คิดอย่างไรกับแนวคิด ผบ.ทบ. ให้รด.ต้องไปเกณฑ์ทหารด้วย
#1
Posted 5 February 2013 - 08:32
ที่ไม่ต้องเกณฑทหารต้องเรีย3ปีมีฝึกภาคสนาม
ทหารเกณฑจริงๆก็ฝึกแค่ไม่กี่เดือนแล้วก็ส่งเข้าหน่วย
ส่วนรด.ฝึกทหารครบตามหลักสูตร...
ที่ขาดคือ..ไม่ได้ไปเป็นทหารรับใช้ตามบ้านผู้บังคับบัญชา
และไม่ได้ไปเป็นเบ้ลูกแถวตามกองร้อย
มันจะซ้ำซ้อนมั้ยคับถ้าให้ รด.ต้องไปเกณฑทหาร
หรือเด็กรับใช้ตามบ้านตามกองร้อยไม่พอเหรอคับ
- voodoo likes this
#2
Posted 5 February 2013 - 08:56
พวกหนีทหารเดือดร้อนไงครับ
#3
Posted 5 February 2013 - 09:31
เขาแค่ต้องการให้ไปคัดเลือกด้วยเฉยๆ รึเปล่าวครับ แบบว่าให้ไปแสดงตนที่ศูนย์ดีกว่า ให้ราชการทำเรื่องให้แล้วคนก็นั่งเฉยๆ อยู่ที่บ้าน
แต่จะทำไปเพื่อ......อะไร? แล้วถ้าหากต้องเกณฑ์ทหารด้วยจริงๆ ตามที่ว่า งั้นก็ยกเลิก รด. ไปเลยเถอะครับ เกณฑ์ทหารทีเดียวจบ
คุณสมบัติที่สำคัญที่สุดของผู้ชนะสงคราม คือ ความแข็งแกร่ง และ อุดมการณ์ที่สอดคล้องกับความเป็นจริง
คุณธรรมที่พร้ำสอน ล้วนเป็นสิ่งที่จำเป็นรองลงมา ส่วน ประชาธิปไตยน่ะรึ เอาเข้าจริงๆ สำคัญอันใด??
#4
Posted 5 February 2013 - 09:47
จริงๆแล้วคงไม่โดนไปเป็นทหารอีกหรอก เพราะขึ้นทะเบียนเป็นกองหนุนไปแล้วนิ
#5
Posted 5 February 2013 - 09:49
รด. ขึ้นทะเบียนกองประจำการแล้วนำปลดเป็นกองหนุน ไม่ทราบว่าจะให้ไปขึ้นทะเบียนกองประจำการใหม่อีกรอบหรือครับ แบบนี้ไม่กลายเป็นว่าพวกทหารกองหนุนทั้งหลายก็ต้องไปเป็นทหารเกณฑ์อีกรอบ พวกนักเรียนนายร้อยที่ขึ้นทะเบียนกองประจำการก็ต้องไปเป็นทหารเกณฑ์ก่อน
#6
Posted 5 February 2013 - 09:50
คงจะกลัวว่า อนาคต เกิด เด็กรุ่นหลังได้เป็นนายก เค้าจะว่า หนีทหารอีก
้ห้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
ถึงตรูจะเลวยังไง ตรูก้อไม่ได้ขายชาติ เหมือนเสื้อแดงว่ะ เข้าใจนะ
#7
Posted 5 February 2013 - 09:51
พวกหนีทหารเดือดร้อนไงครับ
แบบโอ๊ค ซัมไอส์อ่ะเหรอ
- พ่อไอ้ร้อยล็อคอิน, RiDKuN_user, lionidas and 3 others like this
#8
Posted 5 February 2013 - 09:53
ผมว่าเอาพวกที่จับได้ใบดำทั้งหลายไปเป็นทหารก่อนดีกว่ากระมังครับ เพราะพวกนี้ยังไม่ขึ้นทะเบียนกองประจำการที
#10
Posted 5 February 2013 - 10:11
ทำไมมาร์คต้องหนีด้วยฮ้า หล่อๆทั้งนั้น
ถ้าเห็นว่ามีคนหล่ออยู่ในรูปนี้ แสดงว่ามาตรฐานความหล่อความสวยของเอ็งต้องผิดปรกติแน่
#11
Posted 5 February 2013 - 10:21
ประมาณว่ากำลังพลที่ต้องการแต่ละปี(ประมาณแปดหมื่น) มันจะน้อยลงมั้งครับ เพราะว่ารักษาดินแดนปกติให้เรียนประมาณแสนคน แต่ปัจจุบันตอนนี้ราวๆสามแสน ซึ่งแน่นอนว่าเหตุผลหลักๆที่เรียนคือไม่อยากเกณฑ์ทหาร(ซึ่งผมก็หนึ่งในนั้น
แต่เรื่องที่ว่าเรียนรักษาดินแดนก็ต้องเกณฑ์นี่สมัยผมเรียน รด. ประมาณสิบกว่าปีที่แล้วก็เคยได้ยินทหารเขาเริ่มพูดๆกันแล้วว่ารุ่นหลังๆเรียนไปก็ต้องเกณฑ์
#12
Posted 5 February 2013 - 10:22
#13
Posted 5 February 2013 - 10:24
พวกหนีทหารเดือดร้อนไงครับ
เอ็งด่าอีโอ็ค มันทำไม่วะ
#14
Posted 5 February 2013 - 10:52
พวกหนีทหารเดือดร้อนไงครับ
เอ็งด่าอีโอ็ค มันทำไม่วะ
ไอ้โอ๊ค โดนเต็มๆ
"ความดี กับ ความเลว
ความจริง กับ คำโกหก
ความถูกต้อง กับ การทำผิดกฎหมาย"
ถ้าเกิดเป็น คน ไม่ได้เกิดเป็น ควาย มันไม่ต้องให้ทายหรอก ว่าจะเลือกอย่างไหน
#16
Posted 5 February 2013 - 16:00
ผมเห็นด้วยนะครับ คนที่เรียนจะได้เป็นคนที่อยากจริงๆ ไม่ใช่มีเจตนาแอบแฝง
#17
Posted 5 February 2013 - 16:06
เห็ยด้วยครับ
#18
Posted 6 February 2013 - 00:40
รด.ก็ได้รับการฝึกวิชาทหารอยู่แล้ว
ที่ไม่ต้องเกณฑทหารต้องเรีย3ปีมีฝึกภาคสนาม
ทหารเกณฑจริงๆก็ฝึกแค่ไม่กี่เดือนแล้วก็ส่งเข้าหน่วย
ส่วนรด.ฝึกทหารครบตามหลักสูตร...
ที่ขาดคือ..ไม่ได้ไปเป็นทหารรับใช้ตามบ้านผู้บังคับบัญชา
และไม่ได้ไปเป็นเบ้ลูกแถวตามกองร้อย
มันจะซ้ำซ้อนมั้ยคับถ้าให้ รด.ต้องไปเกณฑทหาร
หรือเด็กรับใช้ตามบ้านตามกองร้อยไม่พอเหรอคับ
ถ้ามีสงครามจริงๆ เรียกทหารกองหนุนเพิ่ม คนที่เรียน รด.มาก่อนตายเกือบหมดแน่นอนครับ
...ฝึกทหารเกณฑ์ ต่างกับฝึก รด.ฟ้ากับเหว...ถึงเวลารบจริงๆ พวกฝึก รด.มาแล้วเอาตัวไม่รอดแน่นอน...
- Strangerman and DarkSwan like this
"น้อมส่งเสด็จสู่พระนิพพาน"
#19
Posted 6 February 2013 - 00:44
ส่วนตัวผมว่าแบบเดิมก็ดีแล้วนะครับ
กฎหมายมันก็แค่สิงที่สร้างมาอย่างมีเป้าหมาย แต่หาก เอาแต่บอกว่ากฎหมายเป็นแบบนี้ แบบนั้น โดยไม่สนใจว่าเป้าหมายจริงๆ นันคืออะไร ก็คงไม่ใช่
#20
Posted 6 February 2013 - 00:47
"เราตั้งใจมาฝึกอบรม เพื่อเป็นผู้บังคับบัญชาทหาร"
ประโยคแรกที่ครูฝึกให้ปฎิญาณตนหน้าเสาธงทุกวัน
#21
Posted 6 February 2013 - 00:53
ข่าวเมื่อวาน
http://www.naewna.com/politic/40285
“ประยุทธ์”กระฉูดไอเดีย เกณฑ์ทหาร เลิกยกเว้นเด็กเรียนรด. อ้างทำยอดตรวจเลือกหด ย้ำกติกาตัดผมหัวเกรียน
วันอังคาร ที่ 05 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556, 06.00 น.
เมื่อเวลา 09.30 น.ที่หน่วยบัญชาการรักษาดินแดน (นรด.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานวันสถาปนา นรด.ครบรอบ 65 ปีว่า หลักสูตรการฝึกนักศึกษาวิชาทหารต้องปรับปรุงให้ทันต่อสถานการณ์ และให้ทันต่อภัยคุกคามรูปแบบใหม่ โดยให้ช่วยเหลือการปฏิบัติการทางทหารเป็นหลัก ดังนั้นต้องปลูกฝังให้เยาวชน โดยเฉพาะนักศึกษาวิชาทหารให้มีส่วนร่วมในการสนับสนุนส่วนราชการต่างๆ
ผบ.ทบ.กล่าวว่า นอกจากนี้ อยากให้ รด.เรียนรู้ถึงภัยคุกคามที่มีมากมายในทุกประเทศทั่วโลก ทั้งปัญหายาเสพติด แรงงานต่างด้าว เพื่อทำให้ประเทศชาติมีความเข้มแข็งขึ้น ซึ่งประเด็นสำคัญ คือ จะทำอย่างไรให้ รด.มีส่วนร่วมกับเจ้าหน้าที่ในการดูแลประเทศชาติให้มากขึ้น
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อไปว่า ทั้งนี้ ปัญหาของนักศึกษาวิชาทหาร คือ สัดส่วนในการเกณฑ์ทหารในแต่ละปี เรามีความต้องการทหาร 8 หมื่น โดยมีคนเข้ามาเกณฑ์ในระบบมากกว่า 3 เท่า ดังนั้นถ้ามีคนเข้ามาเป็นศึกษาวิชาทหารมากขึ้นเรื่อยๆ จะทำให้สัดส่วนคนเข้ามาเกณฑ์ทหารมีจำนวนลดลง และอาจจะทำให้เกิดความไม่เป็นธรรม ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาลว่า ให้เพิ่มอัตรานักศึกษาวิชาทหารในแต่ละปี ดังนั้นต้องมองว่าจะทำอย่างไรต่อไป
“ต่อไปอาจเสนอว่า ถ้าคนอยากเป็นนักศึกษาเพื่อเรียนวิชาทหารจริงๆ ก็เรียนได้ แต่เมื่อถึงเวลาตรวจเลือกทหารจะต้องมาตรวจเลือกด้วย อยากจะดูว่า คนจะมาเรียน รด.มากเหมือนเดิมหรือไม่ หากมีนักศึกษาวิชาทหารเรียนมากขึ้นก็ต้องเพิ่มครูและสถานที่” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นอกจากนี้ ผบ.ทบ. ยังกล่าวชมเชยนักศึกษาวิชาทหารหญิงที่สมัครเข้ามาเรียนทั้งที่ไม่ได้รับสิทธิอะไรทั้งสิ้นว่า ผู้หญิงไทยเก่ง เข้มแข็งดี ส่วนกฎหมายที่ห้ามเยาวชนต่ำว่า 18 ปี ถืออาวุธนั้น เราแก้ปัญหาโดยให้เรียนแค่อาวุธศึกษา ไม่ต้องฝึกยิงปืน ซึ่งจะไม่ขัดกฎหมายอื่น
ส่วนเรื่องทรงผมนักเรียนที่กระทรวงศึกษาธิการอนุญาตให้นักเรียนไว้ผมยาวได้นั้น ผบ.ทบ.กล่าวว่า ในส่วนของนักศึกษาวิชาทหารต้องมีกติกา ดังนั้นขอเถอะ เมื่อทุกคนแต่งเครื่องแบบทหารจึงควรจะไว้ผมสั้นเสียหน่อย มิเช่นนั้นจะแยกแยะไม่ออกระหว่างทหารกับพลเรือน ถ้าผม และหนวดยาวจะดูไม่เรียบร้อย
ขณะที่ พล.ท.วิชิต ศรีประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยรักษาดินแดน (ผบ.นรด.) ให้สัมภาษณ์ถึงแนวความคิดของ ผบ.ทบ. ที่จะให้ผู้ที่จบหลักสูตรนักศึกษาวิชาการทหารต้องเข้ามาเกณฑ์ทหารว่า เป็นแนวคิดที่ดี ซึ่งกองทัพมีแนวคิดเรื่องนี้มานานแล้วว่า ทุกคนที่เรียนจบหลักสูตรควรเข้ามารับการฝึกประมาณ 3-6 เดือน เพื่อเพิ่มพูนจิตวิญญาณรักชาติ แต่ขณะนี้ยังเป็นเพียงแนวความคิดเท่านั้น คงต้องไปศึกษากันในรายละเอียดว่าจะทำกันอย่างไรต่อไป
พล.ท.วิชิต กล่าวว่า ขณะนี้อัตราส่วนของชายไทยที่เข้ารับการตรวจเลือกแล้วต้องเป็นทหารเกณฑ์ลดลงไปเรื่อยๆ โดยมีอัตราส่วนอยู่ที่ 2.3 คน ต่อการเป็นทหารเกณฑ์ 1 คน ดังนั้นหากเราเพิ่มยอด นศ.วิชาทหารมากเท่าไหร่ จะทำให้อัตราส่วนลดลงไปอีก ตรงนี้เป็นสัดส่วนสำคัญที่ทางกองทัพมีการพูดคุยกันมาก ที่สำคัญจะทำให้เกิดความรู้สึกต่อคนในระดับรากหญ้า
“ในเรื่องการเกณฑ์ทหารต้องมีความยุติธรรมเหมือนกัน ไม่ใช่กลายเป็นว่า คนจนต้องเป็นทหาร ถ้าเป็นอย่างนั้นจะดูไม่ดี เพราะคนจนยังจำเป็นต้องทำงาน เพื่อครอบครัว แต่มีโอกาสที่จะได้จับใบดำใบแดงมาก ดังนั้นคนที่อยู่ในสังคมชั้นกลางและสังคมชั้นสูงควรจะมีโอกาสเป็นทหารด้วยเหมือนกัน เพื่อให้มีความเท่าเทียมกัน”ผบ.นรด.กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบันมี นักศึกษาวิชาทหารที่ศึกษาระหว่างชั้นปีที่ 1-5 รวมทั่วประเทศจำนวน 3 แสนคน โดยในชั้นปีที่ 4-5 จะมี นศ.วิชาทหารหญิงด้วย ทั้งนี้ นรด.ได้กำหนดจำนวนผู้เข้ารับการเรียนหลักสูตรไม่เกินปีละ 1 แสนคน ซึ่งจากการหารือในรายละเอียด คาดว่า ต่อไป นศ.วิชาทหารอาจจะต้องเข้ารับการตรวจเลือกเข้าเป็นทหารกองประจำการ แต่จะได้รับสิทธิ์ลดหย่อนระยะเวลาในการรับราชการทหารแทน โดยอาจจะต้องเข้ารับการฝึกประมาณ 3-6 เดือน
...............................................................................................................................................
หลังอ่านข่าวนี้ไป คงจะมีคำถามตามมาว่า งั้นจะเรียน รด. เพื่อ ? ไปเขาชนไก่เพื่อ ? อะไรอย่างนี้ ซึ่งยังเป็นแค่แนวคิด
ถึงผมจะเป็นคนหัวขบถ แต่ไม่คิดทรยศบุญคุณแผ่นดินเกิด
เสียงส่วนใหญ่ของประชาชน ไม่ใช่ใบอนุญาตทำร้ายประเทศชาติ
#23
Posted 6 February 2013 - 01:05
หลังจากหยั่งเสียงเรื่อง ผบ.ทบ.มีแนวคิดว่าจะเอานักศึกษาวิชาทหารมาเกณฑ์ทหารด้วยทำให้เห็นว่าชายไทยหลายคนเป็นพวกปอดแหก คิดถึงตัวเอง หัวหดปากบอกว่าสันติภาพ เกณฑ์ทหารล้าสมัยป่าเถื่อน ทุกคำอ้างที่มันพ่นออกมามันก็คือความกลัว ชาติฉิบหายยังไงก็ช่าง"กูต้องรอดไว้ก่อน" แสนเสียดายหยดเลือดของบรรพบุรุษที่จับอาวุธลุกขึ้นสู้กับอริราชศัตรูจนตัวตาย พลีกายเพื่อให้ชาติไทยยังอยู่ เพื่อให้ธงไตรรงค์ยังโปกสะบัด ชายใดคิดได้แค่เอาตัวรอดโดยไม่อยากปกป้องแผ่นดินไทย เชิญไปตายให้หนอนแดกซะ
//จากทหารกองหนุนคนหนึ่ง
เขียนเรื่องการเมือง : ดราม่า ,เขียนเรื่องสังคม : ดราม่า เขียนเรื่องบันเทิง : ดราม่า
แต่พอโพสเรื่องหื่น : มีความเห็นเป็นไปทางเดียวกันเสมอ >3<
#24
Posted 6 February 2013 - 01:07
ผมนึกสภาพคนจบ รด ปี 5 มียศว่าที่ร้อยตรี ถ้าถูกเกณฑ์เข้าประจำการก็จะมียศร้อยตรี หากครูฝึกทหารเกณฑ์มียศแค่จ่านี่นึกสภาพไม่ออกว่าจะสั่งพวกนี้ยังไง
#25
Posted 6 February 2013 - 01:12
ผมนึกสภาพคนจบ รด ปี 5 มียศว่าที่ร้อยตรี ถ้าถูกเกณฑ์เข้าประจำการก็จะมียศร้อยตรี หากครูฝึกทหารเกณฑ์มียศแค่จ่านี่นึกสภาพไม่ออกว่าจะสั่งพวกนี้ยังไง
เรื่องนี้ไม่ต้องห่วงหรอกครับ เขายังไม่ติดยศให้ในทันทีหรอก ว่าที่ร้อยตรีมันก็คือว่าที่ร้อยตรีวันยังค่ำ
และอีกอย่างทหารก็ไม่ได้แค่นับถือกันแค่ยศบนบ่าหรอกครับ เขานับที่ตราบนหน้าก็และเหรียญกล้าหาญ
เขียนเรื่องการเมือง : ดราม่า ,เขียนเรื่องสังคม : ดราม่า เขียนเรื่องบันเทิง : ดราม่า
แต่พอโพสเรื่องหื่น : มีความเห็นเป็นไปทางเดียวกันเสมอ >3<
#26
Posted 6 February 2013 - 01:13
ผมนึกสภาพคนจบ รด ปี 5 มียศว่าที่ร้อยตรี ถ้าถูกเกณฑ์เข้าประจำการก็จะมียศร้อยตรี หากครูฝึกทหารเกณฑ์มียศแค่จ่านี่นึกสภาพไม่ออกว่าจะสั่งพวกนี้ยังไง
นึกขึ้นได้ ดูข่าวข้นมาเมื่อประมาณสี่ทุ่มนี่เอง
เห็นมีนายทหารคนหนึ่งเสนอแนวคิดมาประมาณว่า ใครจบ รด. ปี 3 ให้เลือกเอาว่าจะต่อปี 4-5 หรือไปเป็นทหารเกณฑ์อีก 6 เดือน ถ้าจำไม่ผิด
ถึงผมจะเป็นคนหัวขบถ แต่ไม่คิดทรยศบุญคุณแผ่นดินเกิด
เสียงส่วนใหญ่ของประชาชน ไม่ใช่ใบอนุญาตทำร้ายประเทศชาติ
#27
Posted 6 February 2013 - 01:22
ผมว่าเพิ่มการเกณฆ์ทหารหญิงเข้าไปด้วยก็ดีนะครับ ช ญ จะได้มีสิทธิเสมอกัน... แล้วก็เสนอให้ผู้ชายลาคลอดได้ 90 วันเหมือนผู้หญิงด้วย
- แมวนอนหวด likes this
ประชาธิปไตยแบบแดง: 1. ไม่ใช่แดง เป็นประชาธิปไตยไม่ได้ 2. เสียงส่วนใหญ่ คือเสียงถูกต้อง 3. กฎพวกพ้องต้องเหนือกฎหมาย 4. เบื้องสูงมีไว้เหยียบย่ำ 5. ใครทำก็ผิด แต่แดงต้องไม่ผิด 6. คิดร้ายต่อทักษิณย่อมชั่ว 7. มั่วบิดเบือนหลอกพวกเดียวกัน 8. ปั้นน้ำเป็นตัวแล้วแถ
#28
Posted 6 February 2013 - 01:27
ยกเลิกการเกณฑ์ก็ได้ครับ รับสมัครไปเลยดีกว่าชายใดสมัครรัฐควรตอบแทนให้สมกับความกล้า
และความเหนื่อยยากในการฝึก ลดภาษี ประเคนสวัสดิการ เก็บค่าเรียนมหาวิทยาลัยถูกแสนถูก
ในทางกลับกันหากชายไทยคนใดไม่สมัครเข้ากองทัพ รีดภาษีมัน เอาแค่สวัสดิการพื้นฐานก็พอ
ค่าเรียนมหาวิทยาลัยจัดเต็มเหนี่ยว ฐานหลบอยู่ข้างหลังไม่มีความกล้าหาญไม่สมเป็นชายชาติทหาร
ระบบนี้ใช้กับอเมริกาและอังกฤษ เจอแบบนี้แล้วจะหนาว...
เขียนเรื่องการเมือง : ดราม่า ,เขียนเรื่องสังคม : ดราม่า เขียนเรื่องบันเทิง : ดราม่า
แต่พอโพสเรื่องหื่น : มีความเห็นเป็นไปทางเดียวกันเสมอ >3<
#29
Posted 6 February 2013 - 01:28
ผมนึกสภาพคนจบ รด ปี 5 มียศว่าที่ร้อยตรี ถ้าถูกเกณฑ์เข้าประจำการก็จะมียศร้อยตรี หากครูฝึกทหารเกณฑ์มียศแค่จ่านี่นึกสภาพไม่ออกว่าจะสั่งพวกนี้ยังไง
เรื่องนี้ไม่ต้องห่วงหรอกครับ เขายังไม่ติดยศให้ในทันทีหรอก ว่าที่ร้อยตรีมันก็คือว่าที่ร้อยตรีวันยังค่ำ
และอีกอย่างทหารก็ไม่ได้แค่นับถือกันแค่ยศบนบ่าหรอกครับ เขานับที่ตราบนหน้าก็และเหรียญกล้าหาญ
ว่าที่ร้อยตรีก็ว่าที่อยู่วันยังค่ำ ถ้ายังอยู่เป็นทหารกองหนุน แต่ถ้าเรียกประจำการมันก็ติดยศ จริง ๆ เอาแค่ยศจ่าสิบเอกก็พอ เท่านี้ก็วุ่นเรื่องสายบังคัญบัญชาแล้วล่ะครับ ทหารไม่ได้นับถือแค่ยศบนบ่า แต่ก็ต้องยึดถือสายบังคับบัญชา
- voodoo likes this
#30
Posted 6 February 2013 - 01:29
ยกเลิกการเกณฑ์ก็ได้ครับ รับสมัครไปเลยดีกว่าชายใดสมัครรัฐควรตอบแทนให้สมกับความกล้า
และความเหนื่อยยากในการฝึก ลดภาษี ประเคนสวัสดิการ เก็บค่าเรียนมหาวิทยาลัยถูกแสนถูก
ในทางกลับกันหากชายไทยคนใดไม่สมัครเข้ากองทัพ รีดภาษีมัน เอาแค่สวัสดิการพื้นฐานก็พอ
ค่าเรียนมหาวิทยาลัยจัดเต็มเหนี่ยว ฐานหลบอยู่ข้างหลังไม่มีความกล้าหาญไม่สมเป็นชายชาติทหาร
ระบบนี้ใช้กับอเมริกาและอังกฤษ เจอแบบนี้แล้วจะหนาว...
เอาแบบสิงคโปร์ เกาหลีใต้ดีกว่าครับ
- voodoo likes this
#31
Posted 6 February 2013 - 01:31
คนที่เรียนรด.มา เขาก็ไม่ได้เรียกไปทบทวนทุกคน
ถ้าถึงเวลาจริงๆ เขาต้องเรียกคนที่เคยฝึกททบทวนก่อน
ส่วนคนที่ไม่เคยเรียกฝึก ก็เรียกมาฝึกทบทวนก่อนส่งไปรบ
ทหารเกณท์นั้น อาจจบแค่ม.๓ตามภาคบังคับ
แต่รด. ต้องจบม.๖ หรือปวช.
ใน1หมู่ปืนเล็ก จะมีผบ.หมู่ (จ่าสิบเอก) ซึ่งจะเป็นทหารที่มีประสบการณ์
ถ้าจำไม่ผิด พวกที่เรียนรด.มาคงเป็นหัวหน้าชุดยิง ซึ่งมีหมู่ละ ๒ คน(สิบเอก)
แต่ ทุกวันนี้ มีแต่ลดกำลังพล คงไม่ขาดแคลนถึงกับต้องระดมพล
#32
Posted 6 February 2013 - 01:35
ยกเลิกการเกณฑ์ก็ได้ครับ รับสมัครไปเลยดีกว่าชายใดสมัครรัฐควรตอบแทนให้สมกับความกล้า
และความเหนื่อยยากในการฝึก ลดภาษี ประเคนสวัสดิการ เก็บค่าเรียนมหาวิทยาลัยถูกแสนถูก
ในทางกลับกันหากชายไทยคนใดไม่สมัครเข้ากองทัพ รีดภาษีมัน เอาแค่สวัสดิการพื้นฐานก็พอ
ค่าเรียนมหาวิทยาลัยจัดเต็มเหนี่ยว ฐานหลบอยู่ข้างหลังไม่มีความกล้าหาญไม่สมเป็นชายชาติทหาร
ระบบนี้ใช้กับอเมริกาและอังกฤษ เจอแบบนี้แล้วจะหนาว...
เอาแบบสิงคโปร์ เกาหลีใต้ดีกว่าครับ
ทุกคนต้องเกณฑ์นั่นหรือครับอีกประเทศประชากรเท่าหยิบมือ
อีกประเทศจะเกิดภาวะสงครามเมื่อไหร่ก็ไม่รู้มันต้องใช้ระบบนั้นอยู่แล้วครับ
ของไทยเดี๋ยวมันปอดโดนแดกนิดโดนแดกหน่อยร้องจะเป็นจะตาย
ใครเสนอตัวที่จะป้องกันชาติดีกว่าได้คุณภาพเน้นๆ ไอ้พวกปอกแหกก็โดนรีดเยอะนั่นแหละ
มันไม่เสมอภาคแต่มันยุติธรรมครับ
เขียนเรื่องการเมือง : ดราม่า ,เขียนเรื่องสังคม : ดราม่า เขียนเรื่องบันเทิง : ดราม่า
แต่พอโพสเรื่องหื่น : มีความเห็นเป็นไปทางเดียวกันเสมอ >3<
#33
Posted 6 February 2013 - 01:40
สัสดี จะได้รวย ไง เพราะ ชนชั้นสูง จะยัดเงินเพื่อให้ลูกหลานหนีทหารมากขึ้น
การเรียน รด. จำนวนมาก มันทำให้รายได้ แป๊ะเจี๊ยะ ยัดเงินเพื่อหนีการเกณฑ์ทหารมันน้อยลง
ประเทศพัฒนาแล้ว
เขารับสมัครทหารด้วยความสมัครใจ ทหารที่มาสมัครคือคนที่ชอบเป็นทหาร เงินเดือนของทหารก็ไม่น้อย ไม่กิ๊กก๊อก ถือเป็นอาชีพโปร อาชีพหนึ่งเลยทีเดียว
ผบ.ทบ น่าจะโผล่ ออกนอก กะลา ไปดู ระบบของประเทศอังกฤษบ้าง
เขาไม่ต้องเกณฑ์เลย คนมาสมัครเป็นทหารกันเพียบ เพราะ สิทธิประโยชน์ ค่าตอบแทนสูง กองทัพเองก็ได้คนที่ตั้งใจอยากเป้นทหาร
ไม่ใช่เกณฑ์เขาเพื่อไปเป็นปุ๋ยของชาติ
ตั้งระบบการเกณฑ์ทหาร เพื่อให้่มีแป๊ะเจี๊ยะ เก็บเงินจากลูกคนรวย ที่ไม่ต้องการเป็นทหาร
ต้องการจำนวนทหารที่เกณฑ์มาเพื่อของบประมาณ มาฝึก แดก แตกเลือดกันในหมู่ทหาร
ประเทศไทย ก็ไม่ได้เสี่ยงอยุ่ในเกณฑ์สงคราม ที่จะต้องประกาศให้ชายไทยทุกคนเกณฑ์ทหาร
งบประมาณทหารปีหนึ่งได้ไปเท่าไหร่ ที่ผ่านมาเอาไปทำไรบ้าง ส่วนใหญ่ ทหารชั้นผู้ใหญ่เอาเงินภาษีไปบำรุงบำเรอตัวเอง หาประโยชน์ ทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพลกันทั้งนั้น
ทหารจะต้องได้รับการตรวจสอบประสิทธิภาพของการใช้งบประมาณจากสื่อมวลชน และ ประชาชนมากกว่านี้
Edited by arch_freeman, 6 February 2013 - 01:42.
#34
Posted 6 February 2013 - 01:46
รด.ก็ได้รับการฝึกวิชาทหารอยู่แล้ว
ที่ไม่ต้องเกณฑทหารต้องเรีย3ปีมีฝึกภาคสนาม
ทหารเกณฑจริงๆก็ฝึกแค่ไม่กี่เดือนแล้วก็ส่งเข้าหน่วย
ส่วนรด.ฝึกทหารครบตามหลักสูตร...
ที่ขาดคือ..ไม่ได้ไปเป็นทหารรับใช้ตามบ้านผู้บังคับบัญชา
และไม่ได้ไปเป็นเบ้ลูกแถวตามกองร้อย
มันจะซ้ำซ้อนมั้ยคับถ้าให้ รด.ต้องไปเกณฑทหาร
หรือเด็กรับใช้ตามบ้านตามกองร้อยไม่พอเหรอคับ
ผมว่าทหารเกณฑ์มีคุณภาพกว่า รด.เยอะแยะ
คุณลืมไปหรือเปล่าว่า รด.ฝึก 3 ปี แล้วมันเรียนสัปดาห์ละวัน และครั้งหนึ่งไม่ถึงครึ่งวันด้วยซํ้า แถมปิดเทอมก็หยุดด้วย รวม 3 ปีรวมฝึกภาคสนาม จะฝึกรวมกันถึง 2 เดือนหรือเปล่าครับ ส่วนเรื่องฝึกภาคสนามนั้น ผมว่าไม่น่าจะเรียกฝึก น่าจะเรียกว่าเข้าค่ายเสียมากกว่า เพราะแสนจะสะดวกสบายจริงๆ
เบสิกพื้นฐานของทหารทุกหน่วย ต้องถอดประกอบปืน ทำความสะอาดปืนได้ใช่ไหมครับ แต่ผมว่าร้อยละ 99.85 ของรด.ปี 3 ถอดไม่เป็นแน่นอน
ตามความเห็นผม ถ้ารด.ยังมีหลักสูตรที่ไม่เข้มข้นแบบนี้ มันใช้เป็นกำลังรองที่ไหนไม่ได้หรอกครับ เพราะประเทศ กับผู้ที่เรียน ต้องลงทุนมากเกินไป เพราะผลตอบแทบที่ได้ ก็ดูจะไม่ค่อยคุ้มค่าเท่าไรครับ
Edited by ควันหลง, 6 February 2013 - 01:52.
#35
Posted 6 February 2013 - 01:55
พวกหนีทหารเดือดร้อนไงครับ
ทำไมมาร์คต้องหนีด้วยฮ้า หล่อๆทั้งนั้น
ผมว่าผบ.ทบ.คงสกัดดาวรุ่งแหละครับ...
เพราะ รด.สมัยนี้มันสั่งการได้ทั้ง ผบ.ทบ.และ รมต.กลาโหม
ลากเข้าการเมือง....เพื่อ? ผมว่าออกความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ดีกว่า
อย่าไปถือสาคนบ้าเลย @แมวน้อยสีน้ำเงิน ถกกันเรื่องทหารดีกว่า
ใครหนีไม่หนีให้ศาลตัดสินเรื่องมันถึงชั้นนั้นแล้ว
เห็นพวกแดงออกมาเยาะเย้ย ถากถาง เรื่องกองทัพ
แล้วพาลให้โมโห ถ้าไม่มีกองทัพที่เข้มแข็งไอ้พวกที่เห่ากองทัพอยู่ดีคงไม่มีชีวิตที่กินดีอยู่ดีอย่างนี้หรอก
เขียนเรื่องการเมือง : ดราม่า ,เขียนเรื่องสังคม : ดราม่า เขียนเรื่องบันเทิง : ดราม่า
แต่พอโพสเรื่องหื่น : มีความเห็นเป็นไปทางเดียวกันเสมอ >3<
#36
Posted 6 February 2013 - 02:00
ยกเลิกการเกณฑ์ก็ได้ครับ รับสมัครไปเลยดีกว่าชายใดสมัครรัฐควรตอบแทนให้สมกับความกล้า
และความเหนื่อยยากในการฝึก ลดภาษี ประเคนสวัสดิการ เก็บค่าเรียนมหาวิทยาลัยถูกแสนถูก
ในทางกลับกันหากชายไทยคนใดไม่สมัครเข้ากองทัพ รีดภาษีมัน เอาแค่สวัสดิการพื้นฐานก็พอ
ค่าเรียนมหาวิทยาลัยจัดเต็มเหนี่ยว ฐานหลบอยู่ข้างหลังไม่มีความกล้าหาญไม่สมเป็นชายชาติทหาร
ระบบนี้ใช้กับอเมริกาและอังกฤษ เจอแบบนี้แล้วจะหนาว...
เอาแบบสิงคโปร์ เกาหลีใต้ดีกว่าครับ
ทุกคนต้องเกณฑ์นั่นหรือครับอีกประเทศประชากรเท่าหยิบมือ
อีกประเทศจะเกิดภาวะสงครามเมื่อไหร่ก็ไม่รู้มันต้องใช้ระบบนั้นอยู่แล้วครับของไทยเดี๋ยวมันปอดโดนแดกนิดโดนแดกหน่อยร้องจะเป็นจะตาย
ใครเสนอตัวที่จะป้องกันชาติดีกว่าได้คุณภาพเน้นๆ ไอ้พวกปอกแหกก็โดนรีดเยอะนั่นแหละมันไม่เสมอภาคแต่มันยุติธรรมครับ
ก็ทำตามรัฐธรรมนูญไทยอย่างเคร่งครัดไปเลยไงครับ เอาเพื่อความเท่าเทียมเสมอภาคกันหมด อายุครบ 21 ปีทุกคนต้องเป็นทหารกองประจำการทั้งหมด
- นายตัวเกร็ง likes this
#37
Posted 6 February 2013 - 02:03
" เขาไม่ต้องเกณฑ์เลย คนมาสมัครเป็นทหารกันเพียบ เพราะ สิทธิประโยชน์ ค่าตอบแทนสูง กองทัพเองก็ได้คนที่ตั้งใจอยากเป้นทหาร "
ที่สรอ. ก็มีปัญหาเหมือนกัน คือสิทธิประโยชน์มากเกินไปหน่อย จนเป็นแรงจูงใจให้คนที่ไม่อยากเป็นทหาร แต่เห็นแก่ประโยชน์ที่จะได้ ก็เลยไปเป็นทหารซะ พอเป็นทหารแล้ว ก็เป็นพลทหารแบบซังกะตาย ใช้ชีวิตให้หมดไปวันๆหนึ่ง
นั่นคือปัญหาของสรอ.เหมือนกัน คุณอย่าลืมว่า เหรียญมีสองด้านนะครับ
Edited by ควันหลง, 6 February 2013 - 02:07.
#38
Posted 6 February 2013 - 02:10
ผบทบ. มองแต่ประเด็นของการรักชาติ ว่าต้องเป็นทหารรับใช้่ชาติ
ประชาชนทุกคน มีส่วนร่วมในการสร้างชาติ
อาชีพทุกอาชีพ มีศักดิ์ศรี มีความเท่าเทียม และ เป็นพลังของการสร้างชาติทั้งนั้น
คุณอย่าคิดว่า อาชีพทหารของคุณ เป็นอาชีพเดียวที่ผูกขาดการสร้างชาติ
ถ้า ไม่มี หมอ พวกคุณก็ป่วยตาย รบไม่ได้
ถ้า ไม่มี วิศวกร พวกคุณก็อาจจะต้องขี่ม้าไปรบเขมร
ถ้า ไม่มี นักวิทยาศาสตร์ พวกคุณก็ต้องดูฤกษ์ดูยามในการรบ
ถ้า ไม่มี หมอดู ฤกษ์ยาม คุณก็หมดสิทธิดู
ทุกอาชีพ มีส่วนสร้างชาติ และ ทุกคนก็รักชาติ รักแผ่นดิน ด้วยการทำหน้าที่ที่ตัวเองถนัด รักชอบ เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างชาติทั้งนั้น
อย่าคิดว่า ถ้า ไม่ได้ มาเป็นทหาร และ จะรักชาติไม่เป็น คนคิดแบบนีั้ เป้นคนคับแคบ โง่ และ มองในสิ่งที่ตัวเองอยากมองเท่านั้น
- พ่อไอ้ร้อยล็อคอิน, อู๋ ฮานามิ, Duke_th1 and 2 others like this
#39
Posted 6 February 2013 - 02:25
ผบทบ. มองแต่ประเด็นของการรักชาติ ว่าต้องเป็นทหารรับใช้่ชาติ
ประชาชนทุกคน มีส่วนร่วมในการสร้างชาติ
อาชีพทุกอาชีพ มีศักดิ์ศรี มีความเท่าเทียม และ เป็นพลังของการสร้างชาติทั้งนั้น
คุณอย่าคิดว่า อาชีพทหารของคุณ เป็นอาชีพเดียวที่ผูกขาดการสร้างชาติ
ถ้า ไม่มี หมอ พวกคุณก็ป่วยตาย รบไม่ได้
ถ้า ไม่มี วิศวกร พวกคุณก็อาจจะต้องขี่ม้าไปรบเขมร
ถ้า ไม่มี นักวิทยาศาสตร์ พวกคุณก็ต้องดูฤกษ์ดูยามในการรบ
ถ้า ไม่มี หมอดู ฤกษ์ยาม คุณก็หมดสิทธิดู
ทุกอาชีพ มีส่วนสร้างชาติ และ ทุกคนก็รักชาติ รักแผ่นดิน ด้วยการทำหน้าที่ที่ตัวเองถนัด รักชอบ เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างชาติทั้งนั้น
อย่าคิดว่า ถ้า ไม่ได้ มาเป็นทหาร และ จะรักชาติไม่เป็น คนคิดแบบนีั้ เป้นคนคับแคบ โง่ และ มองในสิ่งที่ตัวเองอยากมองเท่านั้น
การเรียกรวมพลมีข้อยกเว้นอยู่แล้วครับ การสร้างชาติสำคัญทุกอาชีพแต่ทหารคืออาชีพที่ต้องออกไปรบก่อนเพื่อน
จึงต้องใช้อัตรากำลังที่สูงเมือปลดประจำการ คุณก็มีโอกาสกลับไปทำในอาชีพนั้นๆต่อได้แต่ถ้าไม่เหลือชาติ
อาชีพทั้งหลายจะทำเพื่ออะไร ดูอย่างชาวยิวสมัยสงครามโลกครั้งที่ ๒ ครับตายอย่างเท่าเทียมที่เอาท์สวิท
ไม่ว่าจะอาชีพอะไร เป็นทหารฝึกฝนไว้ไม่เสียหายอะไรสักหน่อย
เขียนเรื่องการเมือง : ดราม่า ,เขียนเรื่องสังคม : ดราม่า เขียนเรื่องบันเทิง : ดราม่า
แต่พอโพสเรื่องหื่น : มีความเห็นเป็นไปทางเดียวกันเสมอ >3<
#40
Posted 6 February 2013 - 02:45
ผบทบ. มองแต่ประเด็นของการรักชาติ ว่าต้องเป็นทหารรับใช้่ชาติ
ประชาชนทุกคน มีส่วนร่วมในการสร้างชาติ
อาชีพทุกอาชีพ มีศักดิ์ศรี มีความเท่าเทียม และ เป็นพลังของการสร้างชาติทั้งนั้น
คุณอย่าคิดว่า อาชีพทหารของคุณ เป็นอาชีพเดียวที่ผูกขาดการสร้างชาติ
ถ้า ไม่มี หมอ พวกคุณก็ป่วยตาย รบไม่ได้
ถ้า ไม่มี วิศวกร พวกคุณก็อาจจะต้องขี่ม้าไปรบเขมร
ถ้า ไม่มี นักวิทยาศาสตร์ พวกคุณก็ต้องดูฤกษ์ดูยามในการรบ
ถ้า ไม่มี หมอดู ฤกษ์ยาม คุณก็หมดสิทธิดู
ทุกอาชีพ มีส่วนสร้างชาติ และ ทุกคนก็รักชาติ รักแผ่นดิน ด้วยการทำหน้าที่ที่ตัวเองถนัด รักชอบ เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างชาติทั้งนั้น
อย่าคิดว่า ถ้า ไม่ได้ มาเป็นทหาร และ จะรักชาติไม่เป็น คนคิดแบบนีั้ เป้นคนคับแคบ โง่ และ มองในสิ่งที่ตัวเองอยากมองเท่านั้น
ใครๆก็คงบอกได้ว่า ในอนาคต ผมอาจจะเป็นหมอ เป็นวิศวกรรร เป็นครู หรือเป็นอาชีพอื่้นๆที่ทำประโยชน์ให้กับชาติได้มาก แต่ตอนที่ทุกคนอายุ 18 ปีบริบูรณ์ ในตอนนั้น ทุกคนคงเป็นอะไรไม่ได้มากกว่า เด็กจบม.6 หรือ ปวช. หรอกครับ
เพราะมันไม่มีใครรู้ว่า อีก 4 ปี 8 ปี หรือว่า 10 ปีข้างหน้า คุณจะประกอบอาชีพอะไร เป็นใคร หรือสร้างสรรค์ประโยชน์ให้กับประเทศนี้ได้แค่ไหน แล้วเมื่อถึงตอนนั้น คุณเกิดตระหนักได้ว่า คุณไม่สร้างประโยชน์ให้กับประเทศนี้มากอย่าที่คุณวาดไว้ คุณจะย้อนกลับมารับใช้ชาติด้วยการเป็นทหารได้หรือครับ..
Edited by ควันหลง, 6 February 2013 - 02:50.
#41
Posted 6 February 2013 - 02:49
ผมว่าเพิ่มการเกณฆ์ทหารหญิงเข้าไปด้วยก็ดีนะครับ ช ญ จะได้มีสิทธิเสมอกัน... แล้วก็เสนอให้ผู้ชายลาคลอดได้ 90 วันเหมือนผู้หญิงด้วย
ถ้าผู้ชายอุ้มท้องได้ทั้งเก้าเดือนก็เอาไปเถอะลาคลอดน่ะ
You can't fix stupid - Ron White
You can have your own opinion, but not your own facts - Daniel Patrick Moynihan
"A society is judged by how it treats its animals and elderly"
#42
Posted 6 February 2013 - 03:41
ผมว่าเพิ่มการเกณฆ์ทหารหญิงเข้าไปด้วยก็ดีนะครับ ช ญ จะได้มีสิทธิเสมอกัน... แล้วก็เสนอให้ผู้ชายลาคลอดได้ 90 วันเหมือนผู้หญิงด้วย
ถ้าผู้ชายอุ้มท้องได้ทั้งเก้าเดือนก็เอาไปเถอะลาคลอดน่ะ
ถามว่า เวลาผู้ชายที่มีเมียคลอดลูก แล้วไม่มีคนดูแลลูก(ไม่มีพ่อแม่พี่น้องรับอาสามาช่วยดูแลให้) เมียต้องดูแลเอง... ถามว่าใครต้องอยู่ดูแลเมียและลูกครับ? ช่วยตอบชัดๆ ที
ประชาธิปไตยแบบแดง: 1. ไม่ใช่แดง เป็นประชาธิปไตยไม่ได้ 2. เสียงส่วนใหญ่ คือเสียงถูกต้อง 3. กฎพวกพ้องต้องเหนือกฎหมาย 4. เบื้องสูงมีไว้เหยียบย่ำ 5. ใครทำก็ผิด แต่แดงต้องไม่ผิด 6. คิดร้ายต่อทักษิณย่อมชั่ว 7. มั่วบิดเบือนหลอกพวกเดียวกัน 8. ปั้นน้ำเป็นตัวแล้วแถ
#43
Posted 6 February 2013 - 04:45
คุณอู๋ #21 ...."พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อไปว่า ทั้งนี้ ปัญหาของนักศึกษาวิชาทหาร คือ สัดส่วนในการเกณฑ์ทหารในแต่ละปี เรามีความต้องการทหาร 8 หมื่น โดยมีคนเข้ามาเกณฑ์ในระบบมากกว่า 3 เท่า ดังนั้นถ้ามีคนเข้ามาเป็นศึกษาวิชาทหารมากขึ้นเรื่อยๆ จะทำให้สัดส่วนคนเข้ามาเกณฑ์ทหารมีจำนวนลดลง และอาจจะทำให้เกิดความไม่เป็นธรรม ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาลว่า ให้เพิ่มอัตรานักศึกษาวิชาทหารในแต่ละปี ดังนั้นต้องมองว่าจะทำอย่างไรต่อไป "
"ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบันมี นักศึกษาวิชาทหารที่ศึกษาระหว่างชั้นปีที่ 1-5 รวมทั่วประเทศจำนวน 3 แสนคน"
" โดยมีอัตราส่วนอยู่ที่ 2.3 คน ต่อการเป็นทหารเกณฑ์ 1 คน ดังนั้นหากเราเพิ่มยอด นศ.วิชาทหารมากเท่าไหร่ จะทำให้อัตราส่วนลดลงไปอีก ตรงนี้เป็นสัดส่วนสำคัญที่ทางกองทัพมีการพูดคุยกันมาก ที่สำคัญจะทำให้เกิดความรู้สึกต่อคนในระดับรากหญ้า"
************************
เป็นครั้งแรก ที่ผมไม่เข้าใจอะไรเลยในคำพูดของ ผบทบ.คนนี้ ...ไม่รู้มีอะไรอยู่เบื้องหลังเปล่า
เกิดเป็นชายไทย ต้องมีภาระรับใช้/ปกป้องชาติ
จะเรียนรด.ได้ต้องเรียนสูงกว่าม.6(สมัยผมมีถึงม.8) แล้วต้องมีคะแนนเกินกว่า xxxx คือคนพวกนี้มีความรู้สูงขึ้นมาอาจถึงเป็น "ปัญญาชน..จบป.ตรี" ...ซึ่งหลายสาขา อาจเข้าข่ายเป็นสาขาที่ไม่ต้องไปเกณฑ์ทหาร
ดังนั้นการเรียนรด. เสียก่อนเข้ามหาวิทยาลัย จึงเป็นการรู้หลักการเบื้องต้นของทหาร เพราะทางกองทัพไม่สามารถให้ชายไทยทุกคนเป็นทหารได้ เมื่อเกิดความต้องการทหารกองหนุน พวกที่เคยผ่านรด.มาแล้ว จะเป็นประโยชน์กว่าคนที่ไม่เคยผ่านระบบทหารมาเลย ...ผมเห็นด้วยว่าการเรียนรด.ของเราหลักสูตรอ่อน การสอบแต่ละปี รับรองได้ว่าผ่านโดยไม่ต้องพกโพยเข้าสอบ
ผมคิดว่าการเรียนรด. แล้วต้องไปเกณฑ์ทหาร ผมว่าคนเรียนรด.จะลดลงอาจถึงครึ่ง คนที่จะรู้เรื่องของทหารบ้าง ก็จะลดลงครึ่งหนึ่งด้วย นั่นคือ "ต้องการทหาร 8 หมื่น โดยมีคนเข้ามาเกณฑ์ในระบบมากกว่า 3 เท่า" อัตราส่วนจะกลายเป็นมากกว่า 3เท่า อาจเป็นถึง5เท่า
ถ้าเป็นอย่างนั้น อีก2เท่าที่เพิ่มมา เมื่อไม่ถูกเกณฑ์ ก็จะเป็นคนที่ไม่รู้เรื่องทหารเลย
สมมติ ในแต่ละปีต้องการทหาร 8หมื่น จาก3แสนคน เมื่อเกณฑ์แล้ว ได้คนจบปริญญา ไปเป็นทหาร1หมื่น การเอาคนเหล่านั้นมาเป็นไอ้เณร กับให้เขาไปประกอบอาชีพ ในสาขาที่เรียนมา อันไหนมีประประโยชน์กว่ากัน กับคนที่ไม่ถูกเกณฑ์ อาจเป็นวัยรุ่นที่หลายๆคน จนถึงวัยเกณฑ์ ยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน
ตั้งระบบการฝึก การสอบรด. ให้เข้มข้นขึ้น วัดผลสอบให้จริงจังขึ้น ..ใครไม่ผ่าน3ปี ต้องไปเกณฑ์ จะดีกว่าไหม .. ให้ภาคภูมิใจว่าจบรด.3ปี นั้นคือผ่าน "เกิดเป็นชายไทย ต้องมีภาระรับใช้/ปกป้องชาติ"
- อู๋ ฮานามิ likes this
ประโยชน์สูงสุดของประชาชน คือกฏหมายสูงสุดของประเทศ ...วิชา มหาคุณ
#44
Posted 6 February 2013 - 05:01
ผมว่าเพิ่มการเกณฆ์ทหารหญิงเข้าไปด้วยก็ดีนะครับ ช ญ จะได้มีสิทธิเสมอกัน... แล้วก็เสนอให้ผู้ชายลาคลอดได้ 90 วันเหมือนผู้หญิงด้วย
ถ้าผู้ชายอุ้มท้องได้ทั้งเก้าเดือนก็เอาไปเถอะลาคลอดน่ะ
ถามว่า เวลาผู้ชายที่มีเมียคลอดลูก แล้วไม่มีคนดูแลลูก(ไม่มีพ่อแม่พี่น้องรับอาสามาช่วยดูแลให้) เมียต้องดูแลเอง... ถามว่าใครต้องอยู่ดูแลเมียและลูกครับ? ช่วยตอบชัดๆ ที
เราอยู่ได้มาแล้วคนเดียวไม่มีญาติที่นี่เลยหรือใครมาช่วย ผู้หญิงก็ดูแลตัวเองและลูกได้อยู่แล้วถ้าคลอดแบบธรรมชาติและไม่มีแผลอะไรมาก
แต่จริงๆคือการให้ผู้ชายหยุดมาช่วยนั้นเป็นเรื่องที่ดี เห็นด้วย แต่มาบอกว่าเพื่อความเท่าเทียมนี่ไม่ใช่คะ ที่นี่ผู้ชายหยุดได้สองอาทิตย์ (พอดีสามีมีงานเป็นของตัวเองเลยไม่ได้หยุด) แต่สองอาทิย์ถ้าเป็นแม่มือใหม่ หรือผ่าคลอดก็ไม่พอหรอก แต่ถ้าไม่เจ็บไม่อะไรสองอาทิตย์ก็เยอะอยู่ มันขึ้นอยู่กับคนคะ
ผู้ชายสามารถหยุดได้เท่าเทียมกับผู้หญิงถ้าเป็นคนเลี้ยงดูหลัก เช่นภรรยาไม่สามารถเลี้ยงได้ หรือเป็นการรับลูกบุญธรรม อันนี้ก็ถือว่าเท่าเทียมนี่คะ
ขอแก้หน่อย มีแม่สามีมาช่วยนิดหน่อย แต่อยู่ห่างไปสี่ชั่วโมงก็เหมือนอยู่ตัวคนเดียวนะแหละ แล้วก็เห็นด้วยถ้าจะีวันลาให้ผู้ชาย แค่คิดว่าไม่จำเป็นต้องได้ลาเท่ากัน
Edited by วันศุกร์, 6 February 2013 - 05:04.
You can't fix stupid - Ron White
You can have your own opinion, but not your own facts - Daniel Patrick Moynihan
"A society is judged by how it treats its animals and elderly"
#45
Posted 6 February 2013 - 06:31
ฮะแอ้ม คนที่เรียนรอดอ มีการเรียกฝึกกองหนุน ผมโดนเรียกไปปีละ เดือน รวม 3 ครั้ง ฝึกร่วมกับคนที่ผ่านทหารเกณฑ์ กองร้อยที่ผมประจำมีหลากวิชาชีพ แต่ละคนอยู่รวมกันและช่วยเหลือกันไม่มีปัญหาในการใช้อาวุธ ไม่ว่า ปรส ปืนกล เอ็ม 60 ปืนครก และการใฃ้ระเบิดซีโฟร์ รวมทั้งการฝึกภาคสนามในป่าในระดับ หมวด กองร้อย กองพัน
#46
Posted 6 February 2013 - 07:56
ผบทบ. มองแต่ประเด็นของการรักชาติ ว่าต้องเป็นทหารรับใช้่ชาติ
ประชาชนทุกคน มีส่วนร่วมในการสร้างชาติ
อาชีพทุกอาชีพ มีศักดิ์ศรี มีความเท่าเทียม และ เป็นพลังของการสร้างชาติทั้งนั้น
คุณอย่าคิดว่า อาชีพทหารของคุณ เป็นอาชีพเดียวที่ผูกขาดการสร้างชาติ
ถ้า ไม่มี หมอ พวกคุณก็ป่วยตาย รบไม่ได้
ถ้า ไม่มี วิศวกร พวกคุณก็อาจจะต้องขี่ม้าไปรบเขมร
ถ้า ไม่มี นักวิทยาศาสตร์ พวกคุณก็ต้องดูฤกษ์ดูยามในการรบ
ถ้า ไม่มี หมอดู ฤกษ์ยาม คุณก็หมดสิทธิดู
ทุกอาชีพ มีส่วนสร้างชาติ และ ทุกคนก็รักชาติ รักแผ่นดิน ด้วยการทำหน้าที่ที่ตัวเองถนัด รักชอบ เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างชาติทั้งนั้น
อย่าคิดว่า ถ้า ไม่ได้ มาเป็นทหาร และ จะรักชาติไม่เป็น คนคิดแบบนีั้ เป้นคนคับแคบ โง่ และ มองในสิ่งที่ตัวเองอยากมองเท่านั้น
การเรียกรวมพลมีข้อยกเว้นอยู่แล้วครับ การสร้างชาติสำคัญทุกอาชีพแต่ทหารคืออาชีพที่ต้องออกไปรบก่อนเพื่อน
จึงต้องใช้อัตรากำลังที่สูงเมือปลดประจำการ คุณก็มีโอกาสกลับไปทำในอาชีพนั้นๆต่อได้แต่ถ้าไม่เหลือชาติอาชีพทั้งหลายจะทำเพื่ออะไร ดูอย่างชาวยิวสมัยสงครามโลกครั้งที่ ๒ ครับตายอย่างเท่าเทียมที่เอาท์สวิท
ไม่ว่าจะอาชีพอะไร เป็นทหารฝึกฝนไว้ไม่เสียหายอะไรสักหน่อย
ตอนนี้ประเทศไทย ไม่ได้อยู่ในภาวะสงครามใดๆอะครับ ถ้าเกิดอยู่ๆ มีภาวะสงครามจริงๆ ผมก็เชื่อว่าชายไทยหลายคนที่ประกอบอาชีพอื่น ก็พร้อมอาสา ไปรบช่นเดียวกัน
เห็นด้วยกับการไปฝึกทหาร แต่ความเข็มข้นของการฝึกควรมากน้อยแค่ไหน ทุกกระสุนที่ซ่อมรบ ก็งบประมาณของแผ่นดิน
ทหาร หมอ วิดวะ พนักงานบริษัท ข้าราชการ ทุกอย่างคืออาชีพ ทำงานกินเงินเดือนเหมือนกัน มันคือความเท่าเทียบในการเป็นคนเหมือนกัน ไม่จำเป็นต้องแยกแยะว่าใครวิเศษไปกว่าใคร
ถามว่าวันนี้ มีการรบจริงกี่ครั้งต่อปี เราสูญเสียทหารจากการสู้รบ จำนวนเท่าไรต่อปี คิดว่าต้องเพิ่มกำลังทหารหรือเปล่า
อีกอย่ามีใครกล้าฟันธง ได้หรือเปล่าว่าการไปจับใบดำใบแดงนั้น ไม่เคยมีการยัดเงินแต่ประการใด
Edited by โคนัน, 6 February 2013 - 08:03.
#48
Posted 6 February 2013 - 08:08
ควรยกเลิกระบบการเกณฑ์ทหารในยามประเทศสงบปกติ ใช้ระบบอาสาสมัคร สามารถเติบโตได้ในอาชีพทหาร
ปรับปรุงระบบกำลังสำรองให้พร้อมรบ เน้นฝึกสร้างแรงจูงใจให้แก่นายจ้าง ห้างร้าน บริษัท
ในกรณีที่ต้องเรียกกำลังพลเพื่อฝึก
#49
Posted 6 February 2013 - 08:21
ผบทบ. มองแต่ประเด็นของการรักชาติ ว่าต้องเป็นทหารรับใช้่ชาติ
ประชาชนทุกคน มีส่วนร่วมในการสร้างชาติ
อาชีพทุกอาชีพ มีศักดิ์ศรี มีความเท่าเทียม และ เป็นพลังของการสร้างชาติทั้งนั้น
คุณอย่าคิดว่า อาชีพทหารของคุณ เป็นอาชีพเดียวที่ผูกขาดการสร้างชาติ
ถ้า ไม่มี หมอ พวกคุณก็ป่วยตาย รบไม่ได้
ถ้า ไม่มี วิศวกร พวกคุณก็อาจจะต้องขี่ม้าไปรบเขมร
ถ้า ไม่มี นักวิทยาศาสตร์ พวกคุณก็ต้องดูฤกษ์ดูยามในการรบ
ถ้า ไม่มี หมอดู ฤกษ์ยาม คุณก็หมดสิทธิดู
ทุกอาชีพ มีส่วนสร้างชาติ และ ทุกคนก็รักชาติ รักแผ่นดิน ด้วยการทำหน้าที่ที่ตัวเองถนัด รักชอบ เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างชาติทั้งนั้น
อย่าคิดว่า ถ้า ไม่ได้ มาเป็นทหาร และ จะรักชาติไม่เป็น คนคิดแบบนีั้ เป้นคนคับแคบ โง่ และ มองในสิ่งที่ตัวเองอยากมองเท่านั้น
การเรียกรวมพลมีข้อยกเว้นอยู่แล้วครับ การสร้างชาติสำคัญทุกอาชีพแต่ทหารคืออาชีพที่ต้องออกไปรบก่อนเพื่อน
จึงต้องใช้อัตรากำลังที่สูงเมือปลดประจำการ คุณก็มีโอกาสกลับไปทำในอาชีพนั้นๆต่อได้แต่ถ้าไม่เหลือชาติอาชีพทั้งหลายจะทำเพื่ออะไร ดูอย่างชาวยิวสมัยสงครามโลกครั้งที่ ๒ ครับตายอย่างเท่าเทียมที่เอาท์สวิท
ไม่ว่าจะอาชีพอะไร เป็นทหารฝึกฝนไว้ไม่เสียหายอะไรสักหน่อย
ตอนนี้ประเทศไทย ไม่ได้อยู่ในภาวะสงครามใดๆอะครับ ถ้าเกิดอยู่ๆ มีภาวะสงครามจริงๆ ผมก็เชื่อว่าชายไทยหลายคนที่ประกอบอาชีพอื่น ก็พร้อมอาสา ไปรบช่นเดียวกัน
เห็นด้วยกับการไปฝึกทหาร แต่ความเข็มข้นของการฝึกควรมากน้อยแค่ไหน ทุกกระสุนที่ซ่อมรบ ก็งบประมาณของแผ่นดิน
ทหาร หมอ วิดวะ พนักงานบริษัท ข้าราชการ ทุกอย่างคืออาชีพ ทำงานกินเงินเดือนเหมือนกัน มันคือความเท่าเทียบในการเป็นคนเหมือนกัน ไม่จำเป็นต้องแยกแยะว่าใครวิเศษไปกว่าใคร
ถามว่าวันนี้ มีการรบจริงกี่ครั้งต่อปี เราสูญเสียทหารจากการสู้รบ จำนวนเท่าไรต่อปี คิดว่าต้องเพิ่มกำลังทหารหรือเปล่า
อีกอย่ามีใครกล้าฟันธง ได้หรือเปล่าว่าการไปจับใบดำใบแดงนั้น ไม่เคยมีการยัดเงินแต่ประการใด
เรื่องยัดเงินนั้นเป็นเรื่องที่พูดกันมาอย่างยาวนานเรื่องนี้มีจริง ก็อย่างที่พิมพ์ไปนั่นแหละครับ
สมัครทหารก็มาฝึก ใครอยากทำเป็นอาชีพก็ทดสอบเพื่ออยู่ต่อใครปลดก็ไปเรียนมหาวิทยาลัย
ที่ต้องเอาวัยฉกรรจ์ก็เพราะความฟิตและส่วนใหญ่ยังไม่ต้องห่วงหน้าพวงหลังเท่ากับคนอายุเยอะๆ
เขียนเรื่องการเมือง : ดราม่า ,เขียนเรื่องสังคม : ดราม่า เขียนเรื่องบันเทิง : ดราม่า
แต่พอโพสเรื่องหื่น : มีความเห็นเป็นไปทางเดียวกันเสมอ >3<
#50
Posted 6 February 2013 - 09:08
ควรยกเลิกระบบการเกณฑ์ทหารในยามประเทศสงบปกติ ใช้ระบบอาสาสมัคร สามารถเติบโตได้ในอาชีพทหาร
ปรับปรุงระบบกำลังสำรองให้พร้อมรบ เน้นฝึกสร้างแรงจูงใจให้แก่นายจ้าง ห้างร้าน บริษัท
ในกรณีที่ต้องเรียกกำลังพลเพื่อฝึก
แบบนีคงต้องให้ภาคใต้สงบก่อนกระมัง
0 user(s) are reading this topic
0 members, 0 guests, 0 anonymous users