นอกจากบรรดาผู้สมัครที่คนทั่วไปรู้จักเป็นอย่างดีประมาณ 4-5 คน ที่เปิดตัวแพร่หลาย จนทำให้รู้เหตุผลที่มาสมัครเป็นผู้ว่าฯ กทม. แต่ในจำนวนผู้สมัครทั้งหมด ยังมีกลุ่มที่คนส่วนใหญ่แทบจะไม่รู้จัก หรือถูกเรียกว่า “ไม้ประดับ” มาลงสมัครอีกเป็นจำนวนมากนั้น มาดูกันว่าแท้ที่จริงแล้วบุคคลเหล่านี้มีความตั้งใจจริงหรือจุดประสงค์ ที่ลงรับสมัคร ด้วยเหตุผลอย่างไร
หมายเลข 1 นายวิละ อุดม ผู้สมัครอิสระ
เชื่อว่ายังมีพลังเงียบอีกจำนวนมากที่ไม่อยากเลือกตั้งเพราะเบื่อการเมือง ตนที่เป็นผู้สมัครอิสระนั้น เห็นการลงสมัครแบบไม่มีพรรคการเมืองจะทำให้ทำงานได้อย่างอิสระ ไม่ติดปัญหา เกรงใจคนนู้น เกรงใจคนนี้ หรือห่วงคะแนนเสียงอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้อย่างแน่นอน และทุกนโยบายของตนก็ทำได้จริง ๆ และทำได้ทันที ไม่ต้องรอใคร
หมายเลข 2 นายวรัญชัย โชคชนะ กลุ่มกรุงเทพก้าวหน้า
ตนรับสมัคร 4 ครั้งแล้ว เนื่องจากเห็นว่าที่ผ่านมาผู้ว่าฯกทม.ก็ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาให้แก่ คนกรุงเทพฯ ได้จริง ๆ จึงมาอาสาตัวรับสมัคร และอย่างน้อยนโยบายของตนก็จะชี้ให้เห็นปัญหาที่ผู้ว่าฯ กทม.อาจจะไม่เคยมองเห็น แต่ถ้าครั้งนี้ไม่ได้รับเลือกตนก็คิดว่าจะเป็นครั้งสุดท้ายในการลงสมัครแล้ว เพราะตนสู้ค่าใช้จ่ายไม่ไหว ทั้งค่าสมัครและการหาเสียงต่าง ๆ
หมายเลข 3 ร.อ.เมตตา เต็มชำนาญ กลุ่มเมตตาธรรม
ตนลงสมัครเพราะคิดว่าพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส เพราะที่ผ่านมาคนกรุงเทพฯ เบื่อผู้ว่าฯ จากพรรคการเมืองต่าง ๆ ที่เบื่อมากก็มาทะเลาะกัน ดังนั้นน่าจะมีตัวเลือกให้แก่ประชาชนมากกว่านี้ และที่สำคัญตนอยากจะทำงานทดแทนคุณแผ่นดิน
หมายเลข 4 โสภณ พรโชคชัย ผู้สมัครอิสระ
การมาสมัครก็หวังจะได้รับคะแนนเสียงหรือเป็นผู้ว่าฯ กทม. หรือถ้าไม่ชนะ อย่างน้อยก็ยังทำให้คนกรุงเทพฯหันมาตื่นตัวในเรื่องการไปใช้สิทธิ นอกจากนี้การที่ตนมานำเสนอนโยบายการหาเสียง อย่างน้อยก็เป็นการชี้ให้เห็นปัญหา ที่ประชาชนทั่วไปและผู้สมัครอื่น ๆ ที่ยังไม่ได้มองในจุดนี้ได้เห็น ซึ่งตนก็ถือว่าเป็นประโยชน์
หมายเลข 5 นายสมิตร สมิทธินันท์ ผู้สมัครอิสระ
เท่าที่เห็นการมีผู้ว่าฯ กทม.มา มีแต่การทะเลาะกัน ของ 2 ตัวเต็ง จากพรรคการเมือง การที่ลงเป็นผู้สมัครเพื่อให้ประชาชนมีทางเลือกอื่น เพราะจะเห็นว่าที่ผ่านมา ตัวแทนจาก 2 พรรคเองก็มีตำแหน่งในบ้านเมืองมาก่อน มีหน้าที่อยู่แล้วน่าจะสามารถแก้ปัญหาได้ตลอด แต่ตนก็ไม่เห็นว่า 2 พรรคการเมืองจะทำอะไร ให้ประชาชนมากกว่านี้ พอลงเลือกตั้งก็มาบอกว่าจะทำอีกเหมือนเดิมซ้ำไปมา จึงอยากให้ประชาชนมีตัวเลือกให้มากกว่านี้
หมายเลข 6 นายสัณหพจน์ สุขศรีเมือง กลุ่มเพื่อนสัณหพจน์สามมหาลัยดัง
ตัวเองก็เป็นปถุชนคนธรรมดา ที่เบื่อนักการเมือง และไม่อยากออกมาเลือกตั้ง จึงอยากเปิดตัวเพื่อเป็นตัวเลือกให้ประชาชน
หมายเลข 7 นายณัฏฐ์ดนัย ภูเบศอรรถวิชญ์ ผู้สมัครอิสระ
จริง ๆ แล้วตนรู้ว่าแพ้ แน่นอน แต่ใจจะสู้และการใช้เงินสมัครถึง 50,000 บาท ก็ไม่ใช่เงินน้อย ๆ หลายคนก็บอกว่าลงสมัครทำไม น่าอาย ซึ่งตนรู้ว่าคนคิดแบบนี้เยอะ แต่ตนมีอุดมการณ์ของตน ที่ไม่ได้แค่อยากเป็นนักการเมือง แต่ตนอยากทำงานเพื่อประชาชน แต่ไม่ได้ลงสมัครเพื่อความสนุกสนานหรือแค่มีชื่อให้คนได้รู้เท่านั้น แต่อยากทำงานจริง ๆ และอย่างน้อยถ้าตนลงเพื่อน ๆ ที่ไม่เคยหรือไม่อยากออกมาเลือกตั้งก็จะออกมาลงคะแนนมากขึ้น
หมายเลข 8 นายสุเมธ ตันธนาศิริกุล กลุ่มกรุงเทพพัฒนาฯ
ตนสมัคร มา 3 ครั้งแล้ว แม้จะไม่ได้แต่ก็ยังตั้งใจที่จะมีจิตอาสาเพื่อมาทำงาน เพราะเท่าที่ตนสมัครมานั้นก็ทำให้ตนได้มีโอกาสทำงานให้มวลชน ได้มากกว่าเดิม เนื่องจากเมื่อตนอาสาช่วยเหลือชาวบ้านในเรื่องต่าง ๆ ตนก็ได้รับความไว้วางใจให้เป็นตัวแทน จนได้เป็นคณะกรรมการในเรื่องต่าง ๆ โดยเฉพาะเรื่องการก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ต่าง ๆ ที่มีผลกระทบต่อการเวนคืนพื้นที่ของประชาชน ตนก็เข้ามาช่วยหลายครั้ง และที่ผ่านมาตนก็ได้เสนอแนะการทำงานให้ผู้ว่าฯ กทม. คนก่อน ๆ หลายครั้ง ซึ่งท่านก็รับฟังด้วยดี ดังนั้น ค่าสมัครจะ 50,000 หรือเท่าไหร่ ตนก็คิดว่าคุ้มค่า
หมายเลข 12 ศ.จงจิตร์ หิรัญลาภ ผู้สมัครอิสระ
การที่ตนมาสมัครนั้นก็เพราะอยากเป็นตัวเลือกให้คนกรุงเทพฯ ที่อาจจะเบื่อการเมือง และอยากจะได้คนที่มีความรู้ความสามารถ จริงใจ ตั้งใจทำงาน และที่สำคัญคือซื่อสัตย์ ในสถานการณ์ที่การเมืองของไทยเป็นแบบนี้
หมายเลข 13 นายวศิน ภิรมย์ ผู้สมัครอิสระ
- การลงสมัครของตนนี้ ก็เพราะตนเป็นคนกรุงเทพฯก็อยากเห็นคนกรุงเทพฯเปลี่ยนไปในทางที่ดี ไม่ได้แค่มาเป็นไม้ประดับในการเลือกตั้งอย่างที่คนว่ากัน และถึงแม้จะไม่ได้มองเรื่องแพ้ชนะ แต่หากไม่ได้รับการเลือกตั้งตนก็มีการหวังผลที่จะสานต่องาน แต่ถ้าจะเดินหน้างานตนอยากจะทำงานมูลนิธิ แต่ยังไม่ได้วางเป้าหมาย ต้องดูก่อนว่าเราจะช่วยในเรื่องใดได้ก็จะทำ
หมายเลข 14 นายประทีป วัชรโชคเกษม ผู้สมัครอิสระ
ตนลงสมัคร เพราะเป็นคนกรุงเทพฯ และได้รับผลกระทบจากปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น และส่วนหนึ่งคือการลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. นั้นอาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้ตนสามารถก้าวไปสู่สนามเลือกตั้งสนามใหญ่ได้ แต่ทั้งนี้หากไม่ชนะการเลือกตั้ง ตนก็ยินดีที่จะให้ผู้ที่ชนะเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯ นำนโยบายของตนไปใช้เพื่อให้เกิดประโยชน์กับคนกรุงเทพฯได้
หมายเลข 15 นายจำรัส อินทุมาร พรรคไทยพอเพียง
เพราะตนเป็นข้าราชการและประชาชนที่ประสบปัญหาในเรื่องต่าง ๆ มาก่อน และต้องแก้ไขปัญหาด้วยตนเอง หน่วยงานภาครัฐ ไม่ได้ช่วยเท่าที่ควร ตนจึงนำประสบการณ์มาช่วยเหลือชาวบ้าน จนทำให้อยากช่วยเหลือชาวบ้านที่ประสบปัญหาเรื่องต่าง ๆ มาโดยตลอด จนทำให้มาสมัครรับเลือกตั้งครั้งนี้ และนโยบายของตนทุกอย่างทำได้จริงไม่ใช่แค่ให้ความหวังพี่น้องประชาชนเท่านั้น
หมายเลข 18 นางนันท์นภัส โกไศยกานนท์ ผู้สมัครอิสระ
ตนเป็นเพียงผู้สมัครจากภาคประชาชนธรรมดา ๆ ที่มีคนรู้จักน้อยนิดเท่านั้น แต่ตนมีจิตอาสาเพื่อเข้ามาทำงานเพื่อประชาชนจริง ๆ ไม่ได้อยากแค่มาสมัครเพื่อให้คนรู้จักหรือเป็นไม้ประดับในแบบที่ใคร ๆ ว่า และอย่างน้อยก็อยากให้คนเห็นว่าผู้หญิงก็สามารถทำงานช่วยประชาชนได้เช่นเดียวกับนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
หมายเลข 19 นายสุขุม วงประสิทธิ จากพรรคยางพาราไทย
การสมัครครั้งนี้ แม้โอกาสชนะดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้ก็ตาม แต่อย่าลืมว่าเท่าที่เลือกตั้งมาทุกครั้ง ยังมีประชาชนอีกประมาณ 2 ล้านเสียงที่ยังไม่ได้ตัดสินใจ เพราะเบื่อการเมืองและพรรคการเมือง 2 พรรคหลัก ดังนั้นอาจหันมาลงคะแนนให้ผู้สมัครอิสระที่มีความตั้งใจจะทำงาน นอกจากนี้การลงสมัคร อาจจะทำให้มีโอกาสที่จะทำอะไรหลาย ๆ อย่างต่อไปในอนาคต อย่างน้อยเราก็มีประสบการณ์
หมายเลข 20 นายกฤษณ์ สุริยผล กลุ่มรักกรุงเทพฯ
ตนอยากเป็นตัวเลือกให้คนกรุงเทพฯ เพราะตนอยู่กรุงเทพฯ รักกรุงเทพฯ จึงอยากให้กรุงเทพฯเข้มแข็ง และไม่อยากให้คนกรุงเทพฯ อ่อนแอ จึงอยากเข้ามาทำงานและพัฒนากรุงเทพฯ
หมายเลข 21 นางธรณี ฤทธีธรรมรงค์ ในนามอิสระ
ส่วนการมาลงสมัครครั้งนี้สามีให้การสนับสนุนและเข้าใจในการมาสมัคร ตนมาสมัครเพราะเบื้องบน และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ อย่างไรก็ตามตนจะปลดแอกยุบอำนาจจากการเมือง ปลดแอกจากมหาดไทย จะไม่ให้ ส.ก.ส.ข. ใช้เงินภาษีราษฎรขึ้นเครื่องบินไปต่างประเทศ โดยจะเอาเงินส่วนนี้มาพัฒนาประชาชนในพื้นที่ โดยจะสนับสนุนให้นำเงินมาฝึกงานแต่ละเขต อย่างไรก็ตาม จะให้ประชาชนในแต่ละพื้นที่เขตปกครองและแก้ปัญหากันเอง
หมายเลข 22 นายศุภชัย เขษมวงศ์
ตนเองต้องการจะลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ตั้งแต่สมัยที่ผ่านมา แต่ตนเองไม่พร้อม การลงสมัครครั้งนี้ตนพร้อมที่จะทำงานเพื่อทุกข์ สุขของพี่น้องกรุงเทพฯ ซึ่งผู้ว่าฯ กทม.ระลึกอยู่ในใจเสมอ ความเดือดร้อนของคนไทย ผู้ว่ากรุงเทพฯ ขอร่วมแบกรับไปด้วยกัน สำหรับการหาเสียงนั้น เนื่องจากตนเองเป็นพนักงานออฟฟิศคงไม่สามารถทำได้เต็มที่แต่ก็จะทำให้ดีที่สุด
หมายเลข 23 นางสาวรวิวรรณ สุทธิวีรสรรค์
วัตถุประสงค์ที่ตัดสินใจลงสมัครเพราะว่าอยากลองดูว่าการเมืองเป็นยังไงหากเข้ามาแล้วซึ่งตนเองจะใช้ความรู้คู่คุณธรรมเนื่องจากสมัยเป็นข้าราชการ กทม.เคยถูกกลั่นแกล้งมาก่อนจึงไม่อยากให้เกิดขึ้นกับข้าราชการ กทม.คนอื่น ๆ อีก
หมายเลข 24 นายวิทยา จังกอบวัฒนา ผู้สมัครอิสระ
ตนเองมีนโยบายจะรณรงค์มาเลือกตั้งให้ครบ 100 เปอร์เซ็นต์โดยไม่จำเป็นต้องเลือกตนเองก็ได้ ถึงแม้โอกาสที่จะได้ค่อนข้างน้อย แต่ที่ตนยังตัดสินใจมาลงสมัคร เพราะอยากต่อยอดนโยบาย ครั้งที่แล้วตนเองนำเสนอเรื่องการแก้ปัญหาจราจรที่เน้นการลดการใช้รถยนต์ เท่านั้น
หมายเลข 25 พ.ต.อ.ขจรศักดิ์ โกษะโยธิน ผู้สมัครอิสระ
ตนรู้ดีว่าโอกาสมีศูนย์ แต่ตั้งใจมาเสนอตัวเพราะตนมีความรู้ด้านการปราบปรามรถยนต์ แก๊งเด็กแว้นรถจักรยานยนต์ ถ้าผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่ต้องการตนยินดีมาเสนอแนะความคิดเห็น ตนเสียเงิน 50,000 เพื่อมาเสนอตัวให้รู้ว่าพร้อม ทั้งนี้ ตนจะเปิดตัว 2 อาทิตย์สุดท้ายก่อนการเลือกตั้งโดยจะให้ผู้สมัครแข่งกันทำผิดไปเรื่อย ๆ ก่อน
แม้จะมีทั้งพอใจและไม่พอใจกับคำว่าไม้ประดับกันบ้าง แต่ทุกคนต่างก็มีเหตุผลในการเป็นตัวเลือกของคนกรุงเทพฯ อย่างน้อย ก็อยากเป็นผู้ทำงาน และแก้ปัญหาเพื่อให้กรุงเทพฯของเราเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นทั้งนั้น ....ใครที่ยังไม่ได้ตัดสินใจจะลองพิจารณาตัวเลือกเพิ่มเติมเหล่านี้ได้.
ทีมา เดลินิวส์