เผื่อจะมา ร่วมด้วยช่วยกัน ได้ถึงแสน...
[attachment=13705:หมื่นปลดปล่อย.jpg]
แดงเอย...โธ่เอ๋ยน้องแดงของพี่
31 January 2556
ท่านขุนน้อย
งานนี้...คงต้องร้องเพลง แดงเอย...โธ่เอ๋ย...น้องแดงของพี่ กันอีกรอบ สำหรับบรรดาน้องแดงที่อุตส่าห์ขนม็อบเคลื่อนพยุหยาตราไปที่ทำเนียบรัฐบาลเมื่อสองวันก่อน แต่อย่างน้อย ก็ยังดีกว่าม็อบเสธ.อ้ายอยู่บ้างเล็กน้อย คือยังพอรวมตัวตั้งเวทีเคลื่อนม็อบไปถึงหน้าทำเนียบฯ ได้โดยสวัสดิภาพ ไม่ต้องถูกตำรวจที่ได้รับการให้กำลังใจจากนายกรัฐมนตรีมาหมาดๆ ไล่ทุบ ไล่กระทืบ ให้ต้องแตกฉานซ่านเซ็นไปตั้งแต่ยังไม่ได้ทำอะไรเลย...
คือการที่ตำรวจท่านยังไม่ได้ไล่ทุบ ไล่ตี ตั้งแต่ยังไม่ได้ทำอะไรเลยนั้น ต้องถือว่าเป็นการแสดงออกถึงความเป็นกัลยาณมิตรอย่างสุดๆ แล้ว หรือยังถือเป็นการแสดงสายใย ไมตรี ระหว่างรัฐบาลนารีขี่ม้าแดงกับบรรดาชาวเสื้อแดง อย่างที่น้อยคนจะมีโอกาสได้รับความกรุณาปรานีเช่นนี้เสมอเหมือนกันไปทั้งหมด อย่างเช่นม็อบเสธ.อ้ายดังที่ยกตัวอย่างไว้ข้างต้น ยังไม่ทันได้ยื่นหนังสือให้รัฐบาล ไม่ทันได้เชิญตัวแทนรัฐบาลขึ้นมาแสดงความจริงใจบนเวที แค่จะขอทางผ่านไปเกาะกลุ่ม รวมตัว กันเท่านั้น ก็ตุ้บๆ ตั้บๆ โดนทั้งกระบอง ทั้งแก๊สน้ำตา หัวร้างข้างแตกแถมถูกจับตัวดำเนินคดี ชนิดยังไม่รู้ชะตากรรมที่แน่ชัดว่าจะออกมาในรูปใด หรือม็อบปากมูล สมัชชาคนจน ที่โผล่มาแบบเงียบๆ และเก็บฉากไปแบบเงียบๆ ต่างไปจากอดีตที่ผ่านมาแบบคนละเรื่อง คนละม้วน รายนั้นดูเหมือนว่าจะถูกลุยรื้อเต็นท์ รื้อที่ปักหลัก จนต้องล่าถอยแบบหงอยๆ ไปตามระเบียบ...
-------------------------------------------
อย่างไรก็ตาม...แม้ว่าจะได้รับความเมตตา ปรานี จากรัฐบาลนารีขี่ม้าแดงอยู่ไม่น้อย แต่ถ้ามองลึกลงไปถึงความเจ็บปวด รวดร้าว ของบรรดาน้องแดงเหล่านี้ ก็เป็นอะไรที่ออกจะน่าเห็นใจ น่าเจ็บปวด รวดร้าว อยู่พอประมาณโดยเฉพาะถ้าหากย้อนไปคิดถึงคำพูดประเภทที่ว่า ถ้าได้ยินเสียงปืนนัดแรกขึ้นมาเมื่อไหร่...ผมจะกลับไปเดินนำขบวนพ่อแม่พี่น้องด้วยตัวเอง หรือประเภท เผามันไปเลยครับพี่น้อง...ผมรับผิดชอบเอง แต่มาถึงวันนี้ไม่ว่าคนที่ประกาศอาสาจะเดินนำหน้าพ่อแม่พี่น้อง หรือคนที่พร้อมจะรับผิดชอบเอง ต่างนอนกระดิกขาอยู่ในทำเนียบรัฐบาล สุข สดชื่น รื่นเริง บันเทิงใจอยู่กับพวกอำมาตย์ กลายเป็นผู้ไม่นิยมความรุนแรงไปแล้วทั้งสิ้น แม้ว่ารายแรกจะไม่ได้มานั่งอยู่ที่ตึกบัญชาการในฐานะนายกรัฐมนตรีก็ตาม แต่การได้ขี่คอนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีแต่ละกระทรวงไปโดยตลอด แค่นี้ก็ไม่ต่างไปจากขึ้นสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ไปแล้ว เมื่อเทียบกับบรรดาพวกเสื้อแดงจำนวนไม่น้อยที่ยังคงดิ้นรน ตะเกียกตะกายอยู่ในคุก ยังต้องขึ้นโรง ขึ้นศาล ไม่เว้นแต่ละวัน...
--------------------------------------------
แต่ทำไงได้...ในเมื่อจำนวนน้องแดงที่แห่กันมากดดันรัฐบาลเพื่อให้ออกพ.ร.ก.นิรโทษกรรมคราวนี้ มีอยู่แค่หลักพันเท่านั้นเอง ถึงจะจริงใจ บริสุทธิ์ใจ รักประชาชน รักประชาธิปไตย แบบสุดลิ่มทิ่มริดสีดวงทวารขนาดไหนก็ตาม แต่ในเรื่องของการเมืองโดยธรรมชาติแล้ว มันมักวัดตัดสินกันที่ อำนาจ ไม่ใช่ ความจริงใจ-ไม่จริงใจ แบบที่ชอบเพ้อๆ กันไปเรื่อย ไม่ว่าจะเป็นการเมืองในระบอบประชาธิปไตย เผด็จการ หรือระบอบไหนๆ ก็เถอะ ถ้าหากบรรดาน้องแดงเหล่านี้ ยังไม่สามารถแสดงออกถึงพลังอำนาจได้อย่างเป็นชิ้น เป็นอัน อย่างให้เห็นเป็นที่ประจักษ์แล้ว สุดท้ายคงเป็นได้แค่ แดงเทียม หรือต้องกลายสภาพไปเป็น พวกที่ไม่ใช่ นปช. กลายเป็นผู้ที่พวกแดงด้วยกันต้องหันมาปฏิเสธ แต่ละรายออกอาการเผ่นหนี รีบบอกว่า...ผมไม่เกี่ยว...ป้าไม่เกี่ยว...หรือกลายเป็น เรื่องของมึง ไม่ใช่ เรื่องของกู ไปซะดื้อๆ!!!
---------------------------------------------
ถึงแม้จะระดมอดีตอัยการ นักกฎหมายระดับนิติเรด นิติแรด อาจารย์ด๊อกต้ง ดอกเตอร์ทางนิติศาสตร์ อักษรศาสตร์ แถมกะวง กวี มาเป็นแผงๆ ก็เถอะ แต่ถ้าหากแผงที่ว่ามีอยู่แค่ไม่ถึง 1 พันคน ไม่มีแผงของ ขวัญชัย ควายพนา แผงของ จตุพร ตุ๊ดตู่ ของ ณัฐวุฒิ สภาโจ๊ก หรือของ คุณป้าธิดา ฯลฯ เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยแล้ว ย่อมมีแต่ต้องเจ็บปวด รวดร้าว กันไปทั้งแผง หรือสุดท้าย...มันคงไม่มี อำนาจ พอที่จะไปกดดัน ต่อรอง อะไรกับใครได้เลย แต่ถ้าหากต้องการให้บรรดาแผงต่างๆ เหล่านี้ เข้าร่วมด้วยจริงๆ ก็คงไม่ต้องเสียเวลาไปพูดถึง ความจริงใจ-ไม่จริงใจ อะไรต่อมิอะไรอีกนั่นแหละ เพราะมันต้องพูดกันด้วย อำนาจ เพียงอย่างเดียวล้วนๆ มันถึงจะพอพูดกันได้ ไม่ว่าจะเป็นอำนาจเงิน อำนาจทางสถานะตำแหน่ง ซึ่งไม่ได้เกี่ยวอะไรกับอำนาจทางชนชั้นเอาเลยแม้แต่น้อย คือถึงจะเป็นไพร่ด้วยกันแท้ๆ แต่ถ้าหากไม่มีเงิน ไม่มีค่ารถ ค่าจ้าง ไม่มีตำแหน่งใดๆ ไว้ล่อ ไว้ตอบแทนในภายหลัง ความจริงใจต่อพี่น้องชาวเสื้อแดง ต่อประชาธิปไตย ต่อชนชั้นไพร่ ฯลฯ หรือต่ออะไรก็แล้วแต่ มันล้วนแต่ รับประทานไม่ได้ ไปด้วยกันทั้งสิ้น...
-----------------------------------------------
ด้วยเหตุนี้...จึงถือเป็นเรื่องไม่แปลก ที่คนระดับรากหญ้าหรือระดับความรู้มีเพียงแค่ชั้น ป.4 อย่างคุณพี่ ขวัญชัย ควายพนา ท่านถึงไม่เอาด้วย เพราะถ้าผู้ที่มีอำนาจที่แท้จริง ยังไม่ได้สไกป์ สกังค์ วิดีโอลิงค์ วิดีโอลึงค์ ต่อสายตรงมาถึงท่าน ไม่ว่าใครก็เถอะ...ต่อให้รักไพร่ รักชาวรากหญ้าแบบจริงใจ บริสุทธิ์ใจขนาดไหน ท่านคงไม่คิดจะยอมตกเป็นเครื่องมือของคนจน (ที่ไม่มีอะไร) โดยเด็ดขาด ไม่แปลกที่คุณพี่ จตุพร ตุ๊ดตู่ จะติดคิวขึ้นหาเสียงให้ผู้สมัครผู้ว่ากทม.ของพรรคเผาไทย แทนที่จะมาขึ้นมาเวทีหน้าทำเนียบฯ ไม่แปลกที่คุณน้อง ณัฐวุฒิ สภาโจ๊ก จะไม่คิดเดินมาทางกำลังใจ เหมือนที่อุตส่าห์เดินทางไปงานศพหัวคะแนนที่นครศรีธรรมราชแบบมีรถตำรวจนำหน้าให้ไฟเขียวผ่านตลอด ไม่แปลกที่คุณป้า ธิดา จะต้องหันไปรีดสูทเพื่อให้คุณหมอ เหวง ใส่ประชุมสภาฯ จนไม่มีเวลามายุ่งด้วย...ม็อบคราวนี้เลยต้องออกอาการ เหี่ยวปลาย ภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว ไม่ว่าจะพยายามใส่ความแรง ใส่ความจริงใจ เข้าไปซักกี่หลอดก็ตาม...
-----------------------------------------------
นิทานเรื่องนี้...จึงสอนให้รู้ว่า สุดท้ายแล้วอย่าไปเสียเวลาหลงใหลกับ มายาภาพ ในเรื่องชนชั้นไพร่ ชนชั้นอำมาตย์ เรื่องความเป็นประชาธิปไตยหรือไม่ประชาธิปไตย อะไรอีกต่อไปเลย ในโลกนี้มันมีผู้คนอยู่ 2 แบบเท่านั้นคือ คนดี กับ คนชั่ว และมีวิถีทางอยู่แค่ 2 วิถีทางเท่านั้น คือ วิถีทางแห่งความดี และ วิถีทางแห่งความชั่ว ไม่ว่าไพร่ ไม่ว่าอำมาตย์ ไม่ว่านักการเมืองพรรคไหนต่อพรรคไหน หรือกระทั่งไม่ว่าระบอบประชาธิปไตยหรือเผด็จการก็ตาม มันมีแต่บุคคล 2 กลุ่ม 2 แบบ และ 2 วิถีทางปะปนอยู่ด้วยกันเสมอๆ และถ้าหากไม่ โง่ ไม่หลงใหลอยู่ใน มายาภาพ จริงๆ แล้ว ย่อมสามารถแยกแยะสิ่งเหล่านี้ออกจากกันได้ไม่ยากซ์ซ์ซ์...
http://www.thaipost....ws/310113/68862
-----------------------------------------
แก้ไข: เน้นข้อความ.
Edited by Suraphan07, 31 มกราคม พ.ศ. 2556 - 10:55.