Jump to content


Photo
- - - - -

เขาบิดโพลล์กันยังไง


  • Please log in to reply
30 ความเห็นในกระทู้นี้

#1 sigree

sigree

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,883 posts

ตอบ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 17:27

  ถามแบบคนไม่รู้และเข้าใจระบบมันนัก

 

 ผมไม่เข้าใจวิธีคิดและการบิดมันนัก บางครั้งออกจะตลกเมื่อคิดว่าคนพันคนแทนหลักล้าน และอื่น

 

 วานใครอธิบายหลักการที่ถูกต้องและวิธีการบิดเบือนมันทีครับ

 

 ขอบคุณครับ



#2 nunoi

nunoi

    เด็กข้างถนน

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,745 posts

ตอบ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 17:29

ผมว่าน่าจะเกี่ยวกับคำถาม หรือ ตัวอย่างการสำรวจนะครับ


กฎหมายมันก็แค่สิงที่สร้างมาอย่างมีเป้าหมาย แต่หาก เอาแต่บอกว่ากฎหมายเป็นแบบนี้ แบบนั้น โดยไม่สนใจว่าเป้าหมายจริงๆ นันคืออะไร ก็คงไม่ใช่ 

 

 


#3 sigree

sigree

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,883 posts

ตอบ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 17:33

ส่วนตัวจากความไม่รู้ ผมไม่เคยสำรวจนะ แต่เคยถูกสำรวจในชีวิตก็ 3 ครั้ง

 

อาจเพราะผมอยู่ในสายการตลาดด้วยเลยถูกสำรวจเรื่องนี้บ่อยๆ ผมมองว่าเป็นเรื่องคนและนายหน้า

 

เพราะเท่าที่ทราบเขาได้ซื่อผมจากมหาวิทยาลัยที่เรียน และเมื่อคุยกับคนที่ถูกสำรวจหลายคนมาจากการจัดหาของโมเดลลิ่งด้วย

 

แต่อย่างที่บอกลึกๆไม่ทราบ


Edited by sigree, 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 17:34.


#4 Solid Snake

Solid Snake

    แดงกำมะลอ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,892 posts

ตอบ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 17:33

จับโพลล์มาแล้วบิดแบบขวดน้ำ



#5 wat

wat

    เนตังมะมะ เนโสหะมัสมิ นะเมโสอัตตา.

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,542 posts

ตอบ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 17:33

:mellow:  ทำโพลมันก็ทำวิจัยชิ้นหนึ่งขอรับ อยู่การกำหนดแนวทางว่าต้องการทราบผลอะไร คำถามมีส่วนในการชี้นำคำตอบได้ขอรับ...

 

<_<  ว่าแต่มันอ้างสำนักโพล แต่ใช้โพยทำหรือเปล่าขอรับ ขายแค่ชื่อสถาบันกินแค่นั้น ไม่เคยเห็นมีสำนักไหนเอาข้อมูลดิบ หรือแม้แต่วิธีการทำ, สูตรคิดมาเปิดเผยสักคน ทั้งที่เป็นกฎการทำวิจัยเลยด้วยซ้ำขอรับ...


Edited by wat, 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 17:35.

:) Sometime...Sun shine through the rain...

#6 sigree

sigree

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,883 posts

ตอบ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 17:36

:mellow:  ทำโพลมันก็ทำวิจัยชิ้นหนึ่งขอรับ อยู่การกำหนดแนวทางว่าต้องการทราบผลอะไร คำถามมีส่วนในการชี้นำคำตอบได้ขอรับ...

 

<_<  ว่าแต่มันอ้างสำนักโพล แต่ใช้โพยทำหรือเปล่าขอรับ ขายแค่ชื่อสถาบันกินแค่นั้น ไม่เคยเห็นมีสำนักไหนเอาข้อมูลดิบ หรือแม้แต่วิธีการทำ, สูตรคิดมาเปิดเผยสักคน ทั้งที่เป็นกฎการทำวิจัยเลยด้วยซ้ำขอรับ...

พอทราบกฏมาตรฐานไหม?จะได้เทียบถูก



#7 DarkSwan

DarkSwan

    Reporter Activated

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,689 posts

ตอบ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 17:41

*
POPULAR

วิธีที่เบสิคที่สุด เริ่มต้นจากการตั้งคำถาม ชี้น้ำ กับการสรุปที่ไม่สอดคล้องครับ เอาแบบ เบๆ ง่ายๆ ก็เช่น

 

โพลล์ถามว่า ท่าน พึงพอใจกับนโยบายของรัฐบาล พท. เรื่องใดของรัฐบาลมากที่สุด 

1. รถคันแรก

2. บ้านคันแรก

3. รายได้ 15,000.-

4. ค่าแรง 300

 

โดย กรณี้นี้ 300 อาจจะได้คะแนนมากที่สุด  จึงทำการสรุปโพลว่า 

 

"ประชาชน มีความพึงพอใจ ต่อนโยบายของรัฐบาล พท. โดยนโยบายที่ได้รับความพึงพอใจที่สุดคือ ค่าแรง 300 บาท โดยมีผู้ให้คะแนน  บลาๆๆๆๆ รองลงมาคือ บลาๆๆๆๆๆๆ"

 

โพล ถามว่า ชอบอันไหนมากที่สุด แต่ไม่ได้ถามในเรื่องผลเสีย หรือให้ตอบว่าไม่ชอบ หรือให้ทางเลือกอื่น ไม่ว่าจะเลือกข้อไหนก่อน ก็เท่ากับ "ชอบและพอใจ" ครับ

และนำมาสรุป ว่า "ประชาชนพึงพอใจ" เป็นการตีขลุมสรุปรวมเบ็ดเสร็จ

 

แค่นี้เองครับ ง่ายๆ แบบเบสิกๆ นะ ซึ่งโดยทั่วไป คำถามมันอาจจะอาร์ตกว่านี้หน่อย ให้ดูแล้วเพลินๆ คิดไม่ทันน่ะครับ ส่วนวิธีอื่นๆ ก็อาจจะมี แต่ยังไม่เห็นโพลเทา่ไหร่ครับ ไอ้ที่เอามาให้ดูนี่เหมือนเห็นในเน็ตนี่แหละ แสกนมาให้ดู

 

ผมไม่เคยตอบโพลสักที ไม่รู้มันสำรวจกันแถวไหน


Edited by ดาร์ค สวอน, 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 17:42.

ถ้าอยากได้ความเท่าเทียม

ก็ปีนป่ายขึ้นไปให้อยู่เทียบเท่ากับคนอื่นเค้า

อย่าได้กระชากฉุดให้คนอื่นเขาลงมาตกต่ำเท่ากับตน


#8 นิติรั่ว

นิติรั่ว

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,513 posts

ตอบ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 17:47

ตัวอย่างการสอบถามถึงการสอบถามคะแนนนิยมผู้สมัครผู้ว่า กทม. อาจไปสอบถามที่ รังสิต หรือ ที่ พระประแดง


ผมไม่ใช่คนเก่งกฎหมาย แค่รู้กฎหมาย แต่ไม่เคยคิดใช้ช่องว่างของกฎหมายมาทำให้กฎหมายขาดความเป็นธรรม

#9 grand_v

grand_v

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 841 posts

ตอบ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 17:49

วิธีที่เบสิคที่สุด เริ่มต้นจากการตั้งคำถาม ชี้น้ำ กับการสรุปที่ไม่สอดคล้องครับ เอาแบบ เบๆ ง่ายๆ ก็เช่น

 

โพลล์ถามว่า ท่าน พึงพอใจกับนโยบายของรัฐบาล พท. เรื่องใดของรัฐบาลมากที่สุด 

1. รถคันแรก

2. บ้านคันแรก

3. รายได้ 15,000.-

4. ค่าแรง 300

 

โดย กรณี้นี้ 300 อาจจะได้คะแนนมากที่สุด  จึงทำการสรุปโพลว่า 

 

"ประชาชน มีความพึงพอใจ ต่อนโยบายของรัฐบาล พท. โดยนโยบายที่ได้รับความพึงพอใจที่สุดคือ ค่าแรง 300 บาท โดยมีผู้ให้คะแนน  บลาๆๆๆๆ รองลงมาคือ บลาๆๆๆๆๆๆ"

 

โพล ถามว่า ชอบอันไหนมากที่สุด แต่ไม่ได้ถามในเรื่องผลเสีย หรือให้ตอบว่าไม่ชอบ หรือให้ทางเลือกอื่น ไม่ว่าจะเลือกข้อไหนก่อน ก็เท่ากับ "ชอบและพอใจ" ครับ

และนำมาสรุป ว่า "ประชาชนพึงพอใจ" เป็นการตีขลุมสรุปรวมเบ็ดเสร็จ

 

แค่นี้เองครับ ง่ายๆ แบบเบสิกๆ นะ ซึ่งโดยทั่วไป คำถามมันอาจจะอาร์ตกว่านี้หน่อย ให้ดูแล้วเพลินๆ คิดไม่ทันน่ะครับ ส่วนวิธีอื่นๆ ก็อาจจะมี แต่ยังไม่เห็นโพลเทา่ไหร่ครับ ไอ้ที่เอามาให้ดูนี่เหมือนเห็นในเน็ตนี่แหละ แสกนมาให้ดู

 

ผมไม่เคยตอบโพลสักที ไม่รู้มันสำรวจกันแถวไหน

ผมเติมให้อีกข้อที่ สุขุม เฉลยทรัพย์ ชอบใช้มาก คือการกำหนดกลุ่มตัวอย่าง

หรือผู้ตอบผลสำรวจ เพื่อให้ได้คำตอบที่ต้องการ

 

อาทิ ถามว่าจะเลือกใครเป็นผุูู้ว่าฯกทม.

ก็กำหนดให้ 60% ล็อคเป้าไปสอบถามตามโรงงาน ตามวินมอเตอร์ไซค์ ตามโรงพัก หรือคนขับแท็กซี่ เป็นต้น

อีก 40% ค่อยไปสุ่มสอบถามตามตำรา



#10 อาวุโสโอเค

อาวุโสโอเค

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 8,790 posts

ตอบ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 17:51

โพลมีหลายประเภทครับ ที่เจอะเจอกันทุกวันนี้เป็นแบบรับจ้างทำโพลตามวัตถุประสงค์

 

จะเห็นว่าโพลประเภทนี้จะไม่พร้อมให้ตรวจสอบ แต่จะแปะบนเวบของตัวเองแล้วจะมีลิ่วล้อนำไปขยายผล

 

แนวทางการบิดมีหลากหลาย เช่นส่งแบบสอบถามให้กลุ่มที่คาดหมายและกลุ่มทั่วไป แน่นอน กลุ่มคาดหมายสามารถ

 

คาดหมายได้ว่าดึงคะแนนของผู้สมัครได้ หรือผู้อ่านโพลอาจจะเลือกตีความให้ฝ่ายตนได้ประโยชน์ได้

 

เช่นกรณี jagger เอานิด้าโพลมาอ้างอิงว่าคะแนนจูดี้ นำ คุณชาย แต่เมื่อดูใส้ในแล้ว แค่เป็นการสอบถาม

 

คะแนนความนิยมในส่วนต่าง ๆ ซึ่งหากนักสถิติอ่าน ผลจะกลายเป็นว่าจูดี้  อาการน่าเป็นห่วงเพราะจุดขาย

 

คนรู้จักน้อย


การเมืองไม่ใช่เพื่อกลุ่มใด แต่เพื่อทุกคนในประเทศ

#11 Bourne

Bourne

    สายลับ ๆ ล่อ ๆ หัดเกรียน

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 3,471 posts

ตอบ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 18:00

เคยทำโพลออกไปสอบถามคนตอนเรียนวิชา Marketing Research ที่มหาวิทยาล้ยครับ

บิดโพล ไม่ยากครับ ถ้าเราอยากให้ผลออกมาแบบไหน ก็ออกไปถามกลุ่มคนที่มีแนวโน้มที่โอนเอียงตามผลลัพธ์ที่เราต้องการ

เช่น ถ้าสวน (สัตว์) ดุสิตโพยอยากทำโพลอวยอีปูว์ ซึ่งก็รู้อยู่แล้วกลุ่มคนที่มีแนวโน้มที่จะชอบอีปูว์ก็คือ พวกผู้ใช้แรงงาน รากหญ้า ก็ไปตามย่านที่มีคนกลุ่มนี้อาศัยแยะ ๆ หรือหาคนกลุ่มนี้มาตอบโพลแยะ ๆ ซึ่งคนกลุมนี้ม้นกระจายอยู่ทุกเขตแหละครับ  จะถามคนแถวถนนสีลมก็ได้ แต่ให้ถามพวกพ่อค้าไข่ปิ้ง แม่ค้ากล้วยปิ้ง คนขับแท็กซี่ แถวนั้น เสร็จแล้วก็เอามาอ้างว่า คนสีลมอวยอีปูว์

อีกวิธีที่ง่ายกว่า คือ ตามเอง ตอบเองครับ


ภาระกิจหลักของผมบนบอร์ดเสรีไทย คือ ด่าควายครับ เรื่องคิดต่างผมรับได้ แต่เรื่องคิดชั่วผมรับไม่ไหวครัช

#12 gass

gass

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,239 posts

ตอบ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 18:03

ผมเรียกว่า "เอาใจนักการเมืองโพล" ครับ

-_-



#13 เรื่อยๆเอื่อยๆ

เรื่อยๆเอื่อยๆ

    There is a face beneath this mask, but it isn't me.

  • Members
  • PipPipPipPip
  • 4,223 posts

ตอบ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 18:06

สามขั้นตอนที่สำคัญคือการตั้งคำถาม การสุ่มตัวอย่าง และการแปรผล
ตั้งคำถามชี้นำก็เป็นเรื่องง่ายๆ แค่เอาแต่ตัวเลือกที่เป็นประโยชน์ใส่เข้าไป เพราะไม่ต้องการความถูกต้องอะไรไงครับ เลยไม่ต้องตัดเรื่องอคติ ไบแอสต่างๆ
คนก็ต้องตอบแต่คำถามที่ไม่มีตัวเลือก
อย่างที่สองการสุ่มตัวอย่าง อันนี้ง่ายครับมีสูตรคำนวณว่าต้องใช้คนกี่คนแทนประชากรทั้งหมดแล้วให้ผลคลาดเคลื่อนไม่เกินกี่เปอร์เซ็นต์ แต่ปัญหาในทางปฏิบัติที่จำนวนคนไม่กระจายตัวอย่างถูกต้องไปกระจุกอยู่ที่คนบางกลุ่มเป็นพิเศษ ซึ่งจะทำให้โพลกลายเป็นโพยไป แต่คนทำโพลเขาไม่ยอมรับหรอกครับว่าข้อมูลเขากระจุกตัวหรือไม่

สุดท้ายการแปรผล อันนี้จะบอกได้เลยว่าทำมาเลียใคร โพลเมืองไทยไม่เคยบอกค่าความคลาดเคลื่อน เอาแต่ตัวเลขเป๊ะๆมาแสดง อย่างบอกว่าพงศพัศนำคุณชายอยู่สิบเปอเซนต์ แต่ความคลาดเคลื่อนเป็นบวกลบเจ็ด ในทางสถิติมันจะไปสรุปว่านำไม่ได้ครับ ต้องบอกว่า ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ

#14 idolation

idolation

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,996 posts

ตอบ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 18:08

วิธีที่เบสิคที่สุด เริ่มต้นจากการตั้งคำถาม ชี้น้ำ กับการสรุปที่ไม่สอดคล้องครับ เอาแบบ เบๆ ง่ายๆ ก็เช่น
 
โพลล์ถามว่า ท่าน พึงพอใจกับนโยบายของรัฐบาล พท. เรื่องใดของรัฐบาลมากที่สุด 
1. รถคันแรก
2. บ้านคันแรก
3. รายได้ 15,000.-
4. ค่าแรง 300
 
โดย กรณี้นี้ 300 อาจจะได้คะแนนมากที่สุด  จึงทำการสรุปโพลว่า 
 
"ประชาชน มีความพึงพอใจ ต่อนโยบายของรัฐบาล พท. โดยนโยบายที่ได้รับความพึงพอใจที่สุดคือ ค่าแรง 300 บาท โดยมีผู้ให้คะแนน  บลาๆๆๆๆ รองลงมาคือ บลาๆๆๆๆๆๆ"
 
โพล ถามว่า ชอบอันไหนมากที่สุด แต่ไม่ได้ถามในเรื่องผลเสีย หรือให้ตอบว่าไม่ชอบ หรือให้ทางเลือกอื่น ไม่ว่าจะเลือกข้อไหนก่อน ก็เท่ากับ "ชอบและพอใจ" ครับ
และนำมาสรุป ว่า "ประชาชนพึงพอใจ" เป็นการตีขลุมสรุปรวมเบ็ดเสร็จ
 
แค่นี้เองครับ ง่ายๆ แบบเบสิกๆ นะ ซึ่งโดยทั่วไป คำถามมันอาจจะอาร์ตกว่านี้หน่อย ให้ดูแล้วเพลินๆ คิดไม่ทันน่ะครับ ส่วนวิธีอื่นๆ ก็อาจจะมี แต่ยังไม่เห็นโพลเทา่ไหร่ครับ ไอ้ที่เอามาให้ดูนี่เหมือนเห็นในเน็ตนี่แหละ แสกนมาให้ดู
 
ผมไม่เคยตอบโพลสักที ไม่รู้มันสำรวจกันแถวไหน

673untitled1.jpg

ตัวอย่างโพลกาก จากสำนักข่าวกาก.. :D :D :D

บังลองเดาดูครับว่าโพลถามประชาชนว่าอะไร
รักในหลวง ห่วงลูกหลาน ร่วมกันต้าน ตระกูลชินวัตร

#15 alucardx

alucardx

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 323 posts

ตอบ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 18:11

คล้ายกับคุณ Bourne ครับ อยากให้ผลแบบไหน เอากลุ่มตัวอย่างที่น่าจะมี corelative
กับผลลัพท์ที่ต้องการได้ (ก็เหมือนตัดกลุ่มประชากรบางประเภทไป ไม่ใช่ตัวแทนของประชากร
ทั้งหมดอย่างแท้จริง)

ตัวอย่างที่ผมเคยเห็น การสอบถามว่าเลือกตั้งเลือกใคร ดันไปสอบถามตั้งแต่ทางเข้า
ดังนั้นจะได้แต่กลุ่มตัวอย่างที่เดินเท้าเข้ามา แต่คนที่ขับรถมาจอดข้างใน จะไม่ได้
รับการสุ่มถามเลย ผมมองว่านี่คือตัวอย่างของการตัดกลุ่มประชากรบางกลุ่มออกไป

#16 wat

wat

    เนตังมะมะ เนโสหะมัสมิ นะเมโสอัตตา.

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,542 posts

ตอบ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 18:31

:mellow:  ทำโพลมันก็ทำวิจัยชิ้นหนึ่งขอรับ อยู่การกำหนดแนวทางว่าต้องการทราบผลอะไร คำถามมีส่วนในการชี้นำคำตอบได้ขอรับ...

 

<_<  ว่าแต่มันอ้างสำนักโพล แต่ใช้โพยทำหรือเปล่าขอรับ ขายแค่ชื่อสถาบันกินแค่นั้น ไม่เคยเห็นมีสำนักไหนเอาข้อมูลดิบ หรือแม้แต่วิธีการทำ, สูตรคิดมาเปิดเผยสักคน ทั้งที่เป็นกฎการทำวิจัยเลยด้วยซ้ำขอรับ...

พอทราบกฏมาตรฐานไหม?จะได้เทียบถูก

 

 

:(  แฮะๆๆ  คืนท่านคณาจารย์ไปหมดแย้วสิขอรับ หลายสิบปีแล้วขอรับ...


:) Sometime...Sun shine through the rain...

#17 sigree

sigree

    มหาเมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,883 posts

ตอบ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 18:42

สามขั้นตอนที่สำคัญคือการตั้งคำถาม การสุ่มตัวอย่าง และการแปรผล
ตั้งคำถามชี้นำก็เป็นเรื่องง่ายๆ แค่เอาแต่ตัวเลือกที่เป็นประโยชน์ใส่เข้าไป เพราะไม่ต้องการความถูกต้องอะไรไงครับ เลยไม่ต้องตัดเรื่องอคติ ไบแอสต่างๆ
คนก็ต้องตอบแต่คำถามที่ไม่มีตัวเลือก
อย่างที่สองการสุ่มตัวอย่าง อันนี้ง่ายครับมีสูตรคำนวณว่าต้องใช้คนกี่คนแทนประชากรทั้งหมดแล้วให้ผลคลาดเคลื่อนไม่เกินกี่เปอร์เซ็นต์ แต่ปัญหาในทางปฏิบัติที่จำนวนคนไม่กระจายตัวอย่างถูกต้องไปกระจุกอยู่ที่คนบางกลุ่มเป็นพิเศษ ซึ่งจะทำให้โพลกลายเป็นโพยไป แต่คนทำโพลเขาไม่ยอมรับหรอกครับว่าข้อมูลเขากระจุกตัวหรือไม่

สุดท้ายการแปรผล อันนี้จะบอกได้เลยว่าทำมาเลียใคร โพลเมืองไทยไม่เคยบอกค่าความคลาดเคลื่อน เอาแต่ตัวเลขเป๊ะๆมาแสดง อย่างบอกว่าพงศพัศนำคุณชายอยู่สิบเปอเซนต์ แต่ความคลาดเคลื่อนเป็นบวกลบเจ็ด ในทางสถิติมันจะไปสรุปว่านำไม่ได้ครับ ต้องบอกว่า ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ

น่าสนใจ

สรุปได้ตรงดี  ขั้นตอนของโพลล์หลักมี 3 ขั้นคือ

 

การตั้งคำถาม

 

การสุ่มตัวอย่าง

 

การแปรผล

 

ผมมองขั้นสุดท้ายน่าจะบิดยากนะ



#18 promotion

promotion

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,761 posts

ตอบ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 18:55

ไม่เคยถูกสำรวจโดยโพลล์พวกนี้เลย



#19 asawinee

asawinee

    ปฏิรูป ก่อน เลือกตั้ง

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 9,003 posts

ตอบ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 19:41

*
POPULAR

ชำแหละโพลเพี้ยน

http://www.oknation....1/06/26/entry-1

 

ตั้งแต่นายกอภิสิทธิ์ประกาศยุบสภา
บรรดาโหราจารย์ยุคดิจิตอลตามสำนักศึกษา อีกทั้งเกจิของสื่อ ของพรรคการเมืองต่างๆ
ได้ออกมาป่าวประกาศตัวเลขจำนวน สส. ว่าพรรคโน้นนำ
พรรคนี้ชนะขาด พรรคนั้นถูกทิ้งไม่เห็นฝุ่น ฯลฯ แถมยังเกทับบลัฟแหลกกันอีกว่า “โพลล์” ของสำนักตนเองนั้น ถูกต้องตามระเบียบวิธีวิจัย
น่าเชื่อถือกว่าของสำนักอื่นๆ เป็นอันมาก สารพัดโพลล์ออกมาประชันกันซ้ำๆ จนเอียนและเหม็นเบื่อ

 

 ดูไปแล้วช่างอนาถ
น่าอ่อนเปลี้ยละเหี่ยใจกับความเพี้ยนอันไร้ขีดจำกัดของตัวเลข สส. ที่ถูกนำเสนอผ่านสื่อแบบผ่านน้ำร้อนเร็วๆ (ลวกๆ) จนคนที่เชียร์มวยรองเกิดอาการของขึ้น ‘รมณ์เสีย ส่วนคนที่รักพรรคที่มาแรงแซงคนอื่นก็กระหยิ่มยิ้มย่อง
ทำอย่างกับชนะเลือกตั้งไปแล้วยังไงยังงั้น ที่น่ากลัวที่สุดคือพวกที่ยังไม่ตัดสินใจ
แต่ไม่อยากเป็นฝ่ายแพ้จะหลงเชื่อกระแสตัวเลขฉาบฉวยจนคล้อยตาม ยอมเลือกตามกระแสโพลล์สร้างภาพ
สส.หรือพรรค ดีไม่ดีไม่ว่า
ขอข้าเป็นคนเลือกฝ่ายชนะ ว่างั้นเหอะ

 

 โอกาสนี้ขอแสดงภูมิอันมีอยู่น้อยนิด
วิเคราะห์เจาะลึกถึงความเพี้ยนของโพลล์ ตามที่เคยได้เรียนและทำมาบ้าง

 

 การทำโพลล์เป็นหนึ่งในงานวิจัยซึ่งมีหลักการทางสถิติ
มีระเบียบวิธีวิจัยที่ใช้กันอยู่ทั่วโลก ไม่ว่าจะไปทำโพลล์ที่เลโซโท อียิปต์
อเมริกา ปาปัวนิวกีนี หรือแม้แต่ที่ประเทศไทย
ก็ต้องใช้หลักการทางวิชาการอย่างเดียวกัน เช่น
กลุ่มตัวอย่างจะต้องสุ่มมาใช้อย่างน้อยกี่คนถึงจะน่าเชื่อถือทางสถิติ
ก็ต้องมีวิธีการคำนวณจากประชากรแต่ละกลุ่มอายุ แต่ละเศรษฐฐานะ แต่ละการศึกษาฯลฯ

 

 ขออธิบายให้เห็นภาพการทำโพลล์ด้วย
“แกงเขียวหวานไก่โมเดล” จะได้เห็นภาพชัดๆ จะๆ

เมื่อคุณแกงเขียวหวานไก่หม้อใหญ่เสร็จใหม่ๆ
ภายในหม้อจะประกอบไปด้วยประชากรคือ  

 

ก. น้ำแกงเขียวหวาน (ปริมาณมากที่สุด)

 

ข. มะเขือพวง(มากพอควร)

 

ค. มะเขือเปราะ

 

ง. เนื้อไก่ ( ค.และ ง.สองอย่างนี้มากพอๆ กัน)

 

จ. ใบโหระพา (มีจำนวนน้อย)

 

ฉ. พริกชี้ฟ้าซอย (มีน้อยที่สุด)

 

            คราวนี้คุณจะเอาแกงเขียวหวานมาวิเคราะห์ว่า
แกงนี้มีคุณค่าทางอาหารเท่าไหร่ มียาฆ่าแมลงปะปนมากน้อยแค่ไหน โดยที่คุณไม่อยากเปลืองเงินและเปลืองเวลาวิเคราะห์แกงทั้งหม้อ วิธีที่ง่ายคือ “สุ่มตัวอย่าง” ด้วยการใช้ทัพพีคนแกงให้เข้ากันดี
แล้วตักแกงมาหนึ่งชาม ภายในชามประกอบไปด้วยน้ำแกง มะเขือ เนื้อไก่ ฯลฯ
ครบถ้วนในอัตราส่วนเดียวกับแกงทั้งหม้อ อะไรที่ควรจะมากก็มาก
อะไรที่ควรจะน้อยก็น้อย ทีนี้คุณจะไปวิเคราะห์วิจัยยังไงก็จะได้ผลที่น่าเชื่อถือและถูกต้องตามความเป็นจริง

 

          แล้วทำไม
ผลการวิเคราะห์แกงเขียวหวานไก่ของเจ้าสำนักโพลล์ถึงได้เพี้ยนได้สุดกู่ล่ะ
สาเหตุมันมีได้ร้อยแปดพันประการเชียวนะ ขอลองยกตัวอย่างมาเท่าที่นึกออกได้แล้วกัน 

1. ชามแกงเล็กเกินไป
ใส่แกงได้นิดเดียว อัตราส่วนของประชากรแต่ละประเภทของแกงในหม้อกับในชามเลยไม่เท่ากัน

 

พวกที่ทำโพลล์
โดยใช้กลุ่มตัวอย่างนิดเดียวแล้วออกมาป่าวประกาศผลโพลล์ด้วยความภาคภูมิใจ
ไม่คิดหรือไงว่าคนอ่านที่เขาเจาะลึกข้อมูลจะส่ายหน้าระอา

 

ล่าสุดมีโพลล์ของสำนักศึกษาที่ทำการศึกษาในเขตเลือกตั้งภาคอีสาน
126 เขต ใช้จำนวนตัวอย่างเขตละ 100คน

 

100คน!
จะเป็นตัวแทนของคนที่มีสิทธิ์เลือกตั้งเป็นแสนในแต่ละเขตได้ยังไง

 

2. วิธีการตักแกง
ก่อนที่จะตัก คนตักต้องคนให้ส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันดี ไม่ใช่ขี้เกียจคน
ไปจ้วงเอาแต่ด้านบนของแกง ซึ่งก็จะได้แต่ใบโหระพา พริกชี้ฟ้าซอย
กับน้ำแกงที่ข้นมันย่อง ซะเป็นส่วนใหญ่ ได้มะเขือพวงบ้าง
ส่วนมะเขือเปราะกับเนื้อไก่น่ะเหรอ เฮอะ… หมดสิทธิ์
ต่อให้คุณใช้ชามแกงใหญ่เท่ากาละมัง แต่ถ้าวิธีตักแกงของคุณผิด
มันก็ไม่สามารถเป็นตัวแทนแกงทั้งหม้อได้

 

สำนักโพลล์หลายสำนักมักจะจ้างเด็กนักศึกษา
(ในที่นี้ขอเรียกว่า “เด็กเดินโพลล์”) โทรศัพท์ไปตามบ้าน
เพื่อถามคนมีสิทธิ์เลือกตั้ง วิธีนี้ประหยัด สะดวก ง่ายดี แต่ขอโทษ “มักง่าย”ด้วย
กลุ่มตัวอย่างที่ต้องการศึกษาส่วนใหญ่ไม่อยู่บ้านในเวลากลางวันหรอก
เพราะเขาออกไปทำงานกันหมด โทร.ไปก็ไม่มีคนรับ
ถึงจะมีคนรับก็เป็นเด็กรับใช้ซึ่งมีสิทธิ์เลือกตั้งที่อื่น
ดีไม่ดีเจอคนรับใช้ที่เป็นแรงงานต่างด้าวให้ข้อมูลแทนเจ้านายจนเข้ารกเข้าพงไปซะอีก บางคนที่รับสายก็ไม่สะดวก ไม่ว่างที่จะตอบ
ปฏิเสธที่จะตอบเพราะไม่ชอบให้ใครละเมิดสิทธิส่วนบุคคล
ไม่ตอบเพราะไม่อยากตกเป็นเครื่องมือให้เจ้าสำนักโพลล์เอาไปหากินฟรีๆ ไม่อยากตอบเพราะเบื่อ
รำคาญ ไม่กล้าตอบเพราะไม่รู้จะเอาข้อมูลของเราไปทำอะไร
ไม่ตอบตามจริงเพราะกลัวคนถามมาเอาเรื่อง มาข่มขู่
โน้มน้าวให้เราทำตามที่เขาต้องการ ไหนๆ ก็รู้เบอร์โทร.ของเราแล้ว คงรู้ข้อมูลอื่นๆของเราด้วย สารพัดจะทำให้ข้อมูลบิดเบี้ยว

 

เด็กเดินโพลล์หลายคนใช้วิธีเดินไปถามตามบ้านแบบโจ่งแจ้ง
ไม่ดูตาม้าตาเรือเลยว่าคนที่ถูกถามอยู่ในสภาพแวดล้อมยังไง
คนถูกถามบางคนเป็นคนค้าขาย
เขาจะกล้าตอบตามใจคิดได้ยังไงในเมื่อลูกค้าของเขายืนหัวโด่อยู่ในร้าน
ถ้าตอบตรงกับที่ลูกค้าชอบก็ดีไป แต่ถ้าไม่ตรงล่ะ อย่างเบาะๆ ก็เตรียมตัวเสียลูกค้า
อย่างหนักก็โดนดักทำร้ายหรือพังร้านได้เลย
ช่วยไม่ได้ที่สมัยนี้ความรุนแรงมันมีเยอะ
ไม่พอใจใครก็สั่งสอนมันให้เดี้ยงโดยไม่ต้องคำนึงถึงขื่อแป และอีกเช่นกันที่เด็กเดินโพลล์เข้าไปเคาะประตูบ้านแล้วไม่เจอเจ้าของบ้าน
เจอแต่คนรับใช้ เอาวะ.. ไหนๆก็ตากแดด
ตากฝน เหนื่อยจะตายได้เงินนิดเดียว เมคๆ ข้อมูลแล้วกัน ถามคนรับใช้แทน
อาจารย์เจ้าสำนักจะไปรู้ได้ยังไง

 

เด็กเดินโพลล์บางคนก็ไปดักถามตามห้างสรรพสินค้า
ตามสถานที่ราชการ มหาวิทยาลัย สวนสาธารณะที่มีคนเยอะๆจะได้มีข้อมูลครบถ้วน เสร็จเร็วๆ
เคลมไวๆ ก็แหม… อาจารย์ที่สอนวิชาการตลาดบางท่านเคยให้ไปเก็บข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าอุปโภคบริโภค
เช่น ยาสีฟัน
สบู่ ยาสระผม ฯลฯ
ตามสถานที่ต่างๆเหล่านี้นี่นา ถ้าจะผิดก็ให้ไปโทษอาจารย์โน่น

 

3. คนตักลำเอียง
เช่น คนตักอยากกินเนื้อไก่ กับมะเขือเปราะเยอะๆ ก็เลือกตักเอาแต่ของที่ตัวเองชอบ

 

พวกนี้มักจะเป็นผลโพลล์จากบรรดาพรรคการเมืองที่ต้องการสร้างกระแสให้พรรคของตัวเอง
“ขึ้นฟู” ดูดี ชนะคู่แข่งแบบขาดลอย
เลยลองทำโพลล์ด้วยการไปสอบถามพรรคพวกเพื่อนฝูง แนวร่วมเดียวกัน อวยกันไปก็อวยกันมา
ผลที่ได้ก็ได้อย่างที่ตัวเองอยากให้เป็น

           โพลล์ชี้นำก็ตกอยู่ในข่ายนี้อีกเช่นกัน
ตามหลักวิชาการแล้ว คำถามที่ตั้งขึ้นต้องผ่านการพิจารณาจากผู้เชี่ยวชาญในสาขานั้นๆ
หลายคน(จำนวนผู้เชี่ยวชาญหาได้จากการคำนวณทางสถิติอีกนั่นแหละ)
ว่า คำถามนั้นจะต้องไม่อคติ
ไม่ลำเอียง และ “วัดในสิ่งที่ต้องการวัด”
ไม่ใช่ต้องการสำรวจเรื่องช้าง
แต่ไปตั้งคำถามเรื่องม้า แถมยังชี้นำให้ตอบแต่เรื่องม้าๆ อีกต่างหาก  นอกจากคำถามที่ชี้นำคำตอบแล้ว
กิริยาท่าทางของเด็กเดินโพลล์ก็มีส่วนทำให้เกิดการชี้นำได้ด้วย ถ้าตอบไปแล้ว
เด็กเดินโพลล์ไม่ถูกใจหน้าบึ้งหน้างอ ถามต่อด้วยน้ำเสียงกระโชกโฮกฮาก
คนไทยเราบางคนก็ขี้เกรงใจเลยตอบแบบถนอมน้ำใจคนถาม ซึ่งพอเสร็จสิ้นการสำรวจ
คนตอบจะเมื่อยไปทั้งตัว เพราะเกร็งกับการเก็งใจเด็กเดินโพลล์ 

อีกตัวอย่างที่ขำไม่ออกคือ
ช่วงยุบสภาใหม่ๆ มีสื่อกระดาษยักษ์ใหญ่เจ้าหนึ่งลงผลการสำรวจทางอินเตอร์เน็ตในคอลัมน์หนึ่ง
ผลการสำรวจพบว่า เมื่อให้คนโหวตผ่านกระทู้ในเว็บบอร์ด พบว่า
มีคนโหวตพริกชี้ฟ้าแดงหลายร้อยคน ส่วนคนที่โหวตมะเขือเปราะมีไม่ถึงสิบคน
คนเขียนคอลัมน์เลยเอาข้อมูลอื่นๆ ที่พยายามไปสรรหามาสนับสนุน
บวกกับขัอมูลที่ว่าสรุปแบบฟันธงว่าคนไทยส่วนใหญ่เลือกพริกชี้ฟ้าสีแดง

 

เอ้า…
เอาเข้าไป
กลุ่มตัวอย่างมีกระจิ๊ดเดียว แถมยังโหวตผ่านเว็บพริกชี้ฟ้าสีแดงแจ๋อีกต่างหาก
มะเขือเปราะที่ไหนจะเข้ามาดู งานนี้นอกจากชามแกงจะเล็กเกินไปแล้ว
ยังเลือกตักกินแต่พริกชี้ฟ้าสีแดงอีก

 

4. คนตักตักแกงใส่ชามสองสามทัพพีพอเป็นพิธี
(จะได้มีแกงเหลือในหม้อไว้กินเยอะๆหรือไงไม่ทราบ)
เสร็จแล้วจัดแจงเติมน้ำเปล่าลงไปแทนให้เต็มชาม
คนตักบางคนยิ่งร้าย เติมน้ำโคลนลงไปผสมด้วย

 

เด็กเดินโพลล์หลายคน
เก็บข้อมูลไปแล้วท้อใจ เจอคนไม่ให้ความร่วมมือเยอะมาก ทำให้เก็บข้อมูลไม่ครบ
กลัวอดได้ตังค์จากเจ้าสำนัก บางคนก็ขี้เกียจเก็บข้อมูลเลยตัดสินใจเอาตัวรอดด้วยการ
“เมคข้อมูล” สารพัดวิธี บางคนเชี่ยวชาญหน่อย
ก็เอาปากกาหลากสีหลายแบบ
ดัดแปลงลายมือเขียนลงไปในแบบสอบถามให้ดูเหมือนมีคนตอบจริงๆ
บางคนก็เอาข้อมูลที่ทำมาก็อบปี้ทำซ้ำไปเลย สมมติหาข้อมูลมาได้ 30 คน แต่เจ้าสำนักบอกว่า ต้องหาให้ได้ 120
คน ก็เอาข้อมูลทั้ง 30 คนมาทำซ้ำแบบคูณ 4

 

แหล่งที่เด็กเดินโพลล์มักไปจับกลุ่มสุมหัวกันเมคข้อมูลนั้น
มักเป็นตามศูนย์อาหารในห้าง นอกจากจะมีแอร์เย็นๆ ไม่ต้องไปออกสนามแล้ว
ยังมีโต๊ะกินข้าวใช้นั่งทำงานกันโดยที่ไม่มีใครมาไล่ พวกนี้มักจะไปนั่งทำงานกันตั้งแต่บ่ายแก่ๆ
จนเย็น เพราะในช่วงเวลานี้ไม่ค่อยมีลูกค้าของห้างมาใช้บริการเท่าไหร่
เลยไม่เป็นที่สังเกตของคนอื่น

 

5. ตักแกงที่คนอย่างดีได้เต็มชามแล้ว
แต่ตักทิ้งไปแบบมั่วๆ หนึ่งหรือสองทัพพี แล้วเอาแกงที่เหลือในชามไปวิเคราะห์

 

สำนักโพลล์ที่ออกมาคุยเขื่องว่า
โพลล์ของเขามีคนที่ยังไม่ตัดสินใจน้อยมาก ส่วนใหญ่ตัดสินใจเลือกแล้ว
เพราะเขาง้างปากคนถูกถามได้ทุกคนให้ตอบตามจริง
เกทับอีกว่าดีกว่าโพลล์ของสำนักอื่นที่มีคนยังไม่ตัดสินใจหลายสิบเปอร์เซนต์ ก็แน่ล่ะสิ ตอนที่สุ่มตัวอย่างนั้น
สมมติคำนวณว่าต้องใช้กลุ่มตัวอย่าง100 คน พอไปถามคนทั้งหมดนี่
เกิดมีคนไม่ยอมตอบหรือตอบไม่ครบทุกคำถามที่เป็นหัวใจสำคัญสัก 30 คน ทั้ง 30 คนนี้จะถูกคัดออกก่อนเลย เพราะไม่มีข้อมูลเอาไปใช้ในการวิเคราะห์
เหลืออีก 70 คนที่เอาไปวิเคราะห์ได้
ผลก็เป็นอย่างที่เขาบอกนั่นแหละ …. คนที่ยังไม่ตัดสินใจมีน้อยมากกกกกก…….เจ๋งกว่าคนอื่นไหมล่ะ

 

6. ตักแกงมาสองสามทัพพี
แล้วไปเอาแกงจากแกงกล่องสำเร็จรูปมาเติมให้เต็มชาม

 

พวกโพลล์ทาสมักเป็นเช่นนี้
หาข้อมูลมาสักหน่อยกันคนครหา จับมายำรวมกับโพลล์ที่นายทุนสั่งมา
จนได้ผลตามที่นายทุนต้องการแล้วป่าวประกาศออกสื่อดังๆ ย้ำ! ต้องออกสื่อดังๆ ไหนๆนายทุนจะเสียเงินแล้ว
ต้องเอาให้คุ้ม

 

7. ไม่ได้ตักแกงสักชาม
แต่เอาหม้อแกงเก่าๆ มานั่งดู

 

วิธี
นี้พวกเกจิตามสื่อนิยมใช้มาก
เอาผลการเลือกตั้งเมื่อสี่ปี่ก่อนมาเป็นตัวตั้ง
บวกลบคูณหารกับสิ่งที่ได้ยินได้ฟัง
เอากระแสต่างๆมานำทางมาผสมผสานจนได้โพลล์ออกมา
สื่อบางคนก็เกิดจะมีหลักวิชาการขึ้นมาทันใด เอาผลการเลือกตั้งย้อนหลังหลายๆ
ครั้งมายำใหญ่แล้วบอกว่านี่คือข้อมูลทางสถิติที่น่าเชื่อถือ

 

อยากจะหัวเราะเป็นภาษาเยอรมัน
หม้อแกงเมื่อสี่ปี่ก่อนและก่อนหน้านั้นน่ะ มันบูดเน่าไปถึงไหนแล้ว
จริงอยู่ที่บางครั้งการใช้วิธีเอาหม้อแกงเก่ามานั่งดูจะได้ผลลัพธ์ที่ใกล้เคียงความเป็นจริง
ถ้าประชากรในหม้อแกงไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปมากนักทั้งปริมาณและความคิด ยึดติดและจงรักภักดีแบบไม่ลืมหูลืมตากับพรรคที่ตัวเองรัก ผลที่ได้ก็เซมๆ
เดิม

 

แล้วถ้าหม้อแกงที่เพิ่งต้มสุกใหม่ๆ
มีประชากรใหม่ๆ เกิดขึ้นหลายล้านคน ประชากรเก่าๆ ที่มีความคิดเปลี่ยนไปเพราะนโยบายที่ตอบโจทย์ตัวเอง
ประชากรที่ “ตาสว่าง” รู้ตัวว่าถูกหลอก ประชากรที่เข้าถึงข้อมูลข่าวสารเชิงลึกได้อย่างมากมายและรวดเร็วผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ค ประชากรที่ถูกล็อกผลด้วยนักการเมืองท้องถิ่นจนเกิดโมเดลใหม่เป็นที่ฮือฮาจากการเลือกตั้งซ่อมเมื่อครั้งที่แล้ว ประชากรที่ชอบอยู่แบบเงียบๆ เกิดพร้อมใจกันลุกออกมาแสดงพลัง
ประชากรที่ไม่เคยจงรักภักดีพรรคไหนแต่อยากให้ชาติบ้านเมืองก้าวหน้าไปได้
ประชากรที่ไม่เคยจงรักภักดีพรรคไหนแต่เคารพเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ล่ะ 

 

“ของจริง”
ที่ไม่ใช่โพลล์จะยังเป็นเช่นนี้อีกไหม

 

อย่างไรก็ตาม โพลล์
ไม่ใช่ผลลัพธ์ของการเลือกตั้ง แต่มีผลต่อการสร้างกระแส สร้างภาพ ดังนั้นการทำโพลล์
จึงต้องอาศัยหลักวิชาการ และดำเนินวิธีวิจัยตามหลักการจริงๆ
ดำเนินการโดยมืออาชีพทุกลำดับชั้นในการทำโพลล์ ปราศจากอคติใดๆ การนำเสนอผลต้องเน้นในข้อเท็จจริง
ผลของโพลล์บอกว่าคะแนนนำอันดับหนึ่งคือ “ยังไม่ตัดสินใจ” ก็ต้องบอกตามนั้น
แม้มันจะไม่ตอบคำถามของชาวบ้านหรือผู้ออกทุนวิจัยที่ว่าพรรคไหนจะชนะพรรคไหนก็ตาม



#20 Diablo

Diablo

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 566 posts

ตอบ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 19:52

ง่ายสุดพอแปรผลแบบสอบถามเป็นตัวเลขคะแนนดิบ ก็แก้ตัวเลขคะแนนดิบเอาดื้อๆเลยก็ได้ครับ แล้วมานั่งดูผลสุดท้ายว่ามันสวยไหม ไม่สวยก็ค่อยไปแก้คะแนนดิบเอาใหม่


"The price good men pay for indifference to public affairs is to be ruled by evil men."

#21 คนกรุงธน

คนกรุงธน

    เมพ

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 6,129 posts

ตอบ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 20:33

http://webboard.seri...ดโพลปล่อยไก่แห/

http://www.oknation....2/12/21/entry-2


ขอขอบคุณ พี่ขนฟู


วันศุกร์ ที่ 21 ธันวาคม 2555                        

                เอแบคโพล สุดยอดโพลปล่อยไก่แห่งปี 2555 อายไหมล่ะ นพดล กรรณิการ์          

    เมื่อวันที่ 20 ธค.2555 ดร.นพดล กรรณิการ์ ผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพล มหาวิทยาลัยอัสสัมชัน เปิดเผลผลสำรวจเรื่อง สุดยอด CEO แห่งปี 2555 ในสายตาพนักงานบริษัทเอกชน จากทั้งหมด 895 ตัวอย่าง พบว่า


สุดยอด CEO แห่งปี 2555 ในภาคเอกชน ได้แก่ - นายตัน ภาสกรนที ได้ร้อยละ 34.7 - - นายปัญญา นิรันดร์กุล ได้ร้อยละ 25.5 - - นายวิกรม กรมดิษฐ์ ได้ร้อยละ 13.9 - นายสรยุทธ์ สุทัศนะจิตดา ได้ร้อยละ 12.2


สุดยอด CEO แห่งปี 2555 ในภาครัฐ
ได้แก่ -- พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาทหารบก ได้ร้อยละ 43.5 - -
พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ร้อยละ 22.6 - -
พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญเลขาธิการ ป.ป.ส. และรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
ได้ร้อยละ 12.6 - -พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ อดีตผู้บัญชาตำรวจแห่งชาติ
10.0



สุดยอด CEO แห่งปี 2555 ในกลุ่มนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย ได้แก่ - -พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้รัอยละ 32.8 - - นายอานันท์ ปันยารชุน ได้ร้อยละ 20.7 - - พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ได้ร้อยละ 12.8 - - นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้ร้อยละ 11.5



  

หลังจากเปิดเผลโพลออกมาก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากหลายโดยเฉพาะการทำโพลที่
เหมือนจะยังไม่พ้นไปจากการสร้างกระแส พ.ต.ท.ทักษิณ
ไว้ให้อยู่ในกระแสความนิยมชมชอบของคนทั่วไปอยู่
ซึ่งเอแบคโพลมักจะทำเช่นนี้อยู่เสมอ ๆ นั่นก็ไม่แปลกอะไร
เพราะเป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่าโพลของเอแบคนั้นเป็นเช่นไร รวมทั้ง CEO แห่งปีของภาครัฐที่ทำตัวเลือกไว้ให้เป็นตำรวจถึงสี่คน ก็ตามที


    แต่
สิ่งที่น่าสนใจและคิดว่านี่คือการปล่อยไก่ของเอแบคโพล ก็คือ
ผลสำรวจที่ใช้ชื่อว่า "สุดยอด CEO แห่งปี" ไปถามใคร ๆ
ก็ต้องเข้าใจว่าเป็นผลงานของบุคคลนั้นๆ ที่ปฏิบัติมาในรอบปี 2555


 และโพลลักษณะนี้เป็นโพลแห่งปีที่จัดขึ้นช่วงสิ้นปีอันเป็นที่นิยมทำกันหลายสำนัก แต่พอมาถึง สุดยอด CEO แห่งปี 2555 ในกลุ่มนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย ก็เลยต้องสงสัยว่าในปี 2555 ประเทศไทยมีนายกรัฐมนตรีกี่คน มีมากพอจะจัดเป็นกลุ่มแล้วเลือกเอาสุดยอดออกมาหนึ่งคนอย่างนั้นเชียวหรือ ก็
ในเมื่อนายกรัฐมนตรีที่ยกมาให้ประชาชนเลือกตอบแบบสอบถาม
ท่านไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีในปี 2555 แล้วท่านมีผลงานสุดยอดในปี
2555ได้อย่างไร 


  เอา
ละถ้าจะตะแบงกันว่าเป็นการสอบถามในปี
2555ว่านายกรัฐมนตรีท่านใดมีความเป็นสุดยอดที่สุดคำถามก็ไม่น่าตั้งมาเช่น
นั้น
แต่ถ้าเป็นเช่นนั้นก็ไม่เป็นธรรมกับนายกรัฐมนตรีอีกหลายท่านเช่นนายบรรหาร
ศิลปอาชา  พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ ไปเว้นท่านไว้ทำไม
หรือถ้าจะอ้างว่าเป็นผลงานการเป็นผู้นำของกลุ่มผู้ที่เคยเป็นนายกรัฐมนตรี
ก็ไม่น่าจะใช่อีกนั่นแหละ เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ มิได้เป็น CEO
ที่ใดนอกจากเป็นนักโทษหนีคดีจากประเทศไทย



 เพราะฉะนั้นไม่อยากจะคิดว่าเอแบคโพลรีบร้อนทำโพล ตามคำสั่งของใครหรือไม่อย่างไร

จึงได้ปล่อยไก่ออกมาเช่นนี้ แต่อย่างไรก็ตามก็คงต้องยกให้ โพลนี้ของเอแบคโพล เป็นโพลปล่อยไก่แห่งปี 2555 ไปอย่างไร้คู่แข่งขัน


:D :D :D :D :D


"น้อมส่งเสด็จสู่พระนิพพาน"


#22 Norachon

Norachon

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 377 posts

ตอบ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 21:32

โพลงานการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนธรรมดาๆ ไม่ถือว่าเป็นงานวิจัยที่ต้องดำเนินการตามระเบียบวิธีวิจัยอย่างรัดกุม ในประเทศที่เจริญแล้วโพลถือว่ามีความเชื่อถือได้ในระดับหนึ่งเพราะมีฐานข้อมูลประชากรให้สุ่มตัวอย่างได้ครบถ้วนครอบคลุม แต่ในไทย แม้แต่งานวิจัยก็ยังไม่มีมาตรฐานเลย ลอกๆกันมาก็มี ดูวิทยานิพนธ์นักศึกษาเป็นตัวอย่าง อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าโพลหรืองานวิจัย ผลของมันก็ขึ้นอยู่กับจรรยาบรรณของผู้ทำด้วยว่าซื่อตรงต่อวิชาชีพของตัวเองมากน้อยแค่ไหน ถ้าตั้งใจจะบิดมันก็บิดได้ เพราะคงไม่มีใครเข้าไปตรวจสอบข้อมูลดิบว่าเป็นมาอย่างไร โพลบางชิ้นจึงกลายเป็นเครื่องมือโฆษณาชวนเชื่อสร้างกระแสเพื่อให้เรื่องเท็จกลายเป็นจริงขึ้ันมาเหมือนที่พรรคบางพรรคทำ คือพูดซ้ำๆซากๆสร้างกระแสหลายๆด้านอย่างเป็นระบบพร้อมๆกัน จากคนที่ไม่เชื่อก็ชักจะลังเล จากคนที่ลังเลก็เชื่อ ซึ่งจะใช้ัได้ผลในระดับหนึ่ง



#23 chaidan

chaidan

    กา... กา... กา...

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,999 posts

ตอบ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 21:42

ไอ้โพลธรรมดาๆ เนี้ยพอเข้าใจว่ามันบิดได้.....
แต่ไอ้ exit poll เนี้ย.... มันบิดกันได้ยังไง?....

หรือต้องให้ถามหา... จรรยาบรรณ....

:angry:


ใครที่บอกว่า "กาขาว" เป็นฝรั่ง....ผมว่าไม่ใช่......

#24 a.mtvv

a.mtvv

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 2,190 posts

ตอบ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 01:35

เคยทำโพลออกไปสอบถามคนตอนเรียนวิชา Marketing Research ที่มหาวิทยาล้ยครับ

บิดโพล ไม่ยากครับ ถ้าเราอยากให้ผลออกมาแบบไหน ก็ออกไปถามกลุ่มคนที่มีแนวโน้มที่โอนเอียงตามผลลัพธ์ที่เราต้องการ

เช่น ถ้าสวน (สัตว์) ดุสิตโพยอยากทำโพลอวยอีปูว์ ซึ่งก็รู้อยู่แล้วกลุ่มคนที่มีแนวโน้มที่จะชอบอีปูว์ก็คือ พวกผู้ใช้แรงงาน รากหญ้า ก็ไปตามย่านที่มีคนกลุ่มนี้อาศัยแยะ ๆ หรือหาคนกลุ่มนี้มาตอบโพลแยะ ๆ ซึ่งคนกลุมนี้ม้นกระจายอยู่ทุกเขตแหละครับ  จะถามคนแถวถนนสีลมก็ได้ แต่ให้ถามพวกพ่อค้าไข่ปิ้ง แม่ค้ากล้วยปิ้ง คนขับแท็กซี่ แถวนั้น เสร็จแล้วก็เอามาอ้างว่า คนสีลมอวยอีปูว์

อีกวิธีที่ง่ายกว่า คือ ตามเอง ตอบเองครับ

ใช่เลยครับ เลือกตั้งรอบที่แล้ว เห็นคนถามโพล ทำ exit pole

พวกดูดีแบบผม มันไม่ตอแยเลยครับ



#25 baezae

baezae

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,966 posts

ตอบ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 04:50

สามขั้นตอนที่สำคัญคือการตั้งคำถาม การสุ่มตัวอย่าง และการแปรผล
ตั้งคำถามชี้นำก็เป็นเรื่องง่ายๆ แค่เอาแต่ตัวเลือกที่เป็นประโยชน์ใส่เข้าไป เพราะไม่ต้องการความถูกต้องอะไรไงครับ เลยไม่ต้องตัดเรื่องอคติ ไบแอสต่างๆ
คนก็ต้องตอบแต่คำถามที่ไม่มีตัวเลือก
อย่างที่สองการสุ่มตัวอย่าง อันนี้ง่ายครับมีสูตรคำนวณว่าต้องใช้คนกี่คนแทนประชากรทั้งหมดแล้วให้ผลคลาดเคลื่อนไม่เกินกี่เปอร์เซ็นต์ แต่ปัญหาในทางปฏิบัติที่จำนวนคนไม่กระจายตัวอย่างถูกต้องไปกระจุกอยู่ที่คนบางกลุ่มเป็นพิเศษ ซึ่งจะทำให้โพลกลายเป็นโพยไป แต่คนทำโพลเขาไม่ยอมรับหรอกครับว่าข้อมูลเขากระจุกตัวหรือไม่

สุดท้ายการแปรผล อันนี้จะบอกได้เลยว่าทำมาเลียใคร โพลเมืองไทยไม่เคยบอกค่าความคลาดเคลื่อน เอาแต่ตัวเลขเป๊ะๆมาแสดง อย่างบอกว่าพงศพัศนำคุณชายอยู่สิบเปอเซนต์ แต่ความคลาดเคลื่อนเป็นบวกลบเจ็ด ในทางสถิติมันจะไปสรุปว่านำไม่ได้ครับ ต้องบอกว่า ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ

น่าสนใจ

สรุปได้ตรงดี  ขั้นตอนของโพลล์หลักมี 3 ขั้นคือ

 

การตั้งคำถาม

 

การสุ่มตัวอย่าง

 

การแปรผล

 

ผมมองขั้นสุดท้ายน่าจะบิดยากนะ

 

ไม่ยากเลยครับ

 

แบบหน้าด้าน ก็มั่วข้อมูลดิบ แก้ข้อมูลดิบไปเลย

 

แบบมีเชิงหน่อย ก็เคยเห็นสวนดุสิตเคยทำ คือใช้วิธีกำหนดการวิเคราะห์ซ้ำ เพื่อให้ได้ผลที่ต้องการ

 

วิธีที่เค้าทำคือ สมมติสำรวจมาจากตัวอย่างร้อยคน มีคนที่ได้รับการโหวต ๕ คน คะแนน ๓๐ ๒๕ ๒๐ ๑๕ ๑๐ ตามลำดับ

ถ้าเลือกมารายงานแค่ ๓ อันดับแรก หรือเลือกเอาตัวเลือกที่ได้คะแนนสูง มาตั้งเป็นตัวเลือกต่อไป ด้วยสัดส่วนเฉพาะกลุ่มที่เลือก ๓ อันดับแรก สัดส่วนจะกลายเป็น ร้อยละ ๔๒ ๓๓ และ ๒๑

สังเกตว่า สัดส่วนเพี้ยนไปชัดเจน จะกลายเป็น เป็นการทำให้สัดส่วนของตัวเลือกตัวหนึ่ง (โดยเฉพาะตัวที่ต้องการเน้น) ดูห่่างชัดเจนไปอีก ทั้งที่ความจริง มันไม่ได้ห่างกันขนาดนั้น

 


ถ้าคุณเป็นเสื้อเหลือง ผมคุยกับคุณได้ และหัวเราะให้กันได้ถ้าคุณเป็นเสื้อแดง ผมก็คุยกับคุณได้ และหัวเราะใ้ห้กันได้แต่ถ้าคุณเป็นควายล้มเจ้าไม่ว่าจะสีไหน ผมจะด่าอย่างเดียว

#26 IFai

IFai

    รักในหลวง

  • Members
  • PipPipPipPipPip
  • 5,782 posts

ตอบ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 05:35

      การบิดผล

     

      ทุกปี บ.จะมีการเซอร์เวย์ ความพึงพอใจของลูกค้าที่มีต่อบ.  ผลอันนี้สำคัญเพราะต้องส่งไปบ.แม่ที่ญี่ปุ่นด้วย  ผลที่ออกมา ผลงานของทุก"ฝ่าย" อยู่ในเกณฑ์ ผลงาน ดี..มาก,  ข้อด้อย น้อย...น้อยมาก แทบไม่ต้องปรับปรุงอะไรเลย แต่ผมอยู่หน้างาน มันตรงกันข้าม

 

      ต่อมาผมเป็นคนทำเซอร์เวย์อันนั้น  ทำอยู่2-3ปี 

      ปีแรก ก็เกิดเรื่อง ผลความพึงพอใจลดลง ความไม่พอใจเพิ่มขึ้น ...ศัตรูเพิ่มขึ้นโดยไม่ต้องนัดหมาย ทุกเรื่องของผมถ้าเข้าที่ประชุมบ. จะถูกกดดัน/ขัดขวาง จากเกือบทุกฝ่าย

 

      ที่ผมเปลี่ยนแปลง ในการทำเซอร์เวย์ คือ

      1.ตัดหัวข้อคำตอบ ทำนองที่ว่า "เฉยๆ" ออก

      2.บางลูกค้าที่ไม่ตอบคำถามข้อนั้น ผมทำผลสรุปหัวข้อเพิ่ม "ไม่ออกความเห็น"  ...ของเดิมเขาเอาตัวเลขนี้ไปประมวลผล ให้อยู่ในกลุ่มพอใจ

 

      2ข้อข้างบน ทำให้ผลออกมาเปลี่ยนไป (มาก สำหรับบางฝ่าย)

 

      มีผจก.ฝ่าย มาหาผม ...ทุกปีตัวเลขนี้ ก็รวมอยู่ในฝ่ายพอใจ ถ้าเขาไม่พอใจเขาก็ลงไม่พอใจ  ...ผมก็ตอบว่า ในเมื่อเขาไม่ลงความเห็น คุณจะไปออกความเห็นแทนเขาได้ไง 

 

      ผมว่าการทำโพลล์ คงคล้ายๆกัน ...มันขึ้นอยู่กับคนทำโพลล์ เพราะเขาบิดได้ทุกขั้นตอน  จากเริ่มคิดทำโพลล์(งานนี้ได้เท่าไรวะ/อนาคตกูจะได้ตำแหน่งอะไรวะ) ..จนถึงสรุปผลโพลล์ (มึงให้กูแค่นี้ มึงก็เอาผลยังงี้ไป)

 

      ผมเชื่อว่าโพลล์ในต่างประเทศ น่าเชื่อถือเพราะพื้นฐานจิตใจ และความรับผิดชอบในหน้าที่เขาสูงครับ 

 

      เมื่อวานมีข่าว คนเกี่ยวข้องกับสวนสนุกโพลล์ ลาออก มีเหตุผลหนึ่งคือไม่พอใจที่สวนสนุกโพลล์ ไปรับจ้างทำโพลล์ จากก.มหาดไท (มิน่า ผลของทุกการสำรวจ รัฐบาลนี้ จึงดี มีความสามารถราวเทพมาจุติ)

 

       อยากดูว่าตัวหัวหน้าที่ทำโพลล์ จะแสดงอะไรออกมาบ้าง


ประโยชน์สูงสุดของประชาชน คือกฏหมายสูงสุดของประเทศ ...วิชา มหาคุณ


#27 ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

ผึ้งน้อยตุหรัดตุเหร่

    หน้าตาดี มีอุดมการณ์

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 21,670 posts

ตอบ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 06:42

      การบิดผล

     

  ที่ผมเปลี่ยนแปลง ในการทำเซอร์เวย์ คือ

      1.ตัดหัวข้อคำตอบ ทำนองที่ว่า "เฉยๆ" ออก

      2.บางลูกค้าที่ไม่ตอบคำถามข้อนั้น ผมทำผลสรุปหัวข้อเพิ่ม "ไม่ออกความเห็น"  ...ของเดิมเขาเอาตัวเลขนี้ไปประมวลผล ให้อยู่ในกลุ่มพอใจ

 

           มีผจก.ฝ่าย มาหาผม ...ทุกปีตัวเลขนี้ ก็รวมอยู่ในฝ่ายพอใจ ถ้าเขาไม่พอใจเขาก็ลงไม่พอใจ  ...ผมก็ตอบว่า ในเมื่อเขาไม่ลงความเห็น คุณจะไปออกความเห็นแทนเขาได้ไง 

 

ถึงกับอึ้งไปเลยทีเดียวงงๆ.gif

เหมือนผมเพิ่งกิ๊กกับสาวมา เสร็จแล้วถามสาวว่า "ลีลาพี่เป็นไงบ้างจ๊ะ"

สาวตอบ...ไม่ออกความเห็น  แต่ผมรวมประมวลผลไปว่า "เธอพอใจ"....

Oh......!!


gladiator 1.jpg

 

 

 

 

 

 


#28 หลานคนสร้างชาติ

หลานคนสร้างชาติ

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 608 posts

ตอบ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 07:24

      การบิดผล

     

      ทุกปี บ.จะมีการเซอร์เวย์ ความพึงพอใจของลูกค้าที่มีต่อบ.  ผลอันนี้สำคัญเพราะต้องส่งไปบ.แม่ที่ญี่ปุ่นด้วย  ผลที่ออกมา ผลงานของทุก"ฝ่าย" อยู่ในเกณฑ์ ผลงาน ดี..มาก,  ข้อด้อย น้อย...น้อยมาก แทบไม่ต้องปรับปรุงอะไรเลย แต่ผมอยู่หน้างาน มันตรงกันข้าม

 

      ต่อมาผมเป็นคนทำเซอร์เวย์อันนั้น  ทำอยู่2-3ปี 

      ปีแรก ก็เกิดเรื่อง ผลความพึงพอใจลดลง ความไม่พอใจเพิ่มขึ้น ...ศัตรูเพิ่มขึ้นโดยไม่ต้องนัดหมาย ทุกเรื่องของผมถ้าเข้าที่ประชุมบ. จะถูกกดดัน/ขัดขวาง จากเกือบทุกฝ่าย

 

      ที่ผมเปลี่ยนแปลง ในการทำเซอร์เวย์ คือ

      1.ตัดหัวข้อคำตอบ ทำนองที่ว่า "เฉยๆ" ออก

      2.บางลูกค้าที่ไม่ตอบคำถามข้อนั้น ผมทำผลสรุปหัวข้อเพิ่ม "ไม่ออกความเห็น"  ...ของเดิมเขาเอาตัวเลขนี้ไปประมวลผล ให้อยู่ในกลุ่มพอใจ

 

      2ข้อข้างบน ทำให้ผลออกมาเปลี่ยนไป (มาก สำหรับบางฝ่าย)

 

      มีผจก.ฝ่าย มาหาผม ...ทุกปีตัวเลขนี้ ก็รวมอยู่ในฝ่ายพอใจ ถ้าเขาไม่พอใจเขาก็ลงไม่พอใจ  ...ผมก็ตอบว่า ในเมื่อเขาไม่ลงความเห็น คุณจะไปออกความเห็นแทนเขาได้ไง 

 

      ผมว่าการทำโพลล์ คงคล้ายๆกัน ...มันขึ้นอยู่กับคนทำโพลล์ เพราะเขาบิดได้ทุกขั้นตอน  จากเริ่มคิดทำโพลล์(งานนี้ได้เท่าไรวะ/อนาคตกูจะได้ตำแหน่งอะไรวะ) ..จนถึงสรุปผลโพลล์ (มึงให้กูแค่นี้ มึงก็เอาผลยังงี้ไป)

 

      ผมเชื่อว่าโพลล์ในต่างประเทศ น่าเชื่อถือเพราะพื้นฐานจิตใจ และความรับผิดชอบในหน้าที่เขาสูงครับ 

 

      เมื่อวานมีข่าว คนเกี่ยวข้องกับสวนสนุกโพลล์ ลาออก มีเหตุผลหนึ่งคือไม่พอใจที่สวนสนุกโพลล์ ไปรับจ้างทำโพลล์ จากก.มหาดไท (มิน่า ผลของทุกการสำรวจ รัฐบาลนี้ จึงดี มีความสามารถราวเทพมาจุติ)

 

       อยากดูว่าตัวหัวหน้าที่ทำโพลล์ จะแสดงอะไรออกมาบ้าง

 

นี่ไม่ใช่เทคนิคการบิด โพลครับ เป็นการโกงครับ

ใช้ในการ Present ในบริษัทพอได้

 

แต่ทางวิชาการไม่ทำครับ (ทั้งนิดา สวนดุสิต ... ไม่ทำกันครับ)


อันของสูงแม้ปองต้องจิต ถ้าไม่คิดปีนป่ายจะได้หรือ ไม่ใช่ของตลาดที่อาจซื้อ ฤๅแย่งยื้อถือได้โดยไม่ยอม

#29 redfrog53

redfrog53

    เกิดที่รัสเซีย มาโตที่ สรท.

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 25,221 posts

ตอบ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 07:25

      การบิดผล

     

  ที่ผมเปลี่ยนแปลง ในการทำเซอร์เวย์ คือ

      1.ตัดหัวข้อคำตอบ ทำนองที่ว่า "เฉยๆ" ออก

      2.บางลูกค้าที่ไม่ตอบคำถามข้อนั้น ผมทำผลสรุปหัวข้อเพิ่ม "ไม่ออกความเห็น"  ...ของเดิมเขาเอาตัวเลขนี้ไปประมวลผล ให้อยู่ในกลุ่มพอใจ

 

           มีผจก.ฝ่าย มาหาผม ...ทุกปีตัวเลขนี้ ก็รวมอยู่ในฝ่ายพอใจ ถ้าเขาไม่พอใจเขาก็ลงไม่พอใจ  ...ผมก็ตอบว่า ในเมื่อเขาไม่ลงความเห็น คุณจะไปออกความเห็นแทนเขาได้ไง 

 

ถึงกับอึ้งไปเลยทีเดียว

เหมือนผมเพิ่งกิ๊กกับสาวมา เสร็จแล้วถามสาวว่า "ลีลาพี่เป็นไงบ้างจ๊ะ"

สาวตอบ...ไม่ออกความเห็น  แต่ผมรวมประมวลผลไปว่า "เธอพอใจ"....

Oh......!!

 


Posted Image

#30 plunk

plunk

    สลิปงินเดือนอยู่ไหนอ่ะ ไอ้คางครูด?

  • Members
  • PipPipPipPipPipPipPip
  • 10,862 posts

ตอบ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 07:59

ตอนเรียนโท ก็เคยทำโพล และ แบบสอบถาม โดยวิธี เอาไปแจก(ญาต เพื่อนบ้าน เพื่อนร่วมงาน เพื่อน) ผลคือ คนเดียวกัน ทำแบบสอยถามคนละประมาน 10 ชุด
ทำได้ทันที ไม่ต้องกู้ พรรคไหนเห่าไว้ตอนหาเสียงวะ?และกระทู้ในตำนานของ คนขี้โกหก http://webboard.seri...้สลิปเงินเดือน/

#31 b...

b...

    ขาประจำ

  • Members
  • PipPipPip
  • 1,567 posts

ตอบ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 - 08:14

      การบิดผล

     

      ทุกปี บ.จะมีการเซอร์เวย์ ความพึงพอใจของลูกค้าที่มีต่อบ.  ผลอันนี้สำคัญเพราะต้องส่งไปบ.แม่ที่ญี่ปุ่นด้วย  ผลที่ออกมา ผลงานของทุก"ฝ่าย" อยู่ในเกณฑ์ ผลงาน ดี..มาก,  ข้อด้อย น้อย...น้อยมาก แทบไม่ต้องปรับปรุงอะไรเลย แต่ผมอยู่หน้างาน มันตรงกันข้าม

 

      ต่อมาผมเป็นคนทำเซอร์เวย์อันนั้น  ทำอยู่2-3ปี 

      ปีแรก ก็เกิดเรื่อง ผลความพึงพอใจลดลง ความไม่พอใจเพิ่มขึ้น ...ศัตรูเพิ่มขึ้นโดยไม่ต้องนัดหมาย ทุกเรื่องของผมถ้าเข้าที่ประชุมบ. จะถูกกดดัน/ขัดขวาง จากเกือบทุกฝ่าย

 

      ที่ผมเปลี่ยนแปลง ในการทำเซอร์เวย์ คือ

      1.ตัดหัวข้อคำตอบ ทำนองที่ว่า "เฉยๆ" ออก

      2.บางลูกค้าที่ไม่ตอบคำถามข้อนั้น ผมทำผลสรุปหัวข้อเพิ่ม "ไม่ออกความเห็น"  ...ของเดิมเขาเอาตัวเลขนี้ไปประมวลผล ให้อยู่ในกลุ่มพอใจ

 

      2ข้อข้างบน ทำให้ผลออกมาเปลี่ยนไป (มาก สำหรับบางฝ่าย)

 

      มีผจก.ฝ่าย มาหาผม ...ทุกปีตัวเลขนี้ ก็รวมอยู่ในฝ่ายพอใจ ถ้าเขาไม่พอใจเขาก็ลงไม่พอใจ  ...ผมก็ตอบว่า ในเมื่อเขาไม่ลงความเห็น คุณจะไปออกความเห็นแทนเขาได้ไง 

 

      ผมว่าการทำโพลล์ คงคล้ายๆกัน ...มันขึ้นอยู่กับคนทำโพลล์ เพราะเขาบิดได้ทุกขั้นตอน  จากเริ่มคิดทำโพลล์(งานนี้ได้เท่าไรวะ/อนาคตกูจะได้ตำแหน่งอะไรวะ) ..จนถึงสรุปผลโพลล์ (มึงให้กูแค่นี้ มึงก็เอาผลยังงี้ไป)

 

      ผมเชื่อว่าโพลล์ในต่างประเทศ น่าเชื่อถือเพราะพื้นฐานจิตใจ และความรับผิดชอบในหน้าที่เขาสูงครับ 

 

      เมื่อวานมีข่าว คนเกี่ยวข้องกับสวนสนุกโพลล์ ลาออก มีเหตุผลหนึ่งคือไม่พอใจที่สวนสนุกโพลล์ ไปรับจ้างทำโพลล์ จากก.มหาดไท (มิน่า ผลของทุกการสำรวจ รัฐบาลนี้ จึงดี มีความสามารถราวเทพมาจุติ)

 

       อยากดูว่าตัวหัวหน้าที่ทำโพลล์ จะแสดงอะไรออกมาบ้าง

 

นี่ไม่ใช่เทคนิคการบิด โพลครับ เป็นการโกงครับ

ใช้ในการ Present ในบริษัทพอได้

 

แต่ทางวิชาการไม่ทำครับ (ทั้งนิดา สวนดุสิต ... ไม่ทำกันครับ)

 

 

  To the previous response , I doubt .


Making you happy is not my priority!      Michael Yon





ผู้ใช้ 0 ท่านกำลังอ่านกระทู้นี้

สมาชิก 0 ท่าน, ผู้เยี่ยมชมทั่วไป 0 ท่าน และไม่เปิดเผยตัวตน 0 ท่าน