได้ไป จนคิดว่าถึงเวลาต้องไปเสียที ด้วยเหตุ...
1.มี1-2ครั้ง เมียไปตักบาตรตอนเช้า เธอเป็นลมเพื่อนต้องพามาส่ง และกลางคืนที่เธอไปสวดมนต์ มีคนพามาส่งด้วยเป็นลมกะทันหันอีก ...คงต้องไปกับเมียแล้ว การรบกวนคนอื่นที่สวดมนต์อยู่มาส่ง น่าจะเป็นการขัดบุญเขาเสียเปล่าๆ และหวังว่าการสวดมนต์ น่าจะเป็นการทำบุญร่วมกัน
2.กังวลใจเรื่อง ที่หมอนัดเมียใน2-3ครั้งสุดท้าย
3.ส่วนตัว หวังว่าจะดับไฟ/เรื่องกังวลในใจ เรื่องมีคนมีอำนาจ มารุกที่ไม่หยุดหย่อน และยึดคำว่า “เดินเข้าวัดเอง ดีกว่าเข้าโดยมี4คนหาม 3คนแห่ มีแตรนำ”
ตอนนี้ผมไปสวดมนต์(เกือบ)ทุกวัน
เมียผมเป็นโรคอะไร
*สัก2ปี (ช่วงอึยาก/เป็นเลือด) หมอบอกกระเพาะอักเสบ /เป็นนิ่วในกระเพาะ มีการส่องกล้องเข้าไปดูด้วยครับ
*ถัดมาเป็นโรคโลหิตจาง (ไธรัสซีเมีย??) คงจะจริงเธอหนาวง่าย เวลาอาบน้ำออกมา เอามือมาให้ดูขาวซีดจนเกือบเขียว ....แต่ยังไม่ทำให้เธอคลายกังวลเรื่องโรคร้าย ที่พ่อเธอเป็น
*** การไปหาหมอ2-3 ครั้งล่าสุด
**นับจากไปหาหมอตามนัด2-3เดือนก่อน หลังจากไปหาหมอที่พบประจำ เธอถูกส่งไปพบจิตแพทย์ /จิตเวทย์ คุยกับหมอโรคจิต2-3ชม. จบด้วย มาหาหมอกับใคร ..คนเดียวค่ะ ...คราวหน้าเอาสามี หรือลูกมาด้วยนะ ...จากวันนั้น ถึงวันที่หมอนัดเหมือนอยู่ในนรก
*ถึงวันนัด ผมดื้อดึงไปด้วย ด้วยหวังว่าถ้าหมอจะบอกเรื่องข่าวร้าย ก็จะพยายามส่งสัญญาณ ว่าอย่าบอกเลย ปล่อยให้เธอมีความสุขไปแบบนี้ดีกว่า ...ผลไม่มีอะไครับ ผมรอนอกห้อง เมียก็ไม่บอกว่าหมอพูดอะไรเป็นพิเศษ
*การไปกท.ของผมคราวนี้ ทำให้รู้ว่าร่างกายผม ไม่ได้ดีอย่างที่คิด จากอนุสาวรีย์ชัย เดินข้ามสะพานลอยเพื่อรอรถเมล์ หน้ารพ.มงกุฏ ผมต้องหยุดพัก/เดินช้า 3-4ครั้ง โดยเฉพาะตอนขึ้นสะพานลอย มันตึงน่อง ปวดเอวมาก และทุกวันนี้ แค่เดินทางลาดขึ้นสัก50เมตรเริ่มมีอาการแล้ว
**ถัดมาอีกเดือน เมียผมก็ไปหาหมอตามปรกติ ถัดมาสักสัปดาห์ รพ.โทรมาบอกให้ไปเจาะเลือดใหม่ ของเดิมไม่พอ แค่นั้นจากที่สดชื่น กลายเป็นห่อเหี่ยว “พ่อ ทำไมหมอไม่รู้สักทีว่าเป็นอะไร” ….ถึงวันนัดฉุกเฉิน เธอก็ไปโดยไม่ยอมให้ผมไปด้วยเหมือนเดิม จนบ่าย2 โทรมาร้องไห้ “พ่อ เขาเจาะเลือดเข็มใหญ่มาก เอาเลือดไปตั้งสลิงค์ใหญ่ ...ยังไม่อยากตาย” ผมเองใจไม่ดีเหมือนกัน คิดถึงแม่ยายอยากให้มาอยู่ไกล้ลูกสาว
*ในวันปีใหม่ผมเน้นน้องเมีย ให้มาครบทุกคน และที่สำคัญต้องพาแม่มาด้วย ...มากันครบเว้นน้องชาย น้องสะใภ้+หลานชายอีกคน(เป็นตร. เข้าเวร)
ปีใหม่แม่ยายมา2คืน ผมก็ให้นอนด้วยกับเมียผม แม่เล่าว่าเมียผมนอนละเมอ ผมก็พยักหน้ารับ ก็ชินครับ ส่วนน้องเมียผมแสดงความแปลกใจ ว่าแต่ก่อนไม่เคยเป็น
ความฝันของเมียผม มี2อย่าง
1.ถ้านอนเงียบๆ แล้วมาเล่าให้ฟังทีหลัง คือฝันถึงในหลวง ราชินี มีการรับสั่งด้วย จนถึงมีโอกาสจับพระหัตถ์ พระกร ของทั้ง2พระองค์ กับฝันถึงหลวงปู่แบน เจ้าอาวาสที่เมียผมไปตักบาตร-สวดมนต์
2.ถ้ามีเสียงอื้ออ้า พึมพัม แสดงว่าไปเจอคนตายมา ไม่ว่าจะเป็นพ่อของเธอ ป้าของผม(สนิทกันครับ เพราะผมเคยเอาเธอไปอยู่กับป้าสักค่อนปี) กับพี่ชาย และน้องชายของเธอ(คนนี้เมียผมรักมาก)
เธอเล่าว่าที่ทำให้ขวัญเสียมาก คือฝันว่าพ่อเธอยืนบนที่สูง เรียกให้เธอขึ้นไป เธอพยายามเดินไปหาพ่อ ขณะนั้นเอง มีเสียงแม่ตะโกน “อย่าขึ้นไป ลงมาหาแม่เดี๋ยวนี้เลย” เธอได้สติ พ่อตายแล้วนี่ จึงกลับลงมาหาแม่
ความฝันของเธอเช้ามืด24มค56
ผมตื่นขึ้นมากำลังคิดว่าจะเปิดทีวีในห้องดู หรือออกมาเล่นเกมส์ ข้างนอกห้องดี (ประมาณตี4) ขณะนั้นเอง เมียผมก็อึกอักๆๆ ผมคิดฝันร้ายเหมือนเดิม ...แต่ “ไม่ไป ไม่อยากตาย อยากอยู่กับลูก” เธอตะโกนซ้ำๆ ผมรีบเข้าไปกอด ตบหน้าเบาๆ กลัวว่าจะดึงเธอกลับมาไม่ทัน ตัวสั่นเหงื่อซึม เกือบ10นาที จึงตั้งสติได้ สวดมนต์
เธอเล่าว่า เหตุเกิดที่ทางโค้งก่อนถึงแก่งคอย (ถ้ามาจากโคราช เลยมวกเหล็ก จะมีช่วงลาดลง พร้อมโค้งซ้าย แล้วหักขวาอีกที) ตรงบริเวณนี้ ทั้งลูกกับเมียบอกว่า เห็นมีคนวิ่ง/เดินไปมา อยู่มากมาย
เธอเล่าว่า เธออยู่บริเวณนั้น มีคน5-6 คนมาฉุดเธอ ให้ไปด้วย แต่เธอต่อต้านครับ ....พอดีผมไปปลุกเธอ
แต่คำสุดท้ายซิครับ “พ่อ คนที่มาฉุดน่ะ ทุกคนนุ่งเตี่ยวแดงเหมือนกันหมดทุกคน”
ที่โพสท์มายาว เพราะอยากให้พิจารณาที่มา ที่ไป ประกอบด้วย ผลย่อมเกิดจากเหตุ