87 ความเห็นในกระทู้นี้

[คนบูรพา]

ตามหัวข้อกระทู้ครับ

 

อยากให้ท่านผู้เจนจัดในธรรมทั้งหลาย..........ช่วยวิเคราะห์ให้ด้วยครับ........

 

ถ้าบาป.........ผมคนหนึ่ง........ที่จะขอเลิกวิจารณ์ลัทธิจานบิน.....แบบถาวร

 

ถ้าไม่บาป.............ก็เชิญ....พี่ๆน้องๆ..........บรรเลงกันเองตามใจชอบครับ

[Diablo]

ธัมมชโยเองก็ไม่ได้เป็นพระอยู่แล้วครับ ก็เหมือนวิจารณ์คนธรรมดาแหละครับ เพราะแกก็ปาราชิกตั้งแต่ปี 42 แล้ว ส่วนพระที่บวชวัดธรรมกาย อันนี้ผมไม่ทราบไม่ขอวิจารณ์เหมือนกัน

[PeaceMan]

วิจารณ์เถิดครับ ถ้าทำด้วยเจตนาที่ดีมีเหตุมีผล ท่าน ประยุทธ์ ปยุตโต ยังวิจารณ์ในcase "อัตตา VS อนัตตา" ของ ลัทธิจานบินเลย

[ทรงธรรม]

คือ ผมว่าจะบาป หรือไม่ มันขึ้น กับว่า ที่เรา วิจารณ์ไป มีเหตุผล ที่จะ วิจารณ์ หรือเปล่าครับ

 

และอีกข้อที่สำคัญ ก็คือ วิจารณ์ กับคนที่เขารับฟัง หรือเปล่า

 

ถ้าเขาไม่รับฟังนะ ผมจะไม่พูด อีกแม้แต่คำเดียว

 

ไม่เช่นนั้น จะเป็นการบังคับ ให้เขารับฟัง ซึ่งมันไม่ดีครับ

 

 

โดยส่วนตัว ผม ก็วิจารณ์ หลวงพี่ บ้าง ตามเหตุผลนะครับ

 

ไม่ใช่ว่า ที่ หลวงพี่ พูดจะถูก ทุกอย่างเสียหน่อย

 

อันไหนที่เราคิดว่า ไม่ถูกต้องตามหลักการ เราก็แย้งออกมา

 

เพียงแต่เรา พูดคุยกับคนที่ เปิดกว้างรับฟัง ก็ดีที่สุดครับ 

[eAT]

ถ้าอ่าน "พระไตรปิฎก" จะพบว่าหลายๆ คนก็วิพากษ์วิจารณ์

"พระพุทธเจ้า" ต่อหน้า จนเกิดเป็นบทสนทนาธรรมกันหลายพระสูตร

พระพุทธเจ้าไม่เคยตำหนิเลยนะครับ (เท่าที่อ่านเจอ)

[Ballbk]

เช้าวันเสาร์ ถนนเส้น วิภาฯ รถติดฉิบหาย

 

แม่ม พระที่ไหนวะ ที่ ออกธุดงค์ แล้ว ไปสร้างความเดือดร้อนให้กับคนอื่น

 

บุญพวกมันคงได้หรอก ไอ้การกระทำของพวกมันอ่ะ

 

ส่วนตัวแล้ว ผมไม่วิจารณ์มันหรอกครับ แต่ผมด่ามันเลยครับ ไอ้พวกนี้ผมไม่เรียกว่าศาสนาครับ เป็นลัทธิซะมากกว่า

[พอล คุง]

ผมมองว่าไม่บาปครับ

ถ้าเราไม่ได้ไปใส่ร้ายป้ายสี

ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ

แต่ด่านี้ผมไม่รู้เหมือนว่าบาปไหม

Edited by พอล คุง, 28 มกราคม พ.ศ. 2556 - 10:29.

[puggi]

พวกนี้ไม่ใช่พระครับ แค่ ไอ้โล้นห่มเหลืองแค่นั้นแหละครับ 

 

ด่าได้เต็มที่ ผมก็ด่าตลอดแหละ 

[ทัชชี่]

บาปย่อมทำให้เกิดทุกข์ร้อนในภายหลัง

 

การตำหนิติเตียนผู้อื่นแม้นไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน

 

มันก็เป็นความหม่นหมองในใจเราอยู่ดี

 

ทางที่ดี...ช่างแมร่ง

[RiDKuN_user]

ด่าอลัชชี จะบาปได้ยังไง 

[คุณหนูจินนี่]

เดี๋ยวไม่ให้ขึ้นยานน๊ะค๊ะ  ฮิๆ คิกๆๆๆ  

[คนบูรพา]

เดี๋ยวไม่ให้ขึ้นยานน๊ะค๊ะ  ฮิๆ คิกๆๆๆ  

 

ยานจะพาไปไหนอ่ะ..........ลุงงงงงงง  

 

ผมว่าอย่างแรก........พาลุงไปรักษาอาการป่วยทางจิต......

 

ก่อนเลย.........เป็นอันดับแรก...........  

[คุณหนูจินนี่]

    

[อ่อนโลก]

แปลกฮะ ผมไม่เคยรู้สึกผิดเลยเหมื่อนด่าพวก ไพร่-ขี้ข้า เฉยๆซะงั้น 

[juemmy]

ลัทธิอลัชชี=อัปรีย์

คำสอนก็วิบัติ คนที่ไปหลงใหลก็งมงาย

[pooyong]

หลวงปู่พุทธะอิสระอัดธรรมกายสร้างความเดือดร้อนให้สังคม

"การเดินธุดงค์บนดอกกุหลาบ ดอกดาวเรือง หรือดอกทอง

ไม่ไช่วิธีของพระภิกษุที่สันโดษ และพระภิกษุที่มาเดินต้องพ้นนิสัยมุตตะกะ

หรืออุปสมบทมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 พรรษา จึงจะถูกต้องตามพุทธานุญาติ

พระบัญญัติขององค์พระสัมมาสัมมาพุทธเจ้ามีอยู่ 2 อย่างคือสิ่งที่ทรงอนุญาตให้ทำ และสิ่งที่ห้ามไม่ให้ทำ"

[plunk]

ไม่บาปครับ เราด่า วิจาร์ณ ตัวบุคคล ไม่ใช่ผ้าเหลือง

[คนบูรพา]

ที่ผมยังไม่กล้าวิจารณ์ลัทธินี้...............อย่างเต็มตัวก็เพราะ...........

 

 

ผมยังเกรงใจ...........หลวงพ่อสด  วัดปากน้ำ........และผ้าเหลือง.............

 

ที่ลัทธินี้..........ใช้แอบอ้างอยู่ครับ...........

 

 

 

จึงรอท่านผู้รู้........เพื่อมาให้ความกระจ่าง........อีกที

[Et tu Brute?]

ลัทธิจานบินไม่ใช่พุทธ

ที่เห็นเหลืองๆ นั่น ก็ไม่ใช่พระ 

[pooyong]

หลวงปู่พุทธะอิสระ กล่าวอีกว่า

ที่อ้างว่าเดินตามรอยบูรพาจารย์ (หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ)

แต่นั่นเป็นการเดินธุดงค์ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน ท่านไปทางเรือหากน้ำแห้งก็ขึ้นไปเดินตามคันนา

ไม่ได้ไปเดินตามข้างถนน แล้วให้คนเดือดร้อนอย่างนี้ ซึ่งหากท่านยังไม่มรณภาพ

คงคิดว่าเกิดอะไรขึ้นในแผ่นดินนี้ ที่พระออกธุดงค์แล้วมีผู้ได้รับผลกระทบ

ซึ่งข้าราชการก็เป็นไปด้วย ทั้งสำนักพุทธศาสนาแห่งชาติ และกระทรวงศึกษาธิการ

ทั้งตำรวจที่ให้ความอนุเคราะห์ เพราะตอนนี้เป็นรัฐบาลธรรมกายไปแล้ว

[คุณหนูจินนี่]

 ถ้าวิพากษ์วิจารณ์ด้วย จิตใจที่บริสุทธิ์ ด้วยข้อมูลที่ถูกต้อง ปราศจากอคติ อย่างนี้ก็คงไม่บาปอ่ะค่ะ

 

ในทางกลับกัน ถ้า วิพากษ์วิจารณ์ด้วย จิตที่มุ่งร้าย เกลียดชัง สุดท้ายเเล้ว กรรมนั้น

 

ก็คงจะตกอยู่ที่คนผู้นั้นเองอ่ะค่ะ

 

คิดดี สุขภาพจิตย่อมดี คิดชั่ว สุขภาพจิตย่อมเสีย อิอิ 

[pooyong]

กรณีของการเดินธุดงค์ เป็นสิ่งทรงที่อนุญาตให้ทำ ไม่ใช่ข้อห้ามว่าทำไม่ได้

แต่ผู้ที่คิดให้พระเดินธุดงค์ของธรรมกายก็ไม่ได้ออกมาเดินธุดงค์ด้วย ไม่ต้องทุกข์ทรมาน

นอกจากพระเดินธุดงค์แล้ว นักเรียนและประชาชนยังถูกเกณฑ์ให้ไปตากแดดรับคณะ

ไม่ได้ไปเพราะศรัทธาแต่ไปเพราะโดนเกณฑ์ไป

ศรัทธาที่เกิดจากการแสดงเป็นศรัทธาที่หลอกลวงไม่ใช่ ศรัทธาที่บริสุทธิ์

เพราะศรัทธาต้องเกิดด้วยการเคารพนบนอบ ยินดีพลีกาย พลีใจไม่ใช่มาบังคับขู่เข็ญหรือกะเกณฑ์

เรื่องนี้มหาเถระสมาคมทำอะไรอยู่ สำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติทำอะไรอยู่

[คนบูรพา]

 ถ้าวิพากษ์วิจารณ์ด้วย จิตใจที่บริสุทธิ์ ด้วยข้อมูลที่ถูกต้อง ปราศจากอคติ อย่างนี้ก็คงไม่บาปอ่ะค่ะ

 

ในทางกลับกัน ถ้า วิพากษ์วิจารณ์ด้วย จิตที่มุ่งร้าย เกลียดชัง สุดท้ายเเล้ว กรรมนั้น

 

ก็คงจะตกอยู่ที่คนผู้นั้นเองอ่ะค่ะ

 

คิดดี สุขภาพจิตย่อมดี คิดชั่ว สุขภาพจิตย่อมเสีย อิอิ 

 

และนี้คือ.............ตัวอย่างที่ดี

 

ของคนที่..............สุขภาพจิตเสีย..........ขั้นรุนแรง

 

ลุงจิน...........แห่ง สรท. นี้เองแหละครับ

[ม่านน้ำ]

ไม่อยากข้องแวะกับพวกเขาแล้วครับ

เพราะเราคงมี "ธรรม" คนละแบบกัน

เจือสมกันยังไงก็คงเข้ากันไม่ได้

อยากทำอะไรก็ทำเถิด

[serialnu]

อะไรก็ตามที่ทำให้คนอื่นเดือดร้อนเป็นบาปหมดครับ  ไม่ได้บุญหลอก  ดังนั้นผมอยากด่าแมร่งมาก  ลัทธิอะไรแม่มหากินแแต่กับเงิน  คนไม่มีเงินก็ไม่ตอ้งเอาบุญ ปัญญาอ่อนละ   ผมว่าจะเอาบุญ ผมขอไปทำบุญกับวัดป่าดีกว่าครับ  พระวัดป่าเคร่งเรื่องศีลมาก  ผมนับถือกว่าไอ้ที่มาทำความเดือดร้อนให้คนอื่นเยอะแยะ

[คุณหนูจินนี่]

 ถ้าวิพากษ์วิจารณ์ด้วย จิตใจที่บริสุทธิ์ ด้วยข้อมูลที่ถูกต้อง ปราศจากอคติ อย่างนี้ก็คงไม่บาปอ่ะค่ะ

 

ในทางกลับกัน ถ้า วิพากษ์วิจารณ์ด้วย จิตที่มุ่งร้าย เกลียดชัง สุดท้ายเเล้ว กรรมนั้น

 

ก็คงจะตกอยู่ที่คนผู้นั้นเองอ่ะค่ะ

 

คิดดี สุขภาพจิตย่อมดี คิดชั่ว สุขภาพจิตย่อมเสีย อิอิ 

 

และนี้คือ.............ตัวอย่างที่ดี

 

ของคนที่..............สุขภาพจิตเสีย..........ขั้นรุนแรง

 

ลุงจิน...........แห่ง สรท. นี้เองแหละครับ

 

 อุ๊ย... มา ลง มา ลุง อะไรกันค๊ะ

 

ก่อนหน้านี้ หนูจินนี่ ยังถ่ายเเบบ ลงปกนิตยสารวัยรุ่นอยู่เลย^^

 

ขอร้องเถอะค่ะ อย่ามาริษยา กันเลย ฮุๆ 

[คนบูรพา]

กรณีของการเดินธุดงค์ เป็นสิ่งทรงที่อนุญาตให้ทำ ไม่ใช่ข้อห้ามว่าทำไม่ได้

แต่ผู้ที่คิดให้พระเดินธุดงค์ของธรรมกายก็ไม่ได้ออกมาเดินธุดงค์ด้วย ไม่ต้องทุกข์ทรมาน

นอกจากพระเดินธุดงค์แล้ว นักเรียนและประชาชนยังถูกเกณฑ์ให้ไปตากแดดรับคณะ

ไม่ได้ไปเพราะศรัทธาแต่ไปเพราะโดนเกณฑ์ไป

ศรัทธาที่เกิดจากการแสดงเป็นศรัทธาที่หลอกลวงไม่ใช่ ศรัทธาที่บริสุทธิ์

เพราะศรัทธาต้องเกิดด้วยการเคารพนบนอบ ยินดีพลีกาย พลีใจไม่ใช่มาบังคับขู่เข็ญหรือกะเกณฑ์

เรื่องนี้มหาเถระสมาคมทำอะไรอยู่ สำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติทำอะไรอยู่

 

ใช่ครับ.........เรื่องเกณฑ์คนมาเข้าร่วมเยอะๆเนี้ยะ..............ผมก็ได้ยินมานานแล้วครับ.........

 

แล้วเรื่องเงินสนับสนุน...............ให้กับชมรมพุทธศาสนา.................ของทุกมหาวิทยาลัย

 

เพื่อให้เข้าสังกัดลัทธิจานบิน.............ก็ยืนหยันว่า...........เป็นเรื่องจริง

[pooyong]

การจัดบวช ของธรรมกายก็ด้วยครับ มีการจัดหากินหัวคิว

เพื่อไปเบิกกับกรมการศาสนา มีนายหน้าจัดหาคนมาบวชให้ครบ

และดูแลให้อยู่ครบพรรษา จะย้ายวัดยังไม่ได้

มีน้องคนนึงไปบวชมา บอกเค้าก็ปฏิบัติดีนะ แต่คุมเข้ม กลัวหนี

เพราะกลัวจะเบิกไม่ได้ จำนวน

[อาตี๋]

ติฉินนินทาพระที่ไม่เหมาะสม(แม้ไม่ใช่ลัทธิธรรมกายซึ่งผมถือว่านักบวชลัทธินี้ไม่ใช่พระ)ก็ไม่บาป เพราะเป็นเหตุให้เกิดข้อในพระวินัยหลายๆข้อ ทำให้พระเกิดการปรับตัว

 

แต่ถ้าหมิ่นประมาท ใส่ร้ายพระ(แม้แต่ไม่ใช่พระ)ก็บาปครับ

[ParaDon]

สาวกจานบินก็เหมือนสาวกแดง เชื่อในสิ่งที่จับต้องไม่ได้ งมงายในสิ่งที่คนอื่นเอามาบอกต่อ

[Strangerman]

บาปตรงไหนล่ะครับ ผมไม่ได้ดูหมิ่นพระพุทธศาสนา

 

แต่ด่าลัทธิบ้าบอ ทำตัวเป็นปลิงสูบเงินจากคนที่ศรัทธา

 

พุทธศาสนาเคยสอนให้ทำบุญเพื่อหวังสิ่งตอบแทน? ทำบุญมาก(เงิน) จะได้มาก?

 

มันผิดเพี้ยน บิดเบี้ยว ไปหมดแล้วครับ  ยิ่งปล่อยไว้นานวันจะกลายเป็นการปลูกฝังเยาวชนรุ่นใหม่ๆ ให้เห็นดีเห็นงาม กลายเป็นเรื่องปกติไป

 

ใช้สื่อโปรโมต ใช้สาวกโฆษณาชวนเชื่อกันเข้าไป  แต่กลับไม่มีหน่วยงานใดเข้าไปกำกับดูแล  ผมมองว่าเป็นภัยต่อชาติบ้านเมืองพอๆ กับ ไอ้หน้าเหลี่ยม เลยจริงๆ นะครับ ^^

[Kyubey]

ลัทธิเพี้ยน ด่าได้ไม่บาปครับ

/人◕ ‿‿ ◕人\

[wat]

ถ้าอ่าน "พระไตรปิฎก" จะพบว่าหลายๆ คนก็วิพากษ์วิจารณ์

"พระพุทธเจ้า" ต่อหน้า จนเกิดเป็นบทสนทนาธรรมกันหลายพระสูตร

พระพุทธเจ้าไม่เคยตำหนิเลยนะครับ (เท่าที่อ่านเจอ)

 

  แก้ไขๆขอรับ มันคือการโจษ หรือการโต้วาทะทางอรรถ ทางธรรม หรือจับผิดขอรับ... แต่ถ้าด่า หรือใส่ความด้วยอาฆาต, เคียดแค้น โดยไม่ตอบคำถาม หรือยอมรับว่าผิดในข้อแย้งใดๆของตถาคต, หรือนิ่งเฉยต่อคำแย้งของตถาคตแล้วยังกล่าวเช่นเดิมถึง 3 ครั้ง... มีพระสูตรกล่าวโดนธรณีสูบบ้าง ฝีขึ้นโดยฉับพลันตายลงนรกทันควันบ้างขอรับ... อ้อ... รวมถึงพระอรหันต์ก็มีกล่าวอยู่ไม่กี่พระสูตรขอรับ...

Edited by wat, 28 มกราคม พ.ศ. 2556 - 20:06.

[อิ่มอร่อย]

บาปก็ได้ ไม่บาปก็ได้ ต้องกลับไปถามตัวคุณเองตอนที่กำลังวิจารณ์ คุณสร้างนรกหรือสวรรค์ไว้ในใจของคุณเอง 

หลวงปู่มั่นท่านบอกว่า การตำหนิติเตียนผู้อื่น ถึงเขาจะผิดจริงก็เป็นการก่อกวนจิตใจตนเองให้ขุ่นมัวไปด้วย 

ความเดือดร้อนวุ่นวายใจที่คิดตำหนิผู้อื่นจนอยู่ไม่เป็นสุขนั้น นักปราชญ์ถือเป็นความผิดและบาปกรรม ไม่มีดีเลย จะเป็นโทษให้ท่านได้สิ่งไม่พึงปรารถนามาทรมานอย่างไม่คาดฝัน
การกล่าวโทษผู้อื่นโดยขาดการไตร่ตรอง เป็นการสั่งสมโทษและบาปใส่ตนให้ได้รับความทุกข์ จึงควรสลดสังเวชต่อความผิดของตน งดความเห็นที่เป็นบาปภัยแก่ตนเสีย ความทุกข์เป็นของน่าเกลียดน่ากลัว แต่สาเหตุที่ทำให้เกิดทุกข์ ทำไมพอใจสร้างขึ้นเอง

[พอล คุง]

ผมว่า คนที่บาปคือ ธัมมชัยโย ตากหากครับ

ที่หลอกใช้คนที่มาบวชเพราะศรัทธา

เพื่ิให้ตัวเองได้ได้ลาภสักการะ

และคนที่ศรัทธา ให้เกณฑ์คนมานั่งโปรยดอกไม้

Edited by พอล คุง, 28 มกราคม พ.ศ. 2556 - 19:09.

[ดอกปีบ]

[wat]

ตามหัวข้อกระทู้ครับ

 

อยากให้ท่านผู้เจนจัดในธรรมทั้งหลาย..........ช่วยวิเคราะห์ให้ด้วยครับ........

 

ถ้าบาป.........ผมคนหนึ่ง........ที่จะขอเลิกวิจารณ์ลัทธิจานบิน.....แบบถาวร

 

ถ้าไม่บาป.............ก็เชิญ....พี่ๆน้องๆ..........บรรเลงกันเองตามใจชอบครับ

 

  แยกเป็นสองประเด็นนะขอรับ...

 

1. การด่าเขาก็เป็นไฟเผาเราเองขอรับ ตามหลักพระตถาคต กรรมคือเจตนา หากเราด่าก็เจตนาของเรา กรรมก็ของเราขอรับ หากด่าแล้วเค้าได้ยินแล้วเค้าจะตอบโต้อย่างไร... ก็กรรมของเค้าเช่นกัน ก็เหมือนการกระทำทางกาย, วาจา, ใจ ของเค้านั่นแหละขอรับ... นั่นคือกรรมของเค้าได้เกิดขึ้นแล้ว... แต่ถ้ากรณีนี้... กระพ๊มก็ด่าขอรับ เพราะมันไม่ใช่ "อริยสงฆ์" แน่นอนล้านเปอเซง... ไม่กลัวขอรับ...

 

2. พระสุปฏิปัณโนที่เป็น "สงฆ์สาวก" ของพระตถาคต... ก็ตามบทสวดที่เราเรียกว่าบทอิติปิโสฯ นั่นแหละขอรับ  คือบท "สรรเสริญพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์" ซึ่งถ้าตามพุทธวจนะจริงๆจะไม่เหมือนที่เราท่องกันมาแต่ช้านานในช่วงเริ่มต้นขอรับ...

 

 

นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ

(ขอน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้าซึ่งเป็นผู้ไกลจากกิเลส ตรัสรู้ชอบโดยพระองค์เอง)

 

อิธะ ตะถาคะโต โลเก อุปปัชชะติ (ตถาคตเกิดขึ้นในโลกนี้)  อะระหัง (เป็นผู้ไกลจากกิเลส)  สัมมาสัมพุทโธ (ตรัสรู้ชอบโดยพระองค์เอง)  วิชชาจะระณะสัมปันโน (เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ)  สุคะโต (เป็นผู้ไปแล้วด้วยดี)  โลกะวิทู (เป็นผู้รู้โลกอย่างแจ่มแจ้ง)  อะนุตตะโร ปุริสสะทัมมะสาระถิ (เป็นผู้สามารถฝึกคนที่สมควรฝึกอย่างไม่มีใครยิ่งกว่า)  สัตถา เทวะมนุสสานัง (เป็นครูของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย)  พุทโธ (เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ด้วยธรรม)  ภะคะวา (เป็นผู้มีความจำเริญ จำแนกธรรมสั่งสอนสัตว์)  โส อิมัง โลกัง (ตถาคตนั้นทำให้แจ้งซึ่งโลกนี้)  สะเทวะกัง สะมาระกัง สะพรัหมะกัง สัสสะมะณะพราหมะณิง (กับทั้งเทวดา มาร พรหม หมู่สัตว์ พร้อมทั้งสมณพราหมณ์)  ปะชัง สะเทวะมะนุสสัง (เทวดาพร้อมทั้งมนุษย์)  สะยัง อภิญญา (ด้วยปัญญาอันยิ่งเองแล้ว)  สัจฉิกัตวา ปะเวเทสิ (สอนผู้อื่นให้รู้แจ้งตาม)  โส ธัมมัง เทเสสิ (ตถาคตนั้นแสดงธรรม)  อาทิกัลยาณัง (ไพเราะในเบื้องต้น)  มัชเฌกัลยาณัง (ไพเราะในท่ามกลาง)  ปะริโยสานะกัลยาณัง (ไพเราะในที่สุด)  สาตถัง สะพยัญชะนัง เกวะละปะริปุณณัง ปะริสุทธัง พรัหมะจะริยัง ปะกาเสติ (ทรงประกาศพรหมจรรย์คือแบบแห่งการปฏิบัติอันประเสริฐ บริสุทธิ์ บริบูรณ์สิ้นเชิง พร้อมทั้งอรรถะ พร้อมทั้งพยัญชนะ ดังนี้)                                                                      
 

สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม (พระธรรมเป็นสิ่งที่พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสไว้ดีแล้ว)  สันทิฏฐิโก (เป็นสิ่งที่ผู้ศึกษาและปฏิบัติพึงเห็นได้ด้วยตนเอง)  อะกาลิโก (เป็นสิ่งที่ปฏิบัติได้และให้ผลได้ไม่จำกัดกาล)  เอหิปัสสิโก (เป็นสิ่งที่ควรกล่าวกับผู้อื่นว่า ท่านจงมาดูเถิด)  โอปะนะยิโก (เป็นสิ่งที่ควรน้อมเข้ามาใส่ตัว)  ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหีติ (เป็นสิ่งที่ผู้รู้ก็รู้ได้เฉพาะตน ดังนี้)

 

สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ  (สงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้าเป็นผู้ปฏิบัติดีแล้ว)  อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ (สงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้าเป็นผู้ปฏิบัติตรงแล้ว)  ญายะปะฎิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ  (สงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้าเป็นผู้ปฏิบัติเพื่อรู้ธรรม เป็นเครื่องออกจากทุกข์แล้ว)  สามีจิปะฎิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ  (สงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้าเป็นผู้ปฏิบัติสมควรแล้ว)  ยะทิทัง(ได้แก่บุคคลเหล่านี้คือ)  จัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะ ปุริสะปุคคะลา  (คู่แห่งบุรุษสี่คู่ นับเรียงตัวได้แปดบุรุษ)    เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ  (นั่นแหละคือสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า)  อาหุเนยโย  (เป็นสงฆ์ควรแก่สักการะที่เขานำมาบูชา)  ปาหุเนยโย  (เป็นสงฆ์ควรแก่สักการะที่เขาจัดไว้ต้อนรับ)  ทักขิเณยโย  (เป็นสงฆ์ควรรับทักษิณาทาน)   อัญชะลิกะระณีโย  (เป็นสงฆ์ที่บุคคลทั่วไปจะพึงทำอัญชลี)  อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ  (เป็นสงฆ์ที่เป็นเนื้อนาบุญของโลกไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า ดังนี้) ...

 

  ที่ยกพระสูตรนี้มาให้ดูเพื่อให้ดูตรงประเด็นส่วนของ "พระสงฆ์" ของพระตถาคตบัญญัติไว้เป็นเช่นไรขอรับ... นี่เป็น 1 ในหลายๆพระสูตรที่มีกล่าวถึงโดยต่างสถานที่, ต่างเวลาและผู้ถาม ที่พระตถาคตกล่าวบอกฆราวาสว่าการพิจารณาสาวกของพระองค์ว่าดี ไม่ดี ปฏิบัติตรงจริงตามคำสอนพระองค์หรือไม่ขอรับ สรุปคือพระตถาคตให้สังเกตุดูพฤติกรรมของพระรูปนั้น แล้วพิจารณาการควรแก่การนำของบูชา, จัดสถานที่ไว้ต้อนรับ...ฯลฯ หรือไม่นั่นแหละขอรับ...

 

 ในส่วนที่เกี่ยวเนื่องกับคำถาม คือควรจะให้ทานอย่างไร พระตถาคตกล่าวไว้พระสูตรหนึ่งขอรับว่า... "แม้เพียงเทน้ำเศษอาหารในหม้อลงน้ำ โดย "หวัง" เพียงให้สัตว์น้อยใหญ่ได้กิน... ก็ยังเป็นที่มาแห่งบุญ ไฉนเลยจะกระทำกับมนุษย์ด้วยกัน... ผู้ใดเป็นผู้บอกงดลาภแก่ผู้อื่นเสีย ผู้นั้นไม่ใช่มิตร เป็นการขุดตนให้ตกต่ำไปด้วย...

 

...พระตถาคตกล่าวถึงอานิสงค์ต่างๆในการทำทานไว้อีกพระสูตรหนึ่งว่า "สมัยหนึ่ง... ที่พระตถาคตได้เกิดมาเป็นมหาอำมาตย์ มีทรัพย์สินมหาศาล มีจิตเมตตา มีฝ่ามือชุ่มด้วยการให้อยู่เนืองๆ เคยแม้แต่นำถาดเงิน ถาดทองมาแจกเป็นทานให้หมู่ชนในเมืองของพระองค์เองก็เคย... พระตถาคตได้กล่าวว่า... การกระทำเช่นนั้น... หาได้อานิสงค์ใหญ่อันใดเลย เพราะ "ไม่มีผู้สมควรได้รับทาน" นั้นมาเป็นผู้รับเลย พระองค์เปรียบไว้ว่า... ทำทานแก่หมู่สัตว์, มนุษย์เป็นร้อยเป็นพันก็ไม่เท่า ทำทานกับพระโสดาบันองค์เดียว ทำทานกับพระโสดาบันร้อยองค์ ก็ไม่เท่าทำทานกับพระสกิทาคามีองค์เดียว... ไล่ไปจนถึงทำทานกับพระอรหันต์ร้อยองค์ ก็ไม่เท่าสร้างที่อยู่อาศัยให้ภิกษุสงฆ์ สร้างที่อยู่อาศัยให้ภิกษุสงฆ์เป็นร้อยเป็นพัน ก็ไม่เท่ารักษาศีลครั้งเดียว...รักษาศีลร้อยครั้งพันครั้ง ก็ไม่เท่าการทำอาณาปานสติเพียงครั้งเดียว... "อาณาปานสตินี่แหละ คือกองกุศลอย่างแท้จริง" ...

 

  ก็ลองพิจารณาให้แยบคายดูขอรับ...

Edited by wat, 28 มกราคม พ.ศ. 2556 - 19:49.

[10Mz]

หลวงปู่พุทธะอิสระ กล่าวอีกว่า

ที่อ้างว่าเดินตามรอยบูรพาจารย์ (หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ)

แต่นั่นเป็นการเดินธุดงค์ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน ท่านไปทางเรือหากน้ำแห้งก็ขึ้นไปเดินตามคันนา

ไม่ได้ไปเดินตามข้างถนน แล้วให้คนเดือดร้อนอย่างนี้ ซึ่งหากท่านยังไม่มรณภาพ

คงคิดว่าเกิดอะไรขึ้นในแผ่นดินนี้ ที่พระออกธุดงค์แล้วมีผู้ได้รับผลกระทบ

ซึ่งข้าราชการก็เป็นไปด้วย ทั้งสำนักพุทธศาสนาแห่งชาติ และกระทรวงศึกษาธิการ

ทั้งตำรวจที่ให้ความอนุเคราะห์ เพราะตอนนี้เป็นรัฐบาลธรรมกายไปแล้ว

[CrazyDaimon]

พวกนั้นพระเหรอครับ -''-

[hinotori]

ตามหัวข้อกระทู้ครับ
 
อยากให้ท่านผู้เจนจัดในธรรมทั้งหลาย..........ช่วยวิเคราะห์ให้ด้วยครับ........
 
ถ้าบาป.........ผมคนหนึ่ง........ที่จะขอเลิกวิจารณ์ลัทธิจานบิน.....แบบถาวร
 
ถ้าไม่บาป.............ก็เชิญ....พี่ๆน้องๆ..........บรรเลงกันเองตามใจชอบครับ

ปกติ พระสงฆ์ถือศีล 227 ข้อ ซึ่งจะทำให้ท่านบริสุทธิ์ สะอาด กว่าฆราวาสทั่วๆไป ที่อย่างดีคือถือศีล 10

และวัตรปฏิบัติของท่านคือ ปลงอาบัติทุกเย็น ซึ่งเหมือนกับเป็นการล้างข้อผิดพลาดหากเกิดอาบัติผิดศีลในวันนั้นๆ

สรุปคือ พระสงฆ์จะสะอาดบริสุทธิ์อยู่เสมอครับ นั่นคือเหตุที่เราเคารพกราบไว้ เพราะท่านมั่นคงในศีลมากกว่าพวกเรา

ทีนี้ ถ้าถามว่า บาปไหมถ้าวิพากษ์วิจารณ์

ก็อยากตอบว่า แม้วิพากษ์ด้วยใจบริสุทธิ์ ด้วยหวังอยากเห็นสงฆ์เหล่านั้นประพฤติดีประพฤติชอบ ก็อาจบาปได้ครับ เพราะศีลเราน้อยกว่าพระสงฆ์

ท่านเองอาจตัดสินด้วยใจตัวเองว่า สงฆ์นั้น หรือสงฆ์เหล่านั้น ทำตัวไม่เหมาะสม ซึ่งเป็น มโนกรรม ไปเรียบร้อย

แล้วท่านแสดงออกด้วยกริยา อาการ พูด เขียน โพส ก็กลายเป็น วจีกรรม กายกรรมไปอีก บาปนะครับ

เหตุเพราะว่า หมู่สงฆ์ที่เราวิพากษ์นั้น เราไม่อาจรู้ชัดว่า ท่านใดทำดี ท่านใดทำไม่ดี

การเหมารวมสงฆ์ที่ดีให้ติดร่างแหไปด้วย บาปแน่นอนครับ

ถ้าจะถามอีกว่า แล้วจะทำยังไง ผมก็อยากตอบว่า ปล่อยเขาไปเถิดครับ ดีหรือไม่ ให้กรรมเป็นตัวชี้นำ

ถ้าเขาทำดีเขาได้ดี ถ้าเขาทำไม่ดี เขาก็ได้ไม่ดีเอง เรื่องของสงฆ์ มีคณะสงฆ์เป็นผู้ดูแลอยู่แล้วครับ ไม่ใช่กิจของเรา

ถ้าเรารำคาญจากกรณีใดๆ เช่น รถติดเพราะเดินธุดงค์ ขอให้อนุโมทนาสาธุไปครับ

เพราะอย่างน้อยท่ามกลางคนที่มาทำบุญนั้น ย่อมมีมากที่มาด้วยความบริสุทธิ์ใจครับ เราฮึดฮัดไป ก็หงุดหงิดเปล่าๆ

ศรัทธาที่ใด ก็ทำบุญที่นั่นครับ ไม่ศรัทธาที่ใด ก็อย่าไปวิพากษ์เลยครับ ขอบคุณครับ

[THE THIRD WAY]

ที่ผมยังไม่กล้าวิจารณ์ลัทธินี้...............อย่างเต็มตัวก็เพราะ...........

 

 

ผมยังเกรงใจ...........หลวงพ่อสด  วัดปากน้ำ........และผ้าเหลือง.............

 

ที่ลัทธินี้..........ใช้แอบอ้างอยู่ครับ...........

 

 

 

จึงรอท่านผู้รู้........เพื่อมาให้ความกระจ่าง........อีกที

ท่านครับ ผมขอย้ำเรื่องของข้อมูล

เพื่อประกอบการตัดสินใจนะครับ

 

สมเด็จพระสังฆราชได้มีพระลิขิตว่า

ฯลฯ..บุคคลผู้นี้ ได้พ้นจากความเป็นพระไปแล้ว...ฯลฯ

 

ท่านครับ

แค่นี้ก็ควรค่าแก่การพิจารณาเพื่อประกอบการตัดสินใจแล้วครับ

บังเอิญว่าหน่วยงานโง่ๆในบ้านเราที่เกี่ยวกับศาสนา

บัดซบเกินเยียวยา

[wat]

ที่ผมยังไม่กล้าวิจารณ์ลัทธินี้...............อย่างเต็มตัวก็เพราะ...........

 

 

ผมยังเกรงใจ...........หลวงพ่อสด  วัดปากน้ำ........และผ้าเหลือง.............

 

ที่ลัทธินี้..........ใช้แอบอ้างอยู่ครับ...........

 

 

 

จึงรอท่านผู้รู้........เพื่อมาให้ความกระจ่าง........อีกที

ท่านครับ ผมขอย้ำเรื่องของข้อมูล

เพื่อประกอบการตัดสินใจนะครับ

 

สมเด็จพระสังฆราชได้มีพระลิขิตว่า

ฯลฯ..บุคคลผู้นี้ ได้พ้นจากความเป็นพระไปแล้ว...ฯลฯ

 

ท่านครับ

แค่นี้ก็ควรค่าแก่การพิจารณาเพื่อประกอบการตัดสินใจแล้วครับ

บังเอิญว่าหน่วยงานโง่ๆในบ้านเราที่เกี่ยวกับศาสนา

บัดซบเกินเยียวยา

 

  คำว่าเงินมา ตำแหน่งมีพร้อมลาภ ยศ สรรเสริญ มันมี "ทุกวงการ" ขอรับ...จุ๊ๆๆ อย่าลากยาวขอรับ เดี๋ยวจะถึงชั้นผู้ใหญ่... 

[10APR10]

เอามาจากFB

[ดอกปีบ]

[QueenBee]

ไม่ใช่พระ
ไม่ใช่วิถีพุทธ
....
หากินกับความเชื่องมงาย และขายฝันลมๆแล้งๆ
เหมือนเสื้อแดงไม่มีผิด

[promotion]

ไม่บาปหรอกครับ ผมว่าได้บุญซะอีก เพราะพวกเขาเอาพระพุทธศาสนาที่พวกเราเคารพศรัทธาไปแอบอ้างแบบผิดๆ และยังบิดเบือนคำสอนในพระพุทธศาสนาอีกด้วยครับ การปกป้องพระพุทธศาสนานั้น ผมว่าได้บุญครับ

[อู๋ ฮานามิ]

ผมน่ะสลดใจ ที่ลัทธิจานบินเอาหลวงพ่อสดมาหากินเสียหายแบบนี้ 

[ดอกปีบ]

[ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่]

ความเห็นส่วนตัวแบบคนรู้พระศาสนาน้อยของผม อาจผิดหรือถูกก็ได้นะครับ

 

การตำหนิติงลัทธิธรรมกายไม่บาป แล้วยังได้กุศลด้วย  ดังนี้

 

1. เจ้าอาวาสได้ถูกตัดสินให้ขาดออกจากการเป็นพระแล้ว  

ฉะนั้น ตลอดเวลาหลังจากนั้น เขาเป็นแค่โล้นห่มเหลืองที่เอาพระศาสนามาบังหน้าหาควาร่ำรวยและอำนาจเท่านั้น

 

2. การตำหนิติเตียนพระและลัทธิที่ทำให้พุทธศาสนาเสื่อม เป็นเรื่องที่พุทธศาสนิกชนพึงกระทำ

เพื่อปกป้องพระพุทธศาสนา

เพื่อไม่ให้พระศาสนาถูกแอบอ้างนำไปหลอกลวงผู้อื่นต่อไป

 

3. การตำหนิสิ่งที่ผิดเพี้ยนไป ก่อให้เกิดการตื่นรู้และเข้าแก้ไขปัญหา

การทอดธุระเพียงเพราะ "กลัวบาป" น่าจะเป็นอกุศลกรรมยิ่งกว่า

เพราะเห็นภัยมหันต์เกิดกับพุทธศาสนาตรงหน้าแล้วกลับนิ่งเฉย

 

4. ณ เวลาที่เราตำหนิติติง ทำด้วยจิตบริสุทธิ์หรือไม่

หากจิตเจตนาบริสุทธิ์อย่างยิ่งที่จะแก้ไขสิ่งผิดให้ถูกต้อง

ต้องการตักเตือนสังคมให้รู้ผิดรู้ถูก

ต้องการให้เป็นความรู้หรืออุทาหรณ์

ต้องการปกป้องพระศาสนา

แบบนี้นอกจากไม่บาปแน่นอนแล้ว ยังได้บุญ

 

แต่ถ้าตำหนิติติงด้วยจิตคิดริษยา หรือแค่หมั่นไส้ ขวางหูขวางตา  แบบนี้เป็นอกุศลจิต ก็บาปแน่นอน

[pooyong]

พระพุทธองค์ท่านสอนว่า “นิพพานเป็นอนัตตา”

แต่ ไชยบูลย์ กับแอบอ้างว่า “นิพพานเป็นอัตตา”

 

และคำสอนที่ว่า

“ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา”

 

ไชยบูลย์ก็เอามาเปลี่ยนเป็น

“ผู้ใดมีทุน ผู้นั้นเห็นเรา”