Jump to content


Photo
- - - - -

ลดการบ้านคือคำสั่งเร่งด่วนของกระทรวงศึกษาธิการ?


  • Please log in to reply
141 replies to this topic

#101 ppn262000

ppn262000

    น้องใหม่

  • Members
  • Pip
  • 42 posts

Posted 30 January 2013 - 19:01

มันแล้วแต่โรงเรียนนะคะ

ที่รู้เพราะมีน้องสาวอยู่โรงเรียนสาธิต

เค้าก็ค่อนข้างทันสมัย :angry: ไม่ได้เรียกการบ้าน

แต่มอบ"งาน"ไปให้ทำ งานกลุ่มมั่ง งานเดี่ยวมั่ง ตามประสาเอาเด็กเป็นศูนย์กลาง

 

พวกครูเรียก"งาน"  แต่เด็กเรียก "การบ้าน" อยู่ดี

 

น้องสาวไปติวกับ ติวเตอร์ ด้วย ซึ่งพี่เค้าเรียนโทอยู่วิดวะ อีกคนเรียนโทวิดยาเอกแมท

พี่ทั้งสองเค้าก็ติวให้เด็กโรงเรียนอื่นด้วย

ต่างเห็นพ้องกันว่าครูสาธิตให้งาน หรือการบ้านเนี่ยหละ เยอะมากกกกก

 

ถ้าเทียบกับโรงเรียนใหญ่ในจังหวัดอีกสามโรงเรียน เช่นขอนแก่นวิทย์ แก่นนคร และกัลยวัตร การบ้านที่ครูให้ถือว่าจิ๊บๆถ้าเทียบกับสาธิต

 

แต่ผลของการเอนทรานซ์โควต้า เมื่อปีที่แล้ว สาธิตได้แพทย์ 1/3 ของแพทย์มข. และนร.เกือบทั้งหมดของสาธิตติดมหาลัยปิด

นร.ก็คุยกันว่าเพราะทำการบ้าน ทำแบบฝึกหัดเยอะเนี่ยหละ เจอโจทย์แบบต่างๆมากมาย

คือพื้นฐานเจอเยอะที่ครูสั่ง แล้วก็ไปฝึกทำกันอีกนอกรอบ

 

ก็อยากรู้เหมือนกันนะว่าถ้าบังคับให้ทำการบ้านน้อย แล้วหลักสูตรต่างๆจะปรับไหม การสอบจะปรับไหม

ไอ้แบบที่ว่า เปิดเทอม ม. 6 ได้ 2 เดือนก็เริ่มตระเวณสอบโควต้า สอบตรงกันแล้ว ทำการบ้านมาน้อยจะสอบติดไหม ?

 

ถ้าหากแก้ + ปรับหลักสูตรด้วย จึงจะสัมพันธ์กับการลดการบ้านนะคะ

 

เข้ามาโพส เพราะเห็นชื่อ ร.ร.ตัวเองนะเนี่ยะ 55

เชื่อว่าหลักสูตรของสาธิต พัฒนาไปไกลแล้ว ไม่น่าห่วง

ผมห่วง ร.ร.ทั่วๆ ไปนี่แหละ ไม่รู้ความชัดเจนของหลักสูตรเป็นยังไง ต่างคนต่างทำ เด็กเรียนไม่เหมือนกัน

 

อีกอย่าง เท่าที่สอนเด็กมา ใบงาน นี่แหละครับตัวดี

เพราะบาง ร.ร. ครูบางวิชา ใบงานคือกระดาษเปล่าที่เต็มไปด้วยเส้นบรรทัด

ไม่มีโครงเนื้อหาให้เด็กจับยึดได้ ซึ่งไม่ใช่เอาเด็กเป็นศูนย์กลาง แต่เด็กเหมือนโคจรเองด้วยซ้ำ

และครูบางวิชา ก็ไม่ได้สรุปประเด็นอะไร แล้วตกลงเด็กรู้เรื่องจริงมั้ยเนี่ยะ

 

เหมือนที่คุณว่าเลยครับ ปรับเนื้อหา การบ้าน เวลา ผมเห็นด้วย

แต่องค์ประกอบอื่นหละ เช่น การวัดผลระดับชั้น การสอบเข้าระดับสูงขึ้น

ถ้าระบบสอบเข้า วัดผล ยังออกข้อสอบบ้าพลังเหมือนทุกวันนี้ จบครับ

ผลักให้เด็ก วิ่งไปเรียนนอกระบบ

หรือไม่ ระดับการศึกษาที่สูงขึ้น ก็จะได้เด็กที่ฐานไม่แน่นขึ้นมาเรียน ส่งผลต่อการทำงานหลังเรียนจบด้วย



#102 MMMP

MMMP

    ราชาโพย

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,874 posts

Posted 30 January 2013 - 19:09

ลดการบ้านเด็กเพื่อให้เด็กมีเวลาไปกวดวิชามากขึ้น?

ลดการบ้านเด็กเพือลดภาระพ่อแม่ที่ต้องสอนการบ้านลูกในยามที่ลูกไม่เข้าใจ
ลดการบ้านเด็กเพื่อช่วยลดภาระตรวจการบ้านของอาชีพครู

ลดการบ้านเด็กเพื่อให้เด็กมีเวลาทำกิจกรรมด้านอื่นมากขึ้น

ลดการบ้านเด็กเพื่อให้เด็กมีเวลาทำงานบ้านช่วยพ่อแม่มากขึ้น

ลดการบ้านเด็กเพื่อให้เด็กมีเวลาใช้คอมพิวเตอร์มากขึ้น

 

คือทำแล้วก็มีทั้งดีและเสียนะครับ

ลองคิดหลายๆมุม อย่าคิดแค่ด้านลบรึด้านบวกด้านเดี่ยว

เอาเป้นว่าคำสั่งมันออกมาแล้ว ในฐานะคนที่มีลูกหลาน

ก็หาทางคุ้มกันคนในครอบครัวของตัวเองให้ดีละกันครับ

ยังไงภาระเรื่องเยาวชนมันก็เป็นของพ่อแม่โดยตรงอยู่แล้ว

น่าเห็นใจบางครอบครัวที่ไม่มีเวลาให้ลูกมากกว่าครับ

ว่าเด็กจะโตไปแล้วมีภูมิคุ้มกันอย่างไร

เคยเจอเคสนึงแม่เด็กเป็นอาจารย์ แต่ลูกเกเรนะครับ

เพราะมั่วแต่ทำงานที่ต้องเอากลับมาทำที่บ้านเช่นตรวจการบ้าน เตรียมข้อสอบ

จนไม่มีเวลาสนใจลูก 


นักการเมืองยื่นปลา พระราชายื่นเบ็ด นักการเมืองแจกแท็บเบล็ต กษัตริย์แนะเคล็ดวิชานักการเมืองห่วงอำนาจ มหาราชห่วงประชา นักการเมืองสร้างสัญญา องค์เจ้าฟ้าสร้างสรรค์ธรรมนักการเมืองหาเรื่องกิน องค์ภูมินทร์หาเรื่องทำ นักการเมืองยุให้รำฯ ในหลวงย้ำให้ทำดี

#103 yaister7

yaister7

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,446 posts

Posted 30 January 2013 - 21:56

ลดการบ้าน งี้นางยกต้องไปหาการนอกบ้านทำเพิ่มนะสิ  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:



#104 ผู้พิทักษ์ความดี

ผู้พิทักษ์ความดี

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 516 posts

Posted 30 January 2013 - 22:29

ในฐานะที่ผมเป็นครู คนหนึ่ง ถามว่า การเรียนการสอนสมัยนี้ เปลี่ยนนโบายทุกรัฐบาล ครูทำตัวไม่ถูก อิง นร มากเกินไป เอาใจ นร มากเกินไป สาระของการสอนคือการมีวินัย มีคุณธรรม คู่ความรู้ ทุกวันนี้ตักเตือนเด็กไม่ได้ ว่าไม่ได้ ตีไม่ได้ ให้ตกยังไม่ได้เลยครับ ครูก็จะสอนเฉพาะเด็กที่รับฟังและสอนได้เท่านั้น ส่วนพวกที่เหลือ ขอ ก็จะตามใจอยากทำ เลว อย่างไรก็ตามแต่สะดวกร้ายแรงก็ออก ครูก็รักตัวกลัวตกงานเหมือนกันครับ ทุกวันนี้ก็สอนไปตามหน้าที่ แต่ผมจะไม่ยอมแพ้ต่อระบบที่มันทำให้ลูกหลานเราตกจ่ำแบบนี้ครับ เกิดมาเป็นครู ต้องชี้ทางในเด็ก สอนให้คนกลายเป็นคนโดยสมบูรณ์

#105 วันศุกร์

วันศุกร์

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 518 posts

Posted 30 January 2013 - 22:39

ทำเป็นแต่ ด่ารัฐบาลที่ไม่ได้เลือกมาจริงๆ...

 

เคยเห็นการบ้านเด็กสมัยนี้หรือป่าว... ไอ้ที่เยอะๆมันไม่ใช่ ทำโจทย์เลข 10 ข้อ 

แต่มันเป็น ใบงานที่ต้องเขียนๆๆ    ดีไม่ดี ระบายสี ให้เต็มแผ่น 

ดีไม่ดีเจอรายงาน..   ซึ่งก็แค่ลอกหนังสือมา...     

 

โทษนะครับ... การบ้านไม่ใช่ สมอง แบบนี้ เมกา สวิส เยอรมัน ไม่มีนะครับ...  

ผมไม่เห็นไอ้รัฐบาล คนดี มันจะเปลี่ยนแปลงอะไรเลย..     หรือ มันกลัวเด็กจะฉลาด คิดนอกกรอบกันหมด แล้ว มันหลอกไม่ได้

น่า แปลก ที่ รัฐบาล คนหนีคุก..  คิดจะ  ทำโน่นทำนี่...   เยอะแยะไปหมด...

 

โทษนะครับ.. เด็กมีหลายแบบ...  ไอ้ที่เห็นว่าไม่มีการบ้าน..  ถามว่าไม่มีจริงหรือไม่...

ไปถามเด็กแว้น. สก๊อย์..   การบ้าน ไม่เคยมีครับ...

ไปถามเด็กเรียนสิครับ...   

biggrin.png

 

 

เอาอีกแล้ว...อยากรู้จริงๆว่าเมกา สวิส เยอรมันไม่มีการบ้านจริงๆหรือว่าจินตนาการ? ขอหลักฐานหน่อยได้ไหมฮะ

มีคะ เยอะด้วย ส่วนมากเป็นเขียนรายงาน วิชา US History / US politic ก็ต้องอ่านแล้วตอบโจทย์แบบเขียนความเข้าใจ เลขก็เยอะ นี่ของมัธยมนะคะ  ของประถมก็มีแล้วต้องให้ผู้ปกครองเซ็นว่าได้ทำแล้วด้วย การอ่านต้องอ่านหนังสือวันละกี่หน้า


Edited by วันศุกร์, 30 January 2013 - 22:39.

You can't fix stupid - Ron White

 

You can have your own opinion, but not your own facts - Daniel Patrick Moynihan

 

"A society is judged by how it treats its animals and elderly"


#106 นายตัวเกร็ง

นายตัวเกร็ง

    Monkey Godfather Lv.3

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,901 posts

Posted 30 January 2013 - 22:51

 

ทำเป็นแต่ ด่ารัฐบาลที่ไม่ได้เลือกมาจริงๆ...

 

เคยเห็นการบ้านเด็กสมัยนี้หรือป่าว... ไอ้ที่เยอะๆมันไม่ใช่ ทำโจทย์เลข 10 ข้อ 

แต่มันเป็น ใบงานที่ต้องเขียนๆๆ    ดีไม่ดี ระบายสี ให้เต็มแผ่น 

ดีไม่ดีเจอรายงาน..   ซึ่งก็แค่ลอกหนังสือมา...     

 

โทษนะครับ... การบ้านไม่ใช่ สมอง แบบนี้ เมกา สวิส เยอรมัน ไม่มีนะครับ...  

ผมไม่เห็นไอ้รัฐบาล คนดี มันจะเปลี่ยนแปลงอะไรเลย..     หรือ มันกลัวเด็กจะฉลาด คิดนอกกรอบกันหมด แล้ว มันหลอกไม่ได้

น่า แปลก ที่ รัฐบาล คนหนีคุก..  คิดจะ  ทำโน่นทำนี่...   เยอะแยะไปหมด...

 

โทษนะครับ.. เด็กมีหลายแบบ...  ไอ้ที่เห็นว่าไม่มีการบ้าน..  ถามว่าไม่มีจริงหรือไม่...

ไปถามเด็กแว้น. สก๊อย์..   การบ้าน ไม่เคยมีครับ...

ไปถามเด็กเรียนสิครับ...   

:D

 

 

เอาอีกแล้ว...อยากรู้จริงๆว่าเมกา สวิส เยอรมันไม่มีการบ้านจริงๆหรือว่าจินตนาการ? ขอหลักฐานหน่อยได้ไหมฮะ

มีคะ เยอะด้วย ส่วนมากเป็นเขียนรายงาน วิชา US History / US politic ก็ต้องอ่านแล้วตอบโจทย์แบบเขียนความเข้าใจ เลขก็เยอะ นี่ของมัธยมนะคะ  ของประถมก็มีแล้วต้องให้ผู้ปกครองเซ็นว่าได้ทำแล้วด้วย การอ่านต้องอ่านหนังสือวันละกี่หน้า

 

แล้วมีเด็กคนไหนต้องการเสรีภาพจากการให้การบ้านของครูถึงขั้นร้องเรียนไหมฮะ ในดินแดนแห่งเสรีภาพที่เสื้อแดงชาบูแห่งนั้น
วิชา US Politic นี่น่าสนใจแหะ!!


เขียนเรื่องการเมือง : ดราม่า ,เขียนเรื่องสังคม : ดราม่า เขียนเรื่องบันเทิง : ดราม่า
แต่พอโพสเรื่องหื่น : มีความเห็นเป็นไปทางเดียวกันเสมอ >3<


#107 ฉันรักเมืองไทย

ฉันรักเมืองไทย

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 267 posts

Posted 30 January 2013 - 22:55

ตอนลูกชายอยู่ม.ปลาย. เจอครูภาษาไทยโหดมาก เป็นที่ร่ำลือบอกต่อกันมาทุกรุ่น ครูจะสอนเต็มชั่วโมงหรือเกินชั่วโมงทุกครั้ง การบ้านสั่งวันนี้ พรุ่งนี้ส่ง. บางทีก็ให้เรียงความ20หน้า ส่งวันรุ่งขึ้น. เด็กนร.นอนตีสอง ตีสาม บางทีก็ยันเช้า นักเรียนทุกคนถึงจะบ่นแค่ไหน แต่ก็ทำกันจนได้เกือบทุกคน. ตอนนั้นลูกไม่ชอบครูเลย. แต่พอเรียนผ่านไป นร.ทุกคนรักครูท่านนั้นมาก. ลูกบอกว่า ครูไม่เคยสอนพิเศษข้างนอก. ครูสอนเต็มที่ในห้องเรียน. สิ่งที่ได้จากครูคือทักษะด้านการเขียน. ซึ่งช่วยได้มากเวลาสอบข้อเขียน และเวลาที่ต้องทำรายงาน
แต่ต่อมามีเด็กรุ่นน้องและผู้ปกครอง. ทำเรื่องร้องเรียนหาว่าครูโหดร้าย ใช้วาจาไม่สุภาพ. ลูกชายรู้เข้าโกรธมาก เค้าบอกว่าครูที่เป็นครูจริงๆอย่างนี้มีเหลือน้อยแล้ว ต่อไปครูที่ตั้งใจสอนเด็กจริงๆอย่างนี้ก็คงหมดกำลังใจ. เลิกสอน เลิกเข้มงวด เพราะอยากให้ลูกศิษย์ได้ดี.

รักการอ่าน เป็นการฝึกการอ่านแล้วจับใจความสำคัญ แล้วเขียนย่อความ. ซึ่งล้วนแต่เป็นทักษะที่สำคัญทั้งสิ้น. การบ้านเจตนามีไว้ให้เด็กทำเอง เพื่อฝึกฝนทักษะ. การที่เด็กบางคนลอกเพื่อน. แล้วสรุปว่า การบ้านอันนั้นไม่ดี ไม่ได้ใช้สมอง ดูจะเป็นการสรุปที่ไม่ค่อยเข้าท่าเท่าไหร่

#108 แตงดุ๊ด

แตงดุ๊ด

    แsดอย่างสงบตบเมื่อจำเป็นสะตออย่างเยือกเย็นเพราะน้องเป็นไฮโซ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,649 posts

Posted 30 January 2013 - 22:57

แผนระยะยาวของอิพวกไพร่เผาบ้านเผาเมืองแน่ๆคะ เพิ่มประชากรควาย พอโตขึ้นจะได้ถูกหลอกให้ไปตายได้ง่ายๆ หรือในอนาคตจะได้ไม่มีประชากรที่ฉลาดที่จะมาด่านายกอย่างอิปูว่าโง่ เพราะดูแล้วอิโอ๊คทายาทกระสือมันมีหัวไว้ให้ชันนะตุขึ้นแค่นั้นแหระคะ เด็กยุคนี้พอเลือกตั้งได้ก็จะได้โง่น้อยกว่ามันทันเวลากันพอดี


ต่อต้านนังเพศแม่เสื้อแดงมือเปื้อนเลือดแถมเปื้อนน้ำกาม


#109 วันศุกร์

วันศุกร์

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 518 posts

Posted 30 January 2013 - 23:00

 

ทำเป็นแต่ ด่ารัฐบาลที่ไม่ได้เลือกมาจริงๆ...

 

เคยเห็นการบ้านเด็กสมัยนี้หรือป่าว... ไอ้ที่เยอะๆมันไม่ใช่ ทำโจทย์เลข 10 ข้อ 

แต่มันเป็น ใบงานที่ต้องเขียนๆๆ    ดีไม่ดี ระบายสี ให้เต็มแผ่น 

ดีไม่ดีเจอรายงาน..   ซึ่งก็แค่ลอกหนังสือมา...     

 

โทษนะครับ... การบ้านไม่ใช่ สมอง แบบนี้ เมกา สวิส เยอรมัน ไม่มีนะครับ...  

ผมไม่เห็นไอ้รัฐบาล คนดี มันจะเปลี่ยนแปลงอะไรเลย..     หรือ มันกลัวเด็กจะฉลาด คิดนอกกรอบกันหมด แล้ว มันหลอกไม่ได้

น่า แปลก ที่ รัฐบาล คนหนีคุก..  คิดจะ  ทำโน่นทำนี่...   เยอะแยะไปหมด...

 

โทษนะครับ.. เด็กมีหลายแบบ...  ไอ้ที่เห็นว่าไม่มีการบ้าน..  ถามว่าไม่มีจริงหรือไม่...

ไปถามเด็กแว้น. สก๊อย์..   การบ้าน ไม่เคยมีครับ...

ไปถามเด็กเรียนสิครับ...   

:D

 

 

เอาอีกแล้ว...อยากรู้จริงๆว่าเมกา สวิส เยอรมันไม่มีการบ้านจริงๆหรือว่าจินตนาการ? ขอหลักฐานหน่อยได้ไหมฮะ

มีคะ เยอะด้วย ส่วนมากเป็นเขียนรายงาน วิชา US History / US politic ก็ต้องอ่านแล้วตอบโจทย์แบบเขียนความเข้าใจ เลขก็เยอะ นี่ของมัธยมนะคะ  ของประถมก็มีแล้วต้องให้ผู้ปกครองเซ็นว่าได้ทำแล้วด้วย การอ่านต้องอ่านหนังสือวันละกี่หน้า

 

ขอแก้หน่อย พึ่งอ่านลงเจอว่าคุณ Hentai บอกว่า "การบ้านไม่ใช้สมอง" ที่อเมริกา สวิสเซอร์แลนด์ เยอรมัน ไม่มี

 

อันนี้จากที่ดูเด็กเล็ก (ประถมต้น) มาเค้าก็มีรูปมาให้ระบายสี หรือเขียนตามเส้น เหมือนกัน การบ้านมันก็ต้องเป็นไปตามการพัฒนา เด็กเล็กจะต้องพัฒนา Fine motor skills ในการหัดเขียนลากเส้นให้อยู่ตามรอย การระบายสีให้อยู่ในกรอบ อันนี้เป็น Fine motor skills ทั้งนั้นคะ เป็นการฝึกสมอง


You can't fix stupid - Ron White

 

You can have your own opinion, but not your own facts - Daniel Patrick Moynihan

 

"A society is judged by how it treats its animals and elderly"


#110 วันศุกร์

วันศุกร์

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 518 posts

Posted 30 January 2013 - 23:07

 

 

ทำเป็นแต่ ด่ารัฐบาลที่ไม่ได้เลือกมาจริงๆ...

 

เคยเห็นการบ้านเด็กสมัยนี้หรือป่าว... ไอ้ที่เยอะๆมันไม่ใช่ ทำโจทย์เลข 10 ข้อ 

แต่มันเป็น ใบงานที่ต้องเขียนๆๆ    ดีไม่ดี ระบายสี ให้เต็มแผ่น 

ดีไม่ดีเจอรายงาน..   ซึ่งก็แค่ลอกหนังสือมา...     

 

โทษนะครับ... การบ้านไม่ใช่ สมอง แบบนี้ เมกา สวิส เยอรมัน ไม่มีนะครับ...  

ผมไม่เห็นไอ้รัฐบาล คนดี มันจะเปลี่ยนแปลงอะไรเลย..     หรือ มันกลัวเด็กจะฉลาด คิดนอกกรอบกันหมด แล้ว มันหลอกไม่ได้

น่า แปลก ที่ รัฐบาล คนหนีคุก..  คิดจะ  ทำโน่นทำนี่...   เยอะแยะไปหมด...

 

โทษนะครับ.. เด็กมีหลายแบบ...  ไอ้ที่เห็นว่าไม่มีการบ้าน..  ถามว่าไม่มีจริงหรือไม่...

ไปถามเด็กแว้น. สก๊อย์..   การบ้าน ไม่เคยมีครับ...

ไปถามเด็กเรียนสิครับ...   

:D

 

 

เอาอีกแล้ว...อยากรู้จริงๆว่าเมกา สวิส เยอรมันไม่มีการบ้านจริงๆหรือว่าจินตนาการ? ขอหลักฐานหน่อยได้ไหมฮะ

มีคะ เยอะด้วย ส่วนมากเป็นเขียนรายงาน วิชา US History / US politic ก็ต้องอ่านแล้วตอบโจทย์แบบเขียนความเข้าใจ เลขก็เยอะ นี่ของมัธยมนะคะ  ของประถมก็มีแล้วต้องให้ผู้ปกครองเซ็นว่าได้ทำแล้วด้วย การอ่านต้องอ่านหนังสือวันละกี่หน้า

 

แล้วมีเด็กคนไหนต้องการเสรีภาพจากการให้การบ้านของครูถึงขั้นร้องเรียนไหมฮะ ในดินแดนแห่งเสรีภาพที่เสื้อแดงชาบูแห่งนั้น
วิชา US Politic นี่น่าสนใจแหะ!!

 

ถ้าจะมีก็ผู้ปกครองไปคุยกับครูขอผ่อนผันหรือขอยืดเวลาเพราะอะไรก็แล้วแต่ที่มีเหตุผลพอ ถ้าเด็กจะขาดเรียนเยอะๆเค้าก็เอาการบ้านให้แล้วให้ส่งตอนกลับมาเรียนอีกที จะได้เรียนทันเพื่อน


 US politic ตอนเรียนแทบตายเพราะศัพท์ใหม่ยากทั้งนั้น ให้เขียนเรียงความทีก็แทบแย่เพราะเราไม่มีควารู้พื้นฐานมาก่อน ตอนนั้นเน็ตยังมีใช้น้อยมากเราใช้อ่านหนังสือ ลอกหนังสือมาบ้างก็โดนโฮสว่าเลยต้องทำใหม่หมด อิอิ แต่ก็สนุกดีคะ


You can't fix stupid - Ron White

 

You can have your own opinion, but not your own facts - Daniel Patrick Moynihan

 

"A society is judged by how it treats its animals and elderly"


#111 Lucy Van Pelt

Lucy Van Pelt

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 525 posts

Posted 31 January 2013 - 00:11

ฮ่าๆ ว่าจะคุยเรื่องอเมริกันต่อ คุณวันศุกร์ตอบแทนให้แล้ว  :wub: ตอบได้ลึกกว่าผมด้วย เพราะมีลูกอยู่ที่นี่ ของผมใช้ถามเอาจากเพื่อนๆที่ทำงานด้วยกัน 

 

เสียดายเด็กประถมสมัยนี้ไม่ค่อยมีเรียงความซักเท่าไหร่ มีเหมือนกัน แต่น้อยมาก เรียงความมีประโยชน์มากนะครับ ไม่ว่าจะเรียนสาขาไหนก็ตาม เพราะทักษะที่ได้จะไปพัฒนาการลำดับความคิดและวิธีการสื่อสาร สมัยเด็กๆผมมีวิชาเขียนจดหมายด้วย แต่สมัยนี้ไม่รู้มีวิชาเขียน email หรือเปล่า  :D

 

เมื่อกี้ดูข่าวสัมภาษณ์รมว.ศึกษาอีกที ไปๆมาๆกลายเป็นปรับจำนวนการบ้านให้เหมาะสม อ้าว ตกลงก็คือให้ปรับปรุงการสอนใหม่ว่างั้นเหอะ แต่บอกตรงๆว่าจริงๆควรเพิ่มเงินเดือนให้ครูกับเพิ่มจำนวนโรงเรียนให้สัดส่วนมันเพิ่มขึ้นบ้าง ครูจะได้มีเวลาถามเด็กว่าเข้าใจเนื้อหาที่สอนแค่ไหน ตอนนี้สอนให้จบก็เหนื่อยจะแย่แล้ว  :wacko:


Edited by Lucy Van Pelt, 31 January 2013 - 00:11.


#112 voodoo

voodoo

    ไม่เป็นกลาง

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,202 posts

Posted 31 January 2013 - 00:13

ผมว่า เอากรุงเทพ เป็นมาตรฐานวัดเด็กทั้งประเทศ มากไปหน่อย

 ปัญหาเด็กได้การบ้านมากเกินไปนั้น เป็นเรื่องจริง เด็กแทบไม่มีเวลาไปเล่น ออกกำลังกาย ซึ่งเป็น

การพัฒนาด้านอารมณ์ สังคม จิตใจของเด็ก แต่เป็นปัญหาของเด็กในกรุงเทพ

 เวลาที่เด็กควรจะได้ใช้ในการเล่น หรือทำการบ้าน ของเด็กในกรุงเทพ

โดนเอาไปใช้ในการเดินทางมากที่สุด

และเด็กส่วนมากก็ต้องสูดดมมลพิษในระหว่างเดินทางด้วย

เมื่อเหลือเวลาน้อยลง เด็กก็ต้องเลือกทำการบ้านมากกว่าการไปเล่น ออกกำลัง

ผลคือ เด็กขาดทักษะในการเข้าสังคม ร่างกายอ่อนแอลง

แต่ผมว่า มันเป็นปัญหาของเด็กกรุงเทพ ไม่ใช่เด็กทั้งประเทศ

มาตรฐานของเด็กกรุงเทพ จะเอาไปบังคับใช้กับเด็กทั้งประเทศได้อย่างไร

ในเมื่อเด็กต่างจังหวัดยังต่างกันกับกรุงเทพ


" สลิ่มที่ไม่กล้่าเปิดตัวต่อสาธารณชนเท่าไรนัก เนื่องจากไม่ได้ทำประกันอัคคีภัย "

#113 หนูอ้อย

หนูอ้อย

    นักเขียนหน่อมแน้ม

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,215 posts

Posted 31 January 2013 - 00:35

ฮ่าๆ ว่าจะคุยเรื่องอเมริกันต่อ คุณวันศุกร์ตอบแทนให้แล้ว  :wub: ตอบได้ลึกกว่าผมด้วย เพราะมีลูกอยู่ที่นี่ ของผมใช้ถามเอาจากเพื่อนๆที่ทำงานด้วยกัน 

 

เสียดายเด็กประถมสมัยนี้ไม่ค่อยมีเรียงความซักเท่าไหร่ มีเหมือนกัน แต่น้อยมาก เรียงความมีประโยชน์มากนะครับ ไม่ว่าจะเรียนสาขาไหนก็ตาม เพราะทักษะที่ได้จะไปพัฒนาการลำดับความคิดและวิธีการสื่อสาร สมัยเด็กๆผมมีวิชาเขียนจดหมายด้วย แต่สมัยนี้ไม่รู้มีวิชาเขียน email หรือเปล่า  :D

 

เมื่อกี้ดูข่าวสัมภาษณ์รมว.ศึกษาอีกที ไปๆมาๆกลายเป็นปรับจำนวนการบ้านให้เหมาะสม อ้าว ตกลงก็คือให้ปรับปรุงการสอนใหม่ว่างั้นเหอะ แต่บอกตรงๆว่าจริงๆควรเพิ่มเงินเดือนให้ครูกับเพิ่มจำนวนโรงเรียนให้สัดส่วนมันเพิ่มขึ้นบ้าง ครูจะได้มีเวลาถามเด็กว่าเข้าใจเนื้อหาที่สอนแค่ไหน ตอนนี้สอนให้จบก็เหนื่อยจะแย่แล้ว  :wacko:

 

บอกแล้ว ว่าปรับลดทั้งระบบอย่างที่โหมประโคมจะเอาใจเด็กนั้นมันห่วย


 

ตราบเท่าที่ยังไม่ได้แก้กติกาอย่างอื่น เช่นการแข่งขันสูงใน ม.ปลาย เป็นต้น


 

พูดเหมือนหาเสียงเอามันไว้ก่อนก็ต้องโดนติติงเป็นธรรมดา


 AMAZING  coup d'etat  , THAILAND ONLY ..  :ph34r:  


#114 วันศุกร์

วันศุกร์

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 518 posts

Posted 31 January 2013 - 01:08

ฮ่าๆ ว่าจะคุยเรื่องอเมริกันต่อ คุณวันศุกร์ตอบแทนให้แล้ว  :wub: ตอบได้ลึกกว่าผมด้วย เพราะมีลูกอยู่ที่นี่ ของผมใช้ถามเอาจากเพื่อนๆที่ทำงานด้วยกัน 

 

เสียดายเด็กประถมสมัยนี้ไม่ค่อยมีเรียงความซักเท่าไหร่ มีเหมือนกัน แต่น้อยมาก เรียงความมีประโยชน์มากนะครับ ไม่ว่าจะเรียนสาขาไหนก็ตาม เพราะทักษะที่ได้จะไปพัฒนาการลำดับความคิดและวิธีการสื่อสาร สมัยเด็กๆผมมีวิชาเขียนจดหมายด้วย แต่สมัยนี้ไม่รู้มีวิชาเขียน email หรือเปล่า  :D

 

เมื่อกี้ดูข่าวสัมภาษณ์รมว.ศึกษาอีกที ไปๆมาๆกลายเป็นปรับจำนวนการบ้านให้เหมาะสม อ้าว ตกลงก็คือให้ปรับปรุงการสอนใหม่ว่างั้นเหอะ แต่บอกตรงๆว่าจริงๆควรเพิ่มเงินเดือนให้ครูกับเพิ่มจำนวนโรงเรียนให้สัดส่วนมันเพิ่มขึ้นบ้าง ครูจะได้มีเวลาถามเด็กว่าเข้าใจเนื้อหาที่สอนแค่ไหน ตอนนี้สอนให้จบก็เหนื่อยจะแย่แล้ว  :wacko:

ลูกชายยังไม่เขาเรียนโรงเรียนธรรมดาคะ ยังเล็กอยู่ ที่พูดถึงคือลูกเพื่อนน่ะคะ แล้วก็ตอนเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน ถ้ามีอะไรเพิ่มเติมก็ดีคะเพราะเราก็พูดได้เท่าที่เห็น 

 

วิชาเขียนจดหมายก็เคยเรียนคะ

 

 

เรื่องจำนวนการบ้านนี้ไม่น่าจะต้องถึงให้เป็นกฎเลย เพราะเป็นเรื่องของโรงเรียนและผู้กครองมากว่า

 

 

นั่นคิดไปมา ขนาดแฮรี่ พอตเร์ยังมีการบ้านซะเยอะเลย อิอิ


You can't fix stupid - Ron White

 

You can have your own opinion, but not your own facts - Daniel Patrick Moynihan

 

"A society is judged by how it treats its animals and elderly"


#115 Lucy Van Pelt

Lucy Van Pelt

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 525 posts

Posted 31 January 2013 - 03:06

ที่ผมคุยๆมาก็คล้ายๆกับที่คุณวันศุกร์เล่ามาครับ พอดีมีเพื่อนร่วมงานหลายรุ่น ตั้งแต่รุ่นที่ตอนนี้ลุกสาวกำลังจะเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว รุ่นนี้ปากกัดตีนถีบหน่อย เพราะต้องไปเป็นทหารถึงจะได้เรียนต่อมหาวิทยาลัย ผมมีเพื่อนจบมาทั้งจาก army, navy และ air force เลย เรียกว่าครบสามเหล่า แล้วก็มีรุ่นต่อจากนั้นซึ่งสบายกว่าหน่อย เพราะพ่อแม่มีตังค์จ่ายค่าเรียนมหาวิทยาลัยได้  

 

เด็กอเมริกันโชคดีตรงนี้มีห้องสมุดให้ค้นคว้าเวลาต้องทำการบ้าน ทำการบ้านประวัติศาสตร์ก็มี archive ให้หา ของเราเรื่องเหล่านี้ยังจัดการกันไม่ค่อยดีนัก คือเท่าที่ผมเห็นก็มีทำกันแบบกระจัดกระจายมากกว่าจะเป็นระบบให้เด็กเข้าไปค้นหาได้ บ้านเราไม่ต้องแจก tablet ก็ได้นะ ผมว่าแค่เอาหนังสือไป scan เป็น pdf ทำดัชนีให้ดีๆแล้วเก็บไว้ใน server ของโรงเรียนกับ server ของกระทรวงให้เด็กเข้ามาใช้งานได้ แค่นี้ก็ช่วยได้เยอะแล้ว 


Edited by Lucy Van Pelt, 31 January 2013 - 03:09.


#116 วันศุกร์

วันศุกร์

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 518 posts

Posted 31 January 2013 - 04:04

ที่ผมคุยๆมาก็คล้ายๆกับที่คุณวันศุกร์เล่ามาครับ พอดีมีเพื่อนร่วมงานหลายรุ่น ตั้งแต่รุ่นที่ตอนนี้ลุกสาวกำลังจะเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว รุ่นนี้ปากกัดตีนถีบหน่อย เพราะต้องไปเป็นทหารถึงจะได้เรียนต่อมหาวิทยาลัย ผมมีเพื่อนจบมาทั้งจาก army, navy และ air force เลย เรียกว่าครบสามเหล่า แล้วก็มีรุ่นต่อจากนั้นซึ่งสบายกว่าหน่อย เพราะพ่อแม่มีตังค์จ่ายค่าเรียนมหาวิทยาลัยได้  

 

เด็กอเมริกันโชคดีตรงนี้มีห้องสมุดให้ค้นคว้าเวลาต้องทำการบ้าน ทำการบ้านประวัติศาสตร์ก็มี archive ให้หา ของเราเรื่องเหล่านี้ยังจัดการกันไม่ค่อยดีนัก คือเท่าที่ผมเห็นก็มีทำกันแบบกระจัดกระจายมากกว่าจะเป็นระบบให้เด็กเข้าไปค้นหาได้ บ้านเราไม่ต้องแจก tablet ก็ได้นะ ผมว่าแค่เอาหนังสือไป scan เป็น pdf ทำดัชนีให้ดีๆแล้วเก็บไว้ใน server ของโรงเรียนกับ server ของกระทรวงให้เด็กเข้ามาใช้งานได้ แค่นี้ก็ช่วยได้เยอะแล้ว 

 

ใช่คะ คนที่นี่ถ้าไมีมีเงินเรียน หรืออยากพึ่งตัวเอง หรือไม่อยากติดหนี้ค่าเทอม ก็ไปเป็นทหารเพราะเค้าส่งเรียน ก็ดีนะคะเพราะเป็นการช่วยเหลือสังคงให้มีคนที่มีคุณภาพมากขึ้น แล้นคนที่ฝึกทหารมาแล้วไม่มีความคิดนี่ก็เป็นได้แค่คนที่ยิงปืนเป็น น่ากลัว

 

 

เข้าเรื่องเด็กไทยต่อดีกว่าคะ

 

ส่วนสถานที่ให้ค้นคว้าข้อมูลก็มีเยอะคะที่นี่ ถ้าทำดีๆไทยก็ทำได้ เห็นว่าคุณชายทำไปแล้วบางส่วนในกรุงเทพใช่มั้ยคะ ห้องสมุดชุมชนอะไรทำนองนี้ อ่านผ่านๆเลยไม่แน่ใจ


Edited by วันศุกร์, 31 January 2013 - 04:07.

You can't fix stupid - Ron White

 

You can have your own opinion, but not your own facts - Daniel Patrick Moynihan

 

"A society is judged by how it treats its animals and elderly"


#117 Lucy Van Pelt

Lucy Van Pelt

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 525 posts

Posted 31 January 2013 - 04:56

เห็นมีเหมือนกันครับ ทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด แต่ไม่แน่ใจว่าพัฒนาไปแค่ไหนบ้าง ต้องถามเพื่อนๆที่นี่ครับว่าใครเคยใช้บริการบ้าง

 

ถ้าในกรุงเทพนี่ในตัวเมืองชั้นในเท่าที่เห็นก็มีห้องสมุดกระจายไปตามสถานที่ที่ใกล้กับโรงเรียนและแหล่งชุมชนในเมือง ส่วนนอกเมืองนี่ไม่แน่ใจครับ ผมเองไม่เคยใช้บริการห้องสมุดชุมชนเลย นานๆครั้งจะไปหอสมุดแห่งชาติซึ่งจริงๆแล้วก็ทำได้ดี แต่ด้วยความที่ต้องนั่งรถฝ่าการจราจรเข้าไปเป็นชั่วโมง ขนาดวันเสาร์อาทิตย์ยังแทบแย่ เลยถ้าไม่จำเป็นจริงๆก็ไม่ไป ไม่อยากนึกเลยว่าวันธรรมดาจะเป็นยังไง 

 

ผมเห็นเด็กสมัยนี้(ดูจากหลานตัวเองกับลูกชาวบ้าน)ค้นหาข้อมูลทาง Internet ได้ดีพอสมควร ขาดแต่ Fact check ที่ยังไม่ค่อยทำกัน คือเจอปุ๊บก็ตัดแปะเลย แถมไม่อ้างอิงอีกว่าเอามาจากไหน ครูที่สอนพอมีงานส่งก็ให้คะแนนกันไป ไม่มีโอกาสวิจารณ์งาน เด็กเลยไม่รู้ว่าผิดถูกดีไม่ดียังไง 



#118 ดอกปีบ

ดอกปีบ

    ^-^นางสิงห์สีฟ้า^-^

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,681 posts

Posted 31 January 2013 - 05:44

73315_436368963102165_1673984019_n1.jpg


ดอกไม้งามมีหนามแหลม ใช่บานแย้มให้คนชม บานไว้เพื่อสะสม ความอุดมแห่งผืนดิน...


#119 ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

    หน้าตาดี มีอุดมการณ์

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 21,670 posts

Posted 31 January 2013 - 08:23

ผมเคืองนะ  ขอเคลียร์หน่อย กับควาย..เอ๊ยใคร..ที่นี่สักตัว..เอ๊ย...สักคน

เขียนว่า "รักการอ่าน ไม่ใช้สมอง การระบายสีไม่ใช้สมอง"

 

ในขณะที่ประเทศเรากำลังตื่นตระหนกมากว่าคนไทยอ่านหนังสือปีละ 3 บรรทัด

เจ้าคนนี้ดันบอกวิชารักการอ่าน ให้อ่านหนังสือมา 1 เล่มแล้วรายงาน  เป็นการไม่ใช้สมอง

 

การระบายสีคือ ไม่เพียงแต่ฝึกฝนให้เด็ก "จดจ่อสมาธิ" ได้ดีมาก เหมาะกับการแก้ปัญหาเด็ก ASD (Attention Span Disorder-สมาธิสั้น)

ยังเป็นการบริหาร "สมองซีกขวา" ส่วนของความคิดสร้างสรรค์อีกด้วย

หรืออิเห็นคิดว่าโลกนี้ขับเคลื่อนด้วยสมองซีกซ้ายอย่างเดียว???

 

นี่ไม่นับที่มั่วข้อมูลผิดๆเรื่องสวิส เยอรมันไม่มีการบ้านนะ

เผอิญผมเคยมีคู่หมั้นเป็นสวิส  หลานเค้าก็การบ้านเพียบเหมือนกัน  

ตอนเค้ามาเที่ยวเมืองไทย หอบการบ้านมาทำด้วย การบ้านยากด้วยนะครับ ขนาดประถมปลายนะเอ้า

ยืนยันได้ว่าเด็กสวิสมีการบ้านครับ

 

ตกลงทุกอย่างที่อิเห็นเขียนมานี่มั่วตลอดเลยใช่ไหม

เมคเอาละดิ คิดว่าเสรีไทยไม่รู้

 

ยังจำได้ตอนอิเห็นเถียงกับท่านเชฯ  เรื่องอะไรจำไม่ได้แล้ว เกี่ยวกับข้อมูลต่างประเทศนี่แหละ...

อ้อ นึกออกแล้ว เรื่องชั่งไข่ในประเทศอื่นๆ  อิเห็นยืนยันว่าไม่มี ท่านเชฯเถียงว่ามี

เพราะเคยไปเมืองจีนกับประเทศไหนไม่รู้แล้วเจอชั่งไข่ขาย

 

สรุป  เรื่องชั่งไข่ไม่มีในประเทศอื่นนี่อิเห็นมั่วเหมือนเด็กสวิสเยอรมันไม่มีการบ้านหรือเปล่า?

ผมคาใจ  อยากรู้จริงๆนะ


Edited by ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่, 31 January 2013 - 08:25.

gladiator 1.jpg

 

 

 

 

 

 


#120 Manners

Manners

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 623 posts

Posted 31 January 2013 - 11:15

ผู้ปกครองและครูทุกคน อย่างไรก็คงอยากเห็นให้น้องๆเรียนดี  แต่คุณภาพชีวิตก็สำคัญ

 

การบ้านมากน้อย ผมว่ามันปลายเหตุ ทำไมคิดว่าครูอยากให้การบ้านเยอะๆเกินความจำเป็นด้วย?

 

การบ้านมาจากไหน?  มาจากวิชาที่เรียน เนื้อหาตามที่กระทรวงกำหนด ได้ยินครูหลายท่านบบ่นว่าชม.เรียนน้อยสอนไม่ทัน

ทั้งๆที่ชม.เรียนขอเด็กไทยมีมากกว่าหลายๆประเทศที่เจริญแล้ว เมืองไทยเข้า07.50น. เลิก15.40น.โดยส่วนมาก เมืองนอก(แล้วแต่ประเทศ)เข้าเรียน 08.30น. เลิก 14.30น.

อย่างน้อยก็ต่างกันวันละ1.30ช.ม. เด็กฝรั่งเรียนเรื่องอะไรแล้ว จบแล้วจบเลย จะเรียนเรื่องเดียวกันอีกทีก็มหาลัย

 

การเอ็นทรานซ์ก้มีผลกับตรางการสอนจะว่าไปเด็กนักเรียนไทย ถูกริดรอนสิทธิ์ไปมากมาย เช่น ม.1-ม.3 คะแนนไม่ดีก็ห้ามเรียนสายวิทย์ จะเข้าคณะอะไรต้องเรียนมาจากสายนั้น

รู้ได้อย่างไรว่าจะเรียนไม่ได้ และเราก็ไม่มีทางรู้เพราะเด็กไม่ได้รับโอกาศ

ทำไมเมืองนอกไม่มีการเอ็นทรานซ์ เพราะมันเป็นสิทธิของเด็กที่จะเลือก เรียนได้หรือไม่รัฐต้องมารับผิดชอบหรือเปล่า?  อย่างเด็กพิเศษ เขาจะเก่งเป็นเลิศในด้านใดด้านหนึ่งเพียงอย่างเดียว ผลก็คืออยู่เมืองไทยเรียนไม่ได้

เราคงอยากมีเด็กอายุ12 14ขวบจบด็อกเตอร์ แต่คงไม่มีโอกาศได้เห็นที่จบจากมหาลัยไทย เพราะอะไร? ทำไมคนเราต้องเรียน1,2,3 เพียงแบบเดียว

 

ระบบการศึกษาบ้านเราเป็นแบบเผด็จการ ถูกกำหนดไว้หมด มีผู้ใหญ่กี่คนที่ได้งานตามสายวิชาที่เรียนมา จบวิศวะฯไปเป็นผู้บริหาร จบMBAไปคุมโรงงาน หรืดูข้าราชการว่าจบอะไรมา แล้วปัจจุบันทำหน้าที่ดูแลอะไร แล้วทำไมคิดว่าเด็กจะทำไม่ได้

 

สรุป ผมโทษวิธีการกำหนดตรางการเรียนที่ซ้ำซ้อน การเข้าใจคำว่า"การสอน"  เราต้องการให้ความรู้เด็ก ไม่ใช่ปิดกั้นเด็ก

 

ครูมีหน้าที่สั่งสอนให้ความรู้ลูกศิษย์ ครูที่ดีคือครูที่สอนให้ลูกศิษย์เก่งได้เท่ากับคูร ครูที่ยอดเยี่ยมคือครูที่สอนและส่งเสริมให้ลูกศิษย์ได้เก่งกว่า

 

 

 

 

 

 



#121 sanskrit_shower

sanskrit_shower

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,741 posts

Posted 31 January 2013 - 11:32

ผมเคืองนะ  ขอเคลียร์หน่อย กับควาย..เอ๊ยใคร..ที่นี่สักตัว..เอ๊ย...สักคน

เขียนว่า "รักการอ่าน ไม่ใช้สมอง การระบายสีไม่ใช้สมอง"

 

ในขณะที่ประเทศเรากำลังตื่นตระหนกมากว่าคนไทยอ่านหนังสือปีละ 3 บรรทัด

เจ้าคนนี้ดันบอกวิชารักการอ่าน ให้อ่านหนังสือมา 1 เล่มแล้วรายงาน  เป็นการไม่ใช้สมอง

 

การระบายสีคือ ไม่เพียงแต่ฝึกฝนให้เด็ก "จดจ่อสมาธิ" ได้ดีมาก เหมาะกับการแก้ปัญหาเด็ก ASD (Attention Span Disorder-สมาธิสั้น)

ยังเป็นการบริหาร "สมองซีกขวา" ส่วนของความคิดสร้างสรรค์อีกด้วย

หรืออิเห็นคิดว่าโลกนี้ขับเคลื่อนด้วยสมองซีกซ้ายอย่างเดียว???

 

นี่ไม่นับที่มั่วข้อมูลผิดๆเรื่องสวิส เยอรมันไม่มีการบ้านนะ

เผอิญผมเคยมีคู่หมั้นเป็นสวิส  หลานเค้าก็การบ้านเพียบเหมือนกัน  

ตอนเค้ามาเที่ยวเมืองไทย หอบการบ้านมาทำด้วย การบ้านยากด้วยนะครับ ขนาดประถมปลายนะเอ้า

ยืนยันได้ว่าเด็กสวิสมีการบ้านครับ

 

ตกลงทุกอย่างที่อิเห็นเขียนมานี่มั่วตลอดเลยใช่ไหม

เมคเอาละดิ คิดว่าเสรีไทยไม่รู้

 

ยังจำได้ตอนอิเห็นเถียงกับท่านเชฯ  เรื่องอะไรจำไม่ได้แล้ว เกี่ยวกับข้อมูลต่างประเทศนี่แหละ...

อ้อ นึกออกแล้ว เรื่องชั่งไข่ในประเทศอื่นๆ  อิเห็นยืนยันว่าไม่มี ท่านเชฯเถียงว่ามี

เพราะเคยไปเมืองจีนกับประเทศไหนไม่รู้แล้วเจอชั่งไข่ขาย

 

สรุป  เรื่องชั่งไข่ไม่มีในประเทศอื่นนี่อิเห็นมั่วเหมือนเด็กสวิสเยอรมันไม่มีการบ้านหรือเปล่า?

ผมคาใจ  อยากรู้จริงๆนะ

เฮนไตบอกว่า ถึงมีแต่ก็มีน้อยครับ 

 

 

มาต่อเรื่องการบ้านดีกว่า

 

พอดีผมได้ไปสัมมนาผู้ปกครอง  พอดีมีคนถามเรื่องการวาดรูปของเด็กเล็กด้วยพอดี  (งานเดียวกับที่วิทยากรบอกว่า นายกเป็นออทิสติกเทียม)

 

วิทยากรบอกว่า การวาดรูป ระบายสีของเด็กคือการสื่อสารทางตัวหนังสือ

 

ประมาณว่า เด็กยังเขียนหนังสือไม่ได้  จึงสื่อสารกับเราด้วยภาพแทน

 

ดังนั้น การที่บอกว่าการบ้านวาดรูประบายสีให้สวยงามคือการไม่ใช้สมองนั้น  ผมว่า คนพูดนั่นแหละที่ไม่ใช้สมองในการพูด



#122 ฉันรักเมืองไทย

ฉันรักเมืองไทย

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 267 posts

Posted 31 January 2013 - 14:28

ส่วนตัวคิดว่า ปัญหาหลัก ไม่น่าจะเป็นเรื่องการบ้านมาก หรือน้อย แต่เป็นที่หลักสูตรการเรียนการสอนมากกว่า  ตามความคิดของตัวเอง และฟังลูกพูด ( ตอนนี้เรียนวิศวะเคมี ปี3) หลักสูตรของนร.ไทย โดยเฉพาะ วิทย์-คณิต มันเกินชั้นเรียนไปมาก  อย่างฟิสิกส์ ม.ต้น ลูกเห็นน้องเรียนยังบอกว่า นี่มันเหมือนของม.ปลาย หรือ ปี1 มหาลัยด้วยซ้ำ  ไม่รู้เหมือนกันว่าคนเขียนหลักสูตรจะเร่งอะไรนักหนา  คนที่จะไปเรียนต่อด้วยสายวิทย์ ไม่ได้จำเป็นต้องรู้ต้องใช้ ฟิสิกส์หรือคณิตขั้นสูงมีเยอะแยะไป  เรียนหมอ เรียนเภสัช เรียนสถาปัตย์ ก็ใช้แค่พอประมาณเท่านั้น  ถ้าจะไปเรียนวิศวะ หรือวิทยาศาสตร์ ตอนสอบเข้าก็เน้นคะแนนฟิสิกส์ให้เยอะหน่อย เพื่อคัดกรองเด็ก ก็ค่อยไปเพิ่มความรู้เอาในระดับมหาลัยก็ได้ มหาลัย เรียน4 ปีความรู้ไม่พอ ก็เพิ่มเป็น5 ปี  ทำไมต้องบังคับให้เด็กเรียนยากเกินไป จนทำให้ไม่อยากเรียน

 

การบ้านถ้าเหมาะสมกับความรู้ ความสามารถของเด็ก ถึงจะมากหน่อย แต่เค้าก็จะทำได้เอง อย่างไม่ลำบากเกินไปนัก  แต่การบ้านที่มันเกินความสามารถเด็ก  เด็กก้ไม่อยากทำ ทำก็ไม่ได้  สุดท้ายก็ไปลอกเพื่อน ง่ายดี ( ทำไมเพื่อนทำได้ก็ไม่รู้  อาจจะให้ครูสอนพิเศษ ช่วยทำ ??)

 

เรื่องใบงาน  เป็นเรื่องที่ขัดใจที่สุด  ไม่ใช่ว่ามันไม่ดี  แต่การสั่งงานให้เด็กไปค้นคว้าเอง ( โดยเฉพาะเด็กเล็ก เช่นประถม) ครูต้องให้ข้อมูลเด็กด้วยว่าจะไปค้นคว้าได้จากแหล่งไหนบ้าง  ไม่ใช่ให้ตาบอดคลำช้างไปเรื่อยๆ  โดยเฉพาะวิชาสังคม ซึ่งกว้างมาก คำถามที่ถามแบบเฉพาะเจาะจง จะหาคำตอบที่ถูกต้องจริงๆได้ยาก แหล่งข้อมูลในหนังสือบางครั้งก็ไม่ตรงกันซะอีก

 

สรุปว่า สิ่งที่ควรแก้ไขก่อน คือหลักสูตร, ทัศนคติ และวิธีการสอนของครู   ไม่ใช่ไปแก้ที่ปลายเหตุคือการบ้าน



#123 หนูอ้อย

หนูอ้อย

    นักเขียนหน่อมแน้ม

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,215 posts

Posted 31 January 2013 - 16:38

ส่วนตัวคิดว่า ปัญหาหลัก ไม่น่าจะเป็นเรื่องการบ้านมาก หรือน้อย แต่เป็นที่หลักสูตรการเรียนการสอนมากกว่า  ตามความคิดของตัวเอง และฟังลูกพูด ( ตอนนี้เรียนวิศวะเคมี ปี3) หลักสูตรของนร.ไทย โดยเฉพาะ วิทย์-คณิต มันเกินชั้นเรียนไปมาก  อย่างฟิสิกส์ ม.ต้น ลูกเห็นน้องเรียนยังบอกว่า นี่มันเหมือนของม.ปลาย หรือ ปี1 มหาลัยด้วยซ้ำ  ไม่รู้เหมือนกันว่าคนเขียนหลักสูตรจะเร่งอะไรนักหนา  คนที่จะไปเรียนต่อด้วยสายวิทย์ ไม่ได้จำเป็นต้องรู้ต้องใช้ ฟิสิกส์หรือคณิตขั้นสูงมีเยอะแยะไป  เรียนหมอ เรียนเภสัช เรียนสถาปัตย์ ก็ใช้แค่พอประมาณเท่านั้น  ถ้าจะไปเรียนวิศวะ หรือวิทยาศาสตร์ ตอนสอบเข้าก็เน้นคะแนนฟิสิกส์ให้เยอะหน่อย เพื่อคัดกรองเด็ก ก็ค่อยไปเพิ่มความรู้เอาในระดับมหาลัยก็ได้ มหาลัย เรียน4 ปีความรู้ไม่พอ ก็เพิ่มเป็น5 ปี  ทำไมต้องบังคับให้เด็กเรียนยากเกินไป จนทำให้ไม่อยากเรียน

 

การบ้านถ้าเหมาะสมกับความรู้ ความสามารถของเด็ก ถึงจะมากหน่อย แต่เค้าก็จะทำได้เอง อย่างไม่ลำบากเกินไปนัก  แต่การบ้านที่มันเกินความสามารถเด็ก  เด็กก็ไม่อยากทำ ทำก็ไม่ได้  สุดท้ายก็ไปลอกเพื่อน ง่ายดี ( ทำไมเพื่อนทำได้ก็ไม่รู้  อาจจะให้ครูสอนพิเศษ ช่วยทำ ??)

 

เรื่องใบงาน  เป็นเรื่องที่ขัดใจที่สุด  ไม่ใช่ว่ามันไม่ดี  แต่การสั่งงานให้เด็กไปค้นคว้าเอง ( โดยเฉพาะเด็กเล็ก เช่นประถม) ครูต้องให้ข้อมูลเด็กด้วยว่าจะไปค้นคว้าได้จากแหล่งไหนบ้าง  ไม่ใช่ให้ตาบอดคลำช้างไปเรื่อยๆ  โดยเฉพาะวิชาสังคม ซึ่งกว้างมาก คำถามที่ถามแบบเฉพาะเจาะจง จะหาคำตอบที่ถูกต้องจริงๆได้ยาก แหล่งข้อมูลในหนังสือบางครั้งก็ไม่ตรงกันซะอีก

 

สรุปว่า สิ่งที่ควรแก้ไขก่อน คือหลักสูตร, ทัศนคติ และวิธีการสอนของครู   ไม่ใช่ไปแก้ที่ปลายเหตุคือการบ้าน

 

 

เขียนได้ครอบคลุมจริงๆค่ะ

อย่าแก้แค่ "ลดการบ้าน" เพราะมันคือ ปลายเหตุ

เด็กๆชอบแน่ แต่ไม่ใช่การแก้ปัญหาที่แท้จริง


 AMAZING  coup d'etat  , THAILAND ONLY ..  :ph34r:  


#124 จอมโจรคิด

จอมโจรคิด

    อธรรมผู้น่ารัก

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,299 posts

Posted 31 January 2013 - 17:06

ลดการบ้านเด็กแล้วก็อย่าลืมลดการประเมินผลงานของครูด้วยนะ


เจตนารมณ์ส่วนตัว
- ไม่ใช้ถ้อยคำที่คำหยาบคาย
- ไม่ต่อล้อต่อเถียงอย่างไม่มีเหตุผล


#125 เงาไม้

เงาไม้

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 440 posts

Posted 31 January 2013 - 17:10

ลองถามเด็กกวดวิชารึยัง????


ชลใสดูในน้ำ เงาดำนั้นเงาใด? ... เงากรรม หรือเงาใคร?....

#126 ppn262000

ppn262000

    น้องใหม่

  • Members
  • Pip
  • 42 posts

Posted 31 January 2013 - 18:15

ในฐานะที่ผมเป็นครู คนหนึ่ง ถามว่า การเรียนการสอนสมัยนี้ เปลี่ยนนโบายทุกรัฐบาล ครูทำตัวไม่ถูก อิง นร มากเกินไป เอาใจ นร มากเกินไป สาระของการสอนคือการมีวินัย มีคุณธรรม คู่ความรู้ ทุกวันนี้ตักเตือนเด็กไม่ได้ ว่าไม่ได้ ตีไม่ได้ ให้ตกยังไม่ได้เลยครับ ครูก็จะสอนเฉพาะเด็กที่รับฟังและสอนได้เท่านั้น ส่วนพวกที่เหลือ ขอ ก็จะตามใจอยากทำ เลว อย่างไรก็ตามแต่สะดวกร้ายแรงก็ออก ครูก็รักตัวกลัวตกงานเหมือนกันครับ ทุกวันนี้ก็สอนไปตามหน้าที่ แต่ผมจะไม่ยอมแพ้ต่อระบบที่มันทำให้ลูกหลานเราตกจ่ำแบบนี้ครับ เกิดมาเป็นครู ต้องชี้ทางในเด็ก สอนให้คนกลายเป็นคนโดยสมบูรณ์

 

ครูคือคนทำงานคนหนึ่ง ที่ต้องทำงานเลี้ยงปากท้อง

แต่งานของครู เป็นงานที่น่านับถือมาก

เข้าใจและเป็นกำลังใจให้ครับ เชื่อในความพยายามของครูครับ

 

ตอนลูกชายอยู่ม.ปลาย. เจอครูภาษาไทยโหดมาก เป็นที่ร่ำลือบอกต่อกันมาทุกรุ่น ครูจะสอนเต็มชั่วโมงหรือเกินชั่วโมงทุกครั้ง การบ้านสั่งวันนี้ พรุ่งนี้ส่ง. บางทีก็ให้เรียงความ20หน้า ส่งวันรุ่งขึ้น. เด็กนร.นอนตีสอง ตีสาม บางทีก็ยันเช้า นักเรียนทุกคนถึงจะบ่นแค่ไหน แต่ก็ทำกันจนได้เกือบทุกคน. ตอนนั้นลูกไม่ชอบครูเลย. แต่พอเรียนผ่านไป นร.ทุกคนรักครูท่านนั้นมาก. ลูกบอกว่า ครูไม่เคยสอนพิเศษข้างนอก. ครูสอนเต็มที่ในห้องเรียน. สิ่งที่ได้จากครูคือทักษะด้านการเขียน. ซึ่งช่วยได้มากเวลาสอบข้อเขียน และเวลาที่ต้องทำรายงาน
แต่ต่อมามีเด็กรุ่นน้องและผู้ปกครอง. ทำเรื่องร้องเรียนหาว่าครูโหดร้าย ใช้วาจาไม่สุภาพ. ลูกชายรู้เข้าโกรธมาก เค้าบอกว่าครูที่เป็นครูจริงๆอย่างนี้มีเหลือน้อยแล้ว ต่อไปครูที่ตั้งใจสอนเด็กจริงๆอย่างนี้ก็คงหมดกำลังใจ. เลิกสอน เลิกเข้มงวด เพราะอยากให้ลูกศิษย์ได้ดี.

รักการอ่าน เป็นการฝึกการอ่านแล้วจับใจความสำคัญ แล้วเขียนย่อความ. ซึ่งล้วนแต่เป็นทักษะที่สำคัญทั้งสิ้น. การบ้านเจตนามีไว้ให้เด็กทำเอง เพื่อฝึกฝนทักษะ. การที่เด็กบางคนลอกเพื่อน. แล้วสรุปว่า การบ้านอันนั้นไม่ดี ไม่ได้ใช้สมอง ดูจะเป็นการสรุปที่ไม่ค่อยเข้าท่าเท่าไหร่

 

ใช่เลยครับ ครูที่เคี่ยวเข็ญเด็กมากๆ เด็กหนะจะรักและจำได้

แต่เดี๋ยวนี้ ครูที่เข้มงวด (ด้วยความหวังดี) กลายเป็นถูกร้องเรียน แย่จัง

 

 

ส่วนตัวคิดว่า ปัญหาหลัก ไม่น่าจะเป็นเรื่องการบ้านมาก หรือน้อย แต่เป็นที่หลักสูตรการเรียนการสอนมากกว่า  ตามความคิดของตัวเอง และฟังลูกพูด ( ตอนนี้เรียนวิศวะเคมี ปี3) หลักสูตรของนร.ไทย โดยเฉพาะ วิทย์-คณิต มันเกินชั้นเรียนไปมาก  อย่างฟิสิกส์ ม.ต้น ลูกเห็นน้องเรียนยังบอกว่า นี่มันเหมือนของม.ปลาย หรือ ปี1 มหาลัยด้วยซ้ำ  ไม่รู้เหมือนกันว่าคนเขียนหลักสูตรจะเร่งอะไรนักหนา  คนที่จะไปเรียนต่อด้วยสายวิทย์ ไม่ได้จำเป็นต้องรู้ต้องใช้ ฟิสิกส์หรือคณิตขั้นสูงมีเยอะแยะไป  เรียนหมอ เรียนเภสัช เรียนสถาปัตย์ ก็ใช้แค่พอประมาณเท่านั้น  ถ้าจะไปเรียนวิศวะ หรือวิทยาศาสตร์ ตอนสอบเข้าก็เน้นคะแนนฟิสิกส์ให้เยอะหน่อย เพื่อคัดกรองเด็ก ก็ค่อยไปเพิ่มความรู้เอาในระดับมหาลัยก็ได้ มหาลัย เรียน4 ปีความรู้ไม่พอ ก็เพิ่มเป็น5 ปี  ทำไมต้องบังคับให้เด็กเรียนยากเกินไป จนทำให้ไม่อยากเรียน

 

การบ้านถ้าเหมาะสมกับความรู้ ความสามารถของเด็ก ถึงจะมากหน่อย แต่เค้าก็จะทำได้เอง อย่างไม่ลำบากเกินไปนัก  แต่การบ้านที่มันเกินความสามารถเด็ก  เด็กก้ไม่อยากทำ ทำก็ไม่ได้  สุดท้ายก็ไปลอกเพื่อน ง่ายดี ( ทำไมเพื่อนทำได้ก็ไม่รู้  อาจจะให้ครูสอนพิเศษ ช่วยทำ ??)

 

เรื่องใบงาน  เป็นเรื่องที่ขัดใจที่สุด  ไม่ใช่ว่ามันไม่ดี  แต่การสั่งงานให้เด็กไปค้นคว้าเอง ( โดยเฉพาะเด็กเล็ก เช่นประถม) ครูต้องให้ข้อมูลเด็กด้วยว่าจะไปค้นคว้าได้จากแหล่งไหนบ้าง  ไม่ใช่ให้ตาบอดคลำช้างไปเรื่อยๆ  โดยเฉพาะวิชาสังคม ซึ่งกว้างมาก คำถามที่ถามแบบเฉพาะเจาะจง จะหาคำตอบที่ถูกต้องจริงๆได้ยาก แหล่งข้อมูลในหนังสือบางครั้งก็ไม่ตรงกันซะอีก

 

สรุปว่า สิ่งที่ควรแก้ไขก่อน คือหลักสูตร, ทัศนคติ และวิธีการสอนของครู   ไม่ใช่ไปแก้ที่ปลายเหตุคือการบ้าน

 

ใช่ครับ เท่าที่สอนเด็ก แล้วเทียบกับสมัยผมเรียน

ม.ต้น เรียนเหมือน ม.ปลาย ส่วน ม.ปลายเรียนเหมือนปี 1

บางหัวข้อ เด็ก ม.6 เรียน แต่สมัยผมเรียนตอนปี 3 เฮอะๆ



#127 UncleSam

UncleSam

    เด็กชายชุดฟ้า ผู้น่ารัก

  • Members
  • PipPipPip
  • 738 posts

Posted 31 January 2013 - 18:33

 การบ้าน คือ การทบทวนความรู้ที่เรียนไปอีกรูปแบบหนึ่งออกแนวบังคับ

 

                   เพราะทำให้พวกขี้เกียจอ่านต้องหยิบหนังสือขึ้นมาหาคำตอบ และ 

 

                   ถึงแม้ว่าจะลอกการบ้านเพื่อน อย่างน้อยก็ได้อ่านและฝึกทักษะการเขียน

 

 การบ้าน ไม่ได้ให้แค่ความรู้กับเราอย่างเดียวแต่สอนการใช้ชีวิตในสังคมด้วย เช่น

 

              สอนให้เราไม่เป็น คนผลัดวันประกันพรุ่ง ( โดยเฉพาะช่วงปิดเทอม หลายๆ ท่านคงรู้ดีใช่ป่ะ? )   :lol:  

 

              สอนให้เราเป็น คนโอบอ้อมอารีมีน้ำใจ ให้เพื่อนลอกการบ้าน ( อันนี้คิดเอาเองนะ แหะ แหะ )   :P 

 

              สอนให้เรามี ความอดทนอดกลั้น เมื่อถูกครูตีหรือดุด่า ( ทำการบ้านไม่เสร็จหรือส่งไม่ทัน )   :( 

 

              และ สอนให้เรารู้ความหมายอันน่ากลัวของตัว  " " ( เมื่อมันอยู่ในใบเกรด )  :blink: 



#128 TIK Tik tik

TIK Tik tik

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 453 posts

Posted 31 January 2013 - 22:37

ตอนแรก เลิกไว้ผมเกรียน

ตอนนี้ ลดการบ้าน ครูคนไหนให้การบ้านหนักมากก็มาร้องเรียนได้

 

ต่อไป คงไม่ต้องให้นักเรียนเข้าเรียน  เรียนผ่านสไกป์ได้

ต่อไป คงเอาใจนร.ด้วยการเลือกครูสอนได้  ไม่พอใจครูคนไหน-เด็กสั่งได้

ต่อไป คงลดการตัดเคิร์ฟของเกรด  เด็กจะได้เอกันเยอะขึ้น จะได้มีกำลังใจ

ต่อไป กระตุ้นเด็กให้มาเรียนด้วยการให้ extra credit กับเด็กที่ลงทะเบียนเรียน (คือไม่ต้องมาเรียนก็ได้ แค่ลงทะเบียน เราก็จะกราบแทบเท้า)

 

ผู้ใหญ่รัฐบาลนี้ ขยันทำแต่เรื่องอุบาทว์ ฉลาดแต่เรื่องโง่ๆ

ผู้ใหญ่รัฐบาลนี้ฉลาดดดดด  มองอนาคตอันไกลโพ้นนนนน

เด็กพวกนี้อีกไม่กี่ปีก็เลือกตั้งได้  หุหุ จะได้เป็นปู 24 ปีละม้างงง เนี่ย



#129 เพลิงสีนิล

เพลิงสีนิล

    สมาชิก ชั้น 7 โฟร์ซีซั่น

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,629 posts

Posted 31 January 2013 - 23:33

วันนี้มีโอกาสแว่บเข้ามา สรท.เลยขอตอบกระทู้นี้

 

ในฐานะผู้ปกครองของเด็กนักเรียนชั้นประถมปลาย ที่ดูแลเด็กที่บ้านทำการบ้าน ขอยกมือเห็นด้วยกับนโยบายนี้

 

ทุกวันนี้ เด็กๆมีการบ้านมากมายมหาศาลจริงๆ

1 การบ้านที่ต้องทำทุกวัน พวกแบบฝึกหัดคณิตศาสตร์  ท่องศัพท์ ภาษาอังกฤษ แบบฝึกหัดภาษาไทย แบบฝึกหัดวิทยาศาสตร์ สังคม สุขศึกษา ดนตรี นาฏศิลป์ การงานอาชีพและเทคโนโลยี  วาดเขียน ปั้นดินน้ำมัน ฯลฯ เหมือนที่เราๆท่านๆเคยเรียนกันมา

 

2 บันทึกรักการอ่าน อย่างน้อยต้องมีการสรุปเนื้อหาหนังสือที่อ่านในหนึ่งวันมาหนึ่งเล่ม พร้อมตอบคำถาม

  • อ่านแล้วรู้สึกอย่างไร
  • ใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง
  • มีข้อสงสัยอะไร
  • มีข้อเสนอแนะอะไร

ทุกคำถามต้องตอบ ห้ามเว้นไว้โดยเด็ดขาด

 

3 ใบงาน หรือ worksheet ทุกครั้งที่จบหน่วยการเรียนรู้ในแต่ละวิชาต้องทำแผนผังความคิด ตกแต่งระบายสีให้สวยงาม พร้อมตอบคำถาม

  • ใบงานนี้ให้ความรู้อะไร
  • อ่านแล้วรู้สึกอย่างไร
  • ใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง
  • มีข้อสงสัยอะไร
  • มีข้อเสนอแนะอะไร
  • กิจกรรมที่นักเรียนทำแล้วคิดว่าดีเด่นในหน่วยการเรียนรู้นี้คืออะไร

และลองมาดูว่า วิชาที่ต้องทำใบงานมีอะไรบ้าง

  • คณิตศาสตร์
  • ภาษาไทย (หลักภาษา วรรณคดี)
  • ภาษาอังกฤษ
  • สังคม -ประวัติศาสตร์
  • สังคม - ภูมิศาสตร์
  • สังคม - พุทธศาสนา
  • วิทยาศาสตร์
  • สุขศึกษา
  • การงานอาชีพ เทคโนโลยี (ใบงาน +  งานฝีมือ)
  • ดนตรี นาฏศิลป์ (ใบงาน + การแสดงหน้าห้อง)
  • ทัศนศิลป์ (ใบงาน +งานศิลปะ)

 

ในหนึ่งเทอม หนึ่งวิชาจะโดนอย่างน้อย 5 -6 ใบงาน คูณ จำนวนวิชาเข้าไปดู แล้วจะรู้ว่ามันมากแค่ไหน

 

การบ้านเยอะมากกกกกก.... โดยเฉพาะใบงานที่เป็นภาระมาก และเกินกว่าสมัยที่เราเคยเรียน

 

ใบงาน เป็นแนวทางที่ รร. ต้องยึดถือตามนโยบายกระทรวงศึกษา หลีกเลี่ยงไม่ได้

 

ถ้าลดใบงานลงได้ จะดียิ่ง

 

4  ยังมีรายงานยิบย่ิอยให้ทำในรายสัปดาห์คือ บันทึกจิตอาสา (เป็นกลุ่ม)  และบันทึกความดี (รายบุคคล)

 

5 แถมการบ้านวิชา คอมพิวเตอร์ ภาษาจีน ที่เรียนเสริม

 

เยอะ กว่าสมัยก่อน เยอะ

 

อ่านแล้วน่าเห็นใจเด็กอะครับ 

 

แต่ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ ผู้สอนให้การบ้าน 

 

แต่ ปัญหาอยู่ที่นโยบายกระทรวงฯ หรือเปล่า 

 

เพราะโรงเรียน หลีกเลี่ยงไม่ได้ 

 

 

 

อีก นโยบาย หนึ่งที่ผมก็ไม่เข้าใจ   ทำไมเดี๋ยวนี้ เขาห้ามให้เด็กซ้ำชั้นกันแล้วหรือ   

 

ยังไงก็ให้ผ่านๆ ไป  เรียนได้ไม่ได้ก็ผ่านๆ ไป   อันนี้เป็น  งง  มาก 


[color=#0000ff;][font="Tahoma, sans-serif;"]เราจะรู้.....รสชาติของความสุข[/color][font="Tahoma, sans-serif;"]ก็ต่อเมื่อ     เราผ่านความทุกข์มาก่อน[/font][/font]


#130 annykun

annykun

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,567 posts

Posted 4 February 2013 - 15:38

ไอ้การบ้านมากมายมโหราฬที่เด็กไทยต้องทำกันอยู่ทุกวันนี้  มันก็เป็นเพราะนโยบายเน้นเด็กเป็นศูนย์กลาง

ตั้งแต่สมัยไทยรักไทยไม่ใช่หรอ?  แล้วตอนนี้มาบอกให้ลดการบ้าน  คำถามที่ตามมา  คือ  แล้วยังไง?

ถ้ายังคงให้เด็กเป็นศูนย์กลางเหมือนเดิม  ไม่ปรับอะไร  แต่ให้ลดการบ้าน  เกรงว่าจะไม่เวิร์กนะ

จริงๆ  มันไม่เวิร์กมาตั้งแต่ต้นแล้ว  มีปัญหามาทั้งระบบการศึกษา  การลดการบ้านเพียงอย่างเดียวโดยไม่แก้ระบบ

เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุที่อาจจะ  ทำให้ปัญหายิ่งยุ่งยาก  ซับซ้อนมากขึ้นไปอีก

 

ปล. คนบางคนหลงคิดไปซะแล้วว่า  การบ้านหฤโหด  เป็นเพราะอำมาตย์  การบ้านเยอะเป็นความห่วยแตกกันมาตั้งแต่โบราณ  ทั้งที่ความจริงมันพึ่งมาเยอะแค่ไม่กี่ปีนี้นี่เอง   ตอนตรูเด็กๆการบ้านก็ไม่ได้เยอะเวอร์แบบนี้  เทียบกับสมัยลูกตรูแล้ว..... 

ปล. 2  เค้าว่าคนไทยนั้น...... ลืมง่าย  


คุณสมบัติที่สำคัญที่สุดของผู้ชนะสงคราม  คือ   ความแข็งแกร่ง และ อุดมการณ์ที่สอดคล้องกับความเป็นจริง

คุณธรรมที่พร้ำสอน  ล้วนเป็นสิ่งที่จำเป็นรองลงมา   ส่วน  ประชาธิปไตยน่ะรึ  เอาเข้าจริงๆ  สำคัญอันใด?? 

 


#131 sigree

sigree

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,883 posts

Posted 4 February 2013 - 15:43

ผมห็นด้วยกับการลดการบ้านนะ

 

เพราะสมัยเรียนจำได้ว่าทำการบ้านเสร็จ 5 ทุ่ม

 

มากไป มากเกินไป

 

อย่างไรก็ดี  การลดการบ้านโดยไม่มีการปรับปรุงการสอนในโรงเรียนและหลักสูตร 

 

เท่ากับลดประสิทธิภาพการเรียนโดยยังไม่มีแนวทางจัดการในเวลาเรียน

 

อันตราย............

 

รัฐบาลชุดนี้ชอบเหลือเกินที่จะทำแบบทันทีทันได้ ทั้งค่าจ่าย การบ้าน ฯลฯ

 

ไม่รู้สินะ  ผมมองผลระยะยาวไม่ออก และไม่แน่ใจด้วย  นี้คือประชานิยมสำหรับเยาวชนไหม?



#132 redfrog53

redfrog53

    เกิดที่รัสเซีย มาโตที่ สรท.

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 25,221 posts

Posted 4 February 2013 - 16:03

เป็นคนที่ขี้เกียจท่องศัพย๋อังกฤษมาก ถูกตี 10ที

แม่ถามว่าน่องไปคนรัยมา บอกว่า ครูตี คำตอบของแม่ คือ "สม"

ทุกวันนี้ ยังคิดถึง คุณครู มาก ที่เข็นเรามาได้ขนาดนี้

อนาคตของเด็กไทยน่าเป็นห่วง เพราะแค่ ข้อสอบ ดอเน็ต ยังขนาดนี้ ก้อ เอวัง!

 

 

 

ม.3 โวย ข้อสอบโอเน็ตภาษาไทยชุดเลขคู่ "ไม่มีคำตอบ" แจ้ง สทศ. กลับตอบ "ให้ตัดสินใจเอาเองในเบื้องต้น" 
 
http://fb.kapook.com/education-55901.html
ลือ ฟรีให้ 20 คะแนนเพราะข้อสอบผิดพลาด นักเรียนที่สอบต่างชุดโวย "ไม่ยุติธรรม"
 
วันนี้ (3 กพ.) นักเรียนชั้น ม.3 ร้องเรียนผ่านรายการเรื่องเล่าเสาร์ - อาทิตย์ ว่า ในการสอบโอเน็ตวัดความรู้ระดับประเทศ ที่จัดขึ้นในวันที่ 2-3 กุมภาพันธ์ 2556 เกิดปัญหาเกี่ยวกับข้อสอบโอเน็ตวิชาภาษาไทย ชุดที่เป็นเลขคู่ ได้แก่ชุด 2, 4, 6 โดยโจทย์คำถามข้อที่ 51 และ 52 ข้อละ 10 คะแนน เป็นโจทย์คำตอบแบบเลือกตอบ 10 ตัวเลือก แต่ชุดข้อสอบเลขคู่ดังกล่าว กลับมีตัวเลือกให้ตอบเพียง 4 ตัวเลือกเท่านั้น 
 
เมื่อนักเรียนชั้น ม.3 แจ้งผู้คุมสอบว่า โจทย์คำตอบกับคำถามมันไม่สัมพันธ์กัน แล้วควรแก้ปัญหาอย่างไร ผู้คุมสอบขอเวลาสอบถามทางสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) จากนั้นก็เดินมาบอกว่า ทาง สทศ. ได้ให้นักเรียนเป็นผู้ตัดสินใจเอาเองในเบื้องต้น 
 
โดยหลังจากการสอบ นักเรียนชั้น ม.3 ที่ได้ชุดข้อสอบเลขคู่ ก็ได้ออกมาพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว พร้อมวอนให้ทาง สทศ. ออกมาอธิบายและชี้แจงในเรื่องนี้ เพราะสอบโอเน็ตเป็นการสอบที่สำคัญต่อนักเรียนทุกคน 
 
ด้านกระทรวงศึกษาธิการ ยอมรับ สทศ. ออกข้อสอบ O-Net ม.3 ไม่ตรงกับกระดาษคำตอบ สั่งตั้ง คกก.สอบ มีทาง คือ ยกคะแนนให้ หรือ ตัดข้อสอบทิ้ง
 
ส่วนในทวิตเตอร์มีกระแสข่าว่า ใครได้ข้อสอบภาษาไทยชุด 200 400 600 ได้คะแนนฟรี 20 คะแนน เนื่องจากเป็นความผิดพลาดของคนตีพิมพ์และคนออกข้อสอบ มีบางคนบอกว่าครูโทรไปถามมาแล้วฟรีแน่นอน ซึ่งนักเรียนที่ไม่ได้ทำข้อสอบชุดที่มีปัญหาต่างโวย "ไม่ยุติธรรม"
Mark Fan Club 
 
 
Pongstorn Tung ทำให้เด็กดูโง่ลง มาตราฐานต่ำๆ จะได้ปกครองง่ายๆ มั้งเนอะ
Ae Aekojung เด็กที่ไม่ได้ข้อสอบชุดที่ได้คะแนนฟรีก็เสียเปรียบแย่สิคะ
Yuppadee Thanompong ถามได้ปัญญาอ่อนมาก ๆ
หัวใจเพื่อ ประเทศไทย ข้อสอบไร้สาระ กะจะปลุงฝังคนทุกกลุ่มเลยหรอ
Jamie Kulyarit หืม?! ตายละวา เป็นห่วงลูกจัง
Kumaree Wang คำถามโง่ๆ ออกโดยคนโง่
Anisara Prumprueg เด็กมััันจะโง่ก็เพราะผู้ใหญ่มันพาโง่ไง!!!!
Plearn Siri มันวัดความรู้คนสอบ หรือวัดความโง่คนออกข้อสอบ??
Wantana Hiranyasut ใจหนึ่งรู้สึกสงสารเด็กๆรุ่นนี้ ที่ต้องเจอกับความผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่า...อีกใจหนึ่งรู้สึกโล่งที่ลูกผ่านพ้นการสอบนี้มาแล้ว ไม่งั้นลูกเราก็คงมีอาการเหมือนเด็กๆกลุ่มนี้เป็นแน่...เฮ้อ!สงสารเด็กจัง
Primmada Tada เลี้ยงให้โง่ๆจะได้ควบคุมง่ายๆ สงสารน้องๆยุคนี้
Wipada Dolk ประเทศไทยดิ่งลงเหวในทุกๆด้าน เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม ประเพณี ศาสนา และการศึกษา
ซาตาน ห้าแยก ลูกเราต่อไปจะเป็นยังไงละเนี้ย
 

Posted Image

#133 แมวนอนหวด

แมวนอนหวด

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 255 posts

Posted 4 February 2013 - 17:53






ทำเป็นแต่ ด่ารัฐบาลที่ไม่ได้เลือกมาจริงๆ...
 
เคยเห็นการบ้านเด็กสมัยนี้หรือป่าว... ไอ้ที่เยอะๆมันไม่ใช่ ทำโจทย์เลข 10 ข้อ 
แต่มันเป็น ใบงานที่ต้องเขียนๆๆ    ดีไม่ดี ระบายสี ให้เต็มแผ่น 
ดีไม่ดีเจอรายงาน..   ซึ่งก็แค่ลอกหนังสือมา...     
 
โทษนะครับ... การบ้านไม่ใช่ สมอง แบบนี้ เมกา สวิส เยอรมัน ไม่มีนะครับ...  
ผมไม่เห็นไอ้รัฐบาล คนดี มันจะเปลี่ยนแปลงอะไรเลย..     หรือ มันกลัวเด็กจะฉลาด คิดนอกกรอบกันหมด แล้ว มันหลอกไม่ได้
น่า แปลก ที่ รัฐบาล คนหนีคุก..  คิดจะ  ทำโน่นทำนี่...   เยอะแยะไปหมด...
 
โทษนะครับ.. เด็กมีหลายแบบ...  ไอ้ที่เห็นว่าไม่มีการบ้าน..  ถามว่าไม่มีจริงหรือไม่...
ไปถามเด็กแว้น. สก๊อย์..   การบ้าน ไม่เคยมีครับ...
ไปถามเด็กเรียนสิครับ...   
:D

 
 
เอาอีกแล้ว...อยากรู้จริงๆว่าเมกา สวิส เยอรมันไม่มีการบ้านจริงๆหรือว่าจินตนาการ? ขอหลักฐานหน่อยได้ไหมฮะ


 
อ่านให้มันครบๆ หน่อย..
 การบ้านไม่ใช่ สมอง แบบนี้ เมกา สวิส เยอรมัน ไม่มี
 
:D


 
พอดีการเว้นวรรคของ @hentai ค่อนข้างจะน่าปวดหัวนะ
"การบ้านไม่ใช่สมอง"หรือ"การบ้านไม่ใช้สมอง" ครับเอาให้แน่
การเขียนแบบนี้มันก็ยังบ่งบอกว่า อเมริกา สวิสเซอร์แลนด์ เยอรมัน ไม่มีการบ้านอยู่ดี
หรือว่าผมต้องไปเรียนภาษาไทยใหม่?


 
"การบ้านไม่ใช้สมอง"  
ผมพิมพ์ผิดเอง ขออภัย...  ท่านไม่ต้องไปเรียนภาษาไทยใหม่ แต่ผมต้อง...  :D


 
เอาเป็นว่าเข้าใจตรงกันแล้ว ต่อไปเป็นคำถามทำไมการบ้านถึงจะไม่ใช้สมองครับ?
เพราะเท่าที่ผ่านมาการบ้านต้องใช้สมองในการทำอยู่แล้วนะ ต้องกลับไปอ่านสิ่งเราเขียนในเวลาเรียน
แล้วแสดงให้อาจารย์เห็นว่าโจทย์ที่อาจารย์ให้มาเราทำได้ นั่นเป็นสิ่งที่เราต้องสอนให้เด็กเข้าใจ
ไม่ใช่ให้เด็กตรัสรู้เองหลานๆผมก็สอนอย่างนี้ถึงจะแค่ อนุบาล ป.๑ ก็เถอะ ชี้แนะไม่ใช่จับเขียน
พ่อแม่ผมก็สอนมาอย่างนี้อาจจะเพราะครอบครัวผมเป็นครูมา ๓ รุ่นแล้วมั้งเลยโดนปลูกฝังมาอย่างนี้
การบ้านคือให้เด็กไปทำที่บ้าน ให้พ่อแม่ชี้แนะ ทบทวนในสิ่งที่เรียนมาพร้อมกับลูก
ผมมองอย่างนี้มาตลอดไม่รู้คนอื่นคิดอย่างไร?


คนไร้สมองแยกความจริงเท็จไม่ออก กลับมาแยกว่าวิชานั้นใช้สมอง วิชานี้ไม่ใช้สมอง

มันก็เหมือนควายที่บอกหญ้านี้กินอร่อย หญ้านี้ไม่อร่อยไม่มีประโยชน์กูไม่กิน

แต่ก็แปลก ยังมีคนไปเถียงสู้เรื่องนี้อีก เขาทำตัวเป็นควายแยกแยะอะไรไม่ได้ ก็ไม่ต้องลงไปกำหญ้ายัดใส่ปากให้มันหรอก

จำสุภาษิทไทยใว้ โบราณท่านว่า " อย่าข่มเขาโคขืนให้กลืนหญ้า "

เตือนใว้ด้วยความหวังดี

อาเมน.

:lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:


#134 ขุนพลชิน

ขุนพลชิน

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,053 posts

Posted 4 February 2013 - 18:17

นี้ถ้าเด็กบอกว่าเข้าเรียนแต่เช้าเลิกสามโมงมันทรมานจิตใจเด็กแสนสาหัส  มันจะบ้าจี้ให้เรียนแค่ครึ่งวันป่าวฟะ



#135 หนูอ้อย

หนูอ้อย

    นักเขียนหน่อมแน้ม

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,215 posts

Posted 21 February 2013 - 12:32


 AMAZING  coup d'etat  , THAILAND ONLY ..  :ph34r:  


#136 หนูอ้อย

หนูอ้อย

    นักเขียนหน่อมแน้ม

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,215 posts

Posted 21 February 2013 - 12:40

แต่มีอยู่โรงเรียนหนึ่งเพิ่มการบ้านให้นักเรียนในฤดูเลือกตั้ง เอาโต้งๆเลย 55

http://www.manager.c...D=9560000014631

 

556000001524701.JPEG

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (4 ก.พ.) นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสรูปภาพในเฟซบุ๊กส่วนตัวSirichok Sopha กรณีมีผู้ปกครองแจ้งให้ช่วยตรวจสอบภาพกระดาษแผ่นพับที่มีหมายเลข 9 ขนาดใหญ่ และมีข้อความเขียนในกระดาษว่า “โปรดใช้สิทธิเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ในวันอาทิตย์ที่ 3 มีนาคม 2556 ตั้งแต่เวลา 08.00-15.00 น.” โดยนายศิริโชคได้อธิบายภาพดังกล่าวว่า มีผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนปัญญาศักดิ์ เขตบางบอน แจ้งเข้ามาให้ช่วยตรวจสอบกรณีที่มีการแจกแผ่นพับดังกล่าวให้แก่เด็กนักเรียนอนุบาล พร้อมกำชับให้เด็กนักเรียนระบายสีแดงเท่านั้น และนำมาใส่ไว้ในกระเป๋าของเด็กทุกคน ไม่รู้ว่าทำไมโรงเรียนนี้ถึงปลูกฝังเด็กๆตั่งแต่เล็กๆ เลย เพราะผู้ปกครองต้องตรวจการบ้านเด็กทุกวัน จึงไม่รู้ว่าทางโรงเรียนจงใจอะไรหรือไม่
       
 


 AMAZING  coup d'etat  , THAILAND ONLY ..  :ph34r:  


#137 sanskrit_shower

sanskrit_shower

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,741 posts

Posted 21 February 2013 - 12:51

แต่มีอยู่โรงเรียนหนึ่งเพิ่มการบ้านให้นักเรียนในฤดูเลือกตั้ง เอาโต้งๆเลย 55

http://www.manager.c...D=9560000014631

 

556000001524701.JPEG

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (4 ก.พ.) นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสรูปภาพในเฟซบุ๊กส่วนตัวSirichok Sopha กรณีมีผู้ปกครองแจ้งให้ช่วยตรวจสอบภาพกระดาษแผ่นพับที่มีหมายเลข 9 ขนาดใหญ่ และมีข้อความเขียนในกระดาษว่า “โปรดใช้สิทธิเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ในวันอาทิตย์ที่ 3 มีนาคม 2556 ตั้งแต่เวลา 08.00-15.00 น.” โดยนายศิริโชคได้อธิบายภาพดังกล่าวว่า มีผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนปัญญาศักดิ์ เขตบางบอน แจ้งเข้ามาให้ช่วยตรวจสอบกรณีที่มีการแจกแผ่นพับดังกล่าวให้แก่เด็กนักเรียนอนุบาล พร้อมกำชับให้เด็กนักเรียนระบายสีแดงเท่านั้น และนำมาใส่ไว้ในกระเป๋าของเด็กทุกคน ไม่รู้ว่าทำไมโรงเรียนนี้ถึงปลูกฝังเด็กๆตั่งแต่เล็กๆ เลย เพราะผู้ปกครองต้องตรวจการบ้านเด็กทุกวัน จึงไม่รู้ว่าทางโรงเรียนจงใจอะไรหรือไม่
       
 

นี่คือการบ้านที่ไม่ใช้สมองรึปล่าวนะ :lol:



#138 เสรีไทยรุ่นX

เสรีไทยรุ่นX

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 923 posts

Posted 24 February 2013 - 12:42

ต่อไปเด็กอาจโง่เหมือนนายก????/



#139 ryukendo

ryukendo

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,383 posts

Posted 24 February 2013 - 12:49

ลูกผมไม่เคยมีการบ้านเลยตอนนี้ เล่นเกม+ดูหนังสนุกสนาน :lol:

 

แต่แม่เค้าจัดหนักแทนครูเลยไม่หนักใจครับ :wub:

 

ทำบาป ทำกรรมกับประเทศไทยเหลือเกินคนพวกนี้ ผมเชื่อว่าไม่มีใครหนีกรรมพ้นหรอกครับ


บ้านเมืองไม่ใช่ของเล่นที่จะทำพังแล้วร้องไห้ขออันใหม่

#140 ant

ant

    สมาชิกขั้นสูง

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,081 posts

Posted 24 February 2013 - 13:02

ตอนแรก เลิกไว้ผมเกรียน

ตอนนี้ ลดการบ้าน ครูคนไหนให้การบ้านหนักมากก็มาร้องเรียนได้

 

ต่อไป คงไม่ต้องให้นักเรียนเข้าเรียน  เรียนผ่านสไกป์ได้

ต่อไป คงเอาใจนร.ด้วยการเลือกครูสอนได้  ไม่พอใจครูคนไหน-เด็กสั่งได้

ต่อไป คงลดการตัดเคิร์ฟของเกรด  เด็กจะได้เอกันเยอะขึ้น จะได้มีกำลังใจ

ต่อไป กระตุ้นเด็กให้มาเรียนด้วยการให้ extra credit กับเด็กที่ลงทะเบียนเรียน (คือไม่ต้องมาเรียนก็ได้ แค่ลงทะเบียน เราก็จะกราบแทบเท้า)

 

ผู้ใหญ่รัฐบาลนี้ ขยันทำแต่เรื่องอุบาทว์ ฉลาดแต่เรื่องโง่ๆ

เห็นด้วยอย่างมาก ถึงมากที่สุดครับ

 

เจอมาแล้ว  สอบ O-NET ครูต้องไปตามถึงบ้าน มันบอกจะให้พ่อไปส่ง สุดท้ายหายไปทั้งพ่อทั้งลูก..ไม่ไปสอบ  บางคนสอบแค่ชั่วโมงแรก แล้วหายไปเลย

ให้การบ้านไป 45 คน ตอนเช้าจะมีมาส่งไม่เกิน 5 คน


ตราบที่สูอยู่-กิน..แผ่นดินไทย ตราบโคตรเหง้าสูใช้แผ่นดินนี้ตราบศพสูฝังใต้..ไทยปฐพี สูไม่มีสิทธิ์ยํ่ายี.." พระเจ้าแผ่นดิน "

#141 DarkSwan

DarkSwan

    Reporter Activated

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,689 posts

Posted 24 February 2013 - 13:02

 "โต(มา)เป็นควาย"

 

โบราณเค้าว่างั้น ไม่ได้พูดเองนะจ๊ะ


ถ้าอยากได้ความเท่าเทียม

ก็ปีนป่ายขึ้นไปให้อยู่เทียบเท่ากับคนอื่นเค้า

อย่าได้กระชากฉุดให้คนอื่นเขาลงมาตกต่ำเท่ากับตน


#142 ploychanpen

ploychanpen

    น้องเก่า

  • Members
  • PipPip
  • 198 posts

Posted 24 February 2013 - 18:21

นับวันรัฐบาลนี้มีแต่นโยบายแปลกๆออกมา สมัยเราเรียนการบ้านมีเยอะบ้าง น้อยบ้าง   ส่วนครูที่เฮี๊ยบกับเรามากๆตอนเป็นเด็กเราไม่อยากเรียนด้วย แต่เมื่อเวลาผ่านไป    ก็อยากบอกครูว่าถ้าไม่มีครูในวันนั้น หนูก็คงไม่ได้ดีเหมือนทุกวันนี้    กลับบ้านไปที่ไรต้องพาลูกไปหาครูด้วยทุกครั้ง   ส่วนเด็กเมืองนอกนั้นเรียนไม่หนัก    การบ้านไม่เยอะเหมือนไทยเรา   ครูจะสอนเต็มที่ในช ม เรียน สอนพิเศษนอกเวลาไม่มี    ร้านเกมส์ก็ไม่มีเปิดทั่วไปเหมือนไทย    อยากไปหาความรู้ เล่นเน็ต เล่นเกมส์และอื่นๆมีรวมกันที่ห้องสมุด   ซึ่งจะมีให้ทุกหมู่บ้าน ฟรีอีกต่างหาก บริการดีเยี่ยม   ไม่มีการแบ่งแยกสีผิว แต่ระดับมหาวิทยาลัยนั้นไม่รู้จริงๆค่ะ






1 user(s) are reading this topic

0 members, 1 guests, 0 anonymous users